Share

น่าสนใจ

last update Last Updated: 2025-01-20 12:20:00

6

น่าสนใจ

สืออีหรานเป็นสตรีเจ้าเล่ห์ นางมีความคิดลึกซึ้งกว่าผู้อื่น เชี่ยวชาญการใช้เสน่ห์ตนเองในการหลอกใช้ผู้อื่น หลินซีเป็นคุณชายน้อยตระกูลหลินมีอำนาจ มีผู้คนเกรงใจหากได้เขามาคอยอยู่ข้างกาย ผู้ใดจะกล้าเอ่ยคำไม่ดีต่อนาง

เมื่อได้รู้จากบุตรสาวคนโตของตระกูลเฉียน วันนี้หลินซีจะมาที่ตระกูลเพื่อร่วมพิธีปักปิ่นนางก็วางแผนไว้แล้ว กลับผิดแผนเพราะหว่านจืออวิ๋นสตรีโง่ผู้นั้นไปเสีย

“เจ้า เจ้าคือ...? ช่างเถอะ ข้ามีธุระขอตัวก่อน” สตรีงามย่อมดึงดูดบุรุษ แต่ไม่ใช่กับหลินซีเพราะเขาเองก็งามไม่แพ้สตรี ยิ่งเมื่อไม่มีธุระให้พูดคุยกันเขายิ่งไม่สนใจจะอยู่พูดคุยให้ตกเป็นเรื่องเล่าลือ

อีกทั้งเขายังต้องไปขอโทษหญิงสาวที่ถูกเขาตวาด นางตั้งใจช่วยเหลือกลับถูกต่อว่า เขานี่ช่างไร้มโนธรรมยิ่งนัก

ร่างสูงโปร่งสวมชุดสีชิงดูสง่ายิ่งเมื่อสอดรับกับใบหน้างดงามเสียยิ่งกว่าสตรี ที่ยามนี้ถูกลมปะทะใบหน้าเพราะวิ่งตามไป หมายจะขอโทษหญิงสาว

“เจียวเจียวรู้ได้อย่างไรว่ากิ่งทับทิมจะตกใส่คุณชายหลิน” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้น หลังกลับมาหาโจวเจียวเจียวที่ยืนรออยู่อีกฟากของลานดอกไม้ เพราะฝึกยุทธ์จนชินชาเสียงฝีเท้าของหลินซีจึงเบาราวขนนก

เขาได้ยินสิ่งที่สตรีทั้งสองกล่าวพอดี แท้จริงผู้ที่ช่วยเหลือเขาคือโจวเจียวเจียวแต่เพราะเหตุใดเล่า...

“พี่จืออวิ๋นไม่สังเกตหรือว่ารอยต่อกิ่งมันไม่ประสานกัน ไม่รู้ว่าทำไมสืออีหรานจึงประมาทเช่นนี้ ไม่ใช่นางเอาเสียเลย” คำพูดนางทำให้คิ้วเรียวดั่งคันธนูของหลินซีเลิกขึ้นสูง เหตุใดนางจึงเอ่ยราวกับเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เขาไม่คิดว่าอยู่ ๆ ตนจะถูกสตรีลอบทำร้ายได้ เขาและนางมิได้รู้จักกันเลย นางไม่ควรมีความแค้นต่อเขามิใช่หรือ

“สืออีหรานไม่มีความแค้นต่อคุณชายหลิน เหตุใดต้องทำร้ายคุณชายหลินเล่า” สตรีที่ช่วยเขาถามได้ตรงใจยิ่งนัก เขาเองก็อยากรู้เหตุผลที่นางทำเช่นกัน ผู้ใดกล่าวว่าพิชัยสงครามเข้าใจยาก สำหรับเขา ใจสตรียากยิ่งกว่าเสียอีก

ทั้งที่ก่อนนี้ดุด่าเฉิงเชียงว่าสอดรู้เรื่องชาวบ้าน ยามนี้กลับแอบฟังสตรีคุยกันเสียเอง ไม่รู้ว่าหากเฉิงเชียงมาเห็นจะหัวเราะเยาะเขาหรือไม่

“ถูกแล้วนางไม่มีความแค้นต่อคุณชายหลิน แต่คุณชายหลินมีอำนาจ มีฐานะ มีตำแหน่งทางทหาร พี่จืออวิ๋นลองคิดดูเถิดตั้งแต่เราก้าวเท้าเข้าจวนมาเห็นผู้ใดปฏิบัติต่อหลินซีย่ำแย่หรือไม่ ไม่มี...ใช่หรือไม่ นั่นเพราะผู้คนหวาดกลัวและเกรงใจตระกูลหลิน ของแม่ทัพหลินชวน หากนางได้เป็นสตรีในดวงใจเขาจะเป็นอย่างไร” หว่านจืออวิ๋นพยักหน้ารับทุกคำพูดของโจวเจียวเจียว แม้จะเชื่อแต่ก็ยากที่จะไม่ตกใจ โจวเจียวเจียวที่นางรู้จักไหนเลยจะมีความคิดลึกซึ้งเช่นนี้ได้

โจวเจียวเจียวคนเดิมคิดสิ่งใดก็ล้วนพูดออกมาจนหมด พูดสามประโยคไม่พ้นมู่หลินเฟิง

“เหตุใดเจียวเจียวคิดว่าเป็นนาง”

