แชร์

บทที่ 29 สะสางแค้น

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-05 10:21:20

บทที่ 29 สะสางแค้น

ภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้ง ร่างของซูหยวนนอนจมกองเลือดอยู่หน้าประตู กายของหยางตงฉวนนอนอยู่บนเตียงกับเยว่เผิงเมื่อนางเห็นใบหน้าของเยว่เผิงยิ่งสยดสยองไม่คิดว่าฮูหยินจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ก่อนที่นางจะตั้งสติรีบเข้ามาถามด้วยเป็นห่วง

"ฮูหยินได้รับบาดเจ็บตรงไปไหนหรือไม่เจ้าคะ"

"นางซูหยวนใช้ไม้ตีหัวของข้าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยส่วนเลือดที่เจ้าเห็นมากมายมิใช่เลือดข้า ไปเรียกบ่าวรับใช้มาลากศพของซูหยวนออกไปห่อเอาไว้ก่อนเมื่อฟ้ามืดเมื่อไหร่ค่อยเอาร่างนางไปทิ้ง เจ้าช่วยเก็บกวาดห้องให้ข้าด้วยอย่าให้สาวใช้เข้ามาในนี้ ส่วนหน้าต่างไม่ต้องปิดข้าจะให้แมลงมาตอมแผลของทั้งสอง แต่ก่อนจะทำอันใดเตรียมน้ำให้ข้าล้างกายเสียก่อน ข้าเหนียวไปทั้งตัวใช้แรงไปมากต้องให้พ่อครัวทำอาหารอร่อย ๆ ให้กินเสียแล้ว อ้อ..จริงสิ เจ้าเห็นเนื้อบนโต๊ะหรือไม่ช่วยเอาไปให้พ่อครัวย่างให้ข้าที ข้าจะนำมาป้อนเป็นอาหารกลางวันให้ทั้งสองได้กิน" นางชี้ไปที่ชิ้นเนื้อใบหน้าของเยว่เผิงที่นำมาวางไว้ เยว่เผิงได้ยินส่งเสียงร้องออกมาจากลำคอเพื่อคัดค้าน

"อื้อ อื้อ " เจียวเหมยยิ้มกว้างหันไปหาเยว่เผิงพร้อมเอ่ยบอกแก่นาง

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 30 หวนคืนที่เดิม

    บทที่ 30 หวนคืนที่เดิมหลายวันต่อมาร่างกายของทั้งคู่เริ่มอ่อนล้าความเจ็บปวดที่ถาโถมทุกวัน บาดแผลเริ่มเน่าเปื่อยกลิ่นในห้องเหม็นเน่าของเนื้อ แมลงที่บินมาตอมจนแผลเกิดหนอนซอนไซ ทั้งสองเจ็บร้าวไปจนถึงกระดูกจนกระทั่งเยว่เผิงนางไม่สามารถทนความเจ็บปวดในครั้งนี้ได้หมดลมหายใจในที่สุด ส่วนเจียวเหมยนางได้กลับไปพักอยู่ที่ห้องเดิมของนาง เมื่อเข้ามาด้านในเห็นว่าเยว่เผิงหมดลมไปแล้วนางไม่ได้รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย ในที่สุดนางก็ได้แก้แค้นอย่างสาสมเหลือเพียงหยางตงฉวนที่ยังนอนพะงาบ พะงาบเน่าเปื่อยอยู่บนเตียง เจียวเหมยสั่งการให้ยูร์เหยาเรียกบ่าวรับใช้มานำร่างของเยว่เผิงนำออกไปทิ้งใช้ผ้าคุมร่างและบอกให้แพร่งพรายออกด้านนอกว่าฮูหยินใหญ่แห่งตระกูลจางติดเชื้อโรคตายอย่างฮูหยินคนก่อน ทุกคนไม่แปลกใจเพราะเคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นครั้งเมื่อท่านใต้เท้าจางกับจางหนิงเซียนส่วนหยางตงฉวนที่นอนพะงาบ ๆ เจียวเหมยได้ให้บ่าวรับใช้จัดเตรียมรถม้าเพื่อจะพาเขาออกไปที่หน้าผาตรงจุดที่นางเคยโดนนำร่างเอาไปทิ้ง ยามนี้หิมะเริ่มตกโปรยปรายเมื่อออกเดินไปทางด้านนอกจึงไม่ค่อยมีใครสังเกตบ่าวรับใช้ที่นางสั่งการให้ปิดปากทุกคนหากผู้ใดไม่ทำตามนา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 1 ไร้ความเมตตา

