@Hight barผู้หญิงรูปร่างเล็กเดินผ่านการ์ดของผับชื่อดังเข้าไปด้านใน ผ้าชิ้นเล็กอย่างเกาะอกสีดำ ขับให้หน้าอกของคนใส่ดูใหญ่กว่าตัว ถุงน่องสีดำสนิทขับให้ท่อนขาเรียวสวยดูเซ็กซี่ขึ้น การมาถึงของเธอ ดึงดูดสายตาของผู้ชายเกือบทุกคน ที่ดื่มกินอยู่ในโซนวีไอพี แต่สิ่งที่ทำให้เธอดึงดูดผู้คนมากที่สุด กลับไม่ใช่การแต่งกายด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น หรือรูปหน้าสวยหวาน แต่มันเป็นท่าทางอ่อนต่อโลกของเธอมากกว่า ที่ดึงดูดความสนใจของเหล่านักล่า ผู้ชายที่หิวกระหายเหยื่อสาวบริสุทธิ์ ง่ายต่อการล่อลวง“มู่เฟยหลง” ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้เองก็เช่นกัน เขาสนใจเธอตั้งแต่แรกเห็น ไม่อาจละสายตาไปที่ไหน หิวกระหายในการล่า จนเพื่อนสนิทที่นั่งดื่มอยู่ด้วยกัน เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ“มีอะไรหรือเปล่าอามู่?” ซีฮันยกมือขึ้นสะกิดไหล่เพื่อนที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆกัน “…”“…?”เมื่อเพื่อนสนิทไม่ยอมเปิดปากตอบคำถาม ซีฮันจึงมองตามดวงตาสีดำลึกลับคู่นั้นไป ดวงตาสีเทาอ่อนลุกวาว เผลอยกมือลูบริมฝีปากด้วยความเคยตัว ห่างออกไปจากจุดที่เขากับเพื่อนนั่งอยู่ราวๆห้าเมตร ในส่วนของบาร์เหล้านั้น มีสาวเจ้าท่าทางไม่ต่างจากกระต่ายน้อยนั่
Boom~ Boom ~เสียงเพลงในผับเริ่มเปลี่ยนจังหวะ จากฟังสบายๆเป็นบีทหนักๆ เหล่านักท่องราตรีเริ่มเดินออกไปวาดลวดลายให้เข้ากับเสียงดนตรี สองสาวสวยที่นั่งดื่มอยู่บริเวณบาร์เดินไปแจมกับคนอื่นๆบ้าง แต่เพียงไม่นานหญิงสาวที่ดูอ่อนต่อโลก ก็กลับมานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมดวงตาสีดำสนิทจ้องมองร่างขาวเนียน ที่กำลังโน้มลงไปวางใบหน้าบนเคาน์เตอร์บาร์ ท่าทางของเธอเหมือนคนเมาหนัก ทั้งที่เขาเห็นเธอดื่มไปแค่ไม่กี่แก้ว ทุกการเคลื่อนไหวของเธออยู่ในสายตาเขาเสมอ มันดูอ่อนหวาน ทว่ากลับดูเย้ายวนแปลกๆ เหมือนเชิญชวนให้วิ่งเข้าหาด้วยท่าทางที่ดูอ่อนต่อโลกเธอเป็นผู้หญิงที่ทำให้ผู้ชายในนี้รู้สึกตื่นตัว นักล่าในนี้ ย่อมอยากได้เหยื่อที่ล่าได้ง่ายๆ ติดมือกลับไปด้วยอยู่แล้วชายหนุ่มที่ครอบครองความสูงถึงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ลุกขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็ว ซีฮันได้แต่มองตามแผ่นหลังเพื่อนไป เหยียดยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่าเพื่อนหย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้ตัวยาว ข้างๆกับสาวน้อยท่าทางใสซื่อ หญิงสาวที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาของเหล่านักล่าอยู่ในตอนนี้“ไปให้พ้นนะ! ที่ตรงนี้เป็นของเพื่อนฉันเสียงไล่อู้อี้ จนคนฟังแทบไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร คนที่ร
