สัปดาห์ต่อมา
เมื่อได้ข้อมูลของผู้หญิงที่เพื่อนสนใจมาจากนักสืบ ซีฮันก็รีบจัดการส่งรูปถ่ายพร้อมกับประวัติของเธอคนนั้นไปให้เพื่อน ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมู่เฟยหลงได้รับมัน ในขณะที่เขากำลังนั่งดื่มกับสาวสวยรายหนึ่งอยู่ในผับของตัวเอง ดวงตาคมกล้าเลื่อนอ่านข้อมูลเงียบๆ แม้จะมีเพียงชื่อกับข้อมูลไม่กี่อย่าง แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา มือใหญ่วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ หันความสนใจกลับมาที่หญิงสาวข้างกาย
“คนรักทักมาเหรอค่ะ อารมณ์ดีเชียว”
ใบหน้าสวยเผยรอยยิ้ม ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบช้าๆ เอนศรีษะซบลงบนไหล่กว้าง จิบเหล้าต่อไปพลางๆ ทำเหมือนไม่อยากรู้คำตอบของคำถามที่เพิ่งถามไป
“เปล่า”
ใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำลง จนริมฝีปากแทบจะแนบชิดติดกลีบปากสีแดงสด ความสนใจถูกหญิงสาวตรงหน้าดึงไปจนสิ้น ใบหน้าจิ้มลิ้มไร้เดียงสาแบบนั้น จะสู้ผู้หญิงสวยมั่นอย่างเธอคนนี้ได้ยังไง
“ให้มันจริงเถอะค่ะ”
“ฉันไม่เคยโกหก คนที่ทักมาไม่ใช่คนรักของฉัน”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มเย็นชาขึ้น เมื่อพูดถึงเรื่องคนรัก หญิงสาวที่คุ้นเคยกับผู้ชายมาบ้าง เดาอารมณ์คนข้างๆได้ทันที มุมปากหยักสวยเหยียดออก ขยับตัวออกห่างช้าๆ ภารกิจที่ได้รับมา เสร็จสิ้นเพียงแค่นี้แหละ
“และมัน … คงไม่ใช่ฉันเหมือนกัน เสียใจนะคะที่คุณมู่ให้สถานะคนรักกับใครไม่ได้”
หญิงสาวลุกขึ้นยืน เพลย์บอยหนุ่มจ้องใบหน้าเฉี่ยวคมนิ่งๆ ความคุกรุ่นของอารมณ์ฉายออกมาทางแววตา
“ก็ … เป็นอย่างนั้นแหละมั้ง”
เฟยหลงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเฉยชา เขาไม่เคยฝืนใจใครให้มานอนด้วย และไม่เคยบอกด้วยว่าจะคบกันจริงจัง ทุกครั้งก่อนขึ้นเตียง เขาจะคุยตกลงกันให้เรียบร้อย ให้อะไรได้เขาก็ให้ ยกเว้นหัวใจที่ให้ใครไม่ได้จริงๆ แต่ถ้าเป็นเงินทองเขาไม่เคยเกี่ยง ความสุขบนเตียงเขาทำให้ได้เต็มที่ แต่อย่ามาหวังอยากได้เขาเป็นสามี เขาไม่ให้ แม้แต่ฐานะคนรักก็ให้ไม่ได้
“ฉันคงหวังอะไรที่มันเกินตัว ขอตัวนะคะคุณมู่ ขอให้คืนนี้เป็นคืนที่สนุกค่ะ”
ร่างอรชรที่เคยนั่งอยู่อย่างใกล้ชิดเมื่อครู่ เดินจากไปแบบไม่หันกลับมามอง เฟยหลงได้แต่สบทในใจ ‘สนุกกับผีนะสิ’ เขาเสียเวลากับเธอคนนั้นตั้งนาน จูบก็ไม่ได้จูบ ได้จับแค่สะโพกอวบๆของเธอ หงุดหงิดจนไม่อยากดื่มต่อ ร่างสูงกำยำผุดลุกขึ้นจากโซฟา คว้ากุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะกระจก เดินไปตามเส้นทางออกไปด้านหลังร้าน
สิบนาทีต่อมา
รถยนต์คันหรูขับออกจากผับด้วยความเร็ว เจ้าของรถไม่มีความคิดจะไปที่ไหนต่อ ขับรถตรงกลับบ้านด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนด ความเร็วลดค่อยๆลดลง เมื่อขับมาถึงโซนที่พักอาศัย ซึ่งบริเวณนี้คนค่อนข้างพลุกพล่าน ดวงตาคมกล้าทอดมองออกไปด้านนอก เห็นใครบางคนที่รูปร่างคุ้นตา เมื่อมองจนเห็นใบหน้านั้นชัดเจน ก็รีบหักรถมองหาที่จอด
ตึก! ตึก!
“เธอ! เธอ!”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย จนผู้คนในบริเวณนั้นหันไปมองอย่างสนใจ คนที่กำลังเร่งฝีเท้าหยุดชะงัก หันไปมองก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก้าวขาถอยหลังในขณะที่คนเรียกรีบสาวเท้าเข้ามาใกล้
“มานี่เลย!”
“ปล่อยนะ!”
“ตามมาเงียบๆ!”
“ไม่! ไม่เอา!”
“หรือต้องการให้ฉันพูดธุระตรงนี้?”
