3 ทุ่ม
IE
JJ : ถ้าคุณยังไม่ตอบผมจะโทรไปแล้วนะ
JJ โทรหาคุณ
พราวมุกขมวดคิ้วมองสายที่สั่นเข้ามา เธอใจสั่นระรัวแปลกใจกับสิ่งที่เขากระทำมากขึ้น
ทว่ามือเล็กกลับปัดตัดสายนั้นทิ้ง ไม่ยอมที่จะกดรับ แม้เขาจะติดต่อมาอีกสองสามสายก็ตาม
IE
JJ : โกรธผมขนาดนั้นเลยเหรอครับ?
ผมไม่รู้ว่าทำอะไรผิด แต่ผมทำงานจริงๆ ไม่มีใครครับ
นิ้วเล็กเริ่มกดแป้นพิมพ์ เธอกำลังอดทนให้ตัวเองใจแข็งไม่อ่านข้อความเขา แต่ยิ่งทำก็เหมือนกำลังทรมานตัวเอง
IE
Praw : ไม่ต้องแก้ตัวแล้วค่ะ ฉันไม่ใช่ไม่เชื่อคุณ
พอเห็นข้อความดังนั้นคนที่กำลังวิตกกังวลก็หายใจหายคออย่างโล่งอกทันที
IE
JJ : แล้วทำไมถึงอ่านไม่ตอบเลยครับ เรื่องที่บอกว่าจะบอกผมมีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?
Praw : เปล่าค่ะ แค่จะบอกว่าคืนดีกับแฟนแล้ว ฉันอยากเลิกคุยกับคุณเจย์ค่ะ
จู่ๆเธอก็โพล่งมาสั้นๆ
IE
JJ : แต่เราเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ใช่เหรอ?
Praw : ค่ะ แต่มันไม่ควร ฉันอยากให้คุณลองทบทวนดู เราคุยกันมาเกือบเดือน ฉันเริ่มรู้สึกว่ามีความคิดแปลกๆกับคุณ ฉันไม่อยากก่อปัญหาให้ชีวิตคู่ เพราะฉะนั้นเราเลิกคุยกันนะคะ
JJ : ผมไม่เคยคิดถึงข้อนั้นเลยนะ
Praw : เรื่องที่ฉันคิดเกินเลยกับคุณงั้นเหรอ?
JJ : หมายถึงเรื่องเลิกคุยกับคุณ
แววตาสีอำพันกระตกวูบ เขาส่งข้อความไปหลังจากที่ได้รับกับคำที่แสนประหลาดใจ
IE
Praw : คุณเจย์ ทำไมคุณถึงดื้อจังคะ ฉันไม่เข้าใจ คุณส่งรูปตัวเองมาให้ฉันดูตลอด แต่แปลกที่ไม่ให้เห็นหน้า คุณทำตัวลับๆล่อๆ แต่ฉันก็ต้องมาหวั่นไหวกับหุ่นแล้วก็รูปร่างคุณเนี่ยนะ
สำหรับฉันรู้สึกเหมือนกำลังถูกพวกมิจฉาชีพหลอกเลยค่ะ...
JJ : งั้นเรานัดเจอกันไหมครับ คุณจะได้สบายใจ?
Praw : คุณไม่เข้าใจที่ฉันจะสื่อเลยเหรอคะ? ฉันต้องการให้เราเลิกคุยกัน!
JJ : ผมทำไม่ได้ เพราะผมเองก็ชอบคุณพราว!
หลังจากเห็นข้อความพราวมุกถึงกับตาค้าง เธอเผลอใจเต้นแรงกับข้อความของชายหนุ่มอีกแล้ว
ร่างบางรีบคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะใช้สมองวิเคราะห์กับความรู้สึกที่เกิดขึ้น ในเมื่อเธอตัดสินใจจะหยุดความสัมพันธ์ เธอก็ควรที่จะหยุดให้ได้!
