ชั้นห้าของบ้าน
พี่เลี้ยงยืนหอบอยู่หน้าประตู เพราะวิ่งขึ้นมาแทนการเสียเวลายืนรอลิฟต์ เมื่อปรับการหายใจให้เป็นปกติแล้ว ก็ยกมือขึ้นเคาะประตู ยืนรออยู่นานก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงถือวิสาสะเปิดประตูห้องส่วนตัวของคุณหนูออก เดินไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงนอนสีหวาน
“คุณหนูตื่นเถอะค่ะ คุณมู่กับคุณนายใกล้จะมาถึงแล้ว”
เปลือกตาหนักอึ้งปรือขึ้น ชื่อที่หลุดมาจากริมฝีปากของพี่เลี้ยง ส่งผลให้แอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างถูก ถูกดึงออกไปจนหมด สติกลับมาอยู่ในสภาพเดิม เหลือบมองนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจ
“บอกคุณแม่ไปซะว่าฉันไม่ว่าง”
“ท่านบอกว่าถึงไม่ชอบแค่ไหน ก็ต้องฝืนใจลงไปค่ะ”
ถ้อยคำของคุณนายถูกแจ้งกับคุณหนูแบบไม่มีผิดเพี้ยน คนฟังเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่อยากพัวพันกับคนตระกูลนี้เลย แต่มันดันเลี่ยงไม่ได้ ตระกูลมู่ผู้นำด้านการขนส่ง และมีรายได้ติดหนึ่งในสิบของประเทศ ต้องการผูกสัมพันธ์กับครอบครัวเธอ หลังจากที่ครั้งหนึ่ง พวกเขาเป็นฝ่ายปฎิเสธการผูกสัมพันธ์กับครอบครัวเธอแบบไม่ไว้หน้า
เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เธอเพิ่งจะอายุได้สิบแปดปี พ่อกับแม่ของเธอหวังให้เธอแต่งกับลูกชายของตระกูลนั้น แต่ความต่างชนชั้นทั้งที่เป็นเพื่อนกัน ทำให้ผู้นำตระกูลมู่ปฎิเสธครอบครัวเธอแบบไม่ไว้หน้า ความบาดหมางนั้นทำให้สองตระกูลตัดขาดกันไป แต่เมื่อปลายปีก่อนผู้นำตระกูลมู่ได้มาทาบทามเธออีกครั้ง พูดคุยเรื่องแต่งงานที่ตัวเองเคยปฎิเสธมันอย่างน่าไม่อาย หวังให้เธอกับลูกชายเขาเกี่ยวดองกัน โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่าเธอนั้น ไม่ได้ถูกปฎิเสธแค่จากผู้ใหญ่เพียงฝ่ายเดียว เธอถูกมู่เฟยหลงปฎิเสธความรัก จนเสียหลักต้องหนีไปรักษาแผลใจที่ต่างประเทศ
‘ผู้หญิงอย่างเธอเนี่ยนะจะมาเป็นภรรยาของฉัน เจียมตัวหน่อยสิ ใครจะไปแต่งกับคนอย่างเธอ’
‘ฉันมีคนรักแล้ว แน่นอนว่ามันไม่ใช่เธอ’
‘ทำดีกับเธองั้นเหรอ … มันก็แค่เกมส์ เธอไม่เคยเล่นเกมส์ลงโทษเหรอ ฮ่าๆ’
เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ลี่หมิงสลัดศรีษะไปมา มองหน้าพี่เลี้ยงที่น้ำตาคลอเหมือนจะร้องไห้ ถ้าไม่ลงไปผู้หญิงคนนี้อาจจะมีความผิด เมื่อคิดได้ดังนั้นก็บอกพี่เลี้ยง
“บอกท่านว่าอีกครึ่งชั่วโมงฉันจะลงไป”
“ชุดของคุณหนู/ ฉันจะเลือกแบบที่ฉันชอบ!”
“ค่ะ
รับคำเสร็จก็เดินออกไปจากห้อง ร่างบอบบางในชุดนอนผ้าเนื้อดีดีดตัวขึ้นจากเตียง ขยับลงก้าวเดินอย่างรีบร้อนไปเปิดตู้ เหยียดริมฝีปากออกกว้างเมื่อเจอชุดที่ถูกใจ คว้ามันติดมือไปด้วย เสียเวลาในห้องน้ำไม่นาน ก็ออกมาแต่งหน้าทำผม
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ถิงลี่หมิงเดินลงมาชั้นล่าง ก็พบว่าแขกของบ้านมาถึงพอดี ร่างสมส่วนในชุดเดรสยาวสีดำ เยื่องย่างไปยืนอยู่ข้างๆมารดา ก้มศรีษะลงทักทายคนอายุมากกว่าทั้งสอง ความอ่อนช้อยและความสวยงามของใบหน้า ถูกใจแขกที่มาเยือนจนยิ้มไม่หุบ
“นี่คือหนูลี่หมิงจริงๆเหรอ?”
