หลังจากที่แถลงข่าวออกไปแล้ว กระแสเกี่ยวกับข่าวของเจ้าขาก็เป็นไปในทิศทางบวกแฟนคลับและแฟนละครส่วนใหญ่ไม่ได้ตำหนิหรือไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากแต่ทุกคนกลับประทับใจกับความเป็นลูกผู้ชายของกองทัพ ที่ย้ำด้วยคำพูดที่ชัดถอยชัดคำว่าทุกอย่างล้วนเกิดจากความรักและความตั้งใจไม่ใช่ความผิดพลาด โดยที่ทุกคนต่างยินดีกับหนึ่งชีวิตที่จะเกิดขึ้น พร้อมกับอวยพรให้เจ้าขาและกองทัพมีความสุขกับชีวิตคู่ส่วนสำนักข่าวที่กล้าตั้งถามคำถามไม่เข้าหูเขา ก็โดนเก็บไปตามระเบียบแต่เขาไม่ได้โหดเหมือนปู่ที่เล่นทีถอนรากถอนโคนจนพวกคนเหล่านั้นตกงานกันเป็นแถว เขาก็แค่ทำให้ผู้หญิงหน้าสวยคนนั้นกับหัวหน้าของเธอกระเด็นออกไปจากที่ทำงานแบบไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่หึ อยากเล่นงานเขาเหรอ ก็เจอเขาเล่นกลับคืนวิน ๆ กันทั้งสองฝ่ายไปเลยสิ แต่สองคนนั้นกลับเละเป็นโจ๊กจนแทบไม่มีที่ยืนในสังคม ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อสมราคาที่ต้องจ่าย กับคำถามที่ทำให้เมียของเขาต้องสะเทือนใจ“ทานอีกนิดนะคะ”กองทัพพยายามป้อนข้าวต้มเจ้าขาที่เหลืออีกเพียงนิดเดียวก็จะหมดถ้วย หากแต่เจ้าขากลับเบือนหน้าหนีราวกับเด็กน้อยสามขวบ ที่พออิ่มแล้วก็ไม่อยากที่จะฝืนใจกินต่อ จนกองท
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องทำให้เจ้าขาที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ลุกขึ้นจากโซฟา เมื่อเดินไปส่องตาแมวดูก็พบว่าคนที่มาเคาะประตูยามเที่ยงก็คือคุณป้าแก้มใสพี่สาวของคุณพ่อเก้าทัพนั่นเอง ใบหน้าที่ยังคงเค้าความสวยและอ่อนเยาว์ แม้ว่าอายุของป้าแก้มใสจะล่วงเลยไปถึงห้าสิบกว่าปีแล้วก็ตาม เธอกำลังยืนยิ้มโชว์ลักยิ้มสวยอยู่หน้าห้อง ก่อนที่เจ้าขาจะเปิดประตูออกกว้างเพื่อต้อนรับญาติผู้ใหญ่ของพี่กองทัพ ที่น่าจะมาเยี่ยมเยียนหลานชาย“ฮาย สวัสดีจ้ะหนูเจ้าขา ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะจ๊ะ”น้ำเสียงที่สดใสร่าเริงเอ่ยทักทายว่าที่หลานสะใภ้ ก่อนที่จะเดินเข้ามาในห้องของหลานชายอย่างคนที่คุ้นเคยดี เพราะแก้มใสแวะมาที่นี่หลายครั้งแล้วเพื่อมาเยี่ยมเยียนหลายชายหัวแก้วหัวแหวนที่เธอรักไม่ต่างจากลูกในไส้ ด้วยความที่เธอเองก็เลี้ยงกองทัพมาตั้งแต่เด็กเช่นกันเวลาที่เก้าทัพติดงานและนับดาวไปเรียนหนังสือ“วันนี้ป้าแก้มว่างก็เลยแวะมาเยี่ยมน่ะจ๊ะ ป้าเดาเอาว่าเจ้าทัพต้องให้เจ้าขามาอยู่ด้วยที่คอนโดแน่นอนเลย และก็เดาถูกเสียด้วยก็เลยแวะมาเยี่ยม เอ๋ ไม่ใช่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกต้องตามความตั้งใจก็คือ มาหาเพื่อนกินมื้อเที่ยงด้วยกัน วันนี้ป้า