“ฉันคงคาดหวังกับคนอย่างคุณมากเกินไป ฉันคืนให้ค่ะ บอกตามตรงว่าฉันไม่กล้าดื่ม”ขวดน้ำเย็นจัดถูกยื่นกลับคืนไปให้เจ้าของ มือใหญ่ยื่นออกไปรับมันกลับมา เปิดฝาดื่มของเหลวด้านในลงไปเกือบครึ่งขวด เพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าเขาไม่ได้ใส่อะไรแปลกๆลงไป ดื่มเสร็จก็ยื่นคืนกลับไปให้คนตัวเล็กที่นั่งมองอยู่ตลอด“มันก็แค่น้ำเปล่า”“ค่ะ ฉันรู้”ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่ยิ้มจางๆ รับขวดน้ำจากมือใหญ่กลับมา ดื่มของเหลวข้างในลงไปเพียงนิดเดียวก็ส่งมันคืน จับจ้องร่างสูงกำยำที่กำลังโถมขึ้นมา คลี่ริมฝีปากกว้างขึ้นกว่าเดิม เมื่อเขาอยู่ใกล้จนเห็นร่องรอยบางอย่าง“ต่อนะ มาต่อจากจูบกันเถอะ”เฟยหลงดึงรั้งคนตัวเล็กเข้าหาตัว บดจูบลงไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาชอบจูบของเธอ แม้จะเหมือนคนไม่มีประสบการณ์ แต่มันก็ไม่ถึงกลับแย่ เขาชอบที่ได้ไล่ต้อนเธอให้จนมุม ด้วยลิ้นร้อนๆของตัวเอง“อ๊ะ!”เสียงครางหวานดังอื้ออึงในลำคอ หญิงสาวใบหน้าสวยหวานยอมเป็นผู้ตามที่ดี ยอมให้ลิ้นใหญ่ไล่ต้อนจนกว่าเขาจะพอใจ มองสบดวงตาดุร้ายอยู่ตลอด เมื่อดวงตาคู่นั้นค่อยๆหยาดเยิ้ม มุมปากจิ้มลิ้มก็เผลอเหยียดตรง“ถอดนะ?”มือใหญ่ไล้วนอยู่ตามผิวเนื้อไร้เนื้อผ้า ขออนุญาติเสร
วันรุ่งขึ้นสิ่งแรกที่เฟยหลงทำหลังรู้สึกตัว คือการคลำมือไปด้านข้าง เพื่อหาร่างที่ร่วมหลับนอนกับตัวเอง สิ่งที่ได้พบมีเพียงความเย็นชืดของผ้าปูที่นอน เปลือกตาหนักอึ้งทั้งสองลืมขึ้นทันที สันกรามขบเข้าหากันแน่น คนที่ต้องการให้อยู่เพื่อคลายความกังขา ออกไปจากห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ร่างสูงกำยำขยับลงจากเตียง ไล่สายตามองสำรวจรอยเลือดบนเตียง ริมฝีปากหยักสวยเบ้ขึ้นสูงอย่างไม่อยากเชื่อครั้งแรกงั้นเหรอ ครั้งแรกอะไรถึงได้ช่ำชองขนาดนั้น! มือใหญ่ยกขึ้นยีเส้นผมตัวเองแรงๆ ตอนแรกคิดว่าเธอไร้เดียงสาและไม่มีประสบการณ์ แต่ไอ้ตอนที่ควบอยู่ข้างบนมันไม่ใช่ ลีลาก็จัดจ้านจนเขาติดใจ แต่ทำไมถึงรู้สึกตะหงิดใจไม่หายแบบนี้ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยสภาพอิดโรย เห็นตัวเองในกระจกของอ่างล้างหน้าแล้วแทบผละ นั่นเขาหรือ? นึกว่าคนเป็นโรคไข้เลือกออก หญิงสาวคนนั้นทิ้งรอยแดงไว้ทั่วทั้งตัว ขนาดบนหัวสีแดงของแท่งเนื้อใหญ่ เธอก็ยังไม่เว้นไว้เลย ใช้งานแท่งลำที่เขาแสนจะภาคภูมิใจจนแดงเถือกไปหมด เป็นแบบนี้อาจจะต้องงดใช้งานมันไปสักพัก“… ?”นี่เขาเป็นผู้ล่า หรือถูกล่ากันแน่?มือใหญ่ยกขึ้นทุบลงบนบานกระจก เขานึกว่าตัวเองเป็นฝ
