ชรัณมองโชว์รูมใหม่อย่างภาคภูมิใจในความสามารถของ ตนเอง ตอนนี้เขากำลังเดินตามรอยของปู่และพ่ออย่างสมบูรณ์ โชว์รูมแห่งที่สองของเขาดูผู้คนที่เขามาดูไม่เว้นเวลา ยิ่งเปิดใหม่ๆเหล่าเศรษฐีกระเป๋าหนักแถวนี้ยิ่งเขามาดูและมาจองกันกระหน่ำ
“เกินความคาดหมาย” เสียงของเจ้าสัวใจภักดิ์เอ่ยชื่นชมบุตรชาย
“รถมารอแล้วครับ” ชรัณบอกบิดา
“จะรีบไล่อั๊วทำไมนักหนา อยากเห็นผลงานของลูกชายนานๆ”
“ไม่อยากถูกหมอบ่นพรุ่งนี้เตี่ยก็รีบกลับซะนะครับ” เสียงเข้มบอก หากไม่ติดว่าพรุ่งนี้บิดามีนัดไปโรงพยาบาลเขาก็จะให้อยู่ต่อสักหน่อย
“แล้วหาพนักงานมาได้ครบหรือยัง รีบๆหน่อยนะ แล้วก็ควรหาคนที่ไว้ใจได้ด้วย” เจ้าสัวใหญ่เตือนบุตรชาย
&nbs
ชรัณรีบวิ่งเข้ามายังโรงพยาบาลด้วยความร้อนใจ เขามองหาร่างบางของพราวมุกด้วยความรู้สึกเป็นกังวลผสมปนเปกับความรู้สึกเป็นห่วง ไม่นานดวงตาสีอำพันก็หันไปพบเข้ากับร่างบางขณะที่เธอกำลังนั่งอยู่หน้าห้องผ่าตัดด้วยความรู้สึกที่ใจจดใจจ่อ สองขายาวก้าวไม่ออกเลยเมื่อเห็นว่าเธอกำลังร้องไห้ด้วยความทุกข์ใจ เหตุใดเขาถึงได้ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวมานานขนาดนี้ ทั้งที่ควรจะเหนี่ยวรั้งหัวใจเธอไว้ หากเข้าไปหาตอนนี้เธอจะรู้สึกกลัวเขาไหม? จะคิดว่าเขาตามเธอแบบครั้งที่แล้วหรือเปล่า? “ญาติคนไข้คะ? อันนี้คือรายละเอียดการจ่ายเงินทั้งหมดค่ะ สะดวกเป็นเงินสดหรือผ่อนก็ได้นะคะ ทางโรงพยาบาลมีสิทธิ์ให้พิเศษค่ะ” พยาบาลสาวพูดเสียงดังทำเอาคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลได้ยิน&nbs
หลังจากที่จันทราภาฟื้นได้สติ เธอก็แปรเปลี่ยนจากคนใจเย็นเป็นคนขี้หงุดหงิด วันแรกๆทำให้พราวมุกเหนื่อยและใช้แรงกายไปเยอะมากทั้งอาการแพ้ท้องและดูแลคนป่วย เธอแทบไม่ได้พัก แต่หลังจากที่ผ่าตัดได้ถึงสัปดาห์อารมณ์ของคนป่วยก็เริ่มคงที่ลง ตอนนี้จันทราภาไม่ต่างจากไม้ใกล้ฝั่ง เธอนอนมองพื้นเพดานและมองคนรอบข้างที่ได้ออกจากโรงพยาบาลและเข้ามาใหม่ไม่ซ้ำหน้า “ป้าภาคะ วันนี้พราวซื้อเงาะมาให้ด้วย กินซักหน่อยนะคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นเงาะที่แกะเมล็ดแล้วให้แก่คนป่วย จันทราภาเพียงเหลือบมองแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ที่ยอมอ้าปากแต่โดยดี “พร
