“แกลืมอะไรไอ..” พราวมุกเงียบกินในทันใด เธอมองร่างของทิมที่ตอนนี้สวมเชิ้ตสีขาวคล้ายกับเป็นชุดเจ้าบ่าว ยืนมองหน้าเธอด้วยรอยยิ้มสุดโรคจิต
“มึงจะไปไหน!” มือหนากระชากกลุ่มผมดกดำด้วยความแรง
ใบหน้าสวยเงยขึ้นด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะปัดป่ายมือเขาออก
“ปล่อยฉันนะ!” แม้จะตกใจไม่น้อยแต่พราวมุกก็พยายามที่จะสู้
“ปล่อยก็โง่ กูเฝ้าอุตส่าห์ตามจีบมึงมาตั้งนาน จะหนีไปแบบนี้ดื้อๆเหรอที่รัก?” เขาย่อตัวลงมามองใบหน้าสวยที่ตอนนี้เริ่มหวั่นกลัวเขา
“ทิม! พราวเจ็บ” น้ำเสียงเริ่มอ่อนลงเมื่อเห็นเขาย่อเข้ามาใกล้ตัว
“ถ้างั้นพราวก็ต้องอยู่ที่นี่กับทิมสิ ทิมแค่ไปอยู่กับเมียใหญ่แปปๆ เดี๋ยวก็กลับมาหาพราวแล้ว” จากกระชากผมก็ช้อนคางมนขึ้นมามองให้เต็มหน้า บีบออกแรงบีบคางเล็กๆของเธอด้วยความโรคจิต
“พราวไม่อยากเป็นเมียเก็บ!”
ขนาดคบมาห้าปียังแอบไปแต่งงานได้เลย เธอไม่หวังจะมีอนาคตกับผู้ชายเลวๆแบบนี้อีกแล้ว
“โถ่ พราว เป็นเมียเก็บไม่ดีตรงไหน ทิมให้เงินอยู่ได้สบายๆ แต่มีข้อแม้เดียว พราวอย่ามีลูก เพราะทิมชอบไอ้รูนั่นของพราว มันหวาน มันรัด มันตอดดีกว่าผู้หญิงคนอื่นเป็นไหนๆ” มือหนาเริ่มล้วงล้ำเข้ามาใกล้ส่วนที่เคยแตะต้อง
“อย่านะ!” มือเล็กก็เริ่มปัดป่าย แม้เขาจะบีบคางเธอแน่น
“มึงอย่าดื้อ!” เสียงตวาดจนเธอตกใจตัวสั่น ไม่นึกไม่ฝันว่าทิมจะใจร้ายกับเธอได้ถึงขนาดนี้
“ให้กูเอามึงดีๆ มึงต้องการแค่นี้ใช่ไหมล่ะ?” ใบหน้านั้นโรคจิตจนพราวมุกกลัว
ตอนนี้เธอหลับตานึกถึงแต่ใบหน้าของชรัณ เขาเป็นคนๆเดียวที่ตอนนี้ทำให้เธอคิดถึง พอเรียกชื่อเขาในใจเธอก็เริ่มอบอุ่นขึ้นมาทันที
“ทิม พราวขอร้อง วันนี้พราวเสียใจมากๆ ทิมอย่าเพิ่งทำอะไรกับพราวเลยนะ”
ถ้าเขาจับดูต้องรู้แน่นอนว่าเมื่อคืนเธอผ่านอะไรมา ความรู้สึกมันยังร้อนผ่าวอยู่ไม่จางเลย
“แต่ทิมคิดถึงพราวอะ คิดถึงมากๆ อยากเอาเอ็นแข็งๆยัดเข้ารูแน่นๆของพราว”
พราวมุกรู้สึกสะอิดสะเอียนแทบอ้วกกับคำพูดของทิมที่ไม่เคยรู้จักด้านนี้มากก่อน
“ไม่นะทิม!” เมื่อเห็นมือใหญ่เคลื่อนย้ายเธอจึงรีบคว้ามันไว้ทันที
“อย่าขัดใจกู!”
เพี๊ยะ!