สัปดาห์ต่อมาเมื่อได้ข้อมูลของผู้หญิงที่เพื่อนสนใจมาจากนักสืบ ซีฮันก็รีบจัดการส่งรูปถ่ายพร้อมกับประวัติของเธอคนนั้นไปให้เพื่อน ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมู่เฟยหลงได้รับมัน ในขณะที่เขากำลังนั่งดื่มกับสาวสวยรายหนึ่งอยู่ในผับของตัวเอง ดวงตาคมกล้าเลื่อนอ่านข้อมูลเงียบๆ แม้จะมีเพียงชื่อกับข้อมูลไม่กี่อย่าง แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา มือใหญ่วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ หันความสนใจกลับมาที่หญิงสาวข้างกาย“คนรักทักมาเหรอค่ะ อารมณ์ดีเชียว”ใบหน้าสวยเผยรอยยิ้ม ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบช้าๆ เอนศรีษะซบลงบนไหล่กว้าง จิบเหล้าต่อไปพลางๆ ทำเหมือนไม่อยากรู้คำตอบของคำถามที่เพิ่งถามไป“เปล่า”ใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำลง จนริมฝีปากแทบจะแนบชิดติดกลีบปากสีแดงสด ความสนใจถูกหญิงสาวตรงหน้าดึงไปจนสิ้น ใบหน้าจิ้มลิ้มไร้เดียงสาแบบนั้น จะสู้ผู้หญิงสวยมั่นอย่างเธอคนนี้ได้ยังไง“ให้มันจริงเถอะค่ะ”“ฉันไม่เคยโกหก คนที่ทักมาไม่ใช่คนรักของฉัน”น้ำเสียงนุ่มทุ้มเย็นชาขึ้น เมื่อพูดถึงเรื่องคนรัก หญิงสาวที่คุ้นเคยกับผู้ชายมาบ้าง เดาอารมณ์คนข้างๆได้ทันที มุมปากหยักสวยเหยียดออก ขยับตัวออกห่างช้าๆ ภารกิจที่ได้รับมา เสร็จสิ้นเพียงแค่นี้แหละ“แ
วันรุ่งขึ้นถิงลี่หมิงยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แม้จะมีนัดหมายกับใครบางคนก็ตาม ตั้งใจปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปจนดึก ไม่คิดจะเดินทางไปสถานที่นัดหมายเร็วกว่านั้น ตั้งใจยื้อเวลาออกไปให้นานที่สุด เพื่อให้เขาคนนั้น ลิ้มรสชาติของคนที่เป็นฝ่ายรอรถยนต์คันหรูจอดลงในลานจอดรถของผับที่ดังที่สุด และหรูหราที่สุดในย่านนั้น ร่างสมส่วนถูกปิดทับด้วยเสื้อผ้าสวมใส่สบายๆ อย่างเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขาสั้น ปล่อยท่อนขาเรียวสวยโดนลมอุ่นของต้นฤดูร้อนรินรด ลี่หมิงสาวเท้าเข้าไปในผับช้าๆ ไม่ได้รีบร้อนเลยแม้เวลาจะใกล้เข้าวันใหม่ไปทุกที เลือกที่นั่งในมุมเงียบๆของร้าน เพื่อดูปฏิกิริยาของคนรอห่างออกไปไม่มาก มู่เฟยหลงกำลังเสียสติ เพราะเธอที่นัดกับเขา ไม่ยอมปรากฏตัวสักที ใบหน้าบึ้งตึงของชายหนุ่มที่นั่งถัดออกไปห้าโต๊ะ ทำให้ใบหน้าสวยหวานไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม เผยรอยยิ้มเหยียดหยัน เขาควรได้ลิ้มรสชาติแบบนี้บ้าง จะได้เลิกอวดดี เลิกคิดว่าผู้หญิงเป็นเพียงแค่ของเล่น เขาชอบเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น เธอก็จะเล่นกับความรู้สึกของเขาเช่นกัน“ยัยบ้าเอ้ย! กล้าหลอกฉันงั้นเหรอ”พรึ่บ! อึก อึก!แก้วรูปทรงแปลกตา ถูกมือเรียวสวยยกขึ้นดื่มอย่าง
“มองอะไร? อยากรู้จักฉันขึ้นมาแล้วเหรอ?”“ฉันไม่อยากรู้จักคุณหรอกค่ะ รู้จักไปก็ปวดใจเปล่าๆ” และฉันรู้จักคุณดีอยู่แล้ว ลี่หมิงพูดต่อประโยคสุดท้ายในใจ“ต้องทำยังไง ผู้หญิงอย่างเธอ ถึงจะอยากรู้จักกับฉัน?”