เฟยหลงขู่คนตัวเล็กที่ดื้อรั้นจะหนีไปจากเอื้อมมือเขาให้ได้ คนถูกขู่ทำสีหน้าหวาดกลัว กดเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อระงับอารมณ์บางอย่างไม่ให้ปะทุ ยอมเดินตามเขาไปในพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีผู้คน ดวงตาจดจ่ออยู่กับคนตรงหน้า สมองจดจ่ออยู่กับแผนการ
เธอนึกว่าจะเจอเขาช้ากว่านี้ เพราะเขาดูไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไหร่ ผิดคาดแฮะ! แต่เธอไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับเขานี่สิ
“ฉันคิดว่าเราไม่มีเรื่องให้ต้องคุยกันนะคะ”
คนตัวเล็กที่ครอบครองความสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบเศษ ช้อนดวงตากลมโตขึ้นมองใบหน้าคมคาย บีบน้ำตาให้มันคลอรอบหน่วย เหมือนคนกำลังเสียใจกับเรื่องระหว่างเธอกับเขา
“แต่ฉันคิดว่ามี”
“คุณจะคุยอะไรกับฉันคะ … ทั้งที่มันผ่านมาตั้งขนาดนี้แล้ว ปล่อยเถอะคะ คุณคงไม่ได้คิดจะจริงจังอะไรกับฉัน ระหว่างเรา ให้มันเป็นหมือนก่อนหน้านั้นเถอะค่ะ เป็นเพียงแค่คนที่ไม่รู้จักกัน”
คนตัวเล็กหมุนตัวเดินหนี เพื่อซ่อนสีหน้าไว้ไม่ให้เขาคนนั้นเห็น
“ฉันชื่อเฟยหลง มู่เฟยหลง!”
มู่เฟยหลงเอ่ยแนะนำตัวออกไป ในขณะที่เดินตามหลังคนตัวเล็กไปช้าๆ
“ค่ะ คุณมู่” หญิงสาวตอบรับเสียงเรียบ ก้าวเดินต่อไปไม่หยุด
“นี่เธอ!” มู่เฟยหลงชักยั่วะ เมื่อคนตัวเล็กไม่สนใจ ซ้ำยังไม่ยอมหยุดคุยกับเขาดีๆ
“ขอโทษนะคะคุณมู่ คุณช่วยลืมเรื่องในคืนนั้นไปได้ไหม ฉันไม่อยากพูดถึงมัน รวมถึงไม่อยากรู้จักกับคุณด้วย”
ใบหน้าสวยหันกลับมา ยกมุมปากขึ้นยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนมองรู้สึกผิดขึ้นมา
“แต่ฉันอยากรู้จักเธอ”
มู่เฟยหลงบอกความต้องการของตัวเองออกไปตรงๆ เขาอยากรู้จักเธอมากขึ้น เรียกว่าสนใจในระดับที่มากกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ส่วนจะจริงจังไหม เรื่องนั้นเขาไม่เคยคิดเลย
“ถ้าคุณอยากจะลองทำความรู้จักกับฉันจริงๆ วันพรุ่งนี้ไปดื่มกันไหมคะ คุณน่าจะชอบอะไรแบบนั้น”
ใช่! เขาชอบแบบนั้นจริงๆ เขาชอบชวนสาวๆไปดื่ม ไม่ต้องถามเลยว่าดื่มแล้วจะทำอะไรต่อ
“ตกลง พรุ่งนี้เจอกันที่ผับเดิม”
ทันทีที่พูดจบ ร่างสูงกำยำก็หมุนตัวเดินจากไป เลือกสถานที่นัดหมายเป็นถิ่นของตัวเอง เผื่อไว้ในกรณีที่มีอะไรผิดปกติ คนของเขาจะได้จับตัวเธอไว้ได้ทัน
“หึ!”
เสียงหวานพ่นออกจากลำคอ ท่าทีอ่อนหวานเมื่อสักครู่ ถูกแทนที่ด้วยท่าทางอื่น ถิงลี่หมิงเดินลิ่วไปขึ้นรถที่จอดห่างจากบริเวณนั้นออกมานิดหน่อย การบังเอิญเจอกันวันนี้ ส่งผลให้เธอดำเนินแผนการได้เร็วขึ้นกว่าที่วางไว้
ลี่หมิงหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาคนรู้จัก ที่รับงานแบบนั้นโดยเฉพาะ เธอเสาะหาและคัดเลือกเอาคนที่ไว้ใจที่สุด และทำงานให้เธอได้ดีที่สุด แม้จะต้องจ่ายเงินทีละมากๆ แต่ถ้ามันช่วยลากผู้ชายอย่างมู่เฟยหลงไปพบกับความเจ็บปวดได้ เธอคิดว่ามันคุ้ม
เมื่อนัดหมายกันเสร็จแล้ว ถิงลี่หมิงก็กดวางสาย ความรู้สึกผิดเกาะกินใจไม่หยุด เธอไม่ได้ตั้งใจส่งผู้หญิงคนอื่นไปนอนกับมู่เฟยหลง แต่เธอเอาตัวเองไปสังเวยให้เขาไม่ได้จริงๆ จึงจำเป็นต้องเสาะหาคนมาทำหน้าที่แทน
รถยนต์คันหรูขับตรงกลับบ้าน ร่างบอบบางเดินปรี่ขึ้นข้างบน เมื่อเดินมาจนถึงห้องส่วนตัวก็เปิดประตูเข้าไป ใบหน้าสวยเครียดขึ้นกว่าเดิม ร่างสมส่วนในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์เดินไปหยุดอยู่หน้าตู้กระจก เลื่อนลิ้นชักตู้ออกมา หยิบสมุดบันทึกขึ้นมาเปิด ดวงตาคู่หวานไล่อ่านตัวอักษร ทบทวนสิ่งที่ตัวเองตั้งใจจะทำอีกครั้ง
นี่เพิ่งจะเริ่มต้นเอง ทำไมเธอถึงรู้สึกเหนื่อยได้ขนาดนี้ อยากจบเรื่องนี้เร็วๆ กลัวตัวเองจะเผลอใจให้กับผู้ชายมากเสน่ห์อย่างเขาเหลือเกิน
