หน้าหลัก / รักโบราณ / กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย / ข้ายังมีความสุขอยู่หรือไม่

แชร์

ข้ายังมีความสุขอยู่หรือไม่

ผู้เขียน: Midzilee01
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-28 15:22:19

หลังจากงานแต่งของฮูหยินเอกแห่งจวนแม่ทัพหยางจบลง ก็เป็นการรับฮูหยินรองเข้าจวนมาโดยที่ไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก เพราะนางเป็นเพียงสามัญชนธรรมดามิได้มีครอบครัวที่เป็นตระกูลใหญ่หนุนหลังดั่งเช่นฮูหยินเอก 

หนิงฮวานั่งอยู่ริมหน้าต่างและเหม่อมองไปยังขอบฟ้าในยามพลบค่ำ พลันนึกถึงใบหน้าของบุรุษผู้เป็นที่รักซึ่งป่านนี้เขาคงกำลังมีความสุขอยู่กับฮูหยินรอง นางทำได้เพียงแค่พร่ำถอนหายใจ

"การเป็นฮูหยินของเจ้า ข้าต้องใจกว้างดั่งมหาสมุทรเชียวหรือ"

เมื่อยามราตรีมาถึงหนิงฮวาก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมมิยอมขยับไปไหน สายลมพัดผ่านพาให้แสงเทียนสั่นไหว หนิงฮวาแหงนหน้ามองดวงจันทร์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับเข้ามาภายในห้องนอน 

ยามรุ่งขึ้นหยางซีซวนก็อยู่ทานอาหารเช้าที่เรือนของลี่ถังก่อนจะกลับไปนั่งทำงานที่ห้องทำงานของเขาเอง ลี่ถังผู้มีตำแหน่งเป็นฮูหยินรองก็มาคารวะน้ำชาฮูหยินเอกตามธรรมเนียม โดยที่ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันมากนัก เพราะมิมีเรื่องจำเป็นที่ต้องคุย

เมื่อยามอู่ หนิงฮวายกน้ำชาและขนมเข้ามาที่ห้องทำงานของซีซวน แต่เมื่อเข้ามากลับพบว่า เขานั้นมีผู้ยกน้ำชาและขนมมาให้เขาก่อนนางเสียแล้ว

ลี่ถั่งนั่งฝนหมึกอยู่ข้างๆซีซวน ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างมีความสุขราวกับไม่เห็นว่านางเดินเข้ามา หยางซีซวนเงยหน้าขึ้นมาเห็นหนิงฮวาพอดีจึงได้กล่าวทักทาย

"เจ้าจะเอาน้ำชามาให้ข้าหรือฮวาเอ๋อร์" หนิงฮวาพยักหน้าเบาๆให้ซีซวน พรางใช้สายตามองไปยังลี่ถังที่ก้มหน้าก้มตาฝนหมึกโดยมิสนใจนาง

"ท่านคงจะอิ่มแล้วกระมัง เช่นนั้นข้าจะเอาไปเก็บก่อน" เมื่อพูดจบหนิงฮวาก็หันหลังเดินออกมา โดยที่ไม่หันไปสนใจเสียงตามหลังของผู้เป็นสามี

"ต้องขอโทษเจ้าด้วยแต่ข้าอิ่มแล้วจริงๆ ไว้คราวหน้านะ"  

นางรู้สึกพ่ายแพ้อย่างราบคาบ แม้น้ำใจเล็กน้อยของนางเขายังไม่อยากรับไว้ เหตุใดจึงไม่รักษาหน้ารักษาน้ำใจของนางสักนิด อิ่มเพียงไหนแค่จิบชาเล็กน้อยนางก็ดีใจแล้ว

นางมิได้เฝ้ารอให้เขากลับมาเพื่อให้คนอื่นมาดูแลเขาแทนนาง เหตุใดที่ตรงนั้นจึงไม่เป็นนางที่นั่งอยู่ หนิงฮวากลับเรือนมานั่งปักผ้าเช็ดหน้าผืนเดิมให้เสร็จ มันเป็นรูปดอกเหมยที่นางชื่นชอบ

ขณะที่ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ภาพความทรงจำเมื่อเยาว์วัยก็ปรากฎขึ้น นางและซีซวนเป็นสหายและเป็นคู่หมั้นกันมาตั้งแต่เด็ก เสนาบดีกรมยุติธรรมไป๋เฉิงและท่านแม่ทัพหยางผู้เป็นบิดาของหนิงฮวาและซีซวนเป็นเพื่อนรักกัน จึงอยากเกี่ยวดองกันเลยมอบหมายให้บุตรของทั้งสองแต่งงานกันเมื่อยามที่เลยวัยปักปิ่นแล้ว

หยางซีซวนเป็นบุรุษที่รูปงามและมากความสามารถ เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะดุดันและเจ้าระเบียบ เหตุอาจเป็นเพราะเขาเป็นบุตรชายของท่านแม่ทัพ แต่เมื่อเขาอยู่กับหนิงฮวาเขาจะเป็นคนที่อะลุ่มอล่วยได้ทุกเรื่องและอ่อนโยนกับนางเสมอ

เขายอมหนีการซ้อมดาบเพื่อมาเล่นกับหนิงฮวาอยู่ประจำ ทำให้ท่านพ่อของเขาโกรธมากแต่หนิงฮวาก็จะปกป้องและยอมรับผิดแทนซีซวน ทำให้ทั้งคู่ต้องโดนทำโทษด้วยการช่วยกันทำความสะอาดลานฝึกดาบ อย่างเช่นการเก็บกวาดเศษใบไม้อยู่เป็นประจำ

เมื่อครั้งถึงวัยปักปิ่น หยางซีซวนก็ซื้อปิ่นที่มีดอกเหมยประดับอยู่ให้กับนาง นางชอบมากถึงขนาดที่ใส่มันทุกวัน แม้ตอนนี้จะไม่ได้ใส่แล้วแต่นางก็เก็บรักษาไว้อย่างดี

"เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่มีความสุขเลยซีซวน"

คืนนี้ก็เป็นคืนที่4แล้วที่ซีซวนไม่มาหานาง เขามักบอกว่าเป็นห่วงสุขภาพของนางจึงอยากให้นางพักผ่อนให้เต็มที่ นางหวังเพียงแค่ เขาจะคิดอย่างที่พูดจริงๆ