เสียงฝ่ามือหนักตบลงที่แก้มนวล
“ทิม...” เธอหลั่งน้ำตา ร่างบางค่อยๆถอยหนี เนื้อตัวเริ่มสั่นเทาจากที่ไม่กล้าแสดงอาการตอนนี้มากขึ้นจนทิมรู้สึกสะใจ
“มึงกลัวกูเหรอ? กลัวกูทำไม เราผัวเมียกัน” ทิมเค้นหัวเราะร้าย
“อย่าทำแบบนี้” ใบหน้าสวยส่ายจนผมยุ่งเหยิง มือบางค่อยๆล้วงโทรศัพท์หวังจะกดโทรหาใครบางคนแต่ก็ถูกคนโรคจิตอย่างทิมคว้าไว้ก่อน
“นี่มึงไปเอากับคนอื่นมาเหรอ?” เขาเห็นแชทก็เริ่มคลั่ง
“ปละ เปล่า เขาคือคนที่พราวต้องคุยงานด้วย” เธอสะอึก เมื่อเห็นแววตาวาวโรจน์
“กูไม่เชื่อ อีพราว อีร่าน”
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
“มึงนี่มันเลี้ยงเสียข้าวสุข ให้กูเอาคนเดียวมึงไม่พอใจ มึงมันวันทองชัดๆ” เขาพ่นคำหยาบคายใส่ร่างบางที่นอนสั่นเทาหลังจากถูกฝ่ามือใหญ่ตบไปมาด้วยความรุนแรง
“ฮึก ทิม ฮือๆ พราวไหว้ล่ะ อย่าทำอะไรเลย” มือเรียวยกขึ้นพนมไหว้จนสั่น
“กูจะสั่งสอนให้มึงหายร่านไงอีพราว มึงจำไว้ว่าผัวมึง อั๊ก!”
ตุ๊บ!
เสียงเท้าหนักฟาดลงที่กลางท้ายทอยของทิมอย่างแรง เขาถูกมันแรงจนล้มลงต่อหน้าต่อตาของหญิงสาว
“ฮึก ฮือออ คุณเจย์ขา” เธอร้องไห้ดังลั่นเมื่อเห็นร่างสูงปรากฏพร้อมกับอ้าแขนรอรับกอดจากเขา
“เอามันส่งโรงบาล อย่าเพิ่งให้มันตาย ไม่เป็นไรแล้วนะครับ ไม่ต้องกลัวแล้ว” เขาหันไปสั่งพนักงานเก็บของที่ตามมาด้วยเสียงแข็งก่อนจะหันกลับมาปลอบเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ฮึก ฮือๆ” เสียงร้องไห้ทำให้ชรัณใจหาย เขาเอะใจหลายครั้งแล้วว่าทำไมเธอไม่ยอมตอบกลับหรือโทรมาถามข่าวคราวจากเขา
“โอ๋ๆ ขวัญเอ้ยขวัญมานะครับที่รักของผม” จมูกโด่งกดลงที่หัวทุยเบาๆ กระชับแขนให้แน่นขึ้น
“ฮึก ฉันกลัว ฉันกลัว” เสียงหวานพึมพำ ถ้าหากเมื่อกี้เธออยู่คนเดียวเธออาจจะต้องตายไปในที่สุด หรือไม่ก็ไม่สามารถติดต่อกับชรัณได้เลยตลอดกาล
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมไม่ทิ้งให้คุณเจอกับไอ้เวรนี่อีกแน่นอน ไม่ต้องกลัว” พูดด้วยพร้อมกับขบกรามแน่นด้วยความโกรธ เขาอุตส่าห์ไม่ทำอะไรเกินเลย ในเมื่อทำผู้หญิงของเขาขนาดนี้ อย่าหวังเลยว่าจะมีที่ยืนในสังคมอีก!
ชรัณช้อนร่างบางขึ้น ตรงไปยังรถของตนเอง เขารีบเคลื่อนรถพาเธอกลับไปยังโรงแรมที่เช่าทิ้งไว้ อีกหน่อยคงต้องไปหาคอนโดใหญ่ๆสักที่ให้เธอได้พักผ่อน ความปลอดภัยดีๆสักหน่อยแล้ว
“หลับตานะครับ ถึงบ้านเราแล้วผมจะปลุก” เสียงทุ้มละมุนหูทำให้จิตใจที่สั่นกลัวสงบลงเห็นได้ชัด ดวงตาคู่สวยหลับลงตามคำพูดของเขา
อบอุ่น...
ชั่วเวลาไม่นานร่างกายของพราวมุกก็รู้สึกได้ถึงความอ่อนนุ่มของเตียงกว้าง เธอค่อยๆลืมตามองใบหน้าหล่อเหลาขณะเขานอนตะแคงลูบใบหน้าของเธออยู่อย่างงั้น
“คุณเจย์” เอ่ยน้ำเสียงเบาเรียกเขาตรงหน้า
ชรัณเผยยิ้มน้อยๆตอบกลับ
“หิวไหมครับ?” เวลานี้จะสามทุ่มได้แล้ว เขามองใบหน้าสวยเพลินจนไม่ได้หลับไปพร้อมเธอ
“ทานอะไรดีคะ?”
