Share

ป่วยจนเลอะเลือน

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-08 12:45:24

2

ป่วยจนเลอะเลือน

ห้าวันหลังจากเทศกาลโคมไฟ หญิงสาวลืมตาขึ้นเมื่อผู้คนในห้องออกไปจนหมดก่อน จึงลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงอุ่น เพราะเหตุใดนางจึงมาอยู่ที่นี่ได้เล่า ไม่มีเหตุผลรองรับเอาเสียเลย ซ้ำยังต้องมาอยู่ในร่างนางร้ายสุดแสนอาภัพผู้นี้อีก

จะกล่าวว่านางเป็นนางร้ายก็ร้ายไม่เท่านางร้ายคนอื่น ๆ หรือแม้แต่นางเอกของเรื่องยังร้ายเสียกว่า นางร้ายเพราะนางมักถูกมอบบทนางร้ายให้มากกว่าจะแสดงเอง นอกจากนี้สุดท้ายยังต้องตายเพราะพระเอกสุดที่รักของนางอีกต่างหาก

ก่อนตายนางก็เป็นคนดีมาตลอดเหตุใดพอได้มีโอกาสใช้ชีวิตจึงทำให้นางมีโชคชะตาเช่นนี้กันเล่า

“ขอบคุณสวรรค์ที่มอบบทตัวละครที่สุดแสนจะโชคดีคนนี้ให้ เฮ้อ เอาไงต่อดีไอ้พิม” หญิงสาวพึมพำกับตนเอง นางอ่านหนังสือมามากส่วนใหญ่ผู้ที่มาเป็นนางร้ายหรือตัวประกอบหากทำตัวโจ่งแจ้งไปจะกลายเป็นที่สนใจ สุดท้ายกลายเป็นตัวดำเนินเรื่องทั้งนั้น

นางควรทำอย่างไรดี นางไม่อยากมีส่วนในนิยายเรื่องนี้แล้วยิ่งไม่อยากตายอย่างอนาถภายใต้คมดาบของบุรุษใจคอโหดเหี้ยม หลอกใช้สตรีเช่นมู่หลินเฟิง

คิดไปก็พลันปวดหัวไปสงสัยนางจะไข้ขึ้นเสียแล้ว คงเพราะร่างกายบอบบางของโจวเจียวเจียวนี่กระมัง ทำให้ตอนนี้ในหัวนางไม่มีสิ่งใดอยู่เลย

หญิงสาวรู้เพียงอย่างเดียวนางไม่อยากเป็นนางร้าย ไหน ๆ ก็ร่ำรวยเช่นนี้แล้ว นางขอเป็นแค่ตัวประกอบที่ร่ำรวย…

ตกลงปลงใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปแล้วก็เอนตัวลงนอนบนเตียง พลางยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาพาดไว้บนเข่าอีกข้าง ซ้ำยังกระดิกเท้าอย่างสบายใจ เพราะที่นี่คือตระกูลโจวนางจึงไม่ต้องกลัวว่าผู้อื่นจะสงสัยในตัวนาง

โจวเจียวเจียวบุตรสาวคนเดียวที่บิดามารดารักและทะนุถนอนยิ่งกว่าไข่ในหิน ไม่ว่านางต้องการสิ่งใดก็ล้วนถูกหามาให้จนได้ มีเพียงมู่หลินเฟิงที่นางพึงใจแต่ไม่มีทางได้มา

“คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” เสี่ยวมั่วสาวใช้คนสนิทถามด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าดีใจ นางวางถาดใส่ถ้วยยาไว้บนโต๊ะแล้วยกถ้วยยามาให้หญิงสาวบนเตียงกิน

“เสี่ยวมั่ว” ในร่างเก่านี้ไม่มีความทรงจำใดหลงเหลือ นางอาศัยจำจากในหนังสือนิยายที่อ่านมาเท่านั้น นิยายเล่าถึงสาวใช้เพียงคนเดียวของโจวเจียวเจียวนั่นคือเสี่ยวมั่ว

แต่นางไม่รู้เลยว่าตระกูลโจวมีสาวใช้กี่คน...

“เจ้าค่ะ คุณหนูมีสิ่งใดจะสั่งเสี่ยวมั่วหรือเจ้าคะ แต่จะมีสิ่งใดก็กินยาก่อนเถิดเจ้าค่ะ คุณชายเป็นห่วงคุณหนูมากหากยังไม่หายอีกเกรงว่าต้องเกณฑ์หมอทั่วเมืองแล้วกระมัง” ยาคือสิ่งที่นางเกลียดที่สุด ตลอดชีวิตกินแต่ยาเม็ดต้องมากินยาต้มเช่นนี้ ทำใจไม่ได้จริง ๆ

“ไม่กินไม่ได้หรือ”

“แต่คุณหนูถูกน้ำเย็น จนเป็นไข้หวัดหากไม่หายในเร็ววันนายท่านและฮูหยินต้องเร่งกลับมาแน่เลยเจ้าค่ะ” โจวเจียวเจียวชั่งใจอยู่สักครู่ก่อนจะยกถ้วยยาตรงหน้ามาดื่มรวดเดียวหมด

“อ๊าก ขม”

“นี่ผลไม้แห้งแก้ขมเจ้าค่ะ” มือเล็กรีบเอื้อมไปหยิบผลไม้แห้งรสเปรี้ยวมาใส่ปาก ตั้งแต่สาวใช้เสี่ยวมั่วยังกล่าวไม่จบดี แม้จะช่วยได้ไม่มากก็ยังพอกลบรสฝาดติดลิ้นได้บ้าง

“ข้าตกน้ำได้อย่างไร”

“คุณหนูจำไม่ได้หรือเจ้าคะ” เสี่ยวมั่วเอียงคอถามอย่างสงสัยพลางยกมือขึ้นไปแตะหน้าผากผู้เป็นนายด้วยความเป็นห่วง กลัวว่านางจะไข้ขึ้นจนเลอะเลือนไป

คุณหนูของนางเกลียดสืออีหรานยิ่งกว่าสิ่งใดไม่มีทางลืมว่าถูกนางดึงให้ตกน้ำ แม้นางจะยืนยันว่าคุณหนูไม่ได้ทำแต่คุณชายมู่ก็ไม่เชื่อ เพราะสาวใช้ของสืออีหรานเองก็ยืนยัน ว่าคุณหนูของนางจงใจผลักคุณหนูสือให้ตกน้ำ

“แม่ดอกบัวขาว ฉันคิดถูกจริง ๆ ที่ไม่ชอบนิยายเรื่องนี้ ทั้งพระเอกทั้งนางเอก แทนที่จะชื่อว่าบุพเพรักอันดับหนึ่ง เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็นคู่รักผ่านรกเถอะ”

“คุณหนูหมายถึงสิ่งใดหรือเจ้าคะ”

“ช่างเถอะ ไม่มีสิ่งใดหรอก” นางกล่าวตัดบทพลางครุ่นคิดอีกครา โชคดีที่หลังเรียนจบนางเลือกเรียนภาษาจีนเพื่ออ่านนิยายและดูซีรีส์ หากไม่แล้วนางคงได้แสร้งเป็นใบ้แทน

“เสี่ยวมั่ว หากระดาษกับพู่กันให้ข้าที” สาวใช้ตัวน้อยเบิกดวงตาเล็กเรียวจนกว้าง ตื่นตกใจราวเห็นพุทธองค์ผุดขึ้นตรงหน้า คุณหนูของนางไม่ชอบที่จะขีดเขียนเพราะกลัวนิ้วมือเปรอะเปื้อน

โจวเจียวเจียวเห็นสาวใช้ตนเองมีท่าทางประหลาด พลันนึกขึ้นมาได้ว่าโจวเจียวเจียวผู้นั้นไม่ชื่นชอบ แต่อย่างไรเสี่ยวมั่วก็เป็นสาวใช้ของนาง ปล่อยให้นางสงสัยไปก็ไม่เป็นอันใดจึงไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจผิดใด

“คุณหนูรอสักครู่ เสี่ยวมั่วจะไปขอจากคุณชายมาให้เจ้าค่ะ”

“อืม” เสี่ยวมั่วยืนขึ้นยอบกายแล้วเดินจากไป ทิ้งให้สตรีในอารมณ์สีเหลืองอ่อนนอนพิงหัวเตียงอยู่ลำพัง

เสี่ยวมั่วเดินออกจากเรือนข้างก้าวเท้าอย่างเร่งรีบไปที่ห้องหนังสือของโจวจี้หยวน นางต้องรายงานเรื่องนี้ให้ผู้เป็นนายอีกคนของคฤหาสน์ให้รับรู้

คุณหนูของนางต้องป่วยเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่แปลกไปมากเช่นนี้

ตั้งแต่ที่นางปฏิเสธมู่หลินเฟิงก่อนนี้ ผู้คนก็เอาแต่คิดว่าคุณหนูของบ้านป่วยไข้จนเลอะเลือน

ยามนี้โจวจี้หยวนเองก็กำลังเร่งหาหมอฝีมือฉกาจเพื่อให้มาดูอาการน้องสาวตนเอง

“คุณชายขอรับ เสี่ยวมั่วขอพบขอรับ” ไป๋อวี่ บ่าวรับใช้คนสนิทของโจวจี้หยวนเข้าไปกล่าวรายงาน เมื่อเสี่ยวมั่วมาถึงหน้าห้องตำรา โจวจี้หยวนเงยหน้าจากรายการบัญชีรับเงินจ่ายเงินของร้านค้าตระกูลโจวที่มีอยู่ทั่วเทียนเผิง

“ให้นางเข้ามา” ครู่หนึ่งสาวใช้ร่างเล็กก็เร่งฝีเท้ามายืนอยู่เบื้องหน้า ประสานมือยอบกายคารวะคุณชายคนเดียวของตระกูลโจว

“คารวะคุณชาย”

“เจียวเจียวเป็นอันใด”

