ความเสียใจทำให้พราวมุกต้องออกมานั่งปรับทุกข์กับเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวอย่างไอริ คนนึงร้องอีกคนนึงปลอบ คนนึงระบาย อีกคนคอยลูบหลัง...
“ไม่เข้าใจว่ะ ฮึก ฉันผิดมากเหรอวะ?” เธอพยายามที่จะเข้าใจแฟนหนุ่มอย่างทิม แต่ยิ่งพยายามทำความเข้าใจหนักแค่ไหน ก็หาคำตอบเหมือนที่เขาพูดไม่ได้อยู่ดี
“ฉันจะบอกอะไรให้นะพราว คนทำผิดเขาไม่คิดว่าตัวเองทำผิดหรอก ข้อแก้ต่างง่ายๆที่ทำให้แกต้องมาจมปลักแบบนี้มันสมเหตุสมผลที่ไหน?” ไอริถอนหายใจ ถ้าใครฟังก็ดูรู้เลยในทีเดียวว่ามันเป็นเหตุผลที่โคตรจะน่าเกียจ เหตุผลที่เอาแต่ได้ของผู้ชายทั้งนั้น
“ฮึก ฮือๆ ฉันเหมือนจะขาดใจเลยแก ฮือๆ” เสียงร้องไห้ของพราวมุกช่างบาดใจเพื่อนสนิทแบบเธอเหลือเกิน สองแขนเรียวประคองกอดเพื่อนสาวจนแน่น
ไอรินึกถึงภาพที่เห็นทิมกระทำทุกอย่างด้วยความรักให้กับเพื่อนเธอมาตลอด ดีมาตั้งแต่ต้นอย่างไร ตอนนี้ก็ไม่ได้แย่ เขาเปิดตัวของพราวมุกทุกอย่าง โซเซียลไหนไม่มีที่ว่างให้ผู้อื่น แต่มาวันนี้ เพื่อนเธอมาร้องไห้แทบเป็นแทบตาย เพราะความเลว และโยนตราบาปมาให้ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ดูแลเขามาอย่างดีตลอด
“เขาไม่ได้รักแกแล้วพราว ถ้าเขารักแก เขาคงไม่นอกใจ” มือเรียวลูบประคองหลังบางเพื่อนสาว ก้มหน้าซ่อนน้ำตาที่อดจะสงสารเพื่อนไม่ได้ไว้
“ฉันยังไม่อยากเลิกกับเขา” เสียงอู้อี้ของพราวมุกตอบขึ้นมา แม้เพื่อนจะดึงสติเธอแทบทุกอย่างแล้วก็ตาม
“ฉันยอมเป็นหมาเพื่อแกสักครั้งก็ได้ ขอให้อีทิมมันคิดได้และไม่ทำร้ายหัวใจของแกอีก..”
“แต่ฉันจะทำยังไงวะแก เขาก็ดูเหมือนไม่ได้อยากให้ฉันไปไหน ไม่บอกว่าจะเลิก และไม่บอกว่าจะทำยังไงต่อไป ฉันยื่นโอกาสให้เขาแล้วทุกอย่าง แต่ตัวฉันเองที่ไม่สามารถทำใจเรื่องนี้ได้เลย..” ความสั่นเครืออ่อนไหวเจือปนอยู่ในน้ำเสียง
“เอางี้ปะ ลองไปปรึกษาพวกนักจิต หรือพวกจิตแพทย์อะไรงี้ เผื่ออาการจะดีขึ้น” เพราะไอริเองก็ไม่สามารถตอบคำถามมากมายของเพื่อนเธอได้เหมือนกัน
“เดี๋ยวฉันคงโดนหาว่าเป็นคนบ้าอีก” แค่นี้เธอก็สับสนอยู่มากแล้ว หากว่าทิมรู้เข้าคงเป็นเรื่องใหญ่
“งั้นแกเอางี้ปะ ลองเข้าไปหาแอปที่ใช้คุยกับพวกนักจิต หรือแอประบายความในใจไรพวกงี้ จะมีนักจิตคอยฟังและปรับทุกข์ให้อะ ลองดูสิ” เธอเห็นโฆษณามาผ่านๆ อย่างไรเสียก็น่าจะช่วยเพื่อนได้บ้าง
“ฉันจะลองเก็บไปคิดนะ” พราวมุกไม่ได้สนใจอะไรแบบนี้มาก เธอจึงตอบเพื่อนสาวไปแบบนั้น