“แล้วคุณอยากกินอะไรครับ?”
“คุณเจย์”
คิ้วหนากระตุกขึ้นสูง มุมปากหยักยิ้มโชว์ฟันก่อนจะประคองใบหน้าสวยที่มีรอยฝ่ามือเข้ามาใกล้
“เมื่อคืนไม่อิ่มใช่ไหม?”
“เพราะเมื่อคืนถึงทำให้ฉันหิวคุณเรื่อยๆ” วงแขนเล็กๆโอบรอบลำคอแกร่ง
“งั้นผมจะเสิร์ฟให้เดี๋ยวนี้” ชรัณก้มลงจูบประโลมใบหน้าของเธอเบาๆ ริมฝีปากหนาค่อยๆเคลื่อนที่ไปยังปากอวบอิ่มของเธอ ฉกชิมเอาความอ่อนหวานด้วยแรงปรารถนาที่มากล้น
“ไม่ต้องกลัว แค่คุณมีผมอยู่” เขาพูดกระซิบ แม้จะคลอเคลียลิ้นเล็กอยู่
“อื้อ” พราวมุกยิ้มออก
เธอวางใจเขาได้ใช่ไหม?
“ผมชอบคุณ ผมชอบทุกส่วนที่เป็นคุณ” ไม่รู้ว่าตอนไหนเรือนร่างของทั้งคู่ก็เปลือยเปล่าล่อนจ้อนเหลือแต่ความแข็งที่เสียดแทงขาเรียวของเธออยู่
“ตอนนี้ฉันยังไม่พร้อม...” เธอกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
แต่เพียงแค่ตอนนี้เธอมีเขาอยู่ก็มีความสุข
“ไม่พร้อมตรงไหน?” มือหนาค่อยๆสัมผัสความเป็นหญิงสาว ก่อนจะนำความใหญ่โตเข้าหาเธอไปทีละนิด
“อื้ออ” ความต้องการที่มีมากขึ้นหลังจากได้รับความอบอุ่นทำให้กายสาวตอบสนองกับเขาด้วยความต้องการอย่างแรงกล้า
เธอชอบทุกท่วงท่าที่ชรัณลงกายย้ำเตือนว่าตอนนี้เธอเป็นของใครกันแน่ ยิ่งทำให้พราวมุกหยิ่งผยองในใจ
เสียงครวญครางดังลั่งพร้อมกับเสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะที่ดังสนั่น ไม่มีทางว่าจะสิ้นสุดสอดประสานเสียงคำรามในลำคอของชายหนุ่มวันกลัด ความสุขสมแล่นปราดเข้าสู่เรือนกายของคนทั้งคู่ ตอนนี้พราวมุกหูตาอื้อบอดไม่รู้เลยว่าอนาคตข้างหน้าเธอจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ขอเพียงมีเขาอยู่ข้างๆ ร่างกายของเธอต้องการเขามากกว่าใคร
แม้ไม่เคยแน่ใจตัวตนที่แท้จริงของชายตรงหน้าเลยก็ตาม
“อ๊า!” พราวมุกกรีดร้องเสียงหลงเมื่อเขายดเรียวขาสวยขึ้นมาแนบอก กดแก่นกายใหญ่โตเข้าไปจนสุดลำโคน กระแทกมันด้วยความหนักหน่วงจนเธอสุขสม
ความรัดแน่นทำให้ความเป็นชายจำยอมต้องพ่นเอาน้ำขาวขุ่นฉีดใส่โพรงรักของเธอจนหมดทุกหยาดหยด
“อิ่มไหมครับ หรือจะเอาอีกจาน?” เหงื่อเม็ดผุดขึ้นตามแผงอกกำยำ มือบางปรารถนาที่จะวางทาบลงบนนั้น แต่เขาแกล้งกระตุกมัดกล้ามหน้าอกจนเธอสะดุ้งชักมือกลับ
“คุณเจย์!”
“ฮ่าๆ คุณยังไม่ตอบผมเลยว่าจะเอาอีกไหม?”
เพราะแก่นกายของเขามันเริ่มพองโตภายในช่องทางรักของเธออีกแล้ว
“ดะ เดี๋ยว!”
