เช้าวันต่อมาเจ้าขาตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่เมื่อยขบไปทั้งตัว เพราะเมื่อคืนกว่าที่เธอจะได้นอนก็เกือบตีสาม เธอหลับทั้ง ๆ ที่พี่กองทัพยังไม่เสร็จด้วยซ้ำ ด้วยความเหนื่อยจนไม่สามารถทนต่อความง่วงได้ ดวงตากลมโตเพ่งพิศมองใบหน้าหล่อเหลาที่ยามหลับราวกับหนุ่มน้อยที่ไร้พิษสง แต่ใครเลยจะรู้ว่าเขานั้นร้ายกาจเพียงใด โดยเฉพาะความเจ้าเล่ห์ที่เธอมักจะตามไม่ค่อยทันเขาสักเท่าไหร่นักเจ้าขาทำใจกล้ายื่นจมูกไปกดลงบนแก้มเนียนของคนที่นอนหลับสนิท กลิ่นหอมของแก้มนุ่มทำเอาคุณแม่ท้องอ่อนไม่อยากผละออก เธอยังคงกดจมูกค้างเอาไว้อย่างนั้นเพื่อสูดดมความหอมด้วยความสดชื่น ทำเอาคนที่แกล้งหลับถึงกับทนไม่ไหวอีกต่อไป กองทัพลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางดวงตากลมโตของเจ้าขาที่เบิกกว้างด้วยความตกใจ“แอบลักหลับพี่เหรอจ๊ะเมียจ๋า”รอยยิ้มกรุ้มกริ่มเผยอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา ในขณะที่คนแอบหอมแก้มรีบเบือนหน้าหนีคนเจ้าเล่ห์ที่แกล้งหลับด้วยความเขินอายกับการกระทำของตัวเธอเองที่ริอ่านแอบไปหอมแก้มผู้ชายก่อน“ปะ เปล่าสักหน่อย เจ้าขากำลังจะลุกขึ้น แต่บังเอิญสะดุดหกล้มจมูกไปโดนแก้มพี่ทัพต่างหากล่ะคะ”น้ำเสียงอ้อมแอ้มตอบกลับกองทัพที่ยิ้มอย่างรู้ทันคนตัวเ
“พ่อเก้าครับ ช่วยพี่ทัพด้วยครับ”จังหวะที่ไม้จะฟาดลงบนตัว เด็กชายกองทัพวัย 27 ขวบก็กระโดดขึ้นไปนั่งบนตักของบิดาที่รีบเอามือมาป้องตัวลูกชายเอาไว้ทันที ส่วนแก้มใสที่นั่งข้าง ๆ น้องชายก็กางมือออกกว้างอย่างต้องการปกป้องหลานชายหัวแก้วหัวแหวนที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ทำเอากฤษฎิ์ที่กำลังจะฟาดไม้เท้าใส่หลานชายถึงกับชะงักมือนิ่งไป“พ่อขาห้ามตีหลานทัพนะคะ แก้มใสไม่ยอม”ป้าแก้มของกองทัพออกโรงปกป้องหลานชายเต็มที่ ในขณะที่พ่ออย่างเก้าทัพก็โอบลูกชายที่ตัวใหญ่กว่าเขาแล้วเอาไว้ อย่างไม่ยอมให้บิดาตีลูกเช่นกัน กฤษฎิ์มองภาพตรงหน้าด้วยความขัดใจและไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะยอมลดมือที่ถือไม้เท้าลง“ก็เล่นให้ท้ายลูกกับหลานซะอย่างนี้ มันถึงได้ทำอะไรตามใจตัวเองมาตลอด”“นิสัยแบบนี้ไม่ใช่ว่าพ่อขาสอนหลานมาหรอกเหรอคะ แก้มใสก็หลงเข้าใจผิดมาตั้งนานว่ากองทัพนิสัยเหมือนปู่”น้ำเสียงเล็กตอบกลับผู้เป็นบิดาทันควันทำเอาทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องต่างพากันหลุดขำออกมารวมถึงที่รักด้วย ที่หัวเราะน้อย ๆ พร้อมกับส่ายหน้าไปมาช้า ๆ ต้นแบบความเฟียร์สของลูกสาว ลูกชาย และส่งต่อมาจนถึงหลานชายก็ล้วนมาจากพี่หมอสามีของเธอทั้งนั้น“พ่อขาว่าแก้มใสค