    บทนำ"ข้าเป็นเพียงสตรีที่รักสามีมากกว่าตนเอง ยอมตาบอดตัดขาดญาติมิตรเพราะเขาเพียงผู้เดียว คำว่ารักที่เขามอบให้ทุกวันการกระทำทุกอย่างล้วนทำเผื่อข้า แต่เหตุไฉนสิ่งที่ข้าเห็นกลับกลายเป็นเพียงสิ่งหลอกลวงแม้กระทั่งคำว่ารักก็เช่นเขา เขามิเคยรักข้าที่เข้ามาหาตระกูลของข้าล้วนเป็นแผนของเขาทุกอย่าง คนที่ลงมือฆ่าท่านพ่อและวางยาข้าคือคนที่ข้ารักหมดหัวใจมิหนำซ้ำก่อนตาข้าจะปิดลง ข้าเห็นสตรีอีกนางที่ข้าจำได้ดียืนอยู่ข้างกายเขาพร้อมเผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนที่เขาจะสั่งให้คนใช้จัดการพาร่างของข้าไปทิ้งและอุ้มร่างของสหายสนิทของข้าเข้าห้องไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างสุขสันต์ ความโชคร้ายของข้ายังพอมีความโชคดีสวรรค์เมตตาให้มีคนพบเห็นข้าและช่วยเหลือข้าเอาไว้ สตรีที่เกือบตายอย่างข้าเมื่อรอดพ้นการตายมาได้ ความรักข้าขอละทิ้งไม่คิดมีอีกและมีสิ่งหนึ่งที่ข้าจะต้องทำต่อจากนี้คือการกลับไปทวงแค้นให้ตระกูลของข้า หากมิเช่นนั้นข้าคงตายตาไม่หลับแม้จะต้องเสี่ยงตายอีกครั้งข้าก็ยอม "บทที่ 1 ไร้ความเมตตาท่ามกลางสายฝนตกโปรยปรายลงมาอย่างกระหนำสตรีร่างบางถูกทำร้ายจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทำได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 2 นับว่าเป็นโชคชะตา

    บทที่ 2 นับว่าเป็นโชคชะตาเปรี้ยง เปรี้ยง! ซ่า ซ่า….เสียงฟ้าร้องแข่งกับสายฝนเป็นระลอก ๆ แม้จะเป็นยามค่ำคืนแต่เมื่อแสงสายฟ้าฟาดลงมาเผยให้เห็นว่าตอนนี้บ่าวรับใช้ในเรือนกำลังจับร่างของสตรีมาโยนทิ้งที่หน้าผาเพื่อจัดการตามที่นายท่านบอก เมื่อเสร็จสิ้นรีบพากันเดินทางกลับ ร่างของหนิงเซียนตกลงมาโชคดีที่ด้านล่างเป็นพุ่มหญ้าปกคลุมทำให้ร่างกายของนางไม่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมในยามนั้นมีนักพรตกับลูกศิษย์ที่ออกเดินทางไปเรื่อย ๆ โดยไร้จุดหมายเมื่อที่นอนหลับค่ำคืนนี้เกิดฟ้าฝนกระหน่ำลงมาทำให้นอนไม่ได้ จึงพากันเดินออกมาจากที่เดิมเพื่อหาที่หลบฝน บัดนั้นนั่นเองทั้งสองเดินผ่านมาพบเห็นร่างคนที่นอนแน่นิ่ง ลูกศิษย์จึงได้เอ่ยถามนักพรต"ท่านอาจารย์นั่นไม่ใช่คนหรือขอรับ? ""นั่นสิว่าแต่เป็นผู้ใดกันสภาพถึงเป็นเช่นนี้หล่นลงมาอย่างตั้งใจหรือว่าถูกกระทำเจ้าลองเข้าไปแตะชีพจรดูสิว่ายังมีชีพจรอยู่หรือไม่? "นักพรตบอกแก่ศิษย์ เขารีบเดินเข้าไปใกล้จับกายของนางพลิกหงายขึ้นเมื่อเห็นยามแรกเขาสะดุ้งอย่างตกใจเพราะสายฟ้าฟาดลงมาพอดีเผยให้เห็นใบหน้าเละของหนิงเซียนเปี้ยง!"เฮือก! ""เกิดอะไรขึ้นหรือว่าร่างไร้วิญญาณเสียแล้ว""มิใช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 3 ถึงเวลาแล้ว

