พราวมุกชั่งใจอยู่นานหลังจากที่ปฏิเสธชายหนุ่มไม่ให้มารับ เธอเดินทางมาหาเขาเองยังห้องพักส่วนตัวในโรงแรมดังตามที่เขาบอก
ขาสวยเรียวก้าวมาถึงห้องนัดหมาย หัวใจเธอเต้นแรงเหมือนคนโดนผีเข้า จากที่แต่งตัวเรียบง่ายช่วงเย็น กลายเป็นสาวเปรี้ยวสุดเซ็กซี่เมื่อสวมใส่เดรสสีน้ำเงินสายเดียวเข้ารูปมา กลิ่นกลายสาวตอนนี้หอมหวานด้วยกลิ่นดอกแมกโนเลียและผสมคลุกเคล้ากับวนิลา ทำให้พนักงานที่พามาลอบมองร่างกายอันผุดผ่องของเธอมาตลอดทาง
คุณเจย์ เขามีเงินมาจองโรงแรมขนาดนี้เพื่อเธอเลยงั้นเหรอ?
พราวมุกคิดอยู่ในใจ
ก๊อกๆ
พนักงานเคาะประตูเป็นมารยาทก่อนจะเปิดให้เธอเข้าไปยังห้องสวีตที่เขาจองมาเป็นพิเศษ
“เชิญครับ” พนักงานหนุ่มเปิดประตูให้เธอพร้อมกับผายมือออกไป
“ขอบคุณค่ะ” น้ำเสียงอ่อนหวานทำเอาพนักงานเคลิ้มหูยิ้มกว้าง
พอร่างอรชรเข้ามาในห้องพักแล้ว ประตูก็ถูกปิดลงทันที
ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อย หันมองภายในห้องซ้ายทีขวาที แต่ก็ไม่เจอชายหนุ่มที่นัดไว้
“คุณเจย์คะ?” เธอขานเรียกชื่อเขาพร้อมกับชะโงกหน้ามอง
ตอนนี้พราวมุกใจดีสั่นมาก เพราะเธอไม่เคยเห็นหน้าเจย์เลยสักครั้ง หวังเพียงว่าตอนนี้เขาจะเป็นชายหนุ่ม ไม่ใช่ชายแก่
จมูกโด่งรั้นได้กลิ่นควันบุหรี่จางๆ เธอเริ่มเดินตรงไปที่ระเบียงด้านหลัง มือบางแหวกผ้าม่านไปช้าๆ ร่างบางค่อยๆแทรกหน้าออกไปดูก่อนจะเห็นชายหนุ่มจากทางด้านหลัง
เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว พับแขนเสื้อขึ้นมาจนถึงศอก ร่างสูงทำให้เธอคุ้นตามาก แถมกลิ่นหอมๆนั้นเธอก็คุ้นมากเป็นอย่างดีด้วย
“คุณเจย์...” พราวมุกเดินออกมาเรียกชายหนุ่มเบาๆ
ชรัณกระตุกยิ้มร้ายก่อนจะหันหน้ามองหญิงสาวตัวเล็กที่เข้ามาติดกับเขาเข้าแล้วเต็มเปา
“ไงครับ? พราวมุก”
เสน่ห์เหลือล้นของชรัณทำให้พราวมุกถึงกับอ้าปากเหวอค้างเติ่ง เขาเป็นผู้ชายที่เพิ่งเจอที่ห้างเมื่อไม่นานแน่นอน
ดวงตาสีอำพันทำให้เธอไม่สามารถมองทางอื่นได้เลย เธอรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมให้เห็นหน้า
เข้าใจอย่างท่องแท้..