“ค่ะ”
ลี่หมิงตอบรับด้วยตัวเอง ไม่แปลกหรอกที่พวกเขาจะจำเธอไม่ได้ เธอคนก่อนไม่ได้มีรูปลักษณ์แบบนี้นี่นา เธอถูกเรียกว่ายัยอัปลักษณ์เลยล่ะ ทั้งๆที่เธอก็แค่อ้วนเท่านั้น
“สวยเหมือนคุณลี่อันเลยนะครับ”
“ค่ะ”
คนถูกพาดพิงตอบรับเสียงเรียบ ความไม่พอใจในอดีตไม่เคยจางหาย มันยังคุกรุ่นอยู่ในใจ แม้จะได้รับการขอโทษจากคนตระกูลมู่แล้วหลายครั้ง แต่มันเทียบกับความเสียใจที่ลูกสาวแสนรักได้รับไม่ได้หรอก ถ้าหากมู่เฟยหลงไม่ทำแบบนั้นกับลูกสาวท่าน ท่านจะไม่เกลียดคนตระกูลนี้เลย
“เชิญข้างในเถอะครับ”
ถิงซีหยวนผายมือเชิญแขกเข้าไปด้านใน คู่สามีภรรยาตระกูลมู่ มองรอบตัวขณะก้าวเดินอย่างชื่นชม ไม่คิดเลยว่าถิงซีหยวนจะมาได้ไกลขนาดนี้ สามารถผลักดันตัวเองจนขึ้นมาเป็นผู้นำอันดับต้นๆของประเทศได้ ทั้งที่ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี ตอนนั้นไม่น่าปฎิเสธการแต่งงานเลย แม้จะรู้สึกเสียหน้าสุดๆ ที่ต้องมาพูดเรื่องแต่งงานอีกครั้ง แต่ก็ต้องฝืนใจทำ เพราะการแต่งงานกับตระกูลถิงในตอนนี้ จะนำพาตระกูลมู่ไปสู่ความมั่งคั่งที่ไม่มีอะไรมาสั่นคลอนได้
“เชิญนั่งครับ”
“ไม่ต้องมากพิธีหรอกคุณถิง คนกันเองทั้งนั้น”
มู่ตงหยางพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นั่งลงบนเก้าอี้บุนวมชั้นดีที่หญิงรับใช้ของตระกูลถิงดึงออกมาให้ เมื่อสามีนั่งแล้วคุณนายมู่ก็นั่งตาม หลังจากนั้นฝ่ายเจ้าบ้านก็ทยอยกันนั่ง ไม่นานอาหารที่ถูกรังสรรค์โดยพ่อครัวฝีมือดีก็ถูกยกออกมาเสริฟ
“เราไม่ได้นั่งทานข้าวกันแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ”
ถิงซีหยวนยิ้ม ไม่อยากพูดตอบกลับไป เพราะถึงจะมีเรื่องบาดหมางกันอยู่แล้ว ก็ไม่ได้อยากบาดหมางเพิ่ม การเป็นศัตรูกับตระกูลใหญ่อย่างตระกูลมู่ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่หรอก
“น่าจะตั้งแต่ที่ทางนั้นยกเลิกการแต่งงานมั้งคะ”
ลี่หมิงแย้มยิ้มหวาน เป็นรอยยิ้มที่ทำให้แขกทั้งสองรู้สึกร้อน และนั่งอยู่ไม่สุข กาลเวลาล่วงผ่านเลยไป เด็กหญิงใสซื่อบริสุทธิ์คนนั้น ไม่มีให้เห็นเลยในตอนนี้ ดูเหมือนว่าการแต่งงานในครั้งนี้จะไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
“ตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าหนูลี่หมิงชอบเฟยหลงของเรา”
“อ้อ ค่ะ”
“ตอนนี้หนูยังชอบพี่เขาอยู่ไหม ไม่สิ เราหวังว่าหนูจะยังชอบพี่เขาอยู่”
ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง แย้มยิ้มไม่ต่างจากเดิม มีเพียงแค่หัวใจเท่านั้นที่ถูกไฟโทสะสุมจนแสบร้อนไปหมด
“แต่พี่เขาอาจจะไม่ชอบหนูเหมือนเดิม”
“ใครจะไม่ชอบหนูล่ะ หนูลี่หมิงสวยขนาดนี้ ชาติตระกูลก็ดี เฟยหลงจะต้องชอบหนูแน่”
ลี่หมิงหัวเราะเบาๆอย่างมีจริต คนที่อยากแต่งงานกับเธอ ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นหรอก เขามีคนรักอยู่แล้ว เรื่องนั้นเธอรู้ดีกว่าใคร และเธอเชื่อว่าพ่อแม่ของเขาก็รู้เรื่องนั้นดี
“ถ้าเขาลืมคนรักของเขาได้ หนูจะคิดเรื่องนั้นอีกครั้งแล้วกันค่ะ”
“หนูไปได้ยินเรื่องแบบนั้นมาจากที่ไหน?”
“พี่เฟยหลงเป็นคนดังนี่คะ หนูก็ได้ยินมาจากข่าวนั่นแหละค่ะ”
ซึ่งข่าวที่เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ หรือสื่อออนไลน์ ส่วนใหญ่มักจะเป็นแค่ข่าวลือ แต่แหล่งข่าวของเธอมีความน่าเชื่อถือเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะคนที่ปล่อยข่าวให้เธอนั้น คือญาติของเธอเอง และเขาเป็นเพื่อนสนิทของผู้หญิงคนนั้น
“ข่าวพวกนั้นไม่เป็นความจริงเลย เฟยหลงกับผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่เพื่อนกัน เธอคนนั้นแต่งงานไปแล้วจ๊ะ”
ลี่หมิงยิ้ม ไม่ได้ตกใจกับประโยคที่ได้ยินเลย เธอรู้เรื่องพวกนั้นอยู่แล้ว และรู้ว่าที่เขากลายเป็นเพลย์บอย ทำตัวไร้หัวใจ มีอะไรกับผู้หญิงไปทั่ว เพราะผู้หญิงคนนั้นแต่งงานกับเพื่อนสนิทของเขาเอง
