อีกด้านของเมือง ของใช้จำเป็นในการดำรงชีวิต ถูกร่างสมส่วนขนเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ด้วยตัวเอง ถิงลี่หมิงตัดสินใจเช่าอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ เพราะกลัวมู่เฟยหลงจะรู้ความจริง ว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นี่จริง และสืบสาวต่อไปจนรู้ว่าเธอเป็นใคร ถึงแม้จะลังเลกับการแก้แค้นทุกครั้งที่เจอเขา แต่เธอก็ยังไม่ล้มเลิกแผนการห้องขนาดไม่กี่ตารางเมตร ไม่ได้ทำให้คนที่เคยอยู่สุขภาพมาก่อนรู้สึกอึดอัด ใบหน้าสวยหวานมองรอบห้องด้วยความพึงพอใจ ตัดสินใจว่าจะออกไปหากินข้างนอก เพราะนอกจากจะเหนื่อยกับการจัดข้าวของแล้ว เธอยังไม่มีฝีมือในการทำอาหารด้วยร่างสมส่วนในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขายาวก้าวออกจากห้อง ปิดประตูลงกลอนเสร็จก็หมุนตัวก้าวเดิน เมื่อเดินมาจนถึงหน้าอาคาร ผู้ชายร่างสูงใหญ่ก็ปรากฏตัว ใช้ความใหญ่โตของร่างกายขวางทางเดินไว้ ใบหน้าไร้เครื่องสำอางฉายความหงุดหงิด เธอหิวมาก เหนื่อยด้วย ไม่อยากคิดเรื่องเขาให้สมองมันทำงานเพิ่ม“จะไปไหน?”“เรานัดกันไว้เหรอ?”เธอจำได้ว่าไม่ได้นัดใครไว้ วันสุดท้ายที่เจอกับเขา ก็คือวันที่ตกลงที่จะศึกษาดูใจกัน ซึ่งวันนั้นเขาแค่มาส่งที่นี่ ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย“เปล่า ฉันแค่บังเอิญผ่านมาทางนี้”เฟยหลงเ
ชั่วโมงต่อมา“นี่! เอามือออกไปนะ”เมื่อเริ่มจนการลูบไล้จากฝ่ามือใหญ่ไม่ไหว เสียงหวานก็แผดขึ้นประท้วง มือที่ล้วงวนอยู่บนแผ่นหลังเลื่อนลงต่ำ ไม่คิดจะดึงมันออกมา เปลี่ยนเป้าหมายไปอยู่ในจุดที่ตัวเองต้องการ บรรยากาศมืดสลัวของสถานที่ เอื้อให้เขาลวนลามผิวเนียนนุ่มมาสักพักแล้ว“อย่าทำสิ ฉันกินไม่ถนัดนะ”“ค่าอาหารมื้อนี้แพงมากเลยนะ ฉันขอกำไรนิดหน่อยไม่ได้หรือไง”“ฉันไม่ได้ขอให้คุณพามาที่แบบนี้สักหน่อย”ลี่หมิงยกมือดันใบหน้าหล่อเหลาออกไปแรงๆ ถ้ารู้ว่าจะโดนลวนลามขนาดนี้ เธอไม่ชวนเขามาด้วยหรอก แล้วกลัวเสียชื่อเพลย์บอยหรือไง มือไม้ถึงอยู่เป็นสุขไม่ได้สักวินาที“พี่เฟยหลง?”เจ้าของชื่อหัวใจกระตุกเพราะน้ำเสียงคุ้นหู เมื่อหันไปก็พบผู้หญิงใบหน้าสะสวยยืนมองอยู่ในระยะใกล้เพียงสามเมตร ถิงลี่หมิงเหยียดยิ้มหวานหยดส่งให้ผู้หญิงที่มองตัวเองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร และมันเพิ่มมากขึ้นเพราะรอยยิ้มของเธอกลับมาแล้วสินะ ตัวละครที่มีบทบาทมากที่สุดในแผนการของเธอ“ซูฮวา”“แฟนใหม่เหรอคะ หรือแค่คู่ขา?”คำถามนั้นไม่ได้สร้างความไม่พอใจให้กับคนฟัง ถิงลี่หมิงเห็นความไม่พอใจของคนพูดที่มีมากกว่า ยิ่งตอนที่ผ่ามือใหญ่เอื้อมมารั้ง