เฟยหลงถามออกไปในที่สุด มันไม่ใช่ประโยคคำถามซะทีเดียว คล้ายๆประโยคบอกเล่ามากกว่า“คุณจะคบกับฉันไหมล่ะ?” ลี่หมิงสลัดความหวั่นไหวเล็กๆ เพราะคำถามประโยคนั้นออกไป รู้ดีว่าคำตอบของคำถามของตัวเองคืออะไร แต่ก็อยากถาม เพราะแผนการของเธอ คือทำให้เขาหวั่นไหวให้ได้มากที่สุด“ไม่!” และมันเป็นอย่างที่เธอคิดไว้ เขาตอบกลับมาทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย ใบหน้าสวยแสร้งยิ้มเศร้า ส่งความผิดหวังออกไปทางดวงตา บีบความเสียใจที่มีอยู่จริงเพียงเล็กน้อย ออกมาคลอรอบหน่วย แสร้งเงยหน้าขึ้นเพื่อไล่หยาดน้ำ แสร้งปั้นเสียงสั่นกล่าวคำร่ำลา“ถ้าอย่างนั้น ก็ … ลาก่อนค่ะ เราไม่น่ากลับมาพบกันอีกเลย ให้เรื่องระหว่างเรามันจบลงที่คืนนั้นก็ดีแล้ว”ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่รอยยิ้มหวาน แสร้งทำเหมือนว่าคืนนั้นคือความทรงจำแสนงดงามในความรู้สึกของตัวเอง เมื่อความหวั่นไหวในดวงตาคู่คมไม่มีให้เห็นเลย ก็รีบร้อนหยัดตัวยืน เธอผิดที่รีบร้อนข
“ลุกขึ้น!”แต่วิธีการนั้น เขาไม่เคยทำมันกับใครถ้าไม่ใช่คนรัก เฟยหลงสลัดความรู้สึกแปลกๆทิ้ง เอื้อมมือไปกระชากท่อนแขนเล็กฉุดรั้งให้ลูกขึ้น ลากเธอออกไปจากห้องก่อนที่ตัวเองจะทำแบบที่คิดจริงๆ เดินลิ่วไปขึ้นลิฟต์โดยที่คนตัวเล็ก ได้แต่ลากขาตามไปอย่างห้ามไม่ได้ติ๊ง!เมื่อเสียงเตือนดังขึ้น ประตูลิฟต์ก็เปิดกว้าง เฟยหลงยกมือปัดเส้นผมที่ปกระใบหน้าขึ้น มองคนที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ ไล่สายตามองคนตัวเล็กอย่างสำรวจ แม้เสียงร้องไห้จะเงียบไปแล้วตั้งแต่เขาลากเธอออกมา แต่น้ำตามันยังไม่หายไปจากใบหน้าสวยหวานนี้เลย เธอไปเอาน้ำตามาจากไหนเยอะแยะ“นี่!”“อ๊ะ! อึก!”ดวงตาคลอน้ำช้อนขึ้นมอง ก้าวถอยหลังไปจนชิดผนังลิฟต์ ยกมือขึ้นป้องกันตามสัญชาตญาณ เธอไม่ควรกลัว บอกตัวเองแบบนั้นมาตลอด แต่พอเอาเข้าจริงๆ เธอกลับรู้สึกกลัวเขามากเธอถูกเพื่อนๆ เรียกว่าสาวมั่น ไม่มีอะไรที่สามารถสั่นคลอนคนแบบเธอได้ แต่อยู่กับเขา เธอกลายเป็นคนอ่อนแอ กลายเป็นเธอคนเดิมที่พ่ายแพ้ จนต้องหนีไปเลียแผลใจไกลถึงต่างแดน“อยะ อย่าเข้ามานะ!”เมื่อนึกถึงตัวเองหลังจากนั้น ใบหน้าสวยหวานก็เชิ่ดขึ้น น้ำตาเหมือนจะเหือดแห้งไป ดวงตาฉายความชิงชังออกมาจนคนที่กำ
ฟูหลินใช้มือข้างที่ถนัดพยุงร่างของเพื่อนสนิทไว้ อีกมือใช้มันล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าแบรนด์ดัง เพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากคนในบ้านคนอื่น ซึ่งพี่ซีเหวินว่าที่สามีของเธอ ให้เบอร์ติดต่อไว้แล้ว เพื่อเรียกใช้ในตอนที่จำเป็น“สวัสดีค่ะคุณแม่บ้าน รบกวนมาช่วยฉันพาตัวลี่หมิงขึ้นไปนอนบนเตียงหน่อยได้ไหมคะ?”