Blue part
หลังจากที่พวกเรากินอาหารกันเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วเพราะวันนี้เป็นแค่วันปฐมนิเทศจึงไม่ได้มีการเรียนการสอนอะไร เราเลยหาอะไรทำเพื่อรอเวลากลับบ้าน บาสเลยเสนอว่าให้พวกเราไปนั่งเล่นกันที่ชมรมดนตรีเพราะมันเป็นมือกีตาร์ของชมรม พวกเราเลยพากันไปนั่งร้องนั่งเล่นกันที่ห้องชมรม โดยมีบาากับไมค์ดีดกีตาร์ เอ็มตีกลอง ส่วนพองเป็นคนร้อง เพื่อนสาวสองคนก็นั่งฟัง และผมที่นอนตักไอม่อนอยู่เพราะขี้เกียจนั่ง ส่วนเจ้าตัวก็ไม่ได้ว่าอะไรมันก็นั่งเล่นมือถือไปฟังเพื่อนร้องเพลงไป จนเมื่อถึงเวลากลับบ้าน “พวกมึงไปกลับบ้าน” พองเอ่ยขึ้นบอกเพื่อนๆ “เออๆ ไปลุกๆ” ม่อนบอกบลูที่นอนหนุนตักตัวเองอยู่ให้ลุก บลูก็ทำตามอย่างว่าง่ายพอลุกขึ้นจากนั้นก็ยื่นมือไปให้ม่อนดึงตัวเองลุกขึ้นบ้าง จากนั้นพวกเราก็พากันมายังโรงจอดรถ “กลับยังไงกันวะ” เอ็มเอ่ยถามเพื่อนในกลุ่ม “กูเอารถมา/กูก็เอามา” ไมค์ บาส และพองตอบ “พวกกูเดี๋ยวที่บ้านมารับ” ฝ้ายกับเพลง “แล้วมึงสองคนอ่ะ” เพลงถามม่อนกับบลู “กูมากับไอบลูอ่ะ งั้นไปกลับกันขับรถดีๆกันนะพวกมึง” ม่อนตอบแล้วหันไปบอกเพื่อนๆที่เหลือ “เจอกันในเกมคืนนี้ครับเพื่อนๆ“ บลูพูดขึ้น จากนั้นทุกคนก็ไปยังยานพาหนะของตนเองแล้วแยกย้ายกันกลับ “มึงอยากกินไรป่ะ” ผมถามม่อนขณะกำลังขี่รถกลับบ้าน “อืมม เห็ดทอด!“ม่อนตอบอย่ากระตือรือร้น พอถึงที่หมายผมก็จอดรถให้สาวกเห็ดเลิฟเวอร์มันลงไปซื้อ ม่อนเดินไปซื้อเห็ดทอดด้วยความดีใจ ผมที่มองตามไอเพื่อนตัวดีไปนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองได้ใช้สายตาแบบไหนมองตามมันไป สายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดู ถ้าหากใครมาเห็นก็คงพูดเหมือนกันว่านี่มันไม่ใช่สายตาที่เพื่อนใช้มองกันเลย “มองไรวะ ป่ะ กลับกัน” ม่อนเดินกลับมาที่รถเอ่ยถามเพราะเห็นผมมองไปทางที่มันเดินมาตั้งแต่ตอนที่มันยังยืนซื้อเห็ดทอดอยู่ “ห้ะ ปะ เปล่า ” ผมพึ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองนั่งมองมันนานจนเกินไปไม่รู้ตัวว่ามันเดินกลับมาแล้วก็ได้แต่ทำหน้าเหวอ แล้วทำทีสตาร์ทรถเพื่อกลบเกลื่อนจากนั้นพวกเราก็พากันกลับบบ้าน “กูเอาของไปเก็บกับอาบน้ำแปป เดี๋ยวกูไปหา” จอดรถส่งม่อนที่หน้าบ้านก่อนจะเอ่ยบอก “มาหา มาหาทำไมวะ” ม่อนถามพลางทำหน้าสงสัย “กะ ก็ไปนอนเล่นไง ทำไมเดี๋ยวนี้กูไปไม่ได้แล้วหรอ” ผมถามแล้วจ้องหน้ามัน “มาก็มาดิเออ แค่นี้ต้องทำเป็นดุ” “หึ” ผมหัวเราะในลำคอแล้วขับรถเข้าไปยังบ้านตัวเองเพื่อเก็บของแล้วอาบน้ำ บ้านม่อน ผมเดินเข้ามาในบ้านของไอม่อนก่อนจะเอ่ยทักทายแม่ของมัน “แม่หวัดดีครับ” “อ้าวบลู มาหาม่อนหรอลูก อยู่ข้างบนน่ะขึ้นไปสิ” “ครับ งั้นผมขอตัวนะครับ” ผมเอ่ยลาแม่ม่อนแล้วเดินขึ้นไปชั้น 2 ตรงไปยังห้องของม่อน ก๊อก ก๊อก ก๊อก เคาะประตู 2-3 ที เจ้าของห้องก็เดินมาเปิดประตูให้ “มาแล้วหรอวะเข้ามาดิ” ม่อนบอกก่อนจะเดินนำเข้าไปในห้อง แต่ทว่าภาพตรงหน้าที่เห็นกลับทำให้ผมถึงกับชะงัก เพราะไอเพื่อนตัวดีมันนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวมาเปิดประตูให้ผม ผมลอบกลืนน้ำลายแล้วรีบปิดประตูเดินตามมันเข้ามาทันที “หุ่นดีมากมั้งยืนโชว์อยู่ได้” ผมพูดว่ามันก็จะไล่สายตามองตั้งแต่ลำคอลงมาจนถึงหน้าทองของมัน ม่อนมันเป็นคนขาว ขาวกว่าผู้หญิงอีกแถมผิวก็ยังเนียนเพราะมันเป็นคนที่ดูแลตัวเองค่อนข้างดี มันมีซิกแพคเล็กน้อยแต่ไม่ชัดเท่าของผม แถมตอนนี้ที่ตัวมันยังมีหยดน้ำเกาะอยู่ตามร่างกายบ่งบอกว่ามันพึ่งอาบน้ำเสร็จ เชี่ยย ทำไมมันเซ็กซี่จังวะ ผมได้แต่คิดในใจ “แล้วมึงว่าหุ่นกูไม่ดีหรอ” มันพูดแล้วเดินตรงมาหาผมทำให้ผมต้องเดินถอยหลังหนีจนไปชนเข้ากับกับโซฟา Mon part ผมล่ะหมั่นไส้ไอบลูจริงๆ มันชอบหาว่าผมชอบอวด ชอบโชว์หุ่น ผมก็รู้แหละว่าหุ่นผมดีไม่เท่ามันหรอกแต่หุ่นผมก็ไม่ได้แย่นะครับ ซิกแพคก็มีแต่ก็ไม่ได้ชัดมาก แล้วผมก็เป็นคนผิวขาวด้วยมันเลยยิ่งทำให้หุ่นผมค่อนข้างน่ามอง ผมเลยอยากแกล้งมันด้วยการเดินเข้าไปหามันให้ดูซิกแพคผมชัดๆ แต่มันก็ถอยหนีจนไปชนเข้ากับโซฟาแล้วลงไปนั่งแล้วผมก็เท้าแขนคร่อมมันไว้ ตอนนี้หน้ามันโคตรตลกอ่ะผมแอบเห็นมันกลืนน้ำลายด้วย สงสัยหุ่นผมนี่มันดีจริงๆสินะ “เล่นไรของมึงเนี่ยไอม่อน” มันว่าผมแล้วเอามือมาดันหน้าอกผมไว้ก่อนจะหันหน้าหนี “ก็มึงบอกว่าหุ่นกูไม่ดี กูจะให้มึงดูชัดๆไงว่าไม่ดีจริงมั้ย” ผมตอบแล้วโน้มตัวลงไปหามันอีกยิ่งเห็นท่าทางตลกๆของมันแล้วยิ่งอยากแกล้ง “กะ ก็งั้นๆอ่ะ เลิกเล่นดิ้ไปแต่งตัวสักที” มันบอกก่อนจะดันให้ผมออกจากตัวมัน “หึหึ” ผมหัวเราะในลำคอแล้วยอมเลิกแกล้งมันจากนั้นก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อแต่งตัว “เสร็จแล้วก็เข้าเกม พวกไอพองรออยู่” มันพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าผมแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว “เออๆ” ผมตอบรับแล้วเดินไปนั่งลงข้างๆมันก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดเข้าเกมพับจี เหลือบไปเห็นหน้าไอบบูมันขึ้นสีจางๆก็อดขำไม่ได้ พลางคิดในใจว่านี่มันโกรธที่ผมแกล้งมันรึเปล่าเนี่ย จากนั้นพวกเราก็เล่นเกมกันจนถึง 5 ทุ่มก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนเพราะต้องตื่นไปโรงเรียน “ไปละมึง ฝันดี” บลูบอกก่อนจะเดินออกจากบ้านม่อนเพื่อกลับไปยังบ้านตัวเอง “ฝันดีมึง” ผมบอกมันกลับก่อนจะเดินขึ้นห้องเพื่อเตรียมตัวเข้านอนโดยที่ไม่รูัตัวเลยว่าวันนี้ตนเองนั้นได้ทำให้ใครบางคนกระวนกระวายใจจนแทบจะนอนไม่หลับ และทุกๆวันของพวกเราก็เป็นแบบนี้มาเสมอ เรียนบ้าง เล่นบ้าง เที่ยวบ้าง จนพวกเวลาล่วงเลยผ่านไป 1 ปี เปิดเทอมม.5 7:00 น. บลูเดินลงมาจากชั้น 2 ของบ้านอย่างไม่รีบร้อนพร้อมกับชุดนักเรียนถูกระเบียบและกระเป๋านักเรียนที่สะพายอยู่ด้านหลัง “ไปเรียนก่อนนะครับแม่ สวัสดีครับ” บลูเอ่ยทักทายแล้วยกมือไหว้มารดาที่กำลังนั่งดื่มกาแฟที่โซฟาห้องนั่งเล่นก่อนจะเดินออกจากบ้าน “ตั้งใจเรียนนะลูก ขับรถระวังด้วยนะ” คนเป็นแม่เอ่ยด้วยความเป็นห่วง “ครับแม่” บลูเดินไปขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับไปจอดรับคนที่ยืนรออยู่ตรงประตูรั้วบ้านข้างๆกับเขา “เชี่ยยย พายุจะเข้าป่ะมึงออกมาแต่เช้าขนาดนี้” ม่อนเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าวันนี้บลูออกมาเช้ากว่าทุกที ไม่ใช่อะไรก็ไอเพื่อนตัวดีนี่แหละรัวแชทมาหาเขาแต่เช้าทำให้เขาต้องลุกแต่งตัวออกมาเช้าขนาดนี้ “รำคาญ เดี๋ยวพอกูออกสายมึงก็บ่นอีก ขึ้นรถได้แล้ว” จบประโยคม่อนก็ขึ้นไปซ้อนท้ายรถของบลู จากนั้นทั้งคู่ก็ออกเดินทางไปโรงเรียนทันที โรงเรียน xx blue part เมื่อมาถึงโรงเรียนผมกับม่อนก็พากันเดินไปยังโรงอาหารเพื่อไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆที่มาถึงแล้ว “ไงมึง วันนี้มาเร็วเชียว” พอง บาส เพลง และฝ้าย เงยหน้าขึ้นมาทักทายคนที่พึ่งมาถึง “เออ ขี้เกียจฟังพวกมึงบ่น ไปหาไรกินแปปม่อนมึงไปป่ะ” ผมเอ่ยถามเพราะคิดว่าอีกคนน่าจะยังไม่ได้กินอะไรมาเหมือนกับเขา “เออๆ ไปด้วย” จากนั้นเราทั้งสองก็เดินดูว่ามีร้านอาหารอะไรมาขายในช่วงเช้าบ้าง พวกเราเดินมาหยุดตรงหน้าร้านโจ๊ก “เอาโจ๊กหมู ไข่ ไม่ตับไม่ผัก 2 ครับ” ผมเอ่ยสั่งแม่ค้าเพราะรู้อยู่แล้วว่าม่อนมันกินแบบไหน “มึงรอนี่แหละกูไปซื้อน้ำแปป” ผมบอกมันก่อนจะเดินแยกออกไปซื้อน้ำ “โจ๊กหมู 2 ได้แล้วค่ะ” แม่ค้ายกโจ๊ก 2 ถ้วยมาตั้งวางอยู่ตรงหน้าม่อน ม่อนมองไปยังโจ๊กแล้วขมวดคิ้วสงสัยพลางคิดในใจว่า เมื่อกี้สั่งไม่ตับไม่ใช่หรอวะทำไมยังใส่มา แต่เขาก็เลือกที่จะยกถ้วยโจ๊กไปยังโต๊ะโดยที่ไม่ได้พูดอะไร พอดีกับที่บลูเดินถือน้ำเปล่า 2 ขวดกลับมายังโต๊ะพอดี ผมนั่งลงแล้วมองไปที่โจ๊ก 2 ถ้วยที่สั่งว่าไม่ตับแต่กลับมีตับอยู่ 4-5 ชิ้น ผมมองไอม่อนก็เห็นมันนั่งกินไม่มีท่าทีอะไรแต่ผมรู้ว่ามันไม่ชอบกินตับจึงยื่นช้อนไปตักตับออกจากถ้วยของมันมายังถ้วยตัวเอง คนที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากเพื่อนสนิทแอบยิ้มอยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้รอดพ้นสายตาของเพื่อนๆที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย “ดูแลกันดีขนาดนี้ได้กันให้จบๆไปสักทีโว้ย” ฝ้ายพูดขึ้นพลางมองเพื่อนทั้งสองด้วยแววตาล้อเลียน “มึงจะพูดแซวกูทุกปีเลยมั้ยฝ้าย” ผมถามแบบขำๆเพราะผมเป็นแบบนี้กันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่พ้นที่จะโดนพวกมันแซวอยู่ตลอด “แซวไปแซวมาระวังผีผลักนะครับเพื่อนน“ พองพูดหยอกขึ้นมาบ้าง ”เอาไง สนใจมาเป็นเมียกูป่าวเพื่อนเชียร์แล้ว“ ผมหันไปถามม่อน ”เมียพ่องงง พวกมึงก็เลิกแซวได้ละะ“ มันหันมาด่าผมแล้วกลับไปกินโจ๊กของตัวเองต่อ “แล้วอีกอย่างนะทำอย่างกับกูไม่รู้ใจพวกมึงอ่ะอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน ไอฝ้ายชอบโกโก้ บาสไม่กินถั่ว เพลงไม่แดกเผ็ด ส่วนพองแดกได้ทุกอย่าง ฮะๆๆ” มันพูดต่อ “อ่ะ เออที่มึงพูดมาก็จริง งั้นเลิกแซวพวกมันได้ละ” บาสเห็นด้วยกับประโยคที่ม่อนพูดมา เพราะพวกเราในกลุ่มต่างก็รู้ใจกันว่าใครชอบไม่ชอบอะไร “แล้วไอไมค์กับไอเอ็มอ่ะ มากันยัง” ผมเอ่ยถามเพื่อนในกลุ่ม “มาละ ไปห้องน้ำอยู่” เพลงตอบ “เออๆ” “ไปพวกมึงไอสองตัวนั้นมาละ ขึ้นเรียนกันเดี๋ยวสาย” ฝ้ายเอ่ยชวนเพื่อนๆ หลังจากที่ทุกคนกินเสร็จประจวบเหมาะกับที่ไมค์กับเอ็มกลับมาจากห้องน้ำพอดี จากนั้นทุกคนก็พากันขึ้นห้องเรียน “คาบแรกเรียนไรวะ” ผมเอ่ยถาม “พละอ่ะ แต่กูรู้มาจากรุ่นพี่ว่าของม.5 เขาให้เรียนเต้นลีลาศนะ” เพลงตอบ “ห้ะ!! เต้นลีลาศ!” แล้วพวกผู้ชายอย่างพวกผมก็ตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน “ไอเชี่ยยย ใครเป็นคนคิดวะเต้นลีลาศเนี่ยนะ กูจะบ้า” ไอไมค์บ่นออกมาตามประสาคนไม่ชอบ “555555 อย่าบ่นดิวะ เผื่ออนาคตมึงอาจจะได้ไปแข่งเต้นลีลาศระดับประเทศนะเว้ย” ฝ้ายพูดปลอบใจ จากนั้นพวกเราก็พากันเดินไปที่โรงยิมเพื่อเข้าเรียน โรงยิม “มากันครบแล้วใช่มั้ยคะ” อาจารย์ประจำวิชาพละเอ่ยถาม “ครบแล้วครับ/ครบแล้วค่ะ” “ทุกคนคงรู้แล้วเนอะว่าม.5 เนี่ยจะได้เรียนเต้นลีลาศ ครูจะให้พวกเธอจับคู่กัน คู่ละ 2 คนนะคะ เอาล่ะเริ่มจับคู่เลย” ได้ยินดังนั้นผมก็เดินไปหยุดอยู่ที่หน้าไอม่อน มันหามามองผมแบบงงๆ “มึงจะคู่กับกูหรอบลู” มันถาม “เออ ไม่คู่มึงให้คู่ใครล่ะ มึงดูพวกมันจับคู่กันหมดและ” ผมชี้ให้มันหันไปดูคนอื่นๆ พองคู่กับฝ้าย เพลงคู่กับบาส ส่วนไมค์คู่กับเอ็ม อย่างที่บอกห้องผมผู้หญิงมีแค่ไม่กี่คนดังนั้นส่วนมากผู้ชายก็จะต้องคู่กันเอง ”ได้คู่กันหมดแล้วใช่มั้ยคะ งั้นวันนี้เรามาเริ่มเรียนท่าแรกกัน ท่านี้เรียกว่าเบสิควอล์คนะคะ ทุกคนจับมือกันจากนั้นฝ่ายชายก้าวเท้าไปด้านหน้าแล้วฝ่ายหญิงถอยหลังด้วยเท้าที่อยู่ฝั่งเดียวกันเป็น 4 จังหวะนะคะ ลองทำกันดูได้เลยค่ะ“ อาจารย์เริ่มอธิบายจากนั้นทุกคนก็ทำตามที่อาจารย์บอก ม่อนยื่นมือมาผมก็ยื่นมือไปจับมือมันแล้วเราก็เริ่มก้าวเท้าตามจังหวะที่อาจารย์สอน แต่ในขณะที่เต้นอยู่นั้นผมกลับรู้สึกว่าทำไมมือม่อนมันนุ่มจัง คิดไปแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองมันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่มันก็มองมาที่ผมพอดี ตึกตัก ตึกตัก เชี่ยยย อยู่ดีๆใจผมมันก็เต้นเร็วขึ้นจนผมกลัวว่ามันจะทะลุออกมาจากอก ผมรู้สึกลนลานจนทำอะไรไม่ถูกดลยเผลอปล่อยมือมันแล้วยกมือขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำ พออาจารย์อนุญาตผมก็รีบเดินไปยังห้องน้ำทันที มาถึงห้องน้ำผมก็ยืนอยู่ตรงหน้ากระจกอ่างล้างมือ เห็นหน้าตัวเองแดงขึ้นมาเล็กน้อยเลยเปิดน้ำแล้วล้างหน้าตัวเองให้ใจเย็นลง “นี่กูเป็นอะไรวะเนี่ย” ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง จากนั้นก็ได้ยินเสียงคนเดินมาทางห้องน้ำผมเลยทำเป็นล้างมืออยู่ “มึงเป็นไรป่าวบลู อยู่ดีๆก็รีบเดินออกมาไอม่อนยืนเอ๋อเลย“ บาสที่เดินตามมาเอ่ยถาม ”ปะ ป่าว กูแค่ปวดท้องอ่ะมึง เหมือนจะท้องเสีย“ ผมโกหกออกไป จะให้ใครรู้ว่าผมหนีออกมาเพราะไอม่อนไม่ได้ “แล้วนี่มึงเข้าห้องน้ำเสร็จยัง” “เออๆ เสร็จละ” “งั้นไปได้แล้ว อาจารย์จะปล่อยแล้ว” แล้วผมกับบาสก็เดินกลับมาที่โรงยิม “มึงโอเคป่ะเนี่ย เป็นไรป่าว” ม่อนเดินมาถามผมเป็นคนแรก “กูแค่ปวดท้องเฉยๆ ดีขึ้นแล้ว” ผมโกหกมันออกไป “อ้าว ปวดเยอะมั้ยเอายาป่ะเดี๋ยวกูไปเอาให้” มันถามผม “ไม่ต้องหรอกมึงกูหายละ” โอ้ยยย ไอนี่มันก็ขยันทำตัวเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นจัง แค่นี้ใจกูก็จะระเบิดออกมาแล้ว แต่เอ๊ะ แล้วทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ พวกเราก็อยู่กันแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับไอบลูคนนี้วะเนี่ย “งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะนักเรียน อย่าลืมไปทบทวนท่าเต้นกันด้วย เดี๋ยวอาทิตย์หน้าอาจารย์จะสอบเก็บคะแนนท่าที่สอนไปวันนี้นะคะ วันนี้เลิกเรียนได้ค่ะ” เสียงอาจารย์เอ่ยขึ้นมาทำให้ผมหลุดจากภวังค์ความคิดเรื่องไอคนข้างๆไป “ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ” กล่าวขอบคุณอาจารย์พวกเราก็เดินออกจากโรงยิมไปนั่งที่ศาลาหน้าตึกเรียนเพื่อรอเรียนวิชาถัดไป ผมที่กำลังนั่งเหม่ออยู่กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ต้องสะดุ้งเมื่อมือวัตถุเย็นๆมาแตะเข้าที่แก้ม “เห้ยย!