แชร์

บทที่ 6 “ตำหนักสายหมอก”

ผู้เขียน: รสผลไม้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-04 21:26:22

บทที่ 6

“ตำหนักสายหมอก”

เขียนโดย : รสผลไม้

เจ้าจอมมองหน้าคนสองคนที่นั่งอยู่โซฟาฝั่งตรงข้าม โดยพระเพลิงกำลังนั่งจิ้มมือถือ ส่วนอาร์ก้านั่งจิบกาแฟ จิรพัฒน์จึงเลือกที่จะถามอาร์ก้า เพราะเห็นว่าเพลิงอัคคีกำลังขมวดคิ้วกับโทรศัพท์มือถือของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่

"อาร์ก้า…"

"ว่าไงดิน"

"กู…เราเก็บกุญแจรถไว้ไหนอะ?"

"กุญแจรถ?" อีกฝ่ายทำหน้าฉงนแล้วทวนคำถามกับคนตัวเล็ก

"ใช่ ๆ กุญแจรถของเรานะ"

"ดินไม่สบายรึเปล่า? ดินไม่มีรถนะครับ ดินไม่เคยซื้อรถ" อาร์ก้าอธิบาย

เจ้าจอมเลิกคิ้วสูง ในหัวเดือดปุด ๆ อะไรคือไม่เคยซื้อรถ? เงินที่หามาได้มันไปไหนหมด? โฆษณาแต่ละตัวได้เป็นแสนเป็นล้าน

โอ๊ย!หงุดหงิดโว้ย จิรพัฒน์ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่ทีวีแอลอีดีขนาดใหญ่ ก่อนที่จะยกเท้าขึ้นมาถีบมันหล่นลงพื้น ทีวีร่วงหล่นตามแรงกระแทกอย่างรุนแรง

ด้วยอารมณ์ที่โมโหกับสถานการณ์อันไม่เป็นดั่งใจหวัง ยังต้องมาเจอวิญญาณปัญญาอ่อนห้อยขาต่องแต่งอยู่ขอบทีวี มันทำให้หมอผีปากแซ่บอย่างจอมหัวร้อนแบบเขาอยากจะจับไอ้ผีตนนี้ลงหม้อดินให้รู้แล้วรู้รอด เพื่อลดอารมณ์ความหงุดหงิดลงบ้างสักเล็กน้อยก็ยังดี

~โครม~

เสียงทีวีที่หล่นลงพื้นกระเบื้องสีขาวขุนของห้องโถง ทำให้พระเพลิงและอาร์ก้าสะดุ้งโหยง เมื่อทีวีจอยักษ์ร่วงลงสู่พื้นวิญญาณตนนั้นก็หนีหายไปจากสายตาของจินพัฒน์ เขาเดินกลับหลังหันไปยังเคาน์เตอร์ตรงกลางห้องโถง กะจะหาน้ำดื่มดับกระหายหน่อย แต่สายตาเจ้ากรรมดันไปเหลือบเห็นกุญแจรถลัมโบร์กินีวางอยู่นั้นพอดี จอมรีบเดินไปคว้ามันมาไว้ในมือ เขาชูกุญแจรถชิ้นสวยถามคนทั้งสองว่าใครคือเจ้ากรรมสิทธิ์ของมัน

"ของใคร?" จิรพัฒน์ในร่างเดินดินถามนายแบบผู้ซึ่งกำลังยืนอยู่ด้านข้างของโซฟาทั้งสองคน เนื่องจากทั้งคู่ตกใจกับการกระทำของเดินดินจึงรีบลุกจากโซฟา ตัวของอาร์ก้าสติยังไม่เข้าที่ดีรีบชี้นิ้วไปหาพระเพลิง

"ของพี่ ทำไมครับ?" พระเพลิงเอ่ยถาม

"ยืม"

ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับ จอมรีบวิ่งออกมาจากเพนท์เฮ้าท์ทั้งชุดนอนผ้าซาตินตัวบาง เขามาหยุดอยู่หน้าลานจอดรถ

ลัมโบร์กีนีสีแดงสด มีอยู่เพียงคันเดียวในลานจอด จิรพัฒน์ขึ้นไปนั่งเตรียมขับมันเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายที่คิดไว้ในตอนแรก

เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม ทำให้ผู้อาศัยอื่นในเพนท์เฮ้าท์ตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทราเนื่องจากพวกเขาเพียงนอนหลับไปได้ไม่กี่ชั่วโมง ก็คนที่เหลือเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศช่วงเช้ามืดนี่เอง เป็นตัวของพระเพลิงและอาร์ก้ารีบวิ่งตามคนตัวเล็กออกมายังลานจอดรถ แต่...พวกเขาช้าไป เจ้าจอมซึ่งอยู่ในร่างของเดินดินขับรถออกไปแล้ว

เพลิงอัคคีรีบเดินกลับเข้าไปด้านในเพนท์เฮ้าท์ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาเมืองเหนืออดีตคู่หมั้นของเดินดินทันที เพราะระหว่างเขากับเมืองเหนือ อีกคนนั้นคอนเนคชั่นดีกว่าเขาเป็นไหน ๆ

(มีไรเพลิง?) ไม่กี่อึดใจปลายสายก็ตอบรับ

"มึง...กูเจอเรื่องผิดปกติ"

(ผิดปกติอะไร?)

"ตื่นเช้ามา...น้องดินใส่ชุดนอนแบบ สภาพไม่ติดกระดุมออกมาเดินนอกห้อง" ใช่แล้ว! นี่มันคือเรื่องผิดปกติเรื่องแรก เดินดินไม่เคยแต่งตัวรุ่มร่าม คนน้องแต่งตัวมิดชิดมาก แม้กระทั้งเวลานอน

(...)

"ไม่พอนะมึง ตอนแรกกูคิดว่าจะไม่มีอะไรแล้ว แต่สาย ๆ หน่อย น้องออกมาถีบโซฟาที่ห้องโถง อาร์ก้ากับกูมาเจอพอดี อาร์ก้ามันเลยถามไงว่าน้องทำอะไร"

"ปกตินิสัยน้อง ถ้าก้าถามคือต้องตอบนะ นี่ไม่ตอบ แล้วจุดพีคคือน้องโทรหาใครก็ไม่รู้ พูดคำหยาบเต็มไปหมด" พระเพลิงอธิบายให้ปลายสายฟังอย่างร้อนใจ

"กูต้องแอบทำเป็นเล่นโทรศัพท์ แล้วเหลือบมองอะ เหมือนจะโทรขอเงินหรืออะไรเกี่ยวกับเงินนี่แหละ"

"พอวางสาย น้องก็เดินไปถีบทีวี ล่าสุดคือเอารถกูออกไปข้างนอกแล้ว!!"

(...ขับรถได้เหรอ จำได้ว่าล่าสุดขับรถไม่เป็น หรือไปเรียน?)

"เอาเวลาไหนไปเรียนขับรถอะ ในบรรดานายแบบน้องทำงานหนักสุดแล้ว เวลากินข้าวยังไม่มีเลย"

(...)