“อืมม ไม่น่าทัน” สะโพกสอบเร่งเร้าเธออีกครั้งอีกครั้ง
ยิ่งเห็นลมหายใจถี่รัวของเธอทำให้หน้าอกกลมกลึงสั่นคลอนก็ยิ่งเร้าอารมณ์ ปลุกกำหนัดเขามากยิ่งขึ้น
ตอนแรกเธอกลัวทิมที่เป็นโรคจิต แต่ตอนนี้เธอกลัวชายที่อยู่บนเรือนร่าง เขาไม่มีท่าทีเลยว่าตอนนี้จะหยุด นี่มันซาตานในคราบเทพบุตรชัดๆ!
ดวงหน้าสวยลืมตามองคนที่หลับอยู่ข้างๆ เธอได้แต่เก็บความสงสัยว่าทำไมถึงปักใจเชื่อใจเขาขนาดนั้น ทั้งที่เขาปิดบังเรื่องราวส่วนตัวของเขาเองมาตลอด เมื่อคืนเธอกับเขานัวเนียกันไม่ต่างจากคืนแรก หลังจากเธองอแงจะนอนเขาถึงได้ยอมโอนอ่อนและกอดเธอเข้านอนไปด้วยกัน นั่นยิ่งสร้างความสงสัยในใจของพราวมุกไม่น้อย เธออยากรู้จักเขามากกว่า ต้องการเขามากกว่านี้ อยากเข้าไปเป็นส่วนนึงในชีวิตเขา แต่อีกใจก็ยังกลัวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น.. “มองจนผมจะท้องแล้วนะ” เขาลืมตาขึ้นมา ดวงตาสีนิลและสีอำพันเผลอสบกันโดยอัตโนมัติ คนที่ตื่นตระหนกกลับเป็นเธอแทน เขาจ้องมองนัยน์ตาแสนจะนิ่ง&nb
ขณะขับรถกลับ ชรัณเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง จู่ๆความเป็นชายของเขาก็แข็งตัวขึ้นมาดื้อๆ กายของชายหนุ่มร้อนผ่าวแถมยังมีเหงื่อไคลไหล่ออกตามลำคอ มือหนาเอื้อมไปเปิดแอร์ถึงระดับสูงสุดก่อนจะขับรถตรงไปยังโรงแรมด้วยความเร็ว ทั้งที่คิดไว้ว่าสองพ่อลูกคงไม่กล้าทำอะไรตอนนี้คาดไม่ถึงอย่างมาก เขาต่างหากที่กำลังตกเป็นหมากของทั้งคู่อย่างแท้จริง “เหี้ยเอ้ย!” ชรัณสถบคำหยาบคายกับตัวเอง รถก็มาติดเอาอะไรป่านนี้ ความรู้สึกของเขาตอนนี้มันแทบระเบิด ร่างกายนั่งอยู่ที่รถแต่ใจวิ่งไปหาพราวมุกเรียบร้อยแล้ว ยามที่นึกถึงร่างระหงโยกย้ายบนตัวความต้องการที่มียิ่งมากขึ้นไปอีก มากจนเขาควบคุมไม่ได้จนต้อง งัดเอาความแข็งทื่อออกมาสู่อากาศภายในรถ เผื่อมันจะดีขึ้นหน่อย&nb
พราวมุกลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบเย็น เธอค่อยๆขยับเรือนกายหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ แต่ทว่าพื้นที่ข้างๆเธอกลับว่างเปล่าไร้เงาของชายหนุ่ม เขาหายไปตั้งแต่ตอนไหน? มือบางค่อยๆยันร่างกายที่ปวดหนึบลุกขึ้นมานั่ง เมื่อคืนเขาเล่นเอาไม่ให้เธอได้พักเหนื่อยเลยแม้แต่นิด ไม่รู้ว่าโดนยาตัวไหนมาถึงได้เป็นม้าดีดทั้งวันทั้งคืนขนาดนั้น ยิ่งพูดพราวมุกยิ่งปวดหัว ไอ้คนบ้านั่น ทำให้ร่างกายของเธอไม่มีความสุข ร่างระหงลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำความสะอาดร่างกายของตนเองด้วยความทุลักทุเล หลังจากที่ทำให้ตัวเองสะอาดเสร็จ ก็เดินตรงดิ่งมายังครัวทันที หวังว่าตู้เย็นนี้จะมีสิ่งของที่เธอสามารถกินได้ แต่ทว่าหางตากลับหั