วันรุ่งขึ้นถิงลี่หมิงยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แม้จะมีนัดหมายกับใครบางคนก็ตาม ตั้งใจปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปจนดึก ไม่คิดจะเดินทางไปสถานที่นัดหมายเร็วกว่านั้น ตั้งใจยื้อเวลาออกไปให้นานที่สุด เพื่อให้เขาคนนั้น ลิ้มรสชาติของคนที่เป็นฝ่ายรอรถยนต์คันหรูจอดลงในลานจอดรถของผับที่ดังที่สุด และหรูหราที่สุดในย่านนั้น ร่างสมส่วนถูกปิดทับด้วยเสื้อผ้าสวมใส่สบายๆ อย่างเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขาสั้น ปล่อยท่อนขาเรียวสวยโดนลมอุ่นของต้นฤดูร้อนรินรด ลี่หมิงสาวเท้าเข้าไปในผับช้าๆ ไม่ได้รีบร้อนเลยแม้เวลาจะใกล้เข้าวันใหม่ไปทุกที เลือกที่นั่งในมุมเงียบๆของร้าน เพื่อดูปฏิกิริยาของคนรอห่างออกไปไม่มาก มู่เฟยหลงกำลังเสียสติ เพราะเธอที่นัดกับเขา ไม่ยอมปรากฏตัวสักที ใบหน้าบึ้งตึงของชายหนุ่มที่นั่งถัดออกไปห้าโต๊ะ ทำให้ใบหน้าสวยหวานไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม เผยรอยยิ้มเหยียดหยัน เขาควรได้ลิ้มรสชาติแบบนี้บ้าง จะได้เลิกอวดดี เลิกคิดว่าผู้หญิงเป็นเพียงแค่ของเล่น เขาชอบเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น เธอก็จะเล่นกับความรู้สึกของเขาเช่นกัน“ยัยบ้าเอ้ย! กล้าหลอกฉันงั้นเหรอ”พรึ่บ! อึก อึก!แก้วรูปทรงแปลกตา ถูกมือเรียวสวยยกขึ้นดื่มอย่าง
“มองอะไร? อยากรู้จักฉันขึ้นมาแล้วเหรอ?”“ฉันไม่อยากรู้จักคุณหรอกค่ะ รู้จักไปก็ปวดใจเปล่าๆ” และฉันรู้จักคุณดีอยู่แล้ว ลี่หมิงพูดต่อประโยคสุดท้ายในใจ“ต้องทำยังไง ผู้หญิงอย่างเธอ ถึงจะอยากรู้จักกับฉัน?”เฟยหลงถามออกไปในที่สุด มันไม่ใช่ประโยคคำถามซะทีเดียว คล้ายๆประโยคบอกเล่ามากกว่า“คุณจะคบกับฉันไหมล่ะ?” ลี่หมิงสลัดความหวั่นไหวเล็กๆ เพราะคำถามประโยคนั้นออกไป รู้ดีว่าคำตอบของคำถามของตัวเองคืออะไร แต่ก็อยากถาม เพราะแผนการของเธอ คือทำให้เขาหวั่นไหวให้ได้มากที่สุด“ไม่!” และมันเป็นอย่างที่เธอคิดไว้ เขาตอบกลับมาทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย ใบหน้าสวยแสร้งยิ้มเศร้า ส่งความผิดหวังออกไปทางดวงตา บีบความเสียใจที่มีอยู่จริงเพียงเล็กน้อย ออกมาคลอรอบหน่วย แสร้งเงยหน้าขึ้นเพื่อไล่หยาดน้ำ แสร้งปั้นเสียงสั่นกล่าวคำร่ำลา“ถ้าอย่างนั้น ก็ … ลาก่อนค่ะ เราไม่น่ากลับมาพบกันอีกเลย ให้เรื่องระหว่างเรามันจบลงที่คืนนั้นก็ดีแล้ว”ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่รอยยิ้มหวาน แสร้งทำเหมือนว่าคืนนั้นคือความทรงจำแสนงดงามในความรู้สึกของตัวเอง เมื่อความหวั่นไหวในดวงตาคู่คมไม่มีให้เห็นเลย ก็รีบร้อนหยัดตัวยืน เธอผิดที่รีบร้อนข
“ลุกขึ้น!”แต่วิธีการนั้น เขาไม่เคยทำมันกับใครถ้าไม่ใช่คนรัก เฟยหลงสลัดความรู้สึกแปลกๆทิ้ง เอื้อมมือไปกระชากท่อนแขนเล็กฉุดรั้งให้ลูกขึ้น ลากเธอออกไปจากห้องก่อนที่ตัวเองจะทำแบบที่คิดจริงๆ เดินลิ่วไปขึ้นลิฟต์โดยที่คนตัวเล็ก ได้แต่ลากขาตามไปอย่างห้ามไม่ได้ติ๊ง!เมื่อเสียงเตือนดังขึ้น ประตูลิฟต์ก็เปิดกว้าง เฟยหลงยกมือปัดเส้นผมที่ปกระใบหน้าขึ้น มองคนที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ ไล่สายตามองคนตัวเล็กอย่างสำรวจ แม้เสียงร้องไห้จะเงียบไปแล้วตั้งแต่เขาลากเธอออกมา แต่น้ำตามันยังไม่หายไปจากใบหน้าสวยหวานนี้เลย เธอไปเอาน้ำตามาจากไหนเยอะแยะ“นี่!”“อ๊ะ! อึก!”ดวงตาคลอน้ำช้อนขึ้นมอง ก้าวถอยหลังไปจนชิดผนังลิฟต์ ยกมือขึ้นป้องกันตามสัญชาตญาณ เธอไม่ควรกลัว บอกตัวเองแบบนั้นมาตลอด แต่พอเอาเข้าจริงๆ เธอกลับรู้สึกกลัวเขามากเธอถูกเพื่อนๆ เรียกว่าสาวมั่น ไม่มีอะไรที่สามารถสั่นคลอนคนแบบเธอได้ แต่อยู่กับเขา เธอกลายเป็นคนอ่อนแอ กลายเป็นเธอคนเดิมที่พ่ายแพ้ จนต้องหนีไปเลียแผลใจไกลถึงต่างแดน“อยะ อย่าเข้ามานะ!”เมื่อนึกถึงตัวเองหลังจากนั้น ใบหน้าสวยหวานก็เชิ่ดขึ้น น้ำตาเหมือนจะเหือดแห้งไป ดวงตาฉายความชิงชังออกมาจนคนที่กำ