"ไม่พอนะ...น้องดริฟท์ลัมโบร์ลูกรักกูออกไปจากบ้านเลย สกิลนี่อย่างจี๊ด"

(สรุปคือเดินดินหายไปไหนมึงก็ไม่รู้...แต่เสือกอารัมภบทยาว ๆ ให้กูฟังก่อน)

"มึงจะได้จับต้นชนปลายถูกไง กูต้องเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่แรก"

(เพลิง ตั้งแต่มึงไปทำอาชีพนายแบบนี่ รู้สึกสมองมึงจะเริ่มปัญญาอ่อนขึ้นทุกทีแล้วนะ)

"อ้าว..."

หลังจากที่เมืองเหนือตัดสายไป เพลิงอัคคีก็เดินออกมาที่ห้องโถง

ครั้งนี้เขาเจอ อาร์ก้า เทมเปอร์และ เจย์แลนด์ ทั้งสามช่วยกันยกทีวีจอยักษ์ขึ้นมาตั้งเหมือนเดิมด้วยสีหน้าหงุดหงิด ถ้าจะรู้สึกหงุดหงิดก็ไม่แปลก เพราะดั้่งเดินสวรรค์ไม่เคยเป็นแบบนี้ ปกติน้องจะยอมทุกคนตลอด ไม่เคยทำตัวไม่น่ารักหรือทำให้คนอื่นหงุดหงิดใจ วันนี้รู้สึกว่ามันแปลกเหลือเกิน

ณ ตำหนักสายหมอก

รถลัมโบร์กินีหรูจอดเทียบท่าเรือนไทยหลังงาม พร้อมกับร่างของเดินดินที่วิญญาณข้างในเป็นจิรพัฒน์ เขาเดินลงมาจากรถด้วยเท้าสวยซึ่งไม่ได้สวมรองเท้า แต่จอมหาสนใจไม่ คนตัวเล็กรีบวิ่งขึ้นเรือนไป โชคดีที่ตอนนี้เจ้าแดงน่าจะอยู่วัด ในตำหนักสายหมอกจึงไม่มีใคร

ส่วนที่ว่าทิ้งเรือนไว้เช่นนี้แล้วจะโดนขโมยขึ้นรึเปล่า ตัดประเด็นนั้นไปได้เลย แค่เหยียบหัวกระไดเรือน โจรมันไม่ตายก็บุญหัวมันแล้วกระมั้ง

จิรพัฒน์รีบเข้าไปในห้องนอนของเขาซึ่งอยู่ส่วนลึกสุด ลิ้นชักไม้ของห้องนอนถูกเปิดออก มือสวยหยิบธนบัตรรวมถึงบัตรเครดิตมาจำนวนหนึ่ง ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องเก็บคัมภีร์แล้วกวาดเอาคัมภีร์ที่คิดว่าจะสามารถช่วยเขาได้ เอามาไว้ที่ตนเองทั้งหมด

ต้องรอให้ราชาสืบให้แน่ใจว่าในร่างของเขาตอนนี้ใช้เดินดินไหม หากใช่คงต้องคุยกันดีดีและหาทางออกร่วมกัน ถ้าหากว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนที่พวกเขาคิด คงต้องมีการทำพิธีกำจัดวิญญาณ แต่พิธีนี้คงต้องรอให้ลุงนินกลับมาเสียก่อน

ในตอนนี้ราชรณวรยังไม่เก่งถึงขนาดทำพิธีนี้ได้ ตัวของเจ้าจอมสามารถทำได้ก็จริง แต่ต้องเป็นกรณีที่ร่างนั้นมันไม่ใช่ร่างของเขา จะให้ไปทำพิธีกำจัดวิญญาณออกจากร่างตัวเองด้วยสภาพที่อยู่ในร่างของดั่งเดินสวรรค์เนี่ยนะ แค่คิดก็มีแต่คำว่าฉิบหายวายวอด

ถุงเงินสดและตำราโบราณถูกคล้องไว้ที่แขนเล็ก ร่างของดั่งเดินสวรรค์หอบหิ้วมันด้วยความทุลักทุเล ขาสวยก้าวลงจากเรือนหลังใหญ่ สายตาพลันเหลือบมองไปที่สวนลีลาวดีซึ่งอยู่ข้างตัวเรือนไทยหลังงาม

สายลมโชยมา หวนเอากลิ่นดอกไม้พัดเข้าจมูกของคนตัวเล็ก ผมสวยพลิ้วไหวตามสายลมนั้น เจ้าจอมพลันปรับสายตาไปที่สุดทางเดินของสวนลีลาวดี ความงดงามของดอกลีลาวดีที่ผู้ใดได้พบต่างเยินยอ ยังไม่เท่าร่างสวยของตนที่อยู่ปลายทางนั่น ผมยาวสลวยของเธอสั่นไหวไปตามแรงลม แม้ไม่มีผู้ใดมองเห็น แต่เขามองเห็นเธอตลอด 'ช่อลดา' หญิงสาวอายุราวสามสิบสิบช่วงปลาย ไม่รู้ว่าเธอเป็นใครมาตากไหน ครั้นที่เจ้าจอมเกิดมา เจ้าหล่อนก็ยืนยิ้มสวยอยู่ตรงนี้นานแล้ว

เขาเคยถามลุงนินว่าเห็นเหมือนกันไหม ตนที่ยืนอยู่ข้างหลังสวนลีลาวดี สิ่งที่ได้รับกลับมาคือการที่ผู้เป็นลุงมองเจ้าจอมด้วยแววตาแปลกประหลาดใจ นั้นมันก็เพียงพอสำหรับคำตอบที่จิรพัฒน์ต้องการ ลุงของเขาไม่เคยเห็นหล่อนเลยสักครั้ง แม้แต่ราชาเองก็เช่นกัน

รอยยิ้มสวยถูกยกยิ้มขึ้นมาให้เขา แต่นั้นมันก็เป็นเพียงชั่วครู่ ก่อนที่เธอจะหุบยิ้มแล้วหายตัวไป แปลก นับวันยิ่งแปลก เจ้าจอมสะบัดหัวละทิ้งภาพตรงหน้า

ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำพิธีไล่เธอนะ เขาไม่ใช่คนใจดี เขาไล่จนไม่รู้จะไล่ยังไงแล้วแต่อีกฝ่ายไม่ยอมจากไปเสียที ครั้นจะจับใส่หม้อถ่วงน้ำเกรงว่าจะดูสารเลวเกิน ก็ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร หล่อนอยากจะอยู่ชมดอกลีลาวดีอยู่ตรงนั้นทุกวันก็ให้หล่อนทำไปเสีย

นิสสันจีทีอาร์ สีดำคันงามแล่นเข้ามาจอดในเรือนไทยสมัยโบราณอย่างรีบเร่ง เสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์มันดังมากพอที่จะเบี่ยงความสนใจจากจิรพัฒน์ให้หันไปมองได้ ร่างสูงของชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวออกมาจากตัวรถหรู ด้านหลังมีดูคาติคันงามสองคันตามประกบมาจอดเทียบท่า การแต่งกายที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่าอีกสองคนที่ตามมาคราหลังนั้นเป็นบอดี้การ์ด