“เดี๋ยวมานะ!”ร่างสูงลุกขึ้นจากโซฟา เดินตรงไปหาผู้หญิงตัวเล็กสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น เข้าไปยืนแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างเธอกับผู้จัดการ ใช้ร่างกายสูงใหญ่ของตัวเอง บดบังเธอจากสายตาพึงพอใจของเขา“เธอมาทำอะไร?”ดวงตาดุดันมองจ้องพนักงานของตัวเองที่ยังทำสีหน้างงงวยไม่เลิก คนตัวเล็กด้านหลังผุดรอยยิ้มมุมปาก เธอมาที่นี่เพื่อดำเนินการตามแผน รู้แล้วว่าเขาหวั่นไหวเพราะแฟนเก่า และเธอตั้งใจมาเพื่อขัดขวางไม่ให้พวกเขากลับไปรักกัน“ฉันมาสมัครงานค่ะ”“ไม่มีตำแหน่งว่าง”ผู้จัดการทำหน้างง ป้ายรับสมัครพนักงานที่ให้ไปติดไว้หน้าร้านเมื่อเช้า ติดเพื่ออะไรกัน?“ถ้าไม่มีทำไมถึงติดป้ายรับสมัครงานไว้ล่ะคะ?”เสียงหวานดังขึ้นกว่าตอนแรก เริ่มจะโมโหแล้วนะ ไอ้คนไม่ปกติ ไหนบอกว่าสนใจไง ไหนบอกว่าอยากทำความรู้จัก พอคนรักกลับมาง้อ ทำไมถึงเปลี่ยนใจทันทีแบบนี้ล่ะ“ยังไม่ได้แกะออก”“ไม่รู้แหละ ฉันจะสมัครงานที่นี่ค่ะ”คนตัวเล็กยืนยันเสียงแข็ง มองไม่เห็นใบหน้าของคู่สนทนาเลย เขากำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่“เห้อ! ตามมานี่!”ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตราคาแพงก้าวเดินนำ คนตัวเล็กก้าวตามไปช้าๆ เมื่อมาถึงห้องทำงานซึ่งอยู่ชั้นสามของอาคาร คนเดินนำก็
วันต่อมา@Cafe X“พี่ว่าล้มเลิกความคิดแล้วกลับไปตั้งใจทำงานเถอะ”ซีเหวินพูดกับน้องสาวที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม มองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ ส่งสายตาอ้อนวอนให้เพื่อนสนิทของน้องสาวช่วยพูด แต่เธอไม่ยอมช่วย เหมือนจะโฟกัสอยู่เพียงแค่ การแกล้งใช้ขาสัมผัสกับขาของเขาเพียงแค่นั้น“ฉันไม่ทิ้งงานของตัวเองหรอกน่า”มือเรียวสวยวางแก้วกาแฟลง เข้าใจสิ่งที่พี่ชายจะสื่อ เขาไม่ได้ขาดแคลนบุคลากรในการทำงาน ไม่มีเธอ ก็ยังมีนักออกแบบอีกหลายคนที่ช่วยทำงานในด้านนี้ สิ่งเดียวที่พี่ชายห่วงคือแผนการแก้แค้นของเธอ เขาอยากให้ล้มเลิกไปซะ แล้วเอาเวลาไปใช้ทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่า เธอเองก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่เหมือนถูกดึงให้ถลำลึกลง อยากรู้ว่ามู่เฟยหลง รู้สึกกับฟูหลินตัวปลอมแบบไหน ความรู้สึกนั้นมันของจริง หรือแค่ความหวั่นไหวเพียงชั่วคราว“พี่ห่วงเรื่องนั้นตรงไหน เห้อ~”บรรยากาศอึดอัดเมื่อครู่ผ่อนคลายลง ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่รอยยิ้มออกมาจางๆ แผนการเหรอ ตอนนี้มันรวนไปหมดแล้ว ซึ่งคนที่เป็นตัวแปรให้มันรวนแบบนี้ ลี่หมิงรู้ดีว่ามันเป็นเพราะเธอ เธอที่หวั่นไหวไปกับความใจดีของเขา เหมือนในอดีตแปดปีก
