ชั้นห้าของบ้าน
พี่เลี้ยงยืนหอบอยู่หน้าประตู เพราะวิ่งขึ้นมาแทนการเสียเวลายืนรอลิฟต์ เมื่อปรับการหายใจให้เป็นปกติแล้ว ก็ยกมือขึ้นเคาะประตู ยืนรออยู่นานก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงถือวิสาสะเปิดประตูห้องส่วนตัวของคุณหนูออก เดินไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงนอนสีหวาน
“คุณหนูตื่นเถอะค่ะ คุณมู่กับคุณนายใกล้จะมาถึงแล้ว”
เปลือกตาหนักอึ้งปรือขึ้น ชื่อที่หลุดมาจากริมฝีปากของพี่เลี้ยง ส่งผลให้แอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างถูก ถูกดึงออกไปจนหมด สติกลับมาอยู่ในสภาพเดิม เหลือบมองนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจ
“บอกคุณแม่ไปซะว่าฉันไม่ว่าง”
“ท่านบอกว่าถึงไม่ชอบแค่ไหน ก็ต้องฝืนใจลงไปค่ะ”
ถ้อยคำของคุณนายถูกแจ้งกับคุณหนูแบบไม่มีผิดเพี้ยน คนฟังเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่อยากพัวพันกับคนตระกูลนี้เลย แต่มันดันเลี่ยงไม่ได้ ตระกูลมู่ผู้นำด้านการขนส่ง และมีรายได้ติดหนึ่งในสิบของประเทศ ต้องการผูกสัมพันธ์กับครอบครัวเธอ หลังจากที่ครั้งหนึ่ง พวกเขาเป็นฝ่ายปฎิเสธการผูกสัมพันธ์กับครอบครัวเธอแบบไม่ไว้หน้า
เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เธอเพิ่งจะอายุได้สิบแปดปี พ่อกับแม่ของเธอหวังให้เธอแต่งกับลูกชายของตระกูลนั้น แต่ความต่างชนชั้นทั้งที่เป็นเพื่อนกัน ทำให้ผู้นำตระกูลมู่ปฎิเสธครอบครัวเธอแบบไม่ไว้หน้า ความบาดหมางนั้นทำให้สองตระกูลตัดขาดกันไป แต่เมื่อปลายปีก่อนผู้นำตระกูลมู่ได้มาทาบทามเธออีกครั้ง พูดคุยเรื่องแต่งงานที่ตัวเองเคยปฎิเสธมันอย่างน่าไม่อาย หวังให้เธอกับลูกชายเขาเกี่ยวดองกัน โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่าเธอนั้น ไม่ได้ถูกปฎิเสธแค่จากผู้ใหญ่เพียงฝ่ายเดียว เธอถูกมู่เฟยหลงปฎิเสธความรัก จนเสียหลักต้องหนีไปรักษาแผลใจที่ต่างประเทศ
‘ผู้หญิงอย่างเธอเนี่ยนะจะมาเป็นภรรยาของฉัน เจียมตัวหน่อยสิ ใครจะไปแต่งกับคนอย่างเธอ’
‘ฉันมีคนรักแล้ว แน่นอนว่ามันไม่ใช่เธอ’
‘ทำดีกับเธองั้นเหรอ … มันก็แค่เกมส์ เธอไม่เคยเล่นเกมส์ลงโทษเหรอ ฮ่าๆ’
เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ลี่หมิงสลัดศรีษะไปมา มองหน้าพี่เลี้ยงที่น้ำตาคลอเหมือนจะร้องไห้ ถ้าไม่ลงไปผู้หญิงคนนี้อาจจะมีความผิด เมื่อคิดได้ดังนั้นก็บอกพี่เลี้ยง
“บอกท่านว่าอีกครึ่งชั่วโมงฉันจะลงไป”
“ชุดของคุณหนู/ ฉันจะเลือกแบบที่ฉันชอบ!”
“ค่ะ
รับคำเสร็จก็เดินออกไปจากห้อง ร่างบอบบางในชุดนอนผ้าเนื้อดีดีดตัวขึ้นจากเตียง ขยับลงก้าวเดินอย่างรีบร้อนไปเปิดตู้ เหยียดริมฝีปากออกกว้างเมื่อเจอชุดที่ถูกใจ คว้ามันติดมือไปด้วย เสียเวลาในห้องน้ำไม่นาน ก็ออกมาแต่งหน้าทำผม
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ถิงลี่หมิงเดินลงมาชั้นล่าง ก็พบว่าแขกของบ้านมาถึงพอดี ร่างสมส่วนในชุดเดรสยาวสีดำ เยื่องย่างไปยืนอยู่ข้างๆมารดา ก้มศรีษะลงทักทายคนอายุมากกว่าทั้งสอง ความอ่อนช้อยและความสวยงามของใบหน้า ถูกใจแขกที่มาเยือนจนยิ้มไม่หุบ
“นี่คือหนูลี่หมิงจริงๆเหรอ?”
