พรีมกอดร่างของพัศวีอย่างหวงแหน เธอหลับไปเพราะความอ่อนล้า แม้จะยังอยากที่จะร่วมรักกับพรีม แต่เขาก็รู้ดีว่าร่างกายของเธอไม่สามารถรองรับความต้องการของเขาได้ตลอดทั้งคืน เขาจึงต้องอดทนและหยุดยั้งความต้องการของตัวเองให้ได้
พรีมค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ในขณะที่เสียงหายใจของพัศวี ยังคงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ พัศวียังไม่หลับ เขาลืมตาอยู่ในความมืด
“ทำไมนายไม่หลับ”
พรีมถามเขาอย่างแผ่วเบา ศีรษะอิงแนบกับหัวไหล่ในอ้อมแขนที่โอบกอดเธอ แขนของพรีมโอบกอดรอบลำตัวแน่นของพัศวี เธอหลับไปนาน จนอาจทำให้เขาปวดแขนหรืออาจจะชาได้ พรีมจึงคิดจะขยับออก หากแต่พัศวียังคงกระชับกอดนั้นไว้ไม่ยอมปล่อย
“ฉันไม่เป็นไรหรอก”
“นายอาจจะปวดแขนได้”
“เป็นห่วงฉันหรือ”
พรีมไม่ตอบ หากแต่กระชับวงแขนของตัวเองเช่นกัน พัศวีกดสายตาลงต่ำ มองเห็นหน้าผากโค้งมน สันจมูกที่ได้รูปเป็นสันของพรีม เขามองมันด้วยสายตาอ่อนโยน ยามที่ได้ใกล้ชิดกันเช่นนี้
อัญชิสากลืนอาหารเข้าไปได้ สองถึงสามคำ ก็มีทีท่าว่าจะอาเจียน เธอลุกไปที่ห้องน้ำ ไม่สามารถเดินได้เร็วอย่างที่คิด จึงต้องใช้มือข้างหนึ่งปิดปากตัวเองไว้ให้สนิท เพื่อไม่ให้สำรอกออกมาเลอะเทอะ แม้จะมีเมือกเหนียวซึมล้นออกมา แต่ก็ทันปล่อยลงโถชักโครกอัญชิสาอาเจียนจนเส้นเลือดและเส้นเอ็นบริเวณลำคอเรียวเล็กขึ้นสันนูน อาการมวนในท้องกระอักกระอวน เพราะอาการท้องว่าง ทำให้เมื่อมีอาหารลงไปในกระเพาะ จึงเกิดปฏิกิริยาท้องไม่รับ ดันสิ่งที่เข้าไปออกมาโดยอัตโนมัติชนแดนเดินตามมาดูช้าๆ ภาพที่เห็นอัญชิสาเกาะขอบโถ และโก่งคออาเจียนอย่างทรมาน จนน้ำหูน้ำตาไหล ส่วนที่มือหนึ่งกุมอยู่ที่ท้องของตัวเอง เพราะมีอาการจุกเสียด“เหมือนคุณจะมีอาการโรคกระเพาะร่วมด้วย”ชนแดนหยุดนั่งลงข้างๆ ก่อนจะช่วยลูบหลัง และประคองเธอมาที่อ่างน้ำ เพื่อล้างปากและล้างคราบเศษอาหารและคราบอาเจียนต่างๆ ที่คาวคุ้ง เหงื่อบนหน้าผากที่เกาะพราว เพราะอาการเครียด และความเหนื่อยล้า และทรมาน