“ ผมร้องตกใจแล้วสะดุ้ง “อะไรของมึงเนี่ย แค่นี้ก็ต้องตกใจเล่นใหญ่เว่อร์“ ไอคนที่มันทำให้ผมต้องมานั่งคิดนั่นแหละครับ มันเอาขวดน้ำเย็นๆมายื่นให้ผม ผมจึงรับมาเปิดกิน “ไปเรียนกันได้แล้วครับเพื่อนๆ” เป็นพองที่พูดขึ้นมาทำให้พวกเราต้องย้ายก้นตัวเองออกจากตรงนี้เพื่อไปเรียนวิชาต่อๆไป นี่แหละครับความเป็นมาของพวกเราทั้ง 8 คน จนตอนนี้พวกเราก็อยู่ขั้นมัธยมปลายปีสุดท้ายแล้ว และผมว่าความรู้สึกของผมมันก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อดี ผมควรปรึกษาใครสักคนมั้ยหรือผมควรเก็บเรื่องนี้ให้มันเป็นความลับของผมคนเดียวดีปัจจุบันBlue partตอนนี้ก็เป็นเวลา 2 แล้วปีจากตอนนั้นที่พวกเราขึ้นม.ปลายมา พูดได้ว่าตอนนี้ก็เป็นปีสุดท้ายแล้วที่เราจะได้ใช้ชีวิตเด็กม.ปลายให้เต็มที่ และใช่ครับตอนนี้พวกเราอยู่ม.6 แล้ว ทุกอย่างยังคงดำเนินไปเหมือนปกติตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่มันไม่ปกติและผมก็รู้สึกได้ว่ามันไม่ปกติมาสักพักแล้วตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่ผมไปบ้านมัน ตอนที่เรียนลีลาศ และอีกหลายๆครั้งที่เราได้อยู่ด้วยกัน ผมไม่รูัว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ในสายตาผมไม่ว่าม่อนมันจะทำอะไรมันก็ดูน่ารักเสมอ ผมมักใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูมองไปที่มันโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะมีใครสังเกตเห็นรึเปล่า ผมไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกเหมือนกันกับผมมั้ย แต่ตัวผมนั้นพูดได้เต็มปากเลยว่าที่ผมรู้สึกกับมันไม่ใช่แค่ความรู้สึกของเพื่อนแน่ๆ ใช่ครับผมคิดว่าผมชอบมัน ชอบคนที่ผมเรียกมันว่าเพื่อนสนิทแต่ผมก็ยังอยากมั่นใจในความรู้สึกตัวเองให้มากกว่านี้ว่าที่ผมชอบมันไม่ใช่แค่เพราะหวั่นไหวที่เราอยู่ด้วยกันหรือแค่อารมณ์ชั่ววูบ ผมคิดว่าผมคงต้องหาที่ปรึกษาแล้วล่ะ คิดได้ดังนั้นผมก็หยิบมือถือขึ้นมาต่อสายหาใครคนนั้นทันที รอสายได้ไม่นานนักปลายสายก็กดรับสาย-Plen
Blue part ผมกลับมาถึงบ้านด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวแล้วเดินขึ้นห้องนอนของตัวเอง จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก “เห้ออออออออ” วันนี้มันผิดแผนไปหมดผมอุตส่าห์รีบออกไปเร็วกว่าทุกทีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปเจอกับไอม่อน แต่เหมือนผมจะคิดผิดเพราะพอผมไปถึงโรงเรียนก็ดันไปเจอมันขับรถซ้อนน้องมิ้นเข้ามาพอดี อยู่ดีๆหัวใจผมมันรู้สึกก็กระตุกนิดๆผมไม่รู้จะทำตัวยังไงก็เลยเดินผ่านมันมาโดยที่ไม่สนใจมันเลย ผมเห็นว่ามันทำท่าเหมือนจะเอ่ยทักผมแต่ตอนนั้นผมไม่มีอารมณ์จะคุยกับมันสักนิดเหตุการณ์เมื่อตอนเช้า“อ้าวมึง มาแล้วหรอไอม่อนไปไหนอ่ะ” ไอเพลงทักผมแล้วถามถึงไอคนที่ทำให้ผมอารมณ์เสียแต่เช้า“ไม่รู้” ผมตอบมันไปแบบไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก“เอ้า อะไรวะ” แล้วพวกมันก็ไม่ได้ถามอะไรผมอีกเพราะไอม่อนมันเดินเข้ามาพร้อมกับน้องมิ้นแล้วเข้ามาทักพวกผม ผมเห็นไอเพลงมันแอบมองผมด้วยความเป็นห่วงจากนั้นแชทผมก็เด้งขึ้นPleng : มึงโอเคป่าววะบลูBlue : ไม่โอเคเลยว่ะเพลง แต่กูไม่รู้จะทำไงว่ะPleng : ไม่เป็นไรนะมึง ใจเย็นๆพวกแม่งกลัวกันหมดละเนี่ยBlue: ให้ทำไงวะกูไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครเลยPleng: เออๆ มึงไปสงบสติอารมณ์ก่อน
Blue part ผมรู้แล้วว่าผมจะทำยังไงต่อดี ต้องขอบคุณน้องส้มที่มาหาผมได้ถูกเวลาจริงๆ อ๋อ น้องส้มเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมครับพอดีว่าพ่อแม่น้องไปธุระต่างจังหวัดท่านเลยฝากให้ผมช่วยไปรับส่งน้องในช่วง2-3 วันนี้ ซึ่งผมก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร พอคุยกับน้องเสร็จเดินกลับมาที่โต๊ะก็เห็นใครบางคนนั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ แล้วอยู่ๆมันก็ลุกเดินหนีออกไปผมแอบขำท่าทางของมันเล็กน้อย ไอเพลงมันก็เดินมากระซิบผม“ทีแรกเหมือนมันจะง้อมึงนะ แต่กูว่าตอนนี้มันน่าจะงอนมึงแทนแล้วแหละ”“หึ” ผมคำในลำคอเบาๆ ผมเกือบจะใจอ่อนตั้งแต่มันยื่นชาเขียวให้แล้วแต่ก็ต้องแข็งใจไว้ก่อนแล้ววันนี้ก็เป็นมันที่ไม่ยอมคุยกับผมเลย พอถึงตอนเลิกเรียนผมก็บอกให้บาสช่วยไปส่งไอม่อนทีเพราะผมต้องไปส่งน้องส้ม และใช่ครับผมไม่ได้บอกใครนอกจากไอเพลงว่าส้มเป็นญาติผม ปล่อยให้พวกมันคิดว่าส้มเป็นเด็กผมไปก่อนแล้วกันถือเป็นโอกาสดีในการสังเกตท่าทีของไอม่อนด้วย เหมือนมันจะโกรธที่ผมให้มันกลับกับบาส มันเดินชมผมออกไปแล้วไม่หันกลับมามองเลย ผมได้แต่ส่ายหัวให้กับท่าทางน่ารักๆของมันก่อนจะพาน้องส้มไปส่งที่บ้าน“ขอบคุณนะพี่บลู รบกวนแย่เลย” ส้มบอกขอบคุณผมเมื่อมาส่งเธอถึงบ้าน“ไม่เป