เจษถูกลากขึ้นรถยนต์ยี่ห้อแพงด้วยชั่วเวลาพริบตาเดียว เขาเป็นตำรวจมาหลายปี แต่ไม่เคยถูกจับขึ้นรถมาแบบงงๆอย่างครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ “เดี๋ยวนะครับ นี่คุณจะพาผมไปไหน?” “ตามที่เราตกลงกันไว้ไงคะ?” เสียงใสเอ่ยตอบ เหยียบจนแทบมิดไมล์ “หา? ผมไปตกลงอะไรกับคุณตอนไหน?” เจษขมวดคิ้วมองทางสลับเข้ากับใบหน้านวล “ฉันรู้ค่ะ ว่าตัวจริงของฉันมันสวยกว่าในรูปมาก แต่ฉันก็ไม่คิดจะรังเกียจคุณเลยนะคะ” พูดไปก็หันหน้ารถเข้ามายังโรงแรมแห่งหนึ่ง “เฮ้ย! นี่คุณกะจะพาผมมาทำอะไรเนี่ย?” เจษโวยวายลั่นรถเมื่อเห็นเธอเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูด แถมยังเข้าสู่ห้องที่มีพนักงานรอเรียบร้อย&n
“คุณเจย์จะพาไปไหนเหรอคะ?” พราวมุกมองทางที่ไม่คุ้นชินเมื่อเขาพาออกมาจากโรงแรมตั้งแต่เช้าตรู่ “บ้านใหม่ของเรา” ชรัณเลี้ยวหัวรถเข้าไปยังคอนโดหลังใหม่ เขาเฟ้นหาทั่วทั้งกรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัยของพราวมุกโดยเฉพาะ อีกทั้งที่นี่ยังสะดวกสบายเดินทางง่ายแม้ไม่มีรถส่วนตัว เพราะติดกับรถไฟฟ้า รถขนส่งสาธารณะ รถคันเก่าของทิมที่ซื้อให้เธอขับอยู่ทุกวันนั้น ชรัณห้ามเธอขนกลับมาด้วยเรียบร้อย “บ้านของเรางั้นเหรอคะ?” นี่เขาล้อเล่นอะไรอยู่กันแน่ คอนโดเนี่ยนะเรียกบ้านของเรา แน่จริงก็พาเธอไปอยู่ในบ้านเลยสิ ถ้าไม่กลัวคนที่บ้านว่า! “อื
หลังจากที่มาอยู่กับไอริได้หนึ่งเดือนกว่าแล้ว ทั้งสองสาวก็ร่วมงานก้นได้ดี เพราะอีกคนหาเงิน ด้วยความสามารถ และอีกคนช่วยจัดตารางเล็กไปน้อยๆ แถมงานบ้านไม่ขาดอีก “เฮ้อ~” พราวมุกถอนหายใจที หาวทีเกือบตลอดทุกห้านาที “ง่วงก็ไปนอน” ไอริขำเบาๆ “ง่วงอะไร แค่นี้เอง ปกตินอนได้ยันตีสองตีสาม” มองเวลาแค่สองทุ่มก็ยิ่งรู้สึกง่วงแล้ว “อ้อจ้า แม่คนเก่ง ช่วงนี้แกยุ่งมากเลย ต้องรับงานจากผู้จัดการฉันมาทำด้วย” ไอริวางงานลงก่อนจะยิ้มกว้างให้เพื่อน “ฉันไม่อยากอยู่เฉยๆหรอกย่ะ เอาเป็นว่าช่วงนี้ฉันช่วยได้จะช่วย เก็บเงินสักหน่อยนึงกลับบ้านไปหาป้า งานที่นู่นน่าจะดีกว่า”
