“ใหญ่ทุกที่!” แววตาคู่สวยเบิกโพลง ยิ่งส่วนนั้นของเขาที่มันตั้งชันชี้หน้าเธอนั่นด้วย
“ผมใหญ่นะ คุณไหวไหม?” เขาแกล้งพูดหยอก มือหนารูดความเป็นชายไปมาพร้อมกับกัดปากล่างเอาความเซ็กซี่
เธอจะบ้าตาย
นังพราว วันนี้แกตายแน่!
ลืมความเจ็บช้ำของทั้งห้าปีไปให้หมด แล้วมาเจ็บกีแค่วันนี้วันเดียวพอ!
“ตัวจริงคุณแซ่บกว่าในรูปเยอะ” เธอมองเขาตาละห้อย มือบางลูบไล้เรือนร่างตัวเองด้วยความต้องการเมื่อเห็นเขาจับสไลด์หนอนยักษ์ด้วยตนเอง
“แซ่บกว่า ดุกว่า แถมใหญ่กว่าของแฟนคุณไหม?” เขาเลิกคิ้วถาม เอาให้เธอทรมานก่อนที่เขาจะเข้าไปใกล้
“เรื่องใหญ่ฉันไม่เถียง แต่เรื่องดุ.. ต้องลองก่อน” เรียวปากแดงยกยิ้มแสนเย้ายวน
ไม่น่าเชื่อ สายตาของชรัณจะมองผิดไป นี่มันแม่เสือสาวชัดๆ ไม่ใช่แมวน้อยสุดเชื่องเหมือนที่เคยวาดฝันเอาไว้เลยสักนิด
“ถ้างั้นอย่าส่งเสียงดังไปนะครับ” มือหนาหยิบเอาซองสีเงินขึ้นมาก่อนจะใช้ปากฉีก
“คุณจะไม่บอกใครเรื่องของเราใช่ไหม?” เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาอย่างแหบแห้งเมื่อเห็นท่าทางสุดร้ายกาจของเขา
ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายเมื่อเห็นเรือนร่างจริงของชายหนุ่มตรงหน้า
“ถ้าคุณสั่งผม ผมจะไม่พูด” ร่างกำยำโน้มตัวลงมาใกล้ชิดกับความนุ่มนิ่มของร่างบาง มือหนาลูบไล้ส่วนเว้าโค้งของหญิงสาวอย่างช้าๆ หวังปลุกเร้าอารมณ์คนขี้สงสัย
“ฉันยังไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราแอบมาทำอะไรกันแบบนี้..”
ริมฝีปากหนารีบประกบปากบางทันทีเมื่อเธอเอ่ยปากขึ้น มือข้างหนึ่งตรึงข้อมือเล็กๆของเธอไว้บนเหนือหัวก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากเธออย่างเอาแต่ใจก่อนจะค่อยๆปล่อยให้เธอเป็นอิสระเมื่อเสียงลมให้หายเริ่มหอบขึ้น
“อันที่จริงผมก็ไม่ใช่คนชอบแอบทำอะไรแบบนี้ แต่เพราะเป็นคุณ ผมยอม” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยกระซิบข้างหู
ลมหายใจอุ่นร้อนเริ่มเป่ารดใบหูขาวๆของพราวมุก หัวใจของเธอไหวสั่นกับชายหนุ่มแววตาสีอำพันตรงหน้า เขาช่างเย้ายวนและมีเสน่ห์เหลือล้น
เขาจะโสดจริงๆงั้นหรือ?
“เชื่อใจผมนะ” เขาไม่บอกใครแน่นอน เพราะต่อไปหลังจากนี้เธอเองนั่นแหละที่อยากจะครอบครองเขาเพียงผู้เดียว...