ชั้นห้าของบ้านพี่เลี้ยงยืนหอบอยู่หน้าประตู เพราะวิ่งขึ้นมาแทนการเสียเวลายืนรอลิฟต์ เมื่อปรับการหายใจให้เป็นปกติแล้ว ก็ยกมือขึ้นเคาะประตู ยืนรออยู่นานก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงถือวิสาสะเปิดประตูห้องส่วนตัวของคุณหนูออก เดินไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงนอนสีหวาน“คุณหนูตื่นเถอะค่ะ คุณมู่กับคุณนายใกล้จะมาถึงแล้ว”เปลือกตาหนักอึ้งปรือขึ้น ชื่อที่หลุดมาจากริมฝีปากของพี่เลี้ยง ส่งผลให้แอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างถูก ถูกดึงออกไปจนหมด สติกลับมาอยู่ในสภาพเดิม เหลือบมองนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจ“บอกคุณแม่ไปซะว่าฉันไม่ว่าง”“ท่านบอกว่าถึงไม่ชอบแค่ไหน ก็ต้องฝืนใจลงไปค่ะ”ถ้อยคำของคุณนายถูกแจ้งกับคุณหนูแบบไม่มีผิดเพี้ยน คนฟังเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่อยากพัวพันกับคนตระกูลนี้เลย แต่มันดันเลี่ยงไม่ได้ ตระกูลมู่ผู้นำด้านการขนส่ง และมีรายได้ติดหนึ่งในสิบของประเทศ ต้องการผูกสัมพันธ์กับครอบครัวเธอ หลังจากที่ครั้งหนึ่ง พวกเขาเป็นฝ่ายปฎิเสธการผูกสัมพันธ์กับครอบครัวเธอแบบไม่ไว้หน้าเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เธอเพิ่งจะอายุได้สิบแปดปี พ่อกับแม่ของเธอหวังให้เธอแต่งกับลูกชายของตระกูลนั้น แต่ความต่างชนชั้นทั้งที่เป็นเพื่อนกัน ทำ
“ค่ะ ถึงยังไงหนูก็ไม่อยากให้สามีรักคนอื่นอยู่ดี เอาไว้เขาลืมคนรักเก่าได้เมื่อไหร่ เราค่อยมาคุยเรื่องแต่งงานกันดีไหมคะ?”สามีภรรยาตระกูลมู่หน้าซีดลง ด้วยตั้งใจมาครั้งนี้เพื่อฟังการตอบตกลงจากทางตระกูลถิง เมื่อได้รับการปฎิเสธจากเจ้าตัวเอง ก็ยากที่จะโน้มน้าวเจ้าของตระกูล ด้วยรู้ดีว่าถิงซีหยวนนั้นรักลูกสาวคนเล็กมาก“หวังว่าท่านทั้งสอง จะเข้าใจถึงความเจ็บปวดของหนูนะคะ”คนอายุน้อยแสร้งทำหน้าเศร้า รู้ว่าการปฎิเสธครั้งนี้มันไม่ช่วยให้ความตั้งใจของผู้นำตระกูลมู่ลดลง ตั้งแต่ครอบครัวเธอร่ำรวยขึ้น และถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับต้นๆของประเทศ เธอที่เป็นลูกสาวและยังโสด ถูกหลากหลายตระกูลเข้ามาทาบทาบ บางตระกูลไม่เคยเจอตัวจริงเธอด้วยซ้ำ เพียงแค่รู้ข่าวว่าเธอยังโสด ก็มาต่อแถวขอไปเป็นลูกสะใภ้“เราเข้าใจ ถึงอยากแก้ไขความผิดพลาดนั้นนะสิ เราสัญญาว่าจะถนอมน้ำใจหนูลี่หมิงเป็นอย่างดี และที่สำคัญ ทางเราจะร่วมลงทุนกับธุรกิจทุกอย่างของตระกูลถิง”ถิงซีหยวนถึงกับกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่ได้ เข้าใจว่าการแต่งงานของคนระดับนี้ ส่วนใหญ่จะมีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาไม่เคยคิดจะให้ลูกแต่งงานทางการเมือง ถ้าตอนนั้นลูกไม่สาร
17 : 45 น.ครืด! ครืด!การทำงานล่วงเวลาถูกเครื่องมือสื่อสารรบกวน ดวงตาคู่หวานหลังแว่นหรี่มองโทรศัพท์เครื่องหรู ที่กำลังสั่นครืดๆอยู่บนโต๊ะทำงานด้านขวามือ ถิงลี่หมิงเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมากดรับ ถือโทรศัพท์ไว้ห่างๆ เพราะมั่นใจว่าทำแบบนั้น ก็ยังได้ยินเสียงแว๊ดๆของคนที่โทรเข้ามา[ ลี่หมิง~ เธอจะรอให้ฉันหยุดหายใจก่อนหรือไง ถึงจะยอมรับสายของฉันอะ! ]“ฉันทำงานอยู่นะฟูหลิน เดี๋ยวพี่ซีเหวินหักเงินเดือน”[ ชิ! เธอจะเอาเรื่องงานมาอ้างกับฉันไม่ได้นะ ออกมาเจอกันหน่อย ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้แผนการของเธอไปถึงขั้นไหนแล้ว ]“แต่วันนี้ฉันต้องทำโอที” ปกติเธอไม่ต้องทำโอที แต่เพราะเธอหยุดงานบ่อย ช่วงที่วางแผนเข้าหามู่เฟยหลง จึงต้องทำงานล่วงเวลาชดเชยให้พี่ชายที่เป็นคนจ่ายเงินเดือน[ พรุ่งนี้เธอว่างหรือเปล่า? ]“ว่าง เธอจะให้ฉันไปเจอที่ไหน?”[ ที่คลับ xxx ]“อื้อ พรุ่งนี้เจอกันเวลาเดิมนะ”ลี่หมิงกดวางสายจากเพื่อนสนิท ฟูหลินเป็นเพื่อนที่เรียนอยู่อเมริกาด้วยกัน ชื่อของเพื่อนและประวัติบางอย่างถูกเธอนำมาใช้ในแผนการ เพราะแบบนั้นจึงต้องคอยรายงานเพื่อนด้วย ว่าตอนนี้แผนของเธอดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ฟูหลินเป็นเพื่อนที่ดีเ