“ว้าว น่ากินจังเลยพี่ทัพหลานรัก”แก้มใสที่ตื่นขึ้นมาและเห็นหลานชายกำลังบรรจงวางขนมลงบนถ้วยเล็ก ๆ ก็รีบวิ่งเข้ามาหาด้วยความดีใจที่หลานชายมาสานต่อเจตนารมณ์ของเธอที่อยากทำขนมทองหยิบทองหยอด ส่วนแก้มใสที่ได้ยินเสียงร้องของป้าแก้มใสก็ลืมตาตื่นขึ้นด้วยใบหน้าที่งัวเงีย แต่พอหันมาเจอเข้ากับพี่กองทัพของเธอที่กำลังบรรจงหยอดขนมลงถ้วยอยู่ ๆ หัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้รอยยิ้มน้อย ๆ ค่อย ๆ เผยออกมาก่อนที่จะยิ้มกว้างจนไม่สามารถหุบยิ้มได้ เธอไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนขนาดนี้ เพราะผู้ชายที่ทำอาหารและขนมเก่งมักจะเป็นคนที่มีความละเอียดอ่อน รวมไปถึงอ่อนโยนซึ่งกองทัพก็คือผู้ชายแบบนั้นแหละผู้ชายที่ชอบพูดทะลึ่งแต่ก็แสนจะอ่อนโยน“เจ้าขามาเร็ว มาชิมทองหยิบทองหยอดฝีมือพี่ทัพ”แก้มใสกวักมือเรียกหลานสะใภ้ที่ลุกขึ้นเดินตรงมาหาทั้งสองคน ก่อนที่จะตักขนมขึ้นมาแล้วจ่อมาที่ริมฝีปากของเจ้าขา เธอนึกเขินไม่น้อยที่คุณป้าไม่ถือตัวแถมยังป้อนขนมเธออีก เจ้าขาอ้าปากรับขนมเข้าปากก่อนที่ดวงตากลมโตจะเบิกกว้างด้วยความตกใจเพราะรสชาติขนมที่พี่กองทัพทำอร่อยมาก เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าฝีมือการทำขนมของ
“ให้เขาหานางเอกคนใหม่มาแสดงแทนเจ้าขาไม่ได้เหรอคะ”กองทัพถามเจ้าขาที่กำลังเตรียมตัวจะออกไปถ่ายละคร ที่หยุดการถ่ายทำมาหลายวัน เพื่อให้เธอได้จัดการกับข่าวของตัวเองให้เรียบร้อย ซึ่งละครเรื่องนี้ถ่ายทำไปมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว เจ้าขาจึงอยากถ่ายทำต่อให้เสร็จ เพราะไม่อยากให้ทุกคนที่ร่วมแสดงละครกับเธอต้องเสียเวลาถ่ายทำใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง ที่ต้องเปลี่ยนนางเอกกะทันหันหากเธอขอถอนตัว“ถ้าเจ้าขาขอถอนตัว แบบนั้นก็คงไม่แฟร์กับเพื่อนนักแสดงคนอื่นที่เขาต้องถ่ายทำใหม่อีกครั้ง เหลืออีกแค่ไม่กี่วันก็จะถ่ายทำเสร็จแล้วค่ะ ให้เจ้าขาไปถ่ายต่อเถอะนะคะ จะได้เป็นการทิ้งท้ายผลงานก่อนที่จะเป็นคุณแม่เต็มตัว”เอ่ยบอกคุณพ่อขี้ห่วงที่บึนปากน้อย ๆ อย่างงอแงเมื่อว่าที่ภรรยาคนสวยจะออกไปทำงานทั้ง ๆ ที่กำลังตั้งท้องอ่อน ๆ อยู่ แต่เขาก็รับฟังและเข้าใจเหตุผลที่เจ้าขาบอก ถึงแม้มันอาจจะขัดใจเขาไปบ้าง เพราะเขาเป็นห่วงเธอ ถ้าหากเกิดพลาดพลั้งมีการผิดคิวขึ้นมาในระหว่างการถ่ายทำ อาจจะทำให้เจ้าขากับลูกได้รับอันตรายซึ่งเขาคงจะเจ็บปวดน่าดูถ้าเป็นแบบนั้น“เจ้าขาสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดี ในระหว่างที่ถ่ายทำจะไม่ให้ลูกของเราได้รับอ
“กรี๊ด ไอ้บ้าผู้ชายบ้า ไอ้คนบ้า”เพลงพิณกรีดร้องเสียงดังลั่นอยู่ในน้ำเมื่อกองทัพไม่ยอมช่วยเธอ แถมยังปล่อยเธอให้ร่วงลงสระน้ำจนเปียกโชกไปทั้งตัวอีก กองทัพเบะปากใส่เพลงพิณพร้อมกับไหวไหล่น้อย ๆ อย่างไม่แยแสร่างบางที่ลอยคออยู่ในน้ำ เขาเดินเข้าไปหาเจ้าขาที่ยกมือขึ้นกุมแก้มเอาไว้ด้วยความเจ็บมือใหญ่เชยคางมนขึ้นก็พบว่าแก้มของเจ้าขานั้นแดงช้ำจากแรงฟาดของเพลงพิณ เห็นแบบนั้นก็ให้นึกโกรธและเกลียดเพลงพิณขึ้นเป็นเท่าตัว เรื่องเดิมยังไม่ทันคิดบัญชีก็สรรหาเรื่องใหม่มาให้ทบต้นทบดอกหึ ได้เลย