ใบหน้าที่คุ้นตาปรากฏขึ้น จอมจำได้ดีเขาคือ 'เมืองเหนือ' หนึ่งในคนที่ราชาพาไปเจอเมื่อวาน สงสัยมาหาราชรณวรกระมั้ง เจ้าจอมละสายตาจากสุวภัทน์และหันหลังกลับไปมองนาฬิกาแขวนผนังที่อยู่ด้านหน้าตัวเรือน จากตอนที่เขาคุยกับราชรณวรครั้งล่าสุด ดูท่าว่าอีกไม่กี่นาทีราชาก็คงจะกลับมาแล้ว

ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากสุงสิง ไม่ชอบ ไม่ถูกชะตา ความรู้สึกของเจ้าจอมบอกตนเองอย่างนั้น จิรพัฒน์รีบกำชับถุงในมือแน่นและเดินลงจากตัวเรือนสวยไป แต่ต้องวนกลับมาใหม่อีกครั้ง ก็ในเมื่อตอนนี้เขาไม่ได้สวมรองเท้าอยู่ที่เท้าคู่งามเลยนี่

หากเป็นร่างของตัวเองแล้วนั้น เขาคงจะเดินเท้าเปล่าออกไปให้จบ ๆ แต่นี่มันร่างของคนสวยขาของเขาไง

ถ้าเท้าของน้องเป็นรอยขึ้นมาจะทำไงละ เจ้าจอมก้มมองเท้าสีขาวซีดของตนและเดินกลับไปสวมรองเท้าแตะอันใหญ่เกินขนาดของเท้าสวยไปมากโข

คนเรามันจะมีขนาดเท้าแตกต่างกันแบบนี้ได้ยังไงวะ?

เขาเดินหมุนตัวกลับเพื่อไปยังรถลัมโบร์กินีสีแดงหรู แต่ระหว่างทางที่กำลังจะเดินไปหาตัวรถสวย เขากลับถูกกระชากไว้โดยเมืองเหนือหรือสุวภัทน์นั่นเอง

แรงกระชากของอีกฝ่ายทำให้เดินดินซึ่งเจ้าจอมสวมร่างอยู่ถึงขั้นปลิวไปหาคนที่ออกแรงดึง ร่างเล็กมองหน้าอีกคนปนโมโห กล้าดียังไงมากระชากกันแบบนี้

"เรียกร้องความสนใจอะไร?" นั้นคือคำแรกที่ออกมาจากปากของคนพี่อย่างสุวภัทน์

"เรียกร้องความสนใจเหี้ยอะไรของมึง!" เจ้าจอมตอบด้วยความเหลืออด เขาเจ็บแขน ร่างของเดินดินบอบบางเกินไป

ดูการกระทำของเมืองเหนือสิ แค่หน้ายังไม่ถูกชะตา ยิ่งพอมาเจอกริยาแล้ว เจ้าจอมกลายเป็นเกลียดอีกคนไปเลย

ความปวดหนึบบริเวณแขนบางซึ่งถูกฉุดกระชาก ยิ่งเพิ่มอารมณ์เดือดของเจ้าจอมเป็นทวีคูณ เขาพยายามสกัดกั้นอารมณ์เดือดของตัวเองอยู่ จะมีเรื่องก็ไม่ได้ หามลืมนะจอม เดินดินเป็นบุคคลสาธารณะ เจ้าจอมลอบถอนหายใจเพื่อสกัดกั้นอารมณ์คุกรุ่น ร้อนรุ่มนะใช่! ร้อนจนอยากจะถามอีกฝ่ายว่าสักหมัดไหมเลยแหละ

"ก็ที่เธอทำอยู่นี่ไง เรียกร้องความสนใจอยู่"

"เป็นแค่อดีตคู่หมั้นอย่าเสือกเรื่องของกูให้มันมากนะเหนือ" ร่างเล็กเอ่ยเตือน

เจ้าจอมรู้ดีเลยแหละว่าทั้งคู่เคยหมั้นกัน จากการที่คนน้องบันทึกไว้ในไดอารี่ และเขาก็ได้อ่านมันทั้งหมดแล้ว พบว่าทั้งคู่ไม่ได้มีความรู้สึกดีดีให้กันเลยแม้แต่น้อย

ไม่สิดั่งเดินสวรรค์รู้สึกดีกับสุวภัทน์นะใช่ แต่สุวภัทน์รู้สึกยังไงนั่นก็อีกเรื่อง นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เดินดินและเมืองเหนือถอนหมั้นกัน

เพราะฉะนั้นแล้วเขาไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงภาพลักษณ์ของเดินดินที่มีต่อคนตรงหน้านี้เลย

"กลับ!"

เหมือนสุวภัทน์ไม่สนใจในสิ่งที่จอมพูด เขาดึงแขนบางของร่างดั่งเดินสวรรค์อย่างรุนแรง หวังให้ร่างเล็กถูกลากไปตามการกระทำของเขา ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเดินดินรับมือยังไงกับเรื่องแบบนี้

แต่นี่เขาคือเจ้าจอมไง เขาคือไอ้จอมเลยนะ! ใหญ่มาจากไหนถึงได้กล้ามากระชากแขนของเขา จิรพัฒน์สะบัดแขนออก พร้อมกับหมัดของร่างเล็กที่ถูกปล่อยออกไปกระทบใบหน้าอีกคน

ผลั๊วะ~

หมัดแมวที่ถูกปล่อยออกไป แต่มันกลับทำให้เจ้าจอมเดือดกว่าเดิมอีก ไฉนความรุนแรงมันไม่ได้เป็นดั่งที่เขาหวัง แถมมือเล็กของตัวเองยังปวดร้าวไปทั้งมือ สรุปใครต่อยใครกันแน่! จิรพัฒน์รีบหมุนตัวไปขึ้นลัมโบร์กินีสีแดงสด แล้วขับออกไปจากเรือนไทยโบราณหลังงามทันที พอดีกับรถยนต์ของราชาที่สวนเข้ามาด้านในตัวเรือน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 7 “ดอกลีลาวดี”

    บทที่ 7"ดอกลีลาวดี"เขียนโดย : รสผลไม้​~ กลิ่นหอมที่ยาวนาน ตราบเท่านิรันดร์กาล ใจหวั่นไหว การพบรัก ต้องเคียงคู่ข้างกาย ท้ายที่สุดต้องจากกันและล้ำลา มันคือโชคชะตาที่ฟ้ากำหนดให้เรามาไม่เท่ากัน ~ณ ตำหนักสายหมอกราชาเหลือบตามองลัมโบร์กินีสีแดงสดที่ขับพุ่งออกมาจากตำหนัก เขาจำได้ดีว่ามันคือรถของพระเพลิง แล้วเพลิงอัคคีมาทำอะไรที่นี่ละ? หรือคนในนั้นไม่ใช่เพลิงเพื่อนของเขาเมื่อรถลัมโบร์กินีสีเหลืองสดของเขาจอดเข้ามาเทียบท่าลานกว้างภายในตัวเรือนไทยหลังงาม ก็พบกับนิสสันจีทีอาร์สามสิบห้าสีดำคันสวยและดูคาติอีกสองคันประกบข้างสภาพของรถและต้องมีบอดี้การ์ดประกบข้างแบบนี้ ทั้งประเทศเกรงว่าจะมีคนเดียวกระมั้ง ราชรณวรรีบจอดรถทันที ชายหนุ่มรีบก้าวลงมาจากรถหรูเช่นกันกับคนที่อยู่ข้าง ๆ ของเขาร่างของเจ้าจอมที่บัดนี้เดินดินเป็นผู้ครอบครอง ก็ได้เดินลงมาพร้อมกันกับราชา แต่ดั่งเดินสวรรค์กลับชะงักค้างเมื่อเห็นเมืองเหนือสุวภัทน์ซึ่งยืนลูบริมฝีปากของตนเองอยู่คนตัวเล็กรีบถอยเข้าไปหลบอยู่ด้านหลังของราชาทันที ราชรณวรเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น"น้องจอม ไปรอพี่อยู่ที่บ้านเล็กของจอมก่อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 8 “กลางคืน”

