“มองอะไร? อยากรู้จักฉันขึ้นมาแล้วเหรอ?”
“ฉันไม่อยากรู้จักคุณหรอกค่ะ รู้จักไปก็ปวดใจเปล่าๆ” และฉันรู้จักคุณดีอยู่แล้ว ลี่หมิงพูดต่อประโยคสุดท้ายในใจ
“ต้องทำยังไง ผู้หญิงอย่างเธอ ถึงจะอยากรู้จักกับฉัน?”
เฟยหลงถามออกไปในที่สุด มันไม่ใช่ประโยคคำถามซะทีเดียว คล้ายๆประโยคบอกเล่ามากกว่า
“คุณจะคบกับฉันไหมล่ะ?”
ลี่หมิงสลัดความหวั่นไหวเล็กๆ เพราะคำถามประโยคนั้นออกไป รู้ดีว่าคำตอบของคำถามของตัวเองคืออะไร แต่ก็อยากถาม เพราะแผนการของเธอ คือทำให้เขาหวั่นไหวให้ได้มากที่สุด
“ไม่!”
และมันเป็นอย่างที่เธอคิดไว้ เขาตอบกลับมาทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย ใบหน้าสวยแสร้งยิ้มเศร้า ส่งความผิดหวังออกไปทางดวงตา บีบความเสียใจที่มีอยู่จริงเพียงเล็กน้อย ออกมาคลอรอบหน่วย แสร้งเงยหน้าขึ้นเพื่อไล่หยาดน้ำ แสร้งปั้นเสียงสั่นกล่าวคำร่ำลา
“ถ้าอย่างนั้น ก็ … ลาก่อนค่ะ เราไม่น่ากลับมาพบกันอีกเลย ให้เรื่องระหว่างเรามันจบลงที่คืนนั้นก็ดีแล้ว”
ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่รอยยิ้มหวาน แสร้งทำเหมือนว่าคืนนั้นคือความทรงจำแสนงดงามในความรู้สึกของตัวเอง เมื่อความหวั่นไหวในดวงตาคู่คมไม่มีให้เห็นเลย ก็รีบร้อนหยัดตัวยืน
เธอผิดที่รีบร้อนขอเขาคบ แต่ … เธออยากจบเรื่องนี้ให้เร็วขึ้น เธอไม่อยากหัวใจสั่นหรือเกิดความหวั่นไหวเล็กๆ เพราะเขาอีก ในขณะที่หวาดกลัวเขา สิ่งที่เธอกลัวที่สุด มันคือความรู้สึกของเธอเอง
“คิดว่าฉันจะยอมหรือไง ฉันนั่งรอมาเกือบหกชั่วโมง เพื่อให้เธอเดินหนีฉันนี่นะ มานี่เลยยัยตัวแสบ!”
เฟยหลงคว้าข้อมือคนที่กำลังจะเดินหนีเอาไว้ ออกแรงลากเธอออกไปจากโซนวีไอพี ไม่สนแรงขัดขืนจากคนตัวเล็ก ตัดทุกช่องทางหนีของเธอ แม้ว่าลี่หมิงจะพยายามร้องขอให้ผู้คนผ่านไปมาช่วยเหลือ ก็ไร้มือที่จะยื่นเข้ามาช่วย คนตัวเล็กหวาดกลัวสุดขีด ยิ่งถูกลากมาจนถึงหน้าห้องๆหนึ่ง ที่เธอเคยถูกเขาพาขึ้นมาเมื่อครั้งก่อน ร่างบอบบางยิ่งสั่นสะท้าน ร่างกายไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาดื้อๆ
แอ๊ด! ปึ่ง! กริ๊ก!
ประตูไม้เนื้อดีถูกเปิดออกกว้าง เมื่อเหวี่ยงคนตัวเล็กเข้าไปเสร็จแล้ว ก็ปิดประตูไว้ ลงกลอนด้านในอีกชั้น ใช้ร่างสูงใหญ่ขวางประตูทางออกไว้อีกที มองคนตัวเล็กที่กำลังสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ก้าวขาต้อนเธอไปด้านใน
“…!”
“คุณ คุณมู่อย่านะคะ!”
ลี่หมิงร้องห้ามเสียงหลง เมื่อแผนการวันนี้ผิดไปจากที่วางไว้ทุกอย่าง ก้าวเท้าถอยหลังหนีการคุกคามจากร่างสูงใหญ่ แต่ก็ก้าวได้ไม่เร็วเท่ากับคนที่มีช่วงขายาวกว่า ถอยไปจนแผ่นหลังแนบติดกับผนังห้อง ยกมือขึ้นปัดป้อง ใบหน้าที่กำลังก้มต่ำลงมาใกล้
“เธอจะกลัวอะไร ในเมื่อคืนนั้นเธอเป็นฝ่ายทำให้ฉันเกือบทั้งหมด เพิ่งจะมาอายเอาป่านนี้ ทำราวกับว่าคืนนั้นไม่ใช่เธอ?”
คนตัวโตสันนิษฐานตามการแสดงออกของคนตรงหน้า รวบข้อมือเล็กเข้าด้วยกัน ดันขึ้นไปกดทับไว้เหนือศรีษะ ใช้ท่อนขาใหญ่กดทับขาเรียวเล็กไว้ ซุกไซร้จมูกสูดดมซอกคอหอมกรุ่นด้วยความรวดเร็ว ลิ้นร้อนแลบออกเลียผิวเนื้อขาวนวล ริมฝีปากขมเม้มเบาๆให้เกิดรอยแดงช้ำ ฝากฝังร่องรอยของตัวเองทับลงไปบนผิวเนื้อหอมกลิ่นของขนม
กลิ่นคุกกี้
“อ๊ะ”
ร่างบอบบางสั่นสะท้าน ต้านทานความรู้สึกวาบวามไม่ไหว ร่างกายไร้เรี่ยวแรงทัดทาน เบือนหน้าหนีสายตาวับวาบชั่วร้าย
“อือ”
เฟยหลงเผยรอยยิ้มพอใจ เมื่อผิวขาวเนียนเหนือเสื้อยืด เต็มไปด้วยร่องรอยของตัวเอง ใบหน้าคมคายเงยขึ้นจากความหอมกรุ่น มองสบดวงตาคู่หวาน ที่บัดนี้คลอน้ำ และเจือความมาดร้าย
“อย่าทำแบบนี้นะ!”