กล้าทำร้ายเจ้าขาต่อหน้าเขาแบบนี้กองทัพต้องจัดให้หนักพลั่กเพลงพิณที่ขึ้นมาจากน้ำเดินปรี่เข้ามาผลักไหล่กองทัพที่ไม่ทันตั้งตัว จนเขาเซไปทางด้านหลังเล็กน้อย ก่อนที่กองทัพจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าเพลงพิณด้วยความไม่พอใจ ตบหน้าเมียเขายังไม่พอยังมีหน้ามาผลักเขาอีกผู้หญิงอะไรนิสัยโคตรพาล ต้องโตมาแบบไหนกันนะถึงได้ไร้มารยาทแบบนี้“กล้าดีมากนะมาผลักฉันตกน้ำน่ะฮะ”น้ำเสียงที่เคยหวานตวาดแหวด้วยความโกรธกองทัพ ที่เขากล้าผลักเธอตกน้ำต่อหน้าทุกคนในกองถ่าย ที่พากันนั่งหัวเราะที่เห็นเธอโดนผลัก โดยที่ไม่มีใครคิดจะลงไปช่วยเธอขึ้นมาจากสระน
หลังจากวันนั้นกองทัพก็ให้เจ้าขาหยุดพักงานไปถึงสองวัน ก่อนที่จะกลับมาถ่ายทำต่อจนละครที่เหลือเพียงไม่กี่ฉากถ่ายเสร็จเรียบร้อยและจบลงด้วยดี ท่ามกลางความคับแค้นใจของเพลงพิณที่ไม่สามารถแตะต้องเจ้าขาได้เลย เพราะกองทัพส่งคนมาคอยเฝ้าตามประกบอีกคนตลอดเวลาแม้กระทั่งเวลาที่เข้าฉากกับเพลงพิณเจ้าขากลับเล่นได้อย่างถึงบทบาท แต่กลับเป็นเพลงพิณเองที่ประหม่าจนทำให้ผู้กำกับต้องสั่งคัตอยู่หลายครั้ง ส่งผลให้นักแสดงคนอื่นเกิดความไม่พอใจเพลงพิณตามไปด้วยที่เธอไม่เป็นมืออาชีพพอ แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดีและในที่สุดเวลาที่กองทัพเฝ้ารอก็มาถึง เวลาที่เขาจะเอาคืนเพลงพิณเสียที หลังจากที่รอให้ละครถ่ายทำจนเสร็จ ที่เห็นเขานิ่งนั่นเพราะเขาแค่รอเวลา ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด เพราะใครทำให้เจ้าขาเจ็บคน ๆ นั้นต้องเจ็บเสียยิ่งกว่าClubวันนี้หลังจากเลิกงานกองทัพก็ขอหนีเมียมาเที่ยวหนึ่งวัน โดยที่ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่บนโซฟาราคาแพง เพราะที่แห่งนี้คือสถานที่รวมตัวของบุคคลที่มีฐานะและชื่อเสียง รวมถึงใครบางคนที่ชอบมามั่วกับคนในวงการเดียวกันโดยที่ชอบนัดพบกัน ณ สถานที่แห่งนี้“เธอมาถึงแล้วครับนาย”ลูเซียลูกน้องคู่ใจของกองทัพร
เมื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้วกองทัพก็ตรงไปที่ห้องทำงานเพื่อจัดการกับงานที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อย โดยเป็นงานที่อิตาลีที่เขามอบหมายให้เควินดูแล ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับการลงทุนที่เขาต้องเป็นคนตัดสินใจ แว่นตาที่วางเอาไว้บนโต๊ะทำงานถูกหยิบขึ้นมาสวมก่อนที่กองทัพจะหยิบเอกสารออกมานั่งอ่านข้อมูลอย่างละเอียด อีกด้านหนึ่งเจ้าขาค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนที่เธอจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าและหยิบชุดนอนตัวบางที่แทบจะปกปิดร่างอวบอิ่มของเธอเอาไว้ไม่มิดขึ้นมาสวมแทนที่ชุดเดิมที่ค่อนข้างหนาและถอดยาก มันอาจจะไม่สะดวกถ้าเธอต้องมอบรางวัลให้พี่กองทัพโดยที่มีชุดเป็นสิ่งกีดขวางแกรก แอดเจ้าขาค่อย ๆ เปิดประตูห้องทำงานเข้ามาพร้อมกับนมร้อน ๆ ที่เธอลงไปชงเพื่อนำมาให้กองทัพดื่มก่อนนอน ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วเธอตั้งใจจะมาป้อนนมสดให้พี่ทัพได้ดื่มก่อนเข้านอนมากกว่าหมับร่างบางที่ทิ้งตัวลงนั่งบนตักของว่าที่สามีพร้อมกับยกมือขึ้นโอบรอบคอหลวม ๆ ทำเอาคนที่กำลังตั้งใจจ้องมองตัวอักษรในกระดาษถึงกับชะงักไปเล็กน้อย คิ้วเข้ม ๆ ขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยเพราะเขาคิดว่าเจ้าขานั้นหลับสนิทแล้วแต่ทำไมเธอถึง...“ทำไมถึงยังไม่เข้
“อ๊า พะ พี่ทัพเจ้าขาเสียว”เสียงหวานร้องครางขึ้นเมื่อกองทัพละเลงลิ้นลงบนกลีบกุหลาบ ที่แหวกออกให้ลิ้นร้ายได้สำรวจดอกไม้งามที่เต็มไปด้วยน้ำหวานฉ่ำเยิ้มอย่างเชิญชวน กองทัพเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าสวยของเจ้าขาเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะรัวลิ้นลงบนเกสรดอกไม้ ทำเอาร่างเล็กต้องจิกเท้ากับโต๊ะด้วยความเสียวซ่านนิ้วเรียวดุจแท่งเทียนค่อย ๆ แทรกเข้าไปในความคับแน่นที่มีน้ำหวานเป็นตัวเบิกทางให้นิ้วของกองทัพผ่านเข้าไปได้อย่างสะดวก เจ้าขาสะดุ้งน้อย ๆ พร้อมกับก้มลงมองศีรษะของคนพี่ที่อยู่ระหว่างขาของเธอลิ้นเล็กเผลอเลียริมฝีปากน้อย ๆ ก่อนที่จะพยายามกลั้นเสียงครางเอาไว้แต่สุดท้ายแล้วเจ้าขาก็ไม่สามารถทนกลั้นเอาไว้ได้“อ๊ะ อื้อ พี่ทัพตรงนั้นมัน อ๊า เสียว”นิ้วของกองทัพเข้าไปลึกสุดจนเจอกับจุดกระสันของเจ้าขา เพียงแค่เขาสะกิดเบา ๆ เจ้าขาก็ร้องครางเสียงหวานขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ น้ำหวานยังคงไหลออกมาชโลมนิ้วเรียวจนเปียกชุ่มยิ่งทำให้จังหวะรัวนิ้วของกองทัพไหลลื่น ดวงตากลมโตของเจ้าขาบัดนี้ฉ่ำเยิ้มไปด้วยอารมณ์พิศวาส“เสียวก็ร้องออกมาดัง ๆ ค่ะทูนหัวพี่ทัพชอบฟัง”กองทัพเงยหน้าขึ้นบอกเจ้าขาที่ตอนนี้กำลังขาส
ที่รักค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องนอนของสามีโดยที่มีชมพู่เด็กรับใช้คอยช่วยพยุง ก่อนที่เธอจะเดินมานั่งลงบนเตียงใหญ่ที่มีร่างที่ไร้ลมหายใจของคู่ชีวิตนอนอยู่ มือที่สั่นเทาค่อย ๆ เอื้อมไปจับมือของสามีขึ้นมาแนบแก้ม ก่อนที่หยดน้ำตาจะหลั่งรินกระทบฝ่ามือใหญ่ที่เคยตอบรับสัมผัสกัน แต่บัดนี้ไม่มีความรู้สึกใด ๆ อีกต่อไปแล้ว“หลับให้สบายนะคะพี่หมอของที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ๆ หลาน ๆ แล้วนะ ที่รักสัญญาว่าจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดีให้เหมือนตอนที่พี่หมอยังอยู่”น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดไปทั้งสรรพางค์กาย หัวใจที่เคยมีความสุขก่อนหน้านี้กลับเศร้าหมอง ทั้ง ๆ ที่ทำใจมาบ้างแล้ว เพราะสามีของเธอนั้นบอกกับเธอเสมอว่า เขาอายุมากแล้วและอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน ขอให้เธอเข้มแข็งและทำใจให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริง เวลาที่เธอไม่อยากให้เดินทางมาถึง กลับมาถึงเร็วกว่าที่คิดมันเลยทำให้เธอนั้นทำใจยากเหลือเกิน“หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เราสองคนได้เกิดมาคู่กันและเป็นสามีภรรยากันแบบนี้ตลอดไป แต่ชาติหน้าอย่าทำให้ที่รักเสียใจอีกนะคะ ชาตินี้ที่รักรักพี่หมอก่อน ชาติหน้าขอให้พี่หมอรักที่รักก่อนนะคะ ที่รักสัญญาว่าจะรักพี่