“ค่ะ”
ลี่หมิงตอบรับด้วยตัวเอง ไม่แปลกหรอกที่พวกเขาจะจำเธอไม่ได้ เธอคนก่อนไม่ได้มีรูปลักษณ์แบบนี้นี่นา เธอถูกเรียกว่ายัยอัปลักษณ์เลยล่ะ ทั้งๆที่เธอก็แค่อ้วนเท่านั้น
“สวยเหมือนคุณลี่อันเลยนะครับ”
“ค่ะ”
คนถูกพาดพิงตอบรับเสียงเรียบ ความไม่พอใจในอดีตไม่เคยจางหาย มันยังคุกรุ่นอยู่ในใจ แม้จะได้รับการขอโทษจากคนตระกูลมู่แล้วหลายครั้ง แต่มันเทียบกับความเสียใจที่ลูกสาวแสนรักได้รับไม่ได้หรอก ถ้าหากมู่เฟยหลงไม่ทำแบบนั้นกับลูกสาวท่าน ท่านจะไม่เกลียดคนตระกูลนี้เลย
“เชิญข้างในเถอะครับ”
ถิงซีหยวนผายมือเชิญแขกเข้าไปด้านใน คู่สามีภรรยาตระกูลมู่ มองรอบตัวขณะก้าวเดินอย่างชื่นชม ไม่คิดเลยว่าถิงซีหยวนจะมาได้ไกลขนาดนี้ สามารถผลักดันตัวเองจนขึ้นมาเป็นผู้นำอันดับต้นๆของประเทศได้ ทั้งที่ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี ตอนนั้นไม่น่าปฎิเสธการแต่งงานเลย แม้จะรู้สึกเสียหน้าสุดๆ ที่ต้องมาพูดเรื่องแต่งงานอีกครั้ง แต่ก็ต้องฝืนใจทำ เพราะการแต่งงานกับตระกูลถิงในตอนนี้ จะนำพาตระกูลมู่ไปสู่ความมั่งคั่งที่ไม่มีอะไรมาสั่นคลอนได้
“เชิญนั่งครับ”
“ไม่ต้องมากพิธีหรอกคุณถิง คนกันเองทั้งนั้น”
มู่ตงหยางพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นั่งลงบนเก้าอี้บุนวมชั้นดีที่หญิงรับใช้ของตระกูลถิงดึงออกมาให้ เมื่อสามีนั่งแล้วคุณนายมู่ก็นั่งตาม หลังจากนั้นฝ่ายเจ้าบ้านก็ทยอยกันนั่ง ไม่นานอาหารที่ถูกรังสรรค์โดยพ่อครัวฝีมือดีก็ถูกยกออกมาเสริฟ
“เราไม่ได้นั่งทานข้าวกันแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ”
ถิงซีหยวนยิ้ม ไม่อยากพูดตอบกลับไป เพราะถึงจะมีเรื่องบาดหมางกันอยู่แล้ว ก็ไม่ได้อยากบาดหมางเพิ่ม การเป็นศัตรูกับตระกูลใหญ่อย่างตระกูลมู่ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่หรอก
“น่าจะตั้งแต่ที่ทางนั้นยกเลิกการแต่งงานมั้งคะ”
ลี่หมิงแย้มยิ้มหวาน เป็นรอยยิ้มที่ทำให้แขกทั้งสองรู้สึกร้อน และนั่งอยู่ไม่สุข กาลเวลาล่วงผ่านเลยไป เด็กหญิงใสซื่อบริสุทธิ์คนนั้น ไม่มีให้เห็นเลยในตอนนี้ ดูเหมือนว่าการแต่งงานในครั้งนี้จะไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
“ตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าหนูลี่หมิงชอบเฟยหลงของเรา”
“อ้อ ค่ะ”
“ตอนนี้หนูยังชอบพี่เขาอยู่ไหม ไม่สิ เราหวังว่าหนูจะยังชอบพี่เขาอยู่”
ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง แย้มยิ้มไม่ต่างจากเดิม มีเพียงแค่หัวใจเท่านั้นที่ถูกไฟโทสะสุมจนแสบร้อนไปหมด
“แต่พี่เขาอาจจะไม่ชอบหนูเหมือนเดิม”
“ใครจะไม่ชอบหนูล่ะ หนูลี่หมิงสวยขนาดนี้ ชาติตระกูลก็ดี เฟยหลงจะต้องชอบหนูแน่”
ลี่หมิงหัวเราะเบาๆอย่างมีจริต คนที่อยากแต่งงานกับเธอ ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นหรอก เขามีคนรักอยู่แล้ว เรื่องนั้นเธอรู้ดีกว่าใคร และเธอเชื่อว่าพ่อแม่ของเขาก็รู้เรื่องนั้นดี
“ถ้าเขาลืมคนรักของเขาได้ หนูจะคิดเรื่องนั้นอีกครั้งแล้วกันค่ะ”
“หนูไปได้ยินเรื่องแบบนั้นมาจากที่ไหน?”
“พี่เฟยหลงเป็นคนดังนี่คะ หนูก็ได้ยินมาจากข่าวนั่นแหละค่ะ”
ซึ่งข่าวที่เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ หรือสื่อออนไลน์ ส่วนใหญ่มักจะเป็นแค่ข่าวลือ แต่แหล่งข่าวของเธอมีความน่าเชื่อถือเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะคนที่ปล่อยข่าวให้เธอนั้น คือญาติของเธอเอง และเขาเป็นเพื่อนสนิทของผู้หญิงคนนั้น
“ข่าวพวกนั้นไม่เป็นความจริงเลย เฟยหลงกับผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่เพื่อนกัน เธอคนนั้นแต่งงานไปแล้วจ๊ะ”
ลี่หมิงยิ้ม ไม่ได้ตกใจกับประโยคที่ได้ยินเลย เธอรู้เรื่องพวกนั้นอยู่แล้ว และรู้ว่าที่เขากลายเป็นเพลย์บอย ทำตัวไร้หัวใจ มีอะไรกับผู้หญิงไปทั่ว เพราะผู้หญิงคนนั้นแต่งงานกับเพื่อนสนิทของเขาเอง