“เจย์ ฉันอยากมีอะไรกับคุณจนใจจะขาดอยู่แล้ว!” ไม่รู้ว่าเพราะความแค้นของเธอหรือความคิดถึงเขาที่ทำให้แม่สาวเรียบร้อยเอ่ยออกมาอย่างงั้น
“ถ้าอยากขนาดนั้น ผมจะเยคุณให้หนำใจอยากเลยครับ ที่รักของผม”
มือหนาประคองความแข็งขืนที่สวมคอนดอมไซส์ใหญ่มาจ่อหน้าปากถ้ำฉ่ำแฉะ
เขากดเขาใหญ่โตของตนเองไปจนถึงกลางลำก่อนจะขบกรามด้วยความเสียว
“อ๊า คุณเจย์ มันใหญ่เกินไป ฮื้อ!” ร่างบางพยายามขยับหนี
แต่ทว่ามือหนากลับช้อนเข้าที่ใต้ก้นกลม ตรึงมันไว้แน่นพร้อมกับกดกระแทกลงไปทีเดียวมิดลำ
“อ๊ายย!!” พราวมุกกรีดลั่นห้อง เธอตาลีตาเหลือกจากการโดนกระแทกด้วยความแรง
จู่ๆน้ำใสๆก็พุ่งออกมาจากช่องทางรัก บ่งบอกให้รู้เลยว่าเธอเสียวจนฉี่แตก
“งูยักษ์เข้าไปในถ้ำแล้ว จู่ๆน้ำตกก็ไหลอาบซะงั้น” เขากระซิบ
สะโพกสอบเริ่มขยับเบาๆ ส่วนมือที่ว่างก็ยกมันขึ้นมาขยี้เม็ดสวาทของร่างบางด้วยความอ่อนโยน
“อืมมม คุณเจย์ พราวเสียว” เธอหลับตาปี๋
เกิดมาคิดว่าจะมีแฟนคนเดียวมาตลอด ตอนนี้เธอคิดผิด เธอรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้ตัวเองอยากครอบครองเพียงชรัณคนเดียว ไม่ต้องการผู้ชายที่ชื่อทิมอีกต่อไป
“เสียวตรงไหนครับที่รัก บอกหน่อย” เอวหนาค่อยๆขยับไปมา ใบหน้าหล่อเหลาตอนนี้ดูเจ้าเสน่ห์ไม่น้อย
หากถามว่าเขามีเมียแล้วทำเธอจะทำใจตัดจากเขาได้ทันทีไหม?
ตอบได้เลยว่าไม่
“เรียกที่รักแบบนี้ อ๊ะ เดี๋ยวแฟนคุณจะรู้ อื้ออ!”
ปากบางๆไม่ชอบอยู่เป็นสุขนักก็ต้องโดนเขาฉกชิม ชอบยัดเยียดเมียให้เขาอยู่ได้!
“พูดแบบนี้ก็สวย” มือหนาดึงท่อนเนื้อแข็งๆออกมาจากร่องเล็กด้วยความรวดเร็ว เขาดึงถุงยางสีใสๆออกก่อนจะกดมันลงสู่ความอ่อนนุ่มแบบสดๆ
“คุณเจย์!” พราวมุกแทบอยากหยุด เธอไม่กล้ามีอะไรกับใครสดๆแบบนี้ ถึงเขาจะหล่อและทำให้เธอหวั่นไวได้ก็ตาม
“ตอนนี้คุณเป็นเมียผมโดยสมบูรณ์แบบ”
และอย่าได้คิดที่จะหนีจากเขาไปเป็นอันขาด
“ฉันกลัว” เธอส่ายหัวไปมารัวๆ
“ผมไม่ได้เอาใครมาปีนึงเต็มๆเพราะคุณ ให้ผมเอาคุณจนกว่าจะพอใจได้ไหม? ถ้าต้องการอะไรผมยอมหมด”
เขาถูกตราหน้าจากเพื่อนว่านกเขาไม่ขัน ตอนนี้มันตื่นจนตึง ขอพ่นพิษใส่กายสาวให้ชุ่ม รับรองว่าไม่งอแงแน่นอน
“คุณพูดจริงเหรอคะ?” ดวงตาคู่สวยตอนนี้เหมือนกระต่ายน้อยที่กำลังตกใจกลัว แต่ก็พยายามใจดีสู้เสือเข้าไว้
“ครับ ให้ผมกระแทกร่องคุณหนักๆ ให้ผมเอาคุณให้สาแก่ใจ คุณอยากได้งูผมไม่ใช่เหรอ?” เอวหนาหมุนควงจนเธอเผลอร้องคราง
“ฉะ ฉันอยากได้งูคุณมากระแทกแรงๆ เอาฉันแรงๆ”
คำตอบนั้นทำให้ชรัณเผยรอยยิ้ม เขาคว้าลำคอระหงบีบมันเบาๆ
“ร่านแค่กับผมคนเดียวพอ คนอื่น หรือแฟนเก่า ห้ามทำแบบนี้นะ” สะโพกสอบกระแทกแก่นกายเข้าสู่ช่องทางเปียกชื้นไม่ยั้ง เขาไม่กลัวเลยว่าคนใต้ร่างจะจุกเพราะความอลังการของเขาแค่ไหน