“คุณพริ้งกำลังท้องกับใครครับ?” หลังจากตรวจเสร็จชรัณก็เอ่ยถามทันที เพราะเรื่องนี้มันกำลังทำให้เขาเดือดร้อนไปด้วย “ถ้าพ่อไปพูดอะไรไม่ดีแบบนั้น พริ้งขอโทษคุณเจย์อีกครั้งจริงๆนะคะ” พริ้งพราวยกมือขึ้นไว้ เธอไม่กล้าสู้หน้าชายคนนี้ได้เลย บาปกรรม ที่เธอกล้าทำกับเขามันมากนัก “คุณพริ้ง บอกผมได้ไหม? ว่าใครเป็นพ่อเด็ก เพราะเด็กคนนี้จะไม่มีพ่อไม่ได้ แล้วพ่อเขาต้องรู้และรับผิดชอบด้วยครับ” เสียงเข้มทำให้พริ้งพราวใจหวั่น “ขะ เขาชื่อเจษ เป็นเกย์ค่ะ พริ้งตั้งใจมีน้องเพื่อที่จะไม่ต้องแต่งงานกับคุณเจย์” เธอสลดลง “คิดอะไรบ้าๆเนี้ย! แค่คุณไม่เต็มใจ ผมไม่เต็มใจ ไม่มีใครบังคับเราได้หรอกครับ” ชรัณหัวเสีย เขาไม่คิดว่าตัวเ
ชรัณมองโชว์รูมใหม่อย่างภาคภูมิใจในความสามารถของ ตนเอง ตอนนี้เขากำลังเดินตามรอยของปู่และพ่ออย่างสมบูรณ์ โชว์รูมแห่งที่สองของเขาดูผู้คนที่เขามาดูไม่เว้นเวลา ยิ่งเปิดใหม่ๆเหล่าเศรษฐีกระเป๋าหนักแถวนี้ยิ่งเขามาดูและมาจองกันกระหน่ำ “เกินความคาดหมาย” เสียงของเจ้าสัวใจภักดิ์เอ่ยชื่นชมบุตรชาย “รถมารอแล้วครับ” ชรัณบอกบิดา “จะรีบไล่อั๊วทำไมนักหนา อยากเห็นผลงานของลูกชายนานๆ” “ไม่อยากถูกหมอบ่นพรุ่งนี้เตี่ยก็รีบกลับซะนะครับ” เสียงเข้มบอก หากไม่ติดว่าพรุ่งนี้บิดามีนัดไปโรงพยาบาลเขาก็จะให้อยู่ต่อสักหน่อย “แล้วหาพนักงานมาได้ครบหรือยัง รีบๆหน่อยนะ แล้วก็ควรหาคนที่ไว้ใจได้ด้วย” เจ้าสัวใหญ่เตือนบุตรชาย&nbs
ชรัณมองโชว์รูมใหม่อย่างภาคภูมิใจในความสามารถของ ตนเอง ตอนนี้เขากำลังเดินตามรอยของปู่และพ่ออย่างสมบูรณ์ โชว์รูมแห่งที่สองของเขาดูผู้คนที่เขามาดูไม่เว้นเวลา ยิ่งเปิดใหม่ๆเหล่าเศรษฐีกระเป๋าหนักแถวนี้ยิ่งเขามาดูและมาจองกันกระหน่ำ “เกินความคาดหมาย” เสียงของเจ้าสัวใจภักดิ์เอ่ยชื่นชมบุตรชาย “รถมารอแล้วครับ” ชรัณบอกบิดา “จะรีบไล่อั๊วทำไมนักหนา อยากเห็นผลงานของลูกชายนานๆ” “ไม่อยากถูกหมอบ่นพรุ่งนี้เตี่ยก็รีบกลับซะนะครับ” เสียงเข้มบอก หากไม่ติดว่าพรุ่งนี้บิดามีนัดไปโรงพยาบาลเขาก็จะให้อยู่ต่อสักหน่อย “แล้วหาพนักงานมาได้ครบหรือยัง รีบๆหน่อยนะ แล้วก็ควรหาคนที่ไว้ใจได้ด้วย” เจ้าสัวใหญ่เตือนบุตรชาย&nbs
“คุณพริ้งกำลังท้องกับใครครับ?” หลังจากตรวจเสร็จชรัณก็เอ่ยถามทันที เพราะเรื่องนี้มันกำลังทำให้เขาเดือดร้อนไปด้วย “ถ้าพ่อไปพูดอะไรไม่ดีแบบนั้น พริ้งขอโทษคุณเจย์อีกครั้งจริงๆนะคะ” พริ้งพราวยกมือขึ้นไว้ เธอไม่กล้าสู้หน้าชายคนนี้ได้เลย บาปกรรม ที่เธอกล้าทำกับเขามันมากนัก “คุณพริ้ง บอกผมได้ไหม? ว่าใครเป็นพ่อเด็ก เพราะเด็กคนนี้จะไม่มีพ่อไม่ได้ แล้วพ่อเขาต้องรู้และรับผิดชอบด้วยครับ” เสียงเข้มทำให้พริ้งพราวใจหวั่น “ขะ เขาชื่อเจษ เป็นเกย์ค่ะ พริ้งตั้งใจมีน้องเพื่อที่จะไม่ต้องแต่งงานกับคุณเจย์” เธอสลดลง “คิดอะไรบ้าๆเนี้ย! แค่คุณไม่เต็มใจ ผมไม่เต็มใจ ไม่มีใครบังคับเราได้หรอกครับ” ชรัณหัวเสีย เขาไม่คิดว่าตัวเ