ซึ่งมันก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่เธอคิดไปเอง หลังจากนั้นหนึ่งเดือน เธอก็ได้รู้ความจริงทั้งหมด“พี่ พี่พูดว่าอะไรนะ?”เสียงหวานสั่นเครือ ถามซ้ำในสิ่งที่คนตัวโตพูดก่อนหน้า เธอได้ยินเขาพูดนะ แต่ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะพูดแบบนั้นออกมานะสิ“ฉันเบื่อแล้ว ต่อไปเราอย่ามาเจอกันอีก”“มัน เกิดอะไรขึ้น? ฉันทำอะไรผิดหรือเปล่า”เธอมั่นใจว่าทำตัวดีมาตลอด ทำตัวว่าง่ายกับเขาเสมอ แล้วทำไมอยู่ดีๆเขาถึงมาพูดแบบนี้“เธอไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก ฉันแค่เบื่อเท่านั้นเอง เบื่อที่ต้องอยู่ข้างๆผู้หญิงแบบเธอ”“แต่ … พี่ก็ดูมีความสุขนี่นา”“ฉันแค่แกล้งทำ ฉันเหนื่อยที่ต้องเล่นบทคนดีคอยดูแลเธอแล้ว ถ้าเธอไม่ใช่น้องของซีเหวิน ถ้าไม่ใช่เพราะเกมส์ลงโทษที่ฉันเล่นแพ้กับเพื่อน ฉันไม่มีวันเอาอกเอาใจผู้หญิงหน้าตาอัปลักษณ์อย่างเธอหรอก”“พี่ พี่เคยบอกว่าฉันสวย”“เธอเชื่อมันจริงๆเหรอ เคยมองตัวเองในกระจกบ้างไหมเนี่ย! หรือที่บ้านเธอไม่มีกระจกให้มอง! ให้ตายสิ!”“ที่ … ที่ผ่านมาคือเรื่องโกหกทั้งหมดใช่ไหม ที่พี่ใจดีกับฉัน พี่ไม่เคยชอบฉันเลย?”ถามย้ำทั้งๆที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว น้ำตาที่คิดว่ามันจะร่วงหล่นลงมาถ้าหากได้ยินถ้อยคำแบบนี้ ตอนนี้ไม่มีเลยสั
“เต็มหมดแล้วครับคุณมู่ เพราะคนนั้นเลย”เฉินลู่ซินชี้มือไปที่พนักงานใหม่ ซึ่งกำลังยืนคุยกับลูกค้าโซนวีไอพีอยู่ ดวงตาสีเข้มฉายความตึงเครียด เมื่อจุดโฟกัสของสายตา ตกกระทบที่คนตัวเล็กสวมชุดสีดำเนื้อผ้าน้อยนิด ฟูหลินสวยอยู่แล้ว แต่เขากลับรู้สึกว่าเธอมีเสน่ห์มาก เมื่อสวมใส่เสื้อผ้าสีดำแบบนี้“ไอ้พวก*** หูตาไวชะมัด” ริมฝีปากหยักสวยเม้มแน่น เกลียดทุกสายตาที่จ้องมองเธอ ร่างสูงหมุนตัวกลับหลัง เดินไปเคลียร์พวกลูกค้าหน้าร้าน ด้วยการไล่ให้กลับไปก่อน แม้จะโดนลูกค้าโวยวายใส่ เจ้าของสถานที่ก็ไม่สนใจ เมื่อด้านหน้าอาคารปราศจากผู้คน ร่างสูงใหญ่ก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปด้านใน“สั่งเหล้าหน่อยครับ!”เสียงลูกค้าตะโกนเรียกแข่งกับเสียงเพลง คนถูกเรียกฝืนส่งยิ้มหวานๆไปให้ ทั้งที่ในใจเริ่มด่าแหลก เธอเดินแบบนี้มาสี่ชั่วโมงแล้ว แทบจะยกขาขึ้นก้าวไม่ไหวแล้ว นี่เธอเพิ่งทำงานวันแรกนะ เห็นใจกันบ้างสิปึ่ง!“เมนู! สั่งซะสิ!”เจ้าของสถานที่วางแผ่นเมนูลงบนโต๊ะ ตามระดับความไม่พอใจที่กรุ่นอยู่ในอก ยืนจ้องเงียบๆรอให้ลูกค้าสั่ง ตั้งใจทำหน้าตึงขู่ให้กลัว แต่ลูกค้ากลับยียวนชวนให้หงุดหงิดเพิ่ม“ว้า! เหล้าผมยังเหลือเต็มเลย ยังไม่
“ฉันว่าเธอเลิกทำงานนี้เถอะ มันไม่ได้ดีอย่างที่เธอคิดหรอก”เฟยหลงพูดเสียงเบา น้ำเสียงแสดงออกถึงความห่วงใย เขารู้และเห็นอยู่ตลอด ว่าพนักงานในร้านต้องเจอกับอะไรบ้าง เขาไม่อยากแนะนำงานแบบนี้ให้ใคร มีได้ก็มีเสีย สำหรับเขา คิดว่ามันไม่ค่อยคุ้มค่า กับงานที่มันเปลืองตัว“ก็ไม่ได้อยากทำหรอก”ถ้าไม่ใช่เพราะแผนการ เธอไม่มาลำบากแบบนี้หรอก แต่จะบอกเขาไม่ได้ไง“ถ้ามีงานอื่นให้ทำ จะทำไหม?”“งานอะไรเหรอ?”