    บทที่ 3 ถึงเวลาแล้ว“เจ็บ ข้าเจ็บเหลือเกิน นี่ข้าตายไปแล้วอย่างนั้นหรือ? แต่หากข้าตายทำไมข้าถึงได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้ล่ะ”หนิงเซียนค่อย ๆ ลืมเปลือกตาที่หนักอึ้งอย่างช้า ๆ สิ่งแรกที่นางเห็นคือขื่อของกระท่อมเก่าทรุดโทรม นางเริ่มกวาดสายตาจ้องมองไปทั่ว ๆ นางจำได้ว่าครั้งสุดท้ายนางใกล้จะหมดลมหายใจอยู่ที่หน้าเรือนมิใช่หรือ? แล้วที่นี่ที่ไหนกัน นางต้องตายแล้วมิใช่หรือ? คำสั่งของหยางตงฉวนยังกึกก้องอยู่ในหูไม่จางหายเขาสั่งการให้บ่าวรับใช้จัดการกับนางและพาร่างของนางมาทิ้งมิใช่หรือ? แต่มิทันที่นางจะได้สงสัยอันใดต่อเสียงฝีเท้าได้ดังใกล้เข้ามาแม้อยากลุกหนีแต่ทว่าร่างกายของนางเจ็บปวดไปหมดมิอาจจะดิ้นได้ด้วยซ้ำ“เจ้าฟื้นแล้วหรือ? อาจจะยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่อย่าพึ่งลุกเลย ข้าจะให้ลูกศิษย์ของข้ามาป้อนอาหารป้อนยาให้แก่เจ้า ระหว่างนี้ข้าจะช่วยเหลือจนกว่าเจ้าหายดีเอง” ชายชราใบหน้าแสดงถึงความดีใจเมื่อเห็นนางฟื้นเดินเข้ามาถามหนิงเซียน นางคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย“ฮึ! เจ้าคงสงสัยสินะว่าข้าคือผู้ใดมิต้องกลัวข้า ข้าเป็นนักพรตที่เดินผ่านมาเห็นเจ้าได้รับบาดเจ็บจึงให้ลูกศิษย์ช่วยแบกเจ้ามาที่นี่และรักษาให้ นอนพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 4 บุรุษชั่วช้ากับสตรีไร้ยางอาย

    บทที่ 4 บุรุษชั่วช้ากับสตรีไร้ยางอายหลังจากนั้นมาเยว่เผิงสั่งให้คนของนางตามหาร่างของจางหนิงเซียนเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่านางตายไปจากใต้หล้าแห่งนี้แล้วจริง ๆ จนบ่าวรับใช้กลับมาแจ้งว่าไม่พบร่างของหนิงเซียนเลยจึงคิดว่านางคงตายไปแล้วจริง ๆ ตั้งแต่นั้นมาเยว่เผิงใช้ชีวิตทุกวันอย่างสุขสบายใจไร้ความกังวลเดิมทีเยว่เผิงเป็นพียงบุตรสาวของบ่าวรับใช้ในเรือนของท่านใต้เท้าอีกเรือนหนึ่ง ครั้นนั้นมารดาของนางต้องมาจากไปด้วยการเฆี่ยนตีเพราะเยว่เผิงมักแอบเข้าไปขโมยของมีค่าของฮูหยิน ครั้งแรก ๆ ไม่ถูกจับได้แต่ทว่าบ่อยครั้งของมีค่าเริ่มหายไปฮูหยินแอบสงสัย จึงให้บ่าวคอยจับตาดูยามที่ตนเองไม่อยู่เรือนมีสาวใช้นางใดเข้ามาในห้องเก็บของของนางบ้าง และแล้วก็ถูกจับได้ยามนั้นเยว่เผิงกำลังโตไม่รู้ความ รู้เพียงว่าของมีค่ามักจะขายได้เงินดี นางอยากกินลูกกวาดเหมือนเด็กทั่วไปแต่ทว่านางเป็นเพียงบุตรของสาวใช้เบี้ยติดตัวแทบไม่มี นางเคยไปด้านนอกกับฮูหยินเพราะใช้ให้นางไปช่วยถือของกับมารดาของนาง เห็นฮูหยินนำกำไล ปิ่นปักผมไปขายได้เบี้ยอัฐมากมายแววตาของนางเป็นประกาย เมื่อครั้งแรกนางไม่ถูกจับได้จึงมีครั้งที่สองครั้งที่สามจนกระทั่งค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 5 หนทางกลับเข้าเรือน

    บทที่ 5 หนทางกลับเข้าเรือนรุ่งสางมาเยือนเจียงเหมยสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ครุ่นคิดในใจ หากนางได้พบหน้าของชายที่ฆ่านางด้วยความรักนางจะไม่หวั่นไหวใจสั่นกับเขาเป็นอันขาดจากนี้ไปนางมีเพียงความแค้นที่ต้องชำระลู่เฟยให้บ่าวรับใช้พานางนั่งรถม้ามายังเรือนตระกูลจาง เมื่อนางมาถึงนางได้บอกให้สารภีหยุดก่อนจะถึงเรือน นางจะเข้าไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้คงเป็นเรื่องน่าสงสัยที่จู่ ๆ สตรีอย่างนางปรากฏตัวเจียงเหมยจึงลงใกล้ ๆ เรือนเฝ้ามองดูการเคลื่อนไหว ของทุกคนเห็นหยางตงฉวนควบม้าออกไปด้านนอก นางจึงเดินไปที่โรงเตี๊ยมใกล้ ๆ เฝ้ารอให้หยางตงฉวนกลับมาเสียก่อน นางคิดไว้แล้วว่าจะทำอย่างไรถึงจะเข้าใกล้เขาได้อย่างรวดเร็วนางเฝ้าคอยจนท้องฟ้าเริ่มคล้อยต่ำลงแสงดวงอาทิตย์ลับลาขอบฟ้าปกคลุมด้วยความมืดมิดแทนที่ แสงสว่างจากโคมไฟเริ่มสว่างขึ้นตามบ้านเรือน เจียวเหมยเดินไปอยู่ใกล้ ๆ หน้าเรือนเสียงฝีเท้าของม้าถูกควบมาจากไกล ๆ นางได้เริ่มแผนการที่นางคิดไว้ทั้งคืนเพื่อที่จะได้เข้าใกล้หยางตงฉวนฝั่งด้านหยางตงฉวนกลับมาจากวังหลวงยามนี้ท้องฟ้าเริ่มสลัว ๆ จู่ ๆ สายตาเขาได้เห็นสตรีร่างบางเดินซวนเซล้มลงที่หน้าเรือน เขารีบใช้เท้าบังคับให้ม้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 6 ชีวิตช่างรันทด