beer house
เสียงเพลงและความสนุกสนานดังปะทะกันดังกระหึ่ม ร่างชายหญิงต่างพากันโยกย้ายตามจังหวะด้วยความสุขสนุกเฮฮา
แต่ทว่ากลับมีร่างชายหนุ่มบางคนที่เบื่อหน่ายกับความสังสรรค์แบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ไอ้เจย์ วันๆมึงมาเฝ้าร้านให้พ่อมึงเพื่ออะไรวะ กูไม่เห็นมึงจะหิ้วใครกลับเหมือนปีก่อนเลย” เสียงเพื่อนในวงคนนึงทักลูกชายเพียงคนเดียวของเจ้าสัวใจภักดิ์
ผู้มีโรงเหล้า โรงเบียร์นับสิบแห่ง อีกทั้งยังเป็นเจ้าของโชว์รูมรถสปอร์ตอีก
“เบื่อบ้าน” ชรัณตอบกลับด้วยแววตาเบื่อหน่าย เขาแค่ยกแก้วที่มีน้ำสีอำพันขึ้นมากระดกไปวันๆเท่านั้นก็พอแล้ว
“เชี่ย มึงนี่แม่ง อย่างกับคนไม่มีความรู้สึก นกเขาไม่ขันแล้วไงวะ? ฮ่าๆ” เจษ เพื่อนสนิทอีกครั้งเอ่ยแซว ความตายด้านที่อยู่ๆก็เกิดขึ้นมาเป็นปีๆของชรัณทำให้เหล่าชายโสดอย่างเพื่อนๆแปลกใจไม่น้อย
ใบหน้าคมเลิกคิ้วหนาขึ้นเล็กน้อย ความหล่อเหลาในวัยสามสิบยังคงไม่สร่างเลย เห็นใครๆต่างก็บอกเขาว่ายิ่งแก่ยิ่งหล่อไม่เบา แววตาสีอำพันที่ได้จากมารดา บวกกับใบหน้าลูกเสี้ยวจีนนี่มันฟ้าประทานมาให้ชรัณเพียงผู้เดียวชัดๆ
หากเดินมาแต่ไกลคงเป็นเขาที่ได้รัศมีโดดเด่นจนเพื่อนๆต้องยอมหลีกทางให้เลยทีเดียว
“ตั้งแต่ที่มันเห็นสาวหน้าสวยในโรงบาลวันนั้นก็เลิกเป็นคนร่านราคะเลยมั้ง” คีย์พูดกลั้วหัวเราะ
“ร่านราคะพ่อมึงสิ” ชรัณหันมองเพื่อนตาขวาง
“เขาไม่เหมาะกับคนอย่างมึงหรอก เชื่อกู” เจษเสริม
“ไอ้พวกเชี้ยยย กูบอกตอนไหนว่าไปชอบผู้หญิงจืดๆแบบนั้น!” ชรัณเริ่มพูดมากเมื่อเพื่อนพากันรุม
“ก็วันนั้นเห็นเตี่ยมึงบอกว่า มึงหันไปมองเขาคอแทบเคล็ด”
“มึงไปคุยแค่เรื่องรถกับพ่อกูจริงเหรอไอ้คีย์?” เขาละอยากรู้จริงๆ มีเรื่องอะไรบ้างน้อ ที่บิดาจะไม่เอาลูกมาขาย
“คุยเรื่องเด็กที่พ่อมึงออฟไปแล้วโดนมึงแย่งด้วย” คีย์ทำท่าทางนึก
“พอเหอะไอ้เหี้ย” ชรัณรีบยกเหล้าขึ้นมากรอกปากเพื่อนหนุ่มแรงๆไปที
“ฮ่าๆ กูบอกละมึงอย่าไปเล่นกับมัน” เจษหัวเราะเยาะเพื่อนตัวดีเมื่อเห็นสภาพที่ดูไม่ได้ของคีย์
“กูจะกลับละ เบื่อๆ” ชรัณรีบลุกจากโซนนั่งวีไอพี
“เอ้า แล้วเด็กที่กูเรียกมาล่ะ?” เจษพูดขึ้น อุตส่าห์เลือกแต่ตัวท็อปๆมาให้ทั้งนั้น
“ขี้เกียจ เก็บแรงไว้ไปทำงานบ้างนะพวกมึงอ่ะ” พูดจบก็เดินจากไป พร้อมกับทิ้งบัตรเครดิตให้เพื่อนไว้อีกหนึ่งใบ
