บทที่ 12 ตอบแทน
หลังจากนั้นยูร์เหยาได้เอ่ยถามเรื่องราวระหว่างที่นางถูกจับโยนทิ้งหน้าผาเกิดอะไรขึ้นแล้วทำไมใบหน้าของนางถึงเปลี่ยนไป ยามนี้เจียวเหมยมั่นใจแล้วว่ายูร์เหยาสามารถเชื่อใจได้จึงเล่าทุกอย่างให้นางได้รับรู้จนหมดและแผนการที่นางกลับมาในครั้งนี้ ยูร์เหยานางจงรักภักดีจึงรับปากจะช่วยเหลือเจียวเหมยทุกอย่างไม่ว่านางจะทำอันใดนางจะอยู่ข้างกายแม้ตายก็ไม่กลัวเช่นกัน
เมื่อทั้งสองพูดคุยกันจนตะวันเริ่มคล้อยต่ำจวนจะถึงมื้ออาหารเย็นยูร์เหยาจึงแจ้งเรื่องที่เยว่เผิงออกไปตลาดวันนี้
“จริงสิ!วันนี้ข้าได้ยินสาวใช้นางอื่นเอ่ยกันว่าฮูหยินออกไปด้านนอกเพราะไปซื้อยาต้มบำรุงร่างกายให้ตนเองตั้งครรภ์ด้วยล่ะ”
“ฮื้ม! นางอยากตั้งครรภ์หรือ? ไม่ได้ข้าจะให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นไม่ได้ เจ้าช่วยไปหาปาโต๊ว เซียนหนิว เหยียนฮวา ซานหลิง ชนิดใดชนิดหนึ่งมาให้ข้าทีเอาที่ตากแห้งไว้แล้ว ข้าจะนำมาบดให้ละเอียดและช่วยนำไปสลับเปลี่ยนกับยาที่นางต้มดื่ม” เจียวเหมยจำได้ดีคำพูดของไป๋ฉีที่บอกนางเกี่ยวกับยาสมุนไพร และยาพิษบางตัวอาจจะใช้รักษาร่างกายได้แต่ถ้ามากเกินไปอาจจะเป็นพิษต่อร่างกาย โชคดีอีกอย่างคือหญ้าสมุนไพรนี้เสมือนหญ้าตัวเดียวกับที่เยว่เผิงนำมาต้มดื่ม หากไม่มีความรู้มิอาจจะรู้ได้ว่ามิใช่หญ้าสมุนไพรตัวเดียวกัน นางกระซิบข้างหูของยูร์เหยาเมื่อนางได้ยินก็พยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินออกไปหาหญ้าตามที่เจียวเหมยสั่ง
“ข้าคิดว่าข้าจะเข้าหาหยางตงฉวนอย่างช้า ๆ แต่ดูท่าเยว่เผิงคงคิดเช่นเดียวกันว่าข้าจะต้องเข้ามาเป็นอนุของหยางตงฉวนแน่ ๆ นางถึงอยากตั้งครรภ์เพื่อมัดใจและให้บุตรของนางมารับตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูล ฮึ! ข้าไม่มีทางยอมให้แผนของเจ้าสำเร็จหรอก คืนนี้ข้าจะต้องไม่ให้เจ้ากับหยางตงฉวนได้อยู่ด้วยกัน” ดวงตาดำควับแสยะยิ้ม ก่อนจะเดินไปที่ห้องอาบน้ำเตรียมแช่น้ำล้างกายโรยดอกไม้นานนาชนิดที่ส่งกลิ่นหอมให้แก่ร่างกาย ก่อนจะลงไปแช่นางพลางครุ่นคิดเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
ยามโหย่ว (18.00)
หลังจากที่ยูร์เหยากลับมานางแจ้งเรื่องหญ้าที่เจียวเหมยให้หามายามนี้ถูกส่งไปยังห้องครัวแล้ว และได้ยินจากสาวใช้ของเยว่เผิงว่าคืนนี้นางจะไปตามท่านใต้เท้าให้มาหาฮูหยินที่ห้องของนาง เมื่อเจียวเหมยได้ยินจึงได้เอ่ยถาม
"ยามนี้หยางตงฉวนอยู่ที่ใด"
"ยามนี้นายท่านยังอยู่ที่ห้องอ่านตำราเจ้าค่ะ "
"ข้าจะไปที่นั่นก่อนที่ซูหยวนจะไปที่นั่นวันนี้เจ้าทำดีมากไปพักผ่อนเถิดต่อจากนี้เป็นหน้าที่ของข้า "
"เจ้าค่ะ " เอ่ยจบเจียวเหมยลุกขึ้นเดินตรงไปที่ห้องอ่านตำราทันที
ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นหยางตงฉวนเงยหน้าขึ้นจากตำรา เหลียวมองไปยังประตู
"คงเป็นเยว่เผิงสินะ! ข้ามัวแต่อ่านตำราทำงานที่ฝ่าบาทมอบหมายมาจนลืมไปกินอาหารเย็นกับนาง " เขาปิดหนังสือลงเดินไปหน้าประตูเพื่อเปิดประตูให้แก่ผู้ที่มาเยือนเพราะยามที่เขาทำงานมักจะไม่ให้ผู้อื่นมารบกวนมักจะลงกลอนประตูไว้เสมอ
ครั้นประตูเปิดออกกลับมิใช่เยว่เผิงแต่เป็นใบหน้าหวานหยดย้อยยิ้มระเรื่อของเจียวเหมยต่างหาก
"เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือว่าให้พักอยู่แต่ที่ห้องไม่ให้ออกไปทางใดจนกว่าเท้าเจ้าจะหาย"
