Share

กลวิธี

last update Last Updated: 2024-12-08 12:45:30

3

กลวิธี

“เจียวเจียว เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง” เสียงฝีเท้าย่ำรวดเร็วเรียกให้นางฟื้นจากภวังค์ความคิด ลืมตามองไปทางประตูห้อง ตัวยังไม่ถึงแต่น้ำเสียงห่วงใยนี้กลับมาถึงเร็วยิ่งนัก

หญิงสาวยกมือขึ้นนวดคลึงขมับตนเองแผ่วเบา มีเรื่องให้นางต้องใช้ความคิดอีกแล้ว จากนี้นางควรแสร้งเป็นโจวเจียวเจียวให้สมบูรณ์ไม่เช่นนั้นคงมีเรื่องให้ปวดหัวไม่เว้นวัน

“ท่านพี่ เหตุใดโหวกเหวกเช่นนี้” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลดังเช่นโจวเจียวเจียวคนก่อน แม้เอาแต่ใจแต่นางไม่เคยหยาบคายกับพี่ชายเพียงคนเดียวเลยสักครั้ง

กลับกันมักออดอ้อนจนสุดท้ายก็ได้สิ่งที่ต้องการ แต่วิธีการเช่นนั้นใช้ไม่ได้กับมู่หลินเฟิง

“เสี่ยวมั่วกล่าวว่าเจ้าต้องการกระดาษและพู่กัน”

“เป็นเช่นนั้น เจียวเจียวเพียงอยากหาสิ่งใดทำเท่านั้น เหตุใดท่านพี่จึงต้องกระวนกระวายเช่นนี้”

“เจ้าป่วยหนักหรือ เหตุใดจึงอยากได้ของที่มองแล้วทำตนเองเวียนหัวเล่า”

“ตอนนี้เจียวเจียวไม่รู้สึกเช่นนั้นแล้ว ท่านอย่าได้กังวล ข้าหายดีแล้ว” ผู้ฟังขมวดคิ้วจนหว่างคิ้วย่นลง แม้จะไม่เชื่อว่านางหายแล้ว แต่เท่าที่มองเห็นน้องสาวก็ไม่เป็นอันใดอย่างนางกล่าวจริง ๆ

เขายกมือแตะหน้าผากนาง ดูว่ายังมีอาการตัวร้อนเหมือนสองสามวันก่อนอยู่หรือไม่

“ไม่มีไข้แล้วจริง ๆ เช่นนั้นพี่ก็หมดห่วง นอกจากนี้เจ้ายังต้องการสิ่งใดอีกหรือไม่” โจวจี้หยวนกล่าวพลางหันไปรับของจากไป๋อวี่บ่าวคนสนิท วางมันไว้บนเตียง ก่อนจะส่งยิ้มเอ็นดูให้หญิงสาวตรงหน้า

“ไม่แล้วเจ้าค่ะ ท่านพี่ไปทำงานเถอะ อย่ามัวแต่สนใจข้า เพียงเท่านี้ท่านพี่ก็มีงานยุ่งมากพอแล้ว” นางกล่าวพลางส่งยิ้มไร้เดียงสาให้ผู้เป็นพี่ชาย โจวจี้หยวนดีใจจนน้ำตาเกือบไหล นึกเอ็นดูนางในใจขึ้นมา นางคงโตแล้วกระมังจึงได้รู้ความเช่นนี้

เดิมทีโจวจี้หยวนก็รักเอ็นดูน้องสาวผู้นี้อยู่แล้ว ในชีวิตนี้แทบจะนับครั้งได้เลยว่าเคยดุนางกี่หน พอนางรู้ความแววตาใสซื่อเช่นนี้จึงยิ่งน่าเอ็นดูมากขึ้น

หากเป็นเมื่อก่อนนางคงถามว่ามู่หลินเฟิงมาเยี่ยมนางหรือไม่เป็นอย่างแรก แต่พูดคุยกันอยู่นานนางไม่ถามถึงสหายเขาเลยแม้ครึ่งคำ