ก็สมน้ำหน้าอยู่หรอก แต่เขาต้องเจ็บมากกว่านี้
“ค่ะ ถึงยังไงหนูก็ไม่อยากให้สามีรักคนอื่นอยู่ดี เอาไว้เขาลืมคนรักเก่าได้เมื่อไหร่ เราค่อยมาคุยเรื่องแต่งงานกันดีไหมคะ?”สามีภรรยาตระกูลมู่หน้าซีดลง ด้วยตั้งใจมาครั้งนี้เพื่อฟังการตอบตกลงจากทางตระกูลถิง เมื่อได้รับการปฎิเสธจากเจ้าตัวเอง ก็ยากที่จะโน้มน้าวเจ้าของตระกูล ด้วยรู้ดีว่าถิงซีหยวนนั้นรักลูกสาวคนเล็กมาก“หวังว่าท่านทั้งสอง จะเข้าใจถึงความเจ็บปวดของหนูนะคะ”คนอายุน้อยแสร้งทำหน้าเศร้า รู้ว่าการปฎิเสธครั้งนี้มันไม่ช่วยให้ความตั้งใจของผู้นำตระกูลมู่ลดลง ตั้งแต่ครอบครัวเธอร่ำรวยขึ้น และถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับต้นๆของประเทศ เธอที่เป็นลูกสาวและยังโสด ถูกหลากหลายตระกูลเข้ามาทาบทาบ บางตระกูลไม่เคยเจอตัวจริงเธอด้วยซ้ำ เพียงแค่รู้ข่าวว่าเธอยังโสด ก็มาต่อแถวขอไปเป็นลูกสะใภ้“เราเข้าใจ ถึงอยากแก้ไขความผิดพลาดนั้นนะสิ เราสัญญาว่าจะถนอมน้ำใจหนูลี่หมิงเป็นอย่างดี และที่สำคัญ ทางเราจะร่วมลงทุนกับธุรกิจทุกอย่างของตระกูลถิง”ถิงซีหยวนถึงกับกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่ได้ เข้าใจว่าการแต่งงานของคนระดับนี้ ส่วนใหญ่จะมีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาไม่เคยคิดจะให้ลูกแต่งงานทางการเมือง ถ้าตอนนั้นลูกไม่สาร
17 : 45 น.ครืด! ครืด!การทำงานล่วงเวลาถูกเครื่องมือสื่อสารรบกวน ดวงตาคู่หวานหลังแว่นหรี่มองโทรศัพท์เครื่องหรู ที่กำลังสั่นครืดๆอยู่บนโต๊ะทำงานด้านขวามือ ถิงลี่หมิงเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมากดรับ ถือโทรศัพท์ไว้ห่างๆ เพราะมั่นใจว่าทำแบบนั้น ก็ยังได้ยินเสียงแว๊ดๆของคนที่โทรเข้ามา[ ลี่หมิง~ เธอจะรอให้ฉันหยุดหายใจก่อนหรือไง ถึงจะยอมรับสายของฉันอะ! ]“ฉันทำงานอยู่นะฟูหลิน เดี๋ยวพี่ซีเหวินหักเงินเดือน”[ ชิ! เธอจะเอาเรื่องงานมาอ้างกับฉันไม่ได้นะ ออกมาเจอกันหน่อย ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้แผนการของเธอไปถึงขั้นไหนแล้ว ]“แต่วันนี้ฉันต้องทำโอที” ปกติเธอไม่ต้องทำโอที แต่เพราะเธอหยุดงานบ่อย ช่วงที่วางแผนเข้าหามู่เฟยหลง จึงต้องทำงานล่วงเวลาชดเชยให้พี่ชายที่เป็นคนจ่ายเงินเดือน[ พรุ่งนี้เธอว่างหรือเปล่า? ]“ว่าง เธอจะให้ฉันไปเจอที่ไหน?”[ ที่คลับ xxx ]“อื้อ พรุ่งนี้เจอกันเวลาเดิมนะ”ลี่หมิงกดวางสายจากเพื่อนสนิท ฟูหลินเป็นเพื่อนที่เรียนอยู่อเมริกาด้วยกัน ชื่อของเพื่อนและประวัติบางอย่างถูกเธอนำมาใช้ในแผนการ เพราะแบบนั้นจึงต้องคอยรายงานเพื่อนด้วย ว่าตอนนี้แผนของเธอดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ฟูหลินเป็นเพื่อนที่ดีเ
“คนอื่นน่ะ คนที่นอนกับเขาคือคนอื่น”“ฉันนึกว่าเธอยอมเอาตัวเองไปเป็นเหยื่อซะอีก”“ฉันไม่เอาตัวเองไปเป็นเหยื่อให้เสืออย่างเขาแทะเล่นหรอกน่า”“โล่งอกไปที!”“ก็ … นั่นแหละ ฉันอยากให้พี่หนิงเทียน ช่วยรับบทเป็นคนรักให้หน่อย พี่ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่หาเวลาว่างให้ฉันสัก หนึ่งชั่วโมง หรือสองชั่วโมงก็พอ”ลี่หมิงนั่งรอคำตอบเงียบๆ ไม่คาดหวังว่าพี่หนิงเทียนจะยอมทำอะไรแบบนั้น แต่รอไม่นานใบหน้าหล่อเหลาก็พยักขึ้นลง คนตัวเล็กที่สุดพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่ตัวเองไม่ต้องไปหาผู้ชายคนอื่นมารับบทเป็นคนรัก“ขอบคุณพี่หนิงเทียนมาก ที่ยอมช่วยฉัน”“ไม่เป็นไร พี่ยินดี”“จริงสิ ไหนๆก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว พี่หนิงเทียนว่างไปดื่มกับเราไหม?”ฟูหลินรีบชวน เพื่อสร้างโอกาสให้เพื่อนสนิทกับชายหนุ่มรุ่นพี่ ได้อยู่ใกล้ชิดกัน ลี่หมิงเข้าใจเจตนาของเพื่อน จึงไม่แย้งใดๆ ทั้งที่อยากไปดื่มกันแค่สองคนพี่หนิงเทียนไปด้วยก็ดี เวลามีปัญหาจะได้ขอความช่วยเหลือจากเขาได้21 : 00 น.Club XXXผู้หญิงรูปร่างเล็กสวมใส่เสื้อสายเดี่ยวสีดำ ความยาวของเสื้อปิดได้แค่สองเต้าอวบอั๋น สีดำของเสื้อขับผิวขาวให้ดูขาวยิ่งขึ้น ด้านล่างเป็นกางเกงยีนส์ขาย