    ตอนที่ 8 “กลางคืน"เขียนโดย : รสผลไม้​ตัวของจิรพัฒน์ที่ขับรถมาถึงเพนส์เฮ้าท์หรูได้ไม่เพียงกี่นาที ชายหนุ่มไม่ยอมลงจากรถยนต์หากแต่เพียงนั่งกัดนิ้วตัวเองอย่างครุ่นคิดอยู่ภายในรถ พร้อมกับลอบมองถุงเงินสดและตำราโบราณที่หยิบติดมือมาด้วย ก่อนอื่นคืนนี้เขาคงต้องจัดการกับของต่ำที่อยู่ในทีวีดิจิตอลจอยักษ์เฮงซวยอันนั้นเป็นอย่างแรกเลย ไม่งั้นจอมคงนอนไม่หลับแน่เมื่อคิดได้เช่นนั้นจิรพัฒน์ในร่างของดั่งเดินสวรรค์ก็ลงจากรถหรูพร้อมกับถุงเงินที่มีไม่ต่ำกว่าสิบล้าน เมื่อเท้าเหยียบถึงธรณีดินของเขตตัวบ้าน จิรพัฒน์ก็ต้องหันไปมองรอบเพนส์เฮาท์อีกครั้ง...ไม่มีเจ้าที ไม่มีศาล ไม่มีอะไรเลยสมควรแล้วที่มีของวิญญาณแปลก ๆ เข้ามาอยู่ในตัวบ้าน ชายหนุ่มสะบัดศีรษะเดินหลบไปในบ้านหรู เมื่อเข้ามาถึงตัวห้องโถงเจ้าจอมก็เหลือบมองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาภายในโถงดังกล่าว นายแบบแถวหน้าของบริษัท เยฮวาซีกำลังรวมตัวกันอยู่ที่ตรงนี้ 'อาร์ก้า' และ 'เทมเปอร์' กำลังเปิดโน๊ตบุ๊คดูรายการสอนทำอาหารส่วน 'เจย์แลนด์' นอนหลับอยู่ที่โซฟาอีกตัว และแน่นอนว่า 'พระเพลิง' กำลังมองเขาอยู่ จิรพัฒน์ถอนหายใจแล้วเดินเอากุญแจรถหรูไปคืนให้รุ่นพี่ กุญแจถู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 9 “พิธีกรรม”

    ตอนที่ 9 "พิธีกรรม"เขียนโดย : รสผลไม้​แสงแดดสาดส่องเข้ามาในหน้าตาชนิดกระจก มันทแยงตาคนตัวเล็กที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงขนาดคิงไซซ์ จิรพัฒน์กะพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับสายตามองภาพตรงหน้า เมื่อหาจุดโฟกัสได้แล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขายังคงอยู่ในร่างของดั่งเดินสวรรค์ นายแบบคนสวย ทุกอย่างหาใช่แค่ฝันไป...เป็นเวลาราวช่วงบ่าย ดั่งเดินสวรรค์ที่วิญญาณด้านในคือจิรพัฒน์ เดินเท้าเปล่าออกมาจากห้องนอนที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาหมี เมื่อคืนตอนที่ราชากล่อมก็หลับดีอยู่หรอก แต่พออีกคนส่งเขาเข้าห้องนอนและหนีกลับตำหนักสายหมอกไป เจ้าจอมรู้สึกเหมือนว่าตนเองนอนหลับนะ แต่มันไม่ค่อยสบายตัวเหมือนตอนที่คนพี่กล่อมเขาเลยนะสิโทรศัพท์มือถือถูกกดเปิดหน้าจอเพื่ออ่านข้อความที่เด้งเข้ามารัว ๆ จิรพัฒน์พบว่าเช้านี้เป็นเช้าที่ไม่สดใสไปแล้วอีกหนึ่งวัน เพราะว่าข้อความที่เข้ามาในช่องแชทเป็นข้อความจากมารดาของดั่งเดินสวรรค์ ข้อความแบบเดิม ๆ ไม่มีอะไรแตกต่าง มันเป็นเพียงข้อความขอเงินจากคนน้องเท่านั้น"นี่เขาไม่รู้จักทำมาหากินรึไงวะ"เจ้าจอมยืนอ่านข้อความอยู่หน้าประตูห้องแล้วสถบด่า โทรศัพท์เครื่องสวยถูกปาไปยังโซฟาหนังสีแดงกลา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 10 “เปลี่ยนที่นอน”

    บทที่ 10 “เปลี่ยนที่นอน” เขียนโดย : รสผลไม้​ลัมโบร์กินี่หรูสองคัน เหยียบคันเร่งตามกันบนถนนสาธารณะชนิดที่ไม่มีใครยอมใครเพลิงอัคคีที่เป็นอดีตนักแข่งเฉกเช่นราชา รีบขับรถตามอีกฝ่ายเกรงว่าหากช้าไปเพียงนิดอาจจะคลาดกัน ถนนมอเตอร์เวย์สายหลักถูกครอบครองด้วยความเร็วของรถยนต์ทั้งคู่จุดหมายปลายทางของลัมโบร์กินีสีแดงและสีเหลืองสด แปรเปลี่ยนสนามแข่งรถของเจ้าจักรหนึ่งในหุ้นส่วนทางธุรกิจของราชรณวรและเป็นถึงพี่ชายคนสนิทของเพลิงอัคคี หากพระเพลิงจะไปบ้านของราชาในตอนนี้เกรงว่าจะไม่ดีเท่าไหร่ เพราะบ้านของเขาไม่ต่างไปจากตำหนักสายหมอกนักหรอก บัดนี้เป็นเวลาราวเก้าโมงเช้าเพราะว่ามันเช้ามาก ในสนามจึงไม่มีผู้คนมากมายนักสนามแข่งรถระดับประเทศ เป็นแหล่งรวมของคนมีอันจะกิน หรือเงินเหลือใช้บ้าง สายตาหลายคู่จับจ้องมายังรถหรูสองคัน รถที่ทุกคนในสนามคุ้นตาเป็นอย่างดีพระเพลิง อดีตมือขวาคนสนิทของเฮียจักร เพลิงเป็นถึงเจ้าของสนามและนักแข่งเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ แต่อีกฝ่ายอำลาวงการไปเป็นนายแบบ พักหลังการจะได้เจอเพลิงอัคคีในสนามแข่งนั้น ยากกว่าขอให้ถูกลอตเตอรี่เสียอีกกระมั้ง ส่วนราชาไม่ต้องพูดถึงเลยราชรณวร ว่าที่ผู้สืบท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 11 “ของต่ำ”

