พรึ่บ!เมื่อเดินมาจนถึงมุมที่ลับตาผู้คนเฟยหลงก็รีบคลายมือออก แต่สัมผัสอุ่นร้อนและความอ่อนนุ่มยังติดอยู่ที่มือ ใบหน้าหล่อเหลาหันหนีไปด้านข้าง เกลียดใบหน้าของเธอมาก ยิ่งตอนร้องไห้ยิ่งน่าเกลียดเข้าไปใหญ่ น้ำใสปิดบังดวงตากลมโตจนหมด แก้มอ้วนๆนั่นก็ด้วย‘เลิกร้องสักที รำคาญ!’‘ฮึก! ขอโทษ’‘เลิกขอโทษด้วย!’‘ฮึก! ค่ะ’คนตัวเล็กว่าง่าย แต่ความพอใจของเขากลับไม่มีเลย ถ้าจะว่าง่ายขนาดนั้น เธอควรเลิกเข้ามายุ่งกับเขาตั้งแต่ที่เขาบอกตอนแรก ถ้าทำแบบนั้น เขาอาจจะใจดีกับเธอมากกว่านี้ เขาอาจจะชอบเธอในฐานะน้องสาวของเพื่อนได้‘เลิกมาหาฉันได้ไหม เธอไม่อายแต่ฉันอาย ชอบหรือไงที่ได้ยินคำพูดดูถูกของคนพวกนั้น’ร่างสูงขยับพิงกำแพง หลับตาลงช้าๆ ปิดกั้นสายตาจากภาพตรงหน้า ทำไมกันนะ เขาถึงแคร์ว่าเธอจะรู้สึกแย่ กับคำพูดของเพื่อนๆเขา ทั้งที่เขาเองก็อยากพูดอย่างที่เพื่อนพูด อยากไล่เธอไปไกลๆ ด้วยคำพูดแย่ๆเหมือนกัน‘ฮึก! ฉัน จะ ไม่มาแล้วค่ะ’ดวงตาสีเข้มลืมขึ้นรวดเร็ว ความแน่วแน่ในดวงตากลมโต วิ่งชนหัวใจจนรู้สึกปวด เขาควรจะดีใจ แต่ทำไมรู้สึกใจหายแบบนี้‘ทำให้ได้อย่างที่พูดล่ะ’ร่างสูงขยับออกจากกำแพง ทิ้งคนอวบอ้วนไว้ลำพัง ใ
สปอร์ตคาร์รุ่นดังขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง พุ่งทะยานไปตามท้องถนน มุ่งหน้าสู่โชว์รูมที่ร่วมลงทุนกับเพื่อน แม้จะเสียดายงานในบริษัท เพราะงานนั้นมันดูมั่นคงถ้าหากต้องคบหากับใครอย่างจริงจัง แต่ไม่ทำเขาก็ไม่เดือนร้อนเรื่องเงินหรอก เรื่องที่ทำให้เดือดเนื้อร้อนใจอยู่ในตอนนี้ เป็นเรื่องการแต่งงานที่พ่อพูดถึงต่างหากเอี๊ยด! แก๊ก! ปึ่ง!เสียงหยุดของล้อรถยนต์ดังไปทั่วบริเวณ ตามมาด้วยเสียงเปิดและปิดประตู ซีฮันที่กำลังตรวจเช็คการส่งมอบรถยนต์กับลูกค้าอยู่ หันไปมองหน้าเจ้าของรถยนต์ตาขวาง เฟยหลงไหวไหล่ขึ้นลงช้าๆ บ่งบอกว่าเขาไม่แคร์และไม่สนใจ“มาช่วยฉันทำงานเหรอ?”“เปล่า! ถูกพ่อไล่ออกมาจากบริษัท!”“ฮ่าๆ เป็นฉันๆ ก็ไล่”ซีฮันหัวเราะชอบใจ ยื่นกุญแจรถไปให้ลูกค้า ก้มศรีษะลงเล็กน้อยเพื่อขอบคุณ จากนั้นก็เดินตามเพื่อนขี้โมโหเข้าไปด้านใน เมื่อเดินมาจนถึงห้องทำงาน ก็เดินหนีเพื่อนไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง พยายามซ่อนสีหน้าขบขันไว้ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของเพื่อน“ชอบใจอะไรนักหนา”“ชอบสิ เพราะคราวนี้ฉันได้เงินจากการพนันตั้งเยอะ”“พนัน? พนันอะไร?”“ก็ … ฉันเดิมพันกับพวกนั้นน่ะ ว่านายจะทำงานให้พ่อได้นานแค่ไหน พวกน
