แชร์

EP.2 ชีวิตธรรมดา

ผู้เขียน: Zicx
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-07 16:27:46

ยามเช้าที่อึมครึมด้วยแสงอาทิตย์จางๆ และเสียงนกร้องในระยะไกล เวสเปอร์ มอนต์ทีร่า ก้าวออกจากห้องเช่าขนาดเล็กในย่านชานเมืองที่แออัด เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีเทาหม่นที่พอดีตัว กางเกงสีดำเรียบง่าย และรองเท้าผ้าใบที่เคยเป็นสีขาวสะอาดแต่บัดนี้เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนบ่งบอกถึงความเก่า เธอรวบผมสีดำยาวที่เป็นประกายราวกับไหมพรมซึ่งตัดกับดวงตาสีเขียวที่ดูสงบนิ่งและแฝงไปด้วยความเศร้าหมอง เธอมีผิวพรรณขาวซีดราวกับคนที่ไม่ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ แต่ถึงอย่างนั้น รูปร่างของเธอกลับดูสมส่วน มีความสง่างามที่แฝงอยู่ในท่าทางการเดินที่มั่นคง

เธอใช้เวลาเดินเพียงไม่กี่นาทีจากที่พักไปยังร้านสะดวกซื้อที่เธอทำงานอยู่ ร้านตั้งอยู่ที่มุมถนนใหญ่ ใกล้กับทางแยกที่มีรถราขวักไขว่ เธอผลักประตูกระจกที่เต็มไปด้วยรอยนิ้วมือออก เสียงกระดิ่งเล็กๆเหนือประตูดังขึ้นเบาๆก่อนที่เธอจะเดินไปหยิบผ้าขี้ริ้วและเริ่มเช็ดเคาน์เตอร์โดยไม่รอให้ใครสั่ง

เธอทำงานที่นี่มาเกือบหนึ่งปีแล้ว ตั้งแต่วันที่เธอล้มเลิกความฝันในการเป็นผู้อเวค การใช้พลังควบคุมเวลาที่ใครหลายคนมองว่าเป็นพรสวรรค์ที่หายากของเธอ ไม่ได้นำพาเธอไปสู่ความยิ่งใหญ่ แต่กลับผลักเธอลงไปในมุมอับของสังคม ผู้อเวคที่ล้มเหลวคือคำที่เธอได้ยินมาตั้งแต่วัยเด็ก

“เวสเปอร์ ฝากดูเคาน์เตอร์หน่อย ฉันจะไปจัดของในคลัง” เสียงของเพื่อนร่วมงานคนเดียวในกะเช้าดังขึ้น เธอพยักหน้ารับโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง

สักพักหนึ่งก็มีลูกค้าคนหนึ่งเดินเข้ามา หญิงสาววัยกลางคนในชุดสูทสีดำที่ดูรีบร้อน เธอหยิบกาแฟกระป๋องจากตู้แช่แล้วตรงมาที่เคาน์เตอร์ เวสเปอร์รับกระป๋องกาแฟมาสแกนพร้อมกับเอ่ยด้วยเสียงเรียบๆ

“18 คริสต์ค่ะ”

หญิงสาวพยักหน้า หยิบธนบัตรยื่นให้ก่อนจะหยิบกาแฟแล้วเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรเพิ่มเติม เธอไม่ได้คาดหวังบทสนทนาใดๆ เพราะนี่คือวิถีชีวิตประจำวันที่เธอคุ้นชิน

บางครั้งเวสเปอร์ใช้พลังของเธอในช่วงเวลาที่ไม่มีใครเห็น เช่น เมื่อกระป๋องน้ำอัดลมหลุดมือและกำลังจะตกลงพื้น เธอแอบใช้พลังย้อนเวลาสองวินาทีเพื่อจับมันไว้ก่อนจะตกแตก หรือในวันที่เหนื่อยล้า เธอจะทำให้เข็มนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังช้าลงเล็กน้อย เพื่อให้เธอได้มีเวลาพักเพิ่มขึ้นอีกสักสองสามนาที