แม้จะเสียใจจนใจจะขาด แต่นางกลับไม่สามารถทำสิ่งใดได้ นางอยากจะถามเขาเหลือเกินว่าใยบุรุษต้องมากรักมากเมียเพราะตั้งแต่ท่านแม่ของนางเสียไป ท่านพ่อก็มิเคยแต่งใครเข้ามาในจวน ท่านพ่อยังคงรักมั่นเพียงท่านแม่ผู้เดียวแม้นางจะจากไปแล้วก็ตาม

"ทำไมเจ้าถึงมีหลายรักได้ ทั้งๆที่ข้ามีเจ้าเพียงคนเดียว เช่นนี้มันยุติธรรมจริงๆหรือ"

หนึ่งปีผ่านไปจวนแม่ทัพหยางก็ไม่ได้มีการแต่งอนุเพิ่มตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับฮูหยินเอก ดูเหมือนนางจะไม่ยอมเปิดใจรับลี่ถังเสียทีแม้จะผ่านมาเป็นปีแล้วก็ตาม

หากภรรยารักใคร่กันผู้เป็นสามีก็มีความสุข แต่ดูเหมือนว่าจะมิใช่เรื่องง่ายเลย หนิงฮวาเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเสนาบดีไป๋เฉิงจึงถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก นางไม่ชอบหากถูกขัดใจ แต่กับเขาแล้วนางกลับยอมอ่อนข้อให้แม้ต้องขัดกับนิสัยของตนเอง

เพื่อความสุขของเขาแม้จะเป็นความทุกข์ของนาง นางก็พยายามอดทนอดกลั้นมาเป็นปีๆ ขอเพียงเขาแสดงให้เห็นว่านางยังคงสำคัญที่สุดนางก็พอใจ แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ หยางซีซวนมักจะพูดว่าภรรยาทั้งสองสำคัญเท่ากัน

มันจะเท่ากันได้อย่างไร แม่นางลี่ถังเป็นผู้ใดกัน นางมาทีหลังแต่กลับได้ความสำคัญเทียบเท่าข้าที่เป็นผู้มาก่อนนับสิบๆปี แต่นั่นเป็นเพียงสิ่งที่หนิงฮวาตะโกนอยู่ภายในใจเท่านั้น

"ซิงอีไปบอกคนเตรียมรถม้า วันนี้ข้าจะออกไปเดินเล่นที่ตลาดเสียหน่อย" ซิงอีได้แต่ทำตาปริบๆก่อนจะรีบลุกออกไปให้คนเตรียมรถมาตามคำสั่งของฮูหยิน เหตุใดสตรีที่ออกเรือนแล้วจึงพูดว่าจะไปเที่ยวเล่นที่ตลาดกัน 

เมื่อได้นั่งรถม้าออกมาจากจวน หนิงฮวาก็ใช้มือเรียวแหวกผ้าม่านออกเพื่อชมวิวทิวทัศน์ นางรู้สึกสบายใจขึ้นมาทันทีที่ได้ออกจากจวน บัดนี้นางเหนื่อยหน่ายกับการรอคอยอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว นางต้องคอยถามตัวเองอยู่เสมอว่าวันนี้ซีซวนจะนอนที่ไหน กินข้าวที่ไหนกับใคร

มันเหมือนนางรอคอยเศษเวลาจากเขาเพียงเท่านั้น หากเป็นเมื่อก่อนนางคงแอบร้องไห้เพียงลำพังเวลาที่เขาไปค้างคืนกับสตรีคนอื่น แต่บัดนี้น้ำตาของนางเริ่มค่อยๆเหือดแห้งไป และอีกไม่นานนางคงไม่เหลือน้ำตาไว้ร้องไห้อีกแล้ว

มันมิได้เป็นเพราะนางโกรธเกลียดหรือหมดรักในตัวซีซวน นางยังคงรักเขาจนหมดหัวใจ นางเคยรักเขาเช่นไรก็ยังคงรักเช่นเคย ไม่เคยลดน้อยลงไป 

เพียงแต่นางเหนื่อยเกินกว่าที่จะคอยตามเอาใจเขาแข่งกับลี่ถังแล้ว หากซีซวนและลี่ถังจะทำอะไร นางก็คงไม่เสียใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว 

เมื่อมาถึงตลาดหนิงฮวาก็เดินเลือกซื้อของด้วยความสบายใจ นางเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ จนตอนนี้ซิงอีถือของเต็มไม้เต็มมือไปหมด การเกิดเป็นคุณหนูตระกูลไป๋ทำให้ชีวิตนางมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นของสิ่งใดขอเพียงเอ่ยปาก ท่านพ่อของนางก็หาทุกอย่างมาประเคนให้ ทำให้นางหันกลับมามองตนเองในตอนนี้ นางยังเป็นคุณหนูที่มีความสุขอยู่หรือไม่

ซิงอีที่เดินถือของตามหลังคุณหนูต้อยๆ ก็ได้แต่คิดใจว่า บัดนี้คุณหนูของนางเปลี่ยนไปราวกับคนละคน อดีตคุณหนูเคยเป็นคนที่ร่าเริงสดใส แม้บางครั้งจะดื้อรั้นเอาแต่ใจไปบ้างแต่ก็นับว่าน่ารัก มิรู้ว่ารอยยิ้มนั้นของคุณหนูหายไปตั้งแต่ตอนไหนกัน..