“คุณหนูต้องการกระดาษและพู่กันเจ้าค่ะ” โจวจี้หยวนถลึงลุกจากที่นั่งทันทีที่ได้ยินสาวใช้กล่าว แทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าน้องสาวที่เคยเอ่ยว่ามองแท่นฝนหมึกแล้วเวียนหัว จะร้องขอกระดาษและพู่กันเสียเอง

“เห็นทีเจียวเจียวคงป่วยหนักกระมัง ไป๋อวี่รีบให้คนตามหมอเดี๋ยวนี้ ไปข้าจะไปดูเจียวเจียวเอง”

น้ำเสียงร้อนรน อีกทั้งท่าทางเร่งรีบของโจวจี้หยวนบ่งบอกว่าเป็นห่วงน้องสาวเพียงคนเดียวมากเพียงใด เขาเชื่อสนิทใจว่าน้องสาวป่วยหนักเพราะตกน้ำในงานเทศกาลโคมไฟหลายวันก่อน

แต่ก็ไม่ลืมหยิบสิ่งของที่น้องสาวต้องการตามไปด้วย เขาอยากรู้นักว่าน้องสาวอยากได้สิ่งของเหล่านี้ไปทำอันใด

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   กลวิธี

    3กลวิธี“เจียวเจียว เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง” เสียงฝีเท้าย่ำรวดเร็วเรียกให้นางฟื้นจากภวังค์ความคิด ลืมตามองไปทางประตูห้อง ตัวยังไม่ถึงแต่น้ำเสียงห่วงใยนี้กลับมาถึงเร็วยิ่งนักหญิงสาวยกมือขึ้นนวดคลึงขมับตนเองแผ่วเบา มีเรื่องให้นางต้องใช้ความคิดอีกแล้ว จากนี้นางควรแสร้งเป็นโจวเจียวเจียวให้สมบูรณ์ไม่เช่นนั้นคงมีเรื่องให้ปวดหัวไม่เว้นวัน“ท่านพี่ เหตุใดโหวกเหวกเช่นนี้” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลดังเช่นโจวเจียวเจียวคนก่อน แม้เอาแต่ใจแต่นางไม่เคยหยาบคายกับพี่ชายเพียงคนเดียวเลยสักครั้งกลับกันมักออดอ้อนจนสุดท้ายก็ได้สิ่งที่ต้องการ แต่วิธีการเช่นนั้นใช้ไม่ได้กับมู่หลินเฟิง“เสี่ยวมั่วกล่าวว่าเจ้าต้องการกระดาษและพู่กัน”“เป็นเช่นนั้น เจียวเจียวเพียงอยากหาสิ่งใดทำเท่านั้น เหตุใดท่านพี่จึงต้องกระวนกระวายเช่นนี้”“เจ้าป่วยหนักหรือ เหตุใดจึงอยากได้ของที่มองแล้วทำตนเองเวียนหัวเล่า”“ตอนนี้เจียวเจียวไม่รู้สึกเช่นนั้นแล้ว ท่านอย่าได้กังวล ข้าหายดีแล้ว” ผู้ฟังขมวดคิ้วจนหว่างคิ้วย่นลง แม้จะไม่เชื่อว่านางหายแล้ว แต่เท่าที่มองเห็นน้องสาวก็ไม่เป็นอันใดอย่างนางกล่าวจริง ๆเขายกมือแตะหน้าผากนาง ดูว่ายังมีอา

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-08
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตัวละครสำคัญ

    4ตัวละครสำคัญเดิมทีโจวจี้หยวนไม่อยากให้นางไปแต่เมื่อน้องสาวออดอ้อนมีหรือพี่ชายคนนี้จะทนได้ สุดท้ายก็ยอมให้นางไปแต่โดยดี หากไม่ต้องไปตรวจดูการค้าอื่น เขาคงตามไปไม่ให้นางคาดสายตาเป็นแน่เช้าวันต่อมาโจวเจียวเจียวตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางจัดแจงล้างหน้าล้างตา เลือกอาภรณ์สีอ่อนงดงามแต่ไม่โดดเด่น งานพิธีวันนี้เป็นงานปักปิ่นของบุตรสาวตระกูลเฉียน หากแต่งสีฉูดฉาดจนเกินไปเกรงว่านางจะกลายเป็นผู้ที่โดดเด่นเสียเองเมื่อเสี่ยวมั่วมาถึงจึงพบว่าคุณหนูของตนแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงหวีแต่งผมเท่านั้น นางจึงเข้าไปช่วยเหลือ ผมหนาดกดำยาวสลวยครึ่งหนึ่งถูกเกล้าขึ้นไปเป็นมวยอยู่กลางศีรษะ ผมอีกครึ่งที่ปล่อยไว้ถูกมัดปลายด้วยผ้าสีแดงสดปิ่นหยกขาวและปิ่นไข่มุกถูกปักลงไปบนมวยผม แม้ไม่ได้โดดเด่นแต่งดงามไม่น้อยเลย“เสร็จแล้วเจ้าค่ะคุณหนู”“เช่นนั้น เจ้าไปหยิบกล่องไม้บนเตียงข้ามาด้วย” สาวใช้ทำตามอย่างว่าง่ายแต่ก็ไม่ลืมเอ่ยถามความสงสัยภายในออกไป“สิ่งใดหรือเจ้าค่ะ”“วันนี้เป็นพิธีปักปิ่น ข้าย่อมต้องมอบของขวัญให้นางให้สมฐานะบุตรีสกุลโจว ไม่เช่นนั้นก็เสียแรงที่คนเหล่านั้นส่งเทียบเชิญให้แล้ว” นางรู้ดีว่าน้อยคนนักจะช