@Hight barผู้หญิงรูปร่างเล็กเดินผ่านการ์ดของผับชื่อดังเข้าไปด้านใน ผ้าชิ้นเล็กอย่างเกาะอกสีดำ ขับให้หน้าอกของคนใส่ดูใหญ่กว่าตัว ถุงน่องสีดำสนิทขับให้ท่อนขาเรียวสวยดูเซ็กซี่ขึ้น การมาถึงของเธอ ดึงดูดสายตาของผู้ชายเกือบทุกคน ที่ดื่มกินอยู่ในโซนวีไอพี แต่สิ่งที่ทำให้เธอดึงดูดผู้คนมากที่สุด กลับไม่ใช่การแต่งกายด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น หรือรูปหน้าสวยหวาน แต่มันเป็นท่าทางอ่อนต่อโลกของเธอมากกว่า ที่ดึงดูดความสนใจของเหล่านักล่า ผู้ชายที่หิวกระหายเหยื่อสาวบริสุทธิ์ ง่ายต่อการล่อลวง“มู่เฟยหลง” ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้เองก็เช่นกัน เขาสนใจเธอตั้งแต่แรกเห็น ไม่อาจละสายตาไปที่ไหน หิวกระหายในการล่า จนเพื่อนสนิทที่นั่งดื่มอยู่ด้วยกัน เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ“มีอะไรหรือเปล่าอามู่?” ซีฮันยกมือขึ้นสะกิดไหล่เพื่อนที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆกัน “…”“…?”เมื่อเพื่อนสนิทไม่ยอมเปิดปากตอบคำถาม ซีฮันจึงมองตามดวงตาสีดำลึกลับคู่นั้นไป ดวงตาสีเทาอ่อนลุกวาว เผลอยกมือลูบริมฝีปากด้วยความเคยตัว ห่างออกไปจากจุดที่เขากับเพื่อนนั่งอยู่ราวๆห้าเมตร ในส่วนของบาร์เหล้านั้น มีสาวเจ้าท่าทางไม่ต่างจากกระต่ายน้อยนั่
Boom~ Boom ~เสียงเพลงในผับเริ่มเปลี่ยนจังหวะ จากฟังสบายๆเป็นบีทหนักๆ เหล่านักท่องราตรีเริ่มเดินออกไปวาดลวดลายให้เข้ากับเสียงดนตรี สองสาวสวยที่นั่งดื่มอยู่บริเวณบาร์เดินไปแจมกับคนอื่นๆบ้าง แต่เพียงไม่นานหญิงสาวที่ดูอ่อนต่อโลก ก็กลับมานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมดวงตาสีดำสนิทจ้องมองร่างขาวเนียน ที่กำลังโน้มลงไปวางใบหน้าบนเคาน์เตอร์บาร์ ท่าทางของเธอเหมือนคนเมาหนัก ทั้งที่เขาเห็นเธอดื่มไปแค่ไม่กี่แก้ว ทุกการเคลื่อนไหวของเธออยู่ในสายตาเขาเสมอ มันดูอ่อนหวาน ทว่ากลับดูเย้ายวนแปลกๆ เหมือนเชิญชวนให้วิ่งเข้าหาด้วยท่าทางที่ดูอ่อนต่อโลกเธอเป็นผู้หญิงที่ทำให้ผู้ชายในนี้รู้สึกตื่นตัว นักล่าในนี้ ย่อมอยากได้เหยื่อที่ล่าได้ง่ายๆ ติดมือกลับไปด้วยอยู่แล้วชายหนุ่มที่ครอบครองความสูงถึงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ลุกขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็ว ซีฮันได้แต่มองตามแผ่นหลังเพื่อนไป เหยียดยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่าเพื่อนหย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้ตัวยาว ข้างๆกับสาวน้อยท่าทางใสซื่อ หญิงสาวที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาของเหล่านักล่าอยู่ในตอนนี้“ไปให้พ้นนะ! ที่ตรงนี้เป็นของเพื่อนฉันเสียงไล่อู้อี้ จนคนฟังแทบไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร คนที่ร
17 : 45 น.ครืด! ครืด!การทำงานล่วงเวลาถูกเครื่องมือสื่อสารรบกวน ดวงตาคู่หวานหลังแว่นหรี่มองโทรศัพท์เครื่องหรู ที่กำลังสั่นครืดๆอยู่บนโต๊ะทำงานด้านขวามือ ถิงลี่หมิงเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมากดรับ ถือโทรศัพท์ไว้ห่างๆ เพราะมั่นใจว่าทำแบบนั้น ก็ยังได้ยินเสียงแว๊ดๆของคนที่โทรเข้ามา[ ลี่หมิง~ เธอจะรอให้ฉันหยุดหายใจก่อนหรือไง ถึงจะยอมรับสายของฉันอะ! ]“ฉันทำงานอยู่นะฟูหลิน เดี๋ยวพี่ซีเหวินหักเงินเดือน”[ ชิ! เธอจะเอาเรื่องงานมาอ้างกับฉันไม่ได้นะ ออกมาเจอกันหน่อย ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้แผนการของเธอไปถึงขั้นไหนแล้ว ]“แต่วันนี้ฉันต้องทำโอที” ปกติเธอไม่ต้องทำโอที แต่เพราะเธอหยุดงานบ่อย ช่วงที่วางแผนเข้าหามู่เฟยหลง จึงต้องทำงานล่วงเวลาชดเชยให้พี่ชายที่เป็นคนจ่ายเงินเดือน[ พรุ่งนี้เธอว่างหรือเปล่า? ]“ว่าง เธอจะให้ฉันไปเจอที่ไหน?”