บทที่ 6
“ตำหนักสายหมอก”
เขียนโดย : รสผลไม้
บทที่ 7"ดอกลีลาวดี"เขียนโดย : รสผลไม้~ กลิ่นหอมที่ยาวนาน ตราบเท่านิรันดร์กาล ใจหวั่นไหว การพบรัก ต้องเคียงคู่ข้างกาย ท้ายที่สุดต้องจากกันและล้ำลา มันคือโชคชะตาที่ฟ้ากำหนดให้เรามาไม่เท่ากัน ~ณ ตำหนักสายหมอกราชาเหลือบตามองลัมโบร์กินีสีแดงสดที่ขับพุ่งออกมาจากตำหนัก เขาจำได้ดีว่ามันคือรถของพระเพลิง แล้วเพลิงอัคคีมาทำอะไรที่นี่ละ? หรือคนในนั้นไม่ใช่เพลิงเพื่อนของเขาเมื่อรถลัมโบร์กินีสีเหลืองสดของเขาจอดเข้ามาเทียบท่าลานกว้างภายในตัวเรือนไทยหลังงาม ก็พบกับนิสสันจีทีอาร์สามสิบห้าสีดำคันสวยและดูคาติอีกสองคันประกบข้างสภาพของรถและต้องมีบอดี้การ์ดประกบข้างแบบนี้ ทั้งประเทศเกรงว่าจะมีคนเดียวกระมั้ง ราชรณวรรีบจอดรถทันที ชายหนุ่มรีบก้าวลงมาจากรถหรูเช่นกันกับคนที่อยู่ข้าง ๆ ของเขาร่างของเจ้าจอมที่บัดนี้เดินดินเป็นผู้ครอบครอง ก็ได้เดินลงมาพร้อมกันกับราชา แต่ดั่งเดินสวรรค์กลับชะงักค้างเมื่อเห็นเมืองเหนือสุวภัทน์ซึ่งยืนลูบริมฝีปากของตนเองอยู่คนตัวเล็กรีบถอยเข้าไปหลบอยู่ด้านหลังของราชาทันที ราชรณวรเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น"น้องจอม ไปรอพี่อยู่ที่บ้านเล็กของจอมก่อน
ตอนที่ 8 “กลางคืน"เขียนโดย : รสผลไม้ตัวของจิรพัฒน์ที่ขับรถมาถึงเพนส์เฮ้าท์หรูได้ไม่เพียงกี่นาที ชายหนุ่มไม่ยอมลงจากรถยนต์หากแต่เพียงนั่งกัดนิ้วตัวเองอย่างครุ่นคิดอยู่ภายในรถ พร้อมกับลอบมองถุงเงินสดและตำราโบราณที่หยิบติดมือมาด้วย ก่อนอื่นคืนนี้เขาคงต้องจัดการกับของต่ำที่อยู่ในทีวีดิจิตอลจอยักษ์เฮงซวยอันนั้นเป็นอย่างแรกเลย ไม่งั้นจอมคงนอนไม่หลับแน่เมื่อคิดได้เช่นนั้นจิรพัฒน์ในร่างของดั่งเดินสวรรค์ก็ลงจากรถหรูพร้อมกับถุงเงินที่มีไม่ต่ำกว่าสิบล้าน เมื่อเท้าเหยียบถึงธรณีดินของเขตตัวบ้าน จิรพัฒน์ก็ต้องหันไปมองรอบเพนส์เฮาท์อีกครั้ง...ไม่มีเจ้าที ไม่มีศาล ไม่มีอะไรเลยสมควรแล้วที่มีของวิญญาณแปลก ๆ เข้ามาอยู่ในตัวบ้าน ชายหนุ่มสะบัดศีรษะเดินหลบไปในบ้านหรู เมื่อเข้ามาถึงตัวห้องโถงเจ้าจอมก็เหลือบมองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาภายในโถงดังกล่าว นายแบบแถวหน้าของบริษัท เยฮวาซีกำลังรวมตัวกันอยู่ที่ตรงนี้ 'อาร์ก้า' และ 'เทมเปอร์' กำลังเปิดโน๊ตบุ๊คดูรายการสอนทำอาหารส่วน 'เจย์แลนด์' นอนหลับอยู่ที่โซฟาอีกตัว และแน่นอนว่า 'พระเพลิง' กำลังมองเขาอยู่ จิรพัฒน์ถอนหายใจแล้วเดินเอากุญแจรถหรูไปคืนให้รุ่นพี่ กุญแจถู