“ท่านลองคิดดู ยามนี้ผู้คนล้วนอยู่ในงานพิธีแต่นางกลับมาเดินเล่นลำพัง ประจวบเหมาะอาจเกือบช่วยคุณชายหลินเอาไว้อีก หากไม่ใช่เพราะเรามาเดินเล่นจนท่านเข้าไปช่วยไว้เสียก่อน”

“พี่เชื่อแล้ว เช่นนี้เจียวเจียวจึงให้พี่ไปช่วยคุณชายหลินใช่หรือไม่”

“ถูกแล้ว เรื่องนี้อย่าได้บอกให้เขารู้ตัว พี่จืออวิ๋นรับปากเจียวเจียวได้หรือไม่”

“ได้ ข้าจะไม่บอกเรื่องนี้กับผู้ใดแม้แต่คุณชายหลิน” หญิงสาวยิ้มกว้างให้ก่อนจะยื่นมือไปคล้องแขนหญิงสาวที่อายุมากกว่า ขณะกำลังจะเดินกลับออกไปทั้งสองได้ยินเสียงเข้มร้องเรียกชื่อใครบางคน

“คุณชายขอรับ คุณชาย” เฉิงเชียงตะโกนเรียกหลินซี ยามนี้พิธีการกำลังจะเริ่มขึ้นเขาจึงรีบมาเร่งให้ผู้เป็นนายเข้าไปในพิธี แต่เมื่อมาถึงคุณชายที่ควรจะนอนอยู่ใต้ต้นทับทิมกลับกลายเป็นกิ่งทับทิมแห้งเสียอย่างนั้น

“เจ้าเฉิงเชียง” ชายหนุ่มพึมพำก่อนจะกระโจนออกไปอีกทาง จากนั้นเดินอ้อมกลับมาหาเฉิงเชียงแล้วตามเข้าไปในพิธีปักปิ่นสกุลเฉียน

โจวเจียวเจียวหรือ น่าสนใจ...เพิ่มขึ้นอีกแล้ว เห็นทีวันนี้ก็มิได้น่าเบื่อดั่งที่คิด

หลังจบพิธีปักปิ่นผู้คนพากันแยกย้ายกลับ สืออีหรานเห็นหลินซีอยู่คนเดียวจึงเดินเข้าไปทัก ในใจหมายใช้มารยาตนยั่วยวนให้เขามีความหวังว่านางชื่นชอบ

“คุณชายหลินกำลังจะกลับหรือ”

“อืม” น้ำเสียงเย็นชาทำให้ความมั่นใจนางหดหายไปไม่น้อย ขณะตอบเขาไม่มองหน้านางเลยด้วยซ้ำ นัยน์ตาคู่นั้นเหลือบไปมาราวกับกำลังมองหาสิ่งใดอยู่

หญิงสาวยังทำใจกล้าพูดคุยเอ่ยถามเขาอยู่ต่อไป แม้เขาจะไม่ใส่ใจแต่หากอยู่คุยด้วยกันนาน ไม่ช้าต้องมีผู้คนสงสัยความสัมพันธ์ของทั้งสอง เช่นนี้ก็ได้ประโยชน์สองชั้นแล้ว

ผู้คนที่เกรงใจเขาก็จะคิดว่านางกับเขาเกี่ยวข้องกันพากันปฏิบัติดีต่อนาง อีกทางเรื่องนี้เข้าหูมู่หลินเฟิงอาจทำให้เขาเร่งผู้อาวุโสในตระกูลมาสู่ขอนาง

“คุณชายหลินได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หากได้รับบาดเจ็บท่านลองนำยานี้ไปใช้เถิด ไม่ทำให้เกิดแผลเป็นบิดาข้าหาสิ่งนี้จนทั่วแคว้นก็พบเพียงไม่กี่ขวดเท่านั้น” นางว่าพลางยื่นขวดให้เขาด้วยท่าทางเขินอาย หลินซีเห็นก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมา เขาไม่ได้พูดสิ่งใดด้วยเหตุใดนางต้องทำท่าทางเช่นนั้น

นี่มิทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดหรอกหรือ...

“คุณหนูสือ เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้ายังปกติ ไม่ได้รับบาดเจ็บที่ใด เจ้ามากกว่ากระมังที่ควรใช้ยา อีกอย่างยาทาแผลตระกูลหลินข้ามีไม่น้อย ไม่ต้องรบกวนเจ้าเป็นห่วง เอะนั่น...คุณหนูท่านนั้นเดี๋ยวก่อน” หลินซีพูดยังไม่ทันจบดีก็เห็นเงาร่างเล็กที่รอคอยเดินออกมาจากประตูสกุลเฉียน ชายหนุ่มร้องเรียกแล้ววิ่งตรงเข้าไปหา โดยไม่สนใจสืออีหรานด้านหลังอีกต่อไป

สืออีหรานยามปกติมันถูกห้อมล้อมด้วยสายตาอิจฉาและปลาบปลื้ม ยามนี้ถูกเมินจนเสียหน้านางกำมือจิกเล็บลงบนฝ่ามือตนเองจนเป็นแผล

เขาละเลยนางที่เป็นคุณหนูอันดับหนึ่งเพื่อเข้าไปพูดคุยกับสตรีเอาแต่ใจเช่นโจวเจียวเจียวและหว่านจืออวิ๋น

“คุณชายหลิน ท่านมีสิ่งใดหรือ” โจวเจียวเจียวถามขึ้นเมื่อหลินซีเดินเข้ามาหานางทั้งสอง ดวงตาคมคู่นั้นเหลือบมองนางก่อนจะหันไปทางหว่านจืออวิ๋น

“ก่อนนี้ข้าพูดกับคุณหนูไม่ดีสักเท่าใด ทั้งที่เจ้าจงใจช่วยข้าแต่กลับถูกโมโหใส่ ข้ารู้สึกผิดนักจึงตั้งใจรอพวกท่านทั้งสอง เพื่อเอ่ยคำขอโทษ และขอบคุณจากใจจริง ๆ ขอบคุณคุณหนู ท่าน...?”