“เจียวเจียวของพี่รู้ความยิ่งนัก เช่นนั้นหากต้องการสิ่งใดให้เสี่ยวมั่วไปแจ้งพี่จะให้คนจัดหาให้เจ้า ช่วงนี้ก็พักผ่อนให้ดีเถอะ”

“เจ้าค่ะ เช่นนั้นท่านพี่กลับไปทำงานเถิด ข้าจะนอนพักอีกสักหน่อย”

“ได้ เช่นนั้นเจ้าพักเถอะ เย็นนี้พี่จะให้คนนำยาบำรุงมาให้”

“เจ้าค่ะ” โจวเจียวเจียวรับคำจากนั้นแสร้งนอนลงบนเตียง โจวจี้หยวนจึงดึงผ้าขึ้นมาห่มคลุมให้นางไว้ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ตระกูลโจวมีทายาทเพียงสองคนหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรี บุตรชายมากความรู้เฉลียวฉลาด หากฝักใฝ่การสอบขุนนางภายหน้าต้องเป็นขุนนางสำคัญ แต่โจวจี้หยวนนั้นไม่ต้องการทำงานภายใต้การควบคุมของราชสำนัก กลับชอบการค้าจึงเป็นผู้สืบทอดการค้าแทบทั้งหมดของตระกูลโจวที่มีอยู่ทั่วเมือง

โจวเจียวเจียว บุตรสาวเพียงคนเดียวที่คนทั้งตระกูลพากันรักเอาใจ แม้จะดื้อรั้นไปบ้างแต่นางกลับเป็นคนตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่เสแสร้ง แต่น่าแปลกที่หลายคนไม่ชอบนาง รวมถึงมู่หลินเฟิงสหายของพี่สาว

ไม่ชอบยังพอเข้าใจแต่บางคราเขากลับทำท่าราวกับเกลียดนาง ทั้งที่เมื่อก่อนเขารักตามใจนางไม่ต่างจากโจวจี้หยวน อาจมากกว่าเสียด้วย โจวเจียวเจียวเองทำดีต่อเขาเสมอ กระนั้นนางก็ไม่ยอมแพ้หวังว่าสักวันจะชนะนางในใจเขาได้

โจวเจียวเจียวไม่ชอบวาดเขียน ไม่ชอบทำการค้าตรวจบัญชี โจวจี้หยวนก็ไม่เคยบังคับปล่อยให้นางได้ใช้ชีวิตอย่างที่อยากทำ งานร้านค้าของตระกูลตนเองรับทำเองทั้งหมด ไว้รอให้นางถูกใจบุรุษคนใดค่อยให้สินเดิมมากหน่อยนางจะได้ไม่ลำบากไปตลอดชีวิต

ส่วนบิดาและมารดายามนี้ลงใต้ไปเยี่ยมบ้านเก่ามารดาซ้ำยังไปตกลงเรื่องการค้า มอบหมายให้บุตรชายดูแลบุตรสาวอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลโจว

โชคดีที่ก่อนนี้นางไม่เป็นอันใดมากไม่เช่นนั้นไม่รู้เลยว่าจะรายงานกับบิดามารดาอย่างไร

ลับหลังโจวจี้หยวน หญิงสาวที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงก็ลุกขึ้นนั่ง ชะเง้อคอมองดูจนแน่ใจว่าเขาไปแล้วจริง ๆ จึงยกแท่นฝนหมึก กระดาษและพู่กันไปยังโต๊ะริมหน้าต่าง

“คุณหนูจะทำสิ่งใดหรือเจ้าคะ”

“หาอะไรทำแก้เบื่อ เสี่ยวมั่วเจ้ามานี่ฝนหมึกให้ข้าที” นางเอ่ยพลางกวักมือเรียกสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างเตียงให้มายังริมหน้าต่าง เด็กสาวผู้นั้นเดินตามมาอย่างว่าง่าย รับแท่นหมึกในมือผู้เป็นนายมาถือเอาไว้