    บทที่ 6 ชีวิตช่างรันทดเมื่อทั้งสองเดินออกไปเสียงประตูถูกปิดแน่น เสียงของยูร์เหยาสาวใช้ที่ถูกสั่งให้ดูแลเจียวเหมยได้เดินเข้ามาใกล้เตียงนอน"คงจะเจ็บน่าดูสินะ ใบหน้าไร้ที่ติจนทำให้นายท่านสนใจแต่ข้าไม่อยากให้ท่านอยู่ที่นี่หรอกนะ ข้าไม่อยากให้ท่านเป็นเสมือนนายหญิงของข้า " ยูร์เหยาเด็กสาวที่จำได้ติดตาในคืนวันที่หนิงเซียนถูกคนที่นี่ทำร้ายอย่างไร นางเป็นสาวใช้ที่คอยดูแลหนิงเซียนอีกคนแต่ไม่ได้อยู่ในสายตาเพราะยามนั้นหนิงเซียนฮูหยินสนิทสนมกับงูพิษอย่างเยว่เผิงจนนางมิอาจจะพูดอะไรได้และไม่สามารถช่วยเหลือฮูหยินของตนได้เลยเพราะนางเป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น สิ่งที่นางเอ่ยออกมาทำให้เจียวเซียนพอได้ยินคลับคลายคลับคลาแต่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดูนาง พร้อมหลับไปเพราะฤทธิ์ยาและความเจ็บจากคมมีดที่นางแทงเข้าที่หน้าท้องของตัวเองรุ่งสางมาเยือนแสงแดดกระทบใบหน้านางขยับกายอย่างลืมตัวแต่เมื่อขยับนางรู้สึกเจ็บแปลบ ค่อย ๆ ลืมเปลือกตาที่หนักอึ้งอย่างช้า ๆ ห้องนี้เป็นห้องนอนของเรือนรับรองนางจดจำได้ทุกที่ในเรือนนางพยายามจะลุกขึ้น ทันใดนั้นเองสตรีร่างเล็กตื่นขึ้นเพราะรู้สึกว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงดิ้นไปมา"ฟื้นแล้วหรือ? อย่าพึ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-19
  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 7 ขับไล่

    บทที่ 7 ขับไล่ห้องรับรองเจียวเหมยยืนอยู่ริมหน้าต่างสายตาจ้องมองไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย เรือนที่นางอยู่มาตั้งแต่เด็กไม่คิดเลยว่าวันนี้ที่แห่งนี้จะเป็นของผู้อื่น ตอนนี้นางได้กลับมาแล้วภาพความทรงจำที่นางกับท่านพ่อเคยใช้เวลาอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มเสียงหัวเราะ ใบหน้าของท่านพ่อที่ยืนส่งยิ้มให้นางยังคงตราตรึงใจเสมอ นางกลับมาครั้งนี้จะทวงคืนทุกอย่างกลับคืนมาให้ได้ไม่อย่างนั้นนางมิอาจจะนอนตายตาหลับได้ครั้นนั้นเสียงประตูถูกเปิดเข้ามา เสียงที่คุ้นเคยได้เอ่ยขึ้นมาทันทีที่เท้าก้าวเข้ามาด้านในเพียงหนึ่งข้างเท่านั้น"เจ้าฟื้นแล้วก็ออกไปจากเรือนของข้าได้แล้วแม้ว่าสามีข้าจะใจดีแต่ข้าไม่ อีกอย่างตอนนี้เจ้าเดินเหินได้คงไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายอันใด เป็นบุตรสาวเรือนใดข้าจะให้บ่าวไปส่งเจ้าเอง"“ฮูหยินข้ายังรู้สึกเจ็บแผลอยู่เลยเจ้าค่ะ อีกอย่างเมื่อเช้านี้ท่านใต้เท้าบอกให้ข้ารักษาตัวอยู่ที่นี่จนกว่าจะหายเจ้าค่ะ ข้าเป็นหนี้บุญคุณท่านใต้เท้าหากจะจากที่นี่ไปอย่างไรต้องร่ำลาผู้มีพระคุณเสียก่อน"“นี่เจ้าไม่รู้ความหรือไง ไม่ว่าข้าหรือแม้แต่ท่านใต้เท้าก็เสมือนคนคนเดียวกันออกไปจากที่นี่ก่อนที่ข้าจะขับไล่เจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20