“นี่น่ะเหรอครับ?” ชรัณมองข้าวของที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยสายตาแปลกใจ ถูกเรียกให้ออกมาตั้งแต่ตีสาม สวมเสื้อกันเปื้อนพร้อมอุปกรณ์ทำครัวเสร็จสรรพ “ค่ะ ช่วงนี้ป้าของฉันท่านยังต้องพักผ่อน ส่วนฉันก็ไม่อยากเสียค่าจ้างคนงาน เพราะงั้น นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำ ฉันเขียนมันไว้ที่กระดาษแผ่นนี้เรียบร้อย” มือบางหยิบกระดาษที่ว่าวางใส่มือหนา ชรัณรีบเปิดออกดู ก่อนจะตาเบิกโพลง เพราะมันไม่ใช่กระดาษธรรมดา แต่มันแผ่นใหญ่เกินกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก “ตื่นเช้าเวลาตีสาม มาช่วยทำกับข้าว มีหน้าที่เตรียมวัตถุดิบและเป็นลูกมือห่างๆ เจ็ดโมงจัดเรียงข้าวของขึ้นบนรถ แปดโมงตั้งโต๊ะขายกับข้าวเช้า สิบโมงเก็บของกลับบ้าน สิบเอ็ดโมงเตรียม
นังพราว วันนี้แกตายแน่! ลืมความเจ็บช้ำของทั้งห้าปีไปให้หมด แล้วมาเจ็บกีแค่วันนี้วันเดียวพอ! “ตัวจริงคุณแซ่บกว่าในรูปเยอะ” เธอมองเขาตาละห้อย มือบางลูบไล้เรือนร่างตัวเองด้วยความต้องการเมื่อเห็นเขาจับสไลด์หนอนยักษ์ด้วยตนเอง “แซ่บกว่า ดุกว่า แถมใหญ่กว่าของแฟนคุณไหม?” เขาเลิกคิ้วถาม เอาให้เธอทรมานก่อนที่เขาจะเข้าไปใกล้ “เรื่องใหญ่ฉันไม่เถียง แต่เรื่องดุ.. ต้องลองก่อน” เรียวปากแดงยกยิ้มแสนเย้ายวน ไม่น่าเชื่อ สายตาของชรัณจะมองผิดไป นี่มันแม่เสือสาวชัดๆ ไม่ใช่แมวน้อยสุดเชื่องเหมือนที่เคยวาดฝันเอาไว้เลยสักนิด “ถ้างั้นอย่าส่งเสียงดังไปนะครับ” มือหนาหยิบเอาซองสีเงินขึ้นมาก่อนจะใช้ปากฉีก “คุณจะไม่บอกใครเรื่องของเราใช่ไหม?” เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาอย่างแหบแห้งเมื่อเห็นท่าทางสุดร้ายกาจของเขา ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายเมื่อเห็นเรือนร่างจริงของชายหนุ่มตรงหน้า “ถ้าคุณสั่งผม ผมจะไม่พูด” ร่างกำยำโน้มตัวลงมาใกล้ชิดกับความนุ่มนิ่มของร่างบาง มือหนาลูบไล้ส่วนเว้าโค้งของหญิงสาวอย่างช้าๆ หวังปลุกเร้าอารมณ์คนขี้สงสัย
มีใครหลายๆคนบอกว่าเวลาผู้หญิงกับผู้ชายรักใครสักคน พวกเขามักจะให้ความรักได้ไม่เท่ากัน เพราะผู้ชายนั้นเริ่มต้นจากร้อยตั้งแต่แรก พอนานวันเข้ารักก็เริ่มลดหย่อนลง ไม่มีคำว่าเต็มร้อยอย่างวันแรกๆที่อยากมีอยากได้ แต่ผู้หญิงบางคนกลับเริ่มจากศูนย์และค่อยๆเติมเต็มกับพฤติกรรมของฝ่ายชายช่วงแรกๆ และเช่นเดียวกันกับพราวมุก หญิงสาววัยยี่สิบเจ็ด เธอคบกับแฟนหนุ่มมาตั้งแต่ใกล้จบมหาวิทยาลัย ผ่านมาวันนี้ก็ห้าปีเต็มที่เธอได้เข้ามาใช้ชีวิตอยู่กับเขา คอนโดเล็กๆที่มีเพียงเขาและเธออยู่ด้วยกัน ทั้งเธอและเขาต่างวาดฝันอนาคตที่ดีไว้ด้วยกัน ผ่านเรื่องราวมากมายหลายอย่างทั้งความสุขและความทุกข์ พราวมุกเองก็เป็นหญิงสาวที่ถูกคนในครอบครัวแฟนหนุ่มไม่ค่อยชอบขี้หน้าเท่าไหร่ แต่เธอก็พยายามเข้าหาทั้งแม่และน้องของเขา จนทุกวันนี้เริ่มคุยกันดีขึ้นบ้าง แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เธอทำก็เปล่าประโยชน์ทั้งหมด.. เมื่อสองเดือนก่อนเธอก็เริ่มเห็นข้อความแปลกๆได้เด้งขึ้นที่หน้าเจอโทรศัพท์มือถือของแฟนหนุ่มระหว่างที่ทั้งคู่นั่งทานข้าวด้วยกันเป็นกิจวัตรประจำวันทุกวัน “ใ