วันหยุดสุดสัปดาห์คฤหาสน์พิสิฐกุลวัตรดิลก“กราบครับคุณทวด”น้องเกรย์กับน้องกรรฐ์ประนมมือขึ้นก่อนที่จะก้มลงกราบบนตักของคุณทวดที่รัก ที่ยกมือขึ้นลูบหัวของเหลนชายฝาแฝดทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ก่อนที่เหลนทั้งสองคนจะเงยหน้าพร้อมกับลุกขึ้นไปนั่งข้าง ๆ คุณทวดเมื่อท่านพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต“พี่ขวัญล่ะครับ ทำไมถึงไม่มากับพวกเราด้วย”ที่รักถามเหลนทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่ยังคงความอ่อนหวานเช่นเคย ก่อนที่น้องเกรย์จะหยิบตะกร้าที่บรรจุด้วยขนมหวานขึ้นมาวางเอาไว้บนตักและตอบคำถามของคุณทวดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“พ่อทัพพาพี่ขวัญไปส่งที่บ้านย่าแก้มครับ คุณย่าโทรมาหาตั้งแต่เช้า บอกว่าคิดถึงพี่ขวัญมากไม่มีเพื่อนเล่นไพ่นกกระจอก พ่อทัพก็เลยพาพี่ขวัญไปหาคุณย่าครับ ส่วนพวกเราสองคนวันนี้ตั้งใจมาหาคุณทวดครับ นี่ครับคุณทวด ขนมที่พ่อทัพกับพี่ขวัญตื่นมาช่วยกันทำตั้งแต่เช้า กำชับแล้วกำชับอีกว่าให้แฝดนำมาให้ทวดชิม พ่อทัพบอกว่าคุณทวดชอบกินขนมเทียนแก้วมาก ตอนเด็ก ๆ ก็ชอบทำให้พ่อทัพกินบ่อย ๆ”น้องเกรย์ตอบคำถามคุณทวดจบก็หยิบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้นและแกะออกจากห่อใบตองที่ห่ออย่างประณีตสวยงาม ก่อนที่จะยื่นไปตรงหน้าของคุณทวดที่อ้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ของขวัญที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนใหญ่ค่อย ๆ หันไปมองประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้างด้วยความดีใจ เพราะคนที่กำลังวิ่งดุกดิกเข้ามาหาเธอก็คือน้องชายฝาแฝดตัวแสบนั่นเอง“ดึกแล้วทำไมยังไม่พากันนอนอีกครับ พี่เกรย์น้องกรรฐ์”ของขวัญถามน้องชายทั้งสองคนที่กำลังกระโดดขึ้นมาบนเตียงนอนของเธอคนละฝั่ง พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ด้วยรอยยิ้มทั้งคู่ ก่อนที่เกรย์จะตบหมอนของพี่สาวเบา ๆ ของขวัญก็ทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ น้องชายทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข“พี่เกรย์ชวนน้องกรรฐ์มานอนเป็นเพื่อนพี่ขวัญครับ”คำตอบของน้องชายคนเล็กทำเอาของขวัญถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่ที่เธอขึ้นชั้นมัธยม สองแฝดก็ไม่เคยมานอนกับเธออีกเลย ไม่รู้ว่าพอโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้วเขินเธอหรือเปล่า ทั้งคู่ถึงไม่ยอมมานอนด้วยกันเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ“เกรย์ไม่อยากให้พี่ขวัญต้องนอนเหงาคนเดียวครับ อย่างน้อย ๆ มีน้องกรรฐ์กับเกรย์มานอนด้วยคืนนี้จะได้นอนหลับฝันดี”ประโยคที่แฝงไปด้วยความห่วงใยจากน้องชายคนโต ทำเอาของขวัญถึงกับน้ำตารื้นด้วยความซาบซึ้งใจกับค