“ยินดีที่ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการนะครับ” ร่างสูงก้าวดุ่มๆเข้ามาใกล้ชิด
เมื่อรู้ตัวอีกทีพราวมุกก็ถูกต้อนจนมุมพร้อมกับวงแขนกำยำที่กักขังเธอไว้ภายในใต้ร่างของเขาแล้ว
“ขะ คุณเจย์.. เหรอคะ?” ไม่อยากจะเชื่อ
พ่อคุณ พ่อทูนหัว ทำไมหล่อเหลาเอาเรื่อง ขนาดนี้
“ผมเจย์ คนที่คุณเขี่ยทิ้ง หรือจำไม่ได้?” เขาเอียงหน้ามองเธออย่างสงสัย
แต่องศาเอียงนั้นทำให้เห็นลูกกระเดื่อจนดูเซ็กซี่
พราวมุกตอนนี้ทั้งตัวร้อนผ่าว ความรู้สึกแปลกๆพลันเกิดขึ้นในกายสาวทันที
“ฉะ ฉันมีเรื่องอยากข้อร้องค่ะ” เธอรีบหันหน้าหลบสายตา ไม่อย่างนั้น เธอต้องเป็นเหยื่อของเสือตัวนี้แน่นอน
“ถ้าจะคุย ต้องไปคุยกันข้างในครับ มองตากันด้วย” มือหนายกขึ้นช้อนคางแหลมมน
เรียวปากหยักชมพูธรรมชาติดูดึงดูดแถมน่าสัมผัสนั่น ทำให้พราวมุกใจสั่น เธอรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่อันตราย อันตรายมากกว่าทิมเสียอีก
“คุณ.. ฉัน..” ตอนนี้เธอปะติดปะต่อคำพูดไม่ได้เลยสักคำ เอาแต่อึกอัก เรียกเขาเรียกตัวเองอยู่หลายครั้ง
ไม่รู้ตอนไหนที่เขาช้อนร่างเธอขึ้นมาพร้อมกับวางลงบนกลางเตียงสุดนุ่ม
“กลิ่นตัวคุณหอมมาก” จมูกโด่งคลอเคลียข้างแก้มสาว
“ฉัน..” พราวมุกเหมือนใบ้กิน เขาหล่อเหมือนรูปปั้นขนาดนั้น เธอรับไม่ไหว..
“จูบกันได้ไหม?”
“คุณจะ..”
ริมฝีปากหยักทาบลงที่ปากเธอทันที เหมือนรู้สึกโหยหาเธอทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตลอดเวลาหนึ่งปีกว่า เขาไม่ได้มีอะไรกับใครเลย
เขาอัดอั้นอยากจะกระโจนใส่แม่สาวน้อยตรงหน้าใจแทบขาด ยิ่งดูการแต่งตัวที่เขาไม่เคยเห็นในวันนี้ เขายิ่งผยองในใจว่าเธอจงใจมาหาเขาเพราะเรื่องอะไร
เรียวลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าหาลิ้นเล็กอย่างชำนาญ เธอเองก็โต้ตอบเขาด้วยความต้องการที่มีมากล้นเหมือนกัน
เป็นผู้ชายแปลกหน้าที่เธอไม่เคยคิดรังเกียจ และไม่ต้องการรู้ภูมิหลังเขาแล้ว แม้จะเป็นใครมาจากไหน จะมีแฟนหรือเมีย จุดนี้เธอก็ไม่สนใจแล้ว
จูบของเขาเริ่มหนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเปลวไฟที่กำลังแผดเผาทุกความรู้สึกของเธอให้ลุกโชน ริมฝีปากที่แตะตวัดเกี่ยวกันไม่มีอะไรที่จะสามารถหยุดความต้องการของพวกเขาทั้งคู่ได้
ชรัณกระชับร่างบางเข้าหาตนเองแน่น สองแขนเรียวโอบกอดลำคอของเขาโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งฝ่ามือบางก็ลูบเบาๆไปตามแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยพละกำลัง
ความแน่นหนัดของมวลกล้ามเนื้อทำให้เขาดูน่าค้นหาสุดๆสำหรับพราวมุก สัญชาตญาณดิบที่เธอเหยียบมันไว้ยามที่อยู่กับทิมตอนนี้สาวเจ้ากำลังควบคุมมันกับชรัณไม่ได้