[ ที่คลับ xxx ]“อื้อ พรุ่งนี้เจอกันเวลาเดิมนะ”ลี่หมิงกดวางสายจากเพื่อนสนิท ฟูหลินเป็นเพื่อนที่เรียนอยู่อเมริกาด้วยกัน ชื่อของเพื่อนและประวัติบางอย่างถูกเธอนำมาใช้ในแผนการ เพราะแบบนั้นจึงต้องคอยรายงานเพื่อนด้วย ว่าตอนนี้แผนของเธอดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ฟูหลินเป็นเพื่อนที่ดีเ
“ค่ะ ถึงยังไงหนูก็ไม่อยากให้สามีรักคนอื่นอยู่ดี เอาไว้เขาลืมคนรักเก่าได้เมื่อไหร่ เราค่อยมาคุยเรื่องแต่งงานกันดีไหมคะ?”สามีภรรยาตระกูลมู่หน้าซีดลง ด้วยตั้งใจมาครั้งนี้เพื่อฟังการตอบตกลงจากทางตระกูลถิง เมื่อได้รับการปฎิเสธจากเจ้าตัวเอง ก็ยากที่จะโน้มน้าวเจ้าของตระกูล ด้วยรู้ดีว่าถิงซีหยวนนั้นรักลูกสาวคนเล็กมาก“หวังว่าท่านทั้งสอง จะเข้าใจถึงความเจ็บปวดของหนูนะคะ”คนอายุน้อยแสร้งทำหน้าเศร้า รู้ว่าการปฎิเสธครั้งนี้มันไม่ช่วยให้ความตั้งใจของผู้นำตระกูลมู่ลดลง ตั้งแต่ครอบครัวเธอร่ำรวยขึ้น และถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับต้นๆของประเทศ เธอที่เป็นลูกสาวและยังโสด ถูกหลากหลายตระกูลเข้ามาทาบทาบ บางตระกูลไม่เคยเจอตัวจริงเธอด้วยซ้ำ เพียงแค่รู้ข่าวว่าเธอยังโสด ก็มาต่อแถวขอไปเป็นลูกสะใภ้“เราเข้าใจ ถึงอยากแก้ไขความผิดพลาดนั้นนะสิ เราสัญญาว่าจะถนอมน้ำใจหนูลี่หมิงเป็นอย่างดี และที่สำคัญ ทางเราจะร่วมลงทุนกับธุรกิจทุกอย่างของตระกูลถิง”ถิงซีหยวนถึงกับกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่ได้ เข้าใจว่าการแต่งงานของคนระดับนี้ ส่วนใหญ่จะมีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาไม่เคยคิดจะให้ลูกแต่งงานทางการเมือง ถ้าตอนนั้นลูกไม่สาร
ชั้นห้าของบ้านพี่เลี้ยงยืนหอบอยู่หน้าประตู เพราะวิ่งขึ้นมาแทนการเสียเวลายืนรอลิฟต์ เมื่อปรับการหายใจให้เป็นปกติแล้ว ก็ยกมือขึ้นเคาะประตู ยืนรออยู่นานก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงถือวิสาสะเปิดประตูห้องส่วนตัวของคุณหนูออก เดินไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงนอนสีหวาน“คุณหนูตื่นเถอะค่ะ คุณมู่กับคุณนายใกล้จะมาถึงแล้ว”เปลือกตาหนักอึ้งปรือขึ้น ชื่อที่หลุดมาจากริมฝีปากของพี่เลี้ยง ส่งผลให้แอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างถูก ถูกดึงออกไปจนหมด สติกลับมาอยู่ในสภาพเดิม เหลือบมองนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจ“บอกคุณแม่ไปซะว่าฉันไม่ว่าง”“ท่านบอกว่าถึงไม่ชอบแค่ไหน ก็ต้องฝืนใจลงไปค่ะ”ถ้อยคำของคุณนายถูกแจ้งกับคุณหนูแบบไม่มีผิดเพี้ยน คนฟังเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่อยากพัวพันกับคนตระกูลนี้เลย แต่มันดันเลี่ยงไม่ได้ ตระกูลมู่ผู้นำด้านการขนส่ง และมีรายได้ติดหนึ่งในสิบของประเทศ ต้องการผูกสัมพันธ์กับครอบครัวเธอ หลังจากที่ครั้งหนึ่ง พวกเขาเป็นฝ่ายปฎิเสธการผูกสัมพันธ์กับครอบครัวเธอแบบไม่ไว้หน้าเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เธอเพิ่งจะอายุได้สิบแปดปี พ่อกับแม่ของเธอหวังให้เธอแต่งกับลูกชายของตระกูลนั้น แต่ความต่างชนชั้นทั้งที่เป็นเพื่อนกัน ทำ
