Share

บทที่ 1 “จุดเริ่มต้น”

ณ ประเทศไทย

แดดอ่อนสาดส่องเข้ามาในโดมกระจกสวยหรู เหล่าผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ บางก็ยืนกอดกัน บางก็ยืนร้องไห้ ในขณะที่สำเนียงภาษาอังกฤษเอ่ยเรียกผู้โดยสารดังไปทั่วทั้งตึก

ร่างของชายหนุ่มสูงโปร่ง ผิวขาวแต่ไม่มากนัก สวมแบรนด์เนมสุด Luxury ทุกก้าวที่เดิน ล้วนเป็นจุดสนใจของคนอื่นยิ่ง

'เจ้าจอม' จิรพัฒน์ รัตติกาลจันทร์อัปสร ถูกเรียกกลับไทยในรอบหลายปี ทายาทเพียงผู้เดียวของ 'รัตติกาลจันทร์อัปสร'ตระกูลทรงอำนาจแห่งราชวงศ์ สายทำนายดวงชะตาเก่าแก่เคียงคู่บ้านเมือง บัดนี้ประวัติศาสตร์ยาวนานต้องการทายาทสืบสาน นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จิรพัฒน์ถูกเรียกกลับเมืองไทยเป็นการด่วน ส่วนเหตุผลอื่นก็ช่างมันเถอะ พูดไปก็อายเสียเปล่า 

แว่นกันแดด Prada ถูกหยิบยกขึ้นมาสวมใส่บนกรอบหน้าคม ส่วนมืออีกข้างกำลังจิ้มโทรศัพท์อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ทว่าเมื่อจอมอ่านข้อความล่าสุดที่ถูกส่งมา อารมณ์เดือดของชายหนุ่มคล้ายกับเตรียมจะระเบิดอยู่รอมร่อ

"กลับเอง?" ปากสวยเอ่ยทวนข้อความ ขายาวไม่ก้าวเดินต่อ มือเรียวจิ้มโทรศัพท์หวังจะตอบกลับข้อความซึ่งถูกส่งมานั้น

'มารับเดี๋ยวนี่!!'

'กลับเองสิวะ เงินก็มี กูไปละ' ข้อความหยาบ ๆ ถูกพิมพ์ส่งกลับมาจากลุงบังเกิดเกล้าเหมือนคล้ายว่าจะไม่ได้ใส่ใจเขานัก

"ได้ลุงเราจะได้เห็นดีกัน!"

 

คาถาพิเรนทร์ถูกเอ่ยออกจากปากเด็กหนุ่ม จากนั้นเพียงไม่นานก็มีข้อความตอบกลับมาจากอีกฝ่าย

'เดี๋ยวกูให้คนไปรับ มึงจะส่งกุมารผีมากระทืบเรือนกูไม่ได้!!'

เมื่อได้คำตอบที่พึงพอใจ มุมปากของเจ้าจอมก็พลันยิ้มออกมา รู้อะไรไหม? ไม่มีใครสามารถขัดใจเจ้าจอมได้ แม้คนคนนั้นจะเป็นลุงบังเกิดเกล้าก็ตาม :)

ณ ตึกราชวงศ์

ใบไม้ปลิดปลิวลงบนพื้นดิน สายลมหนาวพลิ้วไหวพัดเอาเหล่าใบไม้ที่อยู่ตามพื้น ลอยละลิ่วทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าสวย แสงแดดอ่อนสาดส่องเข้ามายันหน้าต่างห้องนั่งเล่นของห้องหนึ่งภายในตึกสูงเสียดฟ้า

‘เดินดิน’ ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าสวย ดีกรีระดับนายแบบแถวหน้าของเอเชียกำลังอยู่ในชุดสูทสีดำเรียบหรู ในขณะที่มือข้างซ้ายถือแก้วกาแฟไว้แน่น ดวงตาคู่งามกำลังสวยทอดมองออกไปยังนอกหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ ก่อนที่ร่างสูงราวร้อยเจ็ดสิบเก้าเซนติเมตรของเจ้าตัวจะเดินจากไป