"ท่านใต้เท้าข้าไม่เจ็บสักนิด ข้ามาหาท่านที่นี่เพราะข้าคิดถึงท่าน คิดถึงเรื่องตอบแทนบุญคุณจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ " เจียวเหมยใช้นิ้วชี้จิ้มเข้าไปที่อกแกร่งค่อย ๆ ไล่ลงต่ำไปเรื่อย ๆ เขาเห็นสีหน้าท่าทางรู้ได้ในทันทีว่านางมาหาเขาครั้งนี้ด้วยเจตนาใด หยางตงฉวนเฝ้ารอเวลานี้มานานอีกอย่างนางเป็นผู้เข้าหาเขาเองมิใช่เขาที่ข่มขู่หรือขืนใจ คนมักมากในกามอย่างเขาหรือจะทนไว้ที่ถูกสตรีงดงามยั่วยวนเขารีบดึงร่างกายของนางเข้ามาด้านในก่อนจะลงกลอนประตูอย่างแน่นหนาอีกครั้ง พลางดึงร่างบางเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนมิให้นางได้ดิ้นหนี
"อุ้ย! ทำไมท่านใต้เท้าถึงได้โอบกอดข้าแน่นอย่างนี้เจ้าคะ"
"ข้ากลัวว่าเจ้าจะหนีข้านะสิ เจ้าเข้ามาหาข้าอย่างนี้คงไม่กลัวหรอกใช่มั้ย? ดูท่าเจตนาของเจ้าคงเป็นอย่างที่ข้าคิดสินะ" เจียวเหมยยิ้มหวานใช้นิ้วมือแตะที่ริมฝีปากของเขายอย่างเบามือค่อย ๆ ลูบไล้ไปมาพร้อมจ้องมองด้วยสายตายั่วเย้า
"ใช่แล้วเจ้าค่ะ ข้ามิกลัวและจะไม่หนีท่านไปทางใดแน่นอนคืนนี้ข้าตั้งใจมาตอบแทนท่านช่วยเมตตาข้าด้วยนะเจ้าคะ" หยางตงฉวนอารมณ์พลุ่งพล่านเมื่อได้ยินเสียงแผ่วเบานิ้วมือที่แตะอยู่ที่ริมฝีปากของเขา
"ได้สิข้าจะทะนุถนอมเจ้าเป็นอย่างดี" มือข้างซ้ายของเขากอดรัดเอวของนางแน่นขึ้นมากกว่าเดิมก่อนจะใช้มือข้างขวาจับท้ายทอยของนางไม่ให้ดิ้นหนีค่อย ๆ ก้มมาจุมพิตอย่างดูดดื่มสัมผัสปลายลิ้นตวัดชิมรสหวานหอมหวานของนางจนทำให้นางแทบขาดใจไม่คิดว่ารสสวาทของหยางตงฉวนจะรุนแรงเช่นนี้ จนนางต้องใช้มือผลักกายของเขาออกก่อนที่นางจะหายใจไม่ออก
“แฮ่ก ๆ ไหนท่านใต้เท้าบอกว่าจะทะนุถนอมข้าอย่างไรเจ้าคะเพียงแค่จูบของท่านทำให้ร่างกายของข้าร้อนรุ่มยิ่งกว่าถูกเปลวไฟเผาไหม้เสียอีก”
“ไม่รู้สิเพราะเจ้าเย้ายวนข้าเสียจนตั้งสติควบคุมตนเองไม่ได้ เจียวเหมยข้าทนไม่ไหวแล้ววันนี้ข้าจะมอบความสุขความหอมหวานและเปลวเพลิงของแท้ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นต่อจากนี้” พูดจบเขาประกบจูบนางอย่างเร้าร้อนรุนแรงร่างบางไร้เรี่ยวแรงอ่อนระทวยมือของเขาไม่อยู่นิ่ง ค่อย ๆ คืบคลานปลดอาภรณ์ของนางออก ใช้มือลูบไล้ตั้งแต่บ่าไหล่ลงต่ำไปเรื่อย ๆ จนถึงเนินเขาที่งดงามภายใต้เสื้อตู้โต้ว ร่างกายของทั้งสองเริ่มร้อนระอุจากไฟราคะที่กำลังก่อตัว
ภายในห้องมีเพียงเสียงหอบเหนื่อยกระเส่าเสียงครวญครางออกมาจากลำคอของนาง เขาถอดถอนริมฝีปากเมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มหายใจติดขัดอีกครั้ง
“แฮ่ก แฮ่ก”
“เจ้างดงามเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหรือแม้แต่ร่างกายผิวพรรณของเจ้าช่างแตกต่างจากสาวใช้ในเรือนด้วยซ้ำหากข้าไม่รู้คิดว่าเจ้าเป็นบุตรสาวของขุนนางเสียอีก” แม้ปากจะเอ่ยแต่ทว่ามือของกำลังถอดเสื้อตู้โต้วของนางอย่างช่ำชอง
“ท่านใต้เท้าเอ่ยชมข้าเกินไปแล้วเจ้าค่ะ” เจียวเหมยใบหน้าแดงระเรื่อสองมือยกขึ้นโอบกอดคอของเขาส่งยิ้มอย่างเขินอาย
“ข้าเอ่ยมาล้วนเป็นความจริง วันนี้ข้าขอเชยชมเจ้าให้หนำใจ” เอ่ยจบอุ้มเจียวเหมยไปยังเตียงนอนที่อยู่ในห้องอ่านตำรา และพานางเสพสุขอย่างที่ใจหวัง
บทที่ 13 ต่อจากนี้เจ้าคือฮูหยินรองของข้าอีกด้านของเรือนเยว่เผิงอาบน้ำล้างกายจนเสร็จรีบสั่งการให้ซูหยวนไปตามหยางตงฉวนมาที่ห้องของนาง"นี่ซูหยวนเจ้าไปตามท่านพี่มาพบข้าสิ ข้าจะรอท่านพี่ที่ห้องแต่ทว่าก่อนเจ้าไปช่วยจุดธูปหอมให้ข้าด้วยท่านพี่เหนื่อยงานมาจะได้ผ่อนคลาย""ได้เจ้าค่ะฮูหยิน " ซูหยวนจัดการจุดธูปหอมก่อนจะเดินไปตามท่านใต้เท้าที่ห้องของเขาแต่ทว่าเมื่อมาถึงที่ห้องกลับพบว่าท่านใต้เท้าไม่อยู่ นางจึงเดินไปดูที่ห้องอ่านตำราเห็นเทียนในห้องยังสว่างจึงเดินเข้าไปตามก๊อก ๆ !!"