ฟูหลินใช้น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ถึงความเกรงใจ ถึงเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูลถิง แต่ไม่มีความคิดจะยกตนเหนือคนอื่น ปฏิบัติกับทุกคนตามหน้าที่ และยึดหลักความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์ไว้ผ่านไปเพียงแค่ห้านาที ประตูไม่เนื้อดีก็ถูกผลักเข้ามา คนที่ผลักประตูบานนั้นคือพี่เลี้ยงคนสนิทของลี่หมิง ท่าทางบอบบางของผู้เป็นนาย ทำเอาน้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นลงพื้น“ช่วยหน่อยนะคะ”ฟูหลินเข้าใจ เพราะเธอเองก็สงสารเพื่อนสนิทไม่ต่างกัน ทั้งสองคนช่วยกันพยุงร่างคนหลับไปนอนบนเตียง หลังจากนั้นพี่เลี้ยงก็ขออาสาเป็นคนดูแลต่อ หาผ้าชุบน้ำหมาดๆมาเช็ดตัวให้ หาชุดอื่นมาให้ใส่ จากนั้นก็ปล่อยให้นอนพักผ่อนอยู่ตามลำพังลี่หมิงนอนฝันร้ายทั้งคืน ในฝันของเธอมีคนพยายามแย่งเด็กคนหนึ่งไปจากเธอ เด็กคนนั้นเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม ในวินาทีแรกที่ได
“ผมก็หวังให้เป็นแบบนั้นครับ”“อือ จะไปดูคนที่ไปกับลีหน่อยไหม เธออยู่ห้อง 304”“ครับ? ลีไม่ได้ไปคนเดียว?”“ไม่นะ มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกพามาพร้อมกัน”“?”“ชื่อถิงถิง หลินถิงถิง”“หลินถิงถิง? เลขาของฉันนี่คะ?”“อ่า งั้นไปดูเธอกัน ลีผ่าตัดเสร็จค่อยมาดูเขา”เฟยหลงสรุป คนทั้งสองก้มหน้าลงเพื่อกล่าวคำลากับพ่อของลี จากนั้นก็เดินไปตามทางเดิน มีพยาบาลที่อยู่แถวนั้นรับอาสาพาไปที่ห้อง ลี่หมิงพยายามไม่โทษตัวเอง แต่ยิ่งพบว่ามีคนบาดเจ็บเพราะมีสาเหตุเป็นเธอ ความคิดยิ่งดำดิ่งลงลึก“คุณหลินถิงถิงอยู่ในห้องค่ะ คุณหมอให้เยี่ยมได้แค่สิบนาทีนะคะ”พยาบาลพูดจบก็เดินจากไป เฟยหลงเปิดประตูห้องออก เดินนำเข้าไปก่อน ลี่หมิงเดินตามเข้าไปบ้าง ก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อเห็นเลขาที่เคยอารมณ์ดี นอนอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือเสียบอยู่ที่แขนซ้ายของเธอ ขาถูกพันด้วยผ้าสันนิษฐานว่าด้านในนั้นน่าจะเป็นเฝือก“เอ่อ สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ”ชายวัยกลางคนสวมชุดกราวหันกลับไปมอง ยกมุมปากขึ้นยิ้มแต่แววตากลับไม่ได้ยิ้มตาม เพียงไม่นานก็หันกลับไปแบบเดิม จ้องมองลูกสาวแสนรักเงียบๆ นึกเสียใจที่รักเธอมากเกินไป ยอมตามใจเธอทุกอย่าง ปล่อยให้เธอไปใช้ชีวิตในแบบ
“คุณลี คุณลี! ระวัง!”ปัง!เอี๊ยด!รถยนต์เสียหลักเพราะคนควบคุมพวงมาลัยโดนกระสุนจากรถยนต์คันข้างๆ เจาะเข้าบริเวณซี่โครงด้านขวา เหยียบเบรกเท่าที่ร่างกายจะสามารถทำได้ แต่ถึงอย่างนั้นรถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงก็ยังพุ่งไปด้านหน้า ลีพยายามบังคับพวงมาลัยไว้ ก่อนสติสุดท้ายจะหมดลงเขาปกป้องเธอได้หรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่อยู่กับเขาในความทรงจำสุดท้ายเมื่อรถยนต์สีขาวปะทะเข้ากับเสาไฟในสภาพด้านหน้าพังยับ รถยนต์คันสีดำก็ขับเคลื่อนออกไปจากบริเวณนั้น งานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วง ไม่ต้องลงไปตรวจสอบก็ได้ เพราะคำสั่งที่ได้รับจากผู้เป็นนาย จะเป็นหรือตายก็ได้เงินเท่ากันถิงถิงหลั่งน้ำตามองเลือดที่หยดตามใบหน้าหล่อเหลา เขาตั้งใจให้รถชนทางฝั่งที่เขานั่ง