มือหนาลูบไล้ไปตามต้นขาเนียน ยิ่งทำให้เธอขนลุกทุกครั้งยามที่เขาพาดผ่าน ปลายนิ้วร้ายค่อยๆปลดเปลื้องสายเดรสสีมืดออก พร้อมกับร่นมันลงไปกองที่ใต้หน้าอกอวบตูมของร่างแน่งน้อย
ริมฝีปากหยักผละออกจากริมฝีปากบางด้วยความรวดเร็ว จากนั้นใช้ปากหยักค่อยๆสัมผัสเบาๆไปตามใบหน้า ต่อด้วยขบติ่งหูเบาๆ
“อะ..” พราวมุกขนลุกซู่เมื่อเขาเล่นกับจุดที่อ่อนไหวที่สุด
ชรัณไม่หยุดยั้งความตั้งใจ เขากดริมฝีปากลากผ่านลำคอระหงพร้อมกับค่อยๆใช้ลิ้นเลียวนที่เต้นอวบอั๋น อีกทั้งชโลมเลียปลายยอดถันสีชมพูระเรื่อนั่นด้วยความหิวกระหาย
ถ้าไม่ได้เธอวันนี้ เขาตายแน่
จากนกเขาไม่ขัน จะเป็นตาแก่ในวันพรุ่งแน่นอน
ตอนนี้ความเป็นชายของเขาคับตึงเป้าไปหมด มันทำให้ชรัณแทบอยากจะแหวกเรียวขาสวยให้อ้ากว้างๆ รับเอาความใหญ่โตไซส์ห้าหกที่หลายคนใฝ่หาแรงๆสักหลายต่อหลายที
“อืมม..” เสียงหวานครางอย่างพึงใจ เธอแอ่นหน้าอกสู้รับความเสียวกระสันที่มันแล่นเข้าสู่กายสาว
นิ้วเรียวยาวลากผ่านหน้าท้องน้อยเบาๆ ไล่ลงสู่กลางกายที่ตอนนี้มันหลั่งน้ำหวานออกมาจนฉ่ำแฉะ
“อืมม แฉะแล้วนี่” เขาทักขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า
“คุณเจย์..” เมื่อนิ้วหนากรีดลงกลางช่องทางรักผ่านกางเกงชั้นในตัวจิ๋ว เสียงหวานๆก็เอ่ยไม่เรียกชื่อเขาแทบไม่ขาดสาย
“ขอผมชิมคุณก่อนนะ” เขาละริมฝีปากจากเต้าสวยลงมาระหว่างกายสาว
ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดมันทำให้ความเสียวของพราวมุกเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
“อ๊ะ!”
จู่ๆ เขาก็รูดกางเกงในตัวเล็กของเธอออกแล้ว ใช้นิ้วเรียวยาวเขี่ยจุดกระสันเธอเบาๆ
ร่องกายสาวตอดรัดอากาศด้วยความเสียว ขนกายของพราวมุกลุกชูชันมากขึ้น เธอเผลอตัวอ้าขาออกลืมอายต่อใบหน้าที่หล่อเหลานั่น
ลิ้นอุ่นๆค่อยๆสัมผัสความอ่อนนุ่มของเธอไปทีละจุด คนตัวเล็กครางลั่นทันที เพราะเธอไม่เคยเจอการกระทำแบบนี้มาก่อน
ทินไม่เคยมาปรนเปรอเธออย่างนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เขามีหน้าที่จับท่อนเอ็นแข็งๆเรียวๆยัดใส่ช่องทางรักของเธอแล้วกระแทกไม่กี่ทีก็สุขสมไปแล้ว
“อ๊า..” เสียงหวานครางไม่หยุด เมื่อลิ้นร้อนๆแทรกแทรงเข้ามาด้านในโพรงนุ่มลื่น เธอยกสะโพกขึ้นเมื่อเขากระดกลิ้นไปมา ความรู้สึกของพราวมุกตอนนี้เธอเหมือนคนใกล้จะขาดใจ
ร่างกายเธอเหมือนกับดำลังรู้สึกถึงความสุขบางอย่างที่ไม่เคยมีมา
ความเก่งกาจของลิ้นสากทำให้ร่างบางไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองใกล้จะสุขสม เธอกรีดร้องลั่นห้องก่อนจะเกร็งกระตุกแรงๆพร้อมทั้งหลั่งเอาน้ำใสๆออกมาจากช่องทางรักจนมันเปียกชุ่ม
“เสร็จไวจัง” ชรัณละใบหน้าคมให้ออกห่าง เขาไม่ยักจะคิดว่าร่างเล็กๆนั่นจะจำนนต่อลิ้นเขาง่ายขนาดนั้น
เธอเคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนจริงงั้นหรือ?