ท่านใต้เท้าเจ้าคะฮูหยินให้ข้ามาตามเจ้าค่ะ" นางเคาะประตูพลางตะโกนบอกหยางตงฉวนแต่ทว่าในห้องกลับไร้เสียงตอบกลับ นางอดสงสัยไม่ได้ปกติหากที่นี่เทียนยังสว่างอยู่ท่านใต้เท้าต้องอยู่ที่นี่สิ นางจึงใช้หูแนบที่ประตูได้ยินเสียงร้องครางออกมาอย่างไม่เป็นจังหวะ"อ๊าาา อะ อ๊าาา ท่านใต้เท้ากระแทกแล้วไปแล้วเจ้าค่ะ ข้าจุก จุกท้องน้อยจนแทบไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ ""อื้ม ... ซี๊ด ... เจียวเหมยร่างกายของเจ้าช่างยั่วยวนข้านัก จนข้ามิอาจจะหักห้ามใจให้ทะนุถนอมเจ้าได้ยิ่งน้ำเสียงครางของเจ้ายิ่งทำให้ข้าฮึกเหิมมากกว่าเดิม อ๊าาาา ...." ทันทีที่ซูหยวน
บทที่ 14 ค่าตัวของข้า“ฮูหยินเจ้าคะ เมื่อครู่ข้าเดินมาจากโรงครัวเห็นท่านใต้เท้าอุ้มสตรีนางนั้นมาที่ห้องแถมยังสวมใส่อาภรณ์หลุดลุ้ยอีกต่างหากเจ้าค่ะ” เยว่เผิงนางนั่งดื่มยาสมุนไพรที่ซูหยวนนำมาให้พลางครุ่นคิด นางวางชามยาลงอย่างช้า ๆ“อย่างนั้นหรือ? ท่านพี่คงหลงใหลในตัวนางชั่วคราวอีกไม่นานก็เบื่อไปเอง ดีกว่าท่านพี่ออกไปหอคณิกา ขนาดหนิงเซียนท่านพี่ยังเบื่อที่นางจืดชืด ดูจากใบหน้าของเจียวเหมยนางคงไม่มีดีอันใดให้ท่านพี่หลงใหลนานนักหรอก ยิ่งถ้าหากข้าตั้งครรภ์ให้ท่านพี่ในเร็ววัน ท่านพี่คงได้หลงลืมนางและขับไล่นางออกจากเรือนไปเอง“แต่ว่าสายตาของท่านใต้เท้าที่มองนางมิใช่อย่างที่ข้าเคยเห็นเลยนะเจ้าคะ”“ซูหยวนเจ้ามิต้องเป็นกังวลไป เพราะอย่างไรคนที่เคียงข้างท่านพี่เสมอมาคือข้าและข้าก็เป็นคนที่กำความลับของท่านพี่ไว้มากมาย หากเมื่อไหร่ที่ท่านพี่ไม่สนใจข้าเรื่องที่ท่านพี่ทำทั้งหมดข้าจะเปิดโปงเอง” เยว่เผิงแสยะยิ้มเพราะไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดที่เหมาะสมกับหยางตงฉวนเท่านางอีกแล้วฝั่งด้านเจียวเหมยหลังจากที่นางถูกหยางตงฉวนอุ้มมาส่งที่ห้อง เขาให้นางพักผ่อนพร้อมกำชับกับยูร์เหยาให้ดูแลนางให้ดี เมื่อเขาออกไปเ
บทที่ 15 นางต้องอับอายเจียวเหมยนางไม่ได้เดินกลับเรือนแต่อย่างไร นางชักชวนให้ยูร์เหยาเดินตามนางมาเงียบ ๆ สองเท้าของนางเดินไปยังห้องของท่านพ่อที่เคยอยู่ แต่ก่อนที่แห่งนี้บ่าวรับใช้มักจะเดินกันไปทั่วแต่ทว่ายามนี้กลับเงียบเหงามีเพียงสาวใช้ที่คอยมาทำความสะอาดเป็นครั้งคราว'ท่านพ่อต่อจากนี้ท่านไม่ต้องเป็นห่วงอันใด ข้าหนิงเซียนได้กลับมาแล้วข้าจะจัดการผู้ที่กระทำต่อตะกูลของเรา บรรพบุรุษตระกูลจางต้องได้นอนตายตาหลับ ข้าหวังว่าท่านพ่อจะคอยดูแลข้ายามที่พบเจอเรื่องที่ยากลำบากให้ข้าแก้แค้นทั้งสองคนที่ชั่วช้าด้วยเถิดเจ้าค่ะ ' เจียวเหมยจ้องมองไปยังห้องของท่านพ่อแต่นางไม่ได้ก้าวเท้าเข้าไปด้านในเกรงว่าจะถูกสาวใช้ในเรือนพบเห็นเอาได้ นางทำได้เพียงเอ่ยในใจบอกแก่ท่านพ่อของนางให้สบายใจ นางจะแก้แค้นคนที่ทำร้ายท่านพ่อผู้มีเมตตาจนถึงแก่ความตายนางจะหยิบยื่นความตายเช่นเดียวกับท่านพ่อให้แก่หยางตงฉวนเองสองวันต่อมาเรือนตระกูลจางจัดงานแต่งตั้งฮูหยินรองให้แก่หยางตงฉวนมีใต้เท้ามากมายมาร่วมแสดงความยินดี ยามที่เจียวเหมยยืนต่อหน้าทุกสายตาต่างพากันเอ่ยชมไม่ขาดปากและอวยพรให้หยางตงฉวนกับนางมีบุตรในเร็ววัน เยว่เผิงนางยืนห