บทล่าสุด

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 30 หวนคืนที่เดิม

    บทที่ 30 หวนคืนที่เดิมหลายวันต่อมาร่างกายของทั้งคู่เริ่มอ่อนล้าความเจ็บปวดที่ถาโถมทุกวัน บาดแผลเริ่มเน่าเปื่อยกลิ่นในห้องเหม็นเน่าของเนื้อ แมลงที่บินมาตอมจนแผลเกิดหนอนซอนไซ ทั้งสองเจ็บร้าวไปจนถึงกระดูกจนกระทั่งเยว่เผิงนางไม่สามารถทนความเจ็บปวดในครั้งนี้ได้หมดลมหายใจในที่สุด ส่วนเจียวเหมยนางได้กลับไปพักอยู่ที่ห้องเดิมของนาง เมื่อเข้ามาด้านในเห็นว่าเยว่เผิงหมดลมไปแล้วนางไม่ได้รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย ในที่สุดนางก็ได้แก้แค้นอย่างสาสมเหลือเพียงหยางตงฉวนที่ยังนอนพะงาบ พะงาบเน่าเปื่อยอยู่บนเตียง เจียวเหมยสั่งการให้ยูร์เหยาเรียกบ่าวรับใช้มานำร่างของเยว่เผิงนำออกไปทิ้งใช้ผ้าคุมร่างและบอกให้แพร่งพรายออกด้านนอกว่าฮูหยินใหญ่แห่งตระกูลจางติดเชื้อโรคตายอย่างฮูหยินคนก่อน ทุกคนไม่แปลกใจเพราะเคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นครั้งเมื่อท่านใต้เท้าจางกับจางหนิงเซียนส่วนหยางตงฉวนที่นอนพะงาบ ๆ เจียวเหมยได้ให้บ่าวรับใช้จัดเตรียมรถม้าเพื่อจะพาเขาออกไปที่หน้าผาตรงจุดที่นางเคยโดนนำร่างเอาไปทิ้ง ยามนี้หิมะเริ่มตกโปรยปรายเมื่อออกเดินไปทางด้านนอกจึงไม่ค่อยมีใครสังเกตบ่าวรับใช้ที่นางสั่งการให้ปิดปากทุกคนหากผู้ใดไม่ทำตามนา

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 29 สะสางแค้น

    บทที่ 29 สะสางแค้นภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้ง ร่างของซูหยวนนอนจมกองเลือดอยู่หน้าประตู กายของหยางตงฉวนนอนอยู่บนเตียงกับเยว่เผิงเมื่อนางเห็นใบหน้าของเยว่เผิงยิ่งสยดสยองไม่คิดว่าฮูหยินจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ก่อนที่นางจะตั้งสติรีบเข้ามาถามด้วยเป็นห่วง"ฮูหยินได้รับบาดเจ็บตรงไปไหนหรือไม่เจ้าคะ""นางซูหยวนใช้ไม้ตีหัวของข้าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยส่วนเลือดที่เจ้าเห็นมากมายมิใช่เลือดข้า ไปเรียกบ่าวรับใช้มาลากศพของซูหยวนออกไปห่อเอาไว้ก่อนเมื่อฟ้ามืดเมื่อไหร่ค่อยเอาร่างนางไปทิ้ง เจ้าช่วยเก็บกวาดห้องให้ข้าด้วยอย่าให้สาวใช้เข้ามาในนี้ ส่วนหน้าต่างไม่ต้องปิดข้าจะให้แมลงมาตอมแผลของทั้งสอง แต่ก่อนจะทำอันใดเตรียมน้ำให้ข้าล้างกายเสียก่อน ข้าเหนียวไปทั้งตัวใช้แรงไปมากต้องให้พ่อครัวทำอาหารอร่อย ๆ ให้กินเสียแล้ว อ้อ..จริงสิ เจ้าเห็นเนื้อบนโต๊ะหรือไม่ช่วยเอาไปให้พ่อครัวย่างให้ข้าที ข้าจะนำมาป้อนเป็นอาหารกลางวันให้ทั้งสองได้กิน" นางชี้ไปที่ชิ้นเนื้อใบหน้าของเยว่เผิงที่นำมาวางไว้ เยว่เผิงได้ยินส่งเสียงร้องออกมาจากลำคอเพื่อคัดค้าน"อื้อ อื้อ " เจียวเหมยยิ้มกว้างหันไปหาเยว่เผิงพร้อมเอ่ยบอกแก่นาง