IE
Praw : เราพอแค่นี้นะคะ ฉันขอบคุณที่ผ่านมา
JJ : คุณใจร้ายมาก
Praw : ฉันไม่อยากเป็นตัวร้ายในชีวิตของใครอีกแล้วค่ะ
นิ้วเรียวสวยกดบล็อกรายชื่อ JJ ทันทีเธอไม่สนแล้วว่าต่อไปเขาจะรู้สึกแบบไหน ตอนนี้เธอขอตัดไฟแต่ต้นลม ขอไม่รับรู้และไม่คุยกับเขาต่อ
1 เดือนต่อมา
ร่างสวยในวันนี้อารมณ์ดีเป็นพิเศษหลังจากที่แฟนหนุ่มที่ไม่เจอกันมานานนับเดือนเดินทางกลับหลังจากไปทำงานที่ต่างจังหวัด พราวมุกตระเตรียมของไว้สำหรับอาหารมื้อใหญ่ พร้อมกับซื้อชุดสวยๆเซอร์ไพรส์สำหรับครบรอบห้าปีหกเดือน
“อุ้ย!” ร่างบางไม่ทันได้ดูเมื่อเผลอหยิบของชิ้นเดียวกันกับใครคนนึง
“ขอโทษนะคะ พอดีฉันหยิบก่อน” เธอเอ่ยท้วงเมื่อร่างสูงข้างๆไม่ยอมปล่อย
“อันนี้มันชั้นในผู้ชายครับ คุณ?” เสียงทุ้มละมุนหูทำให้พราวมุกที่อารมณ์เริ่มเดือด กลายเป็นเย็นลงในพริบตา
“อ้อ พอดีฉันจะซื้อให้แฟนค่ะ” เธอตอบไปตามตรง พร้อมกับพิจารณาคนตรงหน้า
ผู้ชายตรงหน้าเธอสูงไม่ต่ำกว่าร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรแน่นอน ผิวกายขาวๆของเขาโดดเด่นสะท้อนสายตาคู่กลมของเธอ เป็นคนที่ดูสะอาดสะอ้านและกลิ่นตัวยังหอมติดจมูกอีก แต่แปลกที่อยู่ในห้างเขายังสวมแว่นตาสีดำบดบังใบหน้า
เห็นแต่จมูกที่โด่งเป็นสัน แต่ไม่เห็นว่าด้านในนั้นดวงตาเป็นแบบไหน?
“อ๋อ ถ้าอย่างงั้นเชิญคุณเลือกก่อนเลยครับ” เสียงเขาดูอ่อนนุ่มจนพราวมุกพึงพอใจ
“ขอบคุณนะคะ แต่ฉันให้คุณเลือกก่อนแล้วกัน เพราะยังไงมันก็มีอีกหลายแบบ” เธอยิ้มกว้างเผยความสดใสให้ชายตรงหน้า
ชรัณกระตุกยิ้มมุมปาก วันนี้ไม่รู้วันอะไร ทำให้เขาได้ใกล้ชิดกับดวงหน้าสวยอีกครั้ง เธอไม่เคยรับรู้เลยว่าเขามีตัวตนอยู่ข้างๆตนเองมาตลอด
“งั้นผมเลือกตัวนี้..” ชรัณหยิบกางเกงชั้นในราคาแพงแต่ดูเซ็กซี่ไปต่อหน้าต่อตาของพราวมุก
เธอกลืนน้ำลายเสียงดังอึก เมื่อเห็นเขาเลือกสีแดง
เขาเป็นใช่ไหม?
น่าเสียดายจัง...
นั่นคือเสียงในหัวของเธอในตอนนี้
“ขอให้คุณมีความสุขกับแฟนมากๆนะครับ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก” เสียงแทบกระซิบประโยคหลังทำให้พราวมุกขนลุกวูบวาบ ในท้องน้อยเริ่มปั่นป่วนเพราะกลิ่นหอมจากตัวของชายหนุ่ม
ติ๊ง!
หลังจากที่เธอยืนเหม่ออยู่ก็มีเสียงแจ้งเตือนปริศนาดังเข้ามาในโทรศัพท์
คนขี้ระแวงกลัวว่าจะเป็น JJ ที่ถูกเธอบล็อกจึงรีบเปิดอ่านทันที
Line
(ดอกไม้) : เรียนเชิญนะจ๊ะยัยโง่
(ดอกไม้) ส่งรูปภาพ
มือถือของพราวมุกแทบร่วง เมื่อเห็นข้อความเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติ ชื่อเจ้าสาวที่เธอไม่คุ้น และชื่อของเจ้าบ่าวที่เธอแสนจะรู้จักเป็นอย่างดี
ทิมากร พลธรักษ์
นิ้วเรียวเริ่มพิมพ์ตอบกลับชื่อไลน์อันสุดคุ้นตาทันที
(พราวมุก) : งานแต่งเธอกับทิมงั้นเหรอ?