หลังจากที่มาอยู่กับไอริได้หนึ่งเดือนกว่าแล้ว ทั้งสองสาวก็ร่วมงานก้นได้ดี เพราะอีกคนหาเงิน ด้วยความสามารถ และอีกคนช่วยจัดตารางเล็กไปน้อยๆ แถมงานบ้านไม่ขาดอีก “เฮ้อ~” พราวมุกถอนหายใจที หาวทีเกือบตลอดทุกห้านาที “ง่วงก็ไปนอน” ไอริขำเบาๆ “ง่วงอะไร แค่นี้เอง ปกตินอนได้ยันตีสองตีสาม” มองเวลาแค่สองทุ่มก็ยิ่งรู้สึกง่วงแล้ว “อ้อจ้า แม่คนเก่ง ช่วงนี้แกยุ่งมากเลย ต้องรับงานจากผู้จัดการฉันมาทำด้วย” ไอริวางงานลงก่อนจะยิ้มกว้างให้เพื่อน “ฉันไม่อยากอยู่เฉยๆหรอกย่ะ เอาเป็นว่าช่วงนี้ฉันช่วยได้จะช่วย เก็บเงินสักหน่อยนึงกลับบ้านไปหาป้า งานที่นู่นน่าจะดีกว่า”
“คุณเจย์จะพาไปไหนเหรอคะ?” พราวมุกมองทางที่ไม่คุ้นชินเมื่อเขาพาออกมาจากโรงแรมตั้งแต่เช้าตรู่ “บ้านใหม่ของเรา” ชรัณเลี้ยวหัวรถเข้าไปยังคอนโดหลังใหม่ เขาเฟ้นหาทั่วทั้งกรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัยของพราวมุกโดยเฉพาะ อีกทั้งที่นี่ยังสะดวกสบายเดินทางง่ายแม้ไม่มีรถส่วนตัว เพราะติดกับรถไฟฟ้า รถขนส่งสาธารณะ รถคันเก่าของทิมที่ซื้อให้เธอขับอยู่ทุกวันนั้น ชรัณห้ามเธอขนกลับมาด้วยเรียบร้อย “บ้านของเรางั้นเหรอคะ?” นี่เขาล้อเล่นอะไรอยู่กันแน่ คอนโดเนี่ยนะเรียกบ้านของเรา แน่จริงก็พาเธอไปอยู่ในบ้านเลยสิ ถ้าไม่กลัวคนที่บ้านว่า! “อื
เจษถูกลากขึ้นรถยนต์ยี่ห้อแพงด้วยชั่วเวลาพริบตาเดียว เขาเป็นตำรวจมาหลายปี แต่ไม่เคยถูกจับขึ้นรถมาแบบงงๆอย่างครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ “เดี๋ยวนะครับ นี่คุณจะพาผมไปไหน?” “ตามที่เราตกลงกันไว้ไงคะ?” เสียงใสเอ่ยตอบ เหยียบจนแทบมิดไมล์ “หา? ผมไปตกลงอะไรกับคุณตอนไหน?” เจษขมวดคิ้วมองทางสลับเข้ากับใบหน้านวล “ฉันรู้ค่ะ ว่าตัวจริงของฉันมันสวยกว่าในรูปมาก แต่ฉันก็ไม่คิดจะรังเกียจคุณเลยนะคะ” พูดไปก็หันหน้ารถเข้ามายังโรงแรมแห่งหนึ่ง “เฮ้ย! นี่คุณกะจะพาผมมาทำอะไรเนี่ย?” เจษโวยวายลั่นรถเมื่อเห็นเธอเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูด แถมยังเข้าสู่ห้องที่มีพนักงานรอเรียบร้อย&n
พราวมุกลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบเย็น เธอค่อยๆขยับเรือนกายหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ แต่ทว่าพื้นที่ข้างๆเธอกลับว่างเปล่าไร้เงาของชายหนุ่ม เขาหายไปตั้งแต่ตอนไหน? มือบางค่อยๆยันร่างกายที่ปวดหนึบลุกขึ้นมานั่ง เมื่อคืนเขาเล่นเอาไม่ให้เธอได้พักเหนื่อยเลยแม้แต่นิด ไม่รู้ว่าโดนยาตัวไหนมาถึงได้เป็นม้าดีดทั้งวันทั้งคืนขนาดนั้น