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-08
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   พอเหมาะพอดี

    5พอเหมาะพอดี“คุณชายท่านมองสิ่งใดอยู่หรือ” บ่าวรับใช้ถามพลางรินน้ำชาบนโต๊ะให้ผู้เป็นนายที่นั่งมองเหม่อไปยังโต๊ะสตรีทั้งสอง ซึ่งยามนี้กำลังพูดคุยหยอกล้อกันจนเพลิดเพลิน“นั่นใช่โจวเจียวเจียวหรือไม่” บุรุษผู้นั้นเอ่ยถาม มือก็รับถ้วยชาที่มีไอร้อนลอยกรุ่นมาจิบ แม้สายตาจะเลิกมองนางแต่ยังไม่ละความสนใจจากนางไปเขาเคยได้ยินผู้คนเล่าลือกันว่าโจวเจียวเจียวเป็นหญิงสาวที่เอาแต่ใจตนเอง ไม่สนใจ ไม่ไว้หน้าผู้ใดนอกเสียจากมู่หลินเฟิง บุรุษที่นางพึงใจที่สุด แต่มู่หลินเฟิงไม่ชื่นชอบนาง“ขอรับนั่นคุณหนูโจว บุตรสาวคนเดียวของตระกูลโจว น้องสาวคนเดียวของคุณชายโจว คุณชายท่านสนใจหรือ”“ข้าหรือจะสนนาง เพียงได้ยินข่าวว่านางจงใจผลักบุตรสาวใต้เท้าสือตกน้ำในงานโคมไฟ จึงอยากรู้ว่านางเป็นคนเช่นไร”“เอาแต่ใจตามประสาบุตรสาวเศรษฐีขอรับ มิต่างจากคุณหนูตระกูลอื่น ต่างก็แต่เป็นคนโพงพางไปเสียหน่อยไม่เหมือนคุณหนูบ้านอื่น”

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-19
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   น่าสนใจ

    6น่าสนใจสืออีหรานเป็นสตรีเจ้าเล่ห์ นางมีความคิดลึกซึ้งกว่าผู้อื่น เชี่ยวชาญการใช้เสน่ห์ตนเองในการหลอกใช้ผู้อื่น หลินซีเป็นคุณชายน้อยตระกูลหลินมีอำนาจ มีผู้คนเกรงใจหากได้เขามาคอยอยู่ข้างกาย ผู้ใดจะกล้าเอ่ยคำไม่ดีต่อนางเมื่อได้รู้จากบุตรสาวคนโตของตระกูลเฉียน วันนี้หลินซีจะมาที่ตระกูลเพื่อร่วมพิธีปักปิ่นนางก็วางแผนไว้แล้ว กลับผิดแผนเพราะหว่านจืออวิ๋นสตรีโง่ผู้นั้นไปเสีย“เจ้า เจ้าคือ...? ช่างเถอะ ข้ามีธุระขอตัวก่อน” สตรีงามย่อมดึงดูดบุรุษ แต่ไม่ใช่กับหลินซีเพราะเขาเองก็งามไม่แพ้สตรี ยิ่งเมื่อไม่มีธุระให้พูดคุยกันเขายิ่งไม่สนใจจะอยู่พูดคุยให้ตกเป็นเรื่องเล่าลืออีกทั้งเขายังต้องไปขอโทษหญิงสาวที่ถูกเขาตวาด นางตั้งใจช่วยเหลือกลับถูกต่อว่า เขานี่ช่างไร้มโนธรรมยิ่งนักร่างสูงโปร่งสวมชุดสีชิงดูสง่ายิ่งเมื่อสอดรับกับใบหน

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-20
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ข้อที่สอง