สามชั่วโมงต่อมาการดื่มเพื่อผ่อนคลาย กลายเป็นการดื่มเพื่อระงับอารมณ์โกรธ ตลอดสามชั่วโมงที่นั่งดื่มกับเพื่อน ลี่หมิงพยายามไม่สนใจเฟยหลง แต่เขานั่งอยู่ในระยะสายตา ซ้ำยังส่งสายตาไม่พอใจให้เธออยู่ตลอด สายตาของเขาทำให้เธอทั้งรู้สึกอึดอัด ทั้งทำตัวไม่ถูก และที่สำคัญกว่านั้น มันทำให้เธอเผลอรู้สึกแปลกทำหน้าไม่พอใจเหมือนกำลังหึง ทำเหมือนรู้สึกกับเธอ ทั้งที่ไม่ใช่“เดี๋ยวฉันมานะ”ลี่หมิงเดินออกไปทันทีที่พูดจบ แทรกกายผ่านเหล่านักท่องราตรีหลายร้อยคน ไปอย่างยากลำบาก ส่วนสูงของเธอเป็นปัญหาอยู่เสมอ ตอนนี้เธอต้องการไปห้องน้ำให้เร็วกว่านี้ แต่กลุ่มคนตัวโตรอบข้าง ทำให้เธอทำตามความต้องการไม่ได้ปึ่ก!“อ๊ะ! อะไรวะ!”“หลีกทางหน่อย!”ใบหน้าสวยหวานเงยขึ้นมองแผ่นหลังกว้าง เส้นผมสีดำสนิท สัดส่วนที่ผู้ชายหลายคนไฝ่ฝัน มู่เฟยหลงดูดีทุกอย่าง ขนาดเห็นเพียงแผ่นหลังก็รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์เธอยอมรับว่าตัวเองก็มีส่วนผิด เธอเป็นฝ่ายหลงรักเขาก่อน แต่เขาไม่จำเป็นต้องทำให้เธอเสียใจ เพราะเกมส์ลงโทษที่เขาเล่นกันกับเพื่อนเลย ปล่อยให้เธอแอบรักอยู่เงียบๆไป ไม่ต้องเข้ามาทำให้มีหวัง แล้วผลักเธอลงหุบเหวแห่งความเจ็บปวดแบบนั้นหมั
หลายวันต่อมาตั้งแต่วันที่บังเอิญเจอกับฟูหลินในบาร์ ความรู้สึกของมู่เฟยหลงก็ไม่เหมือนเดิม ความสนใจในตัวผู้หญิงลดน้อยลง ความสนุกตอนออกมาดื่มก็ด้วย ดวงตาคู่สวยมองไปรอบๆบาร์ เพื่อสำรวจความเรียบร้อยของสถานที่ ไม่หยุดลงที่สาวสวยคนไหน จนเพื่อนสนิทเกิดความสงสัยและเป็นห่วง“เกิดอะไรขึ้นเหรอเฟยหลง ทำไมหน้าตาถึงได้ดูอมทุกข์จัง”ซีฮันถาม ดึงรั้งสาวข้างกายเข้ามาใกล้มากขึ้น แต่ปฏิกิริยาของเพื่อนก็ยังเหมือนเดิม ใบหน้าบูดบึ้งจนสาวสวยที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน ขยับมานั่งอยู่ข้างๆเพื่อนของเธอแทน“ฉัน… ควรรอต่อไปไหม?”“หะ? รอ รอใคร?”ซีฮันวางแก้วเหล้าในมือลง ผลักสาวข้างกายออกห่าง เมื่อสีหน้าของเพื่อนจริงจังจนล้อเล่นไม่ได้“ซูฮวา”“ฉัน … สามารถพูดได้ทุกอย่างหรือเปล่า”ซีฮันลองถามเพื่อหยั่งเชิงดู โบกมือไล่สาวๆที่มาคอยให้บริการไป เมื่อเพื่อนส่งสัญญาณมาบอก ว่าตัวเองสามารถพูดได้อย่างที่ต้องการ มือเรียวสวยยกขึ้นประสานกัน วางมันลงบนหัวเข่า ท่าทางแบบนั้น แม้แต่เฟยหลงยังรู้สึกจริงจังไปด้วย ทั้งที่ตอนถาม เขาก็แค่เผลอตัวพูดออกไปเท่านั้น“แกควรพอตั้งนานแล้ว” “แต่ฉันรอได้”“รอ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่เหมือนเดิม รอทั
“อือ”“ถ้าต้องการยั่วโมโหฉัน บอกเลยว่าเธอทำสำเร็จ”“อึก! คุณมู่!”“ฉันให้เธอพูดใหม่อีกที”“อือ! ยะ ยอมแล้ว ฉันแค่ล้อเล่น!”ลี่หมิงรีบบอกออกไป เพราะกลัวเขาฝังรอยเขี้ยวลงบนลำคอเพิ่มอีก แต่ผลลัพธ์กลับไม่ต่างกันนัก เขาไม่กัดผิวเนื้อของเธอ แต่ใช้ริมฝีปากหยักสวยดูดเม้มแรงๆ“แต่ฉัน … ไม่ได้ล้อเล่น”ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นจากผิวกายหอมกรุ่น สบดวงตาคู่หวานเนินนาน ลี่หมิงรีบหลบสายตาไปด้านข้าง การเล่นตัวครั้งนี้ ไม่ใช่ทำเพื่อให้เขาโกรธ แต่เธอรู้สึกกลัวกลัวตัวเองหวั่นไหวจนลืมความตั้งใจของตัวเอง“คุณอยากจะคบกับฉันเหรอ?” ลี่หมิงหันใบหน้ากลับไป ถามเสียงแผ่วเบา ไม่อยากเชื่อสิ่งที่คนตัวโตพูด แต่แววจริงจังในดวงตา ยืนยันคำพูดนั้นโดยที่เขาไม่ต้องพูด “บอกตรงๆว่าฉันกลัว กลัวเสียใจเพราะคุณ”ยังคงมีแค่ลี่หมิงที่พูด ต้องยอมรับว่าเธอหวั่นไหวไปมากเพราะเขา แต่ความตั้งใจยังมีอยู่ เธอต้องล่อลวงให้เขาชอบแล้วทิ้งเขาไป เหมือนที่เขาเข้ามาทำดีกับเธอเพราะเกมส์ลงโทษบ้าๆ พอเธอหลงรักก็ทิ้งเธอไว้กับความเจ็บปวด เขาจะต้องเป็นแบบเธอ จะได้ไม่ล้อเล่นกับความรู้สึกของใครอีก“ฉัน เห้อ คิดซะว่าเมื่อกี้ ฉันไม่ได้พูดอะไรแล้วกัน”“อ๊ะ