“เจ้าฝนข้าจะเขียน” เสี่ยวมั่วพยักหน้าย่อตัวนั่งลงบนพื้นข้าง ๆ โต๊ะ ฝนหมึกให้โจวเจียวเจียวเขียนสิ่งแปลกตาลงกระดาษเนื้อดีที่โจวจี้หยวนนำมาส่งให้เมื่อครู่

“คุณหนูท่านเขียนสิ่งใดเจ้าคะ เหตุใดไม่คุ้นตาเลย” เด็กสาวเอียงคอมองอักษรบนกระดาษที่ผู้เป็นนายเขียนไว้ แม้นางจะไม่รู้หนังสือแต่อักษรบางตัวนางคุ้นเคย แต่อักษรบนกระดาษของผู้เป็นนายนางไม่คุ้นชินแม้แต่น้อย

หากนางอยากรอดชีวิตไม่จบชีวิตดังเช่นในนิยายที่เคยอ่าน นางควรเตรียมพร้อมทุกอย่างไม่ให้หลุดรอดแม้แต่อย่างเดียว

สิ่งแรกที่นางไม่ควรทำคือการเขียนบันทึกต่าง ๆ หากมีผู้ใดพบเข้าจะเป็นภัยต่อตนเอง แต่หากไม่บันทึกนางจะจำมันได้อย่างไรเล่าว่าควรดำเนินการเช่นใดบ้าง

เมื่อคิดเช่นนี้โจวเจียวเจียวจึงเขียนภาษาที่ไม่มีผู้ใดเข้าใจลงไปบนกระดาษเนื้อดีบนโต๊ะ มุมปากยกยิ้มพอใจกับความคิดของตนเอง

วิธีหนีการเป็นนางร้าย เพื่อเป็นตัวประกอบ

ข้อแรก อย่าทำตัวฉลาดเกินจากนิสัยเดิมของตัวละคร

หญิงสาวเขียนได้เพียงสองบรรทัดก็มีสาวใช้มาพบ ในมือถือเทียบเชิญมาด้วย เทียบเชิญจากตระกูลเฉียนเพื่อเชิญนางเข้าร่วมงานปักปิ่นของบุตรสาวคนรอง แม้โจวเจียวเจียวจะเอาแต่ใจแต่ตระกูลโจวนั้นร่ำรวยเป็นที่ต้อนรับ อีกทั้งพี่ชายยังไม่แต่งงาน เช่นนี้จึงมีคนต้องการผูกมิตรด้วยมากมาย

หญิงสาวเงยหน้าจากกระดาษเพื่อมองสาวใช้ที่เพิ่งเดินเข้ามา

เสี่ยวมั่วเดินไปรับเทียบเชิญมาให้ผู้เป็นนายโดยไม่ต้องรอคำสั่ง

เทียบเชิญจากตระกูลเฉียนกระมัง โจวเจียวเจียวคิดในใจ นางจำได้ว่าอีกไม่กี่วันโจวเจียวเจียวก็มีเรื่องทะเลาะกับสืออีหรานในงานปักปิ่นนี้ เช่นนั้นอย่างไรนางก็คงต้องไป

อีกทั้งนางมีเรื่องต้องทำในพิธีปักปิ่นนี้ด้วยเช่นกัน...