ก็สมน้ำหน้าอยู่หรอก แต่เขาต้องเจ็บมากกว่านี้
“ค่ะ ถึงยังไงหนูก็ไม่อยากให้สามีรักคนอื่นอยู่ดี เอาไว้เขาลืมคนรักเก่าได้เมื่อไหร่ เราค่อยมาคุยเรื่องแต่งงานกันดีไหมคะ?”สามีภรรยาตระกูลมู่หน้าซีดลง ด้วยตั้งใจมาครั้งนี้เพื่อฟังการตอบตกลงจากทางตระกูลถิง เมื่อได้รับการปฎิเสธจากเจ้าตัวเอง ก็ยากที่จะโน้มน้าวเจ้าของตระกูล ด้วยรู้ดีว่าถิงซีหยวนนั้นรักลูกสาวคนเล็กมาก“หวังว่าท่านทั้งสอง จะเข้าใจถึงความเจ็บปวดของหนูนะคะ”คนอายุน้อยแสร้งทำหน้าเศร้า รู้ว่าการปฎิเสธครั้งนี้มันไม่ช่วยให้ความตั้งใจของผู้นำตระกูลมู่ลดลง ตั้งแต่ครอบครัวเธอร่ำรวยขึ้น และถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับต้นๆของประเทศ เธอที่เป็นลูกสาวและยังโสด ถูกหลากหลายตระกูลเข้ามาทาบทาบ บางตระกูลไม่เคยเจอตัวจริงเธอด้วยซ้ำ เพียงแค่รู้ข่าวว่าเธอยังโสด ก็มาต่อแถวขอไปเป็นลูกสะใภ้“เราเข้าใจ ถึงอยากแก้ไขความผิดพลาดนั้นนะสิ เราสัญญาว่าจะถนอมน้ำใจหนูลี่หมิงเป็นอย่างดี และที่สำคัญ ทางเราจะร่วมลงทุนกับธุรกิจทุกอย่างของตระกูลถิง”ถิงซีหยวนถึงกับกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่ได้ เข้าใจว่าการแต่งงานของคนระดับนี้ ส่วนใหญ่จะมีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาไม่เคยคิดจะให้ลูกแต่งงานทางการเมือง ถ้าตอนนั้นลูกไม่สาร
17 : 45 น.ครืด! ครืด!การทำงานล่วงเวลาถูกเครื่องมือสื่อสารรบกวน ดวงตาคู่หวานหลังแว่นหรี่มองโทรศัพท์เครื่องหรู ที่กำลังสั่นครืดๆอยู่บนโต๊ะทำงานด้านขวามือ ถิงลี่หมิงเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมากดรับ ถือโทรศัพท์ไว้ห่างๆ เพราะมั่นใจว่าทำแบบนั้น ก็ยังได้ยินเสียงแว๊ดๆของคนที่โทรเข้ามา[ ลี่หมิง~ เธอจะรอให้ฉันหยุดหายใจก่อนหรือไง ถึงจะยอมรับสายของฉันอะ! ]“ฉันทำงานอยู่นะฟูหลิน เดี๋ยวพี่ซีเหวินหักเงินเดือน”[ ชิ! เธอจะเอาเรื่องงานมาอ้างกับฉันไม่ได้นะ ออกมาเจอกันหน่อย ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้แผนการของเธอไปถึงขั้นไหนแล้ว ]“แต่วันนี้ฉันต้องทำโอที” ปกติเธอไม่ต้องทำโอที แต่เพราะเธอหยุดงานบ่อย ช่วงที่วางแผนเข้าหามู่เฟยหลง จึงต้องทำงานล่วงเวลาชดเชยให้พี่ชายที่เป็นคนจ่ายเงินเดือน[ พรุ่งนี้เธอว่างหรือเปล่า? ]“ว่าง เธอจะให้ฉันไปเจอที่ไหน?”[ ที่คลับ xxx ]“อื้อ พรุ่งนี้เจอกันเวลาเดิมนะ”ลี่หมิงกดวางสายจากเพื่อนสนิท ฟูหลินเป็นเพื่อนที่เรียนอยู่อเมริกาด้วยกัน ชื่อของเพื่อนและประวัติบางอย่างถูกเธอนำมาใช้ในแผนการ เพราะแบบนั้นจึงต้องคอยรายงานเพื่อนด้วย ว่าตอนนี้แผนของเธอดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ฟูหลินเป็นเพื่อนที่ดีเ
@Hight barผู้หญิงรูปร่างเล็กเดินผ่านการ์ดของผับชื่อดังเข้าไปด้านใน ผ้าชิ้นเล็กอย่างเกาะอกสีดำ ขับให้หน้าอกของคนใส่ดูใหญ่กว่าตัว ถุงน่องสีดำสนิทขับให้ท่อนขาเรียวสวยดูเซ็กซี่ขึ้น การมาถึงของเธอ ดึงดูดสายตาของผู้ชายเกือบทุกคน ที่ดื่มกินอยู่ในโซนวีไอพี แต่สิ่งที่ทำให้เธอดึงดูดผู้คนมากที่สุด กลับไม่ใช่การแต่งกายด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น หรือรูปหน้าสวยหวาน แต่มันเป็นท่าทางอ่อนต่อโลกของเธอมากกว่า ที่ดึงดูดความสนใจของเหล่านักล่า ผู้ชายที่หิวกระหายเหยื่อสาวบริสุทธิ์ ง่ายต่อการล่อลวง“มู่เฟยหลง” ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้เองก็เช่นกัน เขาสนใจเธอตั้งแต่แรกเห็น ไม่อาจละสายตาไปที่ไหน หิวกระหายในการล่า จนเพื่อนสนิทที่นั่งดื่มอยู่ด้วยกัน เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ“มีอะไรหรือเปล่าอามู่?” ซีฮันยกมือขึ้นสะกิดไหล่เพื่อนที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆกัน “…”“…?”เมื่อเพื่อนสนิทไม่ยอมเปิดปากตอบคำถาม ซีฮันจึงมองตามดวงตาสีดำลึกลับคู่นั้นไป ดวงตาสีเทาอ่อนลุกวาว เผลอยกมือลูบริมฝีปากด้วยความเคยตัว ห่างออกไปจากจุดที่เขากับเพื่อนนั่งอยู่ราวๆห้าเมตร ในส่วนของบาร์เหล้านั้น มีสาวเจ้าท่าทางไม่ต่างจากกระต่ายน้อยนั่