“ทำไมฉันจะทำแบบนี้ไม่ได้ ฉันกำลังทำความรู้จักเธอ อย่างที่ฉันเคยบอกไง”
“ไม่สิ! มันไม่ใช่การทำแบบนี้! อ๊ะ! อย่านะ!”
“นี่แหละคือการทำความรู้จักในแบบของฉัน!”
“อือ … จะ … จะไม่หยุดใช่ไหม?! อืม”
“ใช่!”
“แล้ว … แล้วคุณจะเสียใจที่ทำแบบนี้กับฉัน!”
เสียงหวานสั่นเครือ ช้อนสายตาขึ้นมองสบดวงตามีเสน่ห์ เตือนให้เขารู้ผ่านคำพูดและสายตา ว่าเธอจะไม่ยอมจบง่ายๆแน่ ถ้าหากเขายังคิดที่จะทำอะไรมากกว่านั้น
“ฉันจะเสียใจมากกว่า ถ้าไม่ได้พิสูจน์สิ่งที่ฉันสงสัย”
ริมฝีปากหยักสวยกดลงบนกลีบปากบวมเจ่อ เธอที่อยู่ตรงหน้าไร้ประสบการณ์จริงๆ จูบเงอะงะ แววตาหวาดกลัว มันชัดว่าคืนนั้นเป็นเธอ แต่มันก็ยังเหมือนไม่ใช่เธออยู่ดี
สรุปว่าไม่เป็นงาน หรือช่ำชองแบบสุดๆ
“อึก! อย่านะคะคุณมู่ ฮึก”
ถิงลี่หมิงหลั่งน้ำตาออกมาจริงๆ กลั้นใจเผยด้านอ่อนแออ้อนวอนคนที่เกลียด เธอไม่อยากเป็นของเล่นของเขา รู้ชะตากรรมตัวเองดีว่าเป็นได้แค่นั้น เธอพลาดที่ประเมินเขาต่ำไป และเจ็บใจที่ตัวเองเป็นแบบนั้น เธอต้องเป็นฝ่ายชนะสิ ไม่ใช่พ่ายแพ้เหมือนในอดีต
แผนการหลอกลวงหัวใจหนุ่มเพลย์บอย จะพังตั้งแต่เพิ่งเริ่มจริงๆเหรอ ?
“อืม! อย่าร้อง!”
ลิ้นร้อนลากไล้เบาๆตามพวงแก้มขาวเนียน ปาดลิ้นรับรสชาติขมปร่าของหยาดน้ำตาเข้าไปในปาก คืนนั้นเขาไม่ได้เห็นหน้าเธอตอนมีอะไรกัน แต่วันนี้เขาเห็นใบหน้าของเธอชัดเจน น้ำตาของเธอมันทำให้รู้สึกหงุดหงิด และปวดหนึบหัวใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ฮือ! อือ”
“อย่าร้อง!”
“ฮึก!”
“อย่าร้อง”
“ฮือ! ฮึก!”
“โอ้ย! อย่าร้องสิวะ!”
“ฮือ!”
ยิ่งโดนตะคอก ความอดทนอดกลั้นยิ่งลดน้อยลง ไอ้บ้าเอ้ย! ลี่หมิงได้แต่ก่นด่าเขาอยู่ในใจ ตอนนี้เธอกลัวจริงๆแล้วนะ และสิ่งที่ทำได้ ทำไมถึงมีเพียงแค่การร้องไห้แบบนี้ เธอควรหนีออกจากกรงเล็บของเขา แต่ร่างกายมันไร้เรี่ยวแรงไปหมด
“โธ่เว้ย!”
เฟยหลงสบทลั่น คลายมือออกจากข้อมือเรียว มองร่างที่ทรุดลงบนพื้นเล็กน้อย เดินหนีไปสงบสติอารมณ์ที่ระเบียง ใช้สายลมยามค่ำคืนดับความรู้สึกวาบวาม ที่ได้มาจากการสัมผัสร่างกายเนียนนุ่ม กลิ่นหอมหวานจากเรือนกาย เล่นงานร่างกายส่วนล่างจนปวดหนึบไปหมด
“ฮึก ฮือ”
“โว้ย! เงียบสักที”
ร่างสูงเดินเข้ามาอีกครั้งพร้อมเสียงตะคอก มองร่างสั่นสะท้านที่นั่งอยู่ข้างเตียงนิ่งๆ เขากำลังจะกลายเป็นบ้าเพราะเธอ ถ้ายังไม่หยุด เขาอาจจะยกเธอทุ้มลงบนเตียง แล้วทำให้เงียบเสียงลงด้วยวิธีของเขา
“ลุกขึ้น!”แต่วิธีการนั้น เขาไม่เคยทำมันกับใครถ้าไม่ใช่คนรัก เฟยหลงสลัดความรู้สึกแปลกๆทิ้ง เอื้อมมือไปกระชากท่อนแขนเล็กฉุดรั้งให้ลูกขึ้น ลากเธอออกไปจากห้องก่อนที่ตัวเองจะทำแบบที่คิดจริงๆ เดินลิ่วไปขึ้นลิฟต์โดยที่คนตัวเล็ก ได้แต่ลากขาตามไปอย่างห้ามไม่ได้ติ๊ง!เมื่อเสียงเตือนดังขึ้น ประตูลิฟต์ก็เปิดกว้าง เฟยหลงยกมือปัดเส้นผมที่ปกระใบหน้าขึ้น มองคนที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ ไล่สายตามองคนตัวเล็กอย่างสำรวจ แม้เสียงร้องไห้จะเงียบไปแล้วตั้งแต่เขาลากเธอออกมา แต่น้ำตามันยังไม่หายไปจากใบหน้าสวยหวานนี้เลย เธอไปเอาน้ำตามาจากไหนเยอะแยะ“นี่!”“อ๊ะ! อึก!”ดวงตาคลอน้ำช้อนขึ้นมอง ก้าวถอยหลังไปจนชิดผนังลิฟต์ ยกมือขึ้นป้องกันตามสัญชาตญาณ เธอไม่ควรกลัว บอกตัวเองแบบนั้นมาตลอด แต่พอเอาเข้าจริงๆ เธอกลับรู้สึกกลัวเขามากเธอถูกเพื่อนๆ เรียกว่าสาวมั่น ไม่มีอะไรที่สามารถสั่นคลอนคนแบบเธอได้ แต่อยู่กับเขา เธอกลายเป็นคนอ่อนแอ กลายเป็นเธอคนเดิมที่พ่ายแพ้ จนต้องหนีไปเลียแผลใจไกลถึงต่างแดน“อยะ อย่าเข้ามานะ!”เมื่อนึกถึงตัวเองหลังจากนั้น ใบหน้าสวยหวานก็เชิ่ดขึ้น น้ำตาเหมือนจะเหือดแห้งไป ดวงตาฉายความชิงชังออกมาจนคนที่กำ