Related chapters

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตัวละครสำคัญ

    4ตัวละครสำคัญเดิมทีโจวจี้หยวนไม่อยากให้นางไปแต่เมื่อน้องสาวออดอ้อนมีหรือพี่ชายคนนี้จะทนได้ สุดท้ายก็ยอมให้นางไปแต่โดยดี หากไม่ต้องไปตรวจดูการค้าอื่น เขาคงตามไปไม่ให้นางคาดสายตาเป็นแน่เช้าวันต่อมาโจวเจียวเจียวตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางจัดแจงล้างหน้าล้างตา เลือกอาภรณ์สีอ่อนงดงามแต่ไม่โดดเด่น งานพิธีวันนี้เป็นงานปักปิ่นของบุตรสาวตระกูลเฉียน หากแต่งสีฉูดฉาดจนเกินไปเกรงว่านางจะกลายเป็นผู้ที่โดดเด่นเสียเองเมื่อเสี่ยวมั่วมาถึงจึงพบว่าคุณหนูของตนแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงหวีแต่งผมเท่านั้น นางจึงเข้าไปช่วยเหลือ ผมหนาดกดำยาวสลวยครึ่งหนึ่งถูกเกล้าขึ้นไปเป็นมวยอยู่กลางศีรษะ ผมอีกครึ่งที่ปล่อยไว้ถูกมัดปลายด้วยผ้าสีแดงสดปิ่นหยกขาวและปิ่นไข่มุกถูกปักลงไปบนมวยผม แม้ไม่ได้โดดเด่นแต่งดงามไม่น้อยเลย“เสร็จแล้วเจ้าค่ะคุณหนู”“เช่นนั้น เจ้าไปหยิบกล่องไม้บนเตียงข้ามาด้วย” สาวใช้ทำตามอย่างว่าง่ายแต่ก็ไม่ลืมเอ่ยถามความสงสัยภายในออกไป“สิ่งใดหรือเจ้าค่ะ”“วันนี้เป็นพิธีปักปิ่น ข้าย่อมต้องมอบของขวัญให้นางให้สมฐานะบุตรีสกุลโจว ไม่เช่นนั้นก็เสียแรงที่คนเหล่านั้นส่งเทียบเชิญให้แล้ว” นางรู้ดีว่าน้อยคนนักจะช

    Last Updated : 2024-12-08
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   บทนำ

    บทนำเปลือกตาสีอ่อนขยับแผ่วเบาก่อนจะเปิดขึ้น เผยให้เห็นนัยน์ตากระจ่างใสดุจผืนธารากว้าง หว่างคิ้วย่นลงเล็กน้อยราวกับไม่คุ้นเคยสถานที่ตรงหน้าเอาเสียเลยหยัดกายลุกนั่งได้จึงเร่งหย่อนเท้าลงข้างเตียงเตาซึ่งแกะสลักลวดลายประณีต ตามประสาตระกูลร่ำรวย เท้าเปล่าเปลือยเหยียบไปบนพื้นห้องเยียบเย็นอย่างระวัง สองเท้าก้าวแผ่วเบา นัยน์ตากลมกระจ่างจดจ้องไปทั่วห้อง แต่อย่างไรก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตอื่นใดนอกเหนือจากตนเอง สายตานางจึงมุ่งไปยังประตูไม้ตรงหน้าบนบานประตูประดับกระดาษไขอย่างดีบดบังแสงไม่ให้ส่องเข้ามาภายในห้องมากนักตลอดการกระทำทั้งหมดนี้นางไม่ปริปากออกมาแม้แต่ครึ่งคำ เพราะไม่มีเสียงอื่นใดนางจึงได้ยินเสียงที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลแว่วมา“หลินเฟิง เจ้ากล่าวเช่นนั้นก็ไม่ถูกนัก แม้ข้าจะไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับพวกนางทั้งสอง แต่ข้ามั่นใจว่าเจียวเจียวของเรา ไม่มีทางลงมือฆ่าผู้ใดได้” น้ำเสียงที่กล่าวนั่นอ่อนโยนแต่แฝงด้วยความมั่นใจ เป็นน้ำเสียงที่นางรู้สึกคุ้นหูนัก กระนั้นก็นึกไม่ออกว่าเป็นเสียงผู้ใด“เช่นนั้นจี้หยวนเจ้าหมายความว่าคุณหนูอสือโป้ปดข้าหรือ” บุรุษที่เอ่ยคำกล่าวนี้น้ำเสียงช่างเกรี้ยวกราดนัก แต่เหต

    Last Updated : 2024-12-08
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ดวงตะวันสีแดงพระจันทร์สีเลือด