บทที่ 16 เลิกเสแสร้งเสียทีเมื่อเจียวเหมยเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จนางได้กลับไปที่งานเลี้ยงเช่นเดิม นางจ้องมองเห็นเยว่เผิงนั่งใบหน้าบูดบึ้งไร้ซึ่งอารมณ์ ใบหน้าของเจียวเหมยแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะเหลียวมองหาหยางตงฉวนเห็นว่าเขากำลังพูดคุยอยู่กับเหล่าใต้เท้านางจึงเดินตรงไปหาเยว่เผิง ยามนี้ทุกคนต่างพากันดื่มสุราอย่างสนุกสนานเสียงเพลงบรรเลงครึกครื้น สองเท้าของนางเดินเข้าไปใกล้พลางนั่งลงเก้าอี้ตัวข้าง ๆ เยว่เผิง"ฮูหยินใหญ่ทำไมถึงมีสีหน้าอย่างนั้นเจ้าคะหรือว่าไม่สบายตรงใดหรือไม่? ให้ข้าพาท่านไปส่งที่ห้องดีมั้ยดูสิสีหน้าของท่านไม่ดีเอาเสียเลย" เจียวเหมยขยับกายกระซิบข้างหูของเยว่เผิงทำให้นางสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันมาตอบกลับนางด้วยความโมโหเพราะนางทำให้ซูหยวนต้องรับโทษ"เลิกเสแสร้งแกล้งเป็นคนดีเสียที เรื่องทั้งหมดเป็นแผนของเจ้าใช่หรือไม่ เจ้าต้องการหักหน้าข้าทำให้ข้าอับอายแถมยังโดนท่านพี่ตำหนิต่อหน้าขุนนางอีก เจ้ามันชั่วช้าอย่างกำพืดของเจ้าจริง ๆ" เจียวเหมยได้ยินถึงกับหัวเราะออกมา นางมองดูดีแล้วว่ายามนี้ทุกคนมิได้สนใจพวกนางเลยต่างพากันกินอย่างเอร็ดอร่อยกับอาหารที่ทางเรือนจัดเตรียมไว้ให้กินในงานฉลองให้
บทที่ 17 ข้าจะอยู่กับท่านไปจนวันตายยูร์เหยาเดินมาส่งเจียวเหมยที่ห้องนอนของหยางตงฉวน ยามนี้เจียวเหมยเห็นว่าถึงเวลาที่นางจะต้องค้นหาหนังสือที่นางเคยยกมอบให้แก่เขาหนังสือสัญญาลงนามเกี่ยวกับสมบัติบ้านเรือนทั้งหมด"ยูร์เหยาเจ้าไปนำสุรามาให้ข้าหน่อย คืนนี้ข้าจะต้องหาหนังสือให้เจอข้าจะมอมสุราหยางตงฉวน”“เจ้าค่ะอย่างไรคุณหนูต้องระมัดระวังตนให้ดีนะเจ้าคะ แม้ว่าท่านใต้เท้าหยางตงฉวนจะเมาสุราแต่ท่านจะต้องให้แน่ชัดแล้วค่อยหานะเจ้าคะ ข้าเป็นห่วงคุณหนูเหลือเกิน” สีหน้าของยูร์เหยาเผยความกังวลเต็มดวงหน้า นางยิ้มกริ่มก่อนจะใช้มือแตะลงที่บ่าของยูร์เหยา“เจ้ามิต้องเป็นกังวล ข้ากลับมาในครั้งนี้ข้าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายข้าได้ง่าย ๆ หากข้ากลัวข้าคงไม่กลับมาเจ้าทำใจให้สบายเถิดรีบไปนำสุรามา เมื่อหยางตงฉวนมาที่ห้องเจ้าค่อยกลับไปพักผ่อน” ยูร์เหยาถอนหายใจเอื่อย ๆ ก่อนจะพยักหน้าน้อมรับคำสั่งของเจียวเหมยไปเอาสุรามาให้นางทันทีเจียวเหมยเดินเข้าไปในห้องเดินเข้าไปจุดเทียนให้ความสว่าง ห้องนี้เป็นห้องเดิมที่เขาเคยอาศัยอยู่และนางเองก็เคยมาที่นี่บ่อย ๆ และห้องนี้ก็เป็นห้องที่ทำให้นางได้รู้ความจริงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหม
บทที่ 18 ย้ายที่นอนรุ่งสางวันต่อมาเจียวเหมยแสร้งถอดอาภรณ์ของตนเองเสมือนว่าเมื่อคืนนี้นางกับเขาได้มีค่ำคืนที่เร่าร้อนด้วยกันนอนกอดเขาแนบแน่นอยู่บนเตียงร่างใหญ่ตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือเห็นสตรีร่างบางนอนหลับสนิทเขายิ้มกริ่มขึ้นมาก่อนที่จะขยับกายจูบที่หน้าผากของนางอย่างแผ่วเบา นางทำให้เขามีความสุขมากกว่าเยว่เผิงเสียอีก“อื้อ ...ท่านพี่ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” ร่างเล็กขยับกายเล็กน้อยเมื่อถูกอีกฝ่ายสัมผัส“ข้าทำเจ้าตื่นอย่างนั้นหรือ? ข้าตื่นเมื่อครู่นี่เองเจ้านอนต่อเถิด เมื่อคืนนี้ข้าคงทำให้เจ้าไม่ได้หลับเลยใช่มั้ย ดูจากสภาพห้องแล้วข้าคงจะรุนแรงกับเจ้าสินะร่างกายของเจ้าคงระบมไปหมด” เขาเอ่ยพลางกวาดตาจ้องมองรอบ ๆ ห้องของตน“มิใช่เจ้าค่ะ เมื่อคืนนี้ท่านพี่ทำให้ข้ามีความสุขถึงใจสุด ๆ เลยเจ้าค่ะไม่คิดเลยว่าท่านพี่จะมีพละกำลังมากมายถึงขนาดนี้ อย่างนั้นคืนนี้ท่านพี่คงไม่ให้ข้ามาหาที่นี่สินะเจ้าคะ ข้าชักชอบห้องของท่านพี่มากกว่าห้องที่ข้าอยู่ด้วยซ้ำ ข้าได้ยินมาจากสาวใช้ว่าห้องนั้นเป็นห้องของฮูหยินคนแรกของท่านที่ตายด้วยโรคติดต่อท่านให้ข้าย้ายมาอยู่ที่ห้องของท่านด้วยมิได้หรือเจ้าค่ะ ข้ากลัวว่าข้าจะติดโ