รู้อย่างเดียว แม่กระต่ายน้อยตัวนี้ต้องถูกเขาขบกินจนกว่าจะพอใจ
“คุณเจย์ อ๊า ได้โปรด.. แรงอีก!” ความต้องการไม่มีที่สิ้นสุดของพราวมุกทำให้ชรัณต้องยอมพลีแรงกายกระแทกจนร่างเล็กสั่นคลอน ท่าเดียวเขาใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง จนคนตัวเล็กเสร็จสมไปแล้วหลายรอย
“อ๊า ใหญ่ อื้อ! สุดยอด” ขาสวยอ้าออกพร้อมกับแอ่นสะโพกรับแรงกระแทก
ดวงตาคู่สวยไม่ลืมขึ้นมามองสักนิด
“เสียวถึงใจไหมครับ?” เสียงแหบพร่าทำให้พราวมุกลืมตามองใบหน้าที่โน้มมาใกล้
“พราวอยากให้คุณเสร็จข้างใน” ดวงตาเว้าวอนนั้นทำให้ความเสียวเกิดขึ้นภายในกายเขามากขึ้น
ความแน่นและปวดหนึบเริ่มไปจ่อที่แก่นกายอันใหญ่โตของเขาทันควัน
“อยากเป็นเมียผมแล้วใช่ไหม?” ชรัณวางมือลงบนหน้าอกอวบก่อนจะขยำมันระบายความเสียว
“แค่มีอะไรกับคุณเพียงแค่นี้ก็เป็นที่สุดของฉันแล้วค่ะ” เธอยิ้มแพรวพราว
ในสมองเธอตอนนี้นึกถึงนิยายที่เคยอ่าน ขโมยน้ำเชื้อเอาลูกเผื่อภายภาคหน้าหาหล่อแบบนี้ไม่ได้อีก!
“อ๊า คุณพราว อย่าตอดแน่นแบบนี้สิ” ยิ่งเขาใกล้สุขสมขาเรียวยิ่งเกี่ยวตวัดเอวสอบไว้แน่น
“ให้แตกได้จริงงั้นเหรอ?” เขายังถามเพื่อความแน่ใจ
“อื้อ ขอลึกๆนะคะ” นิ้วชี้ของพราวมุกค่อยๆเขี่ยหัวนมชมพูอมแดงของเขาไปมาเบาๆ
“อ๊า สุดยอด!” สะโพกสอบกดเอาความเป็นชายดันไปจนลึกสุดโคน
ปลดปล่อยสายธารสีขุ่นเข้าสู่กายสาวทุกหยาดหยด ซึ่งมันเยอะจนเขาเองก็พลอยตกใจไปด้วย เพราะล้นออกจากช่องทางรักของเธอทั้งที่ยังแช่ความเป็นชายไว้อยู่
“คุณเจย์” วงแขนเล็กๆโอบรอบคำคอชายหนุ่มไว้ ขาเรียวกอดเกี่ยวเอวสอบไว้แน่น อีกทั้งยังจู่โจมจูบเขาก่อนอีกด้วยความไม่ประสา
“หืมม” ชรัณพึงพอใจไม่น้อย เขาคิดว่าความอ่อนหวานจะทำให้เธอเงียบลง และบอกเขาให้พอ จากนั้นมาร้องไห้รู้สึกผิด
ที่ไหนได้แม่เสือสาวขอเป็นคนคุมเกมส์ต่อไปโดยการผลักร่างใหญ่กำยำของเขาให้นอนลงรอรับการขย่มจนเขาแตกคาร่องสวาทเธอไปอีกหลายรอบ
ไม่รู้ว่าตอนนี้ใครติดใจใครกันแน่ กว่าแม่เสือสาวจะสงบก็เล่นเอาเขาหมดแรงไปเยอะและน้ำไม่น้อย
พอเธอหลับปุ๋ย น้ำสีขุ่นก่อนค่อยๆไหลออกมาตามเรียวขางาม สุดท้ายก็ต้องเป็นเขาที่คอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เธอ
“ไอ้ทิม! ไอ้เวร!” เสียงละเมอดังขึ้นมาระหว่างที่วงแขนกำยำกำลังจะเข้าไปสวมกอด
“เดี๋ยวมันจะได้เจอกับของจริง ไม่ต้องกลัวนะครับ สุดที่รักของผม”
เพราะตอนนี้พราวมุกเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ หมาตัวผู้ที่ไหนก็ไม่สามารถมาแหงนมองเธอได้อีก
เจ้าหญิงที่น่ารักของชรัณ จะต้องอยู่เคียงคู่เขาตลอดไป!