อีกด้านของเมือง ของใช้จำเป็นในการดำรงชีวิต ถูกร่างสมส่วนขนเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ด้วยตัวเอง ถิงลี่หมิงตัดสินใจเช่าอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ เพราะกลัวมู่เฟยหลงจะรู้ความจริง ว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นี่จริง และสืบสาวต่อไปจนรู้ว่าเธอเป็นใคร ถึงแม้จะลังเลกับการแก้แค้นทุกครั้งที่เจอเขา แต่เธอก็ยังไม่ล้มเลิกแผนการห้องขนาดไม่กี่ตารางเมตร ไม่ได้ทำให้คนที่เคยอยู่สุขภาพมาก่อนรู้สึกอึดอัด ใบหน้าสวยหวานมองรอบห้องด้วยความพึงพอใจ ตัดสินใจว่าจะออกไปหากินข้างนอก เพราะนอกจากจะเหนื่อยกับการจัดข้าวของแล้ว เธอยังไม่มีฝีมือในการทำอาหารด้วยร่างสมส่วนในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขายาวก้าวออกจากห้อง ปิดประตูลงกลอนเสร็จก็หมุนตัวก้าวเดิน เมื่อเดินมาจนถึงหน้าอาคาร ผู้ชายร่างสูงใหญ่ก็ปรากฏตัว ใช้ความใหญ่โตของร่างกายขวางทางเดินไว้ ใบหน้าไร้เครื่องสำอางฉายความหงุดหงิด เธอหิวมาก เหนื่อยด้วย ไม่อยากคิดเรื่องเขาให้สมองมันทำงานเพิ่ม“จะไปไหน?”“เรานัดกันไว้เหรอ?”เธอจำได้ว่าไม่ได้นัดใครไว้ วันสุดท้ายที่เจอกับเขา ก็คือวันที่ตกลงที่จะศึกษาดูใจกัน ซึ่งวันนั้นเขาแค่มาส่งที่นี่ ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย“เปล่า ฉันแค่บังเอิญผ่านมาทางนี้”เฟยหลงเ
ชั่วโมงต่อมา“นี่! เอามือออกไปนะ”เมื่อเริ่มจนการลูบไล้จากฝ่ามือใหญ่ไม่ไหว เสียงหวานก็แผดขึ้นประท้วง มือที่ล้วงวนอยู่บนแผ่นหลังเลื่อนลงต่ำ ไม่คิดจะดึงมันออกมา เปลี่ยนเป้าหมายไปอยู่ในจุดที่ตัวเองต้องการ บรรยากาศมืดสลัวของสถานที่ เอื้อให้เขาลวนลามผิวเนียนนุ่มมาสักพักแล้ว“อย่าทำสิ ฉันกินไม่ถนัดนะ”“ค่าอาหารมื้อนี้แพงมากเลยนะ ฉันขอกำไรนิดหน่อยไม่ได้หรือไง”“ฉันไม่ได้ขอให้คุณพามาที่แบบนี้สักหน่อย”ลี่หมิงยกมือดันใบหน้าหล่อเหลาออกไปแรงๆ ถ้ารู้ว่าจะโดนลวนลามขนาดนี้ เธอไม่ชวนเขามาด้วยหรอก แล้วกลัวเสียชื่อเพลย์บอยหรือไง มือไม้ถึงอยู่เป็นสุขไม่ได้สักวินาที“พี่เฟยหลง?”เจ้าของชื่อหัวใจกระตุกเพราะน้ำเสียงคุ้นหู เมื่อหันไปก็พบผู้หญิงใบหน้าสะสวยยืนมองอยู่ในระยะใกล้เพียงสามเมตร ถิงลี่หมิงเหยียดยิ้มหวานหยดส่งให้ผู้หญิงที่มองตัวเองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร และมันเพิ่มมากขึ้นเพราะรอยยิ้มของเธอกลับมาแล้วสินะ ตัวละครที่มีบทบาทมากที่สุดในแผนการของเธอ“ซูฮวา”“แฟนใหม่เหรอคะ หรือแค่คู่ขา?”คำถามนั้นไม่ได้สร้างความไม่พอใจให้กับคนฟัง ถิงลี่หมิงเห็นความไม่พอใจของคนพูดที่มีมากกว่า ยิ่งตอนที่ผ่ามือใหญ่เอื้อมมารั้ง