พรึ่บ!เมื่อเดินมาจนถึงมุมที่ลับตาผู้คนเฟยหลงก็รีบคลายมือออก แต่สัมผัสอุ่นร้อนและความอ่อนนุ่มยังติดอยู่ที่มือ ใบหน้าหล่อเหลาหันหนีไปด้านข้าง เกลียดใบหน้าของเธอมาก ยิ่งตอนร้องไห้ยิ่งน่าเกลียดเข้าไปใหญ่ น้ำใสปิดบังดวงตากลมโตจนหมด แก้มอ้วนๆนั่นก็ด้วย‘เลิกร้องสักที รำคาญ!’‘ฮึก! ขอโทษ’‘เลิกขอโทษด้วย!’‘ฮึก! ค่ะ’คนตัวเล็กว่าง่าย แต่ความพอใจของเขากลับไม่มีเลย ถ้าจะว่าง่ายขนาดนั้น เธอควรเลิกเข้ามายุ่งกับเขาตั้งแต่ที่เขาบอกตอนแรก ถ้าทำแบบนั้น เขาอาจจะใจดีกับเธอมากกว่านี้ เขาอาจจะชอบเธอในฐานะน้องสาวของเพื่อนได้‘เลิกมาหาฉันได้ไหม เธอไม่อายแต่ฉันอาย ชอบหรือไงที่ได้ยินคำพูดดูถูกของคนพวกนั้น’ร่างสูงขยับพิงกำแพง หลับตาลงช้าๆ ปิดกั้นสายตาจากภาพตรงหน้า ทำไมกันนะ เขาถึงแคร์ว่าเธอจะรู้สึกแย่ กับคำพูดของเพื่อนๆเขา ทั้งที่เขาเองก็อยากพูดอย่างที่เพื่อนพูด อยากไล่เธอไปไกลๆ ด้วยคำพูดแย่ๆเหมือนกัน‘ฮึก! ฉัน จะ ไม่มาแล้วค่ะ’ดวงตาสีเข้มลืมขึ้นรวดเร็ว ความแน่วแน่ในดวงตากลมโต วิ่งชนหัวใจจนรู้สึกปวด เขาควรจะดีใจ แต่ทำไมรู้สึกใจหายแบบนี้‘ทำให้ได้อย่างที่พูดล่ะ’ร่างสูงขยับออกจากกำแพง ทิ้งคนอวบอ้วนไว้ลำพัง ใ
สปอร์ตคาร์รุ่นดังขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง พุ่งทะยานไปตามท้องถนน มุ่งหน้าสู่โชว์รูมที่ร่วมลงทุนกับเพื่อน แม้จะเสียดายงานในบริษัท เพราะงานนั้นมันดูมั่นคงถ้าหากต้องคบหากับใครอย่างจริงจัง แต่ไม่ทำเขาก็ไม่เดือนร้อนเรื่องเงินหรอก เรื่องที่ทำให้เดือดเนื้อร้อนใจอยู่ในตอนนี้ เป็นเรื่องการแต่งงานที่พ่อพูดถึงต่างหากเอี๊ยด! แก๊ก! ปึ่ง!เสียงหยุดของล้อรถยนต์ดังไปทั่วบริเวณ ตามมาด้วยเสียงเปิดและปิดประตู ซีฮันที่กำลังตรวจเช็คการส่งมอบรถยนต์กับลูกค้าอยู่ หันไปมองหน้าเจ้าของรถยนต์ตาขวาง เฟยหลงไหวไหล่ขึ้นลงช้าๆ บ่งบอกว่าเขาไม่แคร์และไม่สนใจ“มาช่วยฉันทำงานเหรอ?”“เปล่า! ถูกพ่อไล่ออกมาจากบริษัท!”“ฮ่าๆ เป็นฉันๆ ก็ไล่”ซีฮันหัวเราะชอบใจ ยื่นกุญแจรถไปให้ลูกค้า ก้มศรีษะลงเล็กน้อยเพื่อขอบคุณ จากนั้นก็เดินตามเพื่อนขี้โมโหเข้าไปด้านใน เมื่อเดินมาจนถึงห้องทำงาน ก็เดินหนีเพื่อนไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง พยายามซ่อนสีหน้าขบขันไว้ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของเพื่อน“ชอบใจอะไรนักหนา”“ชอบสิ เพราะคราวนี้ฉันได้เงินจากการพนันตั้งเยอะ”“พนัน? พนันอะไร?”“ก็ … ฉันเดิมพันกับพวกนั้นน่ะ ว่านายจะทำงานให้พ่อได้นานแค่ไหน พวกน
ฟูหลินใช้มือข้างที่ถนัดพยุงร่างของเพื่อนสนิทไว้ อีกมือใช้มันล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าแบรนด์ดัง เพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากคนในบ้านคนอื่น ซึ่งพี่ซีเหวินว่าที่สามีของเธอ ให้เบอร์ติดต่อไว้แล้ว เพื่อเรียกใช้ในตอนที่จำเป็น“สวัสดีค่ะคุณแม่บ้าน รบกวนมาช่วยฉันพาตัวลี่หมิงขึ้นไปนอนบนเตียงหน่อยได้ไหมคะ?”ฟูหลินใช้น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ถึงความเกรงใจ ถึงเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูลถิง แต่ไม่มีความคิดจะยกตนเหนือคนอื่น ปฏิบัติกับทุกคนตามหน้าที่ และยึดหลักความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์ไว้ผ่านไปเพียงแค่ห้านาที ประตูไม่เนื้อดีก็ถูกผลักเข้ามา คนที่ผลักประตูบานนั้นคือพี่เลี้ยงคนสนิทของลี่หมิง ท่าทางบอบบางของผู้เป็นนาย ทำเอาน้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นลงพื้น“ช่วยหน่อยนะคะ”ฟูหลินเข้าใจ เพราะเธอเองก็สงสารเพื่อนสนิทไม่ต่างกัน ทั้งสองคนช่วยกันพยุงร่างคนหลับไปนอนบนเตียง หลังจากนั้นพี่เลี้ยงก็ขออาสาเป็นคนดูแลต่อ หาผ้าชุบน้ำหมาดๆมาเช็ดตัวให้ หาชุดอื่นมาให้ใส่ จากนั้นก็ปล่อยให้นอนพักผ่อนอยู่ตามลำพังลี่หมิงนอนฝันร้ายทั้งคืน ในฝันของเธอมีคนพยายามแย่งเด็กคนหนึ่งไปจากเธอ เด็กคนนั้นเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม ในวินาทีแรกที่ได