ความเสียใจทำให้พราวมุกต้องออกมานั่งปรับทุกข์กับเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวอย่างไอริ คนนึงร้องอีกคนนึงปลอบ คนนึงระบาย อีกคนคอยลูบหลัง... “ไม่เข้าใจว่ะ ฮึก ฉันผิดมากเหรอวะ?” เธอพยายามที่จะเข้าใจแฟนหนุ่มอย่างทิม แต่ยิ่งพยายามทำความเข้าใจหนักแค่ไหน ก็หาคำตอบเหมือนที่เขาพูดไม่ได้อยู่ดี “ฉันจะบอกอะไรให้นะพราว คนทำผิดเขาไม่คิดว่าตัวเองทำผิดหรอก ข้อแก้ต่างง่ายๆที่ทำให้แกต้องมาจมปลักแบบนี้มันสมเหตุสมผลที่ไหน?” ไอริถอนหายใจ ถ้าใครฟังก็ดูรู้เลยในทีเดียวว่ามันเป็นเหตุผลที่โคตรจะน่าเกียจ เหตุผลที่เอาแต่ได้ของผู้ชายทั้งนั้น “ฮึก ฮือๆ ฉันเหมือนจะขาดใจเลยแก ฮือๆ” เสียงร้องไห้ของพราวมุกช่างบาดใจเพื่อนสนิทแบบเธอเหลือเกิน สองแขนเรียวประคองกอดเพื่อนสาวจนแน่น ไอรินึกถึงภาพที่เห็นทิมกระทำทุกอย่างด้วยความรักให้กับเพื่อนเธอมาตลอด ดีมาตั้งแต่ต้นอย่างไร ตอนนี้ก็ไม่ได้แย่ เขาเปิดตัวของพราวมุกทุกอย่าง โซเซียลไหนไม่มีที่ว่างให้ผู้อื่น แต่มาวันนี้ เพื่อนเธอมาร้องไห้แทบเป็นแทบตาย เพราะความเลว และโยนตราบาปมาให้ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ดูแลเขามาอย่างดีตลอด “เขาไม่ไ
“โอ้ยๆ ตายแล้ว” ชายแก่วัยกลางคนแสร้งทำเป็นเดินเซไปมาคล้ายจะเป็นลม คนที่มีความรู้สึกไวอย่างพราวกมุกจึงรีบเด้งตัวออกมาแล้วประคองเจ้าสัวทันที ด้วยความตกใจ “คุณลุง เป็นอะไรไหมคะ?” น้ำเสียงใสๆที่ฟังดูว่าเป็นห่วงทำให้คนแก่พึงพอใจเป็นอย่างมาก ไอ้ลูกคนนี้นับว่ามันเลือกผู้หญิงได้ดีจริงๆ เสียงใส หน้าสวย แถมมีน้ำใจ เตี่ยคนนี้ให้ผ่านแถมยักโรงเหล้าให้อีกห้าที่ไปเลย “โอยย ตายแล้ว อยู่ๆจะลุกไปเข้าห้องน้ำซักหน่อย หน้าลุงก็มืดขึ้นมา ขอบคุณนะหนูที่มาช่วยประคอง” คนมากเล่ห์เลี่ยมทำเหมือนจะหมดแรงก่อนจะถูกร่างบางพยุงไปนั่งที่เก้าอี้ สายตาคมที่มองมาตลอดยังคงไม่แปรทิศทาง เขาเองก็อยากรู้ว่าพ่อเขาจะเล่นไม้ไหน แม้ทั้งร่างกายจะสั่นรัวไปด้วยความอิจฉาบิดาที่ถูกเธอได้ประคองก็เหอะ “ให้หนูเรียกพยาบาลไหมคะ? ดูท่าคุณลุงอาการไม่ค่อยดี” เธอเองก็รอพรรณีแม่ของทิมอยู่เหมือนกัน อาจจะพอมีเวลาพาคุณลุงท่านนี้ไปได้ “ไม่ๆ อย่าลำบากเลยหนูเอ้ย ลุงแค่นั่งพักสักหน่อยก็หายแล้ว ว่าแต่หนูเถอะยังสาวยังแซ่มาแผนกอายุรกรรมกับใครงั้นหรือ?” เจ้าสัวใจภักดิ์รีบเปิดป