ชรัณลืมตาตื่นคนมาอีกทีเป็นเวลาแปดโมงกว่า กลิ่นกายแสนเจือจางคลุกเคล้ากับกลิ่นบุหรี่ที่เขาพ่นควันทิ้งไว้ก่อนหลับเมื่อคืนทำให้รู้สึกได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้ฝันไป ร่างสูงหยัดกายขึ้นมาพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นแผ่นกระดาษที่เขียนข้อความทิ้งไว้บนหมอน ‘ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อคืนนะคะ ฉันสัญญาว่าจะจำไม่ลืม แต่ตอนนี้มีธุระด่วนต้องไปจัดการ ขอโทษที่จู่ๆก็โผล่มาหาทั้งที่ฉันเคยปฏิเสธคุณไป’ “แสบนักนะ” เมื่อนึกถึงร่างเย้ายวนที่พาเขาพานพบความสุขไม่รู้จบเมื่อคืนก็ทำให้ความโกรธเคืองในวันนั้นหดหายไป เขาเริ่มลุกขึ้นมาจัดการตนเองให้เรียบร้อยก่อนจะกดโทรศัพท์ไปยังเลขาคนใหม่ “นายจัดการเรื่อ
“แกลืมอะไรไอ..” พราวมุกเงียบกินในทันใด เธอมองร่างของทิมที่ตอนนี้สวมเชิ้ตสีขาวคล้ายกับเป็นชุดเจ้าบ่าว ยืนมองหน้าเธอด้วยรอยยิ้มสุดโรคจิต “มึงจะไปไหน!” มือหนากระชากกลุ่มผมดกดำด้วยความแรง ใบหน้าสวยเงยขึ้นด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะปัดป่ายมือเขาออก “ปล่อยฉันนะ!” แม้จะตกใจไม่น้อยแต่พราวมุกก็พยายามที่จะสู้ “ปล่อยก็โง่ กูเฝ้าอุตส่าห์ตามจีบมึงมาตั้งนาน จะหนีไปแบบนี้ดื้อๆเหรอที่รัก?” เขาย่อตัวลงมามองใบหน้าสวยที่ตอนนี้เริ่มหวั่นกลัวเขา “ทิม! พราวเจ็บ” น้ำเสียงเริ่มอ่อนลงเมื่อเห็นเขาย่อเข้ามาใกล้ตัว “ถ
ดวงหน้าสวยลืมตามองคนที่หลับอยู่ข้างๆ เธอได้แต่เก็บความสงสัยว่าทำไมถึงปักใจเชื่อใจเขาขนาดนั้น ทั้งที่เขาปิดบังเรื่องราวส่วนตัวของเขาเองมาตลอด เมื่อคืนเธอกับเขานัวเนียกันไม่ต่างจากคืนแรก หลังจากเธองอแงจะนอนเขาถึงได้ยอมโอนอ่อนและกอดเธอเข้านอนไปด้วยกัน นั่นยิ่งสร้างความสงสัยในใจของพราวมุกไม่น้อย เธออยากรู้จักเขามากกว่า ต้องการเขามากกว่านี้ อยากเข้าไปเป็นส่วนนึงในชีวิตเขา แต่อีกใจก็ยังกลัวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น.. “มองจนผมจะท้องแล้วนะ” เขาลืมตาขึ้นมา ดวงตาสีนิลและสีอำพันเผลอสบกันโดยอัตโนมัติ คนที่ตื่นตระหนกกลับเป็นเธอแทน เขาจ้องมองนัยน์ตาแสนจะนิ่ง&nb