เมื่อออกมาจากห้องทำงานของนับหนึ่ง มินตราเข่าแทบทรุด เพราะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน มินตราค่อยๆพยุงร่างที่อ่อนแรง นั่งลงเก้าอี้ทำงานของตัวเองช้า ใบหน้าซีดเผือด หายใจไม่ออก เพราะมันอั้นและจุกอยู่กลางอก น้ำตาคลอเอ่ออยู่ที่เบ้า มินตราพยายามกระพริบตา เพื่อกั้นให้น้ำตากลับเข้าไปข้างในไม่ให้ไหลออกมามินตรานึกถึงวันแรกที่ได้เจอกับตรีวิทย์ จนเลยเถิดไปถึงการมีสัมพันธ์ที่ไม่ใครรู้ ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน แม้จะเพราะเรื่องบนเตียง แต่ความผูกพันมันเริ่มก่อตัวทีละนิด จนเปลี่ยนเป็นความชอบ แต่เธอยังไม่ได้มั่นใจว่ามันคือความรักไหม เธอรักตัวเองและครอบครัวมากกว่า พยายามคิดอยู่เสมอว่าตรีวิทย์ก็ไม่ต่างจากผู้ชายทั่วไป ที่ยังไม่พร้อมรับผิดชอบเด็กคนหนึ่ง หรือการมีชีวิตคู่ เพราะวัยที่เพิ่มผ่านพ้นวัยรุ่นเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ไม่นานตรีวิทย์ ตื่นจากอาการเมามาย ในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับยู่ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ที่ปาเข้าไปเกือบบ่ายสอง &nbs
เขตรัฐพามินตราขึ้นมายังห้องผู้ป่วยของตรีวิทย์ เมื่อเปิดประตูเข้าไป พบว่ามีเพียงธนัญญา นั่งเฝ้าตรีวิทย์อยู่เพียงลำพัง“คนอื่นไปไหนกันหมดครับ ทำไมคุณถึงอยู่คนเดียว”“คนอื่นๆ ไปห้องพี่สืบสายกันหมดแล้ว กลัวว่าพวกคุณขึ้นมาจะไม่เจอใคร ฉันเลยอาสานั่งเฝ้า เพราะกลัวตาวิทย์ฟื้นขึ้นมาแล้วไม่เห็นใคร”สายตาที่ธนัญญามองเขตรัฐ และมินตราเต็มไปด้วยคำถาม เขตรัฐเข็นมินตราเข้าไปนั่งที่ข้างเตียง“มินเฝ้าคุณตรีวิทย์ไปก่อนแล้วกัน พี่กับคุณนัญจะไปเยี่ยมคุณสืบสายก่อน”“ค่ะ”มินตรารับคำสั้นๆ เธอเอาแต่มองหน้าที่หลับใหลของตรีวิทย์ด้วยความเป็นห่วง ผิวขาวซีดเซียวของเขายามนอนสงบนิ่ง ทำให้เธอเป็นห่วงขึ้นมา และสงสารเขาจับใจ อาจเพราะเขาเป็นทายาทของสินธรธนารักษ์ การที่เธอท้องกับเขา คงทำให้เขาเครียดมากจริงๆธนัญญาเดินตามเขตรัฐออกมาเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร ก่อนจะเข้าในลิฟท์ เพื่อไปชั้นบนที่สืบสายนอนพักฟื้นอย
ธนัญญาที่กำลังสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองที่หน้ากระจก เธอแต่งหน้าทาปากโทนสีธรรมชาติ จนดูแทบไม่ออกว่ามีการเติมแต่ง แต้มสีสันเข้าไปแล้ว ความสวยงามสดใสของธนัญญา ทำให้เธอดูอ่อนเยาว์ ดูราวกับสาวแรกรุ่นอยู่ตลอดเวลา ด้วยดวงตากลมโต แก้มป่องขั้นตอนต่อไปคือการเลือกเสื้อผ้าที่จะสวมใส่ในวันที่เธอดูมีความสุขเป็นพิเศษ ตู้เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าหลากหลาย ดูจะไม่เพียงพอ แม้ทุกชุดจะดูสวยงามไปหมด