“ข้าหว่านจืออวิ๋น คุณชายเรียกข้าว่าจืออวิ๋นก็ได้”

“เช่นนั้นขอบคุณคุณหนูหว่านที่ช่วยชีวิตข้าไว้ แล้วคุณหนูท่านนี้คือ?”

“คารวะคุณชายหลินซี ข้าบุตรสาวคนเดียวของตระกูลโจว นามเจียวเจียว” หลินซีแสร้งทำท่าไม่สนใจ เพราะจำได้ว่าก่อนนี้นางกำชับหว่านจืออวิ๋นไว้ว่าห้ามบอกเขา เขาเองก็อยากรู้ว่าเหตุใดต้องห้ามบอก จึงมิได้ทักท้วงสิ่งใด

การแสร้งไม่รู้คือวิธีรอบรู้ที่ง่ายที่สุด ไว้รอหลังนางกลับจากตระกูลเฉียนเขาค่อยตามดูไม่สาย

“ที่แท้ก็คุณหนูโจวที่ผู้คนร่ำลือ ข้าหลินซี ดูเหมือนพวกท่านกำลังจะกลับ เช่นนี้ข้าไม่รบกวนแล้ว หากมีโอกาสข้าจะตอบแทนบุญคุณวันนี้เป็นแน่” ชายหนุ่มกล่าวกับหว่านจืออวิ๋นแต่กลับเหลือบตามองหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลัง ท่ามกลางสายตาเคียดแค้นของสืออีหราน

แผนนางไม่สำเร็จล้วนเป็นเพราะสตรีโง่ทั้งสองคนนั้น

“นั่นคุณหนูสือมิใช่หรือ มายืนทำสิ่งใดหน้าประตูสกุลเฉียนหรือว่ามารอพบคุณชายหลินซี” โจวเจียวเจียวกล่าวด้วยรอยยิ้มวาววับ ราวกับกำลังเยาะเย้ยนางอยู่ ผู้คนรอบข้างถึงกับหยุดมองอย่างสงสัย

จริงดังโจวเจียวเจียวว่าเมื่อครู่นางยืนคุยอยู่กับหลินซีนานสองนาน แต่นางมีสัมพันธ์ที่ดีกับคุณชายอันดับอย่างมู่หลินเฟิงมิใช่หรือ ผู้คนสงสัยจึงพากันกระซิบนินทา สืออีหรานเห็นเช่นนั้นก็จงใจใช้มารยาบีบน้ำตาเรียกร้องความเห็นใจในทันที

“คุณหนูโจว ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบข้าแต่เหตุใดต้องใส่ร้ายกันถึงเพียงนี้ อย่างไรข้าก็เป็นสตรี ข้าเพียงสอบถามคุณชายหลินซีเท่านั้น”

“หากไม่ได้ทำสิ่งใดผิดก็ไม่เห็นต้องร้อนรน ข้าพูดเมื่อไหร่กันว่าเจ้าเห็นคุณชายหลินซีรูปงามมากอำนาจจึงมายั่วยวน” สืออีหรานถึงกับสะอึก เหตุใดโจวเจียวเจียวจึงรู้เป้าหมายแท้จริงของนาง นางไม่ตอบกลับสิ่งใดอีกทำเพียงเดินหนีไปเท่านั้น

โจวเจียวเจียวแม้ไม่อยากพูดคุยกับสืออีหราน แต่หากอยากเป็นโจวเจียวเจียวที่แท้จริงย่อมต้องหาเรื่องนางบ่อยครั้งเพื่อความสมจริง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ข้อที่สอง

    7ข้อที่สองสตรีทั้งสองแยกจากกันหน้าประตูสกุลเฉียน รถเทียมม้าสกุลโจวมุ่งหน้าไปบนถนนครึกครื้นของตลาดฝั่งประจิมม่านหน้าต่างถูกตลบขึ้นเพื่อดูผู้คนพลุกพล่านเดินเวียนไปเวียนมาในนิยายกล่าวว่าถนนเส้นนี้ครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คน วันนี้ได้เห็นกับตาเป็นจริงดังนั้น รอยยิ้มเพลิดเพลินประดับไว้บนดวงหน้าจิ้มลิ้มน่าเอ็นดูตลอดการเดินทางเมื่อถึงกลางตลาดนางพลันได้ยินเสียงโหวกเหวกของคนหลายคน ครู่หนึ่งรถม้าก็หยุดลง โจวเจียวเจียวนึกสงสัยจึงเอ่ยถามเสี่ยวมั่วที่นั่งอยู่ข้างกาย เด็กสาวโผล่หน้าออกไปถามคนขับรถม้า“มีสิ่งใดหรือ”“เรียนคุณหนู ตรงหน้ามีขอทานขวางอยู่ขอรับ” โจวเจียวเจียวย่นคิ้วตั้งท่าจะลุกไปดูแต่กลัวว่าจะเป็นที่สนใจมากเกินไป เสี่ยวมั่วจึงโผล่หน้าออกไปฟังความให้แน่ชัดจากนั้นกลับมาแจ้งแก่คุณหนูของตนว่า มีขอทาน