    7ข้อที่สองสตรีทั้งสองแยกจากกันหน้าประตูสกุลเฉียน รถเทียมม้าสกุลโจวมุ่งหน้าไปบนถนนครึกครื้นของตลาดฝั่งประจิมม่านหน้าต่างถูกตลบขึ้นเพื่อดูผู้คนพลุกพล่านเดินเวียนไปเวียนมาในนิยายกล่าวว่าถนนเส้นนี้ครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คน วันนี้ได้เห็นกับตาเป็นจริงดังนั้น รอยยิ้มเพลิดเพลินประดับไว้บนดวงหน้าจิ้มลิ้มน่าเอ็นดูตลอดการเดินทางเมื่อถึงกลางตลาดนางพลันได้ยินเสียงโหวกเหวกของคนหลายคน ครู่หนึ่งรถม้าก็หยุดลง โจวเจียวเจียวนึกสงสัยจึงเอ่ยถามเสี่ยวมั่วที่นั่งอยู่ข้างกาย เด็กสาวโผล่หน้าออกไปถามคนขับรถม้า“มีสิ่งใดหรือ”“เรียนคุณหนู ตรงหน้ามีขอทานขวางอยู่ขอรับ” โจวเจียวเจียวย่นคิ้วตั้งท่าจะลุกไปดูแต่กลัวว่าจะเป็นที่สนใจมากเกินไป เสี่ยวมั่วจึงโผล่หน้าออกไปฟังความให้แน่ชัดจากนั้นกลับมาแจ้งแก่คุณหนูของตนว่า มีขอทาน

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-21
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   เจียวเจียวสำนึกผิดแล้ว

    8เจียวเจียวสำนึกผิดแล้วตะวันทอแสงยามเช้า หญิงสาวผุดลุกจากเตียงนอนอุ่น ความมุ่งหมายในวันนี้คือถูกมู่หลินเฟิงด่า เขาชอบสตรีเรียบร้อยอ่อนโยนเช่นนั้นวันนี้นางจึงจงใจสวมอาภรณ์สีเข้ม แต่งริมฝีปากด้วยสีชาดที่สดราวกับโลหิตอย่างไรอย่างนั้นนางส่องกระจกพร้อมรอยยิ้ม หมุนตัวไปมาครู่หนึ่งก็เอ่ยชมตนเอง“งามมาก ใช่หรือไม่เสี่ยวมั่ว”“งามเจ้าค่ะ แต่คุณชายมู่คงไม่ชอบกระมังเจ้าคะ” สาวใช้กล่าวขึ้นคุณหนูของนางมักแต่งกายด้วยสีอ่อน เพื่อให้มู่หลินเฟิงสนใจแต่ยามนี้กลับต่างออกไปนางไม่เข้าใจเอาเสียเลยโจวเจียวเจียวคิดว่าเพียงแค่การแต่งกายคงไม่ทำให้มู่หลินเฟิงหันมาสนใจนางได้ในทันที จึงไม่จำเป็นต้องสวมรอยเป็นนางในยามนี้เพราะอย่างไรนางก็เป็นเจียวเจียวที่เขาไม่ต้องใจ จะสวมเสื้อผ้าสีใดก็คงไม่ต่างกัน เพียงแต่สีเข้มคงทำให้เขาร

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-22
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   บุรุษผู้นั้น

    9บุรุษผู้นั้นเจ้าของร่างอรชรวิ่งออกจากห้องตำรามานั่งอยู่ในสวนของลานบ้าน ทั้งที่รู้ว่าตนเองไม่ใช่โจวเจียวเจียวผู้นั้นแต่เมื่อถูกด่าหนักเข้านางกลับรู้สึกแย่ จนไม่อาจละทิ้งคำพูดเมื่อครู่ของมู่หลินเฟิงไปได้เลย“เจียวเจียว” โจวจี้หยวนเสียงเบา น้ำเสียงแฝงความเป็นห่วงไว้มากมาย แม้มู่หลินเฟิงจะเป็นสหาย แต่เขาก็สงสารผู้เป็นน้องสาวเหลือเกิน ในใจมู่หลินเฟิงคงมีเพียงสืออีหราน ไหนเลยจะมีที่ว่างพอให้นางถึงจะพูดไปนางก็ไม่มีทางเชื่อเขาอยู่ดี เขาเลยไม่คิดห้ามนางอีก เพียงปลอบใจอยู่ข้าง ๆ เท่านั้นชายหนุ่มเดินเข้ามาวางมือไว้บนศีรษะนางแผ่วเบา คล้ายกับกำลังปลอบใจนางโดยไร้คำพูดใดโจวเจียวเจียวนางมีพี่ชาย สหาย บิดามารดา และข้ารับใช้ที่ดี เหตุใดจึงหลงรักบุรุษผู้นั้นมากมายถึงเพียงนี้ ทั้งที่หลังจากเขารู้จักสืออีหรานก็ไม่เคยมีความหวังให้นางเลยแม้แต่น้อย

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-23
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ขออภัยที่ทำให้ท่านเสื่อมเสีย