ชั้นห้าของบ้านพี่เลี้ยงยืนหอบอยู่หน้าประตู เพราะวิ่งขึ้นมาแทนการเสียเวลายืนรอลิฟต์ เมื่อปรับการหายใจให้เป็นปกติแล้ว ก็ยกมือขึ้นเคาะประตู ยืนรออยู่นานก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงถือวิสาสะเปิดประตูห้องส่วนตัวของคุณหนูออก เดินไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงนอนสีหวาน“คุณหนูตื่นเถอะค่ะ คุณมู่กับคุณนายใกล้จะมาถึงแล้ว”เปลือกตาหนักอึ้งปรือขึ้น ชื่อที่หลุดมาจากริมฝีปากของพี่เลี้ยง ส่งผลให้แอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างถูก ถูกดึงออกไปจนหมด สติกลับมาอยู่ในสภาพเดิม เหลือบมองนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจ“บอกคุณแม่ไปซะว่าฉันไม่ว่าง”“ท่านบอกว่าถึงไม่ชอบแค่ไหน ก็ต้องฝืนใจลงไปค่ะ”ถ้อยคำของคุณนายถูกแจ้งกับคุณหนูแบบไม่มีผิดเพี้ยน คนฟังเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่อยากพัวพันกับคนตระกูลนี้เลย แต่มันดันเลี่ยงไม่ได้ ตระกูลมู่ผู้นำด้านการขนส่ง และมีรายได้ติดหนึ่งในสิบของประเทศ ต้องการผูกสัมพันธ์กับครอบครัวเธอ หลังจากที่ครั้งหนึ่ง พวกเขาเป็นฝ่ายปฎิเสธการผูกสัมพันธ์กับครอบครัวเธอแบบไม่ไว้หน้าเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เธอเพิ่งจะอายุได้สิบแปดปี พ่อกับแม่ของเธอหวังให้เธอแต่งกับลูกชายของตระกูลนั้น แต่ความต่างชนชั้นทั้งที่เป็นเพื่อนกัน ทำ
“ค่ะ ถึงยังไงหนูก็ไม่อยากให้สามีรักคนอื่นอยู่ดี เอาไว้เขาลืมคนรักเก่าได้เมื่อไหร่ เราค่อยมาคุยเรื่องแต่งงานกันดีไหมคะ?”สามีภรรยาตระกูลมู่หน้าซีดลง ด้วยตั้งใจมาครั้งนี้เพื่อฟังการตอบตกลงจากทางตระกูลถิง เมื่อได้รับการปฎิเสธจากเจ้าตัวเอง ก็ยากที่จะโน้มน้าวเจ้าของตระกูล ด้วยรู้ดีว่าถิงซีหยวนนั้นรักลูกสาวคนเล็กมาก“หวังว่าท่านทั้งสอง จะเข้าใจถึงความเจ็บปวดของหนูนะคะ”คนอายุน้อยแสร้งทำหน้าเศร้า รู้ว่าการปฎิเสธครั้งนี้มันไม่ช่วยให้ความตั้งใจของผู้นำตระกูลมู่ลดลง ตั้งแต่ครอบครัวเธอร่ำรวยขึ้น และถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับต้นๆของประเทศ เธอที่เป็นลูกสาวและยังโสด ถูกหลากหลายตระกูลเข้ามาทาบทาบ บางตระกูลไม่เคยเจอตัวจริงเธอด้วยซ้ำ เพียงแค่รู้ข่าวว่าเธอยังโสด ก็มาต่อแถวขอไปเป็นลูกสะใภ้“เราเข้าใจ ถึงอยากแก้ไขความผิดพลาดนั้นนะสิ เราสัญญาว่าจะถนอมน้ำใจหนูลี่หมิงเป็นอย่างดี และที่สำคัญ ทางเราจะร่วมลงทุนกับธุรกิจทุกอย่างของตระกูลถิง”ถิงซีหยวนถึงกับกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่ได้ เข้าใจว่าการแต่งงานของคนระดับนี้ ส่วนใหญ่จะมีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาไม่เคยคิดจะให้ลูกแต่งงานทางการเมือง ถ้าตอนนั้นลูกไม่สาร
17 : 45 น.ครืด! ครืด!การทำงานล่วงเวลาถูกเครื่องมือสื่อสารรบกวน ดวงตาคู่หวานหลังแว่นหรี่มองโทรศัพท์เครื่องหรู ที่กำลังสั่นครืดๆอยู่บนโต๊ะทำงานด้านขวามือ ถิงลี่หมิงเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมากดรับ ถือโทรศัพท์ไว้ห่างๆ เพราะมั่นใจว่าทำแบบนั้น ก็ยังได้ยินเสียงแว๊ดๆของคนที่โทรเข้ามา[ ลี่หมิง~ เธอจะรอให้ฉันหยุดหายใจก่อนหรือไง ถึงจะยอมรับสายของฉันอะ! ]“ฉันทำงานอยู่นะฟูหลิน เดี๋ยวพี่ซีเหวินหักเงินเดือน”[ ชิ! เธอจะเอาเรื่องงานมาอ้างกับฉันไม่ได้นะ ออกมาเจอกันหน่อย ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้แผนการของเธอไปถึงขั้นไหนแล้ว ]“แต่วันนี้ฉันต้องทำโอที” ปกติเธอไม่ต้องทำโอที แต่เพราะเธอหยุดงานบ่อย ช่วงที่วางแผนเข้าหามู่เฟยหลง จึงต้องทำงานล่วงเวลาชดเชยให้พี่ชายที่เป็นคนจ่ายเงินเดือน[ พรุ่งนี้เธอว่างหรือเปล่า? ]“ว่าง เธอจะให้ฉันไปเจอที่ไหน?”