    Last Updated : 2025-01-21
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   เจียวเจียวสำนึกผิดแล้ว

    8เจียวเจียวสำนึกผิดแล้วตะวันทอแสงยามเช้า หญิงสาวผุดลุกจากเตียงนอนอุ่น ความมุ่งหมายในวันนี้คือถูกมู่หลินเฟิงด่า เขาชอบสตรีเรียบร้อยอ่อนโยนเช่นนั้นวันนี้นางจึงจงใจสวมอาภรณ์สีเข้ม แต่งริมฝีปากด้วยสีชาดที่สดราวกับโลหิตอย่างไรอย่างนั้นนางส่องกระจกพร้อมรอยยิ้ม หมุนตัวไปมาครู่หนึ่งก็เอ่ยชมตนเอง“งามมาก ใช่หรือไม่เสี่ยวมั่ว”“งามเจ้าค่ะ แต่คุณชายมู่คงไม่ชอบกระมังเจ้าคะ” สาวใช้กล่าวขึ้นคุณหนูของนางมักแต่งกายด้วยสีอ่อน เพื่อให้มู่หลินเฟิงสนใจแต่ยามนี้กลับต่างออกไปนางไม่เข้าใจเอาเสียเลยโจวเจียวเจียวคิดว่าเพียงแค่การแต่งกายคงไม่ทำให้มู่หลินเฟิงหันมาสนใจนางได้ในทันที จึงไม่จำเป็นต้องสวมรอยเป็นนางในยามนี้เพราะอย่างไรนางก็เป็นเจียวเจียวที่เขาไม่ต้องใจ จะสวมเสื้อผ้าสีใดก็คงไม่ต่างกัน เพียงแต่สีเข้มคงทำให้เขาร

    Last Updated : 2025-01-22
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   บุรุษผู้นั้น

    9บุรุษผู้นั้นเจ้าของร่างอรชรวิ่งออกจากห้องตำรามานั่งอยู่ในสวนของลานบ้าน ทั้งที่รู้ว่าตนเองไม่ใช่โจวเจียวเจียวผู้นั้นแต่เมื่อถูกด่าหนักเข้านางกลับรู้สึกแย่ จนไม่อาจละทิ้งคำพูดเมื่อครู่ของมู่หลินเฟิงไปได้เลย“เจียวเจียว” โจวจี้หยวนเสียงเบา น้ำเสียงแฝงความเป็นห่วงไว้มากมาย แม้มู่หลินเฟิงจะเป็นสหาย แต่เขาก็สงสารผู้เป็นน้องสาวเหลือเกิน ในใจมู่หลินเฟิงคงมีเพียงสืออีหราน ไหนเลยจะมีที่ว่างพอให้นางถึงจะพูดไปนางก็ไม่มีทางเชื่อเขาอยู่ดี เขาเลยไม่คิดห้ามนางอีก เพียงปลอบใจอยู่ข้าง ๆ เท่านั้นชายหนุ่มเดินเข้ามาวางมือไว้บนศีรษะนางแผ่วเบา คล้ายกับกำลังปลอบใจนางโดยไร้คำพูดใดโจวเจียวเจียวนางมีพี่ชาย สหาย บิดามารดา และข้ารับใช้ที่ดี เหตุใดจึงหลงรักบุรุษผู้นั้นมากมายถึงเพียงนี้ ทั้งที่หลังจากเขารู้จักสืออีหรานก็ไม่เคยมีความหวังให้นางเลยแม้แต่น้อย

    Last Updated : 2025-01-23
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ขออภัยที่ทำให้ท่านเสื่อมเสีย

    10ขออภัยที่ทำให้ท่านเสื่อมเสีย“คนเลว โผล่มาให้อารมณ์เสียทำไมเนี่ย เสียระบบหมดอุตส่าห์จะไม่เฟียสดันเฟียสไปจนได้” หญิงสาวพึมพำอย่างหัวเสียพลางใช้เท้าเตะฝุ่นบนพื้นถนน แต่ฝุ่นของนางดันเป็นก้อนใหญ่เกินไป มันกระเด็นไปกระแทกศีรษะบุรุษที่เดินอยู่ด้านหน้าอย่างแรง“โอ๊ย ผู้ใดลอบทำร้ายข้าไม่มีตาหรืออยากตาย” เสียงตวาดข้างหน้าทำให้โจวเจียวเจียวสะดุ้งจนตัวโยน ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดออกมาเพียงแต่ยกมือขึ้นแสดงตัวอย่างกล้า ๆ กลัว ๆบุรุษผู้นั้นเดิมชักสีหน้าน่ากลัวราวกับกำลังจะลงดาบลงกระบี่บั้นคอนาง แต่เมื่อเห็นว่าคนผู้นั้นเป็นนางก็เปลี่ยนสีหน้าไปเป็นยิ้มแย้ม เอ่ยทักนางอย่างเป็นธรรมชาติ“ท่าน คุณหนูโจวใช่หรือไม่”“คารวะคุณชายหลิน ขออภัยเมื่อครู่ไม่ระวังเผลอเตะหินจนโดนหัวท่าน เป็นอะไรหรือไม่”&ldq