“เดี๋ยวมานะ!”ร่างสูงลุกขึ้นจากโซฟา เดินตรงไปหาผู้หญิงตัวเล็กสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น เข้าไปยืนแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างเธอกับผู้จัดการ ใช้ร่างกายสูงใหญ่ของตัวเอง บดบังเธอจากสายตาพึงพอใจของเขา“เธอมาทำอะไร?”ดวงตาดุดันมองจ้องพนักงานของตัวเองที่ยังทำสีหน้างงงวยไม่เลิก คนตัวเล็กด้านหลังผุดรอยยิ้มมุมปาก เธอมาที่นี่เพื่อดำเนินการตามแผน รู้แล้วว่าเขาหวั่นไหวเพราะแฟนเก่า และเธอตั้งใจมาเพื่อขัดขวางไม่ให้พวกเขากลับไปรักกัน“ฉันมาสมัครงานค่ะ”“ไม่มีตำแหน่งว่าง”ผู้จัดการทำหน้างง ป้ายรับสมัครพนักงานที่ให้ไปติดไว้หน้าร้านเมื่อเช้า ติดเพื่ออะไรกัน?“ถ้าไม่มีทำไมถึงติดป้ายรับสมัครงานไว้ล่ะคะ?”เสียงหวานดังขึ้นกว่าตอนแรก เริ่มจะโมโหแล้วนะ ไอ้คนไม่ปกติ ไหนบอกว่าสนใจไง ไหนบอกว่าอยากทำความรู้จัก พอคนรักกลับมาง้อ ทำไมถึงเปลี่ยนใจทันทีแบบนี้ล่ะ“ยังไม่ได้แกะออก”“ไม่รู้แหละ ฉันจะสมัครงานที่นี่ค่ะ”คนตัวเล็กยืนยันเสียงแข็ง มองไม่เห็นใบหน้าของคู่สนทนาเลย เขากำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่“เห้อ! ตามมานี่!”ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตราคาแพงก้าวเดินนำ คนตัวเล็กก้าวตามไปช้าๆ เมื่อมาถึงห้องทำงานซึ่งอยู่ชั้นสามของอาคาร คนเดินนำก็
วันต่อมา@Cafe X“พี่ว่าล้มเลิกความคิดแล้วกลับไปตั้งใจทำงานเถอะ”ซีเหวินพูดกับน้องสาวที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม มองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ ส่งสายตาอ้อนวอนให้เพื่อนสนิทของน้องสาวช่วยพูด แต่เธอไม่ยอมช่วย เหมือนจะโฟกัสอยู่เพียงแค่ การแกล้งใช้ขาสัมผัสกับขาของเขาเพียงแค่นั้น“ฉันไม่ทิ้งงานของตัวเองหรอกน่า”มือเรียวสวยวางแก้วกาแฟลง เข้าใจสิ่งที่พี่ชายจะสื่อ เขาไม่ได้ขาดแคลนบุคลากรในการทำงาน ไม่มีเธอ ก็ยังมีนักออกแบบอีกหลายคนที่ช่วยทำงานในด้านนี้ สิ่งเดียวที่พี่ชายห่วงคือแผนการแก้แค้นของเธอ เขาอยากให้ล้มเลิกไปซะ แล้วเอาเวลาไปใช้ทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่า เธอเองก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่เหมือนถูกดึงให้ถลำลึกลง อยากรู้ว่ามู่เฟยหลง รู้สึกกับฟูหลินตัวปลอมแบบไหน ความรู้สึกนั้นมันของจริง หรือแค่ความหวั่นไหวเพียงชั่วคราว“พี่ห่วงเรื่องนั้นตรงไหน เห้อ~”บรรยากาศอึดอัดเมื่อครู่ผ่อนคลายลง ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่รอยยิ้มออกมาจางๆ แผนการเหรอ ตอนนี้มันรวนไปหมดแล้ว ซึ่งคนที่เป็นตัวแปรให้มันรวนแบบนี้ ลี่หมิงรู้ดีว่ามันเป็นเพราะเธอ เธอที่หวั่นไหวไปกับความใจดีของเขา เหมือนในอดีตแปดปีก
ซึ่งมันก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่เธอคิดไปเอง หลังจากนั้นหนึ่งเดือน เธอก็ได้รู้ความจริงทั้งหมด“พี่ พี่พูดว่าอะไรนะ?”