“ผมก็หวังให้เป็นแบบนั้นครับ”“อือ จะไปดูคนที่ไปกับลีหน่อยไหม เธออยู่ห้อง 304”“ครับ? ลีไม่ได้ไปคนเดียว?”“ไม่นะ มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกพามาพร้อมกัน”“?”“ชื่อถิงถิง หลินถิงถิง”“หลินถิงถิง? เลขาของฉันนี่คะ?”“อ่า งั้นไปดูเธอกัน ลีผ่าตัดเสร็จค่อยมาดูเขา”เฟยหลงสรุป คนทั้งสองก้มหน้าลงเพื่อกล่าวคำลากับพ่อของลี จากนั้นก็เดินไปตามทางเดิน มีพยาบาลที่อยู่แถวนั้นรับอาสาพาไปที่ห้อง ลี่หมิงพยายามไม่โทษตัวเอง แต่ยิ่งพบว่ามีคนบาดเจ็บเพราะมีสาเหตุเป็นเธอ ความคิดยิ่งดำดิ่งลงลึก“คุณหลินถิงถิงอยู่ในห้องค่ะ คุณหมอให้เยี่ยมได้แค่สิบนาทีนะคะ”พยาบาลพูดจบก็เดินจากไป เฟยหลงเปิดประตูห้องออก เดินนำเข้าไปก่อน ลี่หมิงเดินตามเข้าไปบ้าง ก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อเห็นเลขาที่เคยอารมณ์ดี นอนอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือเสียบอยู่ที่แขนซ้ายของเธอ ขาถูกพันด้วยผ้าสันนิษฐานว่าด้านในนั้นน่าจะเป็นเฝือก“เอ่อ สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ”ชายวัยกลางคนสวมชุดกราวหันกลับไปมอง ยกมุมปากขึ้นยิ้มแต่แววตากลับไม่ได้ยิ้มตาม เพียงไม่นานก็หันกลับไปแบบเดิม จ้องมองลูกสาวแสนรักเงียบๆ นึกเสียใจที่รักเธอมากเกินไป ยอมตามใจเธอทุกอย่าง ปล่อยให้เธอไปใช้ชีวิตในแบบ
“คุณลี คุณลี! ระวัง!”ปัง!เอี๊ยด!รถยนต์เสียหลักเพราะคนควบคุมพวงมาลัยโดนกระสุนจากรถยนต์คันข้างๆ เจาะเข้าบริเวณซี่โครงด้านขวา เหยียบเบรกเท่าที่ร่างกายจะสามารถทำได้ แต่ถึงอย่างนั้นรถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงก็ยังพุ่งไปด้านหน้า ลีพยายามบังคับพวงมาลัยไว้ ก่อนสติสุดท้ายจะหมดลงเขาปกป้องเธอได้หรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่อยู่กับเขาในความทรงจำสุดท้ายเมื่อรถยนต์สีขาวปะทะเข้ากับเสาไฟในสภาพด้านหน้าพังยับ รถยนต์คันสีดำก็ขับเคลื่อนออกไปจากบริเวณนั้น งานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วง ไม่ต้องลงไปตรวจสอบก็ได้ เพราะคำสั่งที่ได้รับจากผู้เป็นนาย จะเป็นหรือตายก็ได้เงินเท่ากันถิงถิงหลั่งน้ำตามองเลือดที่หยดตามใบหน้าหล่อเหลา เขาตั้งใจให้รถชนทางฝั่งที่เขานั่ง พยายามรักษาคำพูดว่าจะปกป้องเธอ โดยใช้ตัวเองเข้าแลก เขาบ้ามาก บ้าที่สุด ทั้งที่บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงในแบบที่ชอบแท้ๆ แต่ก็ทำร้ายจิตใจเธอด้วยการทำแบบนี้“อย่าตายนะ! ได้โปรด”ถิงถิงได้ยืนเสียงตัวเอง และเสียงไซเรนที่น่าจะเป็นของรถตำรวจ หรือไม่ก็คงเป็นรถพยาบาล แต่เธอไม่ได้ยินเสียงเขา มองไม่เห็นดวงตาที่เคยเย็นชานั่นด้วย ตาเขาสวยนะ เธอชอบมัน ชอบที่สุด“ฮึก! ฮือ! ฉันช
“ผมไปโรงพยาบาล xxx นะ”ลีเอ่ยชื่อโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดออกไป กำลังจะถอยออกไปเพื่อปิดประตู เสื้อก็ถูกดึงไว้ จนมันแถบจะหลุดออกมาจากในกางเกง คนทำเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าบอกเหตุผลที่ไม่อยากไปโรงพยาบาลแห่งนั้น“ไปส่งฉันที่บ้านก็พอ”“แต่ขาคุณ”“ช่างขาฉันเถอะค่ะ ข้อเท้ามันแพลงเฉยๆ ไปหาหมอก็ได้แค่ยามากินอยู่ดี”คนที่คลุกคลีอยู่กับโรงพยาบาลมาทั้งชีวิต และมีความรู้ด้านนี้มากพอสมควร พูดเสียงห้วนกับคนตัวโต พิงหลังเข้ากับเบาะรถ เอื้อมไปดึงกระเป๋าจากมือคนที่ยังยืนนิ่ง ล้วงหาโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่สนใจ แจ้งกับเจ้านายอีกคนว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น เธอจึงหยิบของที่เขาต้องการไปให้ไม่ได้ โชคดีที่เจ้านายเธอใจดี ไม่เพียงแค่เข้าใจสถานการณ์ เขายังสั่งให้เธอหยุดงานจนกว่าขาจะหายเจ็บ“บ้านคุณอยู่ที่ไหน?”