    Last Updated : 2025-01-24
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   สหายคนใหม่

    11สหายคนใหม่“พี่มู่ปล่อยเจียวเจียวได้หรือไม่” ฝีเท้าเร่งรีบของมู่หลินเฟิงหยุดลงเมื่อถึงหน้าร้านค้าตระกูลโจว หญิงสาวที่อุตส่าห์เดินตามมาเงียบ ๆ ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนโจวเจียวเจียวคนเก่าไม่ผิดมู่หลินเฟิงรีบสะบัดมือออก ก่อนนี้เขาลืมตัวไปชั่วครู่ ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดต้องโมโหและพูดจาร้ายกาจกับนางอีกแล้ว ทั้งที่มาวันนี้ตั้งใจมาขอโทษนาง ยังไม่ทันขอโทษก็ปากไม่ดีอีกแล้ว เรารู้สึกไม่ชอบใจที่นางให้ความสำคัญกับผู้อื่นมากกว่า“ขอบคุณพี่มู่ที่สั่งสอน ต่อไปเจียวเจียวจะจำไว้ไม่ทำให้ผู้ใดเสื่อมเสียอีก หากพี่มู่ไม่มีสิ่งใดจะสั่งสอนอีกเจียวเจียวขอตัวก่อน” เขายืนฟังนางพูดตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่เอ่ยสิ่งใดออกมาสักคำ ได้แต่มองข้อมือนางที่ถูกเขากำแน่นจนเกิดริ้วแดงเมื่อครู่กระทั่งนางเดินไปแล้วเขาจึงรู้สึกตัวว่ายังไม่ได้เอ่ยปากขอโทษนางสักคำ มู่หลินเฟิงท

    Last Updated : 2025-01-25
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   แผนการใหม่

    12แผนการใหม่ตลาดปลาฝั่งบูรพาเงียบเชียบไม่ต่างจากทุกวัน โจวเจียวเจียวตามพี่ชายออกมาตรวจดูผู้คน นางตั้งใจว่าจะทำให้ตลาดบูรพามีผู้คนคึกคักขึ้นให้ได้ภายในสองเดือน ก่อนการจัดการสอบขุนนางในอีกสองเดือนข้างหน้าแม้จะเรียนรู้การขายมาบ้างมา แต่ความรู้เหล่านั้นกลับนำมาใช้ในยุคนี้ได้ยากยิ่งนัก“ท่านพี่ การสอบขุนนางจะมีขึ้นในอีกสองเดือนใช่หรือไม่”“ใช่แล้ว เจียวเจียวสนใจการสอบขุนนางหรือ” ผู้เป็นพี่ชายถามพลางโคลงถ้วยชาไปมา สายตาจดจ่ออยู่ที่ใบหน้าหมดจดของน้องสาว ตั้งใจฟังนางพูดด้วยความยินดียินดีที่ผู้เป็นน้องสาวไม่หลงใหลสหายตนเหมือนเมื่อก่อน แม้จะมีบางครานางจงใจกล่าวถ้อยคำหวานหูให้สหายเขาฟัง แต่ผู้เป็นพี่ชายพอมองออกว่าสิ่งเหล่านั้นนางแสร้งทำเขาไม่สงสัย ไม่เคลือบแคลง ขอเพียงนางมีความสุขดีก็เพี

    Last Updated : 2025-01-26
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ของหายอยากได้คืน

    13ของหายอยากได้คืนหญิงสาวใช้มีดเล่มใหญ่ได้อย่างคล่องแคล่ว แล่ปลาราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ปลาตัวใหญ่บัดนี้ถูกนางแล่ออกจนเหลือแต่เนื้อปลาสีชมพูอ่อน แค่มองดูก็ต้องกลืนน้ำลายเวลาค่อย ๆ ผ่านไปพร้อมกับปลาหนึ่งตัวที่ถูกแล่ ปลาตัวที่สองถูกแล่ จากหน้าแผงมีเพียงหลินซี เสี่ยวมั่ว เฉิงเชียงบัดนี้ผู้คนกลับมามุ่งดูกันมากมาย“คุณหนูท่านเก่งยิ่งนัก” หญิงชราชมนางไม่ขาดปาก จะมีคุณหนูตระกูลใดในเมืองที่แล่ปลาได้เก่งเท่านางอีก แม้แต่เสี่ยวมั่วยังอดตกใจไม่ได้ โจวเจียวเจียวจัดปลาไว้เป็นกอง แยกเพื่อแบ่งขายเป็นตัว“ปลานี่ขายหรือไม่” หญิงวัยกลางคนในฝูงชนผู้หนึ่งกล่าวขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่กองปลาแล่แล้ว โจวเจียวเจียวยิ้มกว้างพยักหน้ารับจัดแจงนำใบไม้ที่อยู่ในตะกร้าของหญิงชรามาห่อปลา“เท่าไหร่หรือ”“ปลาน

    Last Updated : 2025-01-27
  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   เจียวเจียวรำคาญเจ้า