คนตัวเล็กถามด้วยความสนใจ คนพูดถอนหายใจออกมาเบาๆ จะงานอะไรล่ะ ก็ งานแม่บ้าน อยู่บ้านรอสามี ซึ่งดูท่าทางของเธอแล้ว คงไม่ชอบงานนั้นแน่ เธอดูอ่อนต่อโลกก็จริง แต่เขารู้สึกได้ถึงความอิสระ“ไม่มีหรอก แค่ลองถามดู ว่าถ้าหากมีตัวเลือกที่ดีกว่างานนี้ เธอจะทำไหม”“อย่าบอกนะว่างานนั้นที่คุณกำลังพูดถึง คืองานของภรรยา?”ลี่หมิงเดาจากสีหน้าที่ไฟตามไหล่ถนนส่องกระทบให้เห็น คนถูกถามยกยิ้ม เขาสนใจเธอมาก แต่ยังไม่ได้คิดไปถึงขั้นแต่งงานเลย“แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ?”ทั้งที่ยังไม่ได้คิด แต่สมองมันดันอยากรู้สิ่งที่คนตัวเล็กคิดอยู่ในตอนนี้ อยากรู้ระดับความพึงพอใจของเธอที่มีต่อตัวเอง บางครั้งเขามักจะเกิดความสงสัย ว่าเธอคิดแบบที่เ
สามวันต่อมาเป็นเวลาสามวันแล้ว ที่ลี่หมิงทำงานอยู่ใน high bar เธอโดนพี่ชายโทรตามทุกวัน ขอร้องให้กลับไปทำงานที่บริษัท ดีกว่ามาเสียเวลาทำอะไรแบบนี้ แต่เธอเลือกที่จะทำต่อ ไม่ใช่เพราะแผนการเอาคืน แต่เป็นเพราะเจ้าของสถานที่ ที่ไม่ยอมให้เธอออกไปไหน“ฟูหลิน! เอาเหล้านี่ไปเสริฟโต๊ะนู้นให้หน่อยสิ” ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นมองคนพูด เลยเวลาพักของเธอมาสักพักแล้ว แต่เธอเพิ่งจะได้นั่งพักเมื่อสักครู่ ยังไม่หายเหนื่อยเลย ถูกเรียกใช้งานอีกแล้ว “แต่ฉันเพิ่งจะได้พักนะคะคุณเฉิน” ลี่หมิงโอดครวญ มองผู้จัดการด้วยสายตาเว้าวอน“เหล้านี่คุณมู่เป็นคนสั่ง และที่สำคัญ คุณมู่กำชับมาว่า ต้องเป็นเธอเท่านั้นที่ยกไปเสริฟ”“โอ้ย! คนเพิ่งจะได้พัก! ไอ้ปีศาจ!” ลี่หมิงพึมพำเบาๆ ด่าเจ้านายที่สวมร่างปีศาจร้าย และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโดน เวลาเธอพักทีไร เขาชอบใช้งานเธอทุกที ปึ่ง!มือเรียวสวยวางขวดเหล้าลงบนโต๊ะเสียงดัง มองใบหน้าเจ้านายด้วยสายตาไม่พอใจ คนสั่งเหยียดยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ คนตัวเล็กสั่นสะท้าน ทั้งโกรธ ทั้งใจเต้นโครมครามเพราะรอยยิ้มมีเสน่ห์“เหล้าค่ะคุณมู่ ฉันต้องรินให้ด้วยไหม!?” คนตัวเล็กถามเสียงห้วนในประโยคสุดท
ฟูหลินใช้มือข้างที่ถนัดพยุงร่างของเพื่อนสนิทไว้ อีกมือใช้มันล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าแบรนด์ดัง เพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากคนในบ้านคนอื่น ซึ่งพี่ซีเหวินว่าที่สามีของเธอ ให้เบอร์ติดต่อไว้แล้ว เพื่อเรียกใช้ในตอนที่จำเป็น“สวัสดีค่ะคุณแม่บ้าน รบกวนมาช่วยฉันพาตัวลี่หมิงขึ้นไปนอนบนเตียงหน่อยได้ไหมคะ?”ฟูหลินใช้น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ถึงความเกรงใจ ถึงเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูลถิง แต่ไม่มีความคิดจะยกตนเหนือคนอื่น ปฏิบัติกับทุกคนตามหน้าที่ และยึดหลักความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์ไว้ผ่านไปเพียงแค่ห้านาที ประตูไม่เนื้อดีก็ถูกผลักเข้ามา คนที่ผลักประตูบานนั้นคือพี่เลี้ยงคนสนิทของลี่หมิง ท่าทางบอบบางของผู้เป็นนาย