IEJJ : ถ้ากลับไปคบกันอีก แน่ใจเหรอครับ ว่าเขาจะไม่เอาโรคแปลกๆมาติดคุณ? Praw : แต่เขาก็ป้องกันกับเราตลอดนะคะ JJ : แต่เขาไม่ป้องกันกับผู้หญิงคนอื่น พอได้เห็นประโยคถัดมาเธอจี๊ดที่หัวใจจนไปต่อไม่ถูก JJ : ผู้ชายถ้ามันได้นอกลู่นอกทางแล้ว ยังไงก็ไม่กลับมาแน่นอนครับ อาจจะมีบางคนคิดได้ แต่ส่วนใหญ่ถ้าได้ติดสัตว์แล้วไม่ค่อยคิดกันครับ ตรงทุกดอกแล้วบอกว่าจะให้คำปรึกษา.. IE Praw : คุณเจย์อายุเท่าไหร่คะเนี้ย รู้สึกว่าโชกโชนจังเลย? JJ : อายุเป็นเพียงตัวเลขครับ แต่ที่ผมให้คำปรึกษาไปกับ หวังว่าคุณจะรับมันได้ Praw : แต่อันที่จริง เราก็อายุ 27 แล้ว สมควรที่จะไปหางานทำอย่างที่เขาบอกจริงๆนั่นแหละค่ะ ถึงแม้ว่าป้าแท้ๆของเธอจะเปิดร้านขายของในตลาด แต่มันก็คงไม่ได้มีเงินมากมายถึงขนาดจะซื้อคอนโดแบบทิมได้เลย IE JJ : ถ้าอยู่กับผมคุณไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นแน่นอนครับ ผมจะไม่ทำให้คุณต้องอด Praw : คุณถึงขั้นจะเลี้ยงดูฉันเลยเหรอคะ? พราวมุกเผลอยิ้มให้กับข้อความของผู้ชายแปลก
“นี่น่ะเหรอครับ?” ชรัณมองข้าวของที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยสายตาแปลกใจ ถูกเรียกให้ออกมาตั้งแต่ตีสาม สวมเสื้อกันเปื้อนพร้อมอุปกรณ์ทำครัวเสร็จสรรพ “ค่ะ ช่วงนี้ป้าของฉันท่านยังต้องพักผ่อน ส่วนฉันก็ไม่อยากเสียค่าจ้างคนงาน เพราะงั้น นี่คือสิ่งที่คุณต้องทำ ฉันเขียนมันไว้ที่กระดาษแผ่นนี้เรียบร้อย” มือบางหยิบกระดาษที่ว่าวางใส่มือหนา ชรัณรีบเปิดออกดู ก่อนจะตาเบิกโพลง เพราะมันไม่ใช่กระดาษธรรมดา แต่มันแผ่นใหญ่เกินกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก “ตื่นเช้าเวลาตีสาม มาช่วยทำกับข้าว มีหน้าที่เตรียมวัตถุดิบและเป็นลูกมือห่างๆ เจ็ดโมงจัดเรียงข้าวของขึ้นบนรถ แปดโมงตั้งโต๊ะขายกับข้าวเช้า สิบโมงเก็บของกลับบ้าน สิบเอ็ดโมงเตรียม
หลังจากที่จันทราภาฟื้นได้สติ เธอก็แปรเปลี่ยนจากคนใจเย็นเป็นคนขี้หงุดหงิด วันแรกๆทำให้พราวมุกเหนื่อยและใช้แรงกายไปเยอะมากทั้งอาการแพ้ท้องและดูแลคนป่วย เธอแทบไม่ได้พัก แต่หลังจากที่ผ่าตัดได้ถึงสัปดาห์อารมณ์ของคนป่วยก็เริ่มคงที่ลง ตอนนี้จันทราภาไม่ต่างจากไม้ใกล้ฝั่ง เธอนอนมองพื้นเพดานและมองคนรอบข้างที่ได้ออกจากโรงพยาบาลและเข้ามาใหม่ไม่ซ้ำหน้า “ป้าภาคะ วันนี้พราวซื้อเงาะมาให้ด้วย กินซักหน่อยนะคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นเงาะที่แกะเมล็ดแล้วให้แก่คนป่วย จันทราภาเพียงเหลือบมองแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร ที่ยอมอ้าปากแต่โดยดี “พร