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 28 ตัวตนที่แท้จริง

    บทที่ 28 ตัวตนที่แท้จริงเจียวเหมยยืนขึ้นหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง"ฮ่า ฮ่า ต่อให้พวกเจ้าตะโกนขอความช่วยเหลือไม่มีผู้ใดสามารถช่วยพวกเจาได้หรอก! เมื่อครู่ข้าได้ยินว่าเจ้าต้องการฆ่าข้ามิใช่หรือ? ข้าพร้อมรอรับความตายแล้วแต่ถ้าเจ้าฆ่าข้ามิได้ จะเป็นข้าเองที่ฆ่าพวกเจ้า" น้ำเสียงเย็นยะเยือกผู้ที่ได้ยินถึงกับสั่นสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ เยว่เผิงหวาดกลัวจนตัวสั่นจะหนีก็หนีมิได้ยิ่งคิดถึงเรื่องชายฉกรรจ์สองคนที่นางส่งมาจัดการยังถูกเจียวเหมยจัดการได้อย่างง่ายดายแล้วนางเป็นเพียงสตรีจะสู้นางได้อย่างไรกัน"ท่านพี่ช่วยข้าด้วยท่านเห็นหรือยังเจ้าคะสตรีที่ท่านรักนางมิได้เป็นอย่างที่ท่านเห็น ท่านเห็นหรือยังว่าผู้ใดกันแน่ที่รักท่านจริง ๆ ช่วยข้าด้วยนางบ้าไปแล้วนางจะฆ่าข้าเจ้าค่ะ ""ฮ่า ฮ่า ต่อให้เจ้าเรียกหยางตงฉวนอย่างไรเขาก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้ ขนาดตัวของเขาเองยังช่วยตนเองไม่ได้ด้วยซ้ำ" เจียวเหมยค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ทั้งสองอย่างช้า ๆส่วนหยางตงฉวนทำได้เพียงนอนฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นเขาอยากจะช่วยเหลือเยว่เผิงแต่ทว่าแค่ขยับแขนเขายังทำไม่ได้ซูหยวนเห็นท่าไม่ดีนางยืนบังหน้าเยว่เผิงเอาไว้หวังปกป้องนายหญิงของตนมิ

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 27 เจ้าของเรือนผู้ใหม่

    บทที่ 27 เจ้าของเรือนผู้ใหม่ยามเหม่า (06.00)เสียงบ่าวรับใช้ในเรือนพากันเอ่ยซุบซิบกันกระฉ่อน เมื่อจู่ ๆ ถูกเรียกให้มารวมตัวกันที่หน้าของนายท่านแต่มิใช่นายท่านเป็นคนเรียกแต่กลับเป็นฮูหยินรอง เมื่อทุกคนมาครบยูร์เหยาได้เข้ามาเรียกเจียวเหมยออกไปพบทุกคน"ฮูหยินยามนี้ทุกคนมาพร้อมหน้าแล้วเจ้าค่ะ ""ดีอย่างนั้นออกไปข้างนอกกันเถอะ" เจียวเหมยเดินออกไปข้างนอกอย่างสง่าผ่าเผยทุกสายตาจ้องมองมาที่นาง"ทุกคนในเรือนจงฟังข้าให้ดีข้ามีเรื่องที่จะต้องแจ้งพวกเจ้าให้ได้รับรู้ ต่อจากนี้ท่านใต้เท้าหยางตงฉวนเจ็บป่วยร่างกายทรุดตัวไม่สามารถดูแลงานในเรือนรวมทั้งงานราชการ ท่านใต้เท้าจึงมอบหมายให้ข้าเจียวเหมยสตรีที่เขารักดูแลทุกอย่างในเรือนแห่งนี้ ต่อจากวันนี้ข้าคือผู้ดูแลเรือนตระกูลจาง ต่อจากนี้พวกเจ้าต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้า เพราะข้าคือเจ้าของเรือนหากผู้ใดไม่เชื่อและขัดคำสั่งข้าจะลงโทษอย่างไม่ปราณี" เอ่ยจบนางได้ชูหนังสือประจำตระกูลให้ทุกคนได้ดูแม้บางคนจะอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แต่ก็พอรู้ว่าหนังสือเช่นนี้เป็นหนังสืออะไร เมื่อทุกคนเห็นต่างพากันแปลกใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอันใดเพราะกลัวว่าจะถูกลงโทษ หลังจากที่ทุกคนรับรู้นาง

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 26 รักข้ามั้ยเจ้าคะ

    บทที่ 26 รักข้ามั้ยเจ้าคะหลายวันต่อมาร่างกายของหยางตงฉวนเริ่มไม่แข็งแรงเหมือนเดิม เขาไอหนักมากกว่าเดิมสติเริ่มฟั่นเฟือนเลอะเลือน แต่เขายังคงรักเจียวเหมยหนักมากกว่าเดิม นางเฝ้าคอยดูแลเขาเอาอกเอาใจ“เจียวเหมยช่วงนี้ข้ารู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน ข้าได้เห็นความรักที่เจ้ามีให้ข้า ข้าอยากหายกลับไปเป็นปกติทำไมท่านหมอมาตรวจข้าหลายต่อหลายคนต่างพากันบอกว่าข้ามิได้เป็นอะไรทำไมร่างกายของข้าถึงซูบผอมไร้เรี่ยวแรงอย่างนี้กันนะ”“ท่านพี่คิดมากไปเองเจ้าค่ะ ท่านพี่เป็นกังวลเกินไปเลยทำให้ร่างกายของท่านซูบผอม ข้ารักท่านพี่นะเจ้าคะข้าเคยสัญญาว่าจะอยู่กับท่านจนกว่าจะถึงวันตายข้าไม่มีทางหนีท่านไปไหนเจ้าคะ ดื่มนี่สักหน่อยนะเจ้าคะข้าให้ยูร์เหยาต้มยาสมุนไพรบำรุงร่างกายให้ท่าน อีกไม่กี่วันร่างกายท่านอาจจะฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ” เจียวเหมยประคองร่างไร้เรี่ยวแรงของหยางตงฉวนขึ้นมานั่งคว้าหมอนมาหนุนหลังของเขาเอาไว้ ยามนี้ร่างกายของเขาซูบผอมจริง ๆ งานราชการเจียวเหมยได้จัดการให้เขาเมื่อมีสารมาที่เรือนนางได้ตอบกลับพร้อมประทับตราของหยางตงฉวนให้บอกว่าช่วงนี้เขาไม่สบายไม่สามารถทำงานได้นางยกยาสมุนไพรเมื่อครู่ให้เขาดื่มจนหมดก่