    10ขออภัยที่ทำให้ท่านเสื่อมเสีย“คนเลว โผล่มาให้อารมณ์เสียทำไมเนี่ย เสียระบบหมดอุตส่าห์จะไม่เฟียสดันเฟียสไปจนได้” หญิงสาวพึมพำอย่างหัวเสียพลางใช้เท้าเตะฝุ่นบนพื้นถนน แต่ฝุ่นของนางดันเป็นก้อนใหญ่เกินไป มันกระเด็นไปกระแทกศีรษะบุรุษที่เดินอยู่ด้านหน้าอย่างแรง“โอ๊ย ผู้ใดลอบทำร้ายข้าไม่มีตาหรืออยากตาย” เสียงตวาดข้างหน้าทำให้โจวเจียวเจียวสะดุ้งจนตัวโยน ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดออกมาเพียงแต่ยกมือขึ้นแสดงตัวอย่างกล้า ๆ กลัว ๆบุรุษผู้นั้นเดิมชักสีหน้าน่ากลัวราวกับกำลังจะลงดาบลงกระบี่บั้นคอนาง แต่เมื่อเห็นว่าคนผู้นั้นเป็นนางก็เปลี่ยนสีหน้าไปเป็นยิ้มแย้ม เอ่ยทักนางอย่างเป็นธรรมชาติ“ท่าน คุณหนูโจวใช่หรือไม่”“คารวะคุณชายหลิน ขออภัยเมื่อครู่ไม่ระวังเผลอเตะหินจนโดนหัวท่าน เป็นอะไรหรือไม่”&ldq

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-24

Bab terbaru

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ ฤกษ์ดี [จบ]

    ฤกษ์ดีงานวิวาห์สองงานถูกจัดขึ้นพร้อมกัน เป็นเหตุให้เรื่องนี้ร่ำลือไปทั่วเมืองเทียนเผิง สองตระกูลขุนนางสำคัญวิวาห์บุตรสาวจากตระกูลคหบดีชื่อดัง งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นที่โรงเตี้ยมมีชื่อแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของตระกูลโจวอีกเช่นกันทั้งสองไม่ได้คิดจะแต่งวันเดียวกัน แต่ฤกษ์ดีวันนี้กลับมีเพียงห้าปีครั้ง หลินซีเองก็ไม่อยากรอ มู่หลินเฟิงก็ไม่อยากรอ ยิ่งมีบุตรปีนี้จะเกื้อหนุนครอบครัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งสตรีทั้งสองยังกลัวจะไม่ได้ไปร่วมดื่มอวยพรให้อีกฝ่ายเมื่อเลือกไม่ได้จึงตกลงแต่งพร้อมกัน มู่หลินเฟิงและหลินซียังคงปะทะฝีปากกันบ่อย ๆ แต่ทุกครั้งก็ถูกว่าที่ภรรยาตำหนิจนหน้าบูดกันไปทุกทีหากงานจัดในบ้าน เจ้าสาวย่อมไม่มีหน้าที่มาต้อนรับ แต่งานวิวาห์นี้กลับจัดในโรงเตี้ยมใหญ่โต เจ้าสาวทั้งสองจึงสวมผ้าคลุมหน้าพูดคุยกับผู้มาร่วมยินดีด้วยได้ กระทั่งมีชายสูงศักดิ์ผู้หนึ่งเดินเข้ามาคารวะสุรากับโจวเจียวเจียว“

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ อารมณ์ดี

    ตอนพิเศษอารมณ์ดีหลังถูกสตรีในใจปฏิเสธชัดเจน หลินซีรู้สึกว่าตนเองต้องเสียใจมากเป็นแน่ ทว่าเรื่องราวไม่เป็นเช่นนั้น เขารู้สึกราวยกภูเขาออกจากอกเสียมากกว่า ร่างสูงโปร่งที่มีใบหน้างดงามราวอิสตรีเดินเอื่อยไปเรื่อย ๆ บนถนนเส้นหลักของตลาดฝั่งประจิมแม้จะมีใบหน้างดงามจนหาที่เปรียบได้ยากและเป็นที่ชื่นชอบของสตรีมากมาย แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าก่อกวนเพราะตระกูลนักรบเช่นเขาไหนเลยจะรู้จักรักหยกถนอมบุปผาได้เฉิงเชียงที่เดินอยู่ด้านหลังขยับขึ้นมากระซิบชายหนุ่มแผ่วเบา“คุณชายนั่นแม่นางจืออวิ๋นขอรับ” หว่านจืออวิ๋นเป็นสตรีที่งดงามราวเทพธิดาไม่ต่างสืออีหราน ต่างกันเพียงนางไม่ใช่บุตรสาวตระกูลขุนนาง หากแต่เป็นบุตรสาวพ่อค้ายามนี้ไร้ซึ่งเงาของสืออีหราน นางจึงเป็นที่เลื่องลือมากยิ่งขึ้น มีบรรดาบุตรชายขุนนางหลายคนมาทำความรู้จัก บางคนต้อ

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   พิมดาว

    47พิมดาวจวนตระกูลมู่เงียบเชียบราวกับจวนร้างแต่ยังมีเสียงเล็ดลอดออกมาทำให้รู้ว่าแท้จริงที่นี่มิได้ร้างผู้คน สตรีวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเตียงสีหน้าเศร้าหมองไม่น้อย นางชี้หน้าผู้เป็นสามีต่อว่าเขาแต่ตนเองกับร่ำ ๆ จะร้องไห้บุตรชายนางไปทำงานต่างเมืองสองเดือนแล้ว แม้มีจดหมายแต่ราวกับไม่มี จดหมายนั้นหาใช่บุตรชายนางเขียน หากบุตรชายนางยังอยู่ดีเหตุใดจึงไม่เขียนจดหมายมาเอง“ท่านโกหกข้า ลูกข้าอยู่ที่ใด ฮือ...” อี้ฮูหยินกล่าวไปร่ำไห้ไป จดหมายสองฉบับที่ส่งมา ลายมือแทบไม่ต่างจากบุตรชายแต่นางที่เฝ้ามองบุตรชายเติบใหญ่ มีหรือไม่สามารถจำได้ลายมือบนจดหมายถูกปลอมแปลงขึ้น แล้วเหตุใดต้องปลอมหากไม่ใช่เพราะบุตรชายนาง...“ฮูหยินเจ้าใจเย็น ๆ เสียก่อน เฟิงเอ๋อร์ยังอยู่ดี”“อยู่ดีหร