“ลุกขึ้น!”แต่วิธีการนั้น เขาไม่เคยทำมันกับใครถ้าไม่ใช่คนรัก เฟยหลงสลัดความรู้สึกแปลกๆทิ้ง เอื้อมมือไปกระชากท่อนแขนเล็กฉุดรั้งให้ลูกขึ้น ลากเธอออกไปจากห้องก่อนที่ตัวเองจะทำแบบที่คิดจริงๆ เดินลิ่วไปขึ้นลิฟต์โดยที่คนตัวเล็ก ได้แต่ลากขาตามไปอย่างห้ามไม่ได้ติ๊ง!เมื่อเสียงเตือนดังขึ้น ประตูลิฟต์ก็เปิดกว้าง เฟยหลงยกมือปัดเส้นผมที่ปกระใบหน้าขึ้น มองคนที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ ไล่สายตามองคนตัวเล็กอย่างสำรวจ แม้เสียงร้องไห้จะเงียบไปแล้วตั้งแต่เขาลากเธอออกมา แต่น้ำตามันยังไม่หายไปจากใบหน้าสวยหวานนี้เลย เธอไปเอาน้ำตามาจากไหนเยอะแยะ“นี่!”“อ๊ะ! อึก!”ดวงตาคลอน้ำช้อนขึ้นมอง ก้าวถอยหลังไปจนชิดผนังลิฟต์ ยกมือขึ้นป้องกันตามสัญชาตญาณ เธอไม่ควรกลัว บอกตัวเองแบบนั้นมาตลอด แต่พอเอาเข้าจริงๆ เธอกลับรู้สึกกลัวเขามากเธอถูกเพื่อนๆ เรียกว่าสาวมั่น ไม่มีอะไรที่สามารถสั่นคลอนคนแบบเธอได้ แต่อยู่กับเขา เธอกลายเป็นคนอ่อนแอ กลายเป็นเธอคนเดิมที่พ่ายแพ้ จนต้องหนีไปเลียแผลใจไกลถึงต่างแดน“อยะ อย่าเข้ามานะ!”เมื่อนึกถึงตัวเองหลังจากนั้น ใบหน้าสวยหวานก็เชิ่ดขึ้น น้ำตาเหมือนจะเหือดแห้งไป ดวงตาฉายความชิงชังออกมาจนคนที่กำ
“มองอะไร? อยากรู้จักฉันขึ้นมาแล้วเหรอ?”“ฉันไม่อยากรู้จักคุณหรอกค่ะ รู้จักไปก็ปวดใจเปล่าๆ” และฉันรู้จักคุณดีอยู่แล้ว ลี่หมิงพูดต่อประโยคสุดท้ายในใจ“ต้องทำยังไง ผู้หญิงอย่างเธอ ถึงจะอยากรู้จักกับฉัน?”เฟยหลงถามออกไปในที่สุด มันไม่ใช่ประโยคคำถามซะทีเดียว คล้ายๆประโยคบอกเล่ามากกว่า“คุณจะคบกับฉันไหมล่ะ?” ลี่หมิงสลัดความหวั่นไหวเล็กๆ เพราะคำถามประโยคนั้นออกไป รู้ดีว่าคำตอบของคำถามของตัวเองคืออะไร แต่ก็อยากถาม เพราะแผนการของเธอ คือทำให้เขาหวั่นไหวให้ได้มากที่สุด“ไม่!” และมันเป็นอย่างที่เธอคิดไว้ เขาตอบกลับมาทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย ใบหน้าสวยแสร้งยิ้มเศร้า ส่งความผิดหวังออกไปทางดวงตา บีบความเสียใจที่มีอยู่จริงเพียงเล็กน้อย ออกมาคลอรอบหน่วย แสร้งเงยหน้าขึ้นเพื่อไล่หยาดน้ำ แสร้งปั้นเสียงสั่นกล่าวคำร่ำลา“ถ้าอย่างนั้น ก็ … ลาก่อนค่ะ เราไม่น่ากลับมาพบกันอีกเลย ให้เรื่องระหว่างเรามันจบลงที่คืนนั้นก็ดีแล้ว”ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่รอยยิ้มหวาน แสร้งทำเหมือนว่าคืนนั้นคือความทรงจำแสนงดงามในความรู้สึกของตัวเอง เมื่อความหวั่นไหวในดวงตาคู่คมไม่มีให้เห็นเลย ก็รีบร้อนหยัดตัวยืน เธอผิดที่รีบร้อนข
วันรุ่งขึ้นถิงลี่หมิงยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แม้จะมีนัดหมายกับใครบางคนก็ตาม ตั้งใจปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปจนดึก ไม่คิดจะเดินทางไปสถานที่นัดหมายเร็วกว่านั้น ตั้งใจยื้อเวลาออกไปให้นานที่สุด เพื่อให้เขาคนนั้น ลิ้มรสชาติของคนที่เป็นฝ่ายรอรถยนต์คันหรูจอดลงในลานจอดรถของผับที่ดังที่สุด และหรูหราที่สุดในย่านนั้น ร่างสมส่วนถูกปิดทับด้วยเสื้อผ้าสวมใส่สบายๆ อย่างเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขาสั้น ปล่อยท่อนขาเรียวสวยโดนลมอุ่นของต้นฤดูร้อนรินรด ลี่หมิงสาวเท้าเข้าไปในผับช้าๆ ไม่ได้รีบร้อนเลยแม้เวลาจะใกล้เข้าวันใหม่ไปทุกที เลือกที่นั่งในมุมเงียบๆของร้าน เพื่อดูปฏิกิริยาของคนรอห่างออกไปไม่มาก มู่เฟยหลงกำลังเสียสติ เพราะเธอที่นัดกับเขา ไม่ยอมปรากฏตัวสักที ใบหน้าบึ้งตึงของชายหนุ่มที่นั่งถัดออกไปห้าโต๊ะ ทำให้ใบหน้าสวยหวานไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม เผยรอยยิ้มเหยียดหยัน เขาควรได้ลิ้มรสชาติแบบนี้บ้าง จะได้เลิกอวดดี เลิกคิดว่าผู้หญิงเป็นเพียงแค่ของเล่น เขาชอบเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น เธอก็จะเล่นกับความรู้สึกของเขาเช่นกัน“ยัยบ้าเอ้ย! กล้าหลอกฉันงั้นเหรอ”พรึ่บ! อึก อึก!แก้วรูปทรงแปลกตา ถูกมือเรียวสวยยกขึ้นดื่มอย่าง