“ขะ คุณเจย์” คนตัวเล็กเริ่มเขินอาย เธอเพิ่งจะมารู้เอาตอนนี้ว่าเสร็จสมจริงๆเป็นแบบใด
“ต่อไปนี้คุณต้องเจอผมของจริงแล้ว” แววตาเขาแฝงยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง ปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่มีออกจนหมด
เผยความหนัดแน่นของแผงอกโชว์ของจริงสู่สายตาคู่สวยที่นอนตะลึงด้วยความตกใจ
“ใหญ่ทุกที่!”
“ใหญ่ทุกที่!” แววตาคู่สวยเบิกโพลง ยิ่งส่วนนั้นของเขาที่มันตั้งชันชี้หน้าเธอนั่นด้วย “ผมใหญ่นะ คุณไหวไหม?” เขาแกล้งพูดหยอก มือหนารูดความเป็นชายไปมาพร้อมกับกัดปากล่างเอาความเซ็กซี่ เธอจะบ้าตาย นังพราว วันนี้แกตายแน่! ลืมความเจ็บช้ำของทั้งห้าปีไปให้หมด แล้วมาเจ็บกีแค่วันนี้วันเดียวพอ! “ตัวจริงคุณแซ่บกว่าในรูปเยอะ” เธอมองเขาตาละห้อย มือบางลูบไล้เรือนร่างตัวเองด้วยความต้องการเมื่อเห็นเขาจับสไลด์หนอนยักษ์ด้วยตนเอง “แซ่บกว่า ดุกว่า แถมใหญ่กว่าของแฟนคุณไหม?” เขาเลิกคิ้วถาม เอาให้เธอทรมานก่อนที่เขาจะเข้าไปใกล้
ชรัณลืมตาตื่นคนมาอีกทีเป็นเวลาแปดโมงกว่า กลิ่นกายแสนเจือจางคลุกเคล้ากับกลิ่นบุหรี่ที่เขาพ่นควันทิ้งไว้ก่อนหลับเมื่อคืนทำให้รู้สึกได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้ฝันไป ร่างสูงหยัดกายขึ้นมาพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นแผ่นกระดาษที่เขียนข้อความทิ้งไว้บนหมอน ‘ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อคืนนะคะ ฉันสัญญาว่าจะจำไม่ลืม แต่ตอนนี้มีธุระด่วนต้องไปจัดการ ขอโทษที่จู่ๆก็โผล่มาหาทั้งที่ฉันเคยปฏิเสธคุณไป’ “แสบนักนะ” เมื่อนึกถึงร่างเย้ายวนที่พาเขาพานพบความสุขไม่รู้จบเมื่อคืนก็ทำให้ความโกรธเคืองในวันนั้นหดหายไป เขาเริ่มลุกขึ้นมาจัดการตนเองให้เรียบร้อยก่อนจะกดโทรศัพท์ไปยังเลขาคนใหม่ “นายจัดการเรื่อ
“แกลืมอะไรไอ..” พราวมุกเงียบกินในทันใด เธอมองร่างของทิมที่ตอนนี้สวมเชิ้ตสีขาวคล้ายกับเป็นชุดเจ้าบ่าว ยืนมองหน้าเธอด้วยรอยยิ้มสุดโรคจิต “มึงจะไปไหน!” มือหนากระชากกลุ่มผมดกดำด้วยความแรง ใบหน้าสวยเงยขึ้นด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะปัดป่ายมือเขาออก “ปล่อยฉันนะ!” แม้จะตกใจไม่น้อยแต่พราวมุกก็พยายามที่จะสู้ “ปล่อยก็โง่ กูเฝ้าอุตส่าห์ตามจีบมึงมาตั้งนาน จะหนีไปแบบนี้ดื้อๆเหรอที่รัก?” เขาย่อตัวลงมามองใบหน้าสวยที่ตอนนี้เริ่มหวั่นกลัวเขา “ทิม! พราวเจ็บ” น้ำเสียงเริ่มอ่อนลงเมื่อเห็นเขาย่อเข้ามาใกล้ตัว “ถ