หลังจากที่พูดคุยตกลงกับครอบครัวของกองทัพเสร็จเรียบร้อยแล้วกองทัพก็ขอตัวพาเจ้าขากลับไปพักผ่อน เพราะเธอกำลังตั้งท้องอยู่จึงทำให้เจ้าขารู้สึกง่วงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งเมื่อคืนเธอแทบจะไม่ได้นอน ทำให้ใบหน้าสวยหวานที่มักจะสดชื่นอยู่เสมอวันนี้จึงดูไม่ค่อยสดใสสักเท่าไหร่เมื่อเดินมาจนถึงลานจอดรถที่มีลูกน้องของกองทัพยืนรออยู่แล้ว เจ้าขาก็หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาเปิดเครื่องเพราะเธอตัดการติดต่อกับทุกคนตั้งแต่เมื่อคืน เมื่อโทรศัพท์ถูกเปิดขึ้นหน้าจอก็แสดงผลสายที่ไม่ได้รับเกือบร้อยสาย โดยที่สายที่โทรมาหาเธอมากที่สุด คือสายจากพี่เอมมี่ 35 สาย จอมขวัญ 20 สาย ที่เหลือก็เป็นเพื่อนในวงการรวมถึงนักข่าวที่ค่อนข้างสนิทและคุ้นเคยกับเธอ“พี่เอมมี่โทรมาทั้งคืนเลยค่ะ น่าจะเป็นห่วงเจ้าขามากที่หายมาทั้งคืน รบกวนพี่ทัพพาเจ้าขากลับคอนโดก่อนนะคะ สงสัยตอนนี้คงเดินวนไปวนมารอเจ้าขาอยู่ในห้องแน่ ๆ เลย”เจ้าขาหันมาบอกองทัพที่พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายทำเอาเจ้าขาถึงกับยิ้มออกมาน้อย ๆ เมื่อเขาตามใจเธอไปเสียทุกเรื่อง จะยกเว้นก็แต่เรื่องเดียวที่เขาค่อนข้างเอาแต่ใจ นั่นก็คือเรื่องบนเตียงที่แม้เธอจะบอกว่าไม่ แต่เขากลับไม่ฟังเธอเ
เจ้าขาลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความรู้สึกสดชื่นที่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ร่างบางค่อย ๆ ลุกขึ้นมาจากที่นอนพร้อมกับบิดตัวไปมาเล็กน้อย ตอนแรกเธอจำได้ว่าเผลอนอนหลับซบบนอกของพี่ทัพและก็น่าจะเป็นเขานั่นแหละที่อุ้มเธอเข้ามานอนข้างในห้อง รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าเนียน ก่อนที่คุณแม่ท้องอ่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนและเดินออกไปข้างนอกเมื่อเดินออกมาจากห้องนอน ร่างสูงที่คุ้นตาตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับสวมแว่นตา ดวงตาคมกริบที่มักจะมองมาที่เธอเสมอในยามนี้เต็มไปด้วยความจริงจัง เมื่อตรงหน้าของกองทัพคือโน้ตบุ๊กที่เต็มไปด้วยกราฟอะไรสักอย่างที่เธอก็มองไม่ออกเหมือนกัน ก่อนที่กองทัพจะเงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับเจ้าขาที่กำลังมองเขาอยู่ยิ้ม ๆ มือใหญ่กวักมือเรียกให้เธอเดินเข้าไปใกล้ ๆ ซึ่งเจ้าขาก็เดินเข้าไปหาพี่ทัพของเธออย่างไม่อิดออด“ว้าย ตกใจหมดเลย”เจ้าขาร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่อเธอเดินเข้าไปใกล้ มือใหญ่ก็คว้าเอวบางของเธอให้ลงไปนั่งบนตักของเขาโดยที่เจ้าขาไม่ทันตั้งตัว แต่คนที่กำลังกอดเธออยู่กลับยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดี ใบหน้าหล่อเหลาซบลงบนหน้าท้องแบนราบพร้อมกับสูดดมความหอมจากร่างบางเข้าเต็มปอดอย่างสดชื
รถคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดยังบริเวณหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของท่านอธิป ก่อนที่กองทัพจะเดินลงมาจากรถและอ้อมมาหาเจ้าขาที่ลงมายืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว มือใหญ่ยื่นมาเกาะกุมมือบางเอาไว้อย่างแนบแน่นพร้อมกับพยักหน้าให้เจ้าขา ที่สีหน้ายังคงเต็มไปด้วยความกังวลใจส่วนทางด้านหลัง ประตูรถก็ถูกเปิดออกเช่นกัน