Boom~ Boom ~เสียงเพลงในผับเริ่มเปลี่ยนจังหวะ จากฟังสบายๆเป็นบีทหนักๆ เหล่านักท่องราตรีเริ่มเดินออกไปวาดลวดลายให้เข้ากับเสียงดนตรี สองสาวสวยที่นั่งดื่มอยู่บริเวณบาร์เดินไปแจมกับคนอื่นๆบ้าง แต่เพียงไม่นานหญิงสาวที่ดูอ่อนต่อโลก ก็กลับมานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมดวงตาสีดำสนิทจ้องมองร่างขาวเนียน ที่กำลังโน้มลงไปวางใบหน้าบนเคาน์เตอร์บาร์ ท่าทางของเธอเหมือนคนเมาหนัก ทั้งที่เขาเห็นเธอดื่มไปแค่ไม่กี่แก้ว ทุกการเคลื่อนไหวของเธออยู่ในสายตาเขาเสมอ มันดูอ่อนหวาน ทว่ากลับดูเย้ายวนแปลกๆ เหมือนเชิญชวนให้วิ่งเข้าหาด้วยท่าทางที่ดูอ่อนต่อโลกเธอเป็นผู้หญิงที่ทำให้ผู้ชายในนี้รู้สึกตื่นตัว นักล่าในนี้ ย่อมอยากได้เหยื่อที่ล่าได้ง่ายๆ ติดมือกลับไปด้วยอยู่แล้วชายหนุ่มที่ครอบครองความสูงถึงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ลุกขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็ว ซีฮันได้แต่มองตามแผ่นหลังเพื่อนไป เหยียดยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่าเพื่อนหย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้ตัวยาว ข้างๆกับสาวน้อยท่าทางใสซื่อ หญิงสาวที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาของเหล่านักล่าอยู่ในตอนนี้“ไปให้พ้นนะ! ที่ตรงนี้เป็นของเพื่อนฉันเสียงไล่อู้อี้ จนคนฟังแทบไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร คนที่ร
“ฉันคงคาดหวังกับคนอย่างคุณมากเกินไป ฉันคืนให้ค่ะ บอกตามตรงว่าฉันไม่กล้าดื่ม”ขวดน้ำเย็นจัดถูกยื่นกลับคืนไปให้เจ้าของ มือใหญ่ยื่นออกไปรับมันกลับมา เปิดฝาดื่มของเหลวด้านในลงไปเกือบครึ่งขวด เพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าเขาไม่ได้ใส่อะไรแปลกๆลงไป ดื่มเสร็จก็ยื่นคืนกลับไปให้คนตัวเล็กที่นั่งมองอยู่ตลอด“มันก็แค่น้ำเปล่า”“ค่ะ ฉันรู้”ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่ยิ้มจางๆ รับขวดน้ำจากมือใหญ่กลับมา ดื่มของเหลวข้างในลงไปเพียงนิดเดียวก็ส่งมันคืน จับจ้องร่างสูงกำยำที่กำลังโถมขึ้นมา คลี่ริมฝีปากกว้างขึ้นกว่าเดิม เมื่อเขาอยู่ใกล้จนเห็นร่องรอยบางอย่าง“ต่อนะ มาต่อจากจูบกันเถอะ”เฟยหลงดึงรั้งคนตัวเล็กเข้าหาตัว บดจูบลงไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาชอบจูบของเธอ แม้จะเหมือนคนไม่มีประสบการณ์ แต่มันก็ไม่ถึงกลับแย่ เขาชอบที่ได้ไล่ต้อนเธอให้จนมุม ด้วยลิ้นร้อนๆของตัวเอง“อ๊ะ!”เสียงครางหวานดังอื้ออึงในลำคอ หญิงสาวใบหน้าสวยหวานยอมเป็นผู้ตามที่ดี ยอมให้ลิ้นใหญ่ไล่ต้อนจนกว่าเขาจะพอใจ มองสบดวงตาดุร้ายอยู่ตลอด เมื่อดวงตาคู่นั้นค่อยๆหยาดเยิ้ม มุมปากจิ้มลิ้มก็เผลอเหยียดตรง“ถอดนะ?”มือใหญ่ไล้วนอยู่ตามผิวเนื้อไร้เนื้อผ้า ขออนุญาติเสร
วันรุ่งขึ้นสิ่งแรกที่เฟยหลงทำหลังรู้สึกตัว คือการคลำมือไปด้านข้าง เพื่อหาร่างที่ร่วมหลับนอนกับตัวเอง สิ่งที่ได้พบมีเพียงความเย็นชืดของผ้าปูที่นอน เปลือกตาหนักอึ้งทั้งสองลืมขึ้นทันที สันกรามขบเข้าหากันแน่น คนที่ต้องการให้อยู่เพื่อคลายความกังขา ออกไปจากห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ร่างสูงกำยำขยับลงจากเตียง ไล่สายตามองสำรวจรอยเลือดบนเตียง ริมฝีปากหยักสวยเบ้ขึ้นสูงอย่างไม่อยากเชื่อครั้งแรกงั้นเหรอ ครั้งแรกอะไรถึงได้ช่ำชองขนาดนั้น! มือใหญ่ยกขึ้นยีเส้นผมตัวเองแรงๆ ตอนแรกคิดว่าเธอไร้เดียงสาและไม่มีประสบการณ์ แต่ไอ้ตอนที่ควบอยู่ข้างบนมันไม่ใช่ ลีลาก็จัดจ้านจนเขาติดใจ แต่ทำไมถึงรู้สึกตะหงิดใจไม่หายแบบนี้ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยสภาพอิดโรย เห็นตัวเองในกระจกของอ่างล้างหน้าแล้วแทบผละ นั่นเขาหรือ? นึกว่าคนเป็นโรคไข้เลือกออก หญิงสาวคนนั้นทิ้งรอยแดงไว้ทั่วทั้งตัว ขนาดบนหัวสีแดงของแท่งเนื้อใหญ่ เธอก็ยังไม่เว้นไว้เลย ใช้งานแท่งลำที่เขาแสนจะภาคภูมิใจจนแดงเถือกไปหมด เป็นแบบนี้อาจจะต้องงดใช้งานมันไปสักพัก“… ?”นี่เขาเป็นผู้ล่า หรือถูกล่ากันแน่?มือใหญ่ยกขึ้นทุบลงบนบานกระจก เขานึกว่าตัวเองเป็นฝ