เสียงหวานสั่นเครือ ถามซ้ำในสิ่งที่คนตัวโตพูดก่อนหน้า เธอได้ยินเขาพูดนะ แต่ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะพูดแบบนั้นออกมานะสิ“ฉันเบื่อแล้ว ต่อไปเราอย่ามาเจอกันอีก”“มัน เกิดอะไรขึ้น? ฉันทำอะไรผิดหรือเปล่า”เธอมั่นใจว่าทำตัวดีมาตลอด ทำตัวว่าง่ายกับเขาเสมอ แล้วทำไมอยู่ดีๆเขาถึงมาพูดแบบนี้“เธอไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก ฉันแค่เบื่อเท่านั้นเอง เบื่อที่ต้องอยู่ข้างๆผู้หญิงแบบเธอ”“แต่ … พี่ก็ดูมีความสุขนี่นา”“ฉันแค่แกล้งทำ ฉันเหนื่อยที่ต้องเล่นบทคนดีคอยดูแลเธอแล้ว ถ้าเธอไม่ใช่น้องของซีเหวิน ถ้าไม่ใช่เพราะเกมส์ลงโทษที่ฉันเล่นแพ้กับเพื่อน ฉันไม่มีวันเอาอกเอาใจผู้หญิงหน้าตาอัปลักษณ์อย่างเธอหรอก”“พี่ พี่เคยบอกว่าฉันสวย”“เธอเชื่อมันจริงๆเหรอ เคยมองตัวเองในกระจกบ้างไหมเนี่ย! หรือที่บ้านเธอไม่มีกระจกให้มอง! ให้ตายสิ!”“ที่ … ที่ผ่านมาคือเรื่องโกหกทั้งหมดใช่ไหม ที่พี่ใจดีกับฉัน พี่ไม่เคยชอบฉันเลย?”ถามย้ำทั้งๆที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว น้ำตาที่คิดว่ามันจะร่วงหล่นลงมาถ้าหากได้ยินถ้อยคำแบบนี้ ตอนนี้ไม่มีเลยสั
“เต็มหมดแล้วครับคุณมู่ เพราะคนนั้นเลย”เฉินลู่ซินชี้มือไปที่พนักงานใหม่ ซึ่งกำลังยืนคุยกับลูกค้าโซนวีไอพีอยู่ ดวงตาสีเข้มฉายความตึงเครียด เมื่อจุดโฟกัสของสายตา ตกกระทบที่คนตัวเล็กสวมชุดสีดำเนื้อผ้าน้อยนิด ฟูหลินสวยอยู่แล้ว แต่เขากลับรู้สึกว่าเธอมีเสน่ห์มาก เมื่อสวมใส่เสื้อผ้าสีดำแบบนี้“ไอ้พวก*** หูตาไวชะมัด” ริมฝีปากหยักสวยเม้มแน่น เกลียดทุกสายตาที่จ้องมองเธอ ร่างสูงหมุนตัวกลับหลัง เดินไปเคลียร์พวกลูกค้าหน้าร้าน ด้วยการไล่ให้กลับไปก่อน แม้จะโดนลูกค้าโวยวายใส่ เจ้าของสถานที่ก็ไม่สนใจ เมื่อด้านหน้าอาคารปราศจากผู้คน ร่างสูงใหญ่ก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปด้านใน“สั่งเหล้าหน่อยครับ!”เสียงลูกค้าตะโกนเรียกแข่งกับเสียงเพลง คนถูกเรียกฝืนส่งยิ้มหวานๆไปให้ ทั้งที่ในใจเริ่มด่าแหลก เธอเดินแบบนี้มาสี่ชั่วโมงแล้ว แทบจะยกขาขึ้นก้าวไม่ไหวแล้ว นี่เธอเพิ่งทำงานวันแรกนะ เห็นใจกันบ้างสิปึ่ง!“เมนู! สั่งซะสิ!”เจ้าของสถานที่วางแผ่นเมนูลงบนโต๊ะ ตามระดับความไม่พอใจที่กรุ่นอยู่ในอก ยืนจ้องเงียบๆรอให้ลูกค้าสั่ง ตั้งใจทำหน้าตึงขู่ให้กลัว แต่ลูกค้ากลับยียวนชวนให้หงุดหงิดเพิ่ม“ว้า! เหล้าผมยังเหลือเต็มเลย ยังไม่
ชั่วโมงต่อมาเมื่อมื้ออาหารจบลง ลี่หมิงก็ปลีกตัวไปทำงานของตัวเอง ปล่อยให้พ่อกับพี่ชาย ปรึกษาหารือกับคนรัก เกี่ยวกับวิธีรับมือการเล่นงานจากคนของตระกูลโจว ซึ่งการหารือเต็มไปด้วยความตึงเครียด ตลอดการพูดคุยมีแต่เรื่องให้ปวดหัว และความรุนแรงของแต่ละเหตุการณ์ กว่าจะหาแผนรับมือกับทางนั้นได้ ก็ถึงเวลาเลิกงานของบริษัทพอดี“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน”เพราะคนที่นั่งอยู่อีกฟากมีท่าทีกระวนกระวายมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน ซีหยวนจึงหยุดการหารือไว้เพียงแค่นั้น