แต่สำหรับธนัญญามันดูยังสวยไม่พอสำหรับเธอ จนกระทั่งเขตรัฐออกจากห้องน้ำ ธนัญญาก็ยังคงสวมเสื้อคลุมสีชมพูตัวเดิมผมที่เพิ่งการสระด้วยแชมพูหอมละมุนของธนัญญาเอง ทำให้เขตดูมีเสน่ห์และเย้ายวนเพิ่มขึ้น ผมที่เปียกจับช่อติดกัน ถูกสะบัดออกและซับด้วยผ้าขนหนูผื่นเล็กเนื้อนุ่ม“ยังไม่แต่งตัวอีกหรือ”“ผู้หญิงแต่งตัวนานเป็นเรื่องธรรมดาหรือเปล่า”ธนัญญาหันมาค้อน ที่เขาถามราวกับกำลังจะต่อว่าเธอ ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มสวยงามเป็นธรรมชาติ ชวนมองและน่า
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ตรีวิทย์จึงขอออกจากโรงพยาบาลทันที เพราะเขาเป็นห่วงมินตรา ตรีวิทย์พยายามจะดึงสายน้ำเกลือออกจากแขนด้วยตัวเอง แต่นับหนึ่งและธนญห้ามไว้ ก่อนจะเรียกพยาบาลเข้ามาเอาออกให้ ในเมื่อห้ามไม่อยู่ จึงปล่อยเขาไป ตรีวิทย์สวมเสื้อผ้าสำรองที่ธนญเตรียมไว้ให้สำหรับวันออกจากโรงพยาบาล ซึ่งกำหนดการณ์คือวันพรุ่งนี้ แต่เมื่อน้องชายดึงดัน เขาก็ไม่ห้าม แค่เป็นห่วงแผลที่ศีรษะของเขาเท่านั้น“ผมจะไปดูเขา ปกติมินตราไม่ใช่คนเงียบแบบนั้น การที่เขาเงียบ แสดงว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ผมกลัว”“คุยกับมินตราดีๆ ค่อยๆ คุยด้วยเหตุและผล มินตราไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล และใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ สู้กับเธอสิคะคุณตรีวิทย์”“ครับ”มินตรากลับมาถึงห้อง ด้วยอารมณ์โกรธ เธอถูกนางอนงค์นาถดูถูกด้วยสายตาไม่พอ ยังกล่าวคำดูถูกว่าไม่มีหัวนอนปลายเท้า สำหรับคนร่ำรวยในสังคมมันสำคัญมากนักหรือ เธอก็มีพ่อมีแม่ แถมท่านทั้งส
ขณะที่เขตรัฐกำลังขับรถเข้ากรุงเทพฯ หลังจากไปตรวจเยี่ยมโรงงานที่อยุธยา ก็มีเสียงเรียกเข้าจากสายโทรศัพท์ที่ไม่ปรากฏชื่อ ทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจ ไม่บ่อยนักที่จะมีสายปริศนา หรือคนไม่รู้จักโทรหาเขาในเวลาพลบค่ำเช่นนี้“ฉันเองมานัส”“ว่าไงเพื่อน มีอะไรให้ผมรับใช้”น้ำเสียงตอบรับของเขตรัฐเต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจ เพราะเขาไม่เจอกับมานัสมาร่วมสิบปีแล้ว หลังจากเรียนจบ และแยกย้ายกันไปต่างคนต่างทำงาน ล่าสุดที่ติดต่อกัน ก็ตอนที่มานัสช่วยตามหาณัฐการ ตอนที่นายปรารณ จับณัฐการไป“ไม่เจอกันนานคิดถึงตอนนี้ตอนอยู่กับไอ้วาทิตที่ออกัส ผับ เจอกันหน่อยไหม”“ได้เพื่อน แต่สักพักนะฉันเพิ่งกลับจากโรงงานที่อยุธยา เพิ่งเข้าเขตกรุงเทพฯ รถอาจจะติด”“ไม่มีปัญหา คืนนี้อีกยาวไป เจอกันเพื่อน”มานัสนั่งอยู่ที่บาร์ เขาเป็นเพื่อนกับเขตรัฐและวาทิตตั้งแต่สมัยเรียนด้วยกันที่มหาวิทยาลัย และเขาเองที่เป็นคนชักชวนเพื่อทั้งสองเข้า