ทำเอาน้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นลงพื้น“ช่วยหน่อยนะคะ”ฟูหลินเข้าใจ เพราะเธอเองก็สงสารเพื่อนสนิทไม่ต่างกัน ทั้งสองคนช่วยกันพยุงร่างคนหลับไปนอนบนเตียง หลังจากนั้นพี่เลี้ยงก็ขออาสาเป็นคนดูแลต่อ หาผ้าชุบน้ำหมาดๆมาเช็ดตัวให้ หาชุดอื่นมาให้ใส่ จากนั้นก็ปล่อยให้นอนพักผ่อนอยู่ตามลำพังลี่หมิงนอนฝันร้ายทั้งคืน ในฝันของเธอมีคนพยายามแย่งเด็กคนหนึ่งไปจากเธอ เด็กคนนั้นเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม ในวินาทีแรกที่ได
“ผมก็หวังให้เป็นแบบนั้นครับ”“อือ จะไปดูคนที่ไปกับลีหน่อยไหม เธออยู่ห้อง 304”“ครับ? ลีไม่ได้ไปคนเดียว?”“ไม่นะ มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกพามาพร้อมกัน”“?”“ชื่อถิงถิง หลินถิงถิง”“หลินถิงถิง? เลขาของฉันนี่คะ?”“อ่า งั้นไปดูเธอกัน ลีผ่าตัดเสร็จค่อยมาดูเขา”เฟยหลงสรุป คนทั้งสองก้มหน้าลงเพื่อกล่าวคำลากับพ่อของลี จากนั้นก็เดินไปตามทางเดิน มีพยาบาลที่อยู่แถวนั้นรับอาสาพาไปที่ห้อง ลี่หมิงพยายามไม่โทษตัวเอง แต่ยิ่งพบว่ามีคนบาดเจ็บเพราะมีสาเหตุเป็นเธอ ความคิดยิ่งดำดิ่งลงลึก“คุณหลินถิงถิงอยู่ในห้องค่ะ คุณหมอให้เยี่ยมได้แค่สิบนาทีนะคะ”พยาบาลพูดจบก็เดินจากไป เฟยหลงเปิดประตูห้องออก เดินนำเข้าไปก่อน ลี่หมิงเดินตามเข้าไปบ้าง ก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อเห็นเลขาที่เคยอารมณ์ดี นอนอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือเสียบอยู่ที่แขนซ้ายของเธอ ขาถูกพันด้วยผ้าสันนิษฐานว่าด้านในนั้นน่าจะเป็นเฝือก“เอ่อ สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ”ชายวัยกลางคนสวมชุดกราวหันกลับไปมอง ยกมุมปากขึ้นยิ้มแต่แววตากลับไม่ได้ยิ้มตาม เพียงไม่นานก็หันกลับไปแบบเดิม จ้องมองลูกสาวแสนรักเงียบๆ นึกเสียใจที่รักเธอมากเกินไป ยอมตามใจเธอทุกอย่าง ปล่อยให้เธอไปใช้ชีวิตในแบบ
“คุณลี คุณลี! ระวัง!”ปัง!เอี๊ยด!รถยนต์เสียหลักเพราะคนควบคุมพวงมาลัยโดนกระสุนจากรถยนต์คันข้างๆ เจาะเข้าบริเวณซี่โครงด้านขวา เหยียบเบรกเท่าที่ร่างกายจะสามารถทำได้ แต่ถึงอย่างนั้นรถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงก็ยังพุ่งไปด้านหน้า ลีพยายามบังคับพวงมาลัยไว้ ก่อนสติสุดท้ายจะหมดลงเขาปกป้องเธอได้หรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่อยู่กับเขาในความทรงจำสุดท้ายเมื่อรถยนต์สีขาวปะทะเข้ากับเสาไฟในสภาพด้านหน้าพังยับ รถยนต์คันสีดำก็ขับเคลื่อนออกไปจากบริเวณนั้น งานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วง ไม่ต้องลงไปตรวจสอบก็ได้ เพราะคำสั่งที่ได้รับจากผู้เป็นนาย จะเป็นหรือตายก็ได้เงินเท่ากันถิงถิงหลั่งน้ำตามองเลือดที่หยดตามใบหน้าหล่อเหลา เขาตั้งใจให้รถชนทางฝั่งที่เขานั่ง พยายามรักษาคำพูดว่าจะปกป้องเธอ โดยใช้ตัวเองเข้าแลก เขาบ้ามาก บ้าที่สุด ทั้งที่บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงในแบบที่ชอบแท้ๆ แต่ก็ทำร้ายจิตใจเธอด้วยการทำแบบนี้“อย่าตายนะ! ได้โปรด”ถิงถิงได้ยืนเสียงตัวเอง และเสียงไซเรนที่น่าจะเป็นของรถตำรวจ หรือไม่ก็คงเป็นรถพยาบาล แต่เธอไม่ได้ยินเสียงเขา มองไม่เห็นดวงตาที่เคยเย็นชานั่นด้วย ตาเขาสวยนะ เธอชอบมัน ชอบที่สุด“ฮึก! ฮือ! ฉันช