(ดอกไม้) : เปล่าย่ะ ฉันก็โดนหลอกเหมือนเธอ
(ดอกไม้) ส่งรูปภาพ
สิ่งที่น่าตกใจคือที่ตรวจครรภ์มันขึ้นสองขีด ทำให้พราวมุกสับสนและงุนงงไปมากขึ้น
(ดอกไม้) : พรุ่งนี้ ฉันจะไปเอาเด็กออก ฝากเธอไปพังงานแต่งแทนฉันด้วย ต่อจากนี้ไปฉันไม่ขอเจอผู้ชายหมาๆแบบนั้น!
ข้อความนั้นทำให้เธอเข่าแทบทรุด นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน?
ทิมที่อยู่กับเธอมาตลอด แต่จะไปแต่งงานเนี่ยนะ?
ความเจ็บปวดถาโถมเข้ามาสุมอกของพราวมุกอีกครั้ง ครั้งนี้เธอแหลกสลายเกินกว่าที่จะรับได้ เธอเหมือนผู้หญิงโง่ยิ่งกว่าโง่ ถูกเขาควบคุมพฤติกรรมและเก็บงำไว้ภายในห้องเพียงคนเดียวตั้งหลายปี
พอมารู้ตัวเองอีกที ไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงที่เขาต้องการความสุขเพียงชั่วคราว อยากมาก็มา อยากไปก็ไป เมื่อไหร่ที่เธอพยศเขาไม่มาสนใจเพราะยังมีผู้หญิงอีกคนเป็นจุดมุ่งหมาย
ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมทิมถึงไม่ถามเรื่องอนาคตอีกหลังจากที่ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการ
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้ใจร้ายกับเธอ
จากความเสียใจเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น เธอโกรธแค้นเขาที่เข้ามาทำร้ายหัวใจอันบริสุทธิ์ของเธอ
เธอเกลียดเขาที่หลอกลวงว่าไปทำงานแต่กลับไปนอนกกกับคนอื่น
และเธอเกลียดคำว่ารักจากปากเขาที่มันเสแสร้งแกล้งทำมาตลอด!!
(พราวมุก) : เธอจะไปที่โรงพยาบาลไหน อย่าทำบาปเลยนะ
เมื่อปาดน้ำตา คนที่เธอเป็นห่วงกลับกลายเป็นยัยดอกไม้ที่เคยคุยเรื่องบนเตียงกับเขาอย่างออกรสออกชาติ
(ดอกไม้) : เรื่องของฉันไม่ต้องมายุ่ง เธอควรจะไปแก้เผ็ดมันบ้าง ฉันมารู้ทีหลังว่าเขามีเธอเป็นแฟนมาก่อนใคร ยัยนั่นเพิ่งคบมาได้ 2 ปี ขอโทษนะ
เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เธอไม่อยากจะแย่งของใคร เพราะใครๆต่างก็ใฝ่ฝันว่าต้องการมีรักเดียว
“ยัยบ้า...”
(พราวมุก) : ขอบคุณที่เธออุตส่าห์มาบอกนะ ฉันอยากเจอเธอสักครั้ง
(ดอกไม้) : สักวันนึงแหละ
จากนั้นสนทนาของทั้งคู่ก็จบไป
พราวมุกยกเลิกสินค้าที่จะซื้อทั้งหมด เธอกลับมาหัวเราะให้กับตัวเองที่คอนโดของชายหนุ่มเงียบๆ
ก่อนจะเห็นเขาทิ้งข้อความมาบอกว่าติดธุระกะทันหัน ต้องไปต่างจังหวัดต่อ..
ถ้าสิ่งต่อไปนี้เธอจะทำคงไม่ผิดบาปใช่ไหม?
เพราะสุดท้ายแล้วเธอคือผู้ถูกกระทำ ไม่ใช่หรือ?