[ ที่คลับ xxx ]“อื้อ พรุ่งนี้เจอกันเวลาเดิมนะ”ลี่หมิงกดวางสายจากเพื่อนสนิท ฟูหลินเป็นเพื่อนที่เรียนอยู่อเมริกาด้วยกัน ชื่อของเพื่อนและประวัติบางอย่างถูกเธอนำมาใช้ในแผนการ เพราะแบบนั้นจึงต้องคอยรายงานเพื่อนด้วย ว่าตอนนี้แผนของเธอดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ฟูหลินเป็นเพื่อนที่ดีเ
“คนอื่นน่ะ คนที่นอนกับเขาคือคนอื่น”“ฉันนึกว่าเธอยอมเอาตัวเองไปเป็นเหยื่อซะอีก”“ฉันไม่เอาตัวเองไปเป็นเหยื่อให้เสืออย่างเขาแทะเล่นหรอกน่า”“โล่งอกไปที!”“ก็ … นั่นแหละ ฉันอยากให้พี่หนิงเทียน ช่วยรับบทเป็นคนรักให้หน่อย พี่ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่หาเวลาว่างให้ฉันสัก หนึ่งชั่วโมง หรือสองชั่วโมงก็พอ”ลี่หมิงนั่งรอคำตอบเงียบๆ ไม่คาดหวังว่าพี่หนิงเทียนจะยอมทำอะไรแบบนั้น แต่รอไม่นานใบหน้าหล่อเหลาก็พยักขึ้นลง คนตัวเล็กที่สุดพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่ตัวเองไม่ต้องไปหาผู้ชายคนอื่นมารับบทเป็นคนรัก“ขอบคุณพี่หนิงเทียนมาก ที่ยอมช่วยฉัน”“ไม่เป็นไร พี่ยินดี”“จริงสิ ไหนๆก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว พี่หนิงเทียนว่างไปดื่มกับเราไหม?”ฟูหลินรีบชวน เพื่อสร้างโอกาสให้เพื่อนสนิทกับชายหนุ่มรุ่นพี่ ได้อยู่ใกล้ชิดกัน ลี่หมิงเข้าใจเจตนาของเพื่อน จึงไม่แย้งใดๆ ทั้งที่อยากไปดื่มกันแค่สองคนพี่หนิงเทียนไปด้วยก็ดี เวลามีปัญหาจะได้ขอความช่วยเหลือจากเขาได้21 : 00 น.Club XXXผู้หญิงรูปร่างเล็กสวมใส่เสื้อสายเดี่ยวสีดำ ความยาวของเสื้อปิดได้แค่สองเต้าอวบอั๋น สีดำของเสื้อขับผิวขาวให้ดูขาวยิ่งขึ้น ด้านล่างเป็นกางเกงยีนส์ขาย
สามชั่วโมงต่อมาการดื่มเพื่อผ่อนคลาย กลายเป็นการดื่มเพื่อระงับอารมณ์โกรธ ตลอดสามชั่วโมงที่นั่งดื่มกับเพื่อน ลี่หมิงพยายามไม่สนใจเฟยหลง แต่เขานั่งอยู่ในระยะสายตา ซ้ำยังส่งสายตาไม่พอใจให้เธออยู่ตลอด สายตาของเขาทำให้เธอทั้งรู้สึกอึดอัด ทั้งทำตัวไม่ถูก และที่สำคัญกว่านั้น มันทำให้เธอเผลอรู้สึกแปลกทำหน้าไม่พอใจเหมือนกำลังหึง ทำเหมือนรู้สึกกับเธอ ทั้งที่ไม่ใช่“เดี๋ยวฉันมานะ”ลี่หมิงเดินออกไปทันทีที่พูดจบ แทรกกายผ่านเหล่านักท่องราตรีหลายร้อยคน ไปอย่างยากลำบาก ส่วนสูงของเธอเป็นปัญหาอยู่เสมอ ตอนนี้เธอต้องการไปห้องน้ำให้เร็วกว่านี้ แต่กลุ่มคนตัวโตรอบข้าง ทำให้เธอทำตามความต้องการไม่ได้ปึ่ก!“อ๊ะ! อะไรวะ!”“หลีกทางหน่อย!”ใบหน้าสวยหวานเงยขึ้นมองแผ่นหลังกว้าง เส้นผมสีดำสนิท สัดส่วนที่ผู้ชายหลายคนไฝ่ฝัน มู่เฟยหลงดูดีทุกอย่าง ขนาดเห็นเพียงแผ่นหลังก็รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์เธอยอมรับว่าตัวเองก็มีส่วนผิด เธอเป็นฝ่ายหลงรักเขาก่อน แต่เขาไม่จำเป็นต้องทำให้เธอเสียใจ เพราะเกมส์ลงโทษที่เขาเล่นกันกับเพื่อนเลย ปล่อยให้เธอแอบรักอยู่เงียบๆไป ไม่ต้องเข้ามาทำให้มีหวัง แล้วผลักเธอลงหุบเหวแห่งความเจ็บปวดแบบนั้นหมั