    14เจียวเจียวรำคาญเจ้าหลังกลับมาทั้งนางทั้งพี่ชายก็ถูกมู่หลินเฟิงด่าจนหูสองข้างแทบฟังไม่ได้ยิน โจวจี้หยวนฟังไปเถียงไปแต่โจวเจียวเจียวไม่พูดอธิบายสิ่งใด ปล่อยให้มู่หลินเฟิงเข้าใจตามที่อยากเข้าใจกฎข้อที่สี่ ห้ามอธิบายมากหญิงสาวปล่อยเสียงนั้นผ่านหูราวสายลมพัดไม่สนใจไม่ใส่ใจ แต่จะเมินเฉยไปก็เกรงจะไม่ดี บางคราจึงแสร้งตอบบ้าง“เจียวเจียวเจ้ารู้หรือไม่ว่าหลินซีเป็นคนเช่นไร เหตุใดจึงไปสนิทสนมกันเช่นนั้น”“หลินเฟิง เจียวเจียวก็เพียงแต่คบเป็นสหายเหตุใดเจ้าต้องต่อว่านาง” โจวจี้หยวนถกเถียงด้วยความสงสัย เหตุการณ์วันนี้เขายังไม่เห็นเลยว่าเจียวเจียวทำผิดอย่างไรแต่โจวเจียวเจียวกลับตอบรับอย่างง่ายดาย ไม่อธิบายไม่กลัวว่ามู่หลินเฟิงจะเข้าใจนางผิด จนผู้เป็นพี่ชายเองก็งุนงงกับท่าทีของนางไม่น้อย

    Last Updated : 2025-01-28

Latest chapter

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ ฤกษ์ดี [จบ]

    ฤกษ์ดีงานวิวาห์สองงานถูกจัดขึ้นพร้อมกัน เป็นเหตุให้เรื่องนี้ร่ำลือไปทั่วเมืองเทียนเผิง สองตระกูลขุนนางสำคัญวิวาห์บุตรสาวจากตระกูลคหบดีชื่อดัง งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นที่โรงเตี้ยมมีชื่อแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของตระกูลโจวอีกเช่นกันทั้งสองไม่ได้คิดจะแต่งวันเดียวกัน แต่ฤกษ์ดีวันนี้กลับมีเพียงห้าปีครั้ง หลินซีเองก็ไม่อยากรอ มู่หลินเฟิงก็ไม่อยากรอ ยิ่งมีบุตรปีนี้จะเกื้อหนุนครอบครัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งสตรีทั้งสองยังกลัวจะไม่ได้ไปร่วมดื่มอวยพรให้อีกฝ่ายเมื่อเลือกไม่ได้จึงตกลงแต่งพร้อมกัน มู่หลินเฟิงและหลินซียังคงปะทะฝีปากกันบ่อย ๆ แต่ทุกครั้งก็ถูกว่าที่ภรรยาตำหนิจนหน้าบูดกันไปทุกทีหากงานจัดในบ้าน เจ้าสาวย่อมไม่มีหน้าที่มาต้อนรับ แต่งานวิวาห์นี้กลับจัดในโรงเตี้ยมใหญ่โต เจ้าสาวทั้งสองจึงสวมผ้าคลุมหน้าพูดคุยกับผู้มาร่วมยินดีด้วยได้ กระทั่งมีชายสูงศักดิ์ผู้หนึ่งเดินเข้ามาคารวะสุรากับโจวเจียวเจียว“

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ตอนพิเศษ อารมณ์ดี

    ตอนพิเศษอารมณ์ดีหลังถูกสตรีในใจปฏิเสธชัดเจน หลินซีรู้สึกว่าตนเองต้องเสียใจมากเป็นแน่ ทว่าเรื่องราวไม่เป็นเช่นนั้น เขารู้สึกราวยกภูเขาออกจากอกเสียมากกว่า ร่างสูงโปร่งที่มีใบหน้างดงามราวอิสตรีเดินเอื่อยไปเรื่อย ๆ บนถนนเส้นหลักของตลาดฝั่งประจิมแม้จะมีใบหน้างดงามจนหาที่เปรียบได้ยากและเป็นที่ชื่นชอบของสตรีมากมาย แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าก่อกวนเพราะตระกูลนักรบเช่นเขาไหนเลยจะรู้จักรักหยกถนอมบุปผาได้เฉิงเชียงที่เดินอยู่ด้านหลังขยับขึ้นมากระซิบชายหนุ่มแผ่วเบา“คุณชายนั่นแม่นางจืออวิ๋นขอรับ” หว่านจืออวิ๋นเป็นสตรีที่งดงามราวเทพธิดาไม่ต่างสืออีหราน ต่างกันเพียงนางไม่ใช่บุตรสาวตระกูลขุนนาง หากแต่เป็นบุตรสาวพ่อค้ายามนี้ไร้ซึ่งเงาของสืออีหราน นางจึงเป็นที่เลื่องลือมากยิ่งขึ้น มีบรรดาบุตรชายขุนนางหลายคนมาทำความรู้จัก บางคนต้อ