“ละป๋าด้วยนะ กูละอยากเห็นหน้าผู้หญิงที่ทำให้มันนกเขาไม่ขันจริงๆ” คีย์พูดขึ้น ใบหน้าหล่อตี๋กระตุกยิ้มเมื่อสบตากับเพื่อนสนิทคล้ายๆกับจะมีแผนเล่นอะไรใส่พ่อคนขี้เบื่อ
บ้านเจ้าสัวใจภักดิ์
“อาเจย์ ไหงวันนี้ลื้อกลับไว” ชายวัยกลางคนอายุห้าสิบห้าเอ่ยถามบุตรชายที่เดินเข้ามาในบ้านในเวลาสี่ทุ่ม
“เบื่ออะเตี่ย ไม่มีอะไรสนุกๆ” เขาเหมือนพวกใช้ชีวิตวัยรุ่นจนคุ้ม พอปีนี้ตกมาสามสิบก็เหมือนเบื่อนู่นนั่นนี่ไปหมด
“โอ๊ะ เป็นผู้ชายแท้ๆ โลกยังอีกกว้างนะ” เจ้าสัวบอกลูกชาย
“เตี่ยก็พักบ้างนะครับ ห้าสิบแล้วเดี๋ยวช็อกคาเตียงเพราะเด็กรุ่นลูกหลานเอา” เขาเอามือล้วงกระเป๋าเตรียมจะเดินขึ้นบ้าน ไม่อยากต่อปากต่อคำกับบิดาเท่าไหร่
“ตั้งแต่เห็นอาหนูคนนั้นชีวิตแกก็ดูเปลี่ยนไปเลยนะ เขาก็บอกอยู่ว่าพาแม่แฟนมาหาหมอ ตัดใจเสียเถอะลูกเอ้ย” เจ้าสัวใจภักดิ์มองบุตรชายเพียงคนเดียวด้วยสายตาอ่อนลง
“ผมบอกหรือไง ว่าชอบ?” ชรัณส่ายหัวไปมา เดินก้าวขาขึ้นบ้านไปฉับๆ
อย่ามารู้ดีเลย เขาอดทนมาได้ขนาดนี้แท้ๆ แต่เธอกลับมาสะกิดแผลใจเนี่ยนะ
7 ปีก่อน
ชรัณในวัยยี่สิบสาม มองผู้หญิงบนเวทีด้วยสายตาแทบไม่กะพริบ เขาผู้ไม่เคยพ่ายสายตาให้แก่ใคร วันนี้กลับต้องมามองสาวคนนั้นค้างเติ่ง
“ยินดีกับน้องพราวมุกด้วยนะครับ ที่ได้ตำแหน่งดาวมหาลัยคนใหม่” เสียงพิธีกรประกาศดังลั่น
หญิงสาวที่ชื่อพราวมุกคนนั้นกิริยาท่าทีช่างดูอ่อนหวานและเรียบร้อย กระโปรงทรงเอที่สวมมาประกวดยาวถึงเข่าดูน่ารัก ต่างจากดาวคณะอื่นๆที่นุ่งสั่นพร้อมโชว์เรือนร่างไปแล้ว
“ไหนวะ โชว์วงดนตรีชื่อดัง กูรอจนรากจะงอกแล้วเนี่ย” คีย์พูดติดน้ำเสียงหงุดหงิด
“แม่ง น้องที่เป็นดาวคณะมนุษย์โคตรแจ่ม นุ่งสั้นเสมอหูเลย” เจษไม่เสริมเพื่อนเลยสักนิด ดวงตาเขามุ่งไปแต่สาวผิวขาวผมสีแดงเท่านั้น
“โอ้ย แม่งเด็กปีหนึ่งทั้งนั้น นมแค่นี้เอง กูว่าไปหาเด็กเอ็นมาสักคนสองคนยังจะดีกว่า” คีย์ผู้ที่เน้นสาวไซส์คับซีเริ่มประท้วง
“เอาน่า ดูๆไปก่อน คนที่เป็นดาวนี่ก็เรียบร้อยเกิ้น แต่หน้าตากูให้เต็มล้านอ่ะ มึงว่าไงเจย์?” เจษหันไปสะกิดเพื่อน แต่กลายเป็นว่าเพื่อนเขาตอนนี้มันเหมือนกับคนที่ถูกมนต์สะกดเข้าเสียแล้ว
เสือผู้หญิงที่สาวๆทั้งมหาลัยต่างก็อยากเข้าหา ตอนนี้มาปิ๊งเด็กสาวตัวเล็กหน้าใสอยู่บนเวทีเสียแล้ว
“เอาแล้วไง..” เจษหันมองหน้าคีย์ที่อยู่ข้างๆ
ในสายตาของชายหนุ่มวัยยี่สิบสามตอนนั้นเขาตกหลุมพรางเสน่ห์ของสาวน้อยในวันนั้นเข้าอย่างจัง
และเมื่อปีที่แล้ว เขาก็ได้เจอกับเธออีกครั้งโดยบังเอิญ..