หลายวันต่อมาตั้งแต่วันที่บังเอิญเจอกับฟูหลินในบาร์ ความรู้สึกของมู่เฟยหลงก็ไม่เหมือนเดิม ความสนใจในตัวผู้หญิงลดน้อยลง ความสนุกตอนออกมาดื่มก็ด้วย ดวงตาคู่สวยมองไปรอบๆบาร์ เพื่อสำรวจความเรียบร้อยของสถานที่ ไม่หยุดลงที่สาวสวยคนไหน จนเพื่อนสนิทเกิดความสงสัยและเป็นห่วง“เกิดอะไรขึ้นเหรอเฟยหลง ทำไมหน้าตาถึงได้ดูอมทุกข์จัง”ซีฮันถาม ดึงรั้งสาวข้างกายเข้ามาใกล้มากขึ้น แต่ปฏิกิริยาของเพื่อนก็ยังเหมือนเดิม ใบหน้าบูดบึ้งจนสาวสวยที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน ขยับมานั่งอยู่ข้างๆเพื่อนของเธอแทน“ฉัน… ควรรอต่อไปไหม?”“หะ? รอ รอใคร?”ซีฮันวางแก้วเหล้าในมือลง ผลักสาวข้างกายออกห่าง เมื่อสีหน้าของเพื่อนจริงจังจนล้อเล่นไม่ได้“ซูฮวา”“ฉัน … สามารถพูดได้ทุกอย่างหรือเปล่า”ซีฮันลองถามเพื่อหยั่งเชิงดู โบกมือไล่สาวๆที่มาคอยให้บริการไป เมื่อเพื่อนส่งสัญญาณมาบอก ว่าตัวเองสามารถพูดได้อย่างที่ต้องการ มือเรียวสวยยกขึ้นประสานกัน วางมันลงบนหัวเข่า ท่าทางแบบนั้น แม้แต่เฟยหลงยังรู้สึกจริงจังไปด้วย ทั้งที่ตอนถาม เขาก็แค่เผลอตัวพูดออกไปเท่านั้น“แกควรพอตั้งนานแล้ว” “แต่ฉันรอได้”“รอ ทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่เหมือนเดิม รอทั
“อือ”“ถ้าต้องการยั่วโมโหฉัน บอกเลยว่าเธอทำสำเร็จ”“อึก! คุณมู่!”“ฉันให้เธอพูดใหม่อีกที”“อือ! ยะ ยอมแล้ว ฉันแค่ล้อเล่น!”ลี่หมิงรีบบอกออกไป เพราะกลัวเขาฝังรอยเขี้ยวลงบนลำคอเพิ่มอีก แต่ผลลัพธ์กลับไม่ต่างกันนัก เขาไม่กัดผิวเนื้อของเธอ แต่ใช้ริมฝีปากหยักสวยดูดเม้มแรงๆ“แต่ฉัน … ไม่ได้ล้อเล่น”ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นจากผิวกายหอมกรุ่น สบดวงตาคู่หวานเนินนาน ลี่หมิงรีบหลบสายตาไปด้านข้าง การเล่นตัวครั้งนี้ ไม่ใช่ทำเพื่อให้เขาโกรธ แต่เธอรู้สึกกลัวกลัวตัวเองหวั่นไหวจนลืมความตั้งใจของตัวเอง“คุณอยากจะคบกับฉันเหรอ?” ลี่หมิงหันใบหน้ากลับไป ถามเสียงแผ่วเบา ไม่อยากเชื่อสิ่งที่คนตัวโตพูด แต่แววจริงจังในดวงตา ยืนยันคำพูดนั้นโดยที่เขาไม่ต้องพูด “บอกตรงๆว่าฉันกลัว กลัวเสียใจเพราะคุณ”ยังคงมีแค่ลี่หมิงที่พูด ต้องยอมรับว่าเธอหวั่นไหวไปมากเพราะเขา แต่ความตั้งใจยังมีอยู่ เธอต้องล่อลวงให้เขาชอบแล้วทิ้งเขาไป เหมือนที่เขาเข้ามาทำดีกับเธอเพราะเกมส์ลงโทษบ้าๆ พอเธอหลงรักก็ทิ้งเธอไว้กับความเจ็บปวด เขาจะต้องเป็นแบบเธอ จะได้ไม่ล้อเล่นกับความรู้สึกของใครอีก“ฉัน เห้อ คิดซะว่าเมื่อกี้ ฉันไม่ได้พูดอะไรแล้วกัน”“อ๊ะ
“ฮึ่ม!”“อะแฮ่ม! ขอขัดจังหวะหน่อยได้ไหม”ถิงซีเหวินแกล้งกระแอม เพื่อบอกคู่รักที่กำลังสวีทกันอยู่บนโซฟา ว่าตัวเองอยู่ในห้องด้วย แอบยิ้มขำกับท่าทางของน้องสาว ที่กำลังลนลานผลักร่างใหญ่โตไปอีกฟากของโซฟา“หลบสิ!”“พี่เธอเห็นหมดแล้ว”“เห็นก็ไม่คิดจะหลบเลยเหรอ ถอยออกไปก่อน”“เห้อ! พี่แค่จะมาถาม ว่าสนใจไปทานกลางวันด้วยกันไหม ฟูหลินหิ้วของกินมาเต็มเลย ตอนนี้อยู่ที่ห้องรับรอง”“อ่า พี่เฟยหลงสั่งอาหารของโรงแรมมา”“ไปสิ มีเรื่องจะคุยพอดี”“อ่า เอาแบบนั้นแล้วกัน”“อื้อ ตามมานะ อย่าช้าล่ะ พี่หิว”ลี่หมิงก้มหน้าหลบสายตาล้อเลียนของพี่ชาย เมื่อเขาออกไปพ้นประตู ก็หันไปทำตาขวางใส่คนรัก และสิ่งที่เขาทำตอบกลับมา ทำเอาเธอแทบถลาเข้าไปทุบอก ทำหน้าตาไม่ทุกข์ร้อนไม่พอ ยังหยักไหล่เหมือนไม่แคร์อีก มันน่าตีจริงๆเลย“นี่! เลิกทุบได้แล้วน่า ไม่เจ็บมือหรือไง”เฟยหลงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เอ็นดูมือเล็กๆที่ระดมทุบทั้งๆที่รู้ว่าทำอะไรเขาไม่ได้ ไหนจะใบหน้าโกรธจัดผสมกับความเขินอาย ทั้งน่ารัก ทั้งน่าแกล้ง จนอยากแกล้งไม่หยุด“คนหน้าไม่อาย! นิสัยเปลี่ยนทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้”ลี่หมิงบ่นเสร็จก็ลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบกระเป๋าข