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ขอเพียงท่านฟื้น

    46ขอเพียงท่านฟื้นปลายวสันต์ลมโชยพัดผ่านกิ่งไม้ใบไม้เสียดสีกันฟังราวกับกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีให้ความสดชื่นไม่น้อย เพียงแต่ที่นี่คือเรือนข้างในคฤหาสน์หลังใหญ่สกุลโจว ร่างสูงโปร่งบนเตียงก็ยังคงหลับตาอยู่เช่นเดิมหญิงสาวใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมดำสนิทที่ถูกลมพัดของมู่หลินเฟิงออกจากใบหน้า“สองเดือนแล้วที่ท่านปล่อยให้ข้าพูดคุยเพียงลำพัง ยังไม่ทันได้หมั้นหมายก็ทิ้งให้ข้ากังวลเช้าเย็นเช่นนี้ คิดว่าข้ายังจะอยากแต่งกับท่านอีกหรือคุณชายมู่” บ่นไปก็เช็ดตัวเขาไป นางทำจนเคยชินไปเสียแล้ว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนนางจึงเช็ดเนื้อเช็ดตัวของเขาทั้งเช้าและเย็นเดิมทีนางคิดว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาภายในหนึ่งเดือน เพราะก่อนนี้เขาตอบสนองนางด้วยการขยับนิ้ว แต่ก็เพียงแค่ครั้งเดียว ดูเหมือนอี้ฮูหยินเองก็เริ่มสงสัยแล้วเหมือนกันว่าบุตรชายไม่ได

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ข้ายังรออยู่

    45ข้ายังรออยู่ตระกูลสือที่รุ่งเรืองในอดีต ยามนี้จบสิ้นแล้วทั้งตระกูล ประตูใหญ่จวนสือที่เคยรุ่งโรจน์บรรดาขุนนางน้อยใหญ่ตบเท้าเข้ามาทำความรู้จัก บัดนี้มีเพียงเศษใบไม้ปลิดปลิว เวิ้งว้างวังเวง ประตูปิดสนิทถูกแปะทับด้วยกระดาษสีแดงแผ่นยาวในตลาดมีประกาศความผิดติดไว้ให้ผู้คนรับรู้ ตระกูลสือกำเริบเสิบสาน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย สตรีสกุลสือไร้คุณธรรมบงการลอบทำร้ายผู้อื่น ต้องโทษทั้งตระกูล ยึดทรัพย์ยึดจวน ริบคืนบรรดาศักดิ์ทั้งหมดสือจินเฉิงถูกโบยห้าสิบครั้ง เนรเทศไปชายแดน สืออีหรานถูกโบยสามสิบครั้งถูกกรีดใบหน้าด้านขวาว่าไร้คุณธรรม เกรงว่าชั่วชีวิตนี้นางคงไม่อาจผูกสมัครรักผู้ใดได้อีก ส่วนมารดาของนางถูกโบยยี่สิบครั้งฐานเป็นมารดาที่สั่งสอนบุตรสาวไร้คุณธรรมเมื่อได้ยินเรื่องนี้โจวเจียวเจียวไม่ได้มีท่าทางยินดียินร้ายใดต่อเรื่องที่ได้ย

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ท่านต้องฟื้น

    44ท่านต้องฟื้นจวนแม่ทัพหลินมู่หลินเฟิงถูกพากลับมายังจวนตระกูลหลิน เพราะอยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งหมอของตระกูลหลินเชี่ยวชาญชำนาญบาดแผลเช่นนี้มากกว่า ร่างโชกเลือดถูกยกเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง สาวใช้สองสามคนช่วยท่านหมออยู่ภายใน ผ่านไปเกือบสองเค่อจึงยกเอาอ่างไม้ออกมา เปลี่ยนเป็นน้ำร้อนแล้วเข้าไปอีกโจวเจียวเจียวเดินวนไปวนมา ร้อนใจนักไม่รู้คนโง่ผู้นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง มีดปักคาไว้ไม่รู้ถูกส่วนสำคัญบ้างหรือไม่เหตุใดคน ๆ นั้นจึงโง่เช่นนี้ การช่วยคนต้องช่วยโดยไม่ให้ตนเองเป็นอันตรายไปด้วย นี่อันใดกันทำตนเองบาดเจ็บคาบเกี่ยวชีวิต คิดแล้วยิ่งขุ่นเคืองเป็นถึงจอหงวนสิ้นคิดนักหญิงสาวทำได้เพียงต่อว่าเขาในใจ นางต่อว่าเขาจนลืมไปกระมังว่าตนเองก็ตายเพราะช่วยผู้อื่น“ท่านหมอ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ร่างเล็กปรี่เข้าไปถาม