“อาเจย์ ลื้อมองใครนานสองนาน” เจ้าสัวใจภักดิ์เอ่ยถามบุตรชายที่นั่งข้างๆด้วยความสงสัย
“เปล่าเตี่ย ฟังเขาเรียกชื่อเข้าห้องตรวจไปเหอะน่า” ถึงแม้จะเอาหูฟังผู้เป็นพ่อ แต่สายตายังคงจ้องมองหญิงสาวที่กำลังนั่งไขว้ขากดโทรศัพท์อยู่ตรงข้าม
“อีคนนั้นเหรอ?” เจ้าสัวชี้นิ้วไป
“เตี่ย! ออกมาข้างนอกอย่าชี้นิ้วเรียกแบบนี้มั่วซั่ว คนสมัยนี้ยิ่งคิดอะไรแปลกๆอยู่” ชรัณรีบเอามือบิดาลงก่อนจะโวยวายใส่
“อาหนูคนนั้น ตรงสเต๊กแกหรือไง?”
“สเปก”
“เออ นั่นแหละ”
ชรัณพ่นลมหายใจ การมีพ่อวัยห้าสิบกว่าตอนนี้มันรู้สึกเหมือนมีแมงหวี่แมงวันตอมข้างๆหู พูดทุกสองวินาที ให้เงียบหน่อยไม่เคยได้
รู้งี้ไม่น่าบังคับมาในวันที่เขาหยุด ให้มากับคนขับรถพอดี
“อีมากับแม่หรือเปล่า? เข้าไปถามสิ” เจ้าสัวใช้มือสะกิดบุตรชายวัยยี่สิบเก้าเบาๆ
ให้มันได้เมียสักที ทุกวันนี้คนแก่อย่างเขาอยู่ยากขึ้นทุกวัน เอาเด็กมาที เด็กหนีไปวอแวกับลูกชายตลอด
“เตี่ย ถ้าพูดอีอีกคำเราเห็นดีกันแน่” เพราะอะไรไม่รู้ คำว่าอีของพ่อเขากลายเป็นคำหยาบคายทันทีที่เรียกหญิงสาวคนนั้น
“แกนี่ จะเก๊กไปถึงไหนกัน ชอบก็ลุยสิวะ ดูอั๊วไว้เป็นตัวอย่างนะ” เจ้าสัวใจภักดิ์ลุกพรึ่บ เดินตรงไปยังหญิงสาวที่นั่งสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตรงหน้า
ทุกการกระทำของบิดาทำให้บุตรชายเริ่มนั่งไม่ติดที่ เขาไม่น่ามากับตาแก่ลงพุงนี่เล้ยยยย!!
“โอ้ยๆ ตายแล้ว” ชายแก่วัยกลางคนแสร้งทำเป็นเดินเซไปมาคล้ายจะเป็นลม คนที่มีความรู้สึกไวอย่างพราวกมุกจึงรีบเด้งตัวออกมาแล้วประคองเจ้าสัวทันที ด้วยความตกใจ “คุณลุง เป็นอะไรไหมคะ?” น้ำเสียงใสๆที่ฟังดูว่าเป็นห่วงทำให้คนแก่พึงพอใจเป็นอย่างมาก ไอ้ลูกคนนี้นับว่ามันเลือกผู้หญิงได้ดีจริงๆ เสียงใส หน้าสวย แถมมีน้ำใจ เตี่ยคนนี้ให้ผ่านแถมยักโรงเหล้าให้อีกห้าที่ไปเลย “โอยย ตายแล้ว อยู่ๆจะลุกไปเข้าห้องน้ำซักหน่อย หน้าลุงก็มืดขึ้นมา ขอบคุณนะหนูที่มาช่วยประคอง” คนมากเล่ห์เลี่ยมทำเหมือนจะหมดแรงก่อนจะถูกร่างบางพยุงไปนั่งที่เก้าอี้ สายตาคมที่มองมาตลอดยังคงไม่แปรทิศทาง เขาเองก็อยากรู้ว่าพ่อเขาจะเล่นไม้ไหน แม้ทั้งร่างกายจะสั่นรัวไปด้วยความอิจฉาบิดาที่ถูกเธอได้ประคองก็เหอะ “ให้หนูเรียกพยาบาลไหมคะ? ดูท่าคุณลุงอาการไม่ค่อยดี” เธอเองก็รอพรรณีแม่ของทิมอยู่เหมือนกัน อาจจะพอมีเวลาพาคุณลุงท่านนี้ไปได้ “ไม่ๆ อย่าลำบากเลยหนูเอ้ย ลุงแค่นั่งพักสักหน่อยก็หายแล้ว ว่าแต่หนูเถอะยังสาวยังแซ่มาแผนกอายุรกรรมกับใครงั้นหรือ?” เจ้าสัวใจภักดิ์รีบเปิดป