ยิ่งพูดพราวมุกยิ่งปวดหัว ไอ้คนบ้านั่น ทำให้ร่างกายของเธอไม่มีความสุข ร่างระหงลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำความสะอาดร่างกายของตนเองด้วยความทุลักทุเล หลังจากที่ทำให้ตัวเองสะอาดเสร็จ ก็เดินตรงดิ่งมายังครัวทันที หวังว่าตู้เย็นนี้จะมีสิ่งของที่เธอสามารถกินได้ แต่ทว่าหางตากลับหั
ขณะขับรถกลับ ชรัณเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง จู่ๆความเป็นชายของเขาก็แข็งตัวขึ้นมาดื้อๆ กายของชายหนุ่มร้อนผ่าวแถมยังมีเหงื่อไคลไหล่ออกตามลำคอ มือหนาเอื้อมไปเปิดแอร์ถึงระดับสูงสุดก่อนจะขับรถตรงไปยังโรงแรมด้วยความเร็ว ทั้งที่คิดไว้ว่าสองพ่อลูกคงไม่กล้าทำอะไรตอนนี้คาดไม่ถึงอย่างมาก เขาต่างหากที่กำลังตกเป็นหมากของทั้งคู่อย่างแท้จริง “เหี้ยเอ้ย!” ชรัณสถบคำหยาบคายกับตัวเอง รถก็มาติดเอาอะไรป่านนี้ ความรู้สึกของเขาตอนนี้มันแทบระเบิด ร่างกายนั่งอยู่ที่รถแต่ใจวิ่งไปหาพราวมุกเรียบร้อยแล้ว ยามที่นึกถึงร่างระหงโยกย้ายบนตัวความต้องการที่มียิ่งมากขึ้นไปอีก มากจนเขาควบคุมไม่ได้จนต้อง งัดเอาความแข็งทื่อออกมาสู่อากาศภายในรถ เผื่อมันจะดีขึ้นหน่อย&nb
ดวงหน้าสวยลืมตามองคนที่หลับอยู่ข้างๆ เธอได้แต่เก็บความสงสัยว่าทำไมถึงปักใจเชื่อใจเขาขนาดนั้น ทั้งที่เขาปิดบังเรื่องราวส่วนตัวของเขาเองมาตลอด เมื่อคืนเธอกับเขานัวเนียกันไม่ต่างจากคืนแรก หลังจากเธองอแงจะนอนเขาถึงได้ยอมโอนอ่อนและกอดเธอเข้านอนไปด้วยกัน นั่นยิ่งสร้างความสงสัยในใจของพราวมุกไม่น้อย เธออยากรู้จักเขามากกว่า ต้องการเขามากกว่านี้ อยากเข้าไปเป็นส่วนนึงในชีวิตเขา แต่อีกใจก็ยังกลัวทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น.. “มองจนผมจะท้องแล้วนะ” เขาลืมตาขึ้นมา ดวงตาสีนิลและสีอำพันเผลอสบกันโดยอัตโนมัติ คนที่ตื่นตระหนกกลับเป็นเธอแทน เขาจ้องมองนัยน์ตาแสนจะนิ่ง&nb
“แกลืมอะไรไอ..” พราวมุกเงียบกินในทันใด เธอมองร่างของทิมที่ตอนนี้สวมเชิ้ตสีขาวคล้ายกับเป็นชุดเจ้าบ่าว ยืนมองหน้าเธอด้วยรอยยิ้มสุดโรคจิต “มึงจะไปไหน!” มือหนากระชากกลุ่มผมดกดำด้วยความแรง ใบหน้าสวยเงยขึ้นด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะปัดป่ายมือเขาออก “ปล่อยฉันนะ!” แม้จะตกใจไม่น้อยแต่พราวมุกก็พยายามที่จะสู้ “ปล่อยก็โง่ กูเฝ้าอุตส่าห์ตามจีบมึงมาตั้งนาน จะหนีไปแบบนี้ดื้อๆเหรอที่รัก?” เขาย่อตัวลงมามองใบหน้าสวยที่ตอนนี้เริ่มหวั่นกลัวเขา “ทิม! พราวเจ็บ” น้ำเสียงเริ่มอ่อนลงเมื่อเห็นเขาย่อเข้ามาใกล้ตัว “ถ