สัปดาห์ต่อมาเมื่อได้ข้อมูลของผู้หญิงที่เพื่อนสนใจมาจากนักสืบ ซีฮันก็รีบจัดการส่งรูปถ่ายพร้อมกับประวัติของเธอคนนั้นไปให้เพื่อน ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมู่เฟยหลงได้รับมัน ในขณะที่เขากำลังนั่งดื่มกับสาวสวยรายหนึ่งอยู่ในผับของตัวเอง ดวงตาคมกล้าเลื่อนอ่านข้อมูลเงียบๆ แม้จะมีเพียงชื่อกับข้อมูลไม่กี่อย่าง แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา มือใหญ่วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ หันความสนใจกลับมาที่หญิงสาวข้างกาย“คนรักทักมาเหรอค่ะ อารมณ์ดีเชียว”ใบหน้าสวยเผยรอยยิ้ม ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบช้าๆ เอนศรีษะซบลงบนไหล่กว้าง จิบเหล้าต่อไปพลางๆ ทำเหมือนไม่อยากรู้คำตอบของคำถามที่เพิ่งถามไป“เปล่า”ใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำลง จนริมฝีปากแทบจะแนบชิดติดกลีบปากสีแดงสด ความสนใจถูกหญิงสาวตรงหน้าดึงไปจนสิ้น ใบหน้าจิ้มลิ้มไร้เดียงสาแบบนั้น จะสู้ผู้หญิงสวยมั่นอย่างเธอคนนี้ได้ยังไง“ให้มันจริงเถอะค่ะ”“ฉันไม่เคยโกหก คนที่ทักมาไม่ใช่คนรักของฉัน”น้ำเสียงนุ่มทุ้มเย็นชาขึ้น เมื่อพูดถึงเรื่องคนรัก หญิงสาวที่คุ้นเคยกับผู้ชายมาบ้าง เดาอารมณ์คนข้างๆได้ทันที มุมปากหยักสวยเหยียดออก ขยับตัวออกห่างช้าๆ ภารกิจที่ได้รับมา เสร็จสิ้นเพียงแค่นี้แหละ“แ
วันรุ่งขึ้นถิงลี่หมิงยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แม้จะมีนัดหมายกับใครบางคนก็ตาม ตั้งใจปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปจนดึก ไม่คิดจะเดินทางไปสถานที่นัดหมายเร็วกว่านั้น ตั้งใจยื้อเวลาออกไปให้นานที่สุด เพื่อให้เขาคนนั้น ลิ้มรสชาติของคนที่เป็นฝ่ายรอรถยนต์คันหรูจอดลงในลานจอดรถของผับที่ดังที่สุด และหรูหราที่สุดในย่านนั้น ร่างสมส่วนถูกปิดทับด้วยเสื้อผ้าสวมใส่สบายๆ อย่างเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขาสั้น ปล่อยท่อนขาเรียวสวยโดนลมอุ่นของต้นฤดูร้อนรินรด ลี่หมิงสาวเท้าเข้าไปในผับช้าๆ ไม่ได้รีบร้อนเลยแม้เวลาจะใกล้เข้าวันใหม่ไปทุกที เลือกที่นั่งในมุมเงียบๆของร้าน เพื่อดูปฏิกิริยาของคนรอห่างออกไปไม่มาก มู่เฟยหลงกำลังเสียสติ เพราะเธอที่นัดกับเขา ไม่ยอมปรากฏตัวสักที ใบหน้าบึ้งตึงของชายหนุ่มที่นั่งถัดออกไปห้าโต๊ะ ทำให้ใบหน้าสวยหวานไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม เผยรอยยิ้มเหยียดหยัน เขาควรได้ลิ้มรสชาติแบบนี้บ้าง จะได้เลิกอวดดี เลิกคิดว่าผู้หญิงเป็นเพียงแค่ของเล่น เขาชอบเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น เธอก็จะเล่นกับความรู้สึกของเขาเช่นกัน“ยัยบ้าเอ้ย! กล้าหลอกฉันงั้นเหรอ”พรึ่บ! อึก อึก!แก้วรูปทรงแปลกตา ถูกมือเรียวสวยยกขึ้นดื่มอย่าง