พร้อมกับร่างสูงของซีอีโอใหญ่อย่างเก้าทัพและท่านประธานกฤษฎิ์ที่เดินลงมาจากรถ ด้วยวันนี้บิดาผู้อาวุโสสุดในครอบครัว ต้องมาเป็นผู้ใหญ่เจรจาสู่ขอหนูเจ้าขาให้กับลูกชายของเขา ผู้ชายที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกันหากแต่ต่างกันด้วยวัยเดินมาหยุดยืนข้างหน้าหนุ่มสาวทั้งคู่ ก่อนที่ผู้อาวุโสที่สุดจะพยักหน้าน้อย ๆ และพากันเดินเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่ทันทีกลางห้องโถงรับแขก อธิปนั่งรอการมาของลูกสาวด้วยความเย็นชา จนดารินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ รู้สึกได้ อยู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกเป็นห่วงลูกเลี้ยงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพราะตั้งแต่ที่สามีเธอรู้ข่าวเรื่องที่เจ้าขาโดนหักหน้ากลางเวทีงานรับรางวัลว่ากำลังตั้งท้องอยู่ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องทำงานและสั่งให้ลูกสาวคนเล็กไปบอกเจ้าขาให้มาพบเขาโดยด่วนในขณ
หลังจากที่คุณปู่และพ่อเก้าทำการเจรจาสู่ขอเจ้าขาเรียบร้อยแล้ว งานต่อไปของกองทัพกับเจ้าขาก็คือการแถลงข่าว ซึ่งงานนี้จัดขึ้นที่โรงแรมในเครือของพิสิฐกุลวัตรดิลก โดยมีบิดาของเขาเป็นคนจัดการเรื่องนี้ให้ ส่วนสื่อที่ได้รับเชิญมาก็เป็นช่องใหญ่ที่ล้วนแต่ได้รับความนิยมและทุกคนต่างเกรงใจในอิทธิพลของตระกูลนี้ดี คำถามที่เลือกมาถามในวันนี้จึงถูกคัดเลือกเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาพลักษณ์ของใครสักคน“เหนื่อยไหมคะ”กองทัพถามเจ้าขาที่พอตกบ่ายมาก็เริ่มมีอาการไม่ค่อยสดชื่นสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะว่ากำลังตั้งครรภ์เลยทำให้เจ้าขารู้สึกเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าเมื่อคืนเธอจะนอนฟังนิทานของพี่กองทัพจนหลับสนิทก็ตาม“เพลียนิดหน่อยค่ะ อยากทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่ม ๆ แล้วสงสัยลูกคงจะง่วงมาก”เจ้าขาบอกกองทัพด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมาน้อย ๆ แล้วเดินจับมือกันเข้ามาในห้อง ๆ หนึ่งที่เต็มไปด้วยนักข่าวที่พากันมานั่งรอสัมภาษณ์ทั้งคู่ สายตาทุกคู่ต่างมองไปยังสองหนุ่มสาวที่เดินประคับประคองกันเข้ามาภายในห้องรับรองของโรงแรมราวกับถูกสะกดเจ้าขาเป็นผู้หญิงที่ถูกโหวตว่าสวยมากเกือบทุกป
หลังจากที่แถลงข่าวออกไปแล้ว กระแสเกี่ยวกับข่าวของเจ้าขาก็เป็นไปในทิศทางบวกแฟนคลับและแฟนละครส่วนใหญ่ไม่ได้ตำหนิหรือไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากแต่ทุกคนกลับประทับใจกับความเป็นลูกผู้ชายของกองทัพ ที่ย้ำด้วยคำพูดที่ชัดถอยชัดคำว่าทุกอย่างล้วนเกิดจากความรักและความตั้งใจไม่ใช่ความผิดพลาด โดยที่ทุกคนต่างยินดีกับหนึ่งชีวิตที่จะเกิดขึ้น พร้อมกับอวยพรให้เจ้าขาและกองทัพมีความสุขกับชีวิตคู่ส่วนสำนักข่าวที่กล้าตั้งถามคำถามไม่เข้าหูเขา ก็โดนเก็บไปตามระเบียบแต่เขาไม่ได้โหดเหมือนปู่ที่เล่นทีถอนรากถอนโคนจนพวกคนเหล่านั้นตกงานกันเป็นแถว