ขณะขับรถกลับ ชรัณเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง จู่ๆความเป็นชายของเขาก็แข็งตัวขึ้นมาดื้อๆ กายของชายหนุ่มร้อนผ่าวแถมยังมีเหงื่อไคลไหล่ออกตามลำคอ มือหนาเอื้อมไปเปิดแอร์ถึงระดับสูงสุดก่อนจะขับรถตรงไปยังโรงแรมด้วยความเร็ว ทั้งที่คิดไว้ว่าสองพ่อลูกคงไม่กล้าทำอะไรตอนนี้คาดไม่ถึงอย่างมาก เขาต่างหากที่กำลังตกเป็นหมากของทั้งคู่อย่างแท้จริง “เหี้ยเอ้ย!” ชรัณสถบคำหยาบคายกับตัวเอง รถก็มาติดเอาอะไรป่านนี้ ความรู้สึกของเขาตอนนี้มันแทบระเบิด ร่างกายนั่งอยู่ที่รถแต่ใจวิ่งไปหาพราวมุกเรียบร้อยแล้ว ยามที่นึกถึงร่างระหงโยกย้ายบนตัวความต้องการที่มียิ่งมากขึ้นไปอีก มากจนเขาควบคุมไม่ได้จนต้อง งัดเอาความแข็งทื่อออกมาสู่อากาศภายในรถ เผื่อมันจะดีขึ้นหน่อย&nb
พราวมุกลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบเย็น เธอค่อยๆขยับเรือนกายหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ แต่ทว่าพื้นที่ข้างๆเธอกลับว่างเปล่าไร้เงาของชายหนุ่ม เขาหายไปตั้งแต่ตอนไหน? มือบางค่อยๆยันร่างกายที่ปวดหนึบลุกขึ้นมานั่ง เมื่อคืนเขาเล่นเอาไม่ให้เธอได้พักเหนื่อยเลยแม้แต่นิด ไม่รู้ว่าโดนยาตัวไหนมาถึงได้เป็นม้าดีดทั้งวันทั้งคืนขนาดนั้น ยิ่งพูดพราวมุกยิ่งปวดหัว ไอ้คนบ้านั่น ทำให้ร่างกายของเธอไม่มีความสุข ร่างระหงลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำความสะอาดร่างกายของตนเองด้วยความทุลักทุเล หลังจากที่ทำให้ตัวเองสะอาดเสร็จ ก็เดินตรงดิ่งมายังครัวทันที หวังว่าตู้เย็นนี้จะมีสิ่งของที่เธอสามารถกินได้ แต่ทว่าหางตากลับหั
เจษถูกลากขึ้นรถยนต์ยี่ห้อแพงด้วยชั่วเวลาพริบตาเดียว เขาเป็นตำรวจมาหลายปี แต่ไม่เคยถูกจับขึ้นรถมาแบบงงๆอย่างครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ “เดี๋ยวนะครับ นี่คุณจะพาผมไปไหน?” “ตามที่เราตกลงกันไว้ไงคะ?” เสียงใสเอ่ยตอบ เหยียบจนแทบมิดไมล์ “หา? ผมไปตกลงอะไรกับคุณตอนไหน?” เจษขมวดคิ้วมองทางสลับเข้ากับใบหน้านวล “ฉันรู้ค่ะ ว่าตัวจริงของฉันมันสวยกว่าในรูปมาก แต่ฉันก็ไม่คิดจะรังเกียจคุณเลยนะคะ” พูดไปก็หันหน้ารถเข้ามายังโรงแรมแห่งหนึ่ง “เฮ้ย! นี่คุณกะจะพาผมมาทำอะไรเนี่ย?” เจษโวยวายลั่นรถเมื่อเห็นเธอเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูด แถมยังเข้าสู่ห้องที่มีพนักงานรอเรียบร้อย&n
“คุณเจย์จะพาไปไหนเหรอคะ?” พราวมุกมองทางที่ไม่คุ้นชินเมื่อเขาพาออกมาจากโรงแรมตั้งแต่เช้าตรู่ “บ้านใหม่ของเรา” ชรัณเลี้ยวหัวรถเข้าไปยังคอนโดหลังใหม่ เขาเฟ้นหาทั่วทั้งกรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัยของพราวมุกโดยเฉพาะ อีกทั้งที่นี่ยังสะดวกสบายเดินทางง่ายแม้ไม่มีรถส่วนตัว เพราะติดกับรถไฟฟ้า รถขนส่งสาธารณะ รถคันเก่าของทิมที่ซื้อให้เธอขับอยู่ทุกวันนั้น ชรัณห้ามเธอขนกลับมาด้วยเรียบร้อย “บ้านของเรางั้นเหรอคะ?” นี่เขาล้อเล่นอะไรอยู่กันแน่ คอนโดเนี่ยนะเรียกบ้านของเรา แน่จริงก็พาเธอไปอยู่ในบ้านเลยสิ ถ้าไม่กลัวคนที่บ้านว่า! “อื