สัปดาห์ต่อมาเมื่อได้ข้อมูลของผู้หญิงที่เพื่อนสนใจมาจากนักสืบ ซีฮันก็รีบจัดการส่งรูปถ่ายพร้อมกับประวัติของเธอคนนั้นไปให้เพื่อน ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมู่เฟยหลงได้รับมัน ในขณะที่เขากำลังนั่งดื่มกับสาวสวยรายหนึ่งอยู่ในผับของตัวเอง ดวงตาคมกล้าเลื่อนอ่านข้อมูลเงียบๆ แม้จะมีเพียงชื่อกับข้อมูลไม่กี่อย่าง แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา มือใหญ่วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ หันความสนใจกลับมาที่หญิงสาวข้างกาย“คนรักทักมาเหรอค่ะ อารมณ์ดีเชียว”ใบหน้าสวยเผยรอยยิ้ม ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบช้าๆ เอนศรีษะซบลงบนไหล่กว้าง จิบเหล้าต่อไปพลางๆ ทำเหมือนไม่อยากรู้คำตอบของคำถามที่เพิ่งถามไป“เปล่า”ใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำลง จนริมฝีปากแทบจะแนบชิดติดกลีบปากสีแดงสด ความสนใจถูกหญิงสาวตรงหน้าดึงไปจนสิ้น ใบหน้าจิ้มลิ้มไร้เดียงสาแบบนั้น จะสู้ผู้หญิงสวยมั่นอย่างเธอคนนี้ได้ยังไง“ให้มันจริงเถอะค่ะ”“ฉันไม่เคยโกหก คนที่ทักมาไม่ใช่คนรักของฉัน”น้ำเสียงนุ่มทุ้มเย็นชาขึ้น เมื่อพูดถึงเรื่องคนรัก หญิงสาวที่คุ้นเคยกับผู้ชายมาบ้าง เดาอารมณ์คนข้างๆได้ทันที มุมปากหยักสวยเหยียดออก ขยับตัวออกห่างช้าๆ ภารกิจที่ได้รับมา เสร็จสิ้นเพียงแค่นี้แหละ“แ
วันรุ่งขึ้นสิ่งแรกที่เฟยหลงทำหลังรู้สึกตัว คือการคลำมือไปด้านข้าง เพื่อหาร่างที่ร่วมหลับนอนกับตัวเอง สิ่งที่ได้พบมีเพียงความเย็นชืดของผ้าปูที่นอน เปลือกตาหนักอึ้งทั้งสองลืมขึ้นทันที สันกรามขบเข้าหากันแน่น คนที่ต้องการให้อยู่เพื่อคลายความกังขา ออกไปจากห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ร่างสูงกำยำขยับลงจากเตียง ไล่สายตามองสำรวจรอยเลือดบนเตียง ริมฝีปากหยักสวยเบ้ขึ้นสูงอย่างไม่อยากเชื่อครั้งแรกงั้นเหรอ ครั้งแรกอะไรถึงได้ช่ำชองขนาดนั้น! มือใหญ่ยกขึ้นยีเส้นผมตัวเองแรงๆ ตอนแรกคิดว่าเธอไร้เดียงสาและไม่มีประสบการณ์ แต่ไอ้ตอนที่ควบอยู่ข้างบนมันไม่ใช่ ลีลาก็จัดจ้านจนเขาติดใจ แต่ทำไมถึงรู้สึกตะหงิดใจไม่หายแบบนี้ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยสภาพอิดโรย เห็นตัวเองในกระจกของอ่างล้างหน้าแล้วแทบผละ นั่นเขาหรือ? นึกว่าคนเป็นโรคไข้เลือกออก หญิงสาวคนนั้นทิ้งรอยแดงไว้ทั่วทั้งตัว ขนาดบนหัวสีแดงของแท่งเนื้อใหญ่ เธอก็ยังไม่เว้นไว้เลย ใช้งานแท่งลำที่เขาแสนจะภาคภูมิใจจนแดงเถือกไปหมด เป็นแบบนี้อาจจะต้องงดใช้งานมันไปสักพัก“… ?”นี่เขาเป็นผู้ล่า หรือถูกล่ากันแน่?มือใหญ่ยกขึ้นทุบลงบนบานกระจก เขานึกว่าตัวเองเป็นฝ
“ฉันคงคาดหวังกับคนอย่างคุณมากเกินไป ฉันคืนให้ค่ะ บอกตามตรงว่าฉันไม่กล้าดื่ม”ขวดน้ำเย็นจัดถูกยื่นกลับคืนไปให้เจ้าของ มือใหญ่ยื่นออกไปรับมันกลับมา เปิดฝาดื่มของเหลวด้านในลงไปเกือบครึ่งขวด เพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าเขาไม่ได้ใส่อะไรแปลกๆลงไป ดื่มเสร็จก็ยื่นคืนกลับไปให้คนตัวเล็กที่นั่งมองอยู่ตลอด“มันก็แค่น้ำเปล่า”“ค่ะ ฉันรู้”ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่ยิ้มจางๆ รับขวดน้ำจากมือใหญ่กลับมา ดื่มของเหลวข้างในลงไปเพียงนิดเดียวก็ส่งมันคืน จับจ้องร่างสูงกำยำที่กำลังโถมขึ้นมา คลี่ริมฝีปากกว้างขึ้นกว่าเดิม เมื่อเขาอยู่ใกล้จนเห็นร่องรอยบางอย่าง“ต่อนะ มาต่อจากจูบกันเถอะ”เฟยหลงดึงรั้งคนตัวเล็กเข้าหาตัว บดจูบลงไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาชอบจูบของเธอ แม้จะเหมือนคนไม่มีประสบการณ์ แต่มันก็ไม่ถึงกลับแย่ เขาชอบที่ได้ไล่ต้อนเธอให้จนมุม ด้วยลิ้นร้อนๆของตัวเอง“อ๊ะ!”เสียงครางหวานดังอื้ออึงในลำคอ หญิงสาวใบหน้าสวยหวานยอมเป็นผู้ตามที่ดี ยอมให้ลิ้นใหญ่ไล่ต้อนจนกว่าเขาจะพอใจ มองสบดวงตาดุร้ายอยู่ตลอด เมื่อดวงตาคู่นั้นค่อยๆหยาดเยิ้ม มุมปากจิ้มลิ้มก็เผลอเหยียดตรง“ถอดนะ?”มือใหญ่ไล้วนอยู่ตามผิวเนื้อไร้เนื้อผ้า ขออนุญาติเสร