“ผมไปโรงพยาบาล xxx นะ”ลีเอ่ยชื่อโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดออกไป กำลังจะถอยออกไปเพื่อปิดประตู เสื้อก็ถูกดึงไว้ จนมันแถบจะหลุดออกมาจากในกางเกง คนทำเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าบอกเหตุผลที่ไม่อยากไปโรงพยาบาลแห่งนั้น“ไปส่งฉันที่บ้านก็พอ”“แต่ขาคุณ”“ช่างขาฉันเถอะค่ะ ข้อเท้ามันแพลงเฉยๆ ไปหาหมอก็ได้แค่ยามากินอยู่ดี”คนที่คลุกคลีอยู่กับโรงพยาบาลมาทั้งชีวิต และมีความรู้ด้านนี้มากพอสมควร พูดเสียงห้วนกับคนตัวโต พิงหลังเข้ากับเบาะรถ เอื้อมไปดึงกระเป๋าจากมือคนที่ยังยืนนิ่ง ล้วงหาโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่สนใจ แจ้งกับเจ้านายอีกคนว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น เธอจึงหยิบของที่เขาต้องการไปให้ไม่ได้ โชคดีที่เจ้านายเธอใจดี ไม่เพียงแค่เข้าใจสถานการณ์ เขายังสั่งให้เธอหยุดงานจนกว่าขาจะหายเจ็บ“บ้านคุณอยู่ที่ไหน?”“ถนน XX ย่านศูนย์การค้า M”รถยนต์สีขาวเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ เมื่อคนขับรู้จุดหมายปลายทางที่จะไป ใบหน้าคมคายโดดเด่นด้วยดวงตาสีน้ำทะเลลึก แอบมองคนข้างๆทุกครั้งที่สบโอกาส แปลกใจที่คนสวยขนาดนี้ยังไม่มีคนรัก ที่แปลกใจมากกว่านั้น คือการที่เธอมาสารภาพรักกับตัวเองถ้าตัดเรื่องฐานะกับหน้าตาออกไป เขาคิดว่าตัวเองไม่มีอะไร
“ไปคนเดียวได้ใช่ไหม?”เฟยหลงถามรุ่นน้องมากฝีมือด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล มั่นใจว่าลีเอาตัวรอดได้ เพราะเขาเป็นถึงทายาทของบริษัทรักษาความปลอดภัยอันดับหนึ่งของประเทศ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ที่ไม่รู้ว่าตระกูลโจวจะมาไม้ไหน เอาการ์ดไปเพิ่มอีกสักคนน่าจะปลอดภัยกว่า“ผมเคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกกว่า” ลีตอบ เข้าใจความกังวลของเจ้านาย แต่เคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกและรวดเร็วกว่าจริงๆ“ระวังตัวด้วยนะคะคุณลี”“ครับ”ลียืนรอจนกระทั่งรถยนต์คันใหญ่เคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ มองจุดหมายปลายทางในโทรศัพท์ที่เจ้านายส่งมาให้ ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันได้ระวังมุมทางด้านซ้าย เพราะมัวแต่ดูมุมด้านขวา คนที่เดินพ้นมาจากมุมนั้นจึงชนร่างเขาสุดแรงพลั่ก! ตุบ!