    1ดวงตะวันสีแดงพระจันทร์สีเลือด“นี่เธอ เมื่อไหร่จะเลิกให้ข้าวคนไร้บ้านพวกนั้นสักที” ชายหนุ่มแต่งตัวจัดจ้านถามขึ้น ขณะดวงตาก็ปรายมองยังคนไร้บ้านสองคนที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ตรงโต๊ะนอกกระจกร้านอาหารของเธอพิมดาว หญิงสาวอายุยี่สิบสองเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีสาขาโภชนาการอาหาร หลังเรียนจบก็นำเงินที่มีมาลงทุนเปิดร้านอาหาร ทำเลตั้งอยู่ตรงข้ามทางเข้าหมู่บ้านหรูหากเทียบกับค่าครองชีพในปัจจุบัน“จะทำได้ยังไงคะพี่ เป็นร้านอาหารแต่ปล่อยคนหิวพิมทำไม่ได้” เธอตอบเขาพลางเหลือบมองไปนอกกระจกร้าน มือก็เช็ดโต๊ะที่พึ่งเก็บเสร็จ แม้ไม่ใช่คนร่ำรวย แต่เธอก็มีมากพอจะแบ่งปันให้ผู้อื่นถึงจะแค่เล็กน้อยก็ตามเธอเป็นลูกคนเดียวและตอนนี้ก็เหลือเพียงตัวคนเดียวจึงไม่กังวลกับสิ่งใดอีก ชีวิตเธอก็มีเพียงแค่นี้ทำงานหาเงิน ทำบุญให้อาหารคนหิวโหยบ้าง หลังปิดร้านก็นอนอ่านหนังสือ ดูซีรีส์ตามประสาสาวโสด“งั้นเธอก็ไปใจบุญที่อื่นสิ ลูกบ้านร้องเรียนมาไม่รู้กี่รอบแล้ว เขาบอกว่าร้านเธอทำให้หมู่บ้านดูโลมาก”“ก็แค่ให้อาหารคนหิว มันดูต่ำตรงไหนคะ พิมไม่ย้ายหรอก ถ้าใครไม่พอใจก็ย้ายเองเลย” หญิงสาวไม่ยอมแพ้ เดือนนี้นี่เป็นครั้งที่สี่แล้วที่นิติ

    Last Updated : 2024-12-08
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ป่วยจนเลอะเลือน

    2ป่วยจนเลอะเลือนห้าวันหลังจากเทศกาลโคมไฟ หญิงสาวลืมตาขึ้นเมื่อผู้คนในห้องออกไปจนหมดก่อน จึงลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงอุ่น เพราะเหตุใดนางจึงมาอยู่ที่นี่ได้เล่า ไม่มีเหตุผลรองรับเอาเสียเลย ซ้ำยังต้องมาอยู่ในร่างนางร้ายสุดแสนอาภัพผู้นี้อีกจะกล่าวว่านางเป็นนางร้ายก็ร้ายไม่เท่านางร้ายคนอื่น ๆ หรือแม้แต่นางเอกของเรื่องยังร้ายเสียกว่า นางร้ายเพราะนางมักถูกมอบบทนางร้ายให้มากกว่าจะแสดงเอง นอกจากนี้สุดท้ายยังต้องตายเพราะพระเอกสุดที่รักของนางอีกต่างหากก่อนตายนางก็เป็นคนดีมาตลอดเหตุใดพอได้มีโอกาสใช้ชีวิตจึงทำให้นางมีโชคชะตาเช่นนี้กันเล่า“ขอบคุณสวรรค์ที่มอบบทตัวละครที่สุดแสนจะโชคดีคนนี้ให้ เฮ้อ เอาไงต่อดีไอ้พิม” หญิงสาวพึมพำกับตนเอง นางอ่านหนังสือมามากส่วนใหญ่ผู้ที่มาเป็นนางร้ายหรือตัวประกอบหากทำตัวโจ่งแจ้งไปจะกลายเป็นที่สนใจ สุดท้ายกลายเป็นตัวดำเนินเรื่องทั้งนั้นนางควรทำอย่างไรดี นางไม่อยากมีส่วนในนิยายเรื่องนี้แล้วยิ่งไม่อยากตายอย่างอนาถภายใต้คมดาบของบุรุษใจคอโหดเหี้ยม หลอกใช้สตรีเช่นมู่หลินเฟิงคิดไปก็พลันปวดหัวไปสงสัยนางจะไข้ขึ้นเสียแล้ว คงเพราะร่างกายบอบบางของโจวเจียวเจียวนี่กระมัง