เขาก็แค่ทำให้ผู้หญิงหน้าสวยคนนั้นกับหัวหน้าของเธอกระเด็นออกไปจากที่ทำงานแบบไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่หึ อยากเล่นงานเขาเหรอ ก็เจอเขาเล่นกลับคืนวิน ๆ กันทั้งสองฝ่ายไปเลยสิ แต่สองคนนั้นกลับเละเป็นโจ๊กจนแทบไม่มีที่ยืนในสังคม ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อสมราคาที่ต้องจ่าย กับคำถามที่ทำให้เมียของเขาต้องสะเทือนใจ“ทานอีกนิดนะคะ”กองทัพพยายามป้อนข้าวต้มเจ้าขาที่เหลืออีกเพียงนิดเดียวก็จะหมดถ้วย หากแต่เจ้าขากลับเบือนหน้าหนีราวกับเด็กน้อยสามขวบ ที่พออิ่มแล้วก็ไม่อยากที่จะฝืนใจกินต่อ จนกองท
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องทำให้เจ้าขาที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ลุกขึ้นจากโซฟา เมื่อเดินไปส่องตาแมวดูก็พบว่าคนที่มาเคาะประตูยามเที่ยงก็คือคุณป้าแก้มใสพี่สาวของคุณพ่อเก้าทัพนั่นเอง ใบหน้าที่ยังคงเค้าความสวยและอ่อนเยาว์ แม้ว่าอายุของป้าแก้มใสจะล่วงเลยไปถึงห้าสิบกว่าปีแล้วก็ตาม เธอกำลังยืนยิ้มโชว์ลักยิ้มสวยอยู่หน้าห้อง ก่อนที่เจ้าขาจะเปิดประตูออกกว้างเพื่อต้อนรับญาติผู้ใหญ่ของพี่กองทัพ ที่น่าจะมาเยี่ยมเยียนหลานชาย“ฮาย สวัสดีจ้ะหนูเจ้าขา ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะจ๊ะ”น้ำเสียงที่สดใสร่าเริงเอ่ยทักทายว่าที่หลานสะใภ้ ก่อนที่จะเดินเข้ามาในห้องของหลานชายอย่างคนที่คุ้นเคยดี เพราะแก้มใสแวะมาที่นี่หลายครั้งแล้วเพื่อมาเยี่ยมเยียนหลายชายหัวแก้วหัวแหวนที่เธอรักไม่ต่างจากลูกในไส้ ด้วยความที่เธอเองก็เลี้ยงกองทัพมาตั้งแต่เด็กเช่นกันเวลาที่เก้าทัพติดงานและนับดาวไปเรียนหนังสือ“วันนี้ป้าแก้มว่างก็เลยแวะมาเยี่ยมน่ะจ๊ะ ป้าเดาเอาว่าเจ้าทัพต้องให้เจ้าขามาอยู่ด้วยที่คอนโดแน่นอนเลย และก็เดาถูกเสียด้วยก็เลยแวะมาเยี่ยม เอ๋ ไม่ใช่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกต้องตามความตั้งใจก็คือ มาหาเพื่อนกินมื้อเที่ยงด้วยกัน วันนี้ป้า
ที่รักค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องนอนของสามีโดยที่มีชมพู่เด็กรับใช้คอยช่วยพยุง ก่อนที่เธอจะเดินมานั่งลงบนเตียงใหญ่ที่มีร่างที่ไร้ลมหายใจของคู่ชีวิตนอนอยู่ มือที่สั่นเทาค่อย ๆ เอื้อมไปจับมือของสามีขึ้นมาแนบแก้ม ก่อนที่หยดน้ำตาจะหลั่งรินกระทบฝ่ามือใหญ่ที่เคยตอบรับสัมผัสกัน แต่บัดนี้ไม่มีความรู้สึกใด ๆ อีกต่อไปแล้ว“หลับให้สบายนะคะพี่หมอของที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ๆ หลาน ๆ แล้วนะ ที่รักสัญญาว่าจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดีให้เหมือนตอนที่พี่หมอยังอยู่”น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดไปทั้งสรรพางค์กาย หัวใจที่เคยมีความสุขก่อนหน้านี้กลับเศร้าหมอง ทั้ง ๆ ที่ทำใจมาบ้างแล้ว เพราะสามีของเธอนั้นบอกกับเธอเสมอว่า เขาอายุมากแล้วและอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน ขอให้เธอเข้มแข็งและทำใจให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริง เวลาที่เธอไม่อยากให้เดินทางมาถึง กลับมาถึงเร็วกว่าที่คิดมันเลยทำให้เธอนั้นทำใจยากเหลือเกิน“หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เราสองคนได้เกิดมาคู่กันและเป็นสามีภรรยากันแบบนี้ตลอดไป แต่ชาติหน้าอย่าทำให้ที่รักเสียใจอีกนะคะ ชาตินี้ที่รักรักพี่หมอก่อน ชาติหน้าขอให้พี่หมอรักที่รักก่อนนะคะ ที่รักสัญญาว่าจะรักพี่
วันหยุดสุดสัปดาห์คฤหาสน์พิสิฐกุลวัตรดิลก“กราบครับคุณทวด”น้องเกรย์กับน้องกรรฐ์ประนมมือขึ้นก่อนที่จะก้มลงกราบบนตักของคุณทวดที่รัก ที่ยกมือขึ้นลูบหัวของเหลนชายฝาแฝดทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ก่อนที่เหลนทั้งสองคนจะเงยหน้าพร้อมกับลุกขึ้นไปนั่งข้าง ๆ คุณทวดเมื่อท่านพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต“พี่ขวัญล่ะครับ ทำไมถึงไม่มากับพวกเราด้วย”ที่รักถามเหลนทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่ยังคงความอ่อนหวานเช่นเคย ก่อนที่น้องเกรย์จะหยิบตะกร้าที่บรรจุด้วยขนมหวานขึ้นมาวางเอาไว้บนตักและตอบคำถามของคุณทวดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“พ่อทัพพาพี่ขวัญไปส่งที่บ้านย่าแก้มครับ คุณย่าโทรมาหาตั้งแต่เช้า บอกว่าคิดถึงพี่ขวัญมากไม่มีเพื่อนเล่นไพ่นกกระจอก พ่อทัพก็เลยพาพี่ขวัญไปหาคุณย่าครับ ส่วนพวกเราสองคนวันนี้ตั้งใจมาหาคุณทวดครับ นี่ครับคุณทวด ขนมที่พ่อทัพกับพี่ขวัญตื่นมาช่วยกันทำตั้งแต่เช้า กำชับแล้วกำชับอีกว่าให้แฝดนำมาให้ทวดชิม พ่อทัพบอกว่าคุณทวดชอบกินขนมเทียนแก้วมาก ตอนเด็ก ๆ ก็ชอบทำให้พ่อทัพกินบ่อย ๆ”น้องเกรย์ตอบคำถามคุณทวดจบก็หยิบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้นและแกะออกจากห่อใบตองที่ห่ออย่างประณีตสวยงาม ก่อนที่จะยื่นไปตรงหน้าของคุณทวดที่อ้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ของขวัญที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนใหญ่ค่อย ๆ หันไปมองประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้างด้วยความดีใจ เพราะคนที่กำลังวิ่งดุกดิกเข้ามาหาเธอก็คือน้องชายฝาแฝดตัวแสบนั่นเอง“ดึกแล้วทำไมยังไม่พากันนอนอีกครับ พี่เกรย์น้องกรรฐ์”ของขวัญถามน้องชายทั้งสองคนที่กำลังกระโดดขึ้นมาบนเตียงนอนของเธอคนละฝั่ง พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ด้วยรอยยิ้มทั้งคู่ ก่อนที่เกรย์จะตบหมอนของพี่สาวเบา ๆ ของขวัญก็ทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ น้องชายทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข“พี่เกรย์ชวนน้องกรรฐ์มานอนเป็นเพื่อนพี่ขวัญครับ”คำตอบของน้องชายคนเล็กทำเอาของขวัญถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่ที่เธอขึ้นชั้นมัธยม สองแฝดก็ไม่เคยมานอนกับเธออีกเลย ไม่รู้ว่าพอโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้วเขินเธอหรือเปล่า ทั้งคู่ถึงไม่ยอมมานอนด้วยกันเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ“เกรย์ไม่อยากให้พี่ขวัญต้องนอนเหงาคนเดียวครับ อย่างน้อย ๆ มีน้องกรรฐ์กับเกรย์มานอนด้วยคืนนี้จะได้นอนหลับฝันดี”ประโยคที่แฝงไปด้วยความห่วงใยจากน้องชายคนโต ทำเอาของขวัญถึงกับน้ำตารื้นด้วยความซาบซึ้งใจกับค