“เห้อ!”“ไม่ต้องห่วงคุณเฟยหลงหรอกครับ”ลีพูดเสียงเรียบ มองเห็นความกังวลของคนรักเจ้านาย ผ่านทางกระจกมองหลังได้อย่างชัดเจน ผู้ชายคนนั้นไม่น่าเป็นห่วงหรอก เขาเก่งทั้งเรื่องการต่อสู้ เก่งทั้งเรื่องการทำธุรกิจ เมื่อก่อนเคยเสียดายที่เจ้านายเอาแต่ขลุกอยู่ในบาร์ ตอนนี้รู้สึกขอบคุณเธอ ที่ทำให้เขาออกมาใช้ชีวิตในแบบที่ควรใช้ได้“ก็ ไม่ได้ห่วงขนาดนั้นหรอกค่ะ”ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบา ขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความอาย เธอไม่ชินหรอก เวลาที่เขาแสดงความรักทั้งที่มีคนอื่นอยู่ด้วย แต่เพราะคุณลีทำตัวเหมือนไม่มีตัวตน เธอจึงอายน้อยลงกว่าปกติ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นไงเมื่อรถยนต์จอดสนิทในที่จอดรถของพนักงานระดับผู้บริหาร ลี่หมิงก็ได้รับการดูแลอย่างเช่นทุกที มีคุณลีคอยเปิดประตูให้ ซ้ำยังถูกเขายื่นมือเข้ามาแย่งกระเป๋าใบเล็กไปถือบ่อยครั้งที่เธอนึกสงสัย ว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนของใครกันแน่ ระหว่างเธอกับคนรัก“ฉันถือเองได้นะคะคุณลี”“ครับ แต่ไม่เป็นไร”เห้อลี่หมิงถอนหายใจออกมาเบาๆ มองคนที่เดินนำหน้าอย่างสำรวจ นึกขำอย่างเช่นทุกครั้งที่จ้องมอง ผู้ชายรูปร่างกำยำ สวมชุดสีดำทั้งบนและล่าง ช่างไม่เข้ากันกับก
“อ่ะ อ่า อ๊า!”มือเล็กเลื่อนไปกำเส้นผมนุ่มไว้เต็มสองอุ้งมือ ใช้มันระบายความซ่านสยิว และใช้มันบังคับคนตัวโตในบางครั้ง ในตอนที่เขาผละออกมาเหมือนจะแกล้ง เธอรีบดึงมันไว้เพราะกลัวเขาหนี หรือบางทีเขาปาดลิ้นรุนแรงจนร่างกายเธอทนไม่ไหว ก็ดึงมันออกมาเพื่อให้ตัวเองอดทนได้ต่อ“อึก! อื้อ! พี่เฟยหลง ฉัน! ฉันกำลัง อ๊ะ!”นิ้วมือใหญ่ถอดหายออกจากความนุ่มนิ่ม ลิ้นที่ปาดไล้อยู่บริเวณนั้นมานานกว่าสิบนาทีก็ด้วย ร่างสูงผละออกห่างทั้งที่รู้ชัดว่าคนรักกำลังจะแตะถึงสวรรค์ ยกมุมปากขึ้นยิ้ม ดึงฝ่ามือนุ่มนิ่มมากำรอบความใหญ่โต“อย่าลืมว่าเธอต้องถูกลงโทษ”“ก็ไม่ได้ลืมสักหน่อย!” คนที่ถูกทำให้ค้างตอบเสียงห้วน“งั้นก็ลุกขึ้นมา นี่ก็อยู่ในบทลงโทษเหมือนกัน”“ทำให้ฉันเสร็จก่อนก็ได้ไม่ใช่เหรอ อีกนิดเดียวเอง”จุ๊บ!“เดี๋ยวทำให้นะ!”เพราะคำพูดคำจาเธอน่ารักน่าเอ็นดู เขาจึงอดใจไม่ไหว โน้มตัวลงไปจูบหนักๆข้างแก้ม บังคับมือเล็กให้ขยับเร็วขึ้น แท่งเนื้อแข็งในอุ้งมือเริ่มมีน้ำใสไหลปริ่มส่วนปลาย ริมฝีปากเล็กลอบกลืนน้ำลายลงคอ ถ้าหากเขาให้เธอเอามันเข้าไปในปาก มันต้องเป็นเรื่องยากแน่ๆ“ฉันต้องทำมันจริงๆเหรอ?”“เธอไม่คิดจะเอาอกเอาใจแฟน
ตึก ตึก ตึก กึก!“หยุดเดินทำไม?”ร่างสูงหยุดก้าวตามคนตัวเล็ก ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แววตาเต็มไปด้วยความห่วงใย มือใหญ่เอื้อมไปดึงรั้งร่างสมส่วนเข้ามาใกล้ โอบกอดเธอไว้ในอ้อมอก ลูบเส้นผมนุ่มสลวยอย่างเบามือ“พี่ดูไม่เสียใจเลยที่เลิกกับเธอ”“ฉันเสียใจเพราะซูฮวามาเยอะแล้ว เคยรอคอยการกลับมาของเธอ ทำทุกวิถีทางเพื่อดึงเธอกลับมาอยู่ข้างกาย แต่ผลก็อย่างที่เห็น ตอนที่ฉันรอเธอไม่เคยกลับมาเลย”“พี่รักเธอมากเลยสินะ”“ใช่ แต่เคยรักนะ ตอนนี้ฉันรักเธอ และในอนาคตก็จะเป็นเธอ เธอจะเป็นคนเดียวที่ฉันรัก”เขายอมรับว่าในช่วงเวลานั้น เขารักซูฮวาจนหมดหัวใจ แม้จุดเริ่มต้นของเขากับเธอจะไม่ได้เกิดจากความรักก็ตาม แต่ตอนนี้เธอไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว เพราะคนที่อยู่ด้วยกันตอนนี้ มีค่ามากกว่าสิ่งใด“ไม่ได้โกหกใช่ไหม ทั้งหมดที่พูดมา มันคือความจริงใช่หรือเปล่า”ใบหน้าสวยหวานเงยขึ้นถาม เฟยหลงมองเห็นระดับความเมาของเธอได้ชัดขึ้น เพราะแสงไฟจากบนเพดาน มือใหญ่เลื่อนขึ้นจับปลายคาง เชิ่ดมันให้สูงขึ้นอีกนิด กดใบหน้าลงต่ำ แนบริมฝีปากลงไปทันที ลิ้นร้อนปาดไล้กลีบปากนุ่มช้าๆ อ้อยอิ่งอยู่ด้านนอกไม่ยอมสอดเข้าไปชิมความหวานอย่างทุกที“ท