บทที่เกี่ยวข้อง

  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   จดหมายจากธนูปริศนา

    อดีตคุณหนูไป๋หนิงฮวาเคยเป็นคนที่ร่าเริงสดใส แม้บางครั้งจะดื้อรั้นเอาแต่ใจไปบ้างแต่ก็นับว่าน่ารัก มิรู้ว่ารอยยิ้มนั้นของคุณหนูหายไปตั้งแต่ตอนไหนกัน..เร่เข้ามา~ เร่เข้ามา~ ปิ่นมงคล~ ปิ่นมงคลนอกจากจะสวยงามแล้วยังช่วยเสริมดวงชะตาโชคลาภและที่สำคัญเสริมดวงเรื่องความรักด้วยนะขอรับ~เมื่อสิ้นสุดเสียงประกาศของร้านค้าแผงลอยร้านหนึ่งที่ดูเหมือนว่าเขาจะขายเครื่องประดับมงคล บรรดาสาวน้อยใหญ่ก็ต่างพากันกรูเข้าไปแย่งกันซื้อ ของแบบนี้ไม่ว่าจะยุคไหนก็ยังคงมีคนเชื่อและยอมซื้อมัน หนึ่งในนั้นก็มีหนิงฮวาอยู่ด้วย"เจ้าว่าปิ่นมงคลนี่เหมาะกับข้าหรือไม่"หนิงฮวาหยิบปิ่นขึ้นมาหนึ่งอัน เพื่อที่จะให้ซิงอีช่วยตัดสินใจ ขณะที่นางกำลังจะหันกลับมาถามหาความเห็นจากซิงอี นางก็ถูกฝูงชนเบียดจนเสียหลักเซล้มชั่วพริบตาที่นางจะล้มลงนั้นกลับมีคนมาช่วยประคองนางไว้ เมื่อหนิงฮวาลืมตาขึ้นมาอีกทีก็พบกับฉินอ๋องเมื่อตั้งสติได้หนิงฮวาก็รีบผละตัวออกจากฉินอ๋องทันที ต้องยอมรับจริงๆ ว่านางเคยเห็นเขาเพียงไกลๆเท่านั้นแต่นางกลับจำเขาได้ทันทีนางเคยเห็นฉิงอ๋องครั้งแรกเมื่อตอนที่ลั่วหยางได้ชัยจากสงครามเมื่อปีก่อน ผ่านมาจนป่านนี้แล้วนางก็ยังจำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-02
  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   ฮูหยินรองป่วย

    หยางซีซวนตื่นขึ้นมาที่เรือนของลี่ถัง แต่วันนี้เขาตั้งใจว่าจะไปร่วมทานมื้อเช้ากับหนิงฮวาผู้เป็นฮูหยินเอก แต่เมื่อเขาเข้ามากลับไม่พบกระทั่งเงาของฮูหยินเอก นางหายไปไหนกัน"ฮูหยินของเจ้าอยู่ที่ใด" น้ำเสียงดุดันถามหาฮูหยินเอกด้วยความร้อนใจ "ข้าถามว่านางหายไปที่ใด!!!" เมื่อสาวใช้ที่คอยทำความสะอาดเรือนของฮูหยินมีท่าทีอึกอัก เขาก็รู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมาทันที"เรียนท่านแม่ทัพ ฮูหยินออกไปข้างนอกตั้งแต่เมื่อวานแล้วเจ้าค่ะ" "ออกไปตั้งแต่เมื่อวาน!!เป็นไปได้อย่างไรเหตุใดจึงไม่มีใครมารายงานข้า" หยางซีซวนรู้สึกวาบโหวงในใจเป็นอย่างมาก เหตุใดนางจึงไปไหนไม่บอกกล่าวเขาสักคำ ยิ่งช่วงนี้เขาได้จดหมายประหลาดมา ยิ่งทำให้รู้สึกกังวล"บ่าวเห็นว่าท่านอยู่ในเรือนของฮูหยินรองจึงมิกล้าเข้าไปรบกวนเจ้าค่ะ""หากเป็นเรื่องของฮูหยินเอก ข้าจะอยู่ที่ใดก็จงรีบมาบอกข้า ทหาร!!นี่คือคำสั่ง จงออกไปตามหาฮูหยินกลับจวนมาบัดเดี๋ยวนี้"เสียงคำสั่งของแม่ทัพดังสนั่น ระดมกำลังตามหาฮูหยินที่หายไป เขาไม่รอช้ารีบกุมบังเหียนออกตามหาฮูหยินทันที ขณะที่ม้ากำลังวิ่งด้วยความเร็ว เขาได้แต่ภาวนาอย่าให้เรื่องเกิดไม่ดีกับฮูหยินของเขาเลยถ้าหากว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   กระตุกหนวดเสือ

    สามวันมานี้หนิงฮวาได้ยินบ่าวไพร่พูดเรื่องของท่านแม่ทัพกับฮูหยินรองอยู่ทุกวัน บางคนก็ว่าคงจะมีข่าวดีเร็วๆนี้ อีกไม่นานคงจะมีคุณหนูคุณชายวิ่งกันเต็มจวนบางครั้งนางก็ต้องได้ยินว่าบ่าวไพร่ต่างพากันอิจฉาฮูหยินรอง ท่านทั้งสองพบกันราวพรหมลิขิต ได้ไปพบรักขณะที่ไปรบ และร่วมทุกข์ร่วมสุขกันนานนับปีแม้ฮูหยินรองจะมิใช่ลูกของผู้มีอำนาจ แต่ท่านแม่ทัพกลับแต่งฮูหยินรองเข้าจวนมาไล่เลี่ยกับฮูหยินเอก แถมดูเหมือนว่าท่านแม่ทัพจะรักฮูหยินรองมากกว่าฮูหยินเอกที่ถูกผู้ใหญ่บังคับหมั้นกันตั้งแต่เยาว์วัย ทหารยามที่เฝ้าอยู่บริเวณเรือนของฮูหยินเอกก็พูดกันว่า เมื่อยามที่ท่านแม่ทัพมานอนค้างที่เรือนของฮูหยินเอก มันไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา ร้อยวันพันปีเท่านั้นจึงจะได้ยินหนิงฮวาได้ยินคำพูดเหล่านี้มาโดยตลอด เพียงแต่นางไม่อยากถือสาเอาความ นางคงไม่สามารถห้ามปากและความคิดของผู้ใดได้ สิ่งที่เขาพูดมาก็ใช่ว่าจะเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้น หลายสิ่งที่พวกเขาพูดมาล้วนเป็นความจริงนางมิใช่คนที่อ่อนหวานและขี้เอาใจแบบฮูหยินรอง นางเติบโตมาอย่างบุตรสาวของขุนนาง การแสดงออกแต่ละอย่างควรสง่างาม มิควรทำสิ่งใดประเจิดประเจ้อจนเป็นที่นินทา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   สตรีโหดร้ายในสายตาเจ้า