Mon part นี่ ผม ทำ อะ ไร ลง ไป!!! “อ๊ากกก” ผมวิ่งกลับมายังห้องของตัวเองแล้วกระโดดขึ้นเตียงคลุมโปงแล้วดิ้นไปมา ผมต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ นี่ผม..ไปบอกให้มันเลิกคุยกับน้องส้มงั้นหรอ แม่ง แล้วมันก็พึ่งจะมาบอกผมว่าน้องส้มเป็นญาติมัน แบบนี้มันจงใจแกล้งผมชัดๆมันปล่อยให้ผมเข้าใจผิดมาเป็นอาทิตย์ แถมมันยังบอกให้ผมเลิกคุยกับน้องมิ้นอีก เห้ออ ผมก็ไม่ได้อะไรกับน้องมิ้นหรอกครับจริงๆก็รู้ตัวมาสักพักแล้วว่าคิดกับน้องมิ้นแค่พี่น้องแต่ก็รู้สึกผิดอยู่ที่ดันไปให้ความหวังน้อง ผมจะโดนน้องด่ามั้ยเนี่ยหลังจากที่ผมโวยวายกับตัวเองไปได้สักพักเสียงแจ้งเตือนจากไลน์ก็ดังขึ้น My friend M : พวกมึงพรุ่งนี้ไปดูหนังกันป่ะBass : ไปๆ กูขี้เกียจอยู่บ้านPong : กูไม่ว่างว่ะMike : กูไปๆPleng : กูกับฝ้ายไม่ไปอ่ะBlue : กูกับไอม่อนไป M : เออๆ เจอกัน 10.00 น. ที่ห้าง xxเดี๋ยวววว ใครบอกมันว่าผมจะไปด้วยวะ ผมยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้ามันนะMon : กูยังไม่ได้บอกเลยว่ากูจะไปBlue : ก็กูนี่ไงบอกให้มึงไปMon : ไม่เอาไม่ไปกูจะนอนนนนน Blue : ถ้าพรุ้งนี้เก้าโมงกูไม่เห็นมึงกูจะไปอุ้มมึงลงมาจากห้อง-อ่านแล้ว-
Mon part โรงเรียน xxผมมาเรียนด้วยสภาพที่ไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน คำพูดของไอบลูมันวนเวียนอยู่ไหนหัวผมถึงขนาดทำยังไงก็ไม่ออกไปจากหัวผมสักที จีบอยู่ จีบอยู่ จีบผมอยู่งั้นหรอ“ม่อน ม่อน ไอม่อน!”“หะ ห้ะ ไม่ได้จีบ” ผมสะดุ้งตกใจที่ไอเพลงมันตะโกนเรียกผม“จีบ จีบอะไรใครจีบใครแล้วมึงเหม่ออะไรเนี่ย” มันถามผมแบบงงๆ“ห้ะ อะ เอ่อ กูบอกว่าอยากกินขนมจีบ” ผมเนียนแถออกไป เชี่ยย ผมหลุดพูดออกอะไรออกไปวะ แม่ง ไอเหี้ยบลูคนเดียวเลยทำให้ผมเป็นแบบนี้ ผมตวัดสายตามองไปทางมันก็เห็นมันนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว หมั่นไส้ชิบ“มึงได้นอนบ้างป่ะเนี่ยตาโบ๋แล้วนะ” ไอฝ้ายถามแล้วชี้มาที่ตาของผม“กูนอนกลางวันเยอะอ่ะ เมื่อคืนเลยนอนไม่หลับ” ผมโกหกออกไปอีก“หึ” ไอบลูมันแอบหัวเราะแล้วไอเพลงมันก็มองผมกับไอบลูด้วยสายตาแปลกๆ“พวกมึงไปเรียนกัน กูอยากดีดกีตาร์ละ” ไอพองพูดขึ้น อ๋อ วันนี้มีเรียนดนตรีซึ่งอาจารย์บอกว่าตะให้ออกไปเล่นดนตรีกับร้องเพลงหน้าห้องเพื่อเก็บคะแนน กลุ่มผมส่วนมากก็จะดีดกีตาร์กัน ผมไม่ได้เตรียมตัวมาเลยคงต้องขอเล่นอาทิตย์หน้าแทนห้องดนตรี“วันนี้มีเก็บคะแนนนะจำได้ใช่ไหม” อาจารย์พูดขึ้นมาทันทีที่ทุกคนมาครบ“จำได้ครับ/จำไ
Mon part “ม่อนครับ ขอได้ไหม” ผมนิ่งค้างไปหลังจากที่ไอบลูมันพูดจบ ขอหรอ ขออะไร มันจะทำแบบนั้นกับผมหรอ ฮืออ ผมยังไม่พร้อมอ่ะ“ขะ ขออะไร” ผมไม่กล้ามองหน้ามันด้วยซ้ำตอนนี้“ขอบลูชิมหน่อยนะ” พอจบประโยคไอบลูมันก็เริ่มทำการชิมผมแบบที่มันบอกทันที มันโน้มหน้าลงมาหอมแก้มผมแล้วงับเบาๆ จากนั้นก็เลื่อนลงมาซุกลงที่ซอกคอแล้วดูดดุนจนผมรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา“อะ อ๊ะะ บะ บลู” ผมพยายามเค้นเสียงออกมาเรียกชื่อมัน แต่เหมือนว่าเสียงที่เล็ดลอดออกมามันจะออกไปทางกระเส่าเสียมากกว่า “อืมมม“ มันครางตอบในลำคอจากนั้นก็เลื่อนต้วต่ำลงไปอีกแล้วปากของมันก็ไปหยุดอยู่ตรงที่ปลายยอดอกของผม ผมเห็นมันมองยอดอกสีหวานของผมด้วยแววตาหิวกระหายพร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง ผมหลับตาปี๋เตรียมรับสัมผัสจากมันถึงใจอยากจะขัดขืนขนาดไหนแต่ตอนนี้ร่างกายของผมตอบสนองจากทุกสัมผัสของมันแถมความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ผมไม่สามารถหยุดการกระทำของเราทั้งสองตอนนี้ได้“อ๊ะ ตะ ตรงนั้น” ไม่ทันที่ผมจะได้คิดอะไรไอบลูก็แตะปลายลิ้นของมันลงที่ยอดอกของผม ความเสียวแล่นขึ้นสู่สมองทันทีมันตวัดลิ้นโลมเลียที่ยอดอกของผมเหมือนได้ชิมของอร่อย ผมบิดเร้าไปมาด้วยค
Blue part ผมก็อยากจะห้ามใจตัวเองอยู่นะแต่พอได้เริ่มแล้วมันก็หยุดไม่ได้แล้ว ก็ใครใช้ให้มันหวานทั้งตัวขนาดนั้นล่ะครับพอได้เริ่มชิมตรงนึงม้นก็อดไม่ได้ที่จะชิมตรงอื่นต่อ จนสุดท้ายผมก็ใช้ปากทำให้มันจนเสร็จสม ผมไม่ได้คิดจะล่วงเกินมันไปมากกว่านั้นแต่มันกลับทำในสิ่งที่ผมคิดไม่ถึงคือการช่วยผมด้วยมือของมันและยิ่งทำให้ผมตกใจไปมากกว่านั้นคือในจังหวะที่ผมจะเสร็จผมกลับเอาปากของมันมารับน้ำของผมไว้ ตอนนั้นใจของผมเต้นเหมือนมีคนมารัวกลองอยูในนั้น ในหัวผมมีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมดผมไม่คิดว่ามันจะน่ารักขนาดนี้ถึงแม้ว่าในสายตาผมมันจะน่ารักที่สุดแล้วก็เถอะ“ม่อน ม่อนครับ” ผมตื่นขึ้นมาในเวลาหกโมงเช้าเลยคิดว่าจะปลุกมันแล้วกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านเพราะต้องไปเรียน ผมเขย่าตัวมันเบาๆ“อือออออ” มันพลิกตัวหนีด้วยความรำคาญแล้วนอนต่อโดยไม่สนใจเสียงเรียกของผม“ตื่นได้แล้ว ไปอาบน้ำแต่งตัวเร็ว” คราวนี้ผมขยับเข้าไปกอดมันจากข้างหลังมือสอดเข้าไปลูบเอวมันในเสื้อแล้วพูดอยู่ตรงซอกคอมัน“อื้อออ ทะ ทำอะไรของมึงเนี่ย“ มันค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วขยับตัวหนีจากผมแต่ไปไหนไม่ได้เพราะผมกอดมันไว้แน่น”ปลุกไง มึงไม่ยอมตื่นสักที“ ผมพูดแล้