วันต่อมา@high barร่างสมส่วนในชุดเดรสสั้นของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ก้าวเดินเข้าไปในอาคารด้วยความคุ้นเคย แม้จะไม่ได้มาที่นี่อีกเลยหลังจากลาออก แต่เธอรู้ทุกซอกทุกมุมของอาคารหลายชั้นนี่ และรู้ด้วยว่าตอนนี้เจ้าของมันอยู่ที่ไหน“เอ่อ! มาแล้วเหรอครับคุณหนู”ผู้จัดการร้านกล่าวด้วยท่าทางนอบน้อม เพราะรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้ว คนที่ถูกเรียกคุณหนู และถูกปฏิบัติอย่างดี แต่รู้สึกได้ถึงความห่างเหินคว่ำริมฝีปากลงเธอไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยแฮะ“เรียกฉันลี่หมิงก็ได้ค่ะคุณเฉิน”“แต่”“ไม่มีแต่ค่ะ!”“ก็ได้ครับคุณลี่หมิง”“เห้อ! คุณมู่ยังอยู่ที่โซนวีไอพีใช่ไหม?”“อ่า … อยู่ในห้องทำงานครับ”“ไม่ได้อยู่คนเดียวสินะ”ลี่หมิงจับความผิดปกติได้จากสีหน้าของคุณเฉิน มันดูกระอักกระอ่วน และมีความกังวลใจฉายออกมา และคำตอบก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ“ครับ เมื่อครึ่งชั่วโมงคุณซูฮวามาที่นี่”“จนถึงตอนนี้?”“ครับ”“ฉันไปรอตรงนั้นแล้วกัน”ลี่หมิงชี้มือไปบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ จากนั้นก็ก้าวเดินไปทันที สร้างความประหลาดใจให้กับผู้จัดการร้านเป็นอย่างมาก เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ที่อยู่ข้างกายเจ้านาย ล้วนชอบแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของ ทั้งที่ไม่
“ขอบคุณนะที่กลับมา”“ขอบคุณคนที่เข้าหาตัวเองเพื่อหลอกเนี่ยนะ?”คนตัวเล็กปล่อยทั้งตัวทั้งหัวใจ ให้วูบไหวไปกับความอบอุ่นที่กำลังโอบกอดอยู่ ความรู้สึกเธอชัดเจนขึ้น ตั้งแต่ยอมมีอะไรกับเขาอีกครั้ง เปิดโอกาสให้ตัวเองได้รัก เรียนรู้ทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเองเพราะเขา“สุดท้ายเราก็ลงเอยกัน พี่ไม่คิดถึงจุดเริ่มต้นหรอก”คนเป็นพี่มือไม้เริ่มอยู่ไม่เป็นสุข จนคนที่นั่งทับอยู่บนตักพลางพักเหนื่อย จับมือใหญ่ไว้แน่นไม่ให้บีบเค้นหน้าอกของตัวเอง แต่แรงเธอไม่สู้แรงเขาอยู่แล้ว ยึดไว้ได้แค่ไม่นาน ก็ต้องปล่อยให้สองมือนั้นทำตามใจ“สัปดาห์หน้า พ่อกับแม่พี่จะเข้าไปพบพ่อกับแม่ที่บ้าน เธอจะตอบตกลงเรื่องการแต่งงานไหม หรือเธอต้องการแบบไหน?”เฟยหลงถามด้วยน้ำเสียงมีกังวล กลัวคำตอบของคนตัวเล็กจะไม่เป็นอย่างที่ตัวเองหวัง กลัวทุกความรู้สึกมีเพียงเขา ที่รู้สึกมากอยู่ฝ่ายเดียว“ทำไมรีบร้อนนักล่ะ ยังไม่ถึงสามเดือนเลย”ลี่หมิงจำได้ว่าตัวเองขอเวลาไปเท่านั้น ถึงความรู้สึกมันจะชัดเจน แต่มันยังเร็วไปสำหรับการแต่งงาน เธออยากคบหาเขาไปแบบนี้ก่อน ไม่ได้รีบร้อนอยากมีครอบครัวด้วย การใช้ชีวิตอย่างตอนนี้ มันดีแล้วในความคิดเธอ“เ