    บทที่ 11“ของต่ำ” ​01:45 นาฬิกาเป็นเวลาเช้าวันใหม่ของอีกวันเวลาราวตีหนึ่งสี่สิบห้านาฬิกา เจ้าจอมสะดุ้งเฮือกขึ้นมาจากฝันร้าย มือสวยยกขึ้นมากุมหน้าผู้เป็นเจ้าของร่างพร้อมกับเหงื่อไหลซกเต็มหน้าผากสวย ในวินาทีถัดมาทั้งไหล่ซ้ายและไหล่ขวาของจิรพัฒน์ถูกฝ่ามือหนาจับไว้ ผลลัพธ์จากการกระทำนั้นทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตัวอีกครา"เป็นอะไร?" ประโยคคำถามจากคนแปลกหน้าเอ่ยวาจาถามจอมเสี้ยววินาทีนั้นเจ้าจอมเห็นบางอย่างที่อยู่ด้านหลังของอดีตคู่หมั้น ดวงตาคู่สวยกระตุกวูบสั่นไหวเล็กน้อย แม้จะเป็นเพียงเล็กน้อยแต่ดูเหมือนว่าเมืองเหนือจะสังเกตเห็นมันเข้าเสียแล้วอีกมุมหนึ่งจากด้านหลังสุวภัทน์มีใบหน้าที่คุ้นชินสำหรับจิรพัฒน์เจ้าหล่อนกำลังยืนอยู่ เขาจำมันได้เป็นอย่างดีใบหน้าที่เขาเห็นทุกเช้าทุกเย็นยามเมื่ออาศัยอยู่ตำหนักโบราณ ใบหน้าสวยหวานแบบไทยพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่เธอส่งให้เขาในทุกเช้าตลอดชีวิตของจอม แน่นอนว่าไม่เคยมีครั้งไหนจะเห็นเธอแสดงสีหน้าแบบอื่น ทว่าตอนนี้จิรพัฒน์ที่อยู่ในร่างของดั่งเดินสวรรค์เขากำลังเห็น เห็นบางสิ่งที่ผิดปกติหญิงสาวจากสวนลีลาวดีของตำหนักสายหมอก หญิงสาวปริศนาที่ไม่มีใครได้พบเห็นนอกจากจิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 12 “ไม่ยุ่งเกี่ยว”

    บทที่ 12 “ไม่ยุ่งเกี่ยว” เขียนโดย : รสผลไม้​ไม่ถึงยี่สิบนาทีราชาก็มาถึง เขาหอบของมากมายเข้ามาในห้อง พร้อมกับกระสอบเงินถุงใหญ่ที่ในนั้นมีเงินสดมูลค่าสองร้อยล้านด้วย"แน่ใจนะว่าจะจ่าย?" ราชรณวรถามเพื่อน"จ่าย ๆ ไปเถอะ แล้วมึงไปคุยให้กูเลยนะ ถ้าออกจากเพนท์เฮ้าส์เฮงซวยนั้นไม่ได้ กูจะเลิกเป็นนายแบบ""แต่ว่า...ร่างของเดินดินมัน"ราชรณวรเงียบเขาไม่อยากเอ่ยคำใดต่อ แน่นอนว่าร่างของดั่งเดินสวรรค์อ่อนแอจริง ไม่เหมาะกับการอยู่ในที่แห่งนั้นตั้งแต่แรกแล้ว“ไม่มีแต่ โลกหมุนรอบตัวกูอยู่แล้วกูอยากได้อะไร ไม่อยากทำอะไร ใครจะขัด" เจ้าจอมพูดตอบราชรณวร"เอาที่มึงสบายใจเลย...จอม เจ้าจอม :)" ใครบอกว่าเจ้าเจตเอาแต่ใจ ลองมาเจอจิรพัฒน์ก่อนไหมเพราะเจ้าจอมนะคือที่สุดของจักรวาลนี้แล้วเงินถูกคืนให้เมืองเหนือครบทุกบาททุกสตางค์ หมดเหตุผลให้อีกฝ่ายทวงบุญคุณ เจอหน้าเลี่ยงได้จอมก็จะเลี่ยงเพราะเขารู้สึกไม่อยากเสวนาด้วยเสียเท่าไหร่หลังจากนั้นไม่นาน พิธีกรรมลับจึงได้ถูกจัดทำขึ้นภายในห้องนอนเล็กซึ่งจิรพัฒน์นอนอยู่ ณ ปัจจุบัน ราชาเสนอว่าเจ้าจอมต้องย้ายไปอยู่ที่สนามใหญ่ระหว่างรอหาที่อยู่ใหม่ เพราะสนามใหญ่ มีเจ้าที่มีส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 13 “โรงพยาบาล”

    บทที่ 13"โรงพยาบาล"เขียนโดย : รสผลไม้​ร่างของดั่งเดินสวรรค์ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินไปแล้ว ตัวของเพลิงอัคคีและสุวภัทน์มองหน้ากันแค่เพียงชั่วครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดพวกเขาก็เดินกลับไปนั่งอยู่คนละมุมพันวา ‘พันเวลา’ ผู้เป็นดั่งเพื่อนสนิทของราชรณวรและเพลิงอัคคีมาถึงเป็นรายถัดไป หากแต่ยังไร้วี่แววของราชรณวร ราชายังคงไม่ปรากฏตัวให้ใครได้เห็นแม้นว่าเขาจะเป็นผู้รู้เหตุการณ์ทั้งหมดก็ตามเพียงไม่นานนักแพทย์เจ้าของไข้ก็ออกมาจากห้องฉุกเฉิน พันวาพยักหน้าให้แพทย์สาวคนสวยเบา ๆ พวกเขาคุ้นหน้ากันเหลือเกิน หากราชรณวรอยู่ตรงนี้ด้วย คงไม่วายที่เธอจะต้องบ่นเป็นแน่เพราะว่าก่อนหน้านี้ไม่นาน คนที่พันวาหามมาส่งโรงพยาบาลแทบทุกคืนคือเจ้าเจต ‘เจตตินทร์’ เพื่อนสนิทของพวกเขานั่นเอง“แปลก ๆ นะคุณพันวา...ที่รอบนี้ไม่ใช่เจ้าเจต” เธอเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มหวาน“ให้มันได้พักบ้างเถอะ แล้วอาการน้องดินเป็นยังไงบ้าง”พันวาตอบคำถามและถามในสิ่งที่อยากรู้เมื่อเห็นว่าพันวาถามถึงอาการของเดินดิน สองหนุ่มเมืองเหนือและเพลิงอัคคีจึงเดินตามมาสมทบ เพื่อที่จะฟังบทสนทนาต่อไประหว่างพันวาและคุณหมอคนสวย“ทำทุกอย่างแล้วค่ะคุณ ไม่มีอะไรผิดปกติ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 14 “เมืองเหนือ”