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 25 เจ้ามันน่าเบื่อ

    บทที่ 25 เจ้ามันน่าเบื่อยามโหย่ว (17.00)ฝั่งด้านเยว่เผิงหลายวันมานี้นางเก็บตัวเงียบเสียใจที่หยางตงฉวนเมินเฉยต่อนางความเย็นชาที่นางไม่เคยพบเจอก็ได้เจอ นางเคยขอพบเขาที่ห้องแต่เขากลับให้บ่าวออกมาบอกว่าเขาไม่ต้องการพบนางทำให้นางเสียใจมากกว่าเดิม"ฮูหยินเจ้าคะถึงเวลากินอาหารเย็นแล้วเจ้าค่ะ ช่วงนี้อาหารไม่ถูกปากฮูหยินอยากกินอะไรหรือไม่เจ้าคะ ข้าน้อยจะให้พ่อครัวทำให้""ไม่ข้าไม่อยากอะไรทั้งนั้น " แววตาเหม่อลอยจ้องมองไปนอกหน้าต่างเอ่ยตอบสาวใช้ด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉยไร้ชีวิตชีวา ซูหยวนสงสารนายหยิงจับใจครั้นนั้นนางได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามานางรีบหันไปมองเห็นว่าเป็นนายท่านใบหน้าของนางเริ่มปรากฏรอยยิ้มรีบแจ้งนายหญิงทันที"ฮูหยินเจ้าคะนายท่านมาเจ้าค่ะ " เยว่เผิงคิดว่าตนเองหูแว่วจึงคิดจะหันกลับมาต่อว่าสาวใช้แต่เมื่อเห็นชายที่ตนรักและคิดถึงรีบเดินไปหาเขาด้วยความดีใจ"ท่านพี่มาหาข้าหรือเจ้าคะ" น้ำเสียงระรื่นเอ่ยถามเขาทันทีพลางเดินเข้าไปใกล้หวังโอบกอดแต่ก็ต้องถูกเขาผละกายนางออก"ข้ามิได้มาเพราะคิดถึงเจ้า แต่ว่าเจียวเหมยของข้าให้ข้ามาหาเจ้า นางทั้งเห็นใจเจ้าหวังดีต่อเจ้ากลัวเจ้าจะน้อยใจข้าจึงได้มาหา ซู

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 24 หยางตงฉวนกลับจากวังหลวง

    บทที่ 24 หยางตงฉวนกลับจากวังหลวงไม่นานซูหยวนได้กลับมาใบหน้าตื่นตระหนกเร่งรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาที่ห้องของเยว่เผิง"แฮ่ก ๆ ๆ "ปัง!! เสียงเปิดประตูเข้ามาอย่างแรงเพราะความร้อนใจ ทำให้เยว่เผิงตกใจไม่น้อยตวาดใส่ซูหยวนเสียงดัง"นี่จะรีบไปที่ใดกันทำไมไร้มารยาทเช่นนี้""ฮูหยินเจ้าคะฮูหยินข้าน้อยมีเรื่องมาแจ้งเจ้าค่ะ ข้าไปตามหาชายคนที่ข้าจ้างวานฮูหยินรู้มั้ยเจ้าคะว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกนั้น ""คนพวกนั้นตายหมดแล้ว "ไม่ทันที่ซูหยวนจะพูดจบเยว่เผิงได้เอ่ยโพล่งออกมาทำให้ซูหยวนหน้าเหวอตกใจมากกว่าเดิม"ฮูหยินรู้ได้อย่างไรเจ้าคะ ข้าไปตามหาเห็นชาวบ้านแตกตื่นจ้องมองไปยังแม่น้ำเห็นศพสองศพข้าจึงเดินไปดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นแต่เมื่อทั้งสองถูกทางการยกขึ้นมาต้องตกใจเพราะทั้งสองคนเป็นคนที่ข้าจ้างวานเจ้าค่ะ""ข้ารู้ได้อย่างไรนะหรือ? เพราะหลังจากที่เจ้าออกไปข้ากลับที่ห้องมีหีบมือของหนึ่งในสองคนนั้นมาอยู่ที่ห้องของข้าอย่างไรล่ะ ตอนนี้เจ้ากลับมาก็ดีแล้ว ข้าไม่อยากอยู่เพียงลำพังแถมนางยังเขียนมาข่มขู่ข้าอีกไม่ให้ข้ายุ่งกับนาง ตอนนี้ข้าเสียวหลังกลัวว่านางจะมาจัดการข้าอีกคน""นางเป็นใครกันทำไมถึงได้สู้สองคนนั้นได้ "