โรงเรียน xxวันกีฬาสีหลังจากวันที่เริ่มประชุมสีก็ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้ว ทุกๆเย็นพวกเราก็จะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองจนวันนี้เป็นวันแรกของการแข่งกีฬาสี การเดินขบวนพาเหรดจะจัดขึ้นในวันสุดท้ายตอนนี้ผมเลยมีเวลาว่าง วันนี้บลูมันมีแข่งเตะบอลกับสีน้ำเงินผมเลยกะว่าจะไปดูสักหน่อย “เพลง ฝ้าย ไปดูแข่งบอลกันป่ะวันนี้ไอบลูกับไอเอ็มลง” ผมหันไปชวนเพื่อนสาวทั้ง 2 ที่นั่งกระหนุงกระหนิงกันไม่เกรงใจชาวบ้านสักคน ส่วนพวกผู้ชายน่ะหรอป่านนี้คงอยู่สนามกันหมดแล้ว“ไปดิ ว่าแต่มึงจะเชียร์สีไรอ่ะ” ไอฝ้ายถามผม“โอ้ยเธอ มันไม่เชียร์สีไรหรอกมันเชียร์ไอบลูคนเดียว” ไอเพลงพูดดักก่อนที่ผมจะตอบ“อะไรของมึง กูก็เชียร์เพื่อนทุกคนนั่นแหละ” ผมโวยวายตอบเสียงดัง“อ๋อ เพื่อนนนนนนนนนนน” คราวนี้พวกมันก็พากันล้อผมไม่เลิก“จะไปไหม ไม่ไปกูไปแล้วนะ” ผมพูดขึ้นแล้วลุกเดินหนีพวกมันเลย“เอ้า ไอม่อนรอพวกกูด้วยย” แล้วมันสองคนก็วิ่งตามผมมาพอมาถึงพวกเราก็เห็นไอไมค์กับบาสนั่งอยู่เลยเดินเข้าไปหาพวกมัน“ไงมึง กว่าจะมากันได้” ไอบาสทักพวกเราสามคน“ก็ไอสองคนนี้ดินั่งจู๋จี๋กันอยู่ได้” ผมตอบพลางชี้ไปทางไอสองคนนั้น“อย่าให้กูเห็นว่ามึงกับไอบลูไ
Mon part วันนี้ผมรู้สึกสนุกมากเลยครับที่ได้ทำอะไรใหม่ๆ ผมเป็นพวกที่เวลาได้ทำอะไรแล้วจะทำให้เต็มที่แต่ก็แอบเหนื่อยอยู่เหมือนกันเพราะอากาศที่ค่อนข้างร้อนบวกกับชุดที่ใส่ แถมวันนี้ไอบลูมันก็งอแงอะไรของมันก็ไม่รู้เอาแต่ทำหน้าบูดทั้งวันมันให้เหตุผมว่าหวงไม่อยากให้ใครมองผม ผมเลยบอกมันไปว่าถ้ามันเป็นเด็กดีผมจะให้รางวัลพอผมบอกไปแบบนั้นมันก็เป็นเด็กดีขึ้นมาทันทีเลยแต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะให้อะไรมันดีพอกลับมาถึงบ้านผมก็อาบน้ำแล้วก็กระโดดขึ้นเตียงเพื่อเตรียมตัวหลับสักงีบ กดเข้าออกเฟสบุ๊คไปเพื่อเช็คว่ามีใครแท็กรูปมาบ้าง ดูไปได้สักพักก็ผล็อยหลับไปในที่สุดผมรู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกรบกวนการนอนจากอะไรสักอย่างที่ตอนนี้มันกำลังคลอเคลียอยู่ที่แก้มของผม ผมใช้มือปัดออกด้วยความรำคาญก่อนจะนอนต่ออย่างไม่สนใจสิ่งนั้นอีก พอผ่านไปสักพักก็รู้สึกได้ถึงแรงกอดรัดจากทางด้านหลังทำให้ผมตัดสินใจลืมตาขึ้นมาดูและก็ได้พบกับต้นเหตุของการรบกวนการนอนของผม“มึงจะกวนทำไมเนี่ย กูจะนอน” ผมหันไปบ่นกับไอบลูที่กอดผมจากด้านหลังอยู่ ใช่ครับมันขึ้นมานอนกอดผมทำให้ผมที่กำลังหลับสบายต้องลืมตาตื่นมาในที่สุด“เย็นแล้วไปซื้อของกัน” มันว
โรงเรียน xxวันกีฬาสีหลังจากวันที่เริ่มประชุมสีก็ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้ว ทุกๆเย็นพวกเราก็จะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองจนวันนี้เป็นวันแรกของการแข่งกีฬาสี การเดินขบวนพาเหรดจะจัดขึ้นในวันสุดท้ายตอนนี้ผมเลยมีเวลาว่าง วันนี้บลูมันมีแข่งเตะบอลกับสีน้ำเงินผมเลยกะว่าจะไปดูสักหน่อย “เพลง ฝ้าย ไปดูแข่งบอลกันป่ะวันนี้ไอบลูกับไอเอ็มลง” ผมหันไปชวนเพื่อนสาวทั้ง 2 ที่นั่งกระหนุงกระหนิงกันไม่เกรงใจชาวบ้านสักคน ส่วนพวกผู้ชายน่ะหรอป่านนี้คงอยู่สนามกันหมดแล้ว“ไปดิ ว่าแต่มึงจะเชียร์สีไรอ่ะ” ไอฝ้ายถามผม“โอ้ยเธอ มันไม่เชียร์สีไรหรอกมันเชียร์ไอบลูคนเดียว” ไอเพลงพูดดักก่อนที่ผมจะตอบ“อะไรของมึง กูก็เชียร์เพื่อนทุกคนนั่นแหละ” ผมโวยวายตอบเสียงดัง“อ๋อ เพื่อนนนนนนนนนนน” คราวนี้พวกมันก็พากันล้อผมไม่เลิก“จะไปไหม ไม่ไปกูไปแล้วนะ” ผมพูดขึ้นแล้วลุกเดินหนีพวกมันเลย“เอ้า ไอม่อนรอพวกกูด้วยย” แล้วมันสองคนก็วิ่งตามผมมาพอมาถึงพวกเราก็เห็นไอไมค์กับบาสนั่งอยู่เลยเดินเข้าไปหาพวกมัน“ไงมึง กว่าจะมากันได้” ไอบาสทักพวกเราสามคน“ก็ไอสองคนนี้ดินั่งจู๋จี๋กันอยู่ได้” ผมตอบพลางชี้ไปทางไอสองคนนั้น“อย่าให้กูเห็นว่ามึงกับไอบลูไ