เมื่อเห็นว่าอัญชิสาและครอบครัวคลายกังวลลงมาก ชนแดนจึงปลีกตัวออกไป หาซื้อเครื่องดื่มมาให้เพราะตั้งแต่มาถึง พวกท่านคงจะมัวแต่เป็นห่วงอาการของลูกจนไม่ได้คิดถึงตัวเองการแต่งกายสบายๆ ของชนแดน เป็นที่สะดุดตาของเจ้าหน้าที่หมอและพยาบาลเวรดึกเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยเห็นเขาในเสื้อผ้าเครื่องกายเช่นนี้มาก่อน นอกจากชุดกีฬา และชุดทำงานปกติ ทุกคนต่างยิ้มทักทายเขา ชนแดนออกจะเขินสักเล็กน้อยที่เขาอยู่ในสภาพนี้ไม่นานชนแดนก็กลับมาพร้อมกับน้ำดื่ม กาแฟร้อน นมอุ่นๆ และของว่างทานรองท้องแก้หิว เพราะร่างกายที่ตื่นขึ้นมากลางดึกทั้งที่เป็นเวลานอนพักผ่อน มักจะแสดงอาการหิวที่มากกว่าอาการหิวในเวลาปกติ“เครื่องดื่มครับกับของว่างรองท้อง ผมไม่ทราบว่าพวกท่านชอบดื่มแบบไหน ก็เลยเลือกเป็นกาแฟร้อนกับนมอุ่นมาให้ ส่วนของคุณกาแฟร้อนนี่แก้แฮงค์”ชนแดนวางเครื่องดื่มและของว่างในกล่องที่บรรจุถุงกระดาษรักษ์โลกไว้ที่เก้าอี้ที่ว่างอยู่ ก่อนจะยื่นกาแฟร้อนแก้วหนึ่งให้อัญชิสา อัญชิสาส่งสายตาตำหนิเขาที่ บ
อังคณาร้องเสียงหลง ด้วยความตกใจ ที่คงทรัพย์ลุกขึ้น แต่เขากลับตรงไปเปิดประตูและออกไปจากห้อง โดยไม่พูดอะไร ทำให้อังคณาปล่อยลมหายใจอย่างรวดเร็ว ก่อนจะล้มตัวลงนอนเพราะเริ่มรู้สึกปวดที่แขนและหน้าอก ทั้งที่หมอนยังหล่นอยู่บนพื้น เมื่อนึกถึงดวงตาของคงทรัพย์ที่จ้องมองเธอ ก็รู้สึกหวั่นใจขึ้นมา เธอไม่เคยกลัวใคร แต่สำหรับคงทรัพย์เธอพยายามที่จะไม่กลัวเขา แต่ทุกครั้งที่เห็นสายตาเย็นชาที่จ้องมองมา มันกลับทำให้ใจสั่น และหนาวยะเยือกขึ้นมาทันที“จ้องยังกับอาฆาตกันมาแต่ชาติปางก่อน”อังคณาบ่นพึมพร่ำกับตัวเอง พยายามข่มตาให้หลับ แต่ก็ไม่อาจลืมหน้าของเขาได้ คงทรัพย์เป็นใครกัน เธอรู้แค่ว่าเขาเป็นเพื่อนของธนญ พี่ชายของธนัญญา แต่ดูจากบุคลิกของเขา คงไม่ใช่เพื่อนธรรมดาอย่างแน่นอน และดูออกจะไปทางน่ากลัวเกินไปเสียด้วยซ้ำมินตรากับตรีวิทย์หลังจากหลบอังคณามาได้ มินตรารีบพาตรีวิทย์ไปทำแผล เนื่องจากการยื้อยุดฉุกกระชาก ทำให้แผลที