หลังจากที่มาอยู่กับไอริได้หนึ่งเดือนกว่าแล้ว ทั้งสองสาวก็ร่วมงานก้นได้ดี เพราะอีกคนหาเงิน ด้วยความสามารถ และอีกคนช่วยจัดตารางเล็กไปน้อยๆ แถมงานบ้านไม่ขาดอีก “เฮ้อ~” พราวมุกถอนหายใจที หาวทีเกือบตลอดทุกห้านาที “ง่วงก็ไปนอน” ไอริขำเบาๆ “ง่วงอะไร แค่นี้เอง ปกตินอนได้ยันตีสองตีสาม” มองเวลาแค่สองทุ่มก็ยิ่งรู้สึกง่วงแล้ว “อ้อจ้า แม่คนเก่ง ช่วงนี้แกยุ่งมากเลย ต้องรับงานจากผู้จัดการฉันมาทำด้วย” ไอริวางงานลงก่อนจะยิ้มกว้างให้เพื่อน “ฉันไม่อยากอยู่เฉยๆหรอกย่ะ เอาเป็นว่าช่วงนี้ฉันช่วยได้จะช่วย เก็บเงินสักหน่อยนึงกลับบ้านไปหาป้า งานที่นู่นน่าจะดีกว่า”
ร่างระหงสวมชุดเจ้าสาวกี่เพ้าสีแดงตามประเพณีของบ้านเจ้าบ่าว เธอมองชุดที่ขับสีผิวตนเองด้วยความปลื้มใจ แม้ว่าตอนเช้าจะไม่ได้สวมชุดไทยตามที่สาวๆหลายคนหมายปอง แต่เธอก็ได้เป็นเจ้าสาวที่ถือว่ามีความสุขที่สุด “มะม๊าขา” เสียงเด็กหญิงตัวน้อยเรียกมารดาของตนเองดังขึ้น เมื่อเห็นเธอดกำลังเหม่อมองตัวเองในกระจก “เฟิ่งของม๊า วันนี้น่ารักมาเลยค่ะ” พราวมุกลูบแก้มเด็กหญิงวัยสามขวบด้วยความเอ็นดู “ปะป๊ามาแล้ว” เสียงเล็กๆบอกมารดาพร้อมกับคลอเคลีย ร่างเล็กๆที่สวมกี่เพ้าเหมือนกับมารดาทำให้เธอหยิกแก้มยุ้ยๆด้วยความหมั่นเขี้ยว “โอเคค่ะ เฟิ่งไปรอปะป๊านะคะ” มือบางลูบหัวนุ่มลื่น
หลังจากที่ชรัณรู้ตัวคนก่อการเรื่องของพริ้งพราว เขาก็ไม่อยู่นิ่ง รีบมาฟาดเพื่อนหนุ่มที่สถานนีตำรวจด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว “ไอ้เหี้ยเจย์!” เจษฎากรสารวัตรหนุ่มลูบหัวตัวเองปอยๆพร้อมกับมองเหลือบสายตามองไปยังนอกห้องว่ามีใครเห็นหรือไม่ที่เขาโดนเพื่อนมาเขกกะบาล “มึงสิเหี้ย ไปทำคนเขาท้องไม่รับผิดชอบ” น้ำเสียงบ่งบอกว่าหงุดหงิด เกือบเขาซวยไปด้วยแล้วไหมล่ะ “กูหาตัวแม่นั่นไม่เจอ!” เขาใช้มือเคาะโต๊ะย้ำๆเป็นการเตือนเพื่อน “กูเจอแล้ว” ชรัณนั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามของเพื่อนรัก ถอนหายใจยาวเหยียดขณะที่อีกคนตื่นตาเพ่งมาที่เขา “ใคร??” เจษฎากรตาโตหูตั้งขึ้นมาทันที