บทที่ 19 ฝากเอาไว้ก่อนใบหน้าของเยว่เผิงร้อนผ่าวชาจนแทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด เริ่มแดงขึ้นเป็นเริ้ว ๆ ตามรอยนิ้วมือของเจียวเหมย นางจับที่ใบหน้าของตนเองก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเสียสติ“ฮ่า ฮ่า นี่เจ้าบังอาจตบหน้าข้าอย่างนั้นหรือ?” ซูหยวนตกใจเบิกตาโพลงโตไม่คิดว่าเจียวเหมยจะกล้าลงมือทำกับฮูหยินถึงขนาดนี้ นางรีบเดินเข้าไปประคองถามอาการทันที“ฮูหยินเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ นี่เจ้ากล้าดียังไงเอามือสกปรกของเจ้ามาแตะต้องใบหน้าของฮูหยินเรื่องนี้จะต้องถึงหูท่านใต้เท้า คอยดูว่าผู้ใดกันแน่จะถูกท่านใต้เท้าตำหนิ”“ฮึ ฮึ ข้าบอกแล้วมิใช่หรือว่าให้ปล่อยข้า แต่พวกท่านยังไม่เชื่อคำพูดของข้าและหวังจะทำร้ายข้าแท้ ๆ หากข้ายอมอ่อนข้อคงโดนพวกท่านทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ แต่ทำไมข้าจะปกป้องตนเองไม่ได้เอาสิดีเช่นกันแจ้งท่านใต้เท้าเลยว่าข้าทำร้ายร่างกายฮูหยินใหญ่ข้าเองมิได้เกรงกลัว” เจียวเหมยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม จ้องมองทั้งสองด้วยสายตาไร้ความเกรงกลัวเยว่เผิงจ้องมองเข้าไปในดวงตาของนางจู่ ๆ นางกลับเห็นสายตาดดุดันคลายสายตาที่นางคุ้นเคยเหมือนนางถูกหนิงเซียนจ้องมองนางสะดุ้งตกใจใบหน้าซีดเผือกรีบชักชวนให้ซูหยวนพาตน
บทที่ 20 ทำไมไม่เชื่อข้าสักนิดฝั่งด้านเยว่เผิงนางกลับมาที่ห้องของตนเองได้ระเบิดอารมณ์ที่เก็บกดเอาไว้เมื่อครู่“กรี๊ด!!! ทำไมทำไมข้ามิอาจจะทำอะไรนางได้ ไม่คิดเลยว่านางจะกล้ามากถึงเพียงนี้”“ฮูหยินเจ้าคะหากนางเป็นเพียงสาวเร่ร่อนไม่มีญาติพี่น้องอย่างนั้นไม่กำจัดง่ายหรือเจ้าคะ ข้าได้ยินมาว่าอีกสามวันท่านใต้เท้าจะไปพักที่วังหลวงเพราะมีพระราชโองการจัดพิธีการเฉลิมฉลองให้แก่องค์รัชทายาทเหล่าใต้เท้ามากมายต้องไปช่วยเหลือไม่ให้งานออกมาขาดตกบกพร่อง แถมท่านใต้เท้ายังได้รับหน้าที่ดูแลพิธีการอีก เราใช้ช่วงเวลานี้จัดการนางไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะหากเก็บนางเอาไว้นางจะคอยทิ่มแทงใจฮูหยินตลอดเช่นนี้” ซูหยวนคิดแผนของตนเองเมื่อเห็นว่าฮูหยินมิอาจจะต่อกรกับเจียวเหมยได้ เยว่เผิงยืนนิ่งคิดตามคำพูดของสาวใช้รอยยิ้มชั่วร้ายได้ปรากฏขึ้น“นั่นสินะทำไมข้าคิดไม่ถึงกันวันที่ท่านพี่ออกเดินทางไปวังหลวงเจ้าช่วยไปหานักฆ่ารับจ้างมาจัดการให้ข้าที ส่วนเรื่องที่นางหายตัวไปข้าคิดเอาไว้แล้วจะทำอย่างไร ข้าจะบอกท่านพี่ว่าคนรักของนางมาตามตัวนางกลับเรือน ที่ผ่านมานางเพียงหลอกลวงท่านพี่เท่านั้น”“ได้เลยเจ้าค่ะเช่นนั้นข้าน้อยขอตัวไปหาคนม
บทที่ 20 ทำไมไม่เชื่อข้าสักนิดฝั่งด้านเยว่เผิงนางกลับมาที่ห้องของตนเองได้ระเบิดอารมณ์ที่เก็บกดเอาไว้เมื่อครู่“กรี๊ด!!! ทำไมทำไมข้ามิอาจจะทำอะไรนางได้ ไม่คิดเลยว่านางจะกล้ามากถึงเพียงนี้”“ฮูหยินเจ้าคะหากนางเป็นเพียงสาวเร่ร่อนไม่มีญาติพี่น้องอย่างนั้นไม่กำจัดง่ายหรือเจ้าคะ ข้าได้ยินมาว่าอีกสามวันท่านใต้เท้าจะไปพักที่วังหลวงเพราะมีพระราชโองการจัดพิธีการเฉลิมฉลองให้แก่องค์รัชทายาทเหล่าใต้เท้ามากมายต้องไปช่วยเหลือไม่ให้งานออกมาขาดตกบกพร่อง แถมท่านใต้เท้ายังได้รับหน้าที่ดูแลพิธีการอีก เราใช้ช่วงเวลานี้จัดการนางไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะหากเก็บนางเอาไว้นางจะคอยทิ่มแทงใจฮูหยินตลอดเช่นนี้” ซูหยวนคิดแผนของตนเองเมื่อเห็นว่าฮูหยินมิอาจจะต่อกรกับเจียวเหมยได้ เยว่เผิงยืนนิ่งคิดตามคำพูดของสาวใช้รอยยิ้มชั่วร้ายได้ปรากฏขึ้น“นั่นสินะทำไมข้าคิดไม่ถึงกันวันที่ท่านพี่ออกเดินทางไปวังหลวงเจ้าช่วยไปหานักฆ่ารับจ้างมาจัดการให้ข้าที ส่วนเรื่องที่นางหายตัวไปข้าคิดเอาไว้แล้วจะทำอย่างไร ข้าจะบอกท่านพี่ว่าคนรักของนางมาตามตัวนางกลับเรือน ที่ผ่านมานางเพียงหลอกลวงท่านพี่เท่านั้น”“ได้เลยเจ้าค่ะเช่นนั้นข้าน้อยขอตัวไปหาคนม