“ถนน XX ย่านศูนย์การค้า M”รถยนต์สีขาวเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ เมื่อคนขับรู้จุดหมายปลายทางที่จะไป ใบหน้าคมคายโดดเด่นด้วยดวงตาสีน้ำทะเลลึก แอบมองคนข้างๆทุกครั้งที่สบโอกาส แปลกใจที่คนสวยขนาดนี้ยังไม่มีคนรัก ที่แปลกใจมากกว่านั้น คือการที่เธอมาสารภาพรักกับตัวเองถ้าตัดเรื่องฐานะกับหน้าตาออกไป เขาคิดว่าตัวเองไม่มีอะไร
“ไปคนเดียวได้ใช่ไหม?”เฟยหลงถามรุ่นน้องมากฝีมือด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล มั่นใจว่าลีเอาตัวรอดได้ เพราะเขาเป็นถึงทายาทของบริษัทรักษาความปลอดภัยอันดับหนึ่งของประเทศ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ที่ไม่รู้ว่าตระกูลโจวจะมาไม้ไหน เอาการ์ดไปเพิ่มอีกสักคนน่าจะปลอดภัยกว่า“ผมเคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกกว่า” ลีตอบ เข้าใจความกังวลของเจ้านาย แต่เคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกและรวดเร็วกว่าจริงๆ“ระวังตัวด้วยนะคะคุณลี”“ครับ”ลียืนรอจนกระทั่งรถยนต์คันใหญ่เคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ มองจุดหมายปลายทางในโทรศัพท์ที่เจ้านายส่งมาให้ ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันได้ระวังมุมทางด้านซ้าย เพราะมัวแต่ดูมุมด้านขวา คนที่เดินพ้นมาจากมุมนั้นจึงชนร่างเขาสุดแรงพลั่ก! ตุบ!“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ”เลขาสาวเอ่ยปากขอโทษบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อของเจ้านาย ทั้งที่ตัวเองล้มพับอยู่บนพื้น และรู้สึกปวดข้อเท้าหนึบๆ ส่วนคนที่เธอชนและเอ่ยขอโทษ ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลย ร่างกำยำยังยืนได้อย่างมั่นคง“คุณตามผมมาทำไม?” นั่นคือสิ่งที่ลีสงสัย และมันเป็นสาเหตุที่เขาไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเธอ“คะ? ตามคุณ?”“รถคุณจอดอยู่ชั้นล่าง ไม่มีทางที่คุณจะอยู่ตรงนี้เพราะรถคุณจอดที่นี่”“นี่คุ
ชั่วโมงต่อมาเมื่อมื้ออาหารจบลง ลี่หมิงก็ปลีกตัวไปทำงานของตัวเอง ปล่อยให้พ่อกับพี่ชาย ปรึกษาหารือกับคนรัก เกี่ยวกับวิธีรับมือการเล่นงานจากคนของตระกูลโจว ซึ่งการหารือเต็มไปด้วยความตึงเครียด ตลอดการพูดคุยมีแต่เรื่องให้ปวดหัว และความรุนแรงของแต่ละเหตุการณ์ กว่าจะหาแผนรับมือกับทางนั้นได้ ก็ถึงเวลาเลิกงานของบริษัทพอดี“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน”เพราะคนที่นั่งอยู่อีกฟากมีท่าทีกระวนกระวายมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน ซีหยวนจึงหยุดการหารือไว้เพียงแค่นั้น อีกอย่างแผนการที่มู่เฟยหลงเสนอมาก็ไร้ช่องโหว่ น่าจะรับมือกับการระรานของคนจากตระกูลโจวได้อย่างถาวร“ผมไปหาลี่หมิงนะครับ”เพียงไม่นานก็ไร้เงาของคนพูด ผู้นำของตระกูลถิงยกยิ้ม มองหน้าลูกชายเพื่อหาแนวร่วม เมื่อเห็นความพอใจบนใบหน้าลูกชาย รอยยิ้มก็ฉายออกกว้างกว่าเดิม“เหลือด่านสุดท้ายสินะ”“ถ้าแม่ได้เห็นสีหน้าเขาเมื่อกี้ ท่านให้ผ่านแน่นอนครับ”“นั่นสิ เพิ่งจะเคยเห็นเจ้าชายเพลย์บอยทำสีหน้าแบบนั้น”สำหรับถิงซีหยวน มู่เฟยหลงไม่ต่างจากเจ้าชาย เพราะเขาเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ติดอันดับต้นๆของประเทศ ซ้ำยังเป็นหลานคนเดียวที่เป็นผู้ชาย ตำแหน่งผู้นำรุ่นต่อไปของต