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   มีสิ่งใดจะสั่งเสีย

    43มีสิ่งใดจะสั่งเสียทัศนวิสัยเบื้องหน้าช่างพร่าเลือนหลังฟื้นคืนสติโจวเจียวเจียวพยายามหรี่ตาลงเล็กน้อยมองลอดรูเล็กบนผนัง กลิ่นอับบนผนังบ่งบอกว่าที่นี่เก่ามากเพียงใด ด้านในไม่มีเงาผู้คนเช่นนั้นคนชุดดำคงอยู่ด้านนอก“นางฟื้นหรือยัง” เสียงทุ้มแว่วมาจากหลังประตู โจวเจียวเจียวแสร้งเอนกายลงนอนบนพื้นไม้ผุพังทำเหมือนตนเองยังไม่ฟื้นคืนสติ ครู่หนึ่งจึงได้ยินเสียงเปิดประตู ไม่รู้ว่าที่แท้คนเหล่านี้ต้องการสิ่งใดจากนางแต่คนเหล่านี้เป็นคนของสืออีหรานแน่นอน เพราะบนโลกนี้คนที่เกลียดนางมีเพียงสตรีแซ่สือ อีกทั้งก่อนหน้านางยังมาพูดจาข่มโอ้อวดว่าตนกำลังจะได้แต่งกับมู่หลินเฟิง ทว่าผ่านไปเพียงคืนเดียวก็หล่นจากความฝันเสียแล้ว“นางยังไม่ฟื้น”“ฟื้นไม่ฟื้นก็ช่าง รีบจัดการเสีย ยามนี

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ถูกจับตัวไป

    42ถูกจับตัวไปกระดาษใบแรกถูกเปิดอ่าน ในกระดาษมีเพียงประโยคเดียวเหมือนจดหมายตอบกลับอย่างไรอย่างนั้น อ่านจบแผ่นแรกก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาทั้งที่ไม่ใช่ข้อความหวานซึ้งใดแท้ ๆ‘ข้าไม่คิดถึงท่าน’‘ข้าไม่คิดถึงท่าน’‘ข้าไม่คิดถึงท่าน’‘ข้าไม่คิดถึงท่าน’ จดหมายสี่ฉบับแรกเนื้อความเหมือนกัน ข้อความสั้น ๆ ไม่ลงชื่อแต่กลับเรียกรอยยิ้มของผู้อ่านได้เป็นอย่างดีหากนางไม่คิดถึงจริง ๆ จะอุตส่าห์เขียนจดหมายตอบกลับเขาทุกฉบับหรือ แม้นางจะบอกว่าไม่คิดถึงแต่ยามที่เขียนข้อความนี้ลงไป นางย่อมต้องนึกถึงคำถามเป็นแน่แต่จดหมายฉบับสุดท้ายกลับต่างออกไป ตัวหนังสือเล็กแต่เป็นระเบียบ สะอาดตา ไม่น่าเชื่อว่าเจียวเจียวที่เกลียดการเขียนอักษรจะเขียนได้ดีเช่นนี้ ตัวอักษรตรงหน้าไม

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   เช่นนั้นท่านก็กลับไป

    41เช่นนั้นท่านก็กลับไปหน้าคฤหาสน์สกุลโจวร่างสูงสง่ายืนตระหง่านอยู่หน้าประตูใหญ่ หลังเฉากงกงประกาศพระราชโองการวันต่อมามู่หลินเฟิงจึงมาถึงจวนตั้งแต่เช้า เขาต้องการพูดคุยโจวเจียวเจียวเรื่องการสมรสนี้สิ่งที่ทำให้เขาเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนจนเสร็จรวดเร็ว คือข่าวสารจากองค์ชายรอง ในจดหมายกล่าวเพียงประโยคเดียวก็ทำเขาร้อนรนนั่งไม่ติดเก้าอี้เสียแล้ว‘ข่าวว่าช่วงนี้ตระกูลหลินเตรียมขบวนสินสอด’ตระกูลหลินมีบุตรชายเพียงคนเดียวนั่นคือหลินซี ฉะนั้นการหมั้นหมายนี้ย่อมเป็นของหลินซี เพียงแต่ไม่รู้ว่าเจ้าสาวผู้นั้นเป็นใคร มู่หลินเฟิงคิดถึงภาพที่นางและหลินซีไล่ตีกันจึงคิดว่าอย่างไรก็คงเป็นเจียวเจียว จึงเร่งจัดการงานให้เสร็จแล้วรีบกลับมายังเมืองหลวงทว่าทุกสิ่งก็ยังเหนือความหมายของเขาอยู่ดี แม้จะดีใจที่ได้ประทานสมรสกั

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status