บทที่ 19 ฝากเอาไว้ก่อนใบหน้าของเยว่เผิงร้อนผ่าวชาจนแทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด เริ่มแดงขึ้นเป็นเริ้ว ๆ ตามรอยนิ้วมือของเจียวเหมย นางจับที่ใบหน้าของตนเองก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเสียสติ“ฮ่า ฮ่า นี่เจ้าบังอาจตบหน้าข้าอย่างนั้นหรือ?” ซูหยวนตกใจเบิกตาโพลงโตไม่คิดว่าเจียวเหมยจะกล้าลงมือทำกับฮูหยินถึงขนาดนี้ นางรีบเดินเข้าไปประคองถามอาการทันที“ฮูหยินเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ นี่เจ้ากล้าดียังไงเอามือสกปรกของเจ้ามาแตะต้องใบหน้าของฮูหยินเรื่องนี้จะต้องถึงหูท่านใต้เท้า คอยดูว่าผู้ใดกันแน่จะถูกท่านใต้เท้าตำหนิ”“ฮึ ฮึ ข้าบอกแล้วมิใช่หรือว่าให้ปล่อยข้า แต่พวกท่านยังไม่เชื่อคำพูดของข้าและหวังจะทำร้ายข้าแท้ ๆ หากข้ายอมอ่อนข้อคงโดนพวกท่านทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ แต่ทำไมข้าจะปกป้องตนเองไม่ได้เอาสิดีเช่นกันแจ้งท่านใต้เท้าเลยว่าข้าทำร้ายร่างกายฮูหยินใหญ่ข้าเองมิได้เกรงกลัว” เจียวเหมยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม จ้องมองทั้งสองด้วยสายตาไร้ความเกรงกลัวเยว่เผิงจ้องมองเข้าไปในดวงตาของนางจู่ ๆ นางกลับเห็นสายตาดดุดันคลายสายตาที่นางคุ้นเคยเหมือนนางถูกหนิงเซียนจ้องมองนางสะดุ้งตกใจใบหน้าซีดเผือกรีบชักชวนให้ซูหยวนพาตน
บทที่ 18 ย้ายที่นอนรุ่งสางวันต่อมาเจียวเหมยแสร้งถอดอาภรณ์ของตนเองเสมือนว่าเมื่อคืนนี้นางกับเขาได้มีค่ำคืนที่เร่าร้อนด้วยกันนอนกอดเขาแนบแน่นอยู่บนเตียงร่างใหญ่ตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือเห็นสตรีร่างบางนอนหลับสนิทเขายิ้มกริ่มขึ้นมาก่อนที่จะขยับกายจูบที่หน้าผากของนางอย่างแผ่วเบา นางทำให้เขามีความสุขมากกว่าเยว่เผิงเสียอีก“อื้อ ...ท่านพี่ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” ร่างเล็กขยับกายเล็กน้อยเมื่อถูกอีกฝ่ายสัมผัส“ข้าทำเจ้าตื่นอย่างนั้นหรือ? ข้าตื่นเมื่อครู่นี่เองเจ้านอนต่อเถิด เมื่อคืนนี้ข้าคงทำให้เจ้าไม่ได้หลับเลยใช่มั้ย ดูจากสภาพห้องแล้วข้าคงจะรุนแรงกับเจ้าสินะร่างกายของเจ้าคงระบมไปหมด” เขาเอ่ยพลางกวาดตาจ้องมองรอบ ๆ ห้องของตน“มิใช่เจ้าค่ะ เมื่อคืนนี้ท่านพี่ทำให้ข้ามีความสุขถึงใจสุด ๆ เลยเจ้าค่ะไม่คิดเลยว่าท่านพี่จะมีพละกำลังมากมายถึงขนาดนี้ อย่างนั้นคืนนี้ท่านพี่คงไม่ให้ข้ามาหาที่นี่สินะเจ้าคะ ข้าชักชอบห้องของท่านพี่มากกว่าห้องที่ข้าอยู่ด้วยซ้ำ ข้าได้ยินมาจากสาวใช้ว่าห้องนั้นเป็นห้องของฮูหยินคนแรกของท่านที่ตายด้วยโรคติดต่อท่านให้ข้าย้ายมาอยู่ที่ห้องของท่านด้วยมิได้หรือเจ้าค่ะ ข้ากลัวว่าข้าจะติดโ