อีกอย่างแผนการที่มู่เฟยหลงเสนอมาก็ไร้ช่องโหว่ น่าจะรับมือกับการระรานของคนจากตระกูลโจวได้อย่างถาวร“ผมไปหาลี่หมิงนะครับ”เพียงไม่นานก็ไร้เงาของคนพูด ผู้นำของตระกูลถิงยกยิ้ม มองหน้าลูกชายเพื่อหาแนวร่วม เมื่อเห็นความพอใจบนใบหน้าลูกชาย รอยยิ้มก็ฉายออกกว้างกว่าเดิม“เหลือด่านสุดท้ายสินะ”“ถ้าแม่ได้เห็นสีหน้าเขาเมื่อกี้ ท่านให้ผ่านแน่นอนครับ”“นั่นสิ เพิ่งจะเคยเห็นเจ้าชายเพลย์บอยทำสีหน้าแบบนั้น”สำหรับถิงซีหยวน มู่เฟยหลงไม่ต่างจากเจ้าชาย เพราะเขาเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ติดอันดับต้นๆของประเทศ ซ้ำยังเป็นหลานคนเดียวที่เป็นผู้ชาย ตำแหน่งผู้นำรุ่นต่อไปของต
“ฮึ่ม!”“อะแฮ่ม! ขอขัดจังหวะหน่อยได้ไหม”ถิงซีเหวินแกล้งกระแอม เพื่อบอกคู่รักที่กำลังสวีทกันอยู่บนโซฟา ว่าตัวเองอยู่ในห้องด้วย แอบยิ้มขำกับท่าทางของน้องสาว ที่กำลังลนลานผลักร่างใหญ่โตไปอีกฟากของโซฟา“หลบสิ!”“พี่เธอเห็นหมดแล้ว”“เห็นก็ไม่คิดจะหลบเลยเหรอ ถอยออกไปก่อน”“เห้อ! พี่แค่จะมาถาม ว่าสนใจไปทานกลางวันด้วยกันไหม ฟูหลินหิ้วของกินมาเต็มเลย ตอนนี้อยู่ที่ห้องรับรอง”“อ่า พี่เฟยหลงสั่งอาหารของโรงแรมมา”“ไปสิ มีเรื่องจะคุยพอดี”“อ่า เอาแบบนั้นแล้วกัน”“อื้อ ตามมานะ อย่าช้าล่ะ พี่หิว”ลี่หมิงก้มหน้าหลบสายตาล้อเลียนของพี่ชาย เมื่อเขาออกไปพ้นประตู ก็หันไปทำตาขวางใส่คนรัก และสิ่งที่เขาทำตอบกลับมา ทำเอาเธอแทบถลาเข้าไปทุบอก ทำหน้าตาไม่ทุกข์ร้อนไม่พอ ยังหยักไหล่เหมือนไม่แคร์อีก มันน่าตีจริงๆเลย“นี่! เลิกทุบได้แล้วน่า ไม่เจ็บมือหรือไง”เฟยหลงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เอ็นดูมือเล็กๆที่ระดมทุบทั้งๆที่รู้ว่าทำอะไรเขาไม่ได้ ไหนจะใบหน้าโกรธจัดผสมกับความเขินอาย ทั้งน่ารัก ทั้งน่าแกล้ง จนอยากแกล้งไม่หยุด“คนหน้าไม่อาย! นิสัยเปลี่ยนทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้”ลี่หมิงบ่นเสร็จก็ลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบกระเป๋าข
“เห้อ!”“ไม่ต้องห่วงคุณเฟยหลงหรอกครับ”ลีพูดเสียงเรียบ มองเห็นความกังวลของคนรักเจ้านาย ผ่านทางกระจกมองหลังได้อย่างชัดเจน ผู้ชายคนนั้นไม่น่าเป็นห่วงหรอก เขาเก่งทั้งเรื่องการต่อสู้ เก่งทั้งเรื่องการทำธุรกิจ เมื่อก่อนเคยเสียดายที่เจ้านายเอาแต่ขลุกอยู่ในบาร์ ตอนนี้รู้สึกขอบคุณเธอ ที่ทำให้เขาออกมาใช้ชีวิตในแบบที่ควรใช้ได้“ก็ ไม่ได้ห่วงขนาดนั้นหรอกค่ะ”ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบา ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความอาย เธอไม่ชินหรอก เวลาที่เขาแสดงความรักทั้งที่มีคนอื่นอยู่ด้วย แต่เพราะคุณลีทำตัวเหมือนไม่มีตัวตน เธอจึงอายน้อยลงกว่าปกติ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นไงเมื่อรถยนต์จอดสนิทในที่จอดรถของพนักงานระดับผู้บริหาร