5 ปีผ่านไปห้องเรียน“โอเคค่ะทุกคน วันนี้คุณครูก็ขอจบการสอนไว้เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้เจอกันใหม่ อย่าลืมเอาการบ้านไปส่งคุณครูด้วยนะคะ ใครช้าได้ออกมาแก้โจทย์ให้เพื่อน ๆ ดูแน่ ๆ”เมื่อคุณครูสาวกล่าวจบและเก็บของออกจากห้องเรียนไปแล้วพี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันก็รีบเก็บสมุดหนังสือลงใต้โต๊ะเรียนทันที ก่อนที่สองพี่น้องจะหันมาพยักหน้าอย่างรู้กัน พร้อมกับลุกขึ้นเตรียมที่จะเดินออกไปจากห้องเรียนเพื่อไปทานมื้อเที่ยงที่โรงอาหารแต่ยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะเดินไปถึงหน้าห้องเรียน เด็กหญิงน้ำหวานกับเด็กหญิงลูกพีช เพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบสองแฝดก็รีบวิ่งมายืนดักหน้าทั้งสองหนุ่มทันที ทำเอาสองพี่น้องรีบกระโดดถอยหลัง ราวกับว่าสองสาวตรงหน้า คือตัวเชื้อโรคที่ทั้งสองคนไม่อยากอยู่ใกล้อย่างไรอย่างนั้น“เกรย์ กรรฐ์วันนี้ไปกินข้าวกับพวกเรานะ”น้ำหวานเอ่ยปากชวนสองหนุ่มด้วยรอยยิ้ม แต่สองแฝดกลับส่ายหน้าไปมาพร้อม ๆ กันราวกับนัดหมาย ทำเอารอยยิ้มของเด็กหญิงน้ำหวานค่อย ๆ จางหายไปจากใบหน้าสวยหวานของเด็กหญิงวัยสิบขวบ เมื่อเพื่อนชายที่เธอแอบชอบมาตลอดปฏิเสธที่จะไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน“แต่พวกเราสองคนชวนกรรฐ์กับเกรย์ท
โรงพยาบาล Nวันหยุดสุดสัปดาห์กองทัพจูงมือลูกชายทั้งสองคนมาตามทางเดินของโรงพยาบาลของครอบครัว เนื่องจากวันนี้เขากับเจ้าขาต้องออกงานสังคม จึงพาลูกชายทั้งสองคนมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาล เพราะพอถึงวันหยุดทีไรพี่เกรย์มักจะชอบมาขลุกอยู่ที่นี่ เพื่อดูคุณทวดทำงานและนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่เสมอ ส่วนน้องกรรฐ์ส่วนใหญ่แล้วจะชอบไปเล่นกับคุณปู่คุณย่า แต่วันนี้น้องชายฝาแฝดกลับอยากมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาลกับพี่ชายมากกว่าที่จะไปเล่นกับคุณปู่คุณย่าที่บ้านใหญ่“’งื้อ เลือดเต็มเลยอะ พี่เกรย์น้องกรรฐ์กลัว”แฝดน้องยกมือขึ้นปิดตาก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายที่เดินจูงมือกันมาด้วยความกลัว เพราะเด็กชายตัวน้อยนั้นไม่ชอบเลือดเป็นที่สุด ถึงแม้ว่าบางครั้งจะหกล้มจนได้เลือด เจ้าคนเล็กของบ้านก็จะไม่ยอมมองแผลของตนเองเลย ในขณะที่แฝดพี่ยกมือขึ้นกอดน้องชายเอาไว้หลวม ๆ ทำเอาคุณพ่อยิ้มออกมาน้อย ๆ กับความรักของสองพี่น้อง ที่พี่เกรย์นั้นมักจะเป็นที่พึ่งพิงให้น้องชายเสมอ“ไม่เห็นน่ากลัวเลยน้องกรรฐ์ มันก็แค่เลือดเอง”เกรย์บอกน้องชายเมื่อรถเข็นเตียงพยาบาลวิ่งผ่านไปแล้ว ก่อนที่น้องกรรฐ์จะค่อย ๆ หันหน้ากลับมาแล้วส่งยิ้มแหย ๆ ให้บิดาที่กำลัง
เวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ จากเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเติบโตขึ้นเป็นเด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบที่บุคลิกของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยที่พี่เกรย์นั้นนิ่งมากขึ้นไม่ซุกซน เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายในขณะที่น้องกรรฐ์นั้นดื้อและซนจนกองทัพกับเจ้าขาถึงกับกุมขมับแทบจะทุกวัน“อะ เราให้”เด็กชายกรรฐ์ยื่นอมยิ้มรสโปรดให้กับชมพูเพื่อนสาวต่างห้องที่น้องกรรฐ์แอบปลื้มอยู่ในระหว่างที่รอบิดากับมารดามารับหลังเลิกเรียน ชมพูมองอมยิ้มของเพื่อนต่างห้องที่ยื่นมาให้เธอ พร้อมกับรอยยิ้มที่สาวน้อยมองว่าน่ารักมาก ก่อนที่ชมพูจะยื่นมือไปหยิบอมยิ้มมาจากมือของกรรฐ์“ขอบใจนะ”เด็กหญิงชมพูเอ่ยขอบคุณเพื่อนต่างห้องก่อนที่เด็กน้อยจะเปิดกระเป๋านักเรียนและเก็บอมยิ้มเอาไว้ในนั้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มขอบคุณเพื่อนต่างห้องอีกครั้ง “ถ้าชมพูชอบกรรฐ์จะเอามาฝากทุกวันเลย”เด็กชายกรรฐ์บอกเพื่อนตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่มือเล็กของ ๆ พี่เกรย์จะบิดเข้าที่หูของน้องชายทำเอาน้องกรรฐ์ถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ เพราะแรงบิดของพี่ชายนั้นไม่ใช่เบา ๆ เลยสักนิด ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเกือบทุกวันที่น้องกรรฐ์หนีพี่ชายมาเต๊าะสาว ๆ ในระหว่างที
หลังกลับมาจากท่องเที่ยวสองแฝดที่ไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยก็พากันนั่งเล่นของเล่นไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน ทำเอากองทัพที่วางแผนจะแอบแซ่บกับเมียจ๋าต้องหันไปมองลูกชายด้วยสายตาตัดพ้อ ส่วนน้องกรรฐ์กับพี่เกรย์ที่ไม่รู้เท่าทันแผนของบิดาได้แต่หันมายิ้มร่าให้กับกองทัพอย่างไร้เดียงสา“ไม่ต้องมายิ้มให้พ่อเลยนะเจ้าแฝด นี่ก็สี่ทุ่มแล้วทำไมตาใสแจ๋วแบบนี้ ง่วงบ้างไหมลูก ง่วงหน่อยนะ ง่วงสักนิดก็ยังดีลูกจ๋า ไปนอนกันดีไหมเดี๋ยวพ่อร้องเพลงกล่อมนอน”กองทัพถามลูกชายที่มองหน้าบิดาพร้อมกับกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยไม่เข้าใจในสิ่งที่บิดากำลังพูดกับตนเอง ก่อนที่เด็กชายทั้งสองคนจะเมินพ่อและหันกลับไปนั่งเล่นของเล่นกันต่อทำเอาคุณพ่อได้แต่ทำหน้าคล้ายจะร้องไห้ที่สองแฝดไม่ยอมง่วงนอนสักทีจันทร์กนกที่เดินลงบันไดมามองลูกเขยด้วยความเห็นใจ ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้ลูกเขยน่าจะอยากใช้เวลากับลูกสาวของเธอสองต่อสองสินะ คิดได้ดังนั้นสองเท้าก็ไม่รอช้าที่จะเดินลงมาหาหลานชายทั้งสองที่พากันเล่นของเล่นอย่างไม่รู้สึกเหนื่อยหรือง่วงเลยแม้แต่น้อย พลังเยอะเหลือเกินนะหลานยาย“ทัพไปนอนเถอะลูก เดี๋ยววันนี้สองแฝดปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่เองอยู่กับยายเจ้าแ