IEJJ : ถ้ากลับไปคบกันอีก แน่ใจเหรอครับ ว่าเขาจะไม่เอาโรคแปลกๆมาติดคุณ? Praw : แต่เขาก็ป้องกันกับเราตลอดนะคะ JJ : แต่เขาไม่ป้องกันกับผู้หญิงคนอื่น พอได้เห็นประโยคถัดมาเธอจี๊ดที่หัวใจจนไปต่อไม่ถูก JJ : ผู้ชายถ้ามันได้นอกลู่นอกทางแล้ว ยังไงก็ไม่กลับมาแน่นอนครับ อาจจะมีบางคนคิดได้ แต่ส่วนใหญ่ถ้าได้ติดสัตว์แล้วไม่ค่อยคิดกันครับ ตรงทุกดอกแล้วบอกว่าจะให้คำปรึกษา.. IE Praw : คุณเจย์อายุเท่าไหร่คะเนี้ย รู้สึกว่าโชกโชนจังเลย? JJ : อายุเป็นเพียงตัวเลขครับ แต่ที่ผมให้คำปรึกษาไปกับ หวังว่าคุณจะรับมันได้ Praw : แต่อันที่จริง เราก็อายุ 27 แล้ว สมควรที่จะไปหางานทำอย่างที่เขาบอกจริงๆนั่นแหละค่ะ ถึงแม้ว่าป้าแท้ๆของเธอจะเปิดร้านขายของในตลาด แต่มันก็คงไม่ได้มีเงินมากมายถึงขนาดจะซื้อคอนโดแบบทิมได้เลย IE JJ : ถ้าอยู่กับผมคุณไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นแน่นอนครับ ผมจะไม่ทำให้คุณต้องอด Praw : คุณถึงขั้นจะเลี้ยงดูฉันเลยเหรอคะ? พราวมุกเผลอยิ้มให้กับข้อความของผู้ชายแปลก
IEJJ : น่าทานเหมือนคนทำเลยครับ *น่ารัก จากที่ส่งไปแบบนั้น ขึ้นเพียงว่าอ่านแล้ว ทำให้หัวใจชายหนุ่มที่จดจ่ออยู่แทบร้อนเป็นไฟ เขาพิมพ์อะไรผิดไปงั้นเหรอ? IE Praw กำลังพิมพ์... จากที่ใจหล่นตอนนี้กลับมาเต้นปกติดังเดิม ใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังโต้ตอบเขากลับ IE&nbs
1 เดือนผ่านไป ใบหน้าสวยตอนนี้เริ่มเอิบอิ่ม แม้ทิมจะกลับมาหาเธอบ้างเป็นบางวันก็ไม่ทำให้พราวมุกตกอยู่ในภวังค์เหมือนดั่งก่อน “วันนี้ทิมกลับไปนอนบ้านแม่นะ เดี๋ยววันเสาร์จะกลับมาหาพราว” เขาเอ่ยคำหวานกระซิบข้างหูแฟนสาว “ได้เลย พราวจะรอทิมนะ ทำอาหารอร่อยๆไว้รอค่ะ” พราวมุกเผยรอยยิ้มสดใส “ขอบใจนะพราว ทิมอยากให้พราวอยู่กับทิมที่นี่ ไม่ไปไหน เป็นตุ๊กตาของทิม อยู่แค่ในห้องนี้ได้ไหม?” คำพูดสุดโรแมนติกออกจากปากแฟนหนุ่มนั้น ยิ่งทำให้พราวมุกใจชื้นมากขึ้น “ได้ พราวรักทิมนะ” ร่างบางเขย่งจุมพิตกับแฟนหนุ่มด้วยความรัก “พราวอย่าลืมกินยาคุมนะ ทิมแตกนอกเมื่อคืน ไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์” เขาชักสีหน้า
3 ทุ่ม IE JJ : ถ้าคุณยังไม่ตอบผมจะโทรไปแล้วนะ JJ โทรหาคุณ พราวมุกขมวดคิ้วมองสายที่สั่นเข้ามา เธอใจสั่นระรัวแปลกใจกับสิ่งที่เขากระทำมากขึ้น ทว่ามือเล็กกลับปัดตัดสายนั้นทิ้ง ไม่ยอมที่จะกดรับ แม้เขาจะติดต่อมาอีกสองสามสายก็ตาม IE JJ : โกรธผมขนาดนั้นเลยเหรอครับ? ผมไม่รู้ว่าทำอะไรผิด แต่ผมทำงานจริงๆ ไม่มีใครครับ