ลี่หมิงก็ได้รับการดูแลอย่างเช่นทุกที มีคุณลีคอยเปิดประตูให้ ซ้ำยังถูกเขายื่นมือเข้ามาแย่งกระเป๋าใบเล็กไปถือบ่อยครั้งที่เธอนึกสงสัย ว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนของใครกันแน่ ระหว่างเธอกับคนรัก“ฉันถือเองได้นะคะคุณลี”“ครับ แต่ไม่เป็นไร”เห้อลี่หมิงถอนหายใจออกมาเบาๆ มองคนที่เดินนำหน้าอย่างสำรวจ นึกขำอย่างเช่นทุกครั้งที่จ้องมอง ผู้ชายรูปร่างกำยำ สวมชุดสีดำทั้งบนและล่าง ช่างไม่เข้ากันกับก
“อ่ะ อ่า อ๊า!”มือเล็กเลื่อนไปกำเส้นผมนุ่มไว้เต็มสองอุ้งมือ ใช้มันระบายความซ่านสยิว และใช้มันบังคับคนตัวโตในบางครั้ง ในตอนที่เขาผละออกมาเหมือนจะแกล้ง เธอรีบดึงมันไว้เพราะกลัวเขาหนี หรือบางทีเขาปาดลิ้นรุนแรงจนร่างกายเธอทนไม่ไหว ก็ดึงมันออกมาเพื่อให้ตัวเองอดทนได้ต่อ“อึก! อื้อ! พี่เฟยหลง ฉัน! ฉันกำลัง อ๊ะ!”นิ้วมือใหญ่ถอดหายออกจากความนุ่มนิ่ม ลิ้นที่ปาดไล้อยู่บริเวณนั้นมานานกว่าสิบนาทีก็ด้วย ร่างสูงผละออกห่างทั้งที่รู้ชัดว่าคนรักกำลังจะแตะถึงสวรรค์ ยกมุมปากขึ้นยิ้ม ดึงฝ่ามือนุ่มนิ่มมากำรอบความใหญ่โต“อย่าลืมว่าเธอต้องถูกลงโทษ”“ก็ไม่ได้ลืมสักหน่อย!” คนที่ถูกทำให้ค้างตอบเสียงห้วน“งั้นก็ลุกขึ้นมา นี่ก็อยู่ในบทลงโทษเหมือนกัน”“ทำให้ฉันเสร็จก่อนก็ได้ไม่ใช่เหรอ อีกนิดเดียวเอง”จุ๊บ!“เดี๋ยวทำให้นะ!”เพราะคำพูดคำจาเธอน่ารักน่าเอ็นดู เขาจึงอดใจไม่ไหว โน้มตัวลงไปจูบหนักๆข้างแก้ม บังคับมือเล็กให้ขยับเร็วขึ้น แท่งเนื้อแข็งในอุ้งมือเริ่มมีน้ำใสไหลปริ่มส่วนปลาย ริมฝีปากเล็กลอบกลืนน้ำลายลงคอ ถ้าหากเขาให้เธอเอามันเข้าไปในปาก มันต้องเป็นเรื่องยากแน่ๆ“ฉันต้องทำมันจริงๆเหรอ?”“เธอไม่คิดจะเอาอกเอาใจแฟน
ตึก ตึก ตึก กึก!“หยุดเดินทำไม?”ร่างสูงหยุดก้าวตามคนตัวเล็ก ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แววตาเต็มไปด้วยความห่วงใย มือใหญ่เอื้อมไปดึงรั้งร่างสมส่วนเข้ามาใกล้ โอบกอดเธอไว้ในอ้อมอก ลูบเส้นผมนุ่มสลวยอย่างเบามือ“พี่ดูไม่เสียใจเลยที่เลิกกับเธอ”“ฉันเสียใจเพราะซูฮวามาเยอะแล้ว เคยรอคอยการกลับมาของเธอ ทำทุกวิถีทางเพื่อดึงเธอกลับมาอยู่ข้างกาย แต่ผลก็อย่างที่เห็น ตอนที่ฉันรอเธอไม่เคยกลับมาเลย”“พี่รักเธอมากเลยสินะ”“ใช่ แต่เคยรักนะ ตอนนี้ฉันรักเธอ และในอนาคตก็จะเป็นเธอ เธอจะเป็นคนเดียวที่ฉันรัก”เขายอมรับว่าในช่วงเวลานั้น เขารักซูฮวาจนหมดหัวใจ แม้จุดเริ่มต้นของเขากับเธอจะไม่ได้เกิดจากความรักก็ตาม แต่ตอนนี้เธอไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว เพราะคนที่อยู่ด้วยกันตอนนี้ มีค่ามากกว่าสิ่งใด“ไม่ได้โกหกใช่ไหม ทั้งหมดที่พูดมา มันคือความจริงใช่หรือเปล่า”ใบหน้าสวยหวานเงยขึ้นถาม เฟยหลงมองเห็นระดับความเมาของเธอได้ชัดขึ้น เพราะแสงไฟจากบนเพดาน มือใหญ่เลื่อนขึ้นจับปลายคาง เชิ่ดมันให้สูงขึ้นอีกนิด กดใบหน้าลงต่ำ แนบริมฝีปากลงไปทันที ลิ้นร้อนปาดไล้กลีบปากนุ่มช้าๆ อ้อยอิ่งอยู่ด้านนอกไม่ยอมสอดเข้าไปชิมความหวานอย่างทุกที“ท