17 : 45 น.ครืด! ครืด!การทำงานล่วงเวลาถูกเครื่องมือสื่อสารรบกวน ดวงตาคู่หวานหลังแว่นหรี่มองโทรศัพท์เครื่องหรู ที่กำลังสั่นครืดๆอยู่บนโต๊ะทำงานด้านขวามือ ถิงลี่หมิงเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมากดรับ ถือโทรศัพท์ไว้ห่างๆ เพราะมั่นใจว่าทำแบบนั้น ก็ยังได้ยินเสียงแว๊ดๆของคนที่โทรเข้ามา[ ลี่หมิง~ เธอจะรอให้ฉันหยุดหายใจก่อนหรือไง ถึงจะยอมรับสายของฉันอะ! ]“ฉันทำงานอยู่นะฟูหลิน เดี๋ยวพี่ซีเหวินหักเงินเดือน”[ ชิ! เธอจะเอาเรื่องงานมาอ้างกับฉันไม่ได้นะ ออกมาเจอกันหน่อย ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้แผนการของเธอไปถึงขั้นไหนแล้ว ]“แต่วันนี้ฉันต้องทำโอที” ปกติเธอไม่ต้องทำโอที แต่เพราะเธอหยุดงานบ่อย ช่วงที่วางแผนเข้าหามู่เฟยหลง จึงต้องทำงานล่วงเวลาชดเชยให้พี่ชายที่เป็นคนจ่ายเงินเดือน[ พรุ่งนี้เธอว่างหรือเปล่า? ]“ว่าง เธอจะให้ฉันไปเจอที่ไหน?”[ ที่คลับ xxx ]“อื้อ พรุ่งนี้เจอกันเวลาเดิมนะ”ลี่หมิงกดวางสายจากเพื่อนสนิท ฟูหลินเป็นเพื่อนที่เรียนอยู่อเมริกาด้วยกัน ชื่อของเพื่อนและประวัติบางอย่างถูกเธอนำมาใช้ในแผนการ เพราะแบบนั้นจึงต้องคอยรายงานเพื่อนด้วย ว่าตอนนี้แผนของเธอดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ฟูหลินเป็นเพื่อนที่ดีเ
“ค่ะ ถึงยังไงหนูก็ไม่อยากให้สามีรักคนอื่นอยู่ดี เอาไว้เขาลืมคนรักเก่าได้เมื่อไหร่ เราค่อยมาคุยเรื่องแต่งงานกันดีไหมคะ?”สามีภรรยาตระกูลมู่หน้าซีดลง ด้วยตั้งใจมาครั้งนี้เพื่อฟังการตอบตกลงจากทางตระกูลถิง เมื่อได้รับการปฎิเสธจากเจ้าตัวเอง ก็ยากที่จะโน้มน้าวเจ้าของตระกูล ด้วยรู้ดีว่าถิงซีหยวนนั้นรักลูกสาวคนเล็กมาก“หวังว่าท่านทั้งสอง จะเข้าใจถึงความเจ็บปวดของหนูนะคะ”คนอายุน้อยแสร้งทำหน้าเศร้า รู้ว่าการปฎิเสธครั้งนี้มันไม่ช่วยให้ความตั้งใจของผู้นำตระกูลมู่ลดลง ตั้งแต่ครอบครัวเธอร่ำรวยขึ้น และถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับต้นๆของประเทศ เธอที่เป็นลูกสาวและยังโสด ถูกหลากหลายตระกูลเข้ามาทาบทาบ บางตระกูลไม่เคยเจอตัวจริงเธอด้วยซ้ำ เพียงแค่รู้ข่าวว่าเธอยังโสด ก็มาต่อแถวขอไปเป็นลูกสะใภ้“เราเข้าใจ ถึงอยากแก้ไขความผิดพลาดนั้นนะสิ เราสัญญาว่าจะถนอมน้ำใจหนูลี่หมิงเป็นอย่างดี และที่สำคัญ ทางเราจะร่วมลงทุนกับธุรกิจทุกอย่างของตระกูลถิง”ถิงซีหยวนถึงกับกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่ได้ เข้าใจว่าการแต่งงานของคนระดับนี้ ส่วนใหญ่จะมีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาไม่เคยคิดจะให้ลูกแต่งงานทางการเมือง ถ้าตอนนั้นลูกไม่สาร
ชั้นห้าของบ้านพี่เลี้ยงยืนหอบอยู่หน้าประตู เพราะวิ่งขึ้นมาแทนการเสียเวลายืนรอลิฟต์ เมื่อปรับการหายใจให้เป็นปกติแล้ว ก็ยกมือขึ้นเคาะประตู ยืนรออยู่นานก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงถือวิสาสะเปิดประตูห้องส่วนตัวของคุณหนูออก เดินไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงนอนสีหวาน“คุณหนูตื่นเถอะค่ะ คุณมู่กับคุณนายใกล้จะมาถึงแล้ว”เปลือกตาหนักอึ้งปรือขึ้น ชื่อที่หลุดมาจากริมฝีปากของพี่เลี้ยง ส่งผลให้แอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างถูก ถูกดึงออกไปจนหมด สติกลับมาอยู่ในสภาพเดิม เหลือบมองนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจ“บอกคุณแม่ไปซะว่าฉันไม่ว่าง”“ท่านบอกว่าถึงไม่ชอบแค่ไหน ก็ต้องฝืนใจลงไปค่ะ”ถ้อยคำของคุณนายถูกแจ้งกับคุณหนูแบบไม่มีผิดเพี้ยน คนฟังเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่อยากพัวพันกับคนตระกูลนี้เลย แต่มันดันเลี่ยงไม่ได้ ตระกูลมู่ผู้นำด้านการขนส่ง และมีรายได้ติดหนึ่งในสิบของประเทศ ต้องการผูกสัมพันธ์กับครอบครัวเธอ หลังจากที่ครั้งหนึ่ง พวกเขาเป็นฝ่ายปฎิเสธการผูกสัมพันธ์กับครอบครัวเธอแบบไม่ไว้หน้าเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เธอเพิ่งจะอายุได้สิบแปดปี พ่อกับแม่ของเธอหวังให้เธอแต่งกับลูกชายของตระกูลนั้น แต่ความต่างชนชั้นทั้งที่เป็นเพื่อนกัน ทำ