ดวงหน้าสวยลืมตามองคนที่หลับอยู่ข้างๆ เธอได้แต่เก็บความสงสัยว่าทำไมถึงปักใจเชื่อใจเขาขนาดนั้น ทั้งที่เขาปิดบังเรื่องราวส่วนตัวของเขาเองมาตลอด เมื่อคืนเธอกับเขานัวเนียกันไม่ต่างจากคืนแรก หลังจากเธองอแงจะนอนเขาถึงได้ยอมโอนอ่อนและกอดเธอเข้านอนไปด้วยกัน นั่นยิ่งสร้างความสงสัยในใจของพราวมุกไม่น้อย เธออยากรู้จักเขามากกว่า ต้องการเขามากกว่านี้ อยากเข้าไปเป็นส่วนนึงในชีวิตเขา แต่อีกใจก็ยังกลัวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น.. “มองจนผมจะท้องแล้วนะ” เขาลืมตาขึ้นมา ดวงตาสีนิลและสีอำพันเผลอสบกันโดยอัตโนมัติ คนที่ตื่นตระหนกกลับเป็นเธอแทน เขาจ้องมองนัยน์ตาแสนจะนิ่ง&nb
ขณะขับรถกลับ ชรัณเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง จู่ๆความเป็นชายของเขาก็แข็งตัวขึ้นมาดื้อๆ กายของชายหนุ่มร้อนผ่าวแถมยังมีเหงื่อไคลไหล่ออกตามลำคอ มือหนาเอื้อมไปเปิดแอร์ถึงระดับสูงสุดก่อนจะขับรถตรงไปยังโรงแรมด้วยความเร็ว ทั้งที่คิดไว้ว่าสองพ่อลูกคงไม่กล้าทำอะไรตอนนี้คาดไม่ถึงอย่างมาก เขาต่างหากที่กำลังตกเป็นหมากของทั้งคู่อย่างแท้จริง “เหี้ยเอ้ย!” ชรัณสถบคำหยาบคายกับตัวเอง รถก็มาติดเอาอะไรป่านนี้ ความรู้สึกของเขาตอนนี้มันแทบระเบิด ร่างกายนั่งอยู่ที่รถแต่ใจวิ่งไปหาพราวมุกเรียบร้อยแล้ว ยามที่นึกถึงร่างระหงโยกย้ายบนตัวความต้องการที่มียิ่งมากขึ้นไปอีก มากจนเขาควบคุมไม่ได้จนต้อง งัดเอาความแข็งทื่อออกมาสู่อากาศภายในรถ เผื่อมันจะดีขึ้นหน่อย&nb
พราวมุกลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบเย็น เธอค่อยๆขยับเรือนกายหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ แต่ทว่าพื้นที่ข้างๆเธอกลับว่างเปล่าไร้เงาของชายหนุ่ม เขาหายไปตั้งแต่ตอนไหน? มือบางค่อยๆยันร่างกายที่ปวดหนึบลุกขึ้นมานั่ง เมื่อคืนเขาเล่นเอาไม่ให้เธอได้พักเหนื่อยเลยแม้แต่นิด ไม่รู้ว่าโดนยาตัวไหนมาถึงได้เป็นม้าดีดทั้งวันทั้งคืนขนาดนั้น ยิ่งพูดพราวมุกยิ่งปวดหัว ไอ้คนบ้านั่น ทำให้ร่างกายของเธอไม่มีความสุข ร่างระหงลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำความสะอาดร่างกายของตนเองด้วยความทุลักทุเล หลังจากที่ทำให้ตัวเองสะอาดเสร็จ ก็เดินตรงดิ่งมายังครัวทันที หวังว่าตู้เย็นนี้จะมีสิ่งของที่เธอสามารถกินได้ แต่ทว่าหางตากลับหั