“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ”เลขาสาวเอ่ยปากขอโทษบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อของเจ้านาย ทั้งที่ตัวเองล้มพับอยู่บนพื้น และรู้สึกปวดข้อเท้าหนึบๆ ส่วนคนที่เธอชนและเอ่ยขอโทษ ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลย ร่างกำยำยังยืนได้อย่างมั่นคง“คุณตามผมมาทำไม?” นั่นคือสิ่งที่ลีสงสัย และมันเป็นสาเหตุที่เขาไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเธอ“คะ? ตามคุณ?”“รถคุณจอดอยู่ชั้นล่าง ไม่มีทางที่คุณจะอยู่ตรงนี้เพราะรถคุณจอดที่นี่”“นี่คุ
ชั่วโมงต่อมาเมื่อมื้ออาหารจบลง ลี่หมิงก็ปลีกตัวไปทำงานของตัวเอง ปล่อยให้พ่อกับพี่ชาย ปรึกษาหารือกับคนรัก เกี่ยวกับวิธีรับมือการเล่นงานจากคนของตระกูลโจว ซึ่งการหารือเต็มไปด้วยความตึงเครียด ตลอดการพูดคุยมีแต่เรื่องให้ปวดหัว และความรุนแรงของแต่ละเหตุการณ์ กว่าจะหาแผนรับมือกับทางนั้นได้ ก็ถึงเวลาเลิกงานของบริษัทพอดี“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน”เพราะคนที่นั่งอยู่อีกฟากมีท่าทีกระวนกระวายมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน ซีหยวนจึงหยุดการหารือไว้เพียงแค่นั้น อีกอย่างแผนการที่มู่เฟยหลงเสนอมาก็ไร้ช่องโหว่ น่าจะรับมือกับการระรานของคนจากตระกูลโจวได้อย่างถาวร“ผมไปหาลี่หมิงนะครับ”เพียงไม่นานก็ไร้เงาของคนพูด ผู้นำของตระกูลถิงยกยิ้ม มองหน้าลูกชายเพื่อหาแนวร่วม เมื่อเห็นความพอใจบนใบหน้าลูกชาย รอยยิ้มก็ฉายออกกว้างกว่าเดิม“เหลือด่านสุดท้ายสินะ”“ถ้าแม่ได้เห็นสีหน้าเขาเมื่อกี้ ท่านให้ผ่านแน่นอนครับ”“นั่นสิ เพิ่งจะเคยเห็นเจ้าชายเพลย์บอยทำสีหน้าแบบนั้น”สำหรับถิงซีหยวน มู่เฟยหลงไม่ต่างจากเจ้าชาย เพราะเขาเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ติดอันดับต้นๆของประเทศ ซ้ำยังเป็นหลานคนเดียวที่เป็นผู้ชาย ตำแหน่งผู้นำรุ่นต่อไปของต
“ฮึ่ม!”“อะแฮ่ม! ขอขัดจังหวะหน่อยได้ไหม”ถิงซีเหวินแกล้งกระแอม เพื่อบอกคู่รักที่กำลังสวีทกันอยู่บนโซฟา ว่าตัวเองอยู่ในห้องด้วย แอบยิ้มขำกับท่าทางของน้องสาว ที่กำลังลนลานผลักร่างใหญ่โตไปอีกฟากของโซฟา“หลบสิ!”“พี่เธอเห็นหมดแล้ว”“เห็นก็ไม่คิดจะหลบเลยเหรอ ถอยออกไปก่อน”“เห้อ! พี่แค่จะมาถาม ว่าสนใจไปทานกลางวันด้วยกันไหม ฟูหลินหิ้วของกินมาเต็มเลย ตอนนี้อยู่ที่ห้องรับรอง”“อ่า พี่เฟยหลงสั่งอาหารของโรงแรมมา”“ไปสิ มีเรื่องจะคุยพอดี”“อ่า เอาแบบนั้นแล้วกัน”“อื้อ ตามมานะ อย่าช้าล่ะ พี่หิว”ลี่หมิงก้มหน้าหลบสายตาล้อเลียนของพี่ชาย เมื่อเขาออกไปพ้นประตู ก็หันไปทำตาขวางใส่คนรัก และสิ่งที่เขาทำตอบกลับมา ทำเอาเธอแทบถลาเข้าไปทุบอก ทำหน้าตาไม่ทุกข์ร้อนไม่พอ ยังหยักไหล่เหมือนไม่แคร์อีก มันน่าตีจริงๆเลย“นี่! เลิกทุบได้แล้วน่า ไม่เจ็บมือหรือไง”เฟยหลงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เอ็นดูมือเล็กๆที่ระดมทุบทั้งๆที่รู้ว่าทำอะไรเขาไม่ได้ ไหนจะใบหน้าโกรธจัดผสมกับความเขินอาย ทั้งน่ารัก ทั้งน่าแกล้ง จนอยากแกล้งไม่หยุด“คนหน้าไม่อาย! นิสัยเปลี่ยนทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้”ลี่หมิงบ่นเสร็จก็ลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบกระเป๋าข