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากหนึ่งวันสู่หนึ่งเดือนและหนึ่งเดือนเดินทางมาจนครบหนึ่งปี พี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ต่างได้รับการเลี้ยงดูและเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากกองทัพและเจ้าขา รวมไปถึงเด็กหญิงของขวัญที่รักและเอ็นดูน้องชายฝาแฝดทั้งสองคนมากระหว่างทางของการเติบโตจากวัยทารกก้าวไปสู่วัยหนึ่งขวบ เด็กชายฝาแฝดทั้งสองคนต่างได้รับความรักจากคุณทวดทั้งสองคนที่หลงรักหลานชายที่ขี้อ้อนจนหมดใจ หากแต่เมื่อไหร่ที่แฝดอยู่กับย่าแก้มแล้วนั้น เด็กชายทั้งสองคนเป็นต้องหาเรื่องงอแงใส่ผู้เป็นย่าจนแก้มใสถึงกับกุมขมับทุกครั้งที่แวะมาหาหลานรักทั้งสองคน พร้อมกับตบท้ายด้วยการงอนหลานกลับบ้านทุกครั้งอยู่ร่ำไปเมื่อเด็ก ๆ เติบโตพอที่จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แล้ว กองทัพกับเจ้าขาก็พาลูกชายทั้งสองคนกับลูกสาวคนโตบินมาเที่ยวที่ประเทศอิตาลีอีกครั้ง และถือโอกาสแวะมาเยี่ยมคุณยายจันทร์กนกที่ตอนนี้มีคนรู้ใจไม่ต้องอยู่คนเดียวอย่างเหงา ๆ อีกต่อไป “น้องกรรฐ์ครับมาใส่เสื้อผ้าก่อนเร็ว”กองทัพร้องเรียกลูกชายตัวน้อยที่วิ่งเล่นไปทั่วห้องด้วยความเหนื่อยใจ เพราะกว่าที่เขาจะจับสองแฝดอาบน้ำได้ก็แทบหมดแรงเพราะลูกชายทั้งสองคนของเขานั้นซนมาก ถ้าเทียบกับ
เมื่อลิ้นเล็ก ๆ เลียไปตามรอบฐานท่อนเอ็นใหญ่กองทัพก็อดไม่ได้ที่จะขยำผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่ยี่ไปหมดด้วยความเสียวซ่าน ก่อนที่เจ้าขาจะอ้าปากครอบครองความใหญ่โตที่เกินมาตรฐานชายไทยจนเกือบสุดความยาวพร้อมกับดูดเลียเล่นลิ้นเพื่อต้องการปรนเปรอสามีให้มีความสุข“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพเสียว อูย ตะ ตรงนั้น อ๊า”กองทัพร้องครางเสียงสั่นเมื่อเจ้าขาแกล้งเขาด้วยการเลียวนไปวนมาตรงส่วนหัวเห็ดจุดอ่อนไหวของผู้ชายที่กองทัพไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าตอนนี้เขาเสียวจนแทบเสร็จ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามกลั้นเอาไว้สุดฤทธิ์เพราะนี่ก็เพิ่งผ่านพ้นไปได้ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ“อืม เมียจ๋าดีเหลือเกิน”กองทัพยังคงร้องครางเสียงเบา ๆ ด้วยความเสียวก่อนที่เจ้าขาจะรัวลิ้นใส่ส่วนหัวเห็ดที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหวานให้อย่างไม่นึกรังเกียจ เวลาผ่านไปสักพักสุดท้ายกองทัพก็ไม่สามารถต้านทานลิ้นเล็ก ๆ ที่แตะไปตรงไหนก็เสียวตรงนั้นได้อีกต่อไป“อ๊า ที่รักจ๋าพี่ทัพไม่ไหวแล้ว ลิ้นหนูดีเหลือเกิน”จบประโยคกองทัพก็ร้องขึ้นเสียงดังอย่างสุขสมก่อนที่เขาจะเกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำรักใส่ปากของภรรยาจนมันไหลเยิ้มลงมาที่ขอบปาก ก่อนที่กองทัพจะลุกขึ้นนั่งและยื่นมือไป