“ลุกขึ้น!”แต่วิธีการนั้น เขาไม่เคยทำมันกับใครถ้าไม่ใช่คนรัก เฟยหลงสลัดความรู้สึกแปลกๆทิ้ง เอื้อมมือไปกระชากท่อนแขนเล็กฉุดรั้งให้ลูกขึ้น ลากเธอออกไปจากห้องก่อนที่ตัวเองจะทำแบบที่คิดจริงๆ เดินลิ่วไปขึ้นลิฟต์โดยที่คนตัวเล็ก ได้แต่ลากขาตามไปอย่างห้ามไม่ได้ติ๊ง!เมื่อเสียงเตือนดังขึ้น ประตูลิฟต์ก็เปิดกว้าง เฟยหลงยกมือปัดเส้นผมที่ปกระใบหน้าขึ้น มองคนที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ ไล่สายตามองคนตัวเล็กอย่างสำรวจ แม้เสียงร้องไห้จะเงียบไปแล้วตั้งแต่เขาลากเธอออกมา แต่น้ำตามันยังไม่หายไปจากใบหน้าสวยหวานนี้เลย เธอไปเอาน้ำตามาจากไหนเยอะแยะ“นี่!”“อ๊ะ! อึก!”ดวงตาคลอน้ำช้อนขึ้นมอง ก้าวถอยหลังไปจนชิดผนังลิฟต์ ยกมือขึ้นป้องกันตามสัญชาตญาณ เธอไม่ควรกลัว บอกตัวเองแบบนั้นมาตลอด แต่พอเอาเข้าจริงๆ เธอกลับรู้สึกกลัวเขามากเธอถูกเพื่อนๆ เรียกว่าสาวมั่น ไม่มีอะไรที่สามารถสั่นคลอนคนแบบเธอได้ แต่อยู่กับเขา เธอกลายเป็นคนอ่อนแอ กลายเป็นเธอคนเดิมที่พ่ายแพ้ จนต้องหนีไปเลียแผลใจไกลถึงต่างแดน“อยะ อย่าเข้ามานะ!”เมื่อนึกถึงตัวเองหลังจากนั้น ใบหน้าสวยหวานก็เชิ่ดขึ้น น้ำตาเหมือนจะเหือดแห้งไป ดวงตาฉายความชิงชังออกมาจนคนที่กำ
“มองอะไร? อยากรู้จักฉันขึ้นมาแล้วเหรอ?”“ฉันไม่อยากรู้จักคุณหรอกค่ะ รู้จักไปก็ปวดใจเปล่าๆ” และฉันรู้จักคุณดีอยู่แล้ว ลี่หมิงพูดต่อประโยคสุดท้ายในใจ“ต้องทำยังไง ผู้หญิงอย่างเธอ ถึงจะอยากรู้จักกับฉัน?”เฟยหลงถามออกไปในที่สุด มันไม่ใช่ประโยคคำถามซะทีเดียว คล้ายๆประโยคบอกเล่ามากกว่า“คุณจะคบกับฉันไหมล่ะ?” ลี่หมิงสลัดความหวั่นไหวเล็กๆ เพราะคำถามประโยคนั้นออกไป รู้ดีว่าคำตอบของคำถามของตัวเองคืออะไร แต่ก็อยากถาม เพราะแผนการของเธอ คือทำให้เขาหวั่นไหวให้ได้มากที่สุด“ไม่!” และมันเป็นอย่างที่เธอคิดไว้ เขาตอบกลับมาทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย ใบหน้าสวยแสร้งยิ้มเศร้า ส่งความผิดหวังออกไปทางดวงตา บีบความเสียใจที่มีอยู่จริงเพียงเล็กน้อย ออกมาคลอรอบหน่วย แสร้งเงยหน้าขึ้นเพื่อไล่หยาดน้ำ แสร้งปั้นเสียงสั่นกล่าวคำร่ำลา“ถ้าอย่างนั้น ก็ … ลาก่อนค่ะ เราไม่น่ากลับมาพบกันอีกเลย ให้เรื่องระหว่างเรามันจบลงที่คืนนั้นก็ดีแล้ว”ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่รอยยิ้มหวาน แสร้งทำเหมือนว่าคืนนั้นคือความทรงจำแสนงดงามในความรู้สึกของตัวเอง เมื่อความหวั่นไหวในดวงตาคู่คมไม่มีให้เห็นเลย ก็รีบร้อนหยัดตัวยืน เธอผิดที่รีบร้อนข
วันรุ่งขึ้นถิงลี่หมิงยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แม้จะมีนัดหมายกับใครบางคนก็ตาม ตั้งใจปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปจนดึก ไม่คิดจะเดินทางไปสถานที่นัดหมายเร็วกว่านั้น ตั้งใจยื้อเวลาออกไปให้นานที่สุด เพื่อให้เขาคนนั้น ลิ้มรสชาติของคนที่เป็นฝ่ายรอรถยนต์คันหรูจอดลงในลานจอดรถของผับที่ดังที่สุด และหรูหราที่สุดในย่านนั้น ร่างสมส่วนถูกปิดทับด้วยเสื้อผ้าสวมใส่สบายๆ อย่างเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขาสั้น ปล่อยท่อนขาเรียวสวยโดนลมอุ่นของต้นฤดูร้อนรินรด ลี่หมิงสาวเท้าเข้าไปในผับช้าๆ ไม่ได้รีบร้อนเลยแม้เวลาจะใกล้เข้าวันใหม่ไปทุกที เลือกที่นั่งในมุมเงียบๆของร้าน เพื่อดูปฏิกิริยาของคนรอห่างออกไปไม่มาก มู่เฟยหลงกำลังเสียสติ เพราะเธอที่นัดกับเขา ไม่ยอมปรากฏตัวสักที ใบหน้าบึ้งตึงของชายหนุ่มที่นั่งถัดออกไปห้าโต๊ะ ทำให้ใบหน้าสวยหวานไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม เผยรอยยิ้มเหยียดหยัน เขาควรได้ลิ้มรสชาติแบบนี้บ้าง จะได้เลิกอวดดี เลิกคิดว่าผู้หญิงเป็นเพียงแค่ของเล่น เขาชอบเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น เธอก็จะเล่นกับความรู้สึกของเขาเช่นกัน“ยัยบ้าเอ้ย! กล้าหลอกฉันงั้นเหรอ”พรึ่บ! อึก อึก!แก้วรูปทรงแปลกตา ถูกมือเรียวสวยยกขึ้นดื่มอย่าง