ยามบ่ายของวัน แสงแดดที่สาดส่องลงมา ส่งผลให้วันนี้ร้อนระอุกว่าทุกวันที่เวียนผ่าน เดินดินยกมือขึ้นมาบดบังแสงแดดที่กำลังสาดส่องทแยงตาคู่สวยของตนเองอย่างคุ้นชิน

ในที่สุดเขาก็ต้องสะบัดศีรษะด้วยความหงุดหงิด นี่มันกี่ครั้งแล้วที่พระเพลิงไม่มาตามนัด งานที่ควรจะได้ทำด้วยกันก็ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดตามห้วงอารมณ์ของอีกฝ่าย

 

ถึงจะคิดได้ว่าอีกฝ่ายไม่รักษาคำพูดมากเพียงใด แต่ดั่งเดินสวรรค์หาใช่คนที่จะพูดเรื่องเหล่านี้ออกมาด้วยตนเอง สำหรับเขาแล้วหากมิพอใจในสิ่งใด สิ่งที่จะทำได้เกรงว่าก็คงทำได้เพียงแค่เงียบ

สำหรับชายหนุ่มที่มีนามว่าเดินดินนั้น ความเงียบคือสิ่งที่ดีที่สุด มันคงเป็นสิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดในชีวิตแล้ว…

‘เดินดิน’ ดั่งเดินสวรรค์ ดั่งจันทร์อัปสร ปัจจุบันอายุยี่สิบสามปีบริบูรณ์ ผู้มีชีวิตที่ดี ชีวิตที่ใคร ๆ ต่างก็อิจฉา แต่ทว่าเจ้าตัวกลับไม่เคยยินดีที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้เลยแม้แต่น้อย

 

ดีกรีนายแบบแถวหน้าของเอเชีย ต้องแลกมาด้วยการเกาะกระแสคู่จิ้นกับเพื่อนสนิทของอดีตคู่หมั้นอย่าง 'พระเพลิง' เพลิงอัคคี ไฟนิรันดร์ แน่นอนว่าสำหรับพระเพลิง 'เดินดิน' ที่เป็นทั้งคู่หมั้นเก่าของเพื่อนสนิทตน และเป็นคนที่เกาะกระแสตัวเองดัง ตัวของเพลิงย่อมไม่ชอบใจอยู่แล้ว ดั่งเดินสวรรค์คิดว่าคงไม่มีวันใดที่ทั้งคู่จะญาติดีกันได้หรอก ถ้าหากวันนั้นมาถึงมันคงจะเป็นวันที่ใครสักคนไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้วเสียมากกว่า และนี่คือความคิดทั้งหมดของเดินดิน

เมื่อไม่นานมานี้ เดินดิน มีคู่หมั้นชื่อว่า "เมืองเหนือ" นักธุรกิจหนุ่มที่มาจากตระกูลดังระดับเอเชีย

'เมืองเหนือ' สุวภัทน์ เหนือนิรันดร์ มหาเศรษฐี ที่ทรงอิทธิพลของโลก แม้เบื้องหน้าจะดูเป็นคนดี เบื้องหลังธุรกิจที่ทำก็ไม่ต่างอะไรกับมาเฟีย ในช่วงที่พวกเขาหมั้นกันใหม่ ๆ จำได้ว่าเพลิงอัคคีใจดีกับเดินดินมาก อาจเพราะคนน้องเป็นถึงคู่หมั้นของเพื่อนสนิท

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ถ้าอีกฝ่ายจะเอ็นดูเดินดินมากเป็นพิเศษ แต่ความสุขนั้นก็คงอยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อเดินดินและเมืองเหนือต้องถอนหมั้นกันด้วยเหตุผลของความเกลียดชังบางประการ คนที่ศีลไม่เสมอกันจะคบกันได้เช่นไร และตั้งแต่นั้นมาในความคิดของดั่งเดินสวรรค์ แม้แต่คำว่าเอ็นดู หรือเมตตาปรานีจากพระเพลิง มันก็ไม่เคยมีเหลือให้เด็กที่มีชื่อว่า 'เดินดิน' อีกเลย