Blue part ผมก็อยากจะห้ามใจตัวเองอยู่นะแต่พอได้เริ่มแล้วมันก็หยุดไม่ได้แล้ว ก็ใครใช้ให้มันหวานทั้งตัวขนาดนั้นล่ะครับพอได้เริ่มชิมตรงนึงม้นก็อดไม่ได้ที่จะชิมตรงอื่นต่อ จนสุดท้ายผมก็ใช้ปากทำให้มันจนเสร็จสม ผมไม่ได้คิดจะล่วงเกินมันไปมากกว่านั้นแต่มันกลับทำในสิ่งที่ผมคิดไม่ถึงคือการช่วยผมด้วยมือของมันและยิ่งทำให้ผมตกใจไปมากกว่านั้นคือในจังหวะที่ผมจะเสร็จผมกลับเอาปากของมันมารับน้ำของผมไว้ ตอนนั้นใจของผมเต้นเหมือนมีคนมารัวกลองอยูในนั้น ในหัวผมมีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมดผมไม่คิดว่ามันจะน่ารักขนาดนี้ถึงแม้ว่าในสายตาผมมันจะน่ารักที่สุดแล้วก็เถอะ“ม่อน ม่อนครับ” ผมตื่นขึ้นมาในเวลาหกโมงเช้าเลยคิดว่าจะปลุกมันแล้วกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านเพราะต้องไปเรียน ผมเขย่าตัวมันเบาๆ“อือออออ” มันพลิกตัวหนีด้วยความรำคาญแล้วนอนต่อโดยไม่สนใจเสียงเรียกของผม“ตื่นได้แล้ว ไปอาบน้ำแต่งตัวเร็ว” คราวนี้ผมขยับเข้าไปกอดมันจากข้างหลังมือสอดเข้าไปลูบเอวมันในเสื้อแล้วพูดอยู่ตรงซอกคอมัน“อื้อออ ทะ ทำอะไรของมึงเนี่ย“ มันค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วขยับตัวหนีจากผมแต่ไปไหนไม่ได้เพราะผมกอดมันไว้แน่น”ปลุกไง มึงไม่ยอมตื่นสักที“ ผมพูดแล้
Mon part “ม่อนครับ ขอได้ไหม” ผมนิ่งค้างไปหลังจากที่ไอบลูมันพูดจบ ขอหรอ ขออะไร มันจะทำแบบนั้นกับผมหรอ ฮืออ ผมยังไม่พร้อมอ่ะ“ขะ ขออะไร” ผมไม่กล้ามองหน้ามันด้วยซ้ำตอนนี้“ขอบลูชิมหน่อยนะ” พอจบประโยคไอบลูมันก็เริ่มทำการชิมผมแบบที่มันบอกทันที มันโน้มหน้าลงมาหอมแก้มผมแล้วงับเบาๆ จากนั้นก็เลื่อนลงมาซุกลงที่ซอกคอแล้วดูดดุนจนผมรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา“อะ อ๊ะะ บะ บลู” ผมพยายามเค้นเสียงออกมาเรียกชื่อมัน แต่เหมือนว่าเสียงที่เล็ดลอดออกมามันจะออกไปทางกระเส่าเสียมากกว่า “อืมมม“ มันครางตอบในลำคอจากนั้นก็เลื่อนต้วต่ำลงไปอีกแล้วปากของมันก็ไปหยุดอยู่ตรงที่ปลายยอดอกของผม ผมเห็นมันมองยอดอกสีหวานของผมด้วยแววตาหิวกระหายพร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง ผมหลับตาปี๋เตรียมรับสัมผัสจากมันถึงใจอยากจะขัดขืนขนาดไหนแต่ตอนนี้ร่างกายของผมตอบสนองจากทุกสัมผัสของมันแถมความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ผมไม่สามารถหยุดการกระทำของเราทั้งสองตอนนี้ได้“อ๊ะ ตะ ตรงนั้น” ไม่ทันที่ผมจะได้คิดอะไรไอบลูก็แตะปลายลิ้นของมันลงที่ยอดอกของผม ความเสียวแล่นขึ้นสู่สมองทันทีมันตวัดลิ้นโลมเลียที่ยอดอกของผมเหมือนได้ชิมของอร่อย ผมบิดเร้าไปมาด้วยค
Mon part โรงเรียน xxผมมาเรียนด้วยสภาพที่ไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน คำพูดของไอบลูมันวนเวียนอยู่ไหนหัวผมถึงขนาดทำยังไงก็ไม่ออกไปจากหัวผมสักที จีบอยู่ จีบอยู่ จีบผมอยู่งั้นหรอ“ม่อน ม่อน ไอม่อน!”“หะ ห้ะ ไม่ได้จีบ” ผมสะดุ้งตกใจที่ไอเพลงมันตะโกนเรียกผม“จีบ จีบอะไรใครจีบใครแล้วมึงเหม่ออะไรเนี่ย” มันถามผมแบบงงๆ“ห้ะ อะ เอ่อ กูบอกว่าอยากกินขนมจีบ” ผมเนียนแถออกไป เชี่ยย ผมหลุดพูดออกอะไรออกไปวะ แม่ง ไอเหี้ยบลูคนเดียวเลยทำให้ผมเป็นแบบนี้ ผมตวัดสายตามองไปทางมันก็เห็นมันนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว หมั่นไส้ชิบ“มึงได้นอนบ้างป่ะเนี่ยตาโบ๋แล้วนะ” ไอฝ้ายถามแล้วชี้มาที่ตาของผม“กูนอนกลางวันเยอะอ่ะ เมื่อคืนเลยนอนไม่หลับ” ผมโกหกออกไปอีก“หึ” ไอบลูมันแอบหัวเราะแล้วไอเพลงมันก็มองผมกับไอบลูด้วยสายตาแปลกๆ“พวกมึงไปเรียนกัน กูอยากดีดกีตาร์ละ” ไอพองพูดขึ้น อ๋อ วันนี้มีเรียนดนตรีซึ่งอาจารย์บอกว่าตะให้ออกไปเล่นดนตรีกับร้องเพลงหน้าห้องเพื่อเก็บคะแนน กลุ่มผมส่วนมากก็จะดีดกีตาร์กัน ผมไม่ได้เตรียมตัวมาเลยคงต้องขอเล่นอาทิตย์หน้าแทนห้องดนตรี“วันนี้มีเก็บคะแนนนะจำได้ใช่ไหม” อาจารย์พูดขึ้นมาทันทีที่ทุกคนมาครบ“จำได้ครับ/จำไ
Mon part นี่ ผม ทำ อะ ไร ลง ไป!!! “อ๊ากกก” ผมวิ่งกลับมายังห้องของตัวเองแล้วกระโดดขึ้นเตียงคลุมโปงแล้วดิ้นไปมา ผมต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ นี่ผม..ไปบอกให้มันเลิกคุยกับน้องส้มงั้นหรอ แม่ง แล้วมันก็พึ่งจะมาบอกผมว่าน้องส้มเป็นญาติมัน แบบนี้มันจงใจแกล้งผมชัดๆมันปล่อยให้ผมเข้าใจผิดมาเป็นอาทิตย์ แถมมันยังบอกให้ผมเลิกคุยกับน้องมิ้นอีก เห้ออ ผมก็ไม่ได้อะไรกับน้องมิ้นหรอกครับจริงๆก็รู้ตัวมาสักพักแล้วว่าคิดกับน้องมิ้นแค่พี่น้องแต่ก็รู้สึกผิดอยู่ที่ดันไปให้ความหวังน้อง ผมจะโดนน้องด่ามั้ยเนี่ยหลังจากที่ผมโวยวายกับตัวเองไปได้สักพักเสียงแจ้งเตือนจากไลน์ก็ดังขึ้น My friend M : พวกมึงพรุ่งนี้ไปดูหนังกันป่ะBass : ไปๆ กูขี้เกียจอยู่บ้านPong : กูไม่ว่างว่ะMike : กูไปๆPleng : กูกับฝ้ายไม่ไปอ่ะBlue : กูกับไอม่อนไป M : เออๆ เจอกัน 10.00 น. ที่ห้าง xxเดี๋ยวววว ใครบอกมันว่าผมจะไปด้วยวะ ผมยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้ามันนะMon : กูยังไม่ได้บอกเลยว่ากูจะไปBlue : ก็กูนี่ไงบอกให้มึงไปMon : ไม่เอาไม่ไปกูจะนอนนนนน Blue : ถ้าพรุ้งนี้เก้าโมงกูไม่เห็นมึงกูจะไปอุ้มมึงลงมาจากห้อง-อ่านแล้ว-