ตอนที่ 9 "พิธีกรรม"เขียนโดย : รสผลไม้แสงแดดสาดส่องเข้ามาในหน้าตาชนิดกระจก มันทแยงตาคนตัวเล็กที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงขนาดคิงไซซ์ จิรพัฒน์กะพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับสายตามองภาพตรงหน้า เมื่อหาจุดโฟกัสได้แล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขายังคงอยู่ในร่างของดั่งเดินสวรรค์ นายแบบคนสวย ทุกอย่างหาใช่แค่ฝันไป...เป็นเวลาราวช่วงบ่าย ดั่งเดินสวรรค์ที่วิญญาณด้านในคือจิรพัฒน์ เดินเท้าเปล่าออกมาจากห้องนอนที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาหมี เมื่อคืนตอนที่ราชากล่อมก็หลับดีอยู่หรอก แต่พออีกคนส่งเขาเข้าห้องนอนและหนีกลับตำหนักสายหมอกไป เจ้าจอมรู้สึกเหมือนว่าตนเองนอนหลับนะ แต่มันไม่ค่อยสบายตัวเหมือนตอนที่คนพี่กล่อมเขาเลยนะสิโทรศัพท์มือถือถูกกดเปิดหน้าจอเพื่ออ่านข้อความที่เด้งเข้ามารัว ๆ จิรพัฒน์พบว่าเช้านี้เป็นเช้าที่ไม่สดใสไปแล้วอีกหนึ่งวัน เพราะว่าข้อความที่เข้ามาในช่องแชทเป็นข้อความจากมารดาของดั่งเดินสวรรค์ ข้อความแบบเดิม ๆ ไม่มีอะไรแตกต่าง มันเป็นเพียงข้อความขอเงินจากคนน้องเท่านั้น"นี่เขาไม่รู้จักทำมาหากินรึไงวะ"เจ้าจอมยืนอ่านข้อความอยู่หน้าประตูห้องแล้วสถบด่า โทรศัพท์เครื่องสวยถูกปาไปยังโซฟาหนังสีแดงกลา
บทที่ 10 “เปลี่ยนที่นอน” เขียนโดย : รสผลไม้ลัมโบร์กินี่หรูสองคัน เหยียบคันเร่งตามกันบนถนนสาธารณะชนิดที่ไม่มีใครยอมใครเพลิงอัคคีที่เป็นอดีตนักแข่งเฉกเช่นราชา รีบขับรถตามอีกฝ่ายเกรงว่าหากช้าไปเพียงนิดอาจจะคลาดกัน ถนนมอเตอร์เวย์สายหลักถูกครอบครองด้วยความเร็วของรถยนต์ทั้งคู่จุดหมายปลายทางของลัมโบร์กินีสีแดงและสีเหลืองสด แปรเปลี่ยนสนามแข่งรถของเจ้าจักรหนึ่งในหุ้นส่วนทางธุรกิจของราชรณวรและเป็นถึงพี่ชายคนสนิทของเพลิงอัคคี หากพระเพลิงจะไปบ้านของราชาในตอนนี้เกรงว่าจะไม่ดีเท่าไหร่ เพราะบ้านของเขาไม่ต่างไปจากตำหนักสายหมอกนักหรอก บัดนี้เป็นเวลาราวเก้าโมงเช้าเพราะว่ามันเช้ามาก ในสนามจึงไม่มีผู้คนมากมายนักสนามแข่งรถระดับประเทศ เป็นแหล่งรวมของคนมีอันจะกิน หรือเงินเหลือใช้บ้าง สายตาหลายคู่จับจ้องมายังรถหรูสองคัน รถที่ทุกคนในสนามคุ้นตาเป็นอย่างดีพระเพลิง อดีตมือขวาคนสนิทของเฮียจักร เพลิงเป็นถึงเจ้าของสนามและนักแข่งเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ แต่อีกฝ่ายอำลาวงการไปเป็นนายแบบ พักหลังการจะได้เจอเพลิงอัคคีในสนามแข่งนั้น ยากกว่าขอให้ถูกลอตเตอรี่เสียอีกกระมั้ง ส่วนราชาไม่ต้องพูดถึงเลยราชรณวร ว่าที่ผู้สืบท