    บทที่ 14“เมืองเหนือ”เขียนโดย : รสผลไม้​บทสรุปของช่วงเช้าวันนี้มันจบลงที่เจ้าจอมต้องกลับสนามหลักพร้อมเมืองเหนือ เพราะราชาไม่ไว้ใจให้เขากลับไปคนเดียว ครั้นจะให้กลับไปที่เพนท์เฮ้าส์พร้อมพระเพลิงยิ่งแล้วใหญ่ ส่วนคนพี่นั้นจำใจกลับตำหนักสายหมอกไปพร้อมเดินดินแล้ว ด้วยเพียงเหตุผลเดียว 'ตำหนักสายหมอกต้องมีคนดูแล'เหตุผลที่ไม่ให้จิรพัฒน์กลับตำหนักสายหมอกไปด้วยนั้น เพราะเขารับมือไม่ไหว ถ้าหากว่าวิญญาณของทั้งคู่หลุดออกจากร่างพร้อมกัน เพียงแค่ดั่งเดินสวรรค์คนเดียวก็เพียงพอให้ราชรณวรนอนไม่ได้ทั้งคืนแล้ว ดังนั้นการที่เจ้าจอมกลับตำหนักสายหมอกด้วย เกรงว่าร่างของดั่งเดินสวรรค์จะรับแรงกดดันขององค์เทพหลายองค์ที่อยู่ภายในตำหนักไม่ไหวต้องทำความเข้าใจก่อนว่า จิรพัฒน์นับถือเทพหลายองค์ มีทั้งฝั่งดีที่มาจากต้นตระกูลและฝั่งที่ไม่ค่อยจะดีซึ่งคนน้องเพิ่งจะไปรับเข้ามา สถานการณ์ตอนนี้เรียกได้ว่า องค์เทพแยกกันอยู่ ส่วนหนึ่งอาศัยอยู่ในร่างอีกส่วนแฝงอยู่กับวิญญาณ ยิ่งคิดก็เหมือนว่าภายในหัวของราชารู้สึกปวดหนึบ คล้ายจะระเบิดอยู่รอมร่อด้านของจิรพัฒน์แม็คลาเรนคันงามแล่นเข้ามาเทียบท่าสนามแข่งรถที่ราชรณวรเป็นหนึ่งในหุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04

บทล่าสุด

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 46 “END”

    ตอนที่ 46“Saturn”ดั่งดาวที่อยู่เคียงเดือน ดั่งดวงอาทิตย์ที่อยู่เคียงคู่โลก ดังอากาศที่ลอยอยู่ตามท้องนภา ดังเวลาที่ไม่มีวันหยุดเดิน.ความรักของเมืองเหนือที่มอบให้จิรพัฒน์ไม่ได้แปรเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย.กลับกันแล้ว...ความรักของเจ้าจอมที่มอบให้สุวภัทน์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแม้เวลาจะเวียนไหว้หมุนวนไปหลายร้อยภพก็ตามแต่.ดอกกุหลาบถูกจัดเรียงใส่แจกันสวยด้วยมือเรียวของอดีตหมอผีหนุ่มอย่างจิรพัฒน์ ในขณะที่ราชานั่งมองน้องคนสนิททำกิจกรรมดังกล่าวด้วยความเอ็นดูบัดนี้เจ้าของรัตติกาลจันทร์อัปสรเปลี่ยนมือเป็นราชรณวรแล้ว ส่วนลุงนินนั้นปลีกวิเวกเน้นทางธรรม เข้าป่าฝ่าดงละทางโลก ตำหนักสายหมอกจึงมีเพียงราชรณวรและจิรพัฒน์ที่คอยดูแล และมีดั่งเดินสวรรค์แวะเวียนมาหาบ้างเป็นครั้งคราว เช่นเดียวกับเมืองเหนือและคนอื่น ๆณ สุสานอี้ฟางศพของสุวนีย์แม่เลี้ยงของเดินดินถูกฝังไว้ที่สุสานแห่งใหญ่ของประเทศ ด้วยความเคารพอันน้อยนิดที่เดินดินมีให้อีกฝ่ายซึ่งครั้งหนึ่งเคยเลี้ยงดูปูเสื่อดั่งเดินสวรรค์มาอย่างดีดอกลิลลี่สีขาวถูกวางลงหน้าสุสานเป็นการทำความเคารพบุพการีไม่แท้ด้วยความนอบน้อมแม้ว่าอีกฝ่ายจะประพฤติปฏิบัติตนไม่ด

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 45 “เรียกพี่เหนือสิครับคนดี”

    ตอนที่ 45“เรียกพี่เหนือสิครับคนดี”ภายในห้องนอนของจิรพัฒน์ ดอกกุหลาบช่องามถูกวางไว้ข้างเตียง มือซึ่งขึ้นเส้นเลือดนิดหน่อยของจิรพัฒน์ จับช่อดอกไม้เบา ๆ ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้ หากแต่เมื่อได้รับมักรู้สึกพิเศษเสมอเตียงยุบลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าสุวภัทน์เดินมาหา เจ้าจอมจึงละสายตาจากช่อดอกไม้และหันมาหาคนพี่แทน"สวยไหมคะ?"คะขา? คะขา? คะขา?"สวยครับ""พี่คิดไว้แล้วว่าจอมต้องชอบดอกไม้..."ดอกไม้ที่ว่ามันแปลว่าดอกไม้จริง ๆ ใช่ไหม?มือหนาค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปสัมผัสใบหน้าของจิรพัฒน์ราวกับต้องการสำรวจความเพอร์เฟกต์ของใบหน้าคมซ่อนหวานตรงหน้าปลายนิ้วไล่เกลี่ยริมฝีปากของเจ้าจอมไปมาคล้ายกับต้องการสัมผัสมันอยู่อย่างนั้น เมืองเหนือขบกรามแน่นกับภาพตรงหน้าที่เห็นเมื่อเจ้าจอมใช้ปากของตนรับเอาก้านนิ้วของเขาเข้าไปลิ้มรส ลิ้นเรียวตวัดชิมก้านนิ้วเหมือนทานไอศกรีมแท่งเล็กก็ไม่ต่าง น้ำสีใสไหลเยิ้มออกมาจากมุมปากของจิรพัฒน์ก่อนที่อีกฝ่ายจะใช้สายตาออดอ้อนเหลือบมองมาที่คนพี่ ภาพตรงหน้ามันช่างตราตรึงในใจของสุวภัทน์ยิ่ง"อืมมมม~"[MuangNuea Talk]ผมว่า...ผมไม่เคยต้านทานตัวตนของเจ้าจอมได้เลยสักครั้งผมหมายถึง...ตัวตนในมุมน

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 44 “เพลิงอัคคี”