นิ้วเรียวรีบกดปลดบล็อกชายหนุ่มที่เธอเองก็ถวิลหาไม่น้อยมานานนับเดือน
เธอรีบกดพิมพ์แชทส่งไปให้ชายหนุ่มด้วยความรู้สึกที่หลากหลายจนเจ้าตัวเองก็บอกไม่ถูก
IE
Praw : คิดถึงจังเลยค่ะ เรามาเจอกันดีไหมคะ?
เธออยากแก้แค้น อยากแลกทุกอย่าง อยากให้ทิมตายทั้งเป็น
ไม่รู้หรอกว่า JJ จะช่วยได้ไหม ขอเพียงเขาช่วยทางร่างกายให้เธอไม่กลับมามัวหมองเพราะทินอีก แค่นี้ก็พอแล้ว
IE
JJ : ให้ผมไปรับนะครับ
พราวมุกชั่งใจอยู่นานหลังจากที่ปฏิเสธชายหนุ่มไม่ให้มารับ เธอเดินทางมาหาเขาเองยังห้องพักส่วนตัวในโรงแรมดังตามที่เขาบอก ขาสวยเรียวก้าวมาถึงห้องนัดหมาย หัวใจเธอเต้นแรงเหมือนคนโดนผีเข้า จากที่แต่งตัวเรียบง่ายช่วงเย็น กลายเป็นสาวเปรี้ยวสุดเซ็กซี่เมื่อสวมใส่เดรสสีน้ำเงินสายเดียวเข้ารูปมา กลิ่นกลายสาวตอนนี้หอมหวานด้วยกลิ่นดอกแมกโนเลียและผสมคลุกเคล้ากับวนิลา ทำให้พนักงานที่พามาลอบมองร่างกายอันผุดผ่องของเธอมาตลอดทาง คุณเจย์ เขามีเงินมาจองโรงแรมขนาดนี้เพื่อเธอเลยงั้นเหรอ? พราวมุกคิดอยู่ในใจ ก๊อกๆ พนักงานเคาะประตูเป็นมารยาทก่อนจะเปิดให้เธอเข้าไปยังห้องสวีตที่เขาจองมาเป็นพิเศษ&nbs
“ใหญ่ทุกที่!” แววตาคู่สวยเบิกโพลง ยิ่งส่วนนั้นของเขาที่มันตั้งชันชี้หน้าเธอนั่นด้วย “ผมใหญ่นะ คุณไหวไหม?” เขาแกล้งพูดหยอก มือหนารูดความเป็นชายไปมาพร้อมกับกัดปากล่างเอาความเซ็กซี่ เธอจะบ้าตาย นังพราว วันนี้แกตายแน่! ลืมความเจ็บช้ำของทั้งห้าปีไปให้หมด แล้วมาเจ็บกีแค่วันนี้วันเดียวพอ! “ตัวจริงคุณแซ่บกว่าในรูปเยอะ” เธอมองเขาตาละห้อย มือบางลูบไล้เรือนร่างตัวเองด้วยความต้องการเมื่อเห็นเขาจับสไลด์หนอนยักษ์ด้วยตนเอง “แซ่บกว่า ดุกว่า แถมใหญ่กว่าของแฟนคุณไหม?” เขาเลิกคิ้วถาม เอาให้เธอทรมานก่อนที่เขาจะเข้าไปใกล้
ชรัณลืมตาตื่นคนมาอีกทีเป็นเวลาแปดโมงกว่า กลิ่นกายแสนเจือจางคลุกเคล้ากับกลิ่นบุหรี่ที่เขาพ่นควันทิ้งไว้ก่อนหลับเมื่อคืนทำให้รู้สึกได้เป็นอย่างดีว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้ฝันไป ร่างสูงหยัดกายขึ้นมาพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นแผ่นกระดาษที่เขียนข้อความทิ้งไว้บนหมอน ‘ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อคืนนะคะ ฉันสัญญาว่าจะจำไม่ลืม แต่ตอนนี้มีธุระด่วนต้องไปจัดการ ขอโทษที่จู่ๆก็โผล่มาหาทั้งที่ฉันเคยปฏิเสธคุณไป’ “แสบนักนะ” เมื่อนึกถึงร่างเย้ายวนที่พาเขาพานพบความสุขไม่รู้จบเมื่อคืนก็ทำให้ความโกรธเคืองในวันนั้นหดหายไป เขาเริ่มลุกขึ้นมาจัดการตนเองให้เรียบร้อยก่อนจะกดโทรศัพท์ไปยังเลขาคนใหม่ “นายจัดการเรื่อ