ชรัณรีบวิ่งเข้ามายังโรงพยาบาลด้วยความร้อนใจ เขามองหาร่างบางของพราวมุกด้วยความรู้สึกเป็นกังวลผสมปนเปกับความรู้สึกเป็นห่วง ไม่นานดวงตาสีอำพันก็หันไปพบเข้ากับร่างบางขณะที่เธอกำลังนั่งอยู่หน้าห้องผ่าตัดด้วยความรู้สึกที่ใจจดใจจ่อ สองขายาวก้าวไม่ออกเลยเมื่อเห็นว่าเธอกำลังร้องไห้ด้วยความทุกข์ใจ เหตุใดเขาถึงได้ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวมานานขนาดนี้ ทั้งที่ควรจะเหนี่ยวรั้งหัวใจเธอไว้ หากเข้าไปหาตอนนี้เธอจะรู้สึกกลัวเขาไหม? จะคิดว่าเขาตามเธอแบบครั้งที่แล้วหรือเปล่า? “ญาติคนไข้คะ? อันนี้คือรายละเอียดการจ่ายเงินทั้งหมดค่ะ สะดวกเป็นเงินสดหรือผ่อนก็ได้นะคะ ทางโรงพยาบาลมีสิทธิ์ให้พิเศษค่ะ” พยาบาลสาวพูดเสียงดังทำเอาคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลได้ยิน&nbs
ชรัณมองโชว์รูมใหม่อย่างภาคภูมิใจในความสามารถของ ตนเอง ตอนนี้เขากำลังเดินตามรอยของปู่และพ่ออย่างสมบูรณ์ โชว์รูมแห่งที่สองของเขาดูผู้คนที่เขามาดูไม่เว้นเวลา ยิ่งเปิดใหม่ๆเหล่าเศรษฐีกระเป๋าหนักแถวนี้ยิ่งเขามาดูและมาจองกันกระหน่ำ “เกินความคาดหมาย” เสียงของเจ้าสัวใจภักดิ์เอ่ยชื่นชมบุตรชาย “รถมารอแล้วครับ” ชรัณบอกบิดา “จะรีบไล่อั๊วทำไมนักหนา อยากเห็นผลงานของลูกชายนานๆ” “ไม่อยากถูกหมอบ่นพรุ่งนี้เตี่ยก็รีบกลับซะนะครับ” เสียงเข้มบอก หากไม่ติดว่าพรุ่งนี้บิดามีนัดไปโรงพยาบาลเขาก็จะให้อยู่ต่อสักหน่อย “แล้วหาพนักงานมาได้ครบหรือยัง รีบๆหน่อยนะ แล้วก็ควรหาคนที่ไว้ใจได้ด้วย” เจ้าสัวใหญ่เตือนบุตรชาย&nbs
“คุณพริ้งกำลังท้องกับใครครับ?” หลังจากตรวจเสร็จชรัณก็เอ่ยถามทันที เพราะเรื่องนี้มันกำลังทำให้เขาเดือดร้อนไปด้วย “ถ้าพ่อไปพูดอะไรไม่ดีแบบนั้น พริ้งขอโทษคุณเจย์อีกครั้งจริงๆนะคะ” พริ้งพราวยกมือขึ้นไว้ เธอไม่กล้าสู้หน้าชายคนนี้ได้เลย บาปกรรม ที่เธอกล้าทำกับเขามันมากนัก “คุณพริ้ง บอกผมได้ไหม? ว่าใครเป็นพ่อเด็ก เพราะเด็กคนนี้จะไม่มีพ่อไม่ได้ แล้วพ่อเขาต้องรู้และรับผิดชอบด้วยครับ” เสียงเข้มทำให้พริ้งพราวใจหวั่น “ขะ เขาชื่อเจษ เป็นเกย์ค่ะ พริ้งตั้งใจมีน้องเพื่อที่จะไม่ต้องแต่งงานกับคุณเจย์” เธอสลดลง “คิดอะไรบ้าๆเนี้ย! แค่คุณไม่เต็มใจ ผมไม่เต็มใจ ไม่มีใครบังคับเราได้หรอกครับ” ชรัณหัวเสีย เขาไม่คิดว่าตัวเ