บทที่ 11“ของต่ำ” 01:45 นาฬิกาเป็นเวลาเช้าวันใหม่ของอีกวันเวลาราวตีหนึ่งสี่สิบห้านาฬิกา เจ้าจอมสะดุ้งเฮือกขึ้นมาจากฝันร้าย มือสวยยกขึ้นมากุมหน้าผู้เป็นเจ้าของร่างพร้อมกับเหงื่อไหลซกเต็มหน้าผากสวย ในวินาทีถัดมาทั้งไหล่ซ้ายและไหล่ขวาของจิรพัฒน์ถูกฝ่ามือหนาจับไว้ ผลลัพธ์จากการกระทำนั้นทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตัวอีกครา"เป็นอะไร?" ประโยคคำถามจากคนแปลกหน้าเอ่ยวาจาถามจอมเสี้ยววินาทีนั้นเจ้าจอมเห็นบางอย่างที่อยู่ด้านหลังของอดีตคู่หมั้น ดวงตาคู่สวยกระตุกวูบสั่นไหวเล็กน้อย แม้จะเป็นเพียงเล็กน้อยแต่ดูเหมือนว่าเมืองเหนือจะสังเกตเห็นมันเข้าเสียแล้วอีกมุมหนึ่งจากด้านหลังสุวภัทน์มีใบหน้าที่คุ้นชินสำหรับจิรพัฒน์เจ้าหล่อนกำลังยืนอยู่ เขาจำมันได้เป็นอย่างดีใบหน้าที่เขาเห็นทุกเช้าทุกเย็นยามเมื่ออาศัยอยู่ตำหนักโบราณ ใบหน้าสวยหวานแบบไทยพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่เธอส่งให้เขาในทุกเช้าตลอดชีวิตของจอม แน่นอนว่าไม่เคยมีครั้งไหนจะเห็นเธอแสดงสีหน้าแบบอื่น ทว่าตอนนี้จิรพัฒน์ที่อยู่ในร่างของดั่งเดินสวรรค์เขากำลังเห็น เห็นบางสิ่งที่ผิดปกติหญิงสาวจากสวนลีลาวดีของตำหนักสายหมอก หญิงสาวปริศนาที่ไม่มีใครได้พบเห็นนอกจากจิ
บทที่ 12 “ไม่ยุ่งเกี่ยว” เขียนโดย : รสผลไม้ไม่ถึงยี่สิบนาทีราชาก็มาถึง เขาหอบของมากมายเข้ามาในห้อง พร้อมกับกระสอบเงินถุงใหญ่ที่ในนั้นมีเงินสดมูลค่าสองร้อยล้านด้วย"แน่ใจนะว่าจะจ่าย?" ราชรณวรถามเพื่อน"จ่าย ๆ ไปเถอะ แล้วมึงไปคุยให้กูเลยนะ ถ้าออกจากเพนท์เฮ้าส์เฮงซวยนั้นไม่ได้ กูจะเลิกเป็นนายแบบ""แต่ว่า...ร่างของเดินดินมัน"ราชรณวรเงียบเขาไม่อยากเอ่ยคำใดต่อ แน่นอนว่าร่างของดั่งเดินสวรรค์อ่อนแอจริง ไม่เหมาะกับการอยู่ในที่แห่งนั้นตั้งแต่แรกแล้ว“ไม่มีแต่ โลกหมุนรอบตัวกูอยู่แล้วกูอยากได้อะไร ไม่อยากทำอะไร ใครจะขัด" เจ้าจอมพูดตอบราชรณวร"เอาที่มึงสบายใจเลย...จอม เจ้าจอม :)" ใครบอกว่าเจ้าเจตเอาแต่ใจ ลองมาเจอจิรพัฒน์ก่อนไหมเพราะเจ้าจอมนะคือที่สุดของจักรวาลนี้แล้วเงินถูกคืนให้เมืองเหนือครบทุกบาททุกสตางค์ หมดเหตุผลให้อีกฝ่ายทวงบุญคุณ เจอหน้าเลี่ยงได้จอมก็จะเลี่ยงเพราะเขารู้สึกไม่อยากเสวนาด้วยเสียเท่าไหร่หลังจากนั้นไม่นาน พิธีกรรมลับจึงได้ถูกจัดทำขึ้นภายในห้องนอนเล็กซึ่งจิรพัฒน์นอนอยู่ ณ ปัจจุบัน ราชาเสนอว่าเจ้าจอมต้องย้ายไปอยู่ที่สนามใหญ่ระหว่างรอหาที่อยู่ใหม่ เพราะสนามใหญ่ มีเจ้าที่มีส