    ตอนที่ 44“เพลิงอัคคี”พิธีกรรมเสร็จสิ้นพร้อมกับหยดเลือดของสาปอักษรที่หยดลงสู่พานเป็นหยดสุดท้าย ที่จิรพัฒน์และราชาเคยสงสัยบัดนี้คงได้คำตอบแล้ว สาเหตุที่ว่าเสือป่าเก็บเลือดตัวเองไว้ในตู้เย็นของสนามแข่งทำไม เหตุก็เพราะเลือดของเขาสามารถอัญเชิญวิญญาณได้ และผู้ที่ใช้มันคือเจตตินทร์ เทพสงครามผู้มากบารมี"เสร็จแล้ว"เสียงของผู้อาวุโสเอ่ยกล่าว ท่ามกลางความโล่งใจของทุกฝ่ายเมื่อทุกอย่างจบสิ้นลง ทั้งหมดจึงแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง ทิ้งไว้เพียงราชาและเดินดินอยู่ที่ตำหนักสายหมอกเท่านั้นด้านจิรพัฒน์และลุงนิน ยืนมองวิญญาณของช่อลดาที่อยู่สวนลีลาวดีโดยไม่ได้พูดกล่าวอะไรออกไป หากแต่เป็นอีกฝ่ายที่เอ่ยพูดแทน"โชคดีนะลูก ขอบคุณนะที่เกิดมาบนโลกใบนี้...""...""พี่นิน ช่อจะขึ้นไปอยู่บนนู้นแล้วนะ""สะเหล่อทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ขึ้นไปอยู่บนนั้นอะไรของมึงล่ะ""พี่นินจ๊ะ...""รู้ทั้งรู้ว่าวิญญาณจะดับสลายก็ยังจะเสือกไปแลกเปลี่ยนกับทวยเทพ" ลุงนินสุดจะทนกับความคิดของช่อลดาน้องสาวตนเหลือเกินเพียงเพราะเจ้าจอมของเมืองเหนือแล้วไม่สมหวังหรือถึงขั้นต้องยอมแลกเปลี่ยนวิญญาณของตนเพื่อให้ลูกตัวเองสมหวังในความรัก ช่างสิ้

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 43 “ON THE FLOOR”

    ตอนที่ 43“ON THE FLOOR”รถยนต์คันงามเข้าเส้นชัยไปได้อย่างรวดเร็ว สมฉายานักแข่งไร้พ่ายประจำสนาม ท่ามกลางความยินดีของกองเชียร์ ในขณะที่ดั่งเดินสวรรค์กระโดดขึ้นยืนปรบมือด้วยความดีใจ เหมือนไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนแชมเปญถูกแจกจ่ายให้ผู้ได้รับชัยชนะสามอันดับแรก เพลิงอัคคีมองไปที่ดั่งเดินสวรรค์ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ยอมรับว่าไม่เคยเห็นคนน้องมีความสุขและสดใสมากขนาดนี้มาก่อน เพลิงรู้สึกเหมือนปล่อยวางเรื่องเดินดินได้เกือบครึ่งหนึ่ง อย่างไรเสียเขาก็เป็นห่วงดั่งเดินสวรรค์เหมือนคนในครอบครัวด้วยใจจริงณ ตำหนักสายหมอกเจ้าของตำหนักเดินขึ้นเรือนไม้หลังงามไปด้วยความใจเย็นลุงนินกลับมาแล้ว.....จิรพัฒน์ที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่บ้านหรูสไตล์ยุโรปของตนรีบทิ้งสายยางในมือและวิ่งไปหาผู้เป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของตนทันที"ลุง!!""มึงจะตะโกนทำไม""ลุงหายไปไหนมา?""..."เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้จิรพัฒน์ได้รับรู้ เจ้าจอมนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ยืนขึ้นและก้าวลงจากตำหนักไป โทรศัพท์ถูกหยิบยกขึ้นมาต่อสายหาราชรณวรโดยลุงนินด้วยความรู้สึกหลากหลายเพียงไม่นานนักราชาก็เดินทางมาถึงตำหนักส

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 42 “ความจริงจากลุงนิน”

    ตอนที่ 42“ความจริงจากลุงนินและการจากไปของเหมันต์”เมื่อกลับมาถึงบ้านหลังเล็กในป่าลึกของตัวเอง เหมันต์ก็จัดการกวาดของทุกอย่างลงบนพื้นของบ้านทันที น้ำตาหลั่งรินไหลอาบแก้มคู่งาม ชายหนุ่มผิวสองสีใบหน้าคมพยายามกักเก็บอารมณ์ไว้แต่คราแรกบัดนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ เหมันต์ยกมือหนาขึ้นมาปิดบังใบหน้าตน ซึ่งยามนี้น้ำตาไหลไม่มีท่าว่าจะหยุดได้เลยแม้แต่น้อยฮึก ฮึก ฮึก~เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องจัดแข่งกับเสียงสะอื้นของหมอผีหนุ่ม การรอคอยของเขามันไร้ค่าสิ้นดี อยู่ไปก็เหมือนคนที่ตกนรกทั้งเป็น สู้ตกตายไปเสียยังจะดีกว่า ไม่น่าเลย...ไม่น่าพาเจ้าจอมมาทำอะไรแบบนี้เลย สุดท้ายแล้วผลกรรมทั้งหมดก็ตกแด่เขา ผู้เป็นดั่งคนคอยเปิดประตูสู่ความเลวทรามในใจของจิรพัฒน์ไซยาไนด์ชนิดไร้สีสันถูกนำมาผสมน้ำเปล่าหวังดื่มเพื่อจบชีวิตตน มือเรียวยาวลูบไล้ขอบแก้วน้ำสีใสไปมา เหมันต์มีความคิดจะจบชีวิตอยู่หลายครา แน่นอนว่าทุกครั้งที่เจ้าตัวปลิดชีพผู้อื่น เขาคิดตลอด คิดมาตลอด เพียงแต่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ในการรอคอยจิรพัฒน์มันทำให้เขาไม่กล้าตัดสินใจเดิมทีเหมันต์นั้นเป็นคนจิตใจดี แต่ด้วยงานที่ทำอาจจะดูเลวทรามไปบ้าง แต่อย่างไรเสียเขาก็มีความร

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 41 “ความสัมพันธ์กับเมืองเหนือ”

    ตอนที่ 41“ความสัมพันธ์กับเมืองเหนือ”"กูฝากดูหน่อย" ราชาเอ่ยพูดกับเมืองเหนือด้วยใบหน้ากังวลใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"แล้วทำไมมึงต้องพูดตัดความสัมพันธ์ขนาดนั้นด้วยวะ?""เหนือ...กูรู้นะว่ามึงชอบจอม มึงรับได้เหรอถ้ากูกับจอมยังเป็นแบบนี้อยู่""ไม่" เมืองเหนือรีบสั่นศีรษะปฏิเสธทันที"เห็นไหม มึงหวงเจ้าจอมจะตาย กูถึงต้องตัดความสัมพันธ์นี้ไง กูต้องขีดเส้นให้ชัดเจน""ทั้งหมดที่ทำไปอาจจะดูใจร้ายไปบ้าง แต่เพราะกูชอบน้องดิน ถ้ายังไม่ชัดเจนเรื่องจอมอยู่แบบนี้ เดินดินจะรู้สึกยังไงวะ?" ราชาพูดต่อเมืองเหนือเคยแอบสงสัยอยู่บ้างว่าราชรณวรนั้นชอบดั่งเดินสวรรค์ เพียงแต่ไม่กล้าฟันธง เพราะเพื่อนเขาคนนี้เป็นพวกชอบใจดีกับคนอื่นไปทั่ว ยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจอยู่พอควรที่ราชายอมบอกกับเขาตรง ๆ ว่าตัวเองนั้นชอบดั่งเดินสวรรค์อีกฝ่ายตบไหล่สุวภัทน์สองสามทีก่อนจะขอตัวกลับไปหาเดินดินซึ่งรออยู่ที่คฤหาสน์ของสุวภัทน์นานแล้วส่วนเจ้าแดงเองก็ขอตามราชรณวรไปด้วย เพราะไม่อยากอยู่ในเขตของตำหนักสายหมอกอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรูทรงยุโรปของจิรพัฒน์ ตัวของแดงเองก็ไม่อยากจะอยู่เช่นกันณ คฤหาสน์ของเมืองเหนือ"เมื่อไหร่พี่ราชาจะ