เจษถูกลากขึ้นรถยนต์ยี่ห้อแพงด้วยชั่วเวลาพริบตาเดียว เขาเป็นตำรวจมาหลายปี แต่ไม่เคยถูกจับขึ้นรถมาแบบงงๆอย่างครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ “เดี๋ยวนะครับ นี่คุณจะพาผมไปไหน?” “ตามที่เราตกลงกันไว้ไงคะ?” เสียงใสเอ่ยตอบ เหยียบจนแทบมิดไมล์ “หา? ผมไปตกลงอะไรกับคุณตอนไหน?” เจษขมวดคิ้วมองทางสลับเข้ากับใบหน้านวล “ฉันรู้ค่ะ ว่าตัวจริงของฉันมันสวยกว่าในรูปมาก แต่ฉันก็ไม่คิดจะรังเกียจคุณเลยนะคะ” พูดไปก็หันหน้ารถเข้ามายังโรงแรมแห่งหนึ่ง “เฮ้ย! นี่คุณกะจะพาผมมาทำอะไรเนี่ย?” เจษโวยวายลั่นรถเมื่อเห็นเธอเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูด แถมยังเข้าสู่ห้องที่มีพนักงานรอเรียบร้อย&n
“คุณเจย์จะพาไปไหนเหรอคะ?” พราวมุกมองทางที่ไม่คุ้นชินเมื่อเขาพาออกมาจากโรงแรมตั้งแต่เช้าตรู่ “บ้านใหม่ของเรา” ชรัณเลี้ยวหัวรถเข้าไปยังคอนโดหลังใหม่ เขาเฟ้นหาทั่วทั้งกรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัยของพราวมุกโดยเฉพาะ อีกทั้งที่นี่ยังสะดวกสบายเดินทางง่ายแม้ไม่มีรถส่วนตัว เพราะติดกับรถไฟฟ้า รถขนส่งสาธารณะ รถคันเก่าของทิมที่ซื้อให้เธอขับอยู่ทุกวันนั้น ชรัณห้ามเธอขนกลับมาด้วยเรียบร้อย “บ้านของเรางั้นเหรอคะ?” นี่เขาล้อเล่นอะไรอยู่กันแน่ คอนโดเนี่ยนะเรียกบ้านของเรา แน่จริงก็พาเธอไปอยู่ในบ้านเลยสิ ถ้าไม่กลัวคนที่บ้านว่า! “อื
ร่างระหงสวมชุดเจ้าสาวกี่เพ้าสีแดงตามประเพณีของบ้านเจ้าบ่าว เธอมองชุดที่ขับสีผิวตนเองด้วยความปลื้มใจ แม้ว่าตอนเช้าจะไม่ได้สวมชุดไทยตามที่สาวๆหลายคนหมายปอง แต่เธอก็ได้เป็นเจ้าสาวที่ถือว่ามีความสุขที่สุด “มะม๊าขา” เสียงเด็กหญิงตัวน้อยเรียกมารดาของตนเองดังขึ้น เมื่อเห็นเธอดกำลังเหม่อมองตัวเองในกระจก “เฟิ่งของม๊า วันนี้น่ารักมาเลยค่ะ” พราวมุกลูบแก้มเด็กหญิงวัยสามขวบด้วยความเอ็นดู “ปะป๊ามาแล้ว” เสียงเล็กๆบอกมารดาพร้อมกับคลอเคลีย ร่างเล็กๆที่สวมกี่เพ้าเหมือนกับมารดาทำให้เธอหยิกแก้มยุ้ยๆด้วยความหมั่นเขี้ยว “โอเคค่ะ เฟิ่งไปรอปะป๊านะคะ” มือบางลูบหัวนุ่มลื่น
หลังจากที่ชรัณรู้ตัวคนก่อการเรื่องของพริ้งพราว เขาก็ไม่อยู่นิ่ง รีบมาฟาดเพื่อนหนุ่มที่สถานนีตำรวจด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว “ไอ้เหี้ยเจย์!” เจษฎากรสารวัตรหนุ่มลูบหัวตัวเองปอยๆพร้อมกับมองเหลือบสายตามองไปยังนอกห้องว่ามีใครเห็นหรือไม่ที่เขาโดนเพื่อนมาเขกกะบาล “มึงสิเหี้ย ไปทำคนเขาท้องไม่รับผิดชอบ” น้ำเสียงบ่งบอกว่าหงุดหงิด เกือบเขาซวยไปด้วยแล้วไหมล่ะ “กูหาตัวแม่นั่นไม่เจอ!” เขาใช้มือเคาะโต๊ะย้ำๆเป็นการเตือนเพื่อน “กูเจอแล้ว” ชรัณนั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามของเพื่อนรัก ถอนหายใจยาวเหยียดขณะที่อีกคนตื่นตาเพ่งมาที่เขา “ใคร??” เจษฎากรตาโตหูตั้งขึ้นมาทันที