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   พิมดาว

    47พิมดาวจวนตระกูลมู่เงียบเชียบราวกับจวนร้างแต่ยังมีเสียงเล็ดลอดออกมาทำให้รู้ว่าแท้จริงที่นี่มิได้ร้างผู้คน สตรีวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนเตียงสีหน้าเศร้าหมองไม่น้อย นางชี้หน้าผู้เป็นสามีต่อว่าเขาแต่ตนเองกับร่ำ ๆ จะร้องไห้บุตรชายนางไปทำงานต่างเมืองสองเดือนแล้ว แม้มีจดหมายแต่ราวกับไม่มี จดหมายนั้นหาใช่บุตรชายนางเขียน หากบุตรชายนางยังอยู่ดีเหตุใดจึงไม่เขียนจดหมายมาเอง“ท่านโกหกข้า ลูกข้าอยู่ที่ใด ฮือ...” อี้ฮูหยินกล่าวไปร่ำไห้ไป จดหมายสองฉบับที่ส่งมา ลายมือแทบไม่ต่างจากบุตรชายแต่นางที่เฝ้ามองบุตรชายเติบใหญ่ มีหรือไม่สามารถจำได้ลายมือบนจดหมายถูกปลอมแปลงขึ้น แล้วเหตุใดต้องปลอมหากไม่ใช่เพราะบุตรชายนาง...“ฮูหยินเจ้าใจเย็น ๆ เสียก่อน เฟิงเอ๋อร์ยังอยู่ดี”“อยู่ดีหร

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ขอเพียงท่านฟื้น

    46ขอเพียงท่านฟื้นปลายวสันต์ลมโชยพัดผ่านกิ่งไม้ใบไม้เสียดสีกันฟังราวกับกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีให้ความสดชื่นไม่น้อย เพียงแต่ที่นี่คือเรือนข้างในคฤหาสน์หลังใหญ่สกุลโจว ร่างสูงโปร่งบนเตียงก็ยังคงหลับตาอยู่เช่นเดิมหญิงสาวใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมดำสนิทที่ถูกลมพัดของมู่หลินเฟิงออกจากใบหน้า“สองเดือนแล้วที่ท่านปล่อยให้ข้าพูดคุยเพียงลำพัง ยังไม่ทันได้หมั้นหมายก็ทิ้งให้ข้ากังวลเช้าเย็นเช่นนี้ คิดว่าข้ายังจะอยากแต่งกับท่านอีกหรือคุณชายมู่” บ่นไปก็เช็ดตัวเขาไป นางทำจนเคยชินไปเสียแล้ว ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนนางจึงเช็ดเนื้อเช็ดตัวของเขาทั้งเช้าและเย็นเดิมทีนางคิดว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาภายในหนึ่งเดือน เพราะก่อนนี้เขาตอบสนองนางด้วยการขยับนิ้ว แต่ก็เพียงแค่ครั้งเดียว ดูเหมือนอี้ฮูหยินเองก็เริ่มสงสัยแล้วเหมือนกันว่าบุตรชายไม่ได

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ข้ายังรออยู่

    45ข้ายังรออยู่ตระกูลสือที่รุ่งเรืองในอดีต ยามนี้จบสิ้นแล้วทั้งตระกูล ประตูใหญ่จวนสือที่เคยรุ่งโรจน์บรรดาขุนนางน้อยใหญ่ตบเท้าเข้ามาทำความรู้จัก บัดนี้มีเพียงเศษใบไม้ปลิดปลิว เวิ้งว้างวังเวง ประตูปิดสนิทถูกแปะทับด้วยกระดาษสีแดงแผ่นยาวในตลาดมีประกาศความผิดติดไว้ให้ผู้คนรับรู้ ตระกูลสือกำเริบเสิบสาน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย สตรีสกุลสือไร้คุณธรรมบงการลอบทำร้ายผู้อื่น ต้องโทษทั้งตระกูล ยึดทรัพย์ยึดจวน ริบคืนบรรดาศักดิ์ทั้งหมดสือจินเฉิงถูกโบยห้าสิบครั้ง เนรเทศไปชายแดน สืออีหรานถูกโบยสามสิบครั้งถูกกรีดใบหน้าด้านขวาว่าไร้คุณธรรม เกรงว่าชั่วชีวิตนี้นางคงไม่อาจผูกสมัครรักผู้ใดได้อีก ส่วนมารดาของนางถูกโบยยี่สิบครั้งฐานเป็นมารดาที่สั่งสอนบุตรสาวไร้คุณธรรมเมื่อได้ยินเรื่องนี้โจวเจียวเจียวไม่ได้มีท่าทางยินดียินร้ายใดต่อเรื่องที่ได้ย

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ท่านต้องฟื้น

    44ท่านต้องฟื้นจวนแม่ทัพหลินมู่หลินเฟิงถูกพากลับมายังจวนตระกูลหลิน เพราะอยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งหมอของตระกูลหลินเชี่ยวชาญชำนาญบาดแผลเช่นนี้มากกว่า ร่างโชกเลือดถูกยกเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง สาวใช้สองสามคนช่วยท่านหมออยู่ภายใน ผ่านไปเกือบสองเค่อจึงยกเอาอ่างไม้ออกมา เปลี่ยนเป็นน้ำร้อนแล้วเข้าไปอีกโจวเจียวเจียวเดินวนไปวนมา ร้อนใจนักไม่รู้คนโง่ผู้นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง มีดปักคาไว้ไม่รู้ถูกส่วนสำคัญบ้างหรือไม่เหตุใดคน ๆ นั้นจึงโง่เช่นนี้ การช่วยคนต้องช่วยโดยไม่ให้ตนเองเป็นอันตรายไปด้วย นี่อันใดกันทำตนเองบาดเจ็บคาบเกี่ยวชีวิต คิดแล้วยิ่งขุ่นเคืองเป็นถึงจอหงวนสิ้นคิดนักหญิงสาวทำได้เพียงต่อว่าเขาในใจ นางต่อว่าเขาจนลืมไปกระมังว่าตนเองก็ตายเพราะช่วยผู้อื่น“ท่านหมอ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ” ร่างเล็กปรี่เข้าไปถาม