พราวมุกชั่งใจอยู่นานหลังจากที่ปฏิเสธชายหนุ่มไม่ให้มารับ เธอเดินทางมาหาเขาเองยังห้องพักส่วนตัวในโรงแรมดังตามที่เขาบอก ขาสวยเรียวก้าวมาถึงห้องนัดหมาย หัวใจเธอเต้นแรงเหมือนคนโดนผีเข้า จากที่แต่งตัวเรียบง่ายช่วงเย็น กลายเป็นสาวเปรี้ยวสุดเซ็กซี่เมื่อสวมใส่เดรสสีน้ำเงินสายเดียวเข้ารูปมา กลิ่นกลายสาวตอนนี้หอมหวานด้วยกลิ่นดอกแมกโนเลียและผสมคลุกเคล้ากับวนิลา ทำให้พนักงานที่พามาลอบมองร่างกายอันผุดผ่องของเธอมาตลอดทาง คุณเจย์ เขามีเงินมาจองโรงแรมขนาดนี้เพื่อเธอเลยงั้นเหรอ? พราวมุกคิดอยู่ในใจ ก๊อกๆ พนักงานเคาะประตูเป็นมารยาทก่อนจะเปิดให้เธอเข้าไปยังห้องสวีตที่เขาจองมาเป็นพิเศษ&nbs
“ใหญ่ทุกที่!” แววตาคู่สวยเบิกโพลง ยิ่งส่วนนั้นของเขาที่มันตั้งชันชี้หน้าเธอนั่นด้วย “ผมใหญ่นะ คุณไหวไหม?” เขาแกล้งพูดหยอก มือหนารูดความเป็นชายไปมาพร้อมกับกัดปากล่างเอาความเซ็กซี่ เธอจะบ้าตาย นังพราว วันนี้แกตายแน่! ลืมความเจ็บช้ำของทั้งห้าปีไปให้หมด แล้วมาเจ็บกีแค่วันนี้วันเดียวพอ! “ตัวจริงคุณแซ่บกว่าในรูปเยอะ” เธอมองเขาตาละห้อย มือบางลูบไล้เรือนร่างตัวเองด้วยความต้องการเมื่อเห็นเขาจับสไลด์หนอนยักษ์ด้วยตนเอง “แซ่บกว่า ดุกว่า แถมใหญ่กว่าของแฟนคุณไหม?” เขาเลิกคิ้วถาม เอาให้เธอทรมานก่อนที่เขาจะเข้าไปใกล้
ชรัณลืมตาตื่นคนมาอีกทีเป็นเวลาแปดโมงกว่า กลิ่นกายแสนเจือจางคลุกเคล้ากับกลิ่นบุหรี่ที่เขาพ่นควันทิ้งไว้ก่อนหลับเมื่อคืนทำให้รู้สึกได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้ฝันไป ร่างสูงหยัดกายขึ้นมาพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นแผ่นกระดาษที่เขียนข้อความทิ้งไว้บนหมอน ‘ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อคืนนะคะ ฉันสัญญาว่าจะจำไม่ลืม แต่ตอนนี้มีธุระด่วนต้องไปจัดการ ขอโทษที่จู่ๆก็โผล่มาหาทั้งที่ฉันเคยปฏิเสธคุณไป’ “แสบนักนะ” เมื่อนึกถึงร่างเย้ายวนที่พาเขาพานพบความสุขไม่รู้จบเมื่อคืนก็ทำให้ความโกรธเคืองในวันนั้นหดหายไป เขาเริ่มลุกขึ้นมาจัดการตนเองให้เรียบร้อยก่อนจะกดโทรศัพท์ไปยังเลขาคนใหม่ “นายจัดการเรื่อ
ขณะขับรถกลับ ชรัณเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง จู่ๆความเป็นชายของเขาก็แข็งตัวขึ้นมาดื้อๆ กายของชายหนุ่มร้อนผ่าวแถมยังมีเหงื่อไคลไหล่ออกตามลำคอ มือหนาเอื้อมไปเปิดแอร์ถึงระดับสูงสุดก่อนจะขับรถตรงไปยังโรงแรมด้วยความเร็ว ทั้งที่คิดไว้ว่าสองพ่อลูกคงไม่กล้าทำอะไรตอนนี้คาดไม่ถึงอย่างมาก เขาต่างหากที่กำลังตกเป็นหมากของทั้งคู่อย่างแท้จริง “เหี้ยเอ้ย!” ชรัณสถบคำหยาบคายกับตัวเอง รถก็มาติดเอาอะไรป่านนี้ ความรู้สึกของเขาตอนนี้มันแทบระเบิด ร่างกายนั่งอยู่ที่รถแต่ใจวิ่งไปหาพราวมุกเรียบร้อยแล้ว ยามที่นึกถึงร่างระหงโยกย้ายบนตัวความต้องการที่มียิ่งมากขึ้นไปอีก มากจนเขาควบคุมไม่ได้จนต้อง งัดเอาความแข็งทื่อออกมาสู่อากาศภายในรถ เผื่อมันจะดีขึ้นหน่อย&nb