“ที่นี่ใช่บ้านเจ้าสัวใจภักดิ์ไหมคะ?” เสียงใสเอ่ยถามแม่บ้านที่วิ่งมาต้อนรับแขก “ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงมาหาใครคะ?” แม่บ้านวัยชราเอ่ยถามด้วยน้ำเสียเป็นมิตร “ถ้าไม่เป็นการรบกวน ช่วยเรียนคุณเจย์ลูกเจ้าของบ้านว่ามีเพื่อนมาหาได้ไหมคะ?” พราวมุกพูดเสียงเบา “ให้เรียนว่าเพื่อนชื่ออะไรดีคะ?” “พราวค่ะ” “ได้เลยค่ะ รอสักครู่นะคะ” แม่บ้านวัยกลางคนเดินเข้าบ้านก่อนจะออกมาในเวลาต่อมา “เชิญคุณพราวไปรอด้านในก่อนค่ะ”&n
1 เดือนต่อมา “เปิดร้านอาหารตามสั่งที่บ้านก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย” พราวมุกยืนยิ้มให้กับผลงานใหม่ของตนเอง เธอได้ก่อสร้างร้านเล็กๆที่หน้าบ้าน ติดป้ายไวนิลประกาศบอกว่ามีอาหารตามสั่งและข้าวแกงรสชาติดั้งเดิมของป้าภา ก็มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาแต่เช้าแล้ว “สองแฝดพายายทำกำไรได้งามทุกอย่างเลยนะ” จันทราภาวางมือลงบนหน้าท้องโตๆของหลานสาว “หลานๆอยากให้คุณยายมีขาเทียมไวๆเลยต้องรีบหาทางทำงานช่วยแม่จ้ะ” ใบหน้าสวยเปื้อนยิ้มมองหน้าท้องสลับกับหญิงพิการ “อดใจไม่ไหว อยากเจอหน้าหลานๆแล้ว” คนมากอายุยิ้มกว้าง&nbs
“คุณเจย์ไม่มาแล้วเหรอพราว?” จันทราภาเอ่ยถามหลานสาวที่ขับรถอยู่ พราวมุกตั้งแต่ออกจากบ้านก็ไม่เอ่ยคำพูดใดเลย เอาแต่นิ่งเงียบมาตลอดทาง เขาบอกไม่ใช่หรือไงว่าจะไปโรงพยาบาลด้วยเหตุใดถึงไม่มีแม้แต่วี่แววสักนิด? “ไม่จ่ะป้าภา เขาติดงานด่วน” เธอตอบสั้นๆ แล้วตั้งใจขับรถต่อไป หลังจากตื่นมาก็ไม่เจอชรัณเลยแม้แต่เงา เธอนั่งรอคิดว่าเดี๋ยวเขาหายโกรธก็คงกลับมาตอนเช้าๆ แต่รอจวนจะแปดโมงแล้วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา เธอจึงตัดสินใจมากับจันทราภาเพียงสองคน พราวมุกพาจันทราภาเข้ามาตรวจสุขภาพตั้งแต่เช้าจนบ่าย พอเสร็จทุกอย่างแล้วจึงพาคนป่วยเดินทางกลับบ้าน แต่พอถึงบ้านใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอมอง
ดวงตาคู่สวยค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมามองรอบๆห้องนอนของตนเอง เธอขมวดคิ้วยุ่ง แปลกใจที่ตนเองขึ้นมายังห้องนอนได้ยังไง? “ตื่นแล้วเหรอครับ?” ประตูบานเล็กเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างสูงที่ถือแก้วนมมาให้ “คุณเจย์” เสียงสะลึมสะลือเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าห้อง เธอมองแก้วนมที่เขาใส่มาก่อนจะเบิกตาโต เพราะว่านมที่ชรัณถือมันคือนมผงสำหรับคนท้องที่ต้องกินก่อนนอนเท่านั้น “คุณต้องดื่มนี่ทุกวันถูกไหม?” เขานั่งลงมองใบหน้าที่แตกตื่นของเธอ มือหนายกแก้วขึ้นมาก่อนจะยิ้มบางๆ “อันนี้.. คุณไปชงมาจากไหนคะ?” พราวมุกเอียงหน้ามอง ทำตาใสแจ๋วอย่างมึนงง