บทที่ 13"โรงพยาบาล"เขียนโดย : รสผลไม้ร่างของดั่งเดินสวรรค์ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินไปแล้ว ตัวของเพลิงอัคคีและสุวภัทน์มองหน้ากันแค่เพียงชั่วครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดพวกเขาก็เดินกลับไปนั่งอยู่คนละมุมพันวา ‘พันเวลา’ ผู้เป็นดั่งเพื่อนสนิทของราชรณวรและเพลิงอัคคีมาถึงเป็นรายถัดไป หากแต่ยังไร้วี่แววของราชรณวร ราชายังคงไม่ปรากฏตัวให้ใครได้เห็นแม้นว่าเขาจะเป็นผู้รู้เหตุการณ์ทั้งหมดก็ตามเพียงไม่นานนักแพทย์เจ้าของไข้ก็ออกมาจากห้องฉุกเฉิน พันวาพยักหน้าให้แพทย์สาวคนสวยเบา ๆ พวกเขาคุ้นหน้ากันเหลือเกิน หากราชรณวรอยู่ตรงนี้ด้วย คงไม่วายที่เธอจะต้องบ่นเป็นแน่เพราะว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน คนที่พันวาหามมาส่งโรงพยาบาลแทบทุกคืนคือเจ้าเจต ‘เจตตินทร์’ เพื่อนสนิทของพวกเขานั่นเอง“แปลก ๆ นะคุณพันวา...ที่รอบนี้ไม่ใช่เจ้าเจต” เธอเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มหวาน“ให้มันได้พักบ้างเถอะ แล้วอาการน้องดินเป็นยังไงบ้าง”พันวาตอบคำถามและถามในสิ่งที่อยากรู้เมื่อเห็นว่าพันวาถามถึงอาการของเดินดิน สองหนุ่มเมืองเหนือและเพลิงอัคคีจึงเดินตามมาสมทบ เพื่อที่จะฟังบทสนทนาต่อไประหว่างพันวาและคุณหมอคนสวย“ทำทุกอย่างแล้วค่ะคุณ ไม่มีอะไรผิดปกติ
บทที่ 14“เมืองเหนือ”เขียนโดย : รสผลไม้บทสรุปของช่วงเช้าวันนี้มันจบลงที่เจ้าจอมต้องกลับสนามหลักพร้อมเมืองเหนือ เพราะราชาไม่ไว้ใจให้เขากลับไปคนเดียว ครั้นจะให้กลับไปที่เพนท์เฮ้าส์พร้อมพระเพลิงยิ่งแล้วใหญ่ ส่วนคนพี่นั้นจำใจกลับตำหนักสายหมอกไปพร้อมเดินดินแล้ว ด้วยเพียงเหตุผลเดียว 'ตำหนักสายหมอกต้องมีคนดูแล'เหตุผลที่ไม่ให้จิรพัฒน์กลับตำหนักสายหมอกไปด้วยนั้น เพราะเขารับมือไม่ไหว ถ้าหากว่าวิญญาณของทั้งคู่หลุดออกจากร่างพร้อมกัน เพียงแค่ดั่งเดินสวรรค์คนเดียวก็เพียงพอให้ราชรณวรนอนไม่ได้ทั้งคืนแล้ว ดังนั้นการที่เจ้าจอมกลับตำหนักสายหมอกด้วย เกรงว่าร่างของดั่งเดินสวรรค์จะรับแรงกดดันขององค์เทพหลายองค์ที่อยู่ภายในตำหนักไม่ไหวต้องทำความเข้าใจก่อนว่า จิรพัฒน์นับถือเทพหลายองค์ มีทั้งฝั่งดีที่มาจากต้นตระกูลและฝั่งที่ไม่ค่อยจะดีซึ่งคนน้องเพิ่งจะไปรับเข้ามา สถานการณ์ตอนนี้เรียกได้ว่า องค์เทพแยกกันอยู่ ส่วนหนึ่งอาศัยอยู่ในร่างอีกส่วนแฝงอยู่กับวิญญาณ ยิ่งคิดก็เหมือนว่าภายในหัวของราชารู้สึกปวดหนึบ คล้ายจะระเบิดอยู่รอมร่อด้านของจิรพัฒน์แม็คลาเรนคันงามแล่นเข้ามาเทียบท่าสนามแข่งรถที่ราชรณวรเป็นหนึ่งในหุ