วันต่อมา@high barร่างสมส่วนในชุดเดรสสั้นของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ก้าวเดินเข้าไปในอาคารด้วยความคุ้นเคย แม้จะไม่ได้มาที่นี่อีกเลยหลังจากลาออก แต่เธอรู้ทุกซอกทุกมุมของอาคารหลายชั้นนี่ และรู้ด้วยว่าตอนนี้เจ้าของมันอยู่ที่ไหน“เอ่อ! มาแล้วเหรอครับคุณหนู”ผู้จัดการร้านกล่าวด้วยท่าทางนอบน้อม เพราะรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้ว คนที่ถูกเรียกคุณหนู และถูกปฏิบัติอย่างดี แต่รู้สึกได้ถึงความห่างเหินคว่ำริมฝีปากลงเธอไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยแฮะ“เรียกฉันลี่หมิงก็ได้ค่ะคุณเฉิน”“แต่”“ไม่มีแต่ค่ะ!”“ก็ได้ครับคุณลี่หมิง”“เห้อ! คุณมู่ยังอยู่ที่โซนวีไอพีใช่ไหม?”“อ่า … อยู่ในห้องทำงานครับ”“ไม่ได้อยู่คนเดียวสินะ”ลี่หมิงจับความผิดปกติได้จากสีหน้าของคุณเฉิน มันดูกระอักกระอ่วน และมีความกังวลใจฉายออกมา และคำตอบก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ“ครับ เมื่อครึ่งชั่วโมงคุณซูฮวามาที่นี่”“จนถึงตอนนี้?”“ครับ”“ฉันไปรอตรงนั้นแล้วกัน”ลี่หมิงชี้มือไปบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ จากนั้นก็ก้าวเดินไปทันที สร้างความประหลาดใจให้กับผู้จัดการร้านเป็นอย่างมาก เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ที่อยู่ข้างกายเจ้านาย ล้วนชอบแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของ ทั้งที่ไม่
“ขอบคุณนะที่กลับมา”“ขอบคุณคนที่เข้าหาตัวเองเพื่อหลอกเนี่ยนะ?”คนตัวเล็กปล่อยทั้งตัวทั้งหัวใจ ให้วูบไหวไปกับความอบอุ่นที่กำลังโอบกอดอยู่ ความรู้สึกเธอชัดเจนขึ้น ตั้งแต่ยอมมีอะไรกับเขาอีกครั้ง เปิดโอกาสให้ตัวเองได้รัก เรียนรู้ทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเองเพราะเขา“สุดท้ายเราก็ลงเอยกัน พี่ไม่คิดถึงจุดเริ่มต้นหรอก”คนเป็นพี่มือไม้เริ่มอยู่ไม่เป็นสุข จนคนที่นั่งทับอยู่บนตักพลางพักเหนื่อย จับมือใหญ่ไว้แน่นไม่ให้บีบเค้นหน้าอกของตัวเอง แต่แรงเธอไม่สู้แรงเขาอยู่แล้ว ยึดไว้ได้แค่ไม่นาน ก็ต้องปล่อยให้สองมือนั้นทำตามใจ“สัปดาห์หน้า พ่อกับแม่พี่จะเข้าไปพบพ่อกับแม่ที่บ้าน เธอจะตอบตกลงเรื่องการแต่งงานไหม หรือเธอต้องการแบบไหน?”เฟยหลงถามด้วยน้ำเสียงมีกังวล กลัวคำตอบของคนตัวเล็กจะไม่เป็นอย่างที่ตัวเองหวัง กลัวทุกความรู้สึกมีเพียงเขา ที่รู้สึกมากอยู่ฝ่ายเดียว“ทำไมรีบร้อนนักล่ะ ยังไม่ถึงสามเดือนเลย”ลี่หมิงจำได้ว่าตัวเองขอเวลาไปเท่านั้น ถึงความรู้สึกมันจะชัดเจน แต่มันยังเร็วไปสำหรับการแต่งงาน เธออยากคบหาเขาไปแบบนี้ก่อน ไม่ได้รีบร้อนอยากมีครอบครัวด้วย การใช้ชีวิตอย่างตอนนี้ มันดีแล้วในความคิดเธอ“เ