“แกลืมอะไรไอ..” พราวมุกเงียบกินในทันใด เธอมองร่างของทิมที่ตอนนี้สวมเชิ้ตสีขาวคล้ายกับเป็นชุดเจ้าบ่าว ยืนมองหน้าเธอด้วยรอยยิ้มสุดโรคจิต “มึงจะไปไหน!” มือหนากระชากกลุ่มผมดกดำด้วยความแรง ใบหน้าสวยเงยขึ้นด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะปัดป่ายมือเขาออก “ปล่อยฉันนะ!” แม้จะตกใจไม่น้อยแต่พราวมุกก็พยายามที่จะสู้ “ปล่อยก็โง่ กูเฝ้าอุตส่าห์ตามจีบมึงมาตั้งนาน จะหนีไปแบบนี้ดื้อๆเหรอที่รัก?” เขาย่อตัวลงมามองใบหน้าสวยที่ตอนนี้เริ่มหวั่นกลัวเขา “ทิม! พราวเจ็บ” น้ำเสียงเริ่มอ่อนลงเมื่อเห็นเขาย่อเข้ามาใกล้ตัว “ถ
ดวงหน้าสวยลืมตามองคนที่หลับอยู่ข้างๆ เธอได้แต่เก็บความสงสัยว่าทำไมถึงปักใจเชื่อใจเขาขนาดนั้น ทั้งที่เขาปิดบังเรื่องราวส่วนตัวของเขาเองมาตลอด เมื่อคืนเธอกับเขานัวเนียกันไม่ต่างจากคืนแรก หลังจากเธองอแงจะนอนเขาถึงได้ยอมโอนอ่อนและกอดเธอเข้านอนไปด้วยกัน นั่นยิ่งสร้างความสงสัยในใจของพราวมุกไม่น้อย เธออยากรู้จักเขามากกว่า ต้องการเขามากกว่านี้ อยากเข้าไปเป็นส่วนนึงในชีวิตเขา แต่อีกใจก็ยังกลัวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น.. “มองจนผมจะท้องแล้วนะ” เขาลืมตาขึ้นมา ดวงตาสีนิลและสีอำพันเผลอสบกันโดยอัตโนมัติ คนที่ตื่นตระหนกกลับเป็นเธอแทน เขาจ้องมองนัยน์ตาแสนจะนิ่ง&nb
ขณะขับรถกลับ ชรัณเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง จู่ๆความเป็นชายของเขาก็แข็งตัวขึ้นมาดื้อๆ กายของชายหนุ่มร้อนผ่าวแถมยังมีเหงื่อไคลไหล่ออกตามลำคอ มือหนาเอื้อมไปเปิดแอร์ถึงระดับสูงสุดก่อนจะขับรถตรงไปยังโรงแรมด้วยความเร็ว ทั้งที่คิดไว้ว่าสองพ่อลูกคงไม่กล้าทำอะไรตอนนี้คาดไม่ถึงอย่างมาก เขาต่างหากที่กำลังตกเป็นหมากของทั้งคู่อย่างแท้จริง “เหี้ยเอ้ย!” ชรัณสถบคำหยาบคายกับตัวเอง รถก็มาติดเอาอะไรป่านนี้ ความรู้สึกของเขาตอนนี้มันแทบระเบิด ร่างกายนั่งอยู่ที่รถแต่ใจวิ่งไปหาพราวมุกเรียบร้อยแล้ว ยามที่นึกถึงร่างระหงโยกย้ายบนตัวความต้องการที่มียิ่งมากขึ้นไปอีก มากจนเขาควบคุมไม่ได้จนต้อง งัดเอาความแข็งทื่อออกมาสู่อากาศภายในรถ เผื่อมันจะดีขึ้นหน่อย&nb
พราวมุกลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบเย็น เธอค่อยๆขยับเรือนกายหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ แต่ทว่าพื้นที่ข้างๆเธอกลับว่างเปล่าไร้เงาของชายหนุ่ม เขาหายไปตั้งแต่ตอนไหน? มือบางค่อยๆยันร่างกายที่ปวดหนึบลุกขึ้นมานั่ง เมื่อคืนเขาเล่นเอาไม่ให้เธอได้พักเหนื่อยเลยแม้แต่นิด ไม่รู้ว่าโดนยาตัวไหนมาถึงได้เป็นม้าดีดทั้งวันทั้งคืนขนาดนั้น ยิ่งพูดพราวมุกยิ่งปวดหัว ไอ้คนบ้านั่น ทำให้ร่างกายของเธอไม่มีความสุข ร่างระหงลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำความสะอาดร่างกายของตนเองด้วยความทุลักทุเล หลังจากที่ทำให้ตัวเองสะอาดเสร็จ ก็เดินตรงดิ่งมายังครัวทันที หวังว่าตู้เย็นนี้จะมีสิ่งของที่เธอสามารถกินได้ แต่ทว่าหางตากลับหั
เจษถูกลากขึ้นรถยนต์ยี่ห้อแพงด้วยชั่วเวลาพริบตาเดียว เขาเป็นตำรวจมาหลายปี แต่ไม่เคยถูกจับขึ้นรถมาแบบงงๆอย่างครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ “เดี๋ยวนะครับ นี่คุณจะพาผมไปไหน?” “ตามที่เราตกลงกันไว้ไงคะ?” เสียงใสเอ่ยตอบ เหยียบจนแทบมิดไมล์ “หา? ผมไปตกลงอะไรกับคุณตอนไหน?” เจษขมวดคิ้วมองทางสลับเข้ากับใบหน้านวล “ฉันรู้ค่ะ ว่าตัวจริงของฉันมันสวยกว่าในรูปมาก แต่ฉันก็ไม่คิดจะรังเกียจคุณเลยนะคะ” พูดไปก็หันหน้ารถเข้ามายังโรงแรมแห่งหนึ่ง “เฮ้ย! นี่คุณกะจะพาผมมาทำอะไรเนี่ย?” เจษโวยวายลั่นรถเมื่อเห็นเธอเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูด แถมยังเข้าสู่ห้องที่มีพนักงานรอเรียบร้อย&n
ร่างระหงสวมชุดเจ้าสาวกี่เพ้าสีแดงตามประเพณีของบ้านเจ้าบ่าว เธอมองชุดที่ขับสีผิวตนเองด้วยความปลื้มใจ แม้ว่าตอนเช้าจะไม่ได้สวมชุดไทยตามที่สาวๆหลายคนหมายปอง แต่เธอก็ได้เป็นเจ้าสาวที่ถือว่ามีความสุขที่สุด “มะม๊าขา” เสียงเด็กหญิงตัวน้อยเรียกมารดาของตนเองดังขึ้น เมื่อเห็นเธอดกำลังเหม่อมองตัวเองในกระจก “เฟิ่งของม๊า วันนี้น่ารักมาเลยค่ะ” พราวมุกลูบแก้มเด็กหญิงวัยสามขวบด้วยความเอ็นดู “ปะป๊ามาแล้ว” เสียงเล็กๆบอกมารดาพร้อมกับคลอเคลีย ร่างเล็กๆที่สวมกี่เพ้าเหมือนกับมารดาทำให้เธอหยิกแก้มยุ้ยๆด้วยความหมั่นเขี้ยว “โอเคค่ะ เฟิ่งไปรอปะป๊านะคะ” มือบางลูบหัวนุ่มลื่น
หลังจากที่ชรัณรู้ตัวคนก่อการเรื่องของพริ้งพราว เขาก็ไม่อยู่นิ่ง รีบมาฟาดเพื่อนหนุ่มที่สถานนีตำรวจด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว “ไอ้เหี้ยเจย์!” เจษฎากรสารวัตรหนุ่มลูบหัวตัวเองปอยๆพร้อมกับมองเหลือบสายตามองไปยังนอกห้องว่ามีใครเห็นหรือไม่ที่เขาโดนเพื่อนมาเขกกะบาล “มึงสิเหี้ย ไปทำคนเขาท้องไม่รับผิดชอบ” น้ำเสียงบ่งบอกว่าหงุดหงิด เกือบเขาซวยไปด้วยแล้วไหมล่ะ “กูหาตัวแม่นั่นไม่เจอ!” เขาใช้มือเคาะโต๊ะย้ำๆเป็นการเตือนเพื่อน “กูเจอแล้ว” ชรัณนั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามของเพื่อนรัก ถอนหายใจยาวเหยียดขณะที่อีกคนตื่นตาเพ่งมาที่เขา “ใคร??” เจษฎากรตาโตหูตั้งขึ้นมาทันที