5 ปีผ่านไปห้องเรียน“โอเคค่ะทุกคน วันนี้คุณครูก็ขอจบการสอนไว้เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้เจอกันใหม่ อย่าลืมเอาการบ้านไปส่งคุณครูด้วยนะคะ ใครช้าได้ออกมาแก้โจทย์ให้เพื่อน ๆ ดูแน่ ๆ”เมื่อคุณครูสาวกล่าวจบและเก็บของออกจากห้องเรียนไปแล้วพี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันก็รีบเก็บสมุดหนังสือลงใต้โต๊ะเรียนทันที ก่อนที่สองพี่น้องจะหันมาพยักหน้าอย่างรู้กัน พร้อมกับลุกขึ้นเตรียมที่จะเดินออกไปจากห้องเรียนเพื่อไปทานมื้อเที่ยงที่โรงอาหารแต่ยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะเดินไปถึงหน้าห้องเรียน เด็กหญิงน้ำหวานกับเด็กหญิงลูกพีช เพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบสองแฝดก็รีบวิ่งมายืนดักหน้าทั้งสองหนุ่มทันที ทำเอาสองพี่น้องรีบกระโดดถอยหลัง ราวกับว่าสองสาวตรงหน้า คือตัวเชื้อโรคที่ทั้งสองคนไม่อยากอยู่ใกล้อย่างไรอย่างนั้น“เกรย์ กรรฐ์วันนี้ไปกินข้าวกับพวกเรานะ”น้ำหวานเอ่ยปากชวนสองหนุ่มด้วยรอยยิ้ม แต่สองแฝดกลับส่ายหน้าไปมาพร้อม ๆ กันราวกับนัดหมาย ทำเอารอยยิ้มของเด็กหญิงน้ำหวานค่อย ๆ จางหายไปจากใบหน้าสวยหวานของเด็กหญิงวัยสิบขวบ เมื่อเพื่อนชายที่เธอแอบชอบมาตลอดปฏิเสธที่จะไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน“แต่พวกเราสองคนชวนกรรฐ์กับเกรย์ท
โรงพยาบาล Nวันหยุดสุดสัปดาห์กองทัพจูงมือลูกชายทั้งสองคนมาตามทางเดินของโรงพยาบาลของครอบครัว เนื่องจากวันนี้เขากับเจ้าขาต้องออกงานสังคม จึงพาลูกชายทั้งสองคนมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาล เพราะพอถึงวันหยุดทีไรพี่เกรย์มักจะชอบมาขลุกอยู่ที่นี่ เพื่อดูคุณทวดทำงานและนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่เสมอ ส่วนน้องกรรฐ์ส่วนใหญ่แล้วจะชอบไปเล่นกับคุณปู่คุณย่า แต่วันนี้น้องชายฝาแฝดกลับอยากมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาลกับพี่ชายมากกว่าที่จะไปเล่นกับคุณปู่คุณย่าที่บ้านใหญ่“’งื้อ เลือดเต็มเลยอะ พี่เกรย์น้องกรรฐ์กลัว”แฝดน้องยกมือขึ้นปิดตาก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายที่เดินจูงมือกันมาด้วยความกลัว เพราะเด็กชายตัวน้อยนั้นไม่ชอบเลือดเป็นที่สุด ถึงแม้ว่าบางครั้งจะหกล้มจนได้เลือด เจ้าคนเล็กของบ้านก็จะไม่ยอมมองแผลของตนเองเลย ในขณะที่แฝดพี่ยกมือขึ้นกอดน้องชายเอาไว้หลวม ๆ ทำเอาคุณพ่อยิ้มออกมาน้อย ๆ กับความรักของสองพี่น้อง ที่พี่เกรย์นั้นมักจะเป็นที่พึ่งพิงให้น้องชายเสมอ“ไม่เห็นน่ากลัวเลยน้องกรรฐ์ มันก็แค่เลือดเอง”เกรย์บอกน้องชายเมื่อรถเข็นเตียงพยาบาลวิ่งผ่านไปแล้ว ก่อนที่น้องกรรฐ์จะค่อย ๆ หันหน้ากลับมาแล้วส่งยิ้มแหย ๆ ให้บิดาที่กำลัง
เวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ จากเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเติบโตขึ้นเป็นเด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบที่บุคลิกของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยที่พี่เกรย์นั้นนิ่งมากขึ้นไม่ซุกซน เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายในขณะที่น้องกรรฐ์นั้นดื้อและซนจนกองทัพกับเจ้าขาถึงกับกุมขมับแทบจะทุกวัน“อะ เราให้”เด็กชายกรรฐ์ยื่นอมยิ้มรสโปรดให้กับชมพูเพื่อนสาวต่างห้องที่น้องกรรฐ์แอบปลื้มอยู่ในระหว่างที่รอบิดากับมารดามารับหลังเลิกเรียน ชมพูมองอมยิ้มของเพื่อนต่างห้องที่ยื่นมาให้เธอ พร้อมกับรอยยิ้มที่สาวน้อยมองว่าน่ารักมาก ก่อนที่ชมพูจะยื่นมือไปหยิบอมยิ้มมาจากมือของกรรฐ์“ขอบใจนะ”เด็กหญิงชมพูเอ่ยขอบคุณเพื่อนต่างห้องก่อนที่เด็กน้อยจะเปิดกระเป๋านักเรียนและเก็บอมยิ้มเอาไว้ในนั้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มขอบคุณเพื่อนต่างห้องอีกครั้ง “ถ้าชมพูชอบกรรฐ์จะเอามาฝากทุกวันเลย”เด็กชายกรรฐ์บอกเพื่อนตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่มือเล็กของ ๆ พี่เกรย์จะบิดเข้าที่หูของน้องชายทำเอาน้องกรรฐ์ถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ เพราะแรงบิดของพี่ชายนั้นไม่ใช่เบา ๆ เลยสักนิด ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเกือบทุกวันที่น้องกรรฐ์หนีพี่ชายมาเต๊าะสาว ๆ ในระหว่างที
หลังกลับมาจากท่องเที่ยวสองแฝดที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยก็พากันนั่งเล่นของเล่นไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน ทำเอากองทัพที่วางแผนจะแอบแซ่บกับเมียจ๋าต้องหันไปมองลูกชายด้วยสายตาตัดพ้อ ส่วนน้องกรรฐ์กับพี่เกรย์ที่ไม่รู้เท่าทันแผนของบิดาได้แต่หันมายิ้มร่าให้กับกองทัพอย่างไร้เดียงสา“ไม่ต้องมายิ้มให้พ่อเลยนะเจ้าแฝด นี่ก็สี่ทุ่มแล้วทำไมตาใสแจ๋วแบบนี้ ง่วงบ้างไหมลูก ง่วงหน่อยนะ ง่วงสักนิดก็ยังดีลูกจ๋า ไปนอนกันดีไหมเดี๋ยวพ่อร้องเพลงกล่อมนอน”กองทัพถามลูกชายที่มองหน้าบิดาพร้อมกับกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยไม่เข้าใจในสิ่งที่บิดากำลังพูดกับตนเอง ก่อนที่เด็กชายทั้งสองคนจะเมินพ่อและหันกลับไปนั่งเล่นของเล่นกันต่อทำเอาคุณพ่อได้แต่ทำหน้าคล้ายจะร้องไห้ที่สองแฝดไม่ยอมง่วงนอนสักทีจันทร์กนกที่เดินลงบันไดมามองลูกเขยด้วยความเห็นใจ ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้ลูกเขยน่าจะอยากใช้เวลากับลูกสาวของเธอสองต่อสองสินะ คิดได้ดังนั้นสองเท้าก็ไม่รอช้าที่จะเดินลงมาหาหลานชายทั้งสองที่พากันเล่นของเล่นอย่างไม่รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงเลยแม้แต่น้อย พลังเยอะเหลือเกินนะหลานยาย“ทัพไปนอนเถอะลูก เดี๋ยววันนี้สองแฝดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่เองอยู่กับยายเจ้าแ