    ฉินอ๋องและแม่ทัพหยางซีซวนเดินออกมาจากพระตำหนักเฟยหลงขององค์ฮ่องเต้ ทั้งคู่เดินผ่านสวนดอกไม้นาๆ พันธุ์มาจนถึงศาลาริมสระบัว "เกี่ยวกับธนูปริศนาวันนั้น.." หยางซีซวนเอ่ยขึ้นอย่างเป็นกังวล ฉินอ๋องพยักหน้าอย่างเข้าใจ "เปิ่นหวางได้ตามสืบเรื่องนี้มาสักพักแล้ว ลูกศรที่ยิงมาในวันนั้นเป็นลักษณะที่มีใบเลื่อยอยู่ด้วย ที่เดียวที่ใช้ลูกศรแบบนี้เท่าที่ข้ารู้ก็มีเพียงแค่..""ซีอาน!!" หยางซีซวนแทรกขึ้นมาทันที หลังจากที่ฟังฉินอ๋องพูดแล้วลูกศรแบบนี้ก็มีที่ซีอานที่เดียว! "เจ้าเข้าใจถูกต้องแล้วท่านแม่ทัพ สงครามในครานั้นทั้งลั่วหยางและซีอานต่างก็สูญเสียกันไปมาก แต่ที่สำคัญเลยคือซีอานเสียองค์ชายสามไปกับสงคราม พวกมันคงจะแค้นใจไม่น้อย" สงครามจบใช่ว่าคนจะจบ อย่างไรเสียฝั่งนั้นก็สูญเสียองค์ชายลำดับที่สามไป สนามรบไม่ปรานีผู้ใด หากได้จับดาบรบแล้ว ไม่เข่นฆ่าเขาก็จะถูกเขาเข่นฆ่า พวกมันกำลังจะทำตัวเป็นหมาลอบกัด ซึ่งมันก็คงจะไม่แปลก เมื่อหลังชนฝาแล้วก็ไม่มีอะไรที่ต้องเสีย หากชนะในสนามรบมิได้ ก็จงชนะนอกสนามรบแทน หลังจากที่พูดคุยกับฉินอ๋องจบ หยางซีซวนก็กลับมาที่จวน บรรยากาศในจวนเงียบสงัดราวกับเป็นจวนร้าง เหตุใดวัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   เราหย่ากันเถิด

    เป็นเวลากว่าเจ็ดวันที่หนิงฮวาถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในเรือนของตนเอง โดยที่หยางซีซวนไม่ได้แวะมาหานางเลยสักวัน บัดนี้นางเริ่มคิดแล้วว่าตนนั้นเป็นดั่งนกในกรงทองของหยางซีซวนเท่านั้นหากเขารักหลิวลี่ถังปานนั้น เหตุใดจึงต้องขอให้นางมาเป็นฮูหยินเอกด้วย เพียงเพราะคำสัญญาในวัยเยาว์หรือเพราะอำนาจทางการเมือง นางไม่อยากเป็นฮูหยินเอกหรือเมียหลวงของใคร นางอยากเป็นเมียเพียงคนเดียว การที่นางยอมแต่งงานกับหยางซีซวนเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ นางคงต้องคิดทบทวนดูใหม่เสียแล้วเมื่อลองมองย้อนกลับไปหนึ่งปีที่แต่งงานกันมา นางมีความสุขหรือไม่ หัวเราะกับร้องไห้สิ่งไหนบ่อยกว่ากันตัวนางไม่ต่างจากข้าวที่รอคอยฝน ยามที่ซีซวนมาหานางมักจะยิ้มและมีความสุข แต่ยามที่เขาไม่มา นางก็ได้แต่รอคอยโดยไม่มีสิทธิ์ปริปากบ่นถ้าหากว่านางหย่าแล้วกลับไปอยู่กับท่านพ่อ คงจะโดนชาวบ้านนินทาและคงทำให้ท่านพ่อต้องอับอาย นางจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร "ซิงอี ถ้าหากว่าวันหนึ่งข้าหย่ากับซีซวน ไม่เป็นฮูหยินไม่กลับไปเป็นคุณหนูไป๋ เจ้าจะยังอยู่กับข้าหรือไม่" หนิงฮวาที่กำลังนั่งเหม่อมองไปนอกหน้าต่างเอ่ยขึ้น"ไม่ว่าคุณหนูจะทำสิ่งใด ซิงอีจะอยู่กับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   ที่นี่คือที่ของเจ้า

    "เจ้าหมดรักข้าแล้วหรือฮวาเอ๋อร์ ไม่หย่าได้หรือไม่ข้าขอร้องเจ้า เจ้าจะให้ข้าทำสิ่งใดข้าก็ยอม" หยางซีซวนจับมือเล็กๆ อันบอบบางของนางขึ้นมาจูบเบาๆ ก่อนจะเอียงแก้มมาแนบกับมือของนางไว้ ตอนนี้เขารู้เพียงแค่ไม่อยากเสียนางไป ถ้าหากว่านางจะไปให้ได้ เขาก็จะกักขังนางไว้ ขอเพียงนางยังอยู่กับเขา ไม่ว่าจะวิธีใดเขาก็ยอมทำ"หากเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ข้าจะขอคงมีแค่เรื่องเดียว แต่ข้าคงจะไม่ขอหรอก เพราะข้ารู้ว่าเจ้าคงทำไม่ได้ หากเจ้าทำได้เจ้าก็คงทำไปตั้งนานแล้ว""เจ้ากลับไปคิดทบทวนอีกทีได้หรือไม่ฮวาเอ๋อร์..""ข้าคิดมาตลอดซีซวน มันหมดหนทางอื่นแล้ว ปล่อยข้าไปแล้วเจ้าก็ให้นางขึ้นเป็นฮูหยินแทนข้าเสีย" บัดนี้นางอ่อนล้าเกินกว่าที่จะไปสู้รบปรบมือกับใครแล้วชีวิตนางตั้งแต่เกิดมาอยากได้สิ่งใดก็ได้ดั่งใจตลอด มีแต่เรื่องความรักที่นางพยายามแค่ไหนก็ไม่เคยได้มันมา"ข้าไม่หย่า! อย่างไรข้าก็ไม่หย่า" "เจ้ามีเหตุผลใดจึงไม่ยอมหย่า""ข้ารักเจ้า ข้าอยากอยู่กับเจ้า อยากเห็นหน้าเจ้าในทุกๆวัน"เมื่อได้ยินคำตอบหนิงฮวาก็แสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย เหตุผลของเจ้ามันเหมือนกับว่า เจ้ามีข้าอยู่ในชีวิตมาโดยตลอด จึงไม่ชินหากวันหนึ่งต้องเสียข้าไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   บุรุษที่ดูคุ้นตา