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 40 “ช่วยเจ้าแดง”

    ตอนที่ 40“ช่วยเจ้าแดง”เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้เหมันต์ฟังอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ หมอผีหนุ่มฟังโดยไม่แสดงสีหน้าใด นั้นยิ่งทำให้ตัวของแดงเองหวั่นใจเป็นสุดแดงเล่าในเรื่องของความสัมพันธ์และรวมไปถึงเรื่องทั้งหมดที่รู้ เหตุที่ว่าทำไมจิรพัฒน์ถึงต้องไปต่างประเทศ เด็กหนุ่มเป็นผู้รู้เรื่องราวทั้งหมดจากกุมารทองระดับเทพของเจ้าจอมเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ถึงรู้ไปก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนอะไรได้"พี่เหมจะปล่อยแดงไปได้รึยังจ๊ะ?" แดงถามคนพี่ แม้ใบหน้าจะยิ้มหวานแต่ในใจกับหวั่นเกรงเป็นที่สุด"มึงไปตามน้องจอมมา ให้เจ้าจอมมาหากู""โทรศัพท์แดงอยู่ที่เรือนจ้ะ ตอนนี้พี่จอมไม่ได้อยู่เรือน^_^°""งั้นกูจะพามึงกลับไปเอาโทรศัพท์ที่เรือน :) "รอยยิ้มดุจเสือร้ายปรากฏ แดงที่เหงื่อซึมอยู่ก่อนหน้า จึงรีบยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อบริเวณแก้มออกเล็กน้อย สุดท้ายคนไร้วิชาอย่างแดงก็ต้องยอมจำนนต่อเหมันต์อยู่ดีณ ตำหนักสายหมอกลัมโบร์กินีสุดหรูสีขาวรุ่นเดียวกันสีเดียวกันทั้งสองคันกำลังจอดเทียบท่าหน้าเรือนซึ่งเป็นที่คุ้นตาดีของบุคคลทั้งสามราชรณวร สุวภัทน์และจิรพัฒน์ ก้าวลงจากตัวรถโดยพร้อมเพรียง นี่เป็นสิ่งของที่ราชาซื้อให้เหล่าเพื่อนสนิท

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 39 “แฟนเก่า”

    ตอนที่ 39“แฟนเก่า”หกปีก่อนหน้า"พี่เหมดูดิ จอมจับตะขาบได้ด้วย สุดยอดไปเลย"จิรพัฒน์วิ่งมาหาเหมันต์ด้วยท่าทีตื่นเต้นมากกว่าปกติพร้อมกับสัตว์อสรพิษในมือ เพื่ออวดอ้างความเก่งกาจของตนต่อหน้าคนรัก"น้องจอมอย่าดื้อ" เหมันต์ส่งเสียงดุหากแต่ใบหน้ากลับเปื้อนยิ้มหวาน"ตะขาบใช้ทำของได้ใช่ไหม?""ก็ได้นะ""งั้นจอมจะทำ"เด็กหนุ่มเอ่ยปากหนักแน่นว่าจะขอทำในสิ่งที่ต้องการ เหมันต์มองจิรพัฒน์พลางส่ายหัวอย่างเอือมระอาเขาและจิรพัฒน์คบกันมาได้เกือบปีแล้ว ทั้งสองเป็นรักแรกของกันและกัน ทุกอย่างมันดีมาก ดีมากจริง ๆเพียงแต่พักหลังตัวของจอมเองชอบมาขอให้เขาสอนการใช้ไสยเวทมนต์ดำ เหมันต์ก็รู้ดีว่าเจ้าจอมเป็นใคร ทายาทเพียงคนเดียวของรัตติกาลจันทร์อัปสร ตระกูลซึ่งมีชื่อเสียงด้านการใช้คุณไสยทางสายขาวบริสุทธิ์มาอย่างยาวนานนับหลายร้อยปีตามจริงเหมันต์ค่อนข้างเป็นห่วงจิรพัตน์พอสมควร เขากลัวว่าสักวันจะเป็นคนน้องเองที่ลุ่มหลงในมนต์ดำจนถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนกับเขาและวันที่เหมันต์หวั่นกลัวที่สุดก็เดินทางมาถึง จิรพัฒน์กลายเป็นผู้ใช้มนต์ดำเต็มตัวแล้ว และดูเหมือนว่าอีกคนจะเก่งกล้าสามารถมากกว่าเขาหลายเท่าตัว นี่สินะที่เขาเรียก

  • การสวมร่างของหมอผีปากแซ่บ    บทที่ 38 “ขุนเขา”

    บทที่ 38"ขุนเขา"จิรพัฒน์เหลือบมองเพลิงอัคคีเป็นระยะ ๆ คนน้องรู้สึกแปลกใจมาก ทำไมเพลิงถึงยังจำขุนเขาได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่น่าจะมีใครจำได้นอกจากเจ้าเจต และดูเหมือนว่าเมืองเหนือจะเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกตินั้นแล้ว"เสือมึงเป็นอะไรวะ เอาแต่นอนหลับตาอยู่ได้?" พันวาถามรุ่นพี่คนสนิท"กูจะนอน" เสือป่าตอบปัดพร้อมกับมือที่เริ่มดึงหมอนซึ่งวางอยู่ด้านข้างตนมาปิดบังใบหน้า ในขณะที่จิรพัฒน์เหลือบมองเสือป่าเล็กน้อยพลางกลั้นขำ ก่อนจะเอาหน้าไปซุกไหล่หนาของสุวภัทน์ตามเดิมยามบ่ายแก่ ๆ เจตตินทร์ก็ฟื้นจากห้วงนิทรา ร่างเล็กเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าแฟนหนุ่มของตัวเองและนั่งลงด้านข้างอีกคนตามความเคยชิน"เป็นอะไรกัน มาทำไมเยอะแยะ" เจตไล่สายตามองทุกคนและเอ่ยถาม"อย่าพูดพร้อมกันนะ ทีละคน" เจ้าของคำถามไม่รีรอให้เพื่อนพูดหรือกล่าวอะไร เพียงแต่เอ่ยเตือนก่อนเพราะเห็นว่าต่างคนต่างอยากจะพูดเรื่องของตัวเองพร้อมกัน"มึงก่อนเลยพันวา""กูมาเฝ้าเฉย ๆ มึงตื่นก็ดีแล้ว กูจะได้กลับคอนโด" พันวาอธิบายต้องเข้าใจก่อนว่าในกลุ่มเพื่อนสนิทของเจ้าเจตจะมีพันวาและราชาซึ่งปกติคอยตามดูอีกคนเกือบยี่สิบสี่ช

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status