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   มีสิ่งใดจะสั่งเสีย

    43มีสิ่งใดจะสั่งเสียทัศนวิสัยเบื้องหน้าช่างพร่าเลือนหลังฟื้นคืนสติโจวเจียวเจียวพยายามหรี่ตาลงเล็กน้อยมองลอดรูเล็กบนผนัง กลิ่นอับบนผนังบ่งบอกว่าที่นี่เก่ามากเพียงใด ด้านในไม่มีเงาผู้คนเช่นนั้นคนชุดดำคงอยู่ด้านนอก“นางฟื้นหรือยัง” เสียงทุ้มแว่วมาจากหลังประตู โจวเจียวเจียวแสร้งเอนกายลงนอนบนพื้นไม้ผุพังทำเหมือนตนเองยังไม่ฟื้นคืนสติ ครู่หนึ่งจึงได้ยินเสียงเปิดประตู ไม่รู้ว่าที่แท้คนเหล่านี้ต้องการสิ่งใดจากนางแต่คนเหล่านี้เป็นคนของสืออีหรานแน่นอน เพราะบนโลกนี้คนที่เกลียดนางมีเพียงสตรีแซ่สือ อีกทั้งก่อนหน้านางยังมาพูดจาข่มโอ้อวดว่าตนกำลังจะได้แต่งกับมู่หลินเฟิง ทว่าผ่านไปเพียงคืนเดียวก็หล่นจากความฝันเสียแล้ว“นางยังไม่ฟื้น”“ฟื้นไม่ฟื้นก็ช่าง รีบจัดการเสีย ยามนี

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   ถูกจับตัวไป

    42ถูกจับตัวไปกระดาษใบแรกถูกเปิดอ่าน ในกระดาษมีเพียงประโยคเดียวเหมือนจดหมายตอบกลับอย่างไรอย่างนั้น อ่านจบแผ่นแรกก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาทั้งที่ไม่ใช่ข้อความหวานซึ้งใดแท้ ๆ‘ข้าไม่คิดถึงท่าน’‘ข้าไม่คิดถึงท่าน’‘ข้าไม่คิดถึงท่าน’‘ข้าไม่คิดถึงท่าน’ จดหมายสี่ฉบับแรกเนื้อความเหมือนกัน ข้อความสั้น ๆ ไม่ลงชื่อแต่กลับเรียกรอยยิ้มของผู้อ่านได้เป็นอย่างดีหากนางไม่คิดถึงจริง ๆ จะอุตส่าห์เขียนจดหมายตอบกลับเขาทุกฉบับหรือ แม้นางจะบอกว่าไม่คิดถึงแต่ยามที่เขียนข้อความนี้ลงไป นางย่อมต้องนึกถึงคำถามเป็นแน่แต่จดหมายฉบับสุดท้ายกลับต่างออกไป ตัวหนังสือเล็กแต่เป็นระเบียบ สะอาดตา ไม่น่าเชื่อว่าเจียวเจียวที่เกลียดการเขียนอักษรจะเขียนได้ดีเช่นนี้ ตัวอักษรตรงหน้าไม

  • กลวิธีหนีการเป็นนางร้าย   เช่นนั้นท่านก็กลับไป

    41เช่นนั้นท่านก็กลับไปหน้าคฤหาสน์สกุลโจวร่างสูงสง่ายืนตระหง่านอยู่หน้าประตูใหญ่ หลังเฉากงกงประกาศพระราชโองการวันต่อมามู่หลินเฟิงจึงมาถึงจวนตั้งแต่เช้า เขาต้องการพูดคุยโจวเจียวเจียวเรื่องการสมรสนี้สิ่งที่ทำให้เขาเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนจนเสร็จรวดเร็ว คือข่าวสารจากองค์ชายรอง ในจดหมายกล่าวเพียงประโยคเดียวก็ทำเขาร้อนรนนั่งไม่ติดเก้าอี้เสียแล้ว‘ข่าวว่าช่วงนี้ตระกูลหลินเตรียมขบวนสินสอด’ตระกูลหลินมีบุตรชายเพียงคนเดียวนั่นคือหลินซี ฉะนั้นการหมั้นหมายนี้ย่อมเป็นของหลินซี เพียงแต่ไม่รู้ว่าเจ้าสาวผู้นั้นเป็นใคร มู่หลินเฟิงคิดถึงภาพที่นางและหลินซีไล่ตีกันจึงคิดว่าอย่างไรก็คงเป็นเจียวเจียว จึงเร่งจัดการงานให้เสร็จแล้วรีบกลับมายังเมืองหลวงทว่าทุกสิ่งก็ยังเหนือความหมายของเขาอยู่ดี แม้จะดีใจที่ได้ประทานสมรสกั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status