“ที่นี่ใช่บ้านเจ้าสัวใจภักดิ์ไหมคะ?” เสียงใสเอ่ยถามแม่บ้านที่วิ่งมาต้อนรับแขก “ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงมาหาใครคะ?” แม่บ้านวัยชราเอ่ยถามด้วยน้ำเสียเป็นมิตร “ถ้าไม่เป็นการรบกวน ช่วยเรียนคุณเจย์ลูกเจ้าของบ้านว่ามีเพื่อนมาหาได้ไหมคะ?” พราวมุกพูดเสียงเบา “ให้เรียนว่าเพื่อนชื่ออะไรดีคะ?” “พราวค่ะ” “ได้เลยค่ะ รอสักครู่นะคะ” แม่บ้านวัยกลางคนเดินเข้าบ้านก่อนจะออกมาในเวลาต่อมา “เชิญคุณพราวไปรอด้านในก่อนค่ะ”&n
1 เดือนต่อมา “เปิดร้านอาหารตามสั่งที่บ้านก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย” พราวมุกยืนยิ้มให้กับผลงานใหม่ของตนเอง เธอได้ก่อสร้างร้านเล็กๆที่หน้าบ้าน ติดป้ายไวนิลประกาศบอกว่ามีอาหารตามสั่งและข้าวแกงรสชาติดั้งเดิมของป้าภา ก็มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาแต่เช้าแล้ว “สองแฝดพายายทำกำไรได้งามทุกอย่างเลยนะ” จันทราภาวางมือลงบนหน้าท้องโตๆของหลานสาว “หลานๆอยากให้คุณยายมีขาเทียมไวๆเลยต้องรีบหาทางทำงานช่วยแม่จ้ะ” ใบหน้าสวยเปื้อนยิ้มมองหน้าท้องสลับกับหญิงพิการ “อดใจไม่ไหว อยากเจอหน้าหลานๆแล้ว” คนมากอายุยิ้มกว้าง&nbs
“คุณเจย์ไม่มาแล้วเหรอพราว?” จันทราภาเอ่ยถามหลานสาวที่ขับรถอยู่ พราวมุกตั้งแต่ออกจากบ้านก็ไม่เอ่ยคำพูดใดเลย เอาแต่นิ่งเงียบมาตลอดทาง เขาบอกไม่ใช่หรือไงว่าจะไปโรงพยาบาลด้วยเหตุใดถึงไม่มีแม้แต่วี่แววสักนิด? “ไม่จ่ะป้าภา เขาติดงานด่วน” เธอตอบสั้นๆ แล้วตั้งใจขับรถต่อไป หลังจากตื่นมาก็ไม่เจอชรัณเลยแม้แต่เงา เธอนั่งรอคิดว่าเดี๋ยวเขาหายโกรธก็คงกลับมาตอนเช้าๆ แต่รอจวนจะแปดโมงแล้วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา เธอจึงตัดสินใจมากับจันทราภาเพียงสองคน พราวมุกพาจันทราภาเข้ามาตรวจสุขภาพตั้งแต่เช้าจนบ่าย พอเสร็จทุกอย่างแล้วจึงพาคนป่วยเดินทางกลับบ้าน แต่พอถึงบ้านใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอมอง
ดวงตาคู่สวยค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมามองรอบๆห้องนอนของตนเอง เธอขมวดคิ้วยุ่ง แปลกใจที่ตนเองขึ้นมายังห้องนอนได้ยังไง? “ตื่นแล้วเหรอครับ?” ประตูบานเล็กเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างสูงที่ถือแก้วนมมาให้ “คุณเจย์” เสียงสะลึมสะลือเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าห้อง เธอมองแก้วนมที่เขาใส่มาก่อนจะเบิกตาโต เพราะว่านมที่ชรัณถือมันคือนมผงสำหรับคนท้องที่ต้องกินก่อนนอนเท่านั้น “คุณต้องดื่มนี่ทุกวันถูกไหม?” เขานั่งลงมองใบหน้าที่แตกตื่นของเธอ มือหนายกแก้วขึ้นมาก่อนจะยิ้มบางๆ “อันนี้.. คุณไปชงมาจากไหนคะ?” พราวมุกเอียงหน้ามอง ทำตาใสแจ๋วอย่างมึนงง