Blue part ผมรู้แล้วว่าผมจะทำยังไงต่อดี ต้องขอบคุณน้องส้มที่มาหาผมได้ถูกเวลาจริงๆ อ๋อ น้องส้มเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมครับพอดีว่าพ่อแม่น้องไปธุระต่างจังหวัดท่านเลยฝากให้ผมช่วยไปรับส่งน้องในช่วง2-3 วันนี้ ซึ่งผมก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร พอคุยกับน้องเสร็จเดินกลับมาที่โต๊ะก็เห็นใครบางคนนั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ แล้วอยู่ๆมันก็ลุกเดินหนีออกไปผมแอบขำท่าทางของมันเล็กน้อย ไอเพลงมันก็เดินมากระซิบผม“ทีแรกเหมือนมันจะง้อมึงนะ แต่กูว่าตอนนี้มันน่าจะงอนมึงแทนแล้วแหละ”“หึ” ผมคำในลำคอเบาๆ ผมเกือบจะใจอ่อนตั้งแต่มันยื่นชาเขียวให้แล้วแต่ก็ต้องแข็งใจไว้ก่อนแล้ววันนี้ก็เป็นมันที่ไม่ยอมคุยกับผมเลย พอถึงตอนเลิกเรียนผมก็บอกให้บาสช่วยไปส่งไอม่อนทีเพราะผมต้องไปส่งน้องส้ม และใช่ครับผมไม่ได้บอกใครนอกจากไอเพลงว่าส้มเป็นญาติผม ปล่อยให้พวกมันคิดว่าส้มเป็นเด็กผมไปก่อนแล้วกันถือเป็นโอกาสดีในการสังเกตท่าทีของไอม่อนด้วย เหมือนมันจะโกรธที่ผมให้มันกลับกับบาส มันเดินชมผมออกไปแล้วไม่หันกลับมามองเลย ผมได้แต่ส่ายหัวให้กับท่าทางน่ารักๆของมันก่อนจะพาน้องส้มไปส่งที่บ้าน“ขอบคุณนะพี่บลู รบกวนแย่เลย” ส้มบอกขอบคุณผมเมื่อมาส่งเธอถึงบ้าน“ไม่เป
Blue part ผมกลับมาถึงบ้านด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวแล้วเดินขึ้นห้องนอนของตัวเอง จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก “เห้ออออออออ” วันนี้มันผิดแผนไปหมดผมอุตส่าห์รีบออกไปเร็วกว่าทุกทีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปเจอกับไอม่อน แต่เหมือนผมจะคิดผิดเพราะพอผมไปถึงโรงเรียนก็ดันไปเจอมันขับรถซ้อนน้องมิ้นเข้ามาพอดี อยู่ดีๆหัวใจผมมันรู้สึกก็กระตุกนิดๆผมไม่รู้จะทำตัวยังไงก็เลยเดินผ่านมันมาโดยที่ไม่สนใจมันเลย ผมเห็นว่ามันทำท่าเหมือนจะเอ่ยทักผมแต่ตอนนั้นผมไม่มีอารมณ์จะคุยกับมันสักนิดเหตุการณ์เมื่อตอนเช้า“อ้าวมึง มาแล้วหรอไอม่อนไปไหนอ่ะ” ไอเพลงทักผมแล้วถามถึงไอคนที่ทำให้ผมอารมณ์เสียแต่เช้า“ไม่รู้” ผมตอบมันไปแบบไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก“เอ้า อะไรวะ” แล้วพวกมันก็ไม่ได้ถามอะไรผมอีกเพราะไอม่อนมันเดินเข้ามาพร้อมกับน้องมิ้นแล้วเข้ามาทักพวกผม ผมเห็นไอเพลงมันแอบมองผมด้วยความเป็นห่วงจากนั้นแชทผมก็เด้งขึ้นPleng : มึงโอเคป่าววะบลูBlue : ไม่โอเคเลยว่ะเพลง แต่กูไม่รู้จะทำไงว่ะPleng : ไม่เป็นไรนะมึง ใจเย็นๆพวกแม่งกลัวกันหมดละเนี่ยBlue: ให้ทำไงวะกูไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครเลยPleng: เออๆ มึงไปสงบสติอารมณ์ก่อน
ปัจจุบันBlue partตอนนี้ก็เป็นเวลา 2 แล้วปีจากตอนนั้นที่พวกเราขึ้นม.ปลายมา พูดได้ว่าตอนนี้ก็เป็นปีสุดท้ายแล้วที่เราจะได้ใช้ชีวิตเด็กม.ปลายให้เต็มที่ และใช่ครับตอนนี้พวกเราอยู่ม.6 แล้ว ทุกอย่างยังคงดำเนินไปเหมือนปกติตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่มันไม่ปกติและผมก็รู้สึกได้ว่ามันไม่ปกติมาสักพักแล้วตั้งแต่ตอนนั้น ตอนที่ผมไปบ้านมัน ตอนที่เรียนลีลาศ และอีกหลายๆครั้งที่เราได้อยู่ด้วยกัน ผมไม่รูัว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ในสายตาผมไม่ว่าม่อนมันจะทำอะไรมันก็ดูน่ารักเสมอ ผมมักใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูมองไปที่มันโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะมีใครสังเกตเห็นรึเปล่า ผมไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกเหมือนกันกับผมมั้ย แต่ตัวผมนั้นพูดได้เต็มปากเลยว่าที่ผมรู้สึกกับมันไม่ใช่แค่ความรู้สึกของเพื่อนแน่ๆ ใช่ครับผมคิดว่าผมชอบมัน ชอบคนที่ผมเรียกมันว่าเพื่อนสนิทแต่ผมก็ยังอยากมั่นใจในความรู้สึกตัวเองให้มากกว่านี้ว่าที่ผมชอบมันไม่ใช่แค่เพราะหวั่นไหวที่เราอยู่ด้วยกันหรือแค่อารมณ์ชั่ววูบ ผมคิดว่าผมคงต้องหาที่ปรึกษาแล้วล่ะ คิดได้ดังนั้นผมก็หยิบมือถือขึ้นมาต่อสายหาใครคนนั้นทันที รอสายได้ไม่นานนักปลายสายก็กดรับสาย-Plen