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากหนึ่งวันสู่หนึ่งเดือนและหนึ่งเดือนเดินทางมาจนครบหนึ่งปี พี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ต่างได้รับการเลี้ยงดูและเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากกองทัพและเจ้าขา รวมไปถึงเด็กหญิงของขวัญที่รักและเอ็นดูน้องชายฝาแฝดทั้งสองคนมากระหว่างทางของการเติบโตจากวัยทารกก้าวไปสู่วัยหนึ่งขวบ เด็กชายฝาแฝดทั้งสองคนต่างได้รับความรักจากคุณทวดทั้งสองคนที่หลงรักหลานชายที่ขี้อ้อนจนหมดใจ หากแต่เมื่อไหร่ที่แฝดอยู่กับย่าแก้มแล้วนั้น เด็กชายทั้งสองคนเป็นต้องหาเรื่องงอแงใส่ผู้เป็นย่าจนแก้มใสถึงกับกุมขมับทุกครั้งที่แวะมาหาหลานรักทั้งสองคน พร้อมกับตบท้ายด้วยการงอนหลานกลับบ้านทุกครั้งอยู่ร่ำไปเมื่อเด็ก ๆ เติบโตพอที่จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แล้ว กองทัพกับเจ้าขาก็พาลูกชายทั้งสองคนกับลูกสาวคนโตบินมาเที่ยวที่ประเทศอิตาลีอีกครั้ง และถือโอกาสแวะมาเยี่ยมคุณยายจันทร์กนกที่ตอนนี้มีคนรู้ใจไม่ต้องอยู่คนเดียวอย่างเหงา ๆ อีกต่อไป “น้องกรรฐ์ครับมาใส่เสื้อผ้าก่อนเร็ว”กองทัพร้องเรียกลูกชายตัวน้อยที่วิ่งเล่นไปทั่วห้องด้วยความเหนื่อยใจ เพราะกว่าที่เขาจะจับสองแฝดอาบน้ำได้ก็แทบหมดแรงเพราะลูกชายทั้งสองคนของเขานั้นซนมาก ถ้าเทียบกับ
เมื่อลิ้นเล็ก ๆ เลียไปตามรอบฐานท่อนเอ็นใหญ่กองทัพก็อดไม่ได้ที่จะขยำผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่ยี่ไปหมดด้วยความเสียวซ่าน ก่อนที่เจ้าขาจะอ้าปากครอบครองความใหญ่โตที่เกินมาตรฐานชายไทยจนเกือบสุดความยาวพร้อมกับดูดเลียเล่นลิ้นเพื่อต้องการปรนเปรอสามีให้มีความสุข“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพเสียว อูย ตะ ตรงนั้น อ๊า”กองทัพร้องครางเสียงสั่นเมื่อเจ้าขาแกล้งเขาด้วยการเลียวนไปวนมาตรงส่วนหัวเห็ดจุดอ่อนไหวของผู้ชายที่กองทัพไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าตอนนี้เขาเสียวจนแทบเสร็จ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามกลั้นเอาไว้สุดฤทธิ์เพราะนี่ก็เพิ่งผ่านพ้นไปได้ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ“อืม เมียจ๋าดีเหลือเกิน”กองทัพยังคงร้องครางเสียงเบา ๆ ด้วยความเสียวก่อนที่เจ้าขาจะรัวลิ้นใส่ส่วนหัวเห็ดที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหวานให้อย่างไม่นึกรังเกียจ เวลาผ่านไปสักพักสุดท้ายกองทัพก็ไม่สามารถต้านทานลิ้นเล็ก ๆ ที่แตะไปตรงไหนก็เสียวตรงนั้นได้อีกต่อไป“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพไม่ไหวแล้ว ลิ้นหนูดีเหลือเกิน”จบประโยคกองทัพก็ร้องขึ้นเสียงดังอย่างสุขสมก่อนที่เขาจะเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำรักใส่ปากของภรรยาจนมันไหลเยิ้มลงมาที่ขอบปาก ก่อนที่กองทัพจะลุกขึ้นนั่งและยื่นมือไป