หลังจากที่มาอยู่กับไอริได้หนึ่งเดือนกว่าแล้ว ทั้งสองสาวก็ร่วมงานก้นได้ดี เพราะอีกคนหาเงิน ด้วยความสามารถ และอีกคนช่วยจัดตารางเล็กไปน้อยๆ แถมงานบ้านไม่ขาดอีก “เฮ้อ~” พราวมุกถอนหายใจที หาวทีเกือบตลอดทุกห้านาที “ง่วงก็ไปนอน” ไอริขำเบาๆ “ง่วงอะไร แค่นี้เอง ปกตินอนได้ยันตีสองตีสาม” มองเวลาแค่สองทุ่มก็ยิ่งรู้สึกง่วงแล้ว “อ้อจ้า แม่คนเก่ง ช่วงนี้แกยุ่งมากเลย ต้องรับงานจากผู้จัดการฉันมาทำด้วย” ไอริวางงานลงก่อนจะยิ้มกว้างให้เพื่อน “ฉันไม่อยากอยู่เฉยๆหรอกย่ะ เอาเป็นว่าช่วงนี้ฉันช่วยได้จะช่วย เก็บเงินสักหน่อยนึงกลับบ้านไปหาป้า งานที่นู่นน่าจะดีกว่า”
“คุณเจย์จะพาไปไหนเหรอคะ?” พราวมุกมองทางที่ไม่คุ้นชินเมื่อเขาพาออกมาจากโรงแรมตั้งแต่เช้าตรู่ “บ้านใหม่ของเรา” ชรัณเลี้ยวหัวรถเข้าไปยังคอนโดหลังใหม่ เขาเฟ้นหาทั่วทั้งกรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัยของพราวมุกโดยเฉพาะ อีกทั้งที่นี่ยังสะดวกสบายเดินทางง่ายแม้ไม่มีรถส่วนตัว เพราะติดกับรถไฟฟ้า รถขนส่งสาธารณะ รถคันเก่าของทิมที่ซื้อให้เธอขับอยู่ทุกวันนั้น ชรัณห้ามเธอขนกลับมาด้วยเรียบร้อย “บ้านของเรางั้นเหรอคะ?” นี่เขาล้อเล่นอะไรอยู่กันแน่ คอนโดเนี่ยนะเรียกบ้านของเรา แน่จริงก็พาเธอไปอยู่ในบ้านเลยสิ ถ้าไม่กลัวคนที่บ้านว่า! “อื
เจษถูกลากขึ้นรถยนต์ยี่ห้อแพงด้วยชั่วเวลาพริบตาเดียว เขาเป็นตำรวจมาหลายปี แต่ไม่เคยถูกจับขึ้นรถมาแบบงงๆอย่างครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ “เดี๋ยวนะครับ นี่คุณจะพาผมไปไหน?” “ตามที่เราตกลงกันไว้ไงคะ?” เสียงใสเอ่ยตอบ เหยียบจนแทบมิดไมล์ “หา? ผมไปตกลงอะไรกับคุณตอนไหน?” เจษขมวดคิ้วมองทางสลับเข้ากับใบหน้านวล “ฉันรู้ค่ะ ว่าตัวจริงของฉันมันสวยกว่าในรูปมาก แต่ฉันก็ไม่คิดจะรังเกียจคุณเลยนะคะ” พูดไปก็หันหน้ารถเข้ามายังโรงแรมแห่งหนึ่ง “เฮ้ย! นี่คุณกะจะพาผมมาทำอะไรเนี่ย?” เจษโวยวายลั่นรถเมื่อเห็นเธอเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูด แถมยังเข้าสู่ห้องที่มีพนักงานรอเรียบร้อย&n
พราวมุกลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบเย็น เธอค่อยๆขยับเรือนกายหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ แต่ทว่าพื้นที่ข้างๆเธอกลับว่างเปล่าไร้เงาของชายหนุ่ม เขาหายไปตั้งแต่ตอนไหน? มือบางค่อยๆยันร่างกายที่ปวดหนึบลุกขึ้นมานั่ง เมื่อคืนเขาเล่นเอาไม่ให้เธอได้พักเหนื่อยเลยแม้แต่นิด ไม่รู้ว่าโดนยาตัวไหนมาถึงได้เป็นม้าดีดทั้งวันทั้งคืนขนาดนั้น ยิ่งพูดพราวมุกยิ่งปวดหัว ไอ้คนบ้านั่น ทำให้ร่างกายของเธอไม่มีความสุข ร่างระหงลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำความสะอาดร่างกายของตนเองด้วยความทุลักทุเล หลังจากที่ทำให้ตัวเองสะอาดเสร็จ ก็เดินตรงดิ่งมายังครัวทันที หวังว่าตู้เย็นนี้จะมีสิ่งของที่เธอสามารถกินได้ แต่ทว่าหางตากลับหั