“มา มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?!”เปลือกตาหนักอึ้งปรือขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กตื่นแล้ว ก็เอื้อมมือไปดึงเธอมาใกล้ เมื่อความอ่อนนุ่มของแผ่นหลังแนบชิดอยู่กับแผ่นอก ก็หลับตาลงอีกครั้ง ปล่อยให้ร่างกายรับความผ่อนคลายจากกระแสน้ำอุ่น ปล่อยหัวใจรับการปลอบโยนจากความนุ่มนิ่มของผิวเนื้อ“อื้อ! ฉันจะขึ้นไปแล้ว”“ชู่ว! เงียบหน่อย”“นี่! ฉันจะขึ้นแล้ว อ๊ะ!”“ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ถ้าเธอไม่เงียบ จะไม่ได้มีแค่ฉันที่เหนื่อย”ร่างเย้ายวนสีขาวอมชมพูเพราะการแช่น้ำ ถูกพลิกไปจนแผ่นหลังแนบอยู่กับขอบอ่าง โดยมีร่างสูงใหญ่คร่อมทับอยู่ด้านบน นิ้วเรียวสวยวนบนความอวบอั๋น ลากผ่านหน้าท้องช้าๆ หยุดมือและสายตาเหนือจุดกระสันสีชมพูหวานค่อยคุ้มค่าเหนื่อยหน่อย“มีคนเคยบอกไหม ว่าคุณเองก็ … คิดอะไรออกทางสีหน้าหมด”“เหรอ~ เธอคิดว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ล่ะ ถ้าสิ่งที่เธอคิดว่าฉันคิด มันตรงกับที่ฉันคิดอยู่จริงๆ ฉันจะยอมหยุดมันไว้ ปล่อยให้มันเป็นเพียงแค่ความคิด”“ฉัน”คนตัวเล็กรู้สึกลังเล เพราะความเสียดายถ้าหากตัวเองตอบถูก ความลังเลนั้นสร้างรอยยิ้ม ร่างสูงกำยำอัดแน่นด้วยมัดกล้ามพลิกตัวอีกครั้ง แนบแผ่นหลังเข้ากับอ่าง ดึงคนข้าง
“อึก! ฉันเหมือนคนป่วยเข้าไปทุกที เพราะรอยที่คุณทำ”คนตัวเล็กบ่น แต่ก็ยอมเอียงคอให้ริมฝีปากร้ายสัมผัส หัวใจล่องลอยไปไกล ตั้งใจเข้าหาเพื่อล่อลวงเขา สุดท้ายกลายเป็นเธอที่ถูกล่อลวงจนหัวปั่น“แค่ตอนนี้ หลังจากนี้ฉันก็ไม่ว่างแล้ว”“ทำไม?”“ฉันต้องเข้าไปทำงานช่วยพ่อ นั่นคือเงื่อนไขของท่าน”“เพราะฉัน?”“อื้อ เพราะเธอ”คนตัวโตยิ้ม ยอมรับอย่างไม่อายว่าชีวิตตัวเองเปลี่ยนไปเพราะคนตรงหน้า เขาไม่เคยชอบธุรกิจของพ่อ ชอบรถ และชอบการดื่มมาก จึงลงทุนทำโชว์รูมรถร่วมกับเพื่อน และเปิดร้านเหล้าไว้เป็นที่สังสรรค์ ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนไปทุกอย่าง เขาตั้งใจรับช่วงธุรกิจของพ่ออย่างเต็มตัว“… ก็ดี คุณใช้ชีวิตเหมือนคนว่างงาน”“ดีจริงๆเหรอ?”“ก็ต้องดีสิ”“เธอกำลังทำหน้าเสียดาย”“ฉันไม่ได้ทำ อือ”ริมฝีปากจิ้มลิ้มถูกคว้ามาครอบครอง ลิ้นหนาแทรกผ่านความบางนุ่มเข้าไป เคล้าคลึงหนักๆ ก่อนจะคว้าเอาลิ้นเล็กมาดูด ปล่อยสองมือเล็กให้เป็นอิสระ เพื่อใช้ฝ่ามือของตัวเองสัมผัสเนื้อตัวเนียนนุ่ม“อืม”“อ๊ะ! นี่! ตรงนั้นมันบวมอยู่นะ!”เมื่อรสจูบเร่าร้อนขึ้น คนที่ส่วนสำคัญยังไม่หายบวม รีบผลักคนตัวโตออก ละล่ำละลักบอกเหตุผลที่ทำแบบนั้น คนตัว
ตู๊ด!เพราะทุกการกระทำย่อมมีผลที่ตามมา เฟยหลงจึงโทรไปปรึกษาผู้เป็นพ่อ เพื่อหาวิธีจัดการไม่ให้ตระกูลโจวมายุ่งกับคนของตัวเอง รอสายอยู่สักพักเลขาของพ่อก็รับสาย และเพียงไม่นานสายก็ถูกโอนไปให้ผู้นำตระกูลมู่[ มีอะไร? ]“เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้ ผมต้องติดต่อพ่อผ่านเลขา”[ เรื่องจะพูดมีแค่นี้? ]“ผมยอมพ่อทุกอย่างแล้วไง เมื่อไหร่จะหายงอนสักที”เฟยหลงบ่นเสียงเบา เขายอมทำตามความต้องการของพ่อ ยอมทิ้งงานผับ และงานอื่นๆ เพื่อรับช่วงต่อบริษัทช่วยท่าน แลกกับการที่ท่านยอมเจรจาสู่ขอลี่หมิงกับถิงซีหยวน แต่ถึงอย่างนั้นท่านก็ยังไม่หายงอนเขาสักที[ แค่ยอมแล้วคิดว่ามันพอหรือไง ]“โธ่ ผมไม่ได้โทรหา เพื่อฟังพ่อบ่นน้อยใจหรอกนะ พ่อรู้จักตระกูลโจวใช่ไหม”[ รู้จักสิ มีเรื่องอะไรอีกล่ะ? ]“ถิงลี่หมิงกับโจวจางหมิ่น เคยคบหากันช่วงหนึ่ง จริงจังถึงขั้นแต่งงาน”[ นี่ตระกูลถิงเล่นตลกกับพวกเรางั้นเหรอ! ] คนฟังพูดขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเดือนดาล ลูกชายถอนใจเบาๆ เข้าใจความโกรธของท่านดี“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เธอเลิกกับเขาแล้ว แต่ฝ่ายชายไม่ยอม ตอนนี้เขากำลังคุกคามธุรกิจของตระกูลถิง และอาจจะคุกคามชีวิตเธอด้วย พ่อช่วยส่งคนฝีมือดีไปจับ