ดวงหน้าสวยลืมตามองคนที่หลับอยู่ข้างๆ เธอได้แต่เก็บความสงสัยว่าทำไมถึงปักใจเชื่อใจเขาขนาดนั้น ทั้งที่เขาปิดบังเรื่องราวส่วนตัวของเขาเองมาตลอด เมื่อคืนเธอกับเขานัวเนียกันไม่ต่างจากคืนแรก หลังจากเธองอแงจะนอนเขาถึงได้ยอมโอนอ่อนและกอดเธอเข้านอนไปด้วยกัน นั่นยิ่งสร้างความสงสัยในใจของพราวมุกไม่น้อย เธออยากรู้จักเขามากกว่า ต้องการเขามากกว่านี้ อยากเข้าไปเป็นส่วนนึงในชีวิตเขา แต่อีกใจก็ยังกลัวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น.. “มองจนผมจะท้องแล้วนะ” เขาลืมตาขึ้นมา ดวงตาสีนิลและสีอำพันเผลอสบกันโดยอัตโนมัติ คนที่ตื่นตระหนกกลับเป็นเธอแทน เขาจ้องมองนัยน์ตาแสนจะนิ่ง&nb
“แกลืมอะไรไอ..” พราวมุกเงียบกินในทันใด เธอมองร่างของทิมที่ตอนนี้สวมเชิ้ตสีขาวคล้ายกับเป็นชุดเจ้าบ่าว ยืนมองหน้าเธอด้วยรอยยิ้มสุดโรคจิต “มึงจะไปไหน!” มือหนากระชากกลุ่มผมดกดำด้วยความแรง ใบหน้าสวยเงยขึ้นด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะปัดป่ายมือเขาออก “ปล่อยฉันนะ!” แม้จะตกใจไม่น้อยแต่พราวมุกก็พยายามที่จะสู้ “ปล่อยก็โง่ กูเฝ้าอุตส่าห์ตามจีบมึงมาตั้งนาน จะหนีไปแบบนี้ดื้อๆเหรอที่รัก?” เขาย่อตัวลงมามองใบหน้าสวยที่ตอนนี้เริ่มหวั่นกลัวเขา “ทิม! พราวเจ็บ” น้ำเสียงเริ่มอ่อนลงเมื่อเห็นเขาย่อเข้ามาใกล้ตัว “ถ
ชรัณลืมตาตื่นคนมาอีกทีเป็นเวลาแปดโมงกว่า กลิ่นกายแสนเจือจางคลุกเคล้ากับกลิ่นบุหรี่ที่เขาพ่นควันทิ้งไว้ก่อนหลับเมื่อคืนทำให้รู้สึกได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้ฝันไป ร่างสูงหยัดกายขึ้นมาพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นแผ่นกระดาษที่เขียนข้อความทิ้งไว้บนหมอน ‘ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อคืนนะคะ ฉันสัญญาว่าจะจำไม่ลืม แต่ตอนนี้มีธุระด่วนต้องไปจัดการ ขอโทษที่จู่ๆก็โผล่มาหาทั้งที่ฉันเคยปฏิเสธคุณไป’ “แสบนักนะ” เมื่อนึกถึงร่างเย้ายวนที่พาเขาพานพบความสุขไม่รู้จบเมื่อคืนก็ทำให้ความโกรธเคืองในวันนั้นหดหายไป เขาเริ่มลุกขึ้นมาจัดการตนเองให้เรียบร้อยก่อนจะกดโทรศัพท์ไปยังเลขาคนใหม่ “นายจัดการเรื่อ