    หนิงฮวาใช้ชีวิตอยู่ที่จวนสกุลไปอย่างสบายใจ นางรู้สึกคิดถึงเมื่อก่อนตอนที่นางยังใช้ชีวิตเป็นคุณหนูไป๋ นิ้วมือเรียวลูบไล้เสื้อผ้าอาภรณ์สมัยเก่าด้วยความคิดถึง ชุดนี้ท่านพ่อเป็นคนซื้อให้นาง และที่สำคัญ ท่านพ่อเป็นคนเลือกเองกับมือ มิได้ใช้บ่าวไพร่ที่ไหนไปซื้อเลย"ชุดสีชมพูนี้งดงามยิ่งนัก พ่อเห็นแล้วนึกถึงเจ้า จึงซื้อมาฝาก เจ้าลองใส่ดูสิ มันต้องเหมาะกับเจ้ามากแน่ๆ" คำพูดเหล่านั้นของท่านพ่อ นางยังจดจำได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่ชุดนั้น เป็นชุดแรกที่ท่านพ่อเลือกให้ นางจึงอยากเก็บไว้เสียมากกว่าการนำมาใส่"ชุดนี้งดงามมากเจ้าค่ะฮูหยิน" ซิงอีสาวใช้คนสนิทเอ่ยขึ้น ชุดนี้เป็นชุดเดียวที่ฮูหยินของนางมิได้นำไปด้วย ในคราที่ออกเรือน"ยามนี้เจ้าเรียกข้าว่าคุณหนูเช่นเดิมเถิด" หนิงฮวาเอ่ยขึ้น นางเอียนกับคำว่าฮูหยินเต็มทน ยามนี้นางอยู่ที่จวนสกุลไป๋ นางคือคุณหนูไป๋ของที่นี่"เจ้าค่ะคุณหนู ชุดนี้งดงามนักเจ้าค่ะ คุณหนูท่านไม่อยากเอามันออกมาใส่หรือเจ้าคะ" ซิงอีเป็นสาวใช้ที่รู้ใจหนิงฮวาเสมอ เจ้านายว่าอย่างไร นางก็ว่าตามนั้นการที่เจ้านายของนางบอกให้กลับมาเรียกว่าคุณหนูเช่นนี้ อาจมีความหมายเป็นนัยว่า ความสัมพัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   ข้าจะอยู่ในที่ๆเป็นของข้า

    ณ. จวนสกุลหยางหยางซีซวนกำลังตั้งหน้าตั้งตาจัดการเอกสารกองโตอยู่ที่โต๊ะ หลังจากจบจากสงครามก็มีทหารจำนวนมากที่บาดเจ็บจนไม่สามารถจับดาบได้อีก ไหนจะเรื่องครอบครัวของเหล่าทหารที่เสียชีวิตแม้สงครามจะจบไปเป็นปีแล้ว แต่ก็ยังมีงานมากมายที่เขาต้องทำและจัดการ ช่วงนี้เขาจึงไม่มีเวลาไปหาหนิงฮวาที่จวน "ปานนี้เจ้าจะทำอะไรอยู่นะ" หยางซีซวนได้แต่คิดอยู่ในใจ จวนนี้ที่ไร้นางมันช่างดูเงียบเหงา เขาต้องรีบทำเอกสารกองโตนี้ให้เสร็จ จะได้มีเวลาไปง้อเมีย!ในขณะที่หยางซีซวนกำลังทำงานอยู่นั้น จู่ๆก็มีชายชุดดำปรากฎตัวขึ้น"นายท่าน งานที่ท่านให้ข้าไปตามสืบได้เรื่องแล้วขอรับ" ชายชุดดำพูดขึ้น เขานั่งคุกเข่ารายงานผู้เป็นนายด้วยความเคารพ "ว่ามา" หยางซีซวนตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สายตายังคงจับจ้องไปยังกระดาษที่วางอยู่ตรงหน้า"ข้าน้อยได้ติดสินบนเฒ่าแก่เพื่อขอดูหนังสือซื้อขายและในวันนั้นที่ฮูหยินรองป่วยนั้น มีคนที่มีลักษณะคล้ายกับสาวใช้ของฮูหยินรองไปซื้อสมุนไพรที่ชื่อว่าตี้กู่ผีและว่านนารี และหลังจากนั้นไม่นานก็มีคนมาตามสืบเรื่องนี้เช่นกัน คาดว่าน่าจะเป็นซิงอีสาวใช้ของฮูหยินใหญ่ขอรับ หรือ สรุปแล้วก็คือสิ่งที่ฮูหยินให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-06

บทล่าสุด

  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   จบบริบูรณ์

    ขณะที่ดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นผืนผ้าใบที่มีเฉดสีอบอุ่นอย่างสีส้ม แดง และชมพู อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อย ๆ สายลมเอื่อย ๆ พัดผ่านต้นไม้ใบหญ้า เสียงนกร้องและจิ้งหรีดร้องแว่วมาแต่ไกลหนิงฮวานั่งจมอยู่ในห้วงความคิด จิตใจของนางล่องลอยไปยังที่แสนไกล ฉินอ๋องหายหน้าไปสามเดือนแล้ว จนป่านนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาเขาจากไปเลยโดยที่ไม่มีแม้แต่คำร่ำลา หนิงฮวาได้แต่คิดถึงเหตุการณ์วันนั้นอย่างไม่หยุดหย่อน หากนางไม่พูดเช่นนั้นออกไป ตอนนี้จะเป็นเช่นไร.. มันจะต่างจากตอนนี้หรือไม่อย่างน้อย นางก็ยังอยากมีเขาอยู่ในชีวิต แม้จะเป็นเพียงสหายกันก็ยังดี ป่านนี้ฉินอ๋องจะเป็นอย่างไรบ้าง จะคิดถึงนางบ้างหรือไม่ หรือตอนนี้เขาเปลี่ยนใจจากนางไปแล้ว หัวใจของนางปวดร้าวเมื่อนึกถึงหน้าของฉินอ๋อง ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขามีผลต่อความรู้สึกของนางเช่นนี้ "เขาคงไม่มาแล้วจริง ๆ" หนิงฮวาถอนหายใจและหลับตาลงช้า ๆ ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม นางรู้ว่านางต้องละทิ้งความรู้สึกที่มีต่อฉินอ๋องและเดินหน้าต่อไป พูดง่ายแต่ทำยากยิ่งนางจะสามารถตัดใจจากคนที่ดีกับนางมาตลอดได้อย่างไร เขาและนางมีความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน

  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   ไม่หวนคืน

    ณ จวนสกุลหยางสุริยันปรากฎจันทราลับ คิมหันต์เหมันต์ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน สองปีแล้วที่เจ้าจากไป หยางซีซวนนั่งเหม่อลอยอยู่ใต้ต้นเหมยที่เขาและหนิงฮวาเคยปลูกร่วมกันเมื่อวัยเยาว์ สายตาเศร้าหมองทอดมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย สีหน้านิ่งเฉยเสมือนคนที่ไร้ซึ้งความรู้สึก ราวกับว่ามันเป็นคำสาปจากนาง ซีซวนใช้ชีวิตต่อไปด้วยความรู้สึกผิด และความคะนึงหาราวกับร่างไร้วิญญาณหลิวลี่ถังที่เห็นเช่นนั้นก็ได้แต่ถอดถอนหายใจ ปีที่สองหลังจากหนิงฮวาจากไป หลิวลี่ถังก็ยังคงเป็นเพียงฮูหยินรองที่ทำหน้าที่ของฮูหยินเอก แม้ว่าหนิงฮวาจะจากไปแล้วก็ตาม ที่ตรงนั้นยังคงเป็นของนางเสมอมาหลิวลี่ถังคอยดูแลหยางซีซวนที่ตอนนี้กลายเป็นคนวิกลจริต เขาจำต้องพ้นสภาพของแม่ทัพเพราะไม่สามารถควบคุมสติหรืออารมณ์ได้ภาระหน้าที่ต่างๆภายในจวนจึงตกมาเป็นของนางแต่เพียงผู้เดียว หลังจากที่หยางซีซวนเริ่มเสียสติ บรรดาบ่าวไพร่ก็ต่างพากันหนีหายไป บ้างก็ขโมยทรัพย์สินของมีค่าไปขาย ไม่ว่าจะเป็นแจกันหรือถ้วยชาม ล้วนถูกขโมยไปทั้งสิ้นจวนสกุลหยางที่ไร้ซึ่งหยางซีซวนคอยปกครองบรรยากาศนั้นดูอึมครึมและเงียบเหงา ไร้ซึ่งเสียงของผู้คน หลิวลี่ถังอดทนดูแลเขามาเป

  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   ในใจข้ามีเจ้ามาโดยตลอด

    สองปีต่อมาดวงอาทิตย์ขึ้นอย่างช้าๆ ส่องแสงอันอบอุ่นเหนือโลกเบื้องล่าง ท้องฟ้าถูกแต่งแต้มด้วยเฉดสีชมพูและส้ม อากาศสดชื่นและอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของหญ้าที่เพิ่งตัดใหม่และดอกไม้ที่บานสะพรั่ง เป็นสัญญาณเริ่มต้นของวันใหม่หนิงฮวาตื่นมารดน้ำแปลงผักตั้งแต่เช้า นางปลูกผักมากมายหลายชนิด ส่วนหนึ่งก็เก็บไว้กินเอง และอีกส่วนหนึ่งก็นำไปขายในตลาดที่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน โดยส่วนใหญ่แล้วซิงอีเป็นคนนำผักและสมุนไพรที่เก็บได้ไปขาย อันที่จริงไม่ใช่ว่านางไม่มีสมบัติติดตัวเลย บิดาของนางมาหาเดือนละครั้ง และทุกครั้งที่มาก็มักจะนำเงินทองและสมบัติมากมายมาให้ รวมถึงเสื้อผ้าและเครื่องประดับซึ่งภายหลังนางก็ปฏิเสธไปบ้างเพราะในบ้านไม่ได้มีพื้นที่มากพอสำหรับสิ่งของฟุ่มเฟือยเช่นเครื่องประดับหรือเสื้อผ้าส่วนข้าวสารอาหารแห้งนับว่าเป็นสิ่งสำคัญหนิงฮวาก็จะรับไว้ด้วยความยินดี "เจ้าตื่นเช้าเสียจริง ข้าเคยบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ว่าในระหว่างที่ข้าอยู่ที่นี่ เจ้าไม่จำเป็นต้องทำงานเดี๋ยวข้าจะทำเอง" ฉินอ๋องเอ่ยขึ้นพลางเดินเข้ามาแย่งบัวรดน้ำออกไปจากมือหนิงฮวา "ข้าทำเองได้" หนิงฮวาพยายามที่จะแย่งบัวรดน้ำกลับมา แต่ก็ไม่เป็นผล ฉินอ๋องส