    Last Updated : 2024-12-08

Latest chapter

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตัวละครสำคัญ

    4ตัวละครสำคัญเดิมทีโจวจี้หยวนไม่อยากให้นางไปแต่เมื่อน้องสาวออดอ้อนมีหรือพี่ชายคนนี้จะทนได้ สุดท้ายก็ยอมให้นางไปแต่โดยดี หากไม่ต้องไปตรวจดูการค้าอื่น เขาคงตามไปไม่ให้นางคาดสายตาเป็นแน่เช้าวันต่อมาโจวเจียวเจียวตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางจัดแจงล้างหน้าล้างตา เลือกอาภรณ์สีอ่อนงดงามแต่ไม่โดดเด่น งานพิธีวันนี้เป็นงานปักปิ่นของบุตรสาวตระกูลเฉียน หากแต่งสีฉูดฉาดจนเกินไปเกรงว่านางจะกลายเป็นผู้ที่โดดเด่นเสียเองเมื่อเสี่ยวมั่วมาถึงจึงพบว่าคุณหนูของตนแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงหวีแต่งผมเท่านั้น นางจึงเข้าไปช่วยเหลือ ผมหนาดกดำยาวสลวยครึ่งหนึ่งถูกเกล้าขึ้นไปเป็นมวยอยู่กลางศีรษะ ผมอีกครึ่งที่ปล่อยไว้ถูกมัดปลายด้วยผ้าสีแดงสดปิ่นหยกขาวและปิ่นไข่มุกถูกปักลงไปบนมวยผม แม้ไม่ได้โดดเด่นแต่งดงามไม่น้อยเลย“เสร็จแล้วเจ้าค่ะคุณหนู”“เช่นนั้น เจ้าไปหยิบกล่องไม้บนเตียงข้ามาด้วย” สาวใช้ทำตามอย่างว่าง่ายแต่ก็ไม่ลืมเอ่ยถามความสงสัยภายในออกไป“สิ่งใดหรือเจ้าค่ะ”“วันนี้เป็นพิธีปักปิ่น ข้าย่อมต้องมอบของขวัญให้นางให้สมฐานะบุตรีสกุลโจว ไม่เช่นนั้นก็เสียแรงที่คนเหล่านั้นส่งเทียบเชิญให้แล้ว” นางรู้ดีว่าน้อยคนนักจะช