“ใหญ่ทุกที่!” แววตาคู่สวยเบิกโพลง ยิ่งส่วนนั้นของเขาที่มันตั้งชันชี้หน้าเธอนั่นด้วย “ผมใหญ่นะ คุณไหวไหม?” เขาแกล้งพูดหยอก มือหนารูดความเป็นชายไปมาพร้อมกับกัดปากล่างเอาความเซ็กซี่ เธอจะบ้าตาย นังพราว วันนี้แกตายแน่! ลืมความเจ็บช้ำของทั้งห้าปีไปให้หมด แล้วมาเจ็บกีแค่วันนี้วันเดียวพอ! “ตัวจริงคุณแซ่บกว่าในรูปเยอะ” เธอมองเขาตาละห้อย มือบางลูบไล้เรือนร่างตัวเองด้วยความต้องการเมื่อเห็นเขาจับสไลด์หนอนยักษ์ด้วยตนเอง “แซ่บกว่า ดุกว่า แถมใหญ่กว่าของแฟนคุณไหม?” เขาเลิกคิ้วถาม เอาให้เธอทรมานก่อนที่เขาจะเข้าไปใกล้
พราวมุกชั่งใจอยู่นานหลังจากที่ปฏิเสธชายหนุ่มไม่ให้มารับ เธอเดินทางมาหาเขาเองยังห้องพักส่วนตัวในโรงแรมดังตามที่เขาบอก ขาสวยเรียวก้าวมาถึงห้องนัดหมาย หัวใจเธอเต้นแรงเหมือนคนโดนผีเข้า จากที่แต่งตัวเรียบง่ายช่วงเย็น กลายเป็นสาวเปรี้ยวสุดเซ็กซี่เมื่อสวมใส่เดรสสีน้ำเงินสายเดียวเข้ารูปมา กลิ่นกลายสาวตอนนี้หอมหวานด้วยกลิ่นดอกแมกโนเลียและผสมคลุกเคล้ากับวนิลา ทำให้พนักงานที่พามาลอบมองร่างกายอันผุดผ่องของเธอมาตลอดทาง คุณเจย์ เขามีเงินมาจองโรงแรมขนาดนี้เพื่อเธอเลยงั้นเหรอ? พราวมุกคิดอยู่ในใจ ก๊อกๆ พนักงานเคาะประตูเป็นมารยาทก่อนจะเปิดให้เธอเข้าไปยังห้องสวีตที่เขาจองมาเป็นพิเศษ&nbs
3 ทุ่ม IE JJ : ถ้าคุณยังไม่ตอบผมจะโทรไปแล้วนะ JJ โทรหาคุณ พราวมุกขมวดคิ้วมองสายที่สั่นเข้ามา เธอใจสั่นระรัวแปลกใจกับสิ่งที่เขากระทำมากขึ้น ทว่ามือเล็กกลับปัดตัดสายนั้นทิ้ง ไม่ยอมที่จะกดรับ แม้เขาจะติดต่อมาอีกสองสามสายก็ตาม IE JJ : โกรธผมขนาดนั้นเลยเหรอครับ? ผมไม่รู้ว่าทำอะไรผิด แต่ผมทำงานจริงๆ ไม่มีใครครับ
1 เดือนผ่านไป ใบหน้าสวยตอนนี้เริ่มเอิบอิ่ม แม้ทิมจะกลับมาหาเธอบ้างเป็นบางวันก็ไม่ทำให้พราวมุกตกอยู่ในภวังค์เหมือนดั่งก่อน “วันนี้ทิมกลับไปนอนบ้านแม่นะ เดี๋ยววันเสาร์จะกลับมาหาพราว” เขาเอ่ยคำหวานกระซิบข้างหูแฟนสาว “ได้เลย พราวจะรอทิมนะ ทำอาหารอร่อยๆไว้รอค่ะ” พราวมุกเผยรอยยิ้มสดใส “ขอบใจนะพราว ทิมอยากให้พราวอยู่กับทิมที่นี่ ไม่ไปไหน เป็นตุ๊กตาของทิม อยู่แค่ในห้องนี้ได้ไหม?” คำพูดสุดโรแมนติกออกจากปากแฟนหนุ่มนั้น ยิ่งทำให้พราวมุกใจชื้นมากขึ้น “ได้ พราวรักทิมนะ” ร่างบางเขย่งจุมพิตกับแฟนหนุ่มด้วยความรัก “พราวอย่าลืมกินยาคุมนะ ทิมแตกนอกเมื่อคืน ไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์” เขาชักสีหน้า
IEJJ : น่าทานเหมือนคนทำเลยครับ *น่ารัก จากที่ส่งไปแบบนั้น ขึ้นเพียงว่าอ่านแล้ว ทำให้หัวใจชายหนุ่มที่จดจ่ออยู่แทบร้อนเป็นไฟ เขาพิมพ์อะไรผิดไปงั้นเหรอ? IE Praw กำลังพิมพ์... จากที่ใจหล่นตอนนี้กลับมาเต้นปกติดังเดิม ใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังโต้ตอบเขากลับ IE&nbs