บทที่ 17 ข้าจะอยู่กับท่านไปจนวันตายยูร์เหยาเดินมาส่งเจียวเหมยที่ห้องนอนของหยางตงฉวน ยามนี้เจียวเหมยเห็นว่าถึงเวลาที่นางจะต้องค้นหาหนังสือที่นางเคยยกมอบให้แก่เขาหนังสือสัญญาลงนามเกี่ยวกับสมบัติบ้านเรือนทั้งหมด"ยูร์เหยาเจ้าไปนำสุรามาให้ข้าหน่อย คืนนี้ข้าจะต้องหาหนังสือให้เจอข้าจะมอมสุราหยางตงฉวน”“เจ้าค่ะอย่างไรคุณหนูต้องระมัดระวังตนให้ดีนะเจ้าคะ แม้ว่าท่านใต้เท้าหยางตงฉวนจะเมาสุราแต่ท่านจะต้องให้แน่ชัดแล้วค่อยหานะเจ้าคะ ข้าเป็นห่วงคุณหนูเหลือเกิน” สีหน้าของยูร์เหยาเผยความกังวลเต็มดวงหน้า นางยิ้มกริ่มก่อนจะใช้มือแตะลงที่บ่าของยูร์เหยา“เจ้ามิต้องเป็นกังวล ข้ากลับมาในครั้งนี้ข้าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายข้าได้ง่าย ๆ หากข้ากลัวข้าคงไม่กลับมาเจ้าทำใจให้สบายเถิดรีบไปนำสุรามา เมื่อหยางตงฉวนมาที่ห้องเจ้าค่อยกลับไปพักผ่อน” ยูร์เหยาถอนหายใจเอื่อย ๆ ก่อนจะพยักหน้าน้อมรับคำสั่งของเจียวเหมยไปเอาสุรามาให้นางทันทีเจียวเหมยเดินเข้าไปในห้องเดินเข้าไปจุดเทียนให้ความสว่าง ห้องนี้เป็นห้องเดิมที่เขาเคยอาศัยอยู่และนางเองก็เคยมาที่นี่บ่อย ๆ และห้องนี้ก็เป็นห้องที่ทำให้นางได้รู้ความจริงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหม
บทที่ 16 เลิกเสแสร้งเสียทีเมื่อเจียวเหมยเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จนางได้กลับไปที่งานเลี้ยงเช่นเดิม นางจ้องมองเห็นเยว่เผิงนั่งใบหน้าบูดบึ้งไร้ซึ่งอารมณ์ ใบหน้าของเจียวเหมยแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะเหลียวมองหาหยางตงฉวนเห็นว่าเขากำลังพูดคุยอยู่กับเหล่าใต้เท้านางจึงเดินตรงไปหาเยว่เผิง ยามนี้ทุกคนต่างพากันดื่มสุราอย่างสนุกสนานเสียงเพลงบรรเลงครึกครื้น สองเท้าของนางเดินเข้าไปใกล้พลางนั่งลงเก้าอี้ตัวข้าง ๆ เยว่เผิง"ฮูหยินใหญ่ทำไมถึงมีสีหน้าอย่างนั้นเจ้าคะหรือว่าไม่สบายตรงใดหรือไม่? ให้ข้าพาท่านไปส่งที่ห้องดีมั้ยดูสิสีหน้าของท่านไม่ดีเอาเสียเลย" เจียวเหมยขยับกายกระซิบข้างหูของเยว่เผิงทำให้นางสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันมาตอบกลับนางด้วยความโมโหเพราะนางทำให้ซูหยวนต้องรับโทษ"เลิกเสแสร้งแกล้งเป็นคนดีเสียที เรื่องทั้งหมดเป็นแผนของเจ้าใช่หรือไม่ เจ้าต้องการหักหน้าข้าทำให้ข้าอับอายแถมยังโดนท่านพี่ตำหนิต่อหน้าขุนนางอีก เจ้ามันชั่วช้าอย่างกำพืดของเจ้าจริง ๆ" เจียวเหมยได้ยินถึงกับหัวเราะออกมา นางมองดูดีแล้วว่ายามนี้ทุกคนมิได้สนใจพวกนางเลยต่างพากันกินอย่างเอร็ดอร่อยกับอาหารที่ทางเรือนจัดเตรียมไว้ให้กินในงานฉลองให้
บทที่ 15 นางต้องอับอายเจียวเหมยนางไม่ได้เดินกลับเรือนแต่อย่างไร นางชักชวนให้ยูร์เหยาเดินตามนางมาเงียบ ๆ สองเท้าของนางเดินไปยังห้องของท่านพ่อที่เคยอยู่ แต่ก่อนที่แห่งนี้บ่าวรับใช้มักจะเดินกันไปทั่วแต่ทว่ายามนี้กลับเงียบเหงามีเพียงสาวใช้ที่คอยมาทำความสะอาดเป็นครั้งคราว'ท่านพ่อต่อจากนี้ท่านไม่ต้องเป็นห่วงอันใด ข้าหนิงเซียนได้กลับมาแล้วข้าจะจัดการผู้ที่กระทำต่อตะกูลของเรา บรรพบุรุษตระกูลจางต้องได้นอนตายตาหลับ ข้าหวังว่าท่านพ่อจะคอยดูแลข้ายามที่พบเจอเรื่องที่ยากลำบากให้ข้าแก้แค้นทั้งสองคนที่ชั่วช้าด้วยเถิดเจ้าค่ะ ' เจียวเหมยจ้องมองไปยังห้องของท่านพ่อแต่นางไม่ได้ก้าวเท้าเข้าไปด้านในเกรงว่าจะถูกสาวใช้ในเรือนพบเห็นเอาได้ นางทำได้เพียงเอ่ยในใจบอกแก่ท่านพ่อของนางให้สบายใจ นางจะแก้แค้นคนที่ทำร้ายท่านพ่อผู้มีเมตตาจนถึงแก่ความตายนางจะหยิบยื่นความตายเช่นเดียวกับท่านพ่อให้แก่หยางตงฉวนเองสองวันต่อมาเรือนตระกูลจางจัดงานแต่งตั้งฮูหยินรองให้แก่หยางตงฉวนมีใต้เท้ามากมายมาร่วมแสดงความยินดี ยามที่เจียวเหมยยืนต่อหน้าทุกสายตาต่างพากันเอ่ยชมไม่ขาดปากและอวยพรให้หยางตงฉวนกับนางมีบุตรในเร็ววัน เยว่เผิงนางยืนห