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   กลวิธี

    3กลวิธี“เจียวเจียว เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง” เสียงฝีเท้าย่ำรวดเร็วเรียกให้นางฟื้นจากภวังค์ความคิด ลืมตามองไปทางประตูห้อง ตัวยังไม่ถึงแต่น้ำเสียงห่วงใยนี้กลับมาถึงเร็วยิ่งนักหญิงสาวยกมือขึ้นนวดคลึงขมับตนเองแผ่วเบา มีเรื่องให้นางต้องใช้ความคิดอีกแล้ว จากนี้นางควรแสร้งเป็นโจวเจียวเจียวให้สมบูรณ์ไม่เช่นนั้นคงมีเรื่องให้ปวดหัวไม่เว้นวัน“ท่านพี่ เหตุใดโหวกเหวกเช่นนี้” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลดังเช่นโจวเจียวเจียวคนก่อน แม้เอาแต่ใจแต่นางไม่เคยหยาบคายกับพี่ชายเพียงคนเดียวเลยสักครั้งกลับกันมักออดอ้อนจนสุดท้ายก็ได้สิ่งที่ต้องการ แต่วิธีการเช่นนั้นใช้ไม่ได้กับมู่หลินเฟิง“เสี่ยวมั่วกล่าวว่าเจ้าต้องการกระดาษและพู่กัน”“เป็นเช่นนั้น เจียวเจียวเพียงอยากหาสิ่งใดทำเท่านั้น เหตุใดท่านพี่จึงต้องกระวนกระวายเช่นนี้”“เจ้าป่วยหนักหรือ เหตุใดจึงอยากได้ของที่มองแล้วทำตนเองเวียนหัวเล่า”“ตอนนี้เจียวเจียวไม่รู้สึกเช่นนั้นแล้ว ท่านอย่าได้กังวล ข้าหายดีแล้ว” ผู้ฟังขมวดคิ้วจนหว่างคิ้วย่นลง แม้จะไม่เชื่อว่านางหายแล้ว แต่เท่าที่มองเห็นน้องสาวก็ไม่เป็นอันใดอย่างนางกล่าวจริง ๆเขายกมือแตะหน้าผากนาง ดูว่ายังมีอา

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ป่วยจนเลอะเลือน

    2ป่วยจนเลอะเลือนห้าวันหลังจากเทศกาลโคมไฟ หญิงสาวลืมตาขึ้นเมื่อผู้คนในห้องออกไปจนหมดก่อน จึงลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงอุ่น เพราะเหตุใดนางจึงมาอยู่ที่นี่ได้เล่า ไม่มีเหตุผลรองรับเอาเสียเลย ซ้ำยังต้องมาอยู่ในร่างนางร้ายสุดแสนอาภัพผู้นี้อีกจะกล่าวว่านางเป็นนางร้ายก็ร้ายไม่เท่านางร้ายคนอื่น ๆ หรือแม้แต่นางเอกของเรื่องยังร้ายเสียกว่า นางร้ายเพราะนางมักถูกมอบบทนางร้ายให้มากกว่าจะแสดงเอง นอกจากนี้สุดท้ายยังต้องตายเพราะพระเอกสุดที่รักของนางอีกต่างหากก่อนตายนางก็เป็นคนดีมาตลอดเหตุใดพอได้มีโอกาสใช้ชีวิตจึงทำให้นางมีโชคชะตาเช่นนี้กันเล่า“ขอบคุณสวรรค์ที่มอบบทตัวละครที่สุดแสนจะโชคดีคนนี้ให้ เฮ้อ เอาไงต่อดีไอ้พิม” หญิงสาวพึมพำกับตนเอง นางอ่านหนังสือมามากส่วนใหญ่ผู้ที่มาเป็นนางร้ายหรือตัวประกอบหากทำตัวโจ่งแจ้งไปจะกลายเป็นที่สนใจ สุดท้ายกลายเป็นตัวดำเนินเรื่องทั้งนั้นนางควรทำอย่างไรดี นางไม่อยากมีส่วนในนิยายเรื่องนี้แล้วยิ่งไม่อยากตายอย่างอนาถภายใต้คมดาบของบุรุษใจคอโหดเหี้ยม หลอกใช้สตรีเช่นมู่หลินเฟิงคิดไปก็พลันปวดหัวไปสงสัยนางจะไข้ขึ้นเสียแล้ว คงเพราะร่างกายบอบบางของโจวเจียวเจียวนี่กระมัง

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ดวงตะวันสีแดงพระจันทร์สีเลือด