“มา มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?!”เปลือกตาหนักอึ้งปรือขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กตื่นแล้ว ก็เอื้อมมือไปดึงเธอมาใกล้ เมื่อความอ่อนนุ่มของแผ่นหลังแนบชิดอยู่กับแผ่นอก ก็หลับตาลงอีกครั้ง ปล่อยให้ร่างกายรับความผ่อนคลายจากกระแสน้ำอุ่น ปล่อยหัวใจรับการปลอบโยนจากความนุ่มนิ่มของผิวเนื้อ“อื้อ! ฉันจะขึ้นไปแล้ว”“ชู่ว! เงียบหน่อย”“นี่! ฉันจะขึ้นแล้ว อ๊ะ!”“ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ถ้าเธอไม่เงียบ จะไม่ได้มีแค่ฉันที่เหนื่อย”ร่างเย้ายวนสีขาวอมชมพูเพราะการแช่น้ำ ถูกพลิกไปจนแผ่นหลังแนบอยู่กับขอบอ่าง โดยมีร่างสูงใหญ่คร่อมทับอยู่ด้านบน นิ้วเรียวสวยวนบนความอวบอั๋น ลากผ่านหน้าท้องช้าๆ หยุดมือและสายตาเหนือจุดกระสันสีชมพูหวานค่อยคุ้มค่าเหนื่อยหน่อย“มีคนเคยบอกไหม ว่าคุณเองก็ … คิดอะไรออกทางสีหน้าหมด”“เหรอ~ เธอคิดว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ล่ะ ถ้าสิ่งที่เธอคิดว่าฉันคิด มันตรงกับที่ฉันคิดอยู่จริงๆ ฉันจะยอมหยุดมันไว้ ปล่อยให้มันเป็นเพียงแค่ความคิด”“ฉัน”คนตัวเล็กรู้สึกลังเล เพราะความเสียดายถ้าหากตัวเองตอบถูก ความลังเลนั้นสร้างรอยยิ้ม ร่างสูงกำยำอัดแน่นด้วยมัดกล้ามพลิกตัวอีกครั้ง แนบแผ่นหลังเข้ากับอ่าง ดึงคนข้าง
“อึก! ฉันเหมือนคนป่วยเข้าไปทุกที เพราะรอยที่คุณทำ”คนตัวเล็กบ่น แต่ก็ยอมเอียงคอให้ริมฝีปากร้ายสัมผัส หัวใจล่องลอยไปไกล ตั้งใจเข้าหาเพื่อล่อลวงเขา สุดท้ายกลายเป็นเธอที่ถูกล่อลวงจนหัวปั่น“แค่ตอนนี้ หลังจากนี้ฉันก็ไม่ว่างแล้ว”“ทำไม?”“ฉันต้องเข้าไปทำงานช่วยพ่อ นั่นคือเงื่อนไขของท่าน”“เพราะฉัน?”“อื้อ เพราะเธอ”คนตัวโตยิ้ม ยอมรับอย่างไม่อายว่าชีวิตตัวเองเปลี่ยนไปเพราะคนตรงหน้า เขาไม่เคยชอบธุรกิจของพ่อ ชอบรถ และชอบการดื่มมาก จึงลงทุนทำโชว์รูมรถร่วมกับเพื่อน และเปิดร้านเหล้าไว้เป็นที่สังสรรค์ ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนไปทุกอย่าง เขาตั้งใจรับช่วงธุรกิจของพ่ออย่างเต็มตัว“… ก็ดี คุณใช้ชีวิตเหมือนคนว่างงาน”“ดีจริงๆเหรอ?”“ก็ต้องดีสิ”“เธอกำลังทำหน้าเสียดาย”“ฉันไม่ได้ทำ อือ”ริมฝีปากจิ้มลิ้มถูกคว้ามาครอบครอง ลิ้นหนาแทรกผ่านความบางนุ่มเข้าไป เคล้าคลึงหนักๆ ก่อนจะคว้าเอาลิ้นเล็กมาดูด ปล่อยสองมือเล็กให้เป็นอิสระ เพื่อใช้ฝ่ามือของตัวเองสัมผัสเนื้อตัวเนียนนุ่ม“อืม”“อ๊ะ! นี่! ตรงนั้นมันบวมอยู่นะ!”เมื่อรสจูบเร่าร้อนขึ้น คนที่ส่วนสำคัญยังไม่หายบวม รีบผลักคนตัวโตออก ละล่ำละลักบอกเหตุผลที่ทำแบบนั้น คนตัว