“ที่นี่ใช่บ้านเจ้าสัวใจภักดิ์ไหมคะ?” เสียงใสเอ่ยถามแม่บ้านที่วิ่งมาต้อนรับแขก “ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงมาหาใครคะ?” แม่บ้านวัยชราเอ่ยถามด้วยน้ำเสียเป็นมิตร “ถ้าไม่เป็นการรบกวน ช่วยเรียนคุณเจย์ลูกเจ้าของบ้านว่ามีเพื่อนมาหาได้ไหมคะ?” พราวมุกพูดเสียงเบา “ให้เรียนว่าเพื่อนชื่ออะไรดีคะ?” “พราวค่ะ” “ได้เลยค่ะ รอสักครู่นะคะ” แม่บ้านวัยกลางคนเดินเข้าบ้านก่อนจะออกมาในเวลาต่อมา “เชิญคุณพราวไปรอด้านในก่อนค่ะ”&n
1 เดือนต่อมา “เปิดร้านอาหารตามสั่งที่บ้านก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย” พราวมุกยืนยิ้มให้กับผลงานใหม่ของตนเอง เธอได้ก่อสร้างร้านเล็กๆที่หน้าบ้าน ติดป้ายไวนิลประกาศบอกว่ามีอาหารตามสั่งและข้าวแกงรสชาติดั้งเดิมของป้าภา ก็มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาแต่เช้าแล้ว “สองแฝดพายายทำกำไรได้งามทุกอย่างเลยนะ” จันทราภาวางมือลงบนหน้าท้องโตๆของหลานสาว “หลานๆอยากให้คุณยายมีขาเทียมไวๆเลยต้องรีบหาทางทำงานช่วยแม่จ้ะ” ใบหน้าสวยเปื้อนยิ้มมองหน้าท้องสลับกับหญิงพิการ “อดใจไม่ไหว อยากเจอหน้าหลานๆแล้ว” คนมากอายุยิ้มกว้าง&nbs
“คุณเจย์ไม่มาแล้วเหรอพราว?” จันทราภาเอ่ยถามหลานสาวที่ขับรถอยู่ พราวมุกตั้งแต่ออกจากบ้านก็ไม่เอ่ยคำพูดใดเลย เอาแต่นิ่งเงียบมาตลอดทาง เขาบอกไม่ใช่หรือไงว่าจะไปโรงพยาบาลด้วยเหตุใดถึงไม่มีแม้แต่วี่แววสักนิด? “ไม่จ่ะป้าภา เขาติดงานด่วน” เธอตอบสั้นๆ แล้วตั้งใจขับรถต่อไป หลังจากตื่นมาก็ไม่เจอชรัณเลยแม้แต่เงา เธอนั่งรอคิดว่าเดี๋ยวเขาหายโกรธก็คงกลับมาตอนเช้าๆ แต่รอจวนจะแปดโมงแล้วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา เธอจึงตัดสินใจมากับจันทราภาเพียงสองคน พราวมุกพาจันทราภาเข้ามาตรวจสุขภาพตั้งแต่เช้าจนบ่าย พอเสร็จทุกอย่างแล้วจึงพาคนป่วยเดินทางกลับบ้าน แต่พอถึงบ้านใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอมอง
ดวงตาคู่สวยค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมามองรอบๆห้องนอนของตนเอง เธอขมวดคิ้วยุ่ง แปลกใจที่ตนเองขึ้นมายังห้องนอนได้ยังไง? “ตื่นแล้วเหรอครับ?” ประตูบานเล็กเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างสูงที่ถือแก้วนมมาให้ “คุณเจย์” เสียงสะลึมสะลือเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าห้อง เธอมองแก้วนมที่เขาใส่มาก่อนจะเบิกตาโต เพราะว่านมที่ชรัณถือมันคือนมผงสำหรับคนท้องที่ต้องกินก่อนนอนเท่านั้น “คุณต้องดื่มนี่ทุกวันถูกไหม?” เขานั่งลงมองใบหน้าที่แตกตื่นของเธอ มือหนายกแก้วขึ้นมาก่อนจะยิ้มบางๆ “อันนี้.. คุณไปชงมาจากไหนคะ?” พราวมุกเอียงหน้ามอง ทำตาใสแจ๋วอย่างมึนงง