พยายามรักษาคำพูดว่าจะปกป้องเธอ โดยใช้ตัวเองเข้าแลก เขาบ้ามาก บ้าที่สุด ทั้งที่บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงในแบบที่ชอบแท้ๆ แต่ก็ทำร้ายจิตใจเธอด้วยการทำแบบนี้“อย่าตายนะ! ได้โปรด”ถิงถิงได้ยืนเสียงตัวเอง และเสียงไซเรนที่น่าจะเป็นของรถตำรวจ หรือไม่ก็คงเป็นรถพยาบาล แต่เธอไม่ได้ยินเสียงเขา มองไม่เห็นดวงตาที่เคยเย็นชานั่นด้วย ตาเขาสวยนะ เธอชอบมัน ชอบที่สุด“ฮึก! ฮือ! ฉันช
“ผมไปโรงพยาบาล xxx นะ”ลีเอ่ยชื่อโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดออกไป กำลังจะถอยออกไปเพื่อปิดประตู เสื้อก็ถูกดึงไว้ จนมันแถบจะหลุดออกมาจากในกางเกง คนทำเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าบอกเหตุผลที่ไม่อยากไปโรงพยาบาลแห่งนั้น“ไปส่งฉันที่บ้านก็พอ”“แต่ขาคุณ”“ช่างขาฉันเถอะค่ะ ข้อเท้ามันแพลงเฉยๆ ไปหาหมอก็ได้แค่ยามากินอยู่ดี”คนที่คลุกคลีอยู่กับโรงพยาบาลมาทั้งชีวิต และมีความรู้ด้านนี้มากพอสมควร พูดเสียงห้วนกับคนตัวโต พิงหลังเข้ากับเบาะรถ เอื้อมไปดึงกระเป๋าจากมือคนที่ยังยืนนิ่ง ล้วงหาโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่สนใจ แจ้งกับเจ้านายอีกคนว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น เธอจึงหยิบของที่เขาต้องการไปให้ไม่ได้ โชคดีที่เจ้านายเธอใจดี ไม่เพียงแค่เข้าใจสถานการณ์ เขายังสั่งให้เธอหยุดงานจนกว่าขาจะหายเจ็บ“บ้านคุณอยู่ที่ไหน?”“ถนน XX ย่านศูนย์การค้า M”รถยนต์สีขาวเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ เมื่อคนขับรู้จุดหมายปลายทางที่จะไป ใบหน้าคมคายโดดเด่นด้วยดวงตาสีน้ำทะเลลึก แอบมองคนข้างๆทุกครั้งที่สบโอกาส แปลกใจที่คนสวยขนาดนี้ยังไม่มีคนรัก ที่แปลกใจมากกว่านั้น คือการที่เธอมาสารภาพรักกับตัวเองถ้าตัดเรื่องฐานะกับหน้าตาออกไป เขาคิดว่าตัวเองไม่มีอะไร
“ไปคนเดียวได้ใช่ไหม?”เฟยหลงถามรุ่นน้องมากฝีมือด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล มั่นใจว่าลีเอาตัวรอดได้ เพราะเขาเป็นถึงทายาทของบริษัทรักษาความปลอดภัยอันดับหนึ่งของประเทศ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ที่ไม่รู้ว่าตระกูลโจวจะมาไม้ไหน เอาการ์ดไปเพิ่มอีกสักคนน่าจะปลอดภัยกว่า“ผมเคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกกว่า” ลีตอบ เข้าใจความกังวลของเจ้านาย แต่เคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกและรวดเร็วกว่าจริงๆ“ระวังตัวด้วยนะคะคุณลี”“ครับ”ลียืนรอจนกระทั่งรถยนต์คันใหญ่เคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ มองจุดหมายปลายทางในโทรศัพท์ที่เจ้านายส่งมาให้ ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันได้ระวังมุมทางด้านซ้าย เพราะมัวแต่ดูมุมด้านขวา คนที่เดินพ้นมาจากมุมนั้นจึงชนร่างเขาสุดแรงพลั่ก! ตุบ!