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 23 เป็นไปได้อย่างไร

    บทที่ 23 เป็นไปได้อย่างไรฝั่งด้านเยว่เผิงนางตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์ดียืนคิดพลางยิ้มเล็กยิ้มใหญ่“มื้อคืนฮูหยินคงนอนหลับสบายสินะเจ้าคะ ตื่นเช้ามาวันนี้ใบหน้าถึงได้ชื่นบาน”“ใช่นะสิ! เจ้ามาก็ดีแล้วข้าจะไปที่ห้องของท่านพี่จะไปดูด้วยตาตนเองสักหน่อยหวังว่านางคงหายไปจากเรือนตระกูลจาง”“ฮูหยินวางใจได้คนที่ข้าหามาล้วนมีฝีมือจัดการกับสตรีอย่างนางมิใช่เรื่องยากอันใดไปกันเถอะเจ้าค่ะ”“ดี! ช่างดีจริง ๆ ฮ่า ฮ่า” ทั้งสองพากันเดินมาที่ห้องของหยางตงฉวนอย่างอารมณ์ดี แต่ทว่าใบหน้าของนางต้องเปลี่ยนไปทันทีเมื่อสองเท้าก้าวเข้าห้องเห็นเจียวเหมยนั่งจิบน้ำชาร่างกายมิได้รับบาดเจ็บอันใดแม้แต่น้อย สีหน้าของเยว่เผิงพลันเปลี่ยนสี‘เหตุใดนางถึงมานั่งจิบน้ำชาราวกับไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น หรือว่าชายฉกรรจ์พวกนั้นยังไม่ได้ลงมือ จิ! นี่ข้าพลาดไปแล้วอย่างนั้นหรือ ข้าคิดว่ามาจะไม่เห็นแม้แต่เงาของนางเสียแล้ว’ เยว่เผิงคิดในใจสองเท้าหยุดชะงักที่หน้าประตู เจียวเหมยแสยะยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นสีหน้าของเยว่เผิงผิดหวังไม่เป็นอย่างที่นางตั้งใจเอาได้เจียวเหมยวางจอกน้ำชาลงลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้เยว่เผิง“ฮูหยินมาที่นี่แต่เช้าตรู่มีเรื่อง

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 22 ถูกลอบทำร้าย

    บทที่ 22 ถูกลอบทำร้ายเมื่อนางสบายใจที่เห็นของสำคัญจึงดับเทียนเพื่อพักผ่อนเอนกายลงนอนบนเตียงแต่แล้วหูของนางได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังย่องมาทางหน้าต่างอย่างแผ่วเบา หากเป็นบ่าวในเรือนที่เดินตรวจตราคงพูดคุยกันมาตลอดทางแต่นี่มิใช่ ใจของเจียวเหมยเต้นระรัวคิดว่าต้องเป็นผู้ประสงค์ร้ายหวังมาทำร้ายนาง นางยังไม่ลุกขึ้นเพราะต้องการดูให้แน่ใจหากเป็นบ่าวรับใช้คงเดินผ่านไปเรื่อย ๆ แต่ทว่านางกลับได้ยินเสียงงัดหน้าต่าง ตอนนั้นเองเจียวเหมยลุกขึ้นค่อย ๆ ดึงหมอนขึ้นเผยให้เห็นมีดเล็กของนางที่นางพกติดตัวไว้ตลอดและย่องไปยืนแอบอยู่มุมมืด ชายฉกรรจ์เข้ามาได้สำเร็จ เจียวเหมยจ้องมองชายที่เข้ามามีสองคนด้วยกัน ทั้งสองแต่งกายด้วยชุดสีดำใช้ผ้าผูกหน้าแถมยังถือมืดในมือ นางแน่ชัดแล้วว่าทั้งสองคงต้องมีคนจ้างวานมาเพื่อกำจัดนางแน่นอน และคนแรกที่เจียวเหมยนึกถึงคงเป็นเยว่เผิงไม่ผิดแน่ชายทั้งสองเมื่อย่องเข้ามาที่เตียงนอนง้างมือที่ถือมีดหวังจะแทงเจียวเหมยในคราเดียวแต่ทว่าเมื่อมาถึงเตียงนอนกลับพบกับความว่างเปล่าทั้งสองมองหน้ากันอย่างงงงวย"คนหายไปที่ใดกัน ไหนเจ้าบอกว่านางอยู่ที่ห้องนี่มิใช่หรือ? หรือว่าเจ้าได้ยินผิด""ไม่ผิดแน่!

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status