  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   ชีวิตใหม่

    สามเดือนก่อนสายลมเย็นพัดพาม่านหน้าต่างปลิวไสว ไป๋เฉิงที่นั่งเฝ้าร่างบุตรสาวที่ไม่ไหวติงมาหลายวัน รีบลุกขึ้นไปปิดหน้าต่างโดยพลัน อากาศหนาวเย็นเช่นนี้หากเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ มีหวังบุตรสาวของตนคงไม่หายป่วยเป็นแน่วันนี้เป็นวันที่ห้าแล้วที่หนิงฮวายังไม่ยอมฟื้นขึ้นมา นางนอนนิ่งเช่นนี้มาหลายวันแล้ว นับวันร่างกายนางยิ่งซูบผอม หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป นางคงไม่ฟื้นกลับขึ้นมาดังท่านหมอได้กล่าวไว้เป็นแน่"หากเจ้ายอมลืมตาตื่นขึ้นมา ไม่ว่าเจ้าปรารถนาสิ่งใด พ่อจะทำให้เจ้าทุกอย่าง.."ไป๋เฉิงได้แต่นั่งภาวนาขอให้หนิงฮวาฟื้นขึ้นมาอย่างปลอดภัยไม่นานนักร่างกายของหญิงสาวที่นอนนิ่งสนิทไม่ไหวติงมาหลายวันกลับมีความเคลื่อนไหวเล็กน้อย หนิงฮวาค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาจากนิทราอันยาวนาน "ฮวาเอ๋อร์ เจ้าฟื้นแล้ว!!" ไป๋เฉิงดีใจเสียจนนั่งไม่ติด เขาได้แต่ขอบคุณฟ้าดินที่เมตตาบุตรสาวของตน ขอบคุณจริงๆที่นางมีชีวิตอยู่"น้ำ.." หนิงฮวาพยายามเปล่งเสียงออกมาจากลำคอ เสียงของนางแหบแห้งเสียจนฟังไม่รู้ความ"น้ำ..น้ำหรอ เจ้าหิวน้ำใช่หรือไม่" ไป๋เฉิงตาลีตาลานหาเหยือกน้ำมารินใส่แก้วให้หนิงฮวาด้วยความดีใจ ในที่สุดการสวดภาวนาของเขาก็เป็

  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   ข้าผิดต่อเจ้า

    "ร้องไห้หรือ เจ้าอย่ามาบีบน้ำตาต่อหน้าข้า มันช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก นับแต่นี้ไป เจ้าอย่าได้คิดจะมาเคารพศพลูกสาวข้า อย่าคิดแม้แต่จะมาเยี่ยมหลุมศพของนาง อย่าแม้แต่จะมาร้องไห้ให้นาง เจ้ามันไม่คู่ควร!!"เมื่อพูดจบไป๋เฉิงก็เดินกลับเข้าไปในจวนโดยไม่หันหลังกลับมามองหยางซีซวนอีกเลย.."ข้าขอร้องท่าน ให้ข้าได้อยู่ในงานศพของนางเถิดข้าของร้องท่านจริงๆ" หยางซีซวนก้มหน้าลงหมอบกับพื้น แต่เสนาบดีไป๋ก็หาได้สนใจไม่ บัดนี้เขารู้ซึ้งแล้วจริงๆ ว่าชีวิตเขาขาดนางไม่ได้ ราวกับว่าหัวใจของเขาแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ชีวิตจากนี้ที่ไม่มีหนิงฮวาเขาจะอยู่ได้อย่างไร"ไม่นะ ไม่เอาแบบนี้ หนิงฮวาข้าขอโทษข้าผิดไปแล้ว อย่าทิ้งข้าไปนะ ข้าขอร้องอย่าทิ้งข้าไป ข้ายอมเจ้าแล้ว ข้ายอมเจ้าทุกอย่าง เพราะงั้นลืมตาขึ้นมาสิ เจ้าจะให้ข้าหย่ากับนางข้าก็ยอม หนิงฮวาข้าผิดไปแล้ว"หยางซีซวนร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าหัวใจของเขาถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ความเจ็บปวดนี้มากเกินกว่าที่เขาจะรับไหวหยางซีซวนกลับมายังจวนสกุลหยางของตนอย่างล่องลอย เขาสาวเท้าเดินตรงไปยังห้องนอนหนิงฮวาทันที เขาภาวนาให้เรื่องทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน เขาเปิดประตูห้องเข้า

  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   ตัดขาดซึ่งความสัมพันธ์

    ณ จวนสกุลไป๋"เปิดประตูจวนเดี๋ยวนี้!!" เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นจากหน้าประตู เสนาบดีไป๋เฉิงจึงรีบรุดไปดูทันทีว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้น เมื่อเขาวิ่งมาถึงหน้าจวนก็เห็นว่าฉินอ๋องอุ้มลูกสาวตนเข้ามาด้วยท่าทีที่รีบร้อน "นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ" เสนาบดีไป๋เอ่ยถามฉินอ๋องด้วยความร้อนใจ"ตามหมอให้ข้าก่อนเดี๋ยวค่อยคุยกัน ห้องนางอยู่ที่ใด!!" ฉินอ๋องแผดเสียงดังขึ้น ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาอธิบายสิ่งใดทั้งนั้น สิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือการห้ามเลือดให้นาง"ซิงอีเจ้ารีบไปตามหมอมารักษาลูกข้า!!" เมื่อพูดจบเขาก็วิ่งนำฉินอ๋องไปยังห้องของหนิงฮวา ฉินอ๋องเห็นเช่นนั้นแล้วจึงได้วิ่งตามบิดาของนางไป"เจ้าค่ะ" ซิงอีได้ยินผู้เป็นนายสั่งเยี่ยงนั้น นางจึงรีบวิ่งออกไปตามหมอมาทันที "ข้าขอผ้าสะอาดหน่อย เร็วเข้า!" ฉินอ๋องพูดขึ้นไป๋เฉิงเห็นโลหิตที่ไหลอาบอาภรณ์ของลูกสาว เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจยิ่งนัก ภาพชายชราที่วิ่งหาผ้ามาเพื่อห้ามเลือดให้ลูกสาวด้วยความรนรานและสั่นเทาช่างเป็นภาพที่เห็นแล้วหดหู่ยิ่งนัก เสนาบดีไป๋เฉิงยื่นผ้าสะอาดให้กับฉินอ๋องอย่างรวดเร็วฉินอ๋องดึงเศษอาภรณ์ที่ถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานออก ก่อนจะนำผ้าพื้นใหม่มา