“ฮึ่ม!”“อะแฮ่ม! ขอขัดจังหวะหน่อยได้ไหม”ถิงซีเหวินแกล้งกระแอม เพื่อบอกคู่รักที่กำลังสวีทกันอยู่บนโซฟา ว่าตัวเองอยู่ในห้องด้วย แอบยิ้มขำกับท่าทางของน้องสาว ที่กำลังลนลานผลักร่างใหญ่โตไปอีกฟากของโซฟา“หลบสิ!”“พี่เธอเห็นหมดแล้ว”“เห็นก็ไม่คิดจะหลบเลยเหรอ ถอยออกไปก่อน”“เห้อ! พี่แค่จะมาถาม ว่าสนใจไปทานกลางวันด้วยกันไหม ฟูหลินหิ้วของกินมาเต็มเลย ตอนนี้อยู่ที่ห้องรับรอง”“อ่า พี่เฟยหลงสั่งอาหารของโรงแรมมา”“ไปสิ มีเรื่องจะคุยพอดี”“อ่า เอาแบบนั้นแล้วกัน”“อื้อ ตามมานะ อย่าช้าล่ะ พี่หิว”ลี่หมิงก้มหน้าหลบสายตาล้อเลียนของพี่ชาย เมื่อเขาออกไปพ้นประตู ก็หันไปทำตาขวางใส่คนรัก และสิ่งที่เขาทำตอบกลับมา ทำเอาเธอแทบถลาเข้าไปทุบอก ทำหน้าตาไม่ทุกข์ร้อนไม่พอ ยังหยักไหล่เหมือนไม่แคร์อีก มันน่าตีจริงๆเลย“นี่! เลิกทุบได้แล้วน่า ไม่เจ็บมือหรือไง”เฟยหลงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เอ็นดูมือเล็กๆที่ระดมทุบทั้งๆที่รู้ว่าทำอะไรเขาไม่ได้ ไหนจะใบหน้าโกรธจัดผสมกับความเขินอาย ทั้งน่ารัก ทั้งน่าแกล้ง จนอยากแกล้งไม่หยุด“คนหน้าไม่อาย! นิสัยเปลี่ยนทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้”ลี่หมิงบ่นเสร็จก็ลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบกระเป๋าข
“เห้อ!”“ไม่ต้องห่วงคุณเฟยหลงหรอกครับ”ลีพูดเสียงเรียบ มองเห็นความกังวลของคนรักเจ้านาย ผ่านทางกระจกมองหลังได้อย่างชัดเจน ผู้ชายคนนั้นไม่น่าเป็นห่วงหรอก เขาเก่งทั้งเรื่องการต่อสู้ เก่งทั้งเรื่องการทำธุรกิจ เมื่อก่อนเคยเสียดายที่เจ้านายเอาแต่ขลุกอยู่ในบาร์ ตอนนี้รู้สึกขอบคุณเธอ ที่ทำให้เขาออกมาใช้ชีวิตในแบบที่ควรใช้ได้“ก็ ไม่ได้ห่วงขนาดนั้นหรอกค่ะ”ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบา ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความอาย เธอไม่ชินหรอก เวลาที่เขาแสดงความรักทั้งที่มีคนอื่นอยู่ด้วย แต่เพราะคุณลีทำตัวเหมือนไม่มีตัวตน เธอจึงอายน้อยลงกว่าปกติ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นไงเมื่อรถยนต์จอดสนิทในที่จอดรถของพนักงานระดับผู้บริหาร ลี่หมิงก็ได้รับการดูแลอย่างเช่นทุกที มีคุณลีคอยเปิดประตูให้ ซ้ำยังถูกเขายื่นมือเข้ามาแย่งกระเป๋าใบเล็กไปถือบ่อยครั้งที่เธอนึกสงสัย ว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนของใครกันแน่ ระหว่างเธอกับคนรัก“ฉันถือเองได้นะคะคุณลี”“ครับ แต่ไม่เป็นไร”เห้อลี่หมิงถอนหายใจออกมาเบาๆ มองคนที่เดินนำหน้าอย่างสำรวจ นึกขำอย่างเช่นทุกครั้งที่จ้องมอง ผู้ชายรูปร่างกำยำ สวมชุดสีดำทั้งบนและล่าง ช่างไม่เข้ากันกับก
“อ่ะ อ่า อ๊า!”มือเล็กเลื่อนไปกำเส้นผมนุ่มไว้เต็มสองอุ้งมือ ใช้มันระบายความซ่านสยิว และใช้มันบังคับคนตัวโตในบางครั้ง ในตอนที่เขาผละออกมาเหมือนจะแกล้ง เธอรีบดึงมันไว้เพราะกลัวเขาหนี หรือบางทีเขาปาดลิ้นรุนแรงจนร่างกายเธอทนไม่ไหว ก็ดึงมันออกมาเพื่อให้ตัวเองอดทนได้ต่อ“อึก! อื้อ! พี่เฟยหลง ฉัน! ฉันกำลัง อ๊ะ!”นิ้วมือใหญ่ถอดหายออกจากความนุ่มนิ่ม ลิ้นที่ปาดไล้อยู่บริเวณนั้นมานานกว่าสิบนาทีก็ด้วย ร่างสูงผละออกห่างทั้งที่รู้ชัดว่าคนรักกำลังจะแตะถึงสวรรค์ ยกมุมปากขึ้นยิ้ม ดึงฝ่ามือนุ่มนิ่มมากำรอบความใหญ่โต“อย่าลืมว่าเธอต้องถูกลงโทษ”“ก็ไม่ได้ลืมสักหน่อย!” คนที่ถูกทำให้ค้างตอบเสียงห้วน“งั้นก็ลุกขึ้นมา นี่ก็อยู่ในบทลงโทษเหมือนกัน”“ทำให้ฉันเสร็จก่อนก็ได้ไม่ใช่เหรอ อีกนิดเดียวเอง”จุ๊บ!“เดี๋ยวทำให้นะ!”เพราะคำพูดคำจาเธอน่ารักน่าเอ็นดู เขาจึงอดใจไม่ไหว โน้มตัวลงไปจูบหนักๆข้างแก้ม บังคับมือเล็กให้ขยับเร็วขึ้น แท่งเนื้อแข็งในอุ้งมือเริ่มมีน้ำใสไหลปริ่มส่วนปลาย ริมฝีปากเล็กลอบกลืนน้ำลายลงคอ ถ้าหากเขาให้เธอเอามันเข้าไปในปาก มันต้องเป็นเรื่องยากแน่ๆ“ฉันต้องทำมันจริงๆเหรอ?”“เธอไม่คิดจะเอาอกเอาใจแฟน