สัปดาห์ต่อมาเมื่อได้ข้อมูลของผู้หญิงที่เพื่อนสนใจมาจากนักสืบ ซีฮันก็รีบจัดการส่งรูปถ่ายพร้อมกับประวัติของเธอคนนั้นไปให้เพื่อน ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมู่เฟยหลงได้รับมัน ในขณะที่เขากำลังนั่งดื่มกับสาวสวยรายหนึ่งอยู่ในผับของตัวเอง ดวงตาคมกล้าเลื่อนอ่านข้อมูลเงียบๆ แม้จะมีเพียงชื่อกับข้อมูลไม่กี่อย่าง แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา มือใหญ่วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ หันความสนใจกลับมาที่หญิงสาวข้างกาย“คนรักทักมาเหรอค่ะ อารมณ์ดีเชียว”ใบหน้าสวยเผยรอยยิ้ม ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบช้าๆ เอนศรีษะซบลงบนไหล่กว้าง จิบเหล้าต่อไปพลางๆ ทำเหมือนไม่อยากรู้คำตอบของคำถามที่เพิ่งถามไป“เปล่า”ใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำลง จนริมฝีปากแทบจะแนบชิดติดกลีบปากสีแดงสด ความสนใจถูกหญิงสาวตรงหน้าดึงไปจนสิ้น ใบหน้าจิ้มลิ้มไร้เดียงสาแบบนั้น จะสู้ผู้หญิงสวยมั่นอย่างเธอคนนี้ได้ยังไง“ให้มันจริงเถอะค่ะ”“ฉันไม่เคยโกหก คนที่ทักมาไม่ใช่คนรักของฉัน”น้ำเสียงนุ่มทุ้มเย็นชาขึ้น เมื่อพูดถึงเรื่องคนรัก หญิงสาวที่คุ้นเคยกับผู้ชายมาบ้าง เดาอารมณ์คนข้างๆได้ทันที มุมปากหยักสวยเหยียดออก ขยับตัวออกห่างช้าๆ ภารกิจที่ได้รับมา เสร็จสิ้นเพียงแค่นี้แหละ“แ
วันรุ่งขึ้นสิ่งแรกที่เฟยหลงทำหลังรู้สึกตัว คือการคลำมือไปด้านข้าง เพื่อหาร่างที่ร่วมหลับนอนกับตัวเอง สิ่งที่ได้พบมีเพียงความเย็นชืดของผ้าปูที่นอน เปลือกตาหนักอึ้งทั้งสองลืมขึ้นทันที สันกรามขบเข้าหากันแน่น คนที่ต้องการให้อยู่เพื่อคลายความกังขา ออกไปจากห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ร่างสูงกำยำขยับลงจากเตียง ไล่สายตามองสำรวจรอยเลือดบนเตียง ริมฝีปากหยักสวยเบ้ขึ้นสูงอย่างไม่อยากเชื่อครั้งแรกงั้นเหรอ ครั้งแรกอะไรถึงได้ช่ำชองขนาดนั้น! มือใหญ่ยกขึ้นยีเส้นผมตัวเองแรงๆ ตอนแรกคิดว่าเธอไร้เดียงสาและไม่มีประสบการณ์ แต่ไอ้ตอนที่ควบอยู่ข้างบนมันไม่ใช่ ลีลาก็จัดจ้านจนเขาติดใจ แต่ทำไมถึงรู้สึกตะหงิดใจไม่หายแบบนี้ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยสภาพอิดโรย เห็นตัวเองในกระจกของอ่างล้างหน้าแล้วแทบผละ นั่นเขาหรือ? นึกว่าคนเป็นโรคไข้เลือกออก หญิงสาวคนนั้นทิ้งรอยแดงไว้ทั่วทั้งตัว ขนาดบนหัวสีแดงของแท่งเนื้อใหญ่ เธอก็ยังไม่เว้นไว้เลย ใช้งานแท่งลำที่เขาแสนจะภาคภูมิใจจนแดงเถือกไปหมด เป็นแบบนี้อาจจะต้องงดใช้งานมันไปสักพัก“… ?”นี่เขาเป็นผู้ล่า หรือถูกล่ากันแน่?มือใหญ่ยกขึ้นทุบลงบนบานกระจก เขานึกว่าตัวเองเป็นฝ
“ฉันคงคาดหวังกับคนอย่างคุณมากเกินไป ฉันคืนให้ค่ะ บอกตามตรงว่าฉันไม่กล้าดื่ม”ขวดน้ำเย็นจัดถูกยื่นกลับคืนไปให้เจ้าของ มือใหญ่ยื่นออกไปรับมันกลับมา เปิดฝาดื่มของเหลวด้านในลงไปเกือบครึ่งขวด เพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าเขาไม่ได้ใส่อะไรแปลกๆลงไป ดื่มเสร็จก็ยื่นคืนกลับไปให้คนตัวเล็กที่นั่งมองอยู่ตลอด“มันก็แค่น้ำเปล่า”“ค่ะ ฉันรู้”ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่ยิ้มจางๆ รับขวดน้ำจากมือใหญ่กลับมา ดื่มของเหลวข้างในลงไปเพียงนิดเดียวก็ส่งมันคืน จับจ้องร่างสูงกำยำที่กำลังโถมขึ้นมา คลี่ริมฝีปากกว้างขึ้นกว่าเดิม เมื่อเขาอยู่ใกล้จนเห็นร่องรอยบางอย่าง“ต่อนะ มาต่อจากจูบกันเถอะ”เฟยหลงดึงรั้งคนตัวเล็กเข้าหาตัว บดจูบลงไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาชอบจูบของเธอ แม้จะเหมือนคนไม่มีประสบการณ์ แต่มันก็ไม่ถึงกลับแย่ เขาชอบที่ได้ไล่ต้อนเธอให้จนมุม ด้วยลิ้นร้อนๆของตัวเอง“อ๊ะ!”เสียงครางหวานดังอื้ออึงในลำคอ หญิงสาวใบหน้าสวยหวานยอมเป็นผู้ตามที่ดี ยอมให้ลิ้นใหญ่ไล่ต้อนจนกว่าเขาจะพอใจ มองสบดวงตาดุร้ายอยู่ตลอด เมื่อดวงตาคู่นั้นค่อยๆหยาดเยิ้ม มุมปากจิ้มลิ้มก็เผลอเหยียดตรง“ถอดนะ?”มือใหญ่ไล้วนอยู่ตามผิวเนื้อไร้เนื้อผ้า ขออนุญาติเสร