ชรัณเดินทางไปกลับบ้านของพราวมุกและโรงแรมของตนเองทุกวัน วันไหนที่งานเขาไม่เยอะเขาก็สามารถปลีกตัวออกไปยังร้านขายแกงของพราวมุกได้ ส่วนวันไหนที่ลูกค้าสำคัญมาเขาก็ต้องเร่งทำยอดไว้เสียก่อน แต่นี่ผ่านมาสามวันแล้วที่เขาไม่ได้เข้าไปหาเธอเลย หลังจากที่ป้าของพราวมุกออกจากโรงพยาบาล เขาก็ได้ช่วยพราวมุกในหลายๆอย่าง และช่วงนี้เธอเองก็ดูไม่ค่อยสู้ดี แม้เขาจะเป็นห่วงแค่ไหน หาคนมาช่วยฟรีๆเธอก็ไม่เอา ชรัณมองเหล่าพนักงานที่วิ่งวุ่นกันทั้งวันเนื่องจากมีลูกค้ารายใหญ่หลายเจ้าเข้ามา เขามองดูนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบสองทุ่มเข้าให้แล้วด้วย “วันนี้ลูกค้าหมดแล้วครับ คุณเจย์จะกลับเลยไหม?” ธีร์ถามเจ้านายที่นั่งจ้องเอกสารตรงหน้า “อ่า อื้ม ครับ เดี๋ยวผมไปที่อื่นต่อ” เข
“นี่น่ะเหรอครับ?” ชรัณมองข้าวของที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยสายตาแปลกใจ ถูกเรียกให้ออกมาตั้งแต่ตีสาม สวมเสื้อกันเปื้อนพร้อมอุปกรณ์ทำครัวเสร็จสรรพ “ค่ะ ช่วงนี้ป้าของฉันท่านยังต้องพักผ่อน ส่วนฉันก็ไม่อยากเสียค่าจ้างคนงาน เพราะงั้น นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำ ฉันเขียนมันไว้ที่กระดาษแผ่นนี้เรียบร้อย” มือบางหยิบกระดาษที่ว่าวางใส่มือหนา ชรัณรีบเปิดออกดู ก่อนจะตาเบิกโพลง เพราะมันไม่ใช่กระดาษธรรมดา แต่มันแผ่นใหญ่เกินกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก “ตื่นเช้าเวลาตีสาม มาช่วยทำกับข้าว มีหน้าที่เตรียมวัตถุดิบและเป็นลูกมือห่างๆ เจ็ดโมงจัดเรียงข้าวของขึ้นบนรถ แปดโมงตั้งโต๊ะขายกับข้าวเช้า สิบโมงเก็บของกลับบ้าน สิบเอ็ดโมงเตรียม
หลังจากที่จันทราภาฟื้นได้สติ เธอก็แปรเปลี่ยนจากคนใจเย็นเป็นคนขี้หงุดหงิด วันแรกๆทำให้พราวมุกเหนื่อยและใช้แรงกายไปเยอะมากทั้งอาการแพ้ท้องและดูแลคนป่วย เธอแทบไม่ได้พัก แต่หลังจากที่ผ่าตัดได้ถึงสัปดาห์อารมณ์ของคนป่วยก็เริ่มคงที่ลง ตอนนี้จันทราภาไม่ต่างจากไม้ใกล้ฝั่ง เธอนอนมองพื้นเพดานและมองคนรอบข้างที่ได้ออกจากโรงพยาบาลและเข้ามาใหม่ไม่ซ้ำหน้า “ป้าภาคะ วันนี้พราวซื้อเงาะมาให้ด้วย กินซักหน่อยนะคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นเงาะที่แกะเมล็ดแล้วให้แก่คนป่วย จันทราภาเพียงเหลือบมองแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ที่ยอมอ้าปากแต่โดยดี “พร