บทที่ 14 ค่าตัวของข้า“ฮูหยินเจ้าคะ เมื่อครู่ข้าเดินมาจากโรงครัวเห็นท่านใต้เท้าอุ้มสตรีนางนั้นมาที่ห้องแถมยังสวมใส่อาภรณ์หลุดลุ้ยอีกต่างหากเจ้าค่ะ” เยว่เผิงนางนั่งดื่มยาสมุนไพรที่ซูหยวนนำมาให้พลางครุ่นคิด นางวางชามยาลงอย่างช้า ๆ“อย่างนั้นหรือ? ท่านพี่คงหลงใหลในตัวนางชั่วคราวอีกไม่นานก็เบื่อไปเอง ดีกว่าท่านพี่ออกไปหอคณิกา ขนาดหนิงเซียนท่านพี่ยังเบื่อที่นางจืดชืด ดูจากใบหน้าของเจียวเหมยนางคงไม่มีดีอันใดให้ท่านพี่หลงใหลนานนักหรอก ยิ่งถ้าหากข้าตั้งครรภ์ให้ท่านพี่ในเร็ววัน ท่านพี่คงได้หลงลืมนางและขับไล่นางออกจากเรือนไปเอง“แต่ว่าสายตาของท่านใต้เท้าที่มองนางมิใช่อย่างที่ข้าเคยเห็นเลยนะเจ้าคะ”“ซูหยวนเจ้ามิต้องเป็นกังวลไป เพราะอย่างไรคนที่เคียงข้างท่านพี่เสมอมาคือข้าและข้าก็เป็นคนที่กำความลับของท่านพี่ไว้มากมาย หากเมื่อไหร่ที่ท่านพี่ไม่สนใจข้าเรื่องที่ท่านพี่ทำทั้งหมดข้าจะเปิดโปงเอง” เยว่เผิงแสยะยิ้มเพราะไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดที่เหมาะสมกับหยางตงฉวนเท่านางอีกแล้วฝั่งด้านเจียวเหมยหลังจากที่นางถูกหยางตงฉวนอุ้มมาส่งที่ห้อง เขาให้นางพักผ่อนพร้อมกำชับกับยูร์เหยาให้ดูแลนางให้ดี เมื่อเขาออกไปเ
บทที่ 13 ต่อจากนี้เจ้าคือฮูหยินรองของข้าอีกด้านของเรือนเยว่เผิงอาบน้ำล้างกายจนเสร็จรีบสั่งการให้ซูหยวนไปตามหยางตงฉวนมาที่ห้องของนาง"นี่ซูหยวนเจ้าไปตามท่านพี่มาพบข้าสิ ข้าจะรอท่านพี่ที่ห้องแต่ทว่าก่อนเจ้าไปช่วยจุดธูปหอมให้ข้าด้วยท่านพี่เหนื่อยงานมาจะได้ผ่อนคลาย""ได้เจ้าค่ะฮูหยิน " ซูหยวนจัดการจุดธูปหอมก่อนจะเดินไปตามท่านใต้เท้าที่ห้องของเขาแต่ทว่าเมื่อมาถึงที่ห้องกลับพบว่าท่านใต้เท้าไม่อยู่ นางจึงเดินไปดูที่ห้องอ่านตำราเห็นเทียนในห้องยังสว่างจึงเดินเข้าไปตามก๊อก ๆ !!"ท่านใต้เท้าเจ้าคะฮูหยินให้ข้ามาตามเจ้าค่ะ" นางเคาะประตูพลางตะโกนบอกหยางตงฉวนแต่ทว่าในห้องกลับไร้เสียงตอบกลับ นางอดสงสัยไม่ได้ปกติหากที่นี่เทียนยังสว่างอยู่ท่านใต้เท้าต้องอยู่ที่นี่สิ นางจึงใช้หูแนบที่ประตูได้ยินเสียงร้องครางออกมาอย่างไม่เป็นจังหวะ"อ๊าาา อะ อ๊าาา ท่านใต้เท้ากระแทกแล้วไปแล้วเจ้าค่ะ ข้าจุก จุกท้องน้อยจนแทบไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ ""อื้ม ... ซี๊ด ... เจียวเหมยร่างกายของเจ้าช่างยั่วยวนข้านัก จนข้ามิอาจจะหักห้ามใจให้ทะนุถนอมเจ้าได้ยิ่งน้ำเสียงครางของเจ้ายิ่งทำให้ข้าฮึกเหิมมากกว่าเดิม อ๊าาาา ...." ทันทีที่ซูหยวน
บทที่ 12 ตอบแทนหลังจากนั้นยูร์เหยาได้เอ่ยถามเรื่องราวระหว่างที่นางถูกจับโยนทิ้งหน้าผาเกิดอะไรขึ้นแล้วทำไมใบหน้าของนางถึงเปลี่ยนไป ยามนี้เจียวเหมยมั่นใจแล้วว่ายูร์เหยาสามารถเชื่อใจได้จึงเล่าทุกอย่างให้นางได้รับรู้จนหมดและแผนการที่นางกลับมาในครั้งนี้ ยูร์เหยานางจงรักภักดีจึงรับปากจะช่วยเหลือเจียวเหมยทุกอย่างไม่ว่านางจะทำอันใดนางจะอยู่ข้างกายแม้ตายก็ไม่กลัวเช่นกันเมื่อทั้งสองพูดคุยกันจนตะวันเริ่มคล้อยต่ำจวนจะถึงมื้ออาหารเย็นยูร์เหยาจึงแจ้งเรื่องที่เยว่เผิงออกไปตลาดวันนี้“จริงสิ!วันนี้ข้าได้ยินสาวใช้นางอื่นเอ่ยกันว่าฮูหยินออกไปด้านนอกเพราะไปซื้อยาต้มบำรุงร่างกายให้ตนเองตั้งครรภ์ด้วยล่ะ”“ฮื้ม! นางอยากตั้งครรภ์หรือ? ไม่ได้ข้าจะให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นไม่ได้ เจ้าช่วยไปหาปาโต๊ว เซียนหนิว เหยียนฮวา ซานหลิง ชนิดใดชนิดหนึ่งมาให้ข้าทีเอาที่ตากแห้งไว้แล้ว ข้าจะนำมาบดให้ละเอียดและช่วยนำไปสลับเปลี่ยนกับยาที่นางต้มดื่ม” เจียวเหมยจำได้ดีคำพูดของไป๋ฉีที่บอกนางเกี่ยวกับยาสมุนไพร และยาพิษบางตัวอาจจะใช้รักษาร่างกายได้แต่ถ้ามากเกินไปอาจจะเป็นพิษต่อร่างกาย โชคดีอีกอย่างคือหญ้าสมุนไพรนี้เสมือนหญ้าตัวเดี