ขาเรียวสวยของคนงาม ก้าวลงมาจากบันไดตัวอาคารอย่างคุ้นชิน ก่อนที่มันจะหยุดลง ณ หน้าตัวอาคารอันเป็นตึกกระจกใสเด่นหราสูงเสียดฟ้า แลนด์มาร์คที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศ จุดเช็กอินของเหล่าผู้ในสังคม ซึ่งนิยมมาใช้บริการ

เนื่องจากมันมีวิวที่สวยงาม ประกอบกับจอแอลอีดีขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ทั่วทุกสารทิศ เป็นอันประกาศชัดแด่ผู้ซึ่งผ่านไปมาว่าที่แห่งนี้คือความเจริญอีกแห่งของเอเชีย

เดินดินกระชับแว่นกันแดดแบรนด์เนมหรูพร้อมกับหน้ากากอนามัยให้แน่นขึ้น เกรงว่าประชาชนผู้คนที่ผ่านไปมาจะสังเกตได้ว่าเขาเป็นใคร จากนั้นไม่นานนักเขาก็ก้าวเท้าเดินหายจากไปอย่างรวดเร็ว

ในช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวัน แสงแดดสาดส่องเข้ามากระทบ ณ ใบหน้าสวยของดั่งเดินสวรรค์นายแบบคนงาม บัดนี้เขากำลังนั่งเล่นอยู่ที่ริมแม่น้ำในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง

แม้จะเป็นใจกลางของความเจริญแต่เวลานี้มันกลับไร้ซึ่งผู้คน หรือสิ่งมีชีวิตใด แม้แต่ชนิดเดียวก็หามีไม่

เสียงริงโทนของโทรศัพท์มือถือเครื่องสวยดังขึ้นเป็นระยะ ทำให้เดินดินละสายตาจากภาพวิวทิวทัศน์สุดสวยตรงหน้าแล้วใช้มือเรียวสวยหยิบโทรศัพท์พร้อมกับกดรับสายโดยไม่สนใจว่าใครเป็นฝ่ายโทรเข้ามาหาตน

(เดินดิน) ตาสวยพลันกระตุกวูบเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นชิน

"ครับแม่..." ความหวาดกลัวแสดงให้เห็นได้ชัดเจนในน้ำเสียงของดั่งเดินสวรรค์

(ตอนนี้แม่อยู่ที่สิงคโปร์ โอนตังค์ค่าโรงแรมมาให้หน่อย)

"แต่วันก่อนดินเพิ่งจะโอนไปเองนะครับ"

(แม่ใช้หมดแล้วไง!) น้ำเสียงของปลายสายเริ่มกระแทกขึ้นเล็กน้อยจนเดินดินสะดุ้งตามเสียงนั้น ก่อนที่จะรีบตอบกลับอีกฝ่ายในทันที

"ทั้งหมดตอนนี้ดินมีแปดหมื่น แม่จะเอาเท่าไหร่เหรอครับ?"

(เอาทั้งหมด)

"แล้วดินจะเอาเงินที่ไหนกินละแม่?"

(แกหาได้ฉันรู้!)

~ตึด~

ไม่รอให้เดินดินพูดอะไร มารดาผู้ซึ่งเลี้ยงดูเขามาตัดสายไปทั้งอย่างนั้น เดินดินที่อยู่ในอาการแพนิคเริ่มร่างกายสั่นเทา พร้อมกับกดมือถือเพื่อโอนเงินก้อนสุดท้ายให้อีกคนไป และถ่ายภาพหน้าจอเป็นหลักฐานว่าตนเองได้โอนเงินทั้งหมดบัญชีให้อีกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะ ส่งไปทางช่อแชทอีกครั้ง

และเชื่อว่าวันนี้คงเป็นอีกวันที่ดั่งเดินสวรรค์นายแบบคนสวยจะนอนไม่หลับไปอีกคืน

TBC. เอนจอยเอนใจนะคะ ติดตามคอนเทนท์ดีดีได้ที่ ช่องต๊อกๆ #นามปากการสผลไม้

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status