    1ดวงตะวันสีแดงพระจันทร์สีเลือด“นี่เธอ เมื่อไหร่จะเลิกให้ข้าวคนไร้บ้านพวกนั้นสักที” ชายหนุ่มแต่งตัวจัดจ้านถามขึ้น ขณะดวงตาก็ปรายมองยังคนไร้บ้านสองคนที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ตรงโต๊ะนอกกระจกร้านอาหารของเธอพิมดาว หญิงสาวอายุยี่สิบสองเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีสาขาโภชนาการอาหาร หลังเรียนจบก็นำเงินที่มีมาลงทุนเปิดร้านอาหาร ทำเลตั้งอยู่ตรงข้ามทางเข้าหมู่บ้านหรูหากเทียบกับค่าครองชีพในปัจจุบัน“จะทำได้ยังไงคะพี่ เป็นร้านอาหารแต่ปล่อยคนหิวพิมทำไม่ได้” เธอตอบเขาพลางเหลือบมองไปนอกกระจกร้าน มือก็เช็ดโต๊ะที่พึ่งเก็บเสร็จ แม้ไม่ใช่คนร่ำรวย แต่เธอก็มีมากพอจะแบ่งปันให้ผู้อื่นถึงจะแค่เล็กน้อยก็ตามเธอเป็นลูกคนเดียวและตอนนี้ก็เหลือเพียงตัวคนเดียวจึงไม่กังวลกับสิ่งใดอีก ชีวิตเธอก็มีเพียงแค่นี้ทำงานหาเงิน ทำบุญให้อาหารคนหิวโหยบ้าง หลังปิดร้านก็นอนอ่านหนังสือ ดูซีรีส์ตามประสาสาวโสด“งั้นเธอก็ไปใจบุญที่อื่นสิ ลูกบ้านร้องเรียนมาไม่รู้กี่รอบแล้ว เขาบอกว่าร้านเธอทำให้หมู่บ้านดูโลมาก”“ก็แค่ให้อาหารคนหิว มันดูต่ำตรงไหนคะ พิมไม่ย้ายหรอก ถ้าใครไม่พอใจก็ย้ายเองเลย” หญิงสาวไม่ยอมแพ้ เดือนนี้นี่เป็นครั้งที่สี่แล้วที่นิติ

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   บทนำ

    บทนำเปลือกตาสีอ่อนขยับแผ่วเบาก่อนจะเปิดขึ้น เผยให้เห็นนัยน์ตากระจ่างใสดุจผืนธารากว้าง หว่างคิ้วย่นลงเล็กน้อยราวกับไม่คุ้นเคยสถานที่ตรงหน้าเอาเสียเลยหยัดกายลุกนั่งได้จึงเร่งหย่อนเท้าลงข้างเตียงเตาซึ่งแกะสลักลวดลายประณีต ตามประสาตระกูลร่ำรวย เท้าเปล่าเปลือยเหยียบไปบนพื้นห้องเยียบเย็นอย่างระวัง สองเท้าก้าวแผ่วเบา นัยน์ตากลมกระจ่างจดจ้องไปทั่วห้อง แต่อย่างไรก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตอื่นใดนอกเหนือจากตนเอง สายตานางจึงมุ่งไปยังประตูไม้ตรงหน้าบนบานประตูประดับกระดาษไขอย่างดีบดบังแสงไม่ให้ส่องเข้ามาภายในห้องมากนักตลอดการกระทำทั้งหมดนี้นางไม่ปริปากออกมาแม้แต่ครึ่งคำ เพราะไม่มีเสียงอื่นใดนางจึงได้ยินเสียงที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลแว่วมา“หลินเฟิง เจ้ากล่าวเช่นนั้นก็ไม่ถูกนัก แม้ข้าจะไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับพวกนางทั้งสอง แต่ข้ามั่นใจว่าเจียวเจียวของเรา ไม่มีทางลงมือฆ่าผู้ใดได้” น้ำเสียงที่กล่าวนั่นอ่อนโยนแต่แฝงด้วยความมั่นใจ เป็นน้ำเสียงที่นางรู้สึกคุ้นหูนัก กระนั้นก็นึกไม่ออกว่าเป็นเสียงผู้ใด“เช่นนั้นจี้หยวนเจ้าหมายความว่าคุณหนูอสือโป้ปดข้าหรือ” บุรุษที่เอ่ยคำกล่าวนี้น้ำเสียงช่างเกรี้ยวกราดนัก แต่เหต

DMCA.com Protection Status