“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ”เลขาสาวเอ่ยปากขอโทษบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อของเจ้านาย ทั้งที่ตัวเองล้มพับอยู่บนพื้น และรู้สึกปวดข้อเท้าหนึบๆ ส่วนคนที่เธอชนและเอ่ยขอโทษ ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลย ร่างกำยำยังยืนได้อย่างมั่นคง“คุณตามผมมาทำไม?” นั่นคือสิ่งที่ลีสงสัย และมันเป็นสาเหตุที่เขาไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเธอ“คะ? ตามคุณ?”“รถคุณจอดอยู่ชั้นล่าง ไม่มีทางที่คุณจะอยู่ตรงนี้เพราะรถคุณจอดที่นี่”“นี่คุ
ชั่วโมงต่อมาเมื่อมื้ออาหารจบลง ลี่หมิงก็ปลีกตัวไปทำงานของตัวเอง ปล่อยให้พ่อกับพี่ชาย ปรึกษาหารือกับคนรัก เกี่ยวกับวิธีรับมือการเล่นงานจากคนของตระกูลโจว ซึ่งการหารือเต็มไปด้วยความตึงเครียด ตลอดการพูดคุยมีแต่เรื่องให้ปวดหัว และความรุนแรงของแต่ละเหตุการณ์ กว่าจะหาแผนรับมือกับทางนั้นได้ ก็ถึงเวลาเลิกงานของบริษัทพอดี“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน”เพราะคนที่นั่งอยู่อีกฟากมีท่าทีกระวนกระวายมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน ซีหยวนจึงหยุดการหารือไว้เพียงแค่นั้น อีกอย่างแผนการที่มู่เฟยหลงเสนอมาก็ไร้ช่องโหว่ น่าจะรับมือกับการระรานของคนจากตระกูลโจวได้อย่างถาวร“ผมไปหาลี่หมิงนะครับ”เพียงไม่นานก็ไร้เงาของคนพูด ผู้นำของตระกูลถิงยกยิ้ม มองหน้าลูกชายเพื่อหาแนวร่วม เมื่อเห็นความพอใจบนใบหน้าลูกชาย รอยยิ้มก็ฉายออกกว้างกว่าเดิม“เหลือด่านสุดท้ายสินะ”“ถ้าแม่ได้เห็นสีหน้าเขาเมื่อกี้ ท่านให้ผ่านแน่นอนครับ”“นั่นสิ เพิ่งจะเคยเห็นเจ้าชายเพลย์บอยทำสีหน้าแบบนั้น”สำหรับถิงซีหยวน มู่เฟยหลงไม่ต่างจากเจ้าชาย เพราะเขาเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ติดอันดับต้นๆของประเทศ ซ้ำยังเป็นหลานคนเดียวที่เป็นผู้ชาย ตำแหน่งผู้นำรุ่นต่อไปของต
“ฮึ่ม!”“อะแฮ่ม! ขอขัดจังหวะหน่อยได้ไหม”ถิงซีเหวินแกล้งกระแอม เพื่อบอกคู่รักที่กำลังสวีทกันอยู่บนโซฟา ว่าตัวเองอยู่ในห้องด้วย แอบยิ้มขำกับท่าทางของน้องสาว ที่กำลังลนลานผลักร่างใหญ่โตไปอีกฟากของโซฟา“หลบสิ!”“พี่เธอเห็นหมดแล้ว”“เห็นก็ไม่คิดจะหลบเลยเหรอ ถอยออกไปก่อน”“เห้อ! พี่แค่จะมาถาม ว่าสนใจไปทานกลางวันด้วยกันไหม ฟูหลินหิ้วของกินมาเต็มเลย ตอนนี้อยู่ที่ห้องรับรอง”“อ่า พี่เฟยหลงสั่งอาหารของโรงแรมมา”“ไปสิ มีเรื่องจะคุยพอดี”“อ่า เอาแบบนั้นแล้วกัน”“อื้อ ตามมานะ อย่าช้าล่ะ พี่หิว”ลี่หมิงก้มหน้าหลบสายตาล้อเลียนของพี่ชาย เมื่อเขาออกไปพ้นประตู ก็หันไปทำตาขวางใส่คนรัก และสิ่งที่เขาทำตอบกลับมา ทำเอาเธอแทบถลาเข้าไปทุบอก ทำหน้าตาไม่ทุกข์ร้อนไม่พอ ยังหยักไหล่เหมือนไม่แคร์อีก มันน่าตีจริงๆเลย“นี่! เลิกทุบได้แล้วน่า ไม่เจ็บมือหรือไง”เฟยหลงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เอ็นดูมือเล็กๆที่ระดมทุบทั้งๆที่รู้ว่าทำอะไรเขาไม่ได้ ไหนจะใบหน้าโกรธจัดผสมกับความเขินอาย ทั้งน่ารัก ทั้งน่าแกล้ง จนอยากแกล้งไม่หยุด“คนหน้าไม่อาย! นิสัยเปลี่ยนทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้”ลี่หมิงบ่นเสร็จก็ลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบกระเป๋าข