ชรัณเดินทางไปกลับบ้านของพราวมุกและโรงแรมของตนเองทุกวัน วันไหนที่งานเขาไม่เยอะเขาก็สามารถปลีกตัวออกไปยังร้านขายแกงของพราวมุกได้ ส่วนวันไหนที่ลูกค้าสำคัญมาเขาก็ต้องเร่งทำยอดไว้เสียก่อน แต่นี่ผ่านมาสามวันแล้วที่เขาไม่ได้เข้าไปหาเธอเลย หลังจากที่ป้าของพราวมุกออกจากโรงพยาบาล เขาก็ได้ช่วยพราวมุกในหลายๆอย่าง และช่วงนี้เธอเองก็ดูไม่ค่อยสู้ดี แม้เขาจะเป็นห่วงแค่ไหน หาคนมาช่วยฟรีๆเธอก็ไม่เอา ชรัณมองเหล่าพนักงานที่วิ่งวุ่นกันทั้งวันเนื่องจากมีลูกค้ารายใหญ่หลายเจ้าเข้ามา เขามองดูนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบสองทุ่มเข้าให้แล้วด้วย “วันนี้ลูกค้าหมดแล้วครับ คุณเจย์จะกลับเลยไหม?” ธีร์ถามเจ้านายที่นั่งจ้องเอกสารตรงหน้า “อ่า อื้ม ครับ เดี๋ยวผมไปที่อื่นต่อ” เข
“นี่น่ะเหรอครับ?” ชรัณมองข้าวของที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยสายตาแปลกใจ ถูกเรียกให้ออกมาตั้งแต่ตีสาม สวมเสื้อกันเปื้อนพร้อมอุปกรณ์ทำครัวเสร็จสรรพ “ค่ะ ช่วงนี้ป้าของฉันท่านยังต้องพักผ่อน ส่วนฉันก็ไม่อยากเสียค่าจ้างคนงาน เพราะงั้น นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำ ฉันเขียนมันไว้ที่กระดาษแผ่นนี้เรียบร้อย” มือบางหยิบกระดาษที่ว่าวางใส่มือหนา ชรัณรีบเปิดออกดู ก่อนจะตาเบิกโพลง เพราะมันไม่ใช่กระดาษธรรมดา แต่มันแผ่นใหญ่เกินกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก “ตื่นเช้าเวลาตีสาม มาช่วยทำกับข้าว มีหน้าที่เตรียมวัตถุดิบและเป็นลูกมือห่างๆ เจ็ดโมงจัดเรียงข้าวของขึ้นบนรถ แปดโมงตั้งโต๊ะขายกับข้าวเช้า สิบโมงเก็บของกลับบ้าน สิบเอ็ดโมงเตรียม
หลังจากที่จันทราภาฟื้นได้สติ เธอก็แปรเปลี่ยนจากคนใจเย็นเป็นคนขี้หงุดหงิด วันแรกๆทำให้พราวมุกเหนื่อยและใช้แรงกายไปเยอะมากทั้งอาการแพ้ท้องและดูแลคนป่วย เธอแทบไม่ได้พัก แต่หลังจากที่ผ่าตัดได้ถึงสัปดาห์อารมณ์ของคนป่วยก็เริ่มคงที่ลง ตอนนี้จันทราภาไม่ต่างจากไม้ใกล้ฝั่ง เธอนอนมองพื้นเพดานและมองคนรอบข้างที่ได้ออกจากโรงพยาบาลและเข้ามาใหม่ไม่ซ้ำหน้า “ป้าภาคะ วันนี้พราวซื้อเงาะมาให้ด้วย กินซักหน่อยนะคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นเงาะที่แกะเมล็ดแล้วให้แก่คนป่วย จันทราภาเพียงเหลือบมองแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ที่ยอมอ้าปากแต่โดยดี “พร