“เห้อ!”“ไม่ต้องห่วงคุณเฟยหลงหรอกครับ”ลีพูดเสียงเรียบ มองเห็นความกังวลของคนรักเจ้านาย ผ่านทางกระจกมองหลังได้อย่างชัดเจน ผู้ชายคนนั้นไม่น่าเป็นห่วงหรอก เขาเก่งทั้งเรื่องการต่อสู้ เก่งทั้งเรื่องการทำธุรกิจ เมื่อก่อนเคยเสียดายที่เจ้านายเอาแต่ขลุกอยู่ในบาร์ ตอนนี้รู้สึกขอบคุณเธอ ที่ทำให้เขาออกมาใช้ชีวิตในแบบที่ควรใช้ได้“ก็ ไม่ได้ห่วงขนาดนั้นหรอกค่ะ”ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบา ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความอาย เธอไม่ชินหรอก เวลาที่เขาแสดงความรักทั้งที่มีคนอื่นอยู่ด้วย แต่เพราะคุณลีทำตัวเหมือนไม่มีตัวตน เธอจึงอายน้อยลงกว่าปกติ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นไงเมื่อรถยนต์จอดสนิทในที่จอดรถของพนักงานระดับผู้บริหาร ลี่หมิงก็ได้รับการดูแลอย่างเช่นทุกที มีคุณลีคอยเปิดประตูให้ ซ้ำยังถูกเขายื่นมือเข้ามาแย่งกระเป๋าใบเล็กไปถือบ่อยครั้งที่เธอนึกสงสัย ว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนของใครกันแน่ ระหว่างเธอกับคนรัก“ฉันถือเองได้นะคะคุณลี”“ครับ แต่ไม่เป็นไร”เห้อลี่หมิงถอนหายใจออกมาเบาๆ มองคนที่เดินนำหน้าอย่างสำรวจ นึกขำอย่างเช่นทุกครั้งที่จ้องมอง ผู้ชายรูปร่างกำยำ สวมชุดสีดำทั้งบนและล่าง ช่างไม่เข้ากันกับก
“อ่ะ อ่า อ๊า!”มือเล็กเลื่อนไปกำเส้นผมนุ่มไว้เต็มสองอุ้งมือ ใช้มันระบายความซ่านสยิว และใช้มันบังคับคนตัวโตในบางครั้ง ในตอนที่เขาผละออกมาเหมือนจะแกล้ง เธอรีบดึงมันไว้เพราะกลัวเขาหนี หรือบางทีเขาปาดลิ้นรุนแรงจนร่างกายเธอทนไม่ไหว ก็ดึงมันออกมาเพื่อให้ตัวเองอดทนได้ต่อ“อึก! อื้อ! พี่เฟยหลง ฉัน! ฉันกำลัง อ๊ะ!”นิ้วมือใหญ่ถอดหายออกจากความนุ่มนิ่ม ลิ้นที่ปาดไล้อยู่บริเวณนั้นมานานกว่าสิบนาทีก็ด้วย ร่างสูงผละออกห่างทั้งที่รู้ชัดว่าคนรักกำลังจะแตะถึงสวรรค์ ยกมุมปากขึ้นยิ้ม ดึงฝ่ามือนุ่มนิ่มมากำรอบความใหญ่โต“อย่าลืมว่าเธอต้องถูกลงโทษ”“ก็ไม่ได้ลืมสักหน่อย!” คนที่ถูกทำให้ค้างตอบเสียงห้วน“งั้นก็ลุกขึ้นมา นี่ก็อยู่ในบทลงโทษเหมือนกัน”“ทำให้ฉันเสร็จก่อนก็ได้ไม่ใช่เหรอ อีกนิดเดียวเอง”จุ๊บ!“เดี๋ยวทำให้นะ!”เพราะคำพูดคำจาเธอน่ารักน่าเอ็นดู เขาจึงอดใจไม่ไหว โน้มตัวลงไปจูบหนักๆข้างแก้ม บังคับมือเล็กให้ขยับเร็วขึ้น แท่งเนื้อแข็งในอุ้งมือเริ่มมีน้ำใสไหลปริ่มส่วนปลาย ริมฝีปากเล็กลอบกลืนน้ำลายลงคอ ถ้าหากเขาให้เธอเอามันเข้าไปในปาก มันต้องเป็นเรื่องยากแน่ๆ“ฉันต้องทำมันจริงๆเหรอ?”“เธอไม่คิดจะเอาอกเอาใจแฟน