  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   ฟางเส้นสุดท้าย

    "ท่านอ๋องช่วย..ช่วยคุณหนูของข้าด้วยเจ้าค่ะ!!""เจ้าตั้งสติก่อน เกิดอันใดขึ้น คุณหนูของเจ้าเป็นอะไร แล้วตอนนี้นางอยู่ที่ใด" ฉินอ๋องพยายามถามซิงอีอย่างใจเย็น"คุณหนูถูกลักพาตัวเจ้าค่ะ พวกมันบอกจะรอที่ถ้ำทางทิศตะวันตก" ซิงอีพูดด้วยความร้อนใจ ไม่รู้ป่านนี้คุณหนูของนางจะเป็นอย่างไรบ้าง พวกมันทำร้ายสตรีตัวเล็กๆ อย่างคุณหนูได้ลงคอ จิตใจมันโหดร้ายยิ่งนัก"ข้าเข้าใจแล้ว เรื่องนี้เจ้าอย่าเพิ่งรีบบอกใครเพราะมันอาจเกี่ยวกันชื่อเสียงของคุณหนูของเจ้า ข้าจะไปช่วยเอง" เมื่อพูดจบเขาก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดขึ้นไปบนหลังคาและหายไปกับความมืดทันทีหยางซีซวนตามมาช่วยหลิวลี่ถังได้ทันท่วงที ดีที่พวกมันยังไปได้ไม่ไกล เขาจึงสามารถตามมาทัน และจัดการพวกมันที่มากันสามคนต่อหนึ่งอย่างง่ายดายที่แท้ก็เป็นพวกซีอานจริง ๆ ที่จ้องจะเล่นงานเขา แสดงว่าพวกมันคงวางแผนมานานแล้ว ช่างเป็นการกระทำที่โง่เขลายิ่งนัก เมื่อตั้งสติได้เขาจึงนึกขึ้นมาได้ว่า ซิงอีสาวใช้ของหนิงฮวาก็บอกว่าคุณหนูของนางก็ถูกลักพาตัวเช่นกัน นั่นก็แสดงว่ามันคือเรื่องจริงหยางซีซวนจึงรีบมุ่งหน้าไปยังถ้ำทิศตะวันตกตามที่ซิงอีบอก ในใจได้แต่ภาวนาว่านางจะไม่เป็นอะไร ต

  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   เทศกาลเสวี่ยเทียน

    ทางด้านซีอานที่คอยตามสืบมาเป็นปีก็ได้เวลาลงมือเสียที พวกเขารอที่จะแก้แค้นหยางซีซวนมาเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม "เจ้าจะต้องได้พบกับความทุกข์ทรมานอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน" หนึ่งในชายชุดดำกล่าวขึ้นอย่างเคืองแค้นเหล่าชายชุดดำพากันกระจายตัวอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อเฝ้าคอยการเคลื่อนไหวของหยางซีซวนตามคำสั่งที่ได้รับ หากหยางซีซวนออกจากจวนยามใดให้เริ่มแผนการได้ทันทีเพราะหลังจากที่หยางซีซวนได้รับจดหมายขู่ในวันนั้น เขาก็ระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก แต่นั่นก็เป็นหนึ่งในแผนการ เมื่อเหยื่อเห็นว่าเป็นเพียงจดหมายขู่ ก็จะตายใจและประมาท เมื่อนั้นแหละหยางซีซวน เจ้าจะต้องเสียใจ!ยามโหย่วของวันต่อมา หนิงฮวาใส่ชุดจีนโบราณสีขาวปักด้วยสีทองลายดอกเหมย เครื่องประดับบนหัวเป็นเครื่องเงินประดับด้วยไข่มุก มีสายห้อยระย้าลงมาอย่างงดงาม กำลังยืนมองดอกเหมยอยู่หน้าเรือน ไม่นานนักหยางซีซวนก็เดินเข้ามาพร้อมกับหลิวลี่ถัง วันนี้หลิวลี่ถังก็แต่งกายงดงามเช่นกันเป็นฮันฝูสีชมพูอ่อนปักลายดอกบัวดูอ่อนช้อยงดงามหยางซีซวนยิ้มอย่างพอใจฮูหยินทั้งสองของเขางดงามยิ่งนัก เขานับว่าเป็นบุรุษที่โชคดีที่สุดในใต้หล้าเลยก็ว่าได้ ทั้งสามคนเดินมายังรถม้า

  • กลีบดอกเหมยที่ร่วงโรย   สิ้นสุดเทศกาลชมดอกไม้

    "เอ่อ..ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอบังอาจทูลถาม ท่านรู้จักฮูหยินของกระหม่อมด้วยหรือพ่ะย่ะค่ะ""นางเป็นสหายคนสนิทของข้าเชียวล่ะ"หยางซีซวนได้แต่กัดฟันกรอด หนิงฮวาไปสนิทสนมกับฉินอ๋องตั้งแต่เมื่อไหร่กัน อีกทั้งตอนนี้นางยังขอกลับไปอยู่ที่จวนสกุลไป๋ หรือนางจะใช้ช่วงเวลาที่อยู่ห่างจากเขา ไปสนิทสนมกับฉินอ๋อง..แม้ว่าหยางซีซวนจะรู้สึกหึงหวงหรือหงุดหงิดเพียงใด เขาก็ไม่สามารถแสดงอาการ หรือท่าที ที่บ่งบอกว่าไม่พอใจใส่ฉินอ๋องได้ ณ สถานที่จัดการแสดงศิลปะ ขณะนี้กำลังเป็นช่วงของการแต่งกลอน เขียนบทกวี และการกล่าวถึงสัจธรรม"วันนี้ ข้าขอเชิญผู้กล้าที่มีความสนใจในเรื่องบทกวี และบทกลอน ออกมากล่าวในสิ่งที่ท่านได้เรียนรู้หรือตระหนักได้ จากการชมดอกไม้ในปีนี้" เสียงนักกวีชื่อดังท่านหนี่งเอ่ยขึ้น พร้อมกวาดสายตามองไปยังผู้คนที่ล้อมรอบตัวเขาเพียงเวลาไม่นานนัก นักกวีผู้นี้ได้เอ่ยขึ้นท่ามกลางผู้คนอีกครั้งว่า"ข้าน้อยจำได้ดีว่าท่านผู้นี้คือฉินอ๋องผู้สง่างามแห่งลั่วหยาง หากไม่เป็นการเสียมารยาท ข้าน้อยขอเชิญท่านออกมากล่าวถึงสิ่งที่ท่านตระหนักได้ หลังจากร่วมงานชมดอกไม้ในปีนี้ได้หรือไม่พะย่ะค่ะ"เมื่อได้ยินเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status