“เห้อ!”“ไม่ต้องห่วงคุณเฟยหลงหรอกครับ”ลีพูดเสียงเรียบ มองเห็นความกังวลของคนรักเจ้านาย ผ่านทางกระจกมองหลังได้อย่างชัดเจน ผู้ชายคนนั้นไม่น่าเป็นห่วงหรอก เขาเก่งทั้งเรื่องการต่อสู้ เก่งทั้งเรื่องการทำธุรกิจ เมื่อก่อนเคยเสียดายที่เจ้านายเอาแต่ขลุกอยู่ในบาร์ ตอนนี้รู้สึกขอบคุณเธอ ที่ทำให้เขาออกมาใช้ชีวิตในแบบที่ควรใช้ได้“ก็ ไม่ได้ห่วงขนาดนั้นหรอกค่ะ”ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบา ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความอาย เธอไม่ชินหรอก เวลาที่เขาแสดงความรักทั้งที่มีคนอื่นอยู่ด้วย แต่เพราะคุณลีทำตัวเหมือนไม่มีตัวตน เธอจึงอายน้อยลงกว่าปกติ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นไงเมื่อรถยนต์จอดสนิทในที่จอดรถของพนักงานระดับผู้บริหาร ลี่หมิงก็ได้รับการดูแลอย่างเช่นทุกที มีคุณลีคอยเปิดประตูให้ ซ้ำยังถูกเขายื่นมือเข้ามาแย่งกระเป๋าใบเล็กไปถือบ่อยครั้งที่เธอนึกสงสัย ว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนของใครกันแน่ ระหว่างเธอกับคนรัก“ฉันถือเองได้นะคะคุณลี”“ครับ แต่ไม่เป็นไร”เห้อลี่หมิงถอนหายใจออกมาเบาๆ มองคนที่เดินนำหน้าอย่างสำรวจ นึกขำอย่างเช่นทุกครั้งที่จ้องมอง ผู้ชายรูปร่างกำยำ สวมชุดสีดำทั้งบนและล่าง ช่างไม่เข้ากันกับก
“อ่ะ อ่า อ๊า!”มือเล็กเลื่อนไปกำเส้นผมนุ่มไว้เต็มสองอุ้งมือ ใช้มันระบายความซ่านสยิว และใช้มันบังคับคนตัวโตในบางครั้ง ในตอนที่เขาผละออกมาเหมือนจะแกล้ง เธอรีบดึงมันไว้เพราะกลัวเขาหนี หรือบางทีเขาปาดลิ้นรุนแรงจนร่างกายเธอทนไม่ไหว ก็ดึงมันออกมาเพื่อให้ตัวเองอดทนได้ต่อ“อึก! อื้อ! พี่เฟยหลง ฉัน! ฉันกำลัง อ๊ะ!”นิ้วมือใหญ่ถอดหายออกจากความนุ่มนิ่ม ลิ้นที่ปาดไล้อยู่บริเวณนั้นมานานกว่าสิบนาทีก็ด้วย ร่างสูงผละออกห่างทั้งที่รู้ชัดว่าคนรักกำลังจะแตะถึงสวรรค์ ยกมุมปากขึ้นยิ้ม ดึงฝ่ามือนุ่มนิ่มมากำรอบความใหญ่โต“อย่าลืมว่าเธอต้องถูกลงโทษ”“ก็ไม่ได้ลืมสักหน่อย!” คนที่ถูกทำให้ค้างตอบเสียงห้วน“งั้นก็ลุกขึ้นมา นี่ก็อยู่ในบทลงโทษเหมือนกัน”“ทำให้ฉันเสร็จก่อนก็ได้ไม่ใช่เหรอ อีกนิดเดียวเอง”จุ๊บ!“เดี๋ยวทำให้นะ!”เพราะคำพูดคำจาเธอน่ารักน่าเอ็นดู เขาจึงอดใจไม่ไหว โน้มตัวลงไปจูบหนักๆข้างแก้ม บังคับมือเล็กให้ขยับเร็วขึ้น แท่งเนื้อแข็งในอุ้งมือเริ่มมีน้ำใสไหลปริ่มส่วนปลาย ริมฝีปากเล็กลอบกลืนน้ำลายลงคอ ถ้าหากเขาให้เธอเอามันเข้าไปในปาก มันต้องเป็นเรื่องยากแน่ๆ“ฉันต้องทำมันจริงๆเหรอ?”“เธอไม่คิดจะเอาอกเอาใจแฟน