ชรัณเดินทางไปกลับบ้านของพราวมุกและโรงแรมของตนเองทุกวัน วันไหนที่งานเขาไม่เยอะเขาก็สามารถปลีกตัวออกไปยังร้านขายแกงของพราวมุกได้ ส่วนวันไหนที่ลูกค้าสำคัญมาเขาก็ต้องเร่งทำยอดไว้เสียก่อน แต่นี่ผ่านมาสามวันแล้วที่เขาไม่ได้เข้าไปหาเธอเลย หลังจากที่ป้าของพราวมุกออกจากโรงพยาบาล เขาก็ได้ช่วยพราวมุกในหลายๆอย่าง และช่วงนี้เธอเองก็ดูไม่ค่อยสู้ดี แม้เขาจะเป็นห่วงแค่ไหน หาคนมาช่วยฟรีๆเธอก็ไม่เอา ชรัณมองเหล่าพนักงานที่วิ่งวุ่นกันทั้งวันเนื่องจากมีลูกค้ารายใหญ่หลายเจ้าเข้ามา เขามองดูนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบสองทุ่มเข้าให้แล้วด้วย “วันนี้ลูกค้าหมดแล้วครับ คุณเจย์จะกลับเลยไหม?” ธีร์ถามเจ้านายที่นั่งจ้องเอกสารตรงหน้า “อ่า อื้ม ครับ เดี๋ยวผมไปที่อื่นต่อ” เข
“นี่น่ะเหรอครับ?” ชรัณมองข้าวของที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยสายตาแปลกใจ ถูกเรียกให้ออกมาตั้งแต่ตีสาม สวมเสื้อกันเปื้อนพร้อมอุปกรณ์ทำครัวเสร็จสรรพ “ค่ะ ช่วงนี้ป้าของฉันท่านยังต้องพักผ่อน ส่วนฉันก็ไม่อยากเสียค่าจ้างคนงาน เพราะงั้น นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำ ฉันเขียนมันไว้ที่กระดาษแผ่นนี้เรียบร้อย” มือบางหยิบกระดาษที่ว่าวางใส่มือหนา ชรัณรีบเปิดออกดู ก่อนจะตาเบิกโพลง เพราะมันไม่ใช่กระดาษธรรมดา แต่มันแผ่นใหญ่เกินกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก “ตื่นเช้าเวลาตีสาม มาช่วยทำกับข้าว มีหน้าที่เตรียมวัตถุดิบและเป็นลูกมือห่างๆ เจ็ดโมงจัดเรียงข้าวของขึ้นบนรถ แปดโมงตั้งโต๊ะขายกับข้าวเช้า สิบโมงเก็บของกลับบ้าน สิบเอ็ดโมงเตรียม
หลังจากที่จันทราภาฟื้นได้สติ เธอก็แปรเปลี่ยนจากคนใจเย็นเป็นคนขี้หงุดหงิด วันแรกๆทำให้พราวมุกเหนื่อยและใช้แรงกายไปเยอะมากทั้งอาการแพ้ท้องและดูแลคนป่วย เธอแทบไม่ได้พัก แต่หลังจากที่ผ่าตัดได้ถึงสัปดาห์อารมณ์ของคนป่วยก็เริ่มคงที่ลง ตอนนี้จันทราภาไม่ต่างจากไม้ใกล้ฝั่ง เธอนอนมองพื้นเพดานและมองคนรอบข้างที่ได้ออกจากโรงพยาบาลและเข้ามาใหม่ไม่ซ้ำหน้า “ป้าภาคะ วันนี้พราวซื้อเงาะมาให้ด้วย กินซักหน่อยนะคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นเงาะที่แกะเมล็ดแล้วให้แก่คนป่วย จันทราภาเพียงเหลือบมองแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ที่ยอมอ้าปากแต่โดยดี “พร