แต่เธอระวังไม่ให้ใครสังเกตเห็น เพราะเธอไม่ต้องการให้ใครตั้งคำถามเกี่ยวกับอดีตที่เธอพยายามหนี

เวสเปอร์เกิดมาในครอบครัวที่มีชื่อเสียงในวงการผู้อเวค พ่อของเธอเป็นผู้อเวคระดับ A ที่มีพลังในการสร้างเกราะป้องกัน ส่วนแม่ของเธอเป็นผู้อเวคระดับ B ที่เชี่ยวชาญในการควบคุมพืชพันธุ์ ทั้งคู่คาดหวังให้เธอเดินตามรอยเท้าของพวกเขา แต่เมื่อพลังของเธอปรากฏขึ้นตอนอายุ 8 ปี มันกลับเป็นเพียงการควบคุมเวลาที่จำกัดการย้อนเวลาได้แค่ไม่กี่วินาที

“ทำได้แค่นี้เองเหรอ?” พ่อของเธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง

ตั้งแต่นั้นมา เธอก็พยายามฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อพิสูจน์ว่าพลังของเธอไม่ได้ไร้ค่า แต่ยิ่งเธอพยายามมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งตระหนักว่ามันไม่มีทางพัฒนาไปได้มากกว่านี้

ในวัย 16 ปี หลังจากล้มเหลวในการสอบเข้ากิลล์ชั้นนำ เธอตัดสินใจตัดขาดจากครอบครัวที่เอาแต่ดูถูกเธอและออกจากเส้นทางของผู้อเวค เวสเปอร์เลือกที่จะเริ่มต้นชีวิตธรรมดาแทน เธอเชื่อว่าการหนีจากโลกที่เต็มไปด้วยการเปรียบเทียบและการแข่งขัน คือหนทางเดียวที่จะทำให้เธอมีความสงบสุข

แต่ในใจลึกๆ เธอรู้ดีว่าเธอไม่เคยลืมความฝันนั้น ความฝันที่จะพิสูจน์ตัวเอง

ในตอนที่เวสเปอร์กำลังเรียงของอยู่นั้น เสียงประกาศทางวิทยุในร้านก็ดังขึ้น “มีรายงานการเกิดดันเจี้ยนขนาดเล็กในเขตใกล้เคียง โปรดหลีกเลี่ยงการเดินทางในบริเวณดังกล่าว”

เวสเปอร์เหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นกลุ่มผู้อเวคที่สวมชุดเกราะวิ่งผ่านร้านไป เธอถอนหายใจเบาๆ และพยายามกลับมาจดจ่อกับงานตรงหน้า

แต่เธอไม่รู้เลยว่า เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล

เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังขึ้นอีกครั้งในช่วงหัวค่ำ เวสเปอร์เงยหน้าจากเคาน์เตอร์ พบว่าคราวนี้เป็นชายหนุ่มที่ดูเหมือนผู้อเวคระดับกลาง เขาสวมเสื้อคลุมหนังสีดำสนิทพร้อมกระเป๋าเป้ที่ดูเหมือนจะหนักอึ้ง ใบหน้าของเขาดูเหนื่อยล้าราวกับเพิ่งกลับมาจากการสำรวจดันเจี้ยน เวสเปอร์พยายามไม่สนใจมากนัก เธอจัดการกับลูกค้าทุกคนในลักษณะเดียวกัน ซึ่งก็คือการเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้

ชายหนุ่มหยิบกระป๋องน้ำอัดลมสองสามกระป๋องและขนมถุงใหญ่ก่อนจะมาวางที่เคาน์เตอร์ เธอรับของมาสแกนโดยไม่ได้สบตา

“ดันเจี้ยนเกิดบ่อยแบบนี้ น่ารำคาญชะมัด” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาขณะล้วงกระเป๋าหาเงิน เวสเปอร์ชะงักเล็กน้อย เธอไม่ได้คาดหวังบทสนทนาแบบนี้ในวันธรรมดาที่ควรจะเงียบสงบ

“ค่ะ…” เธอตอบสั้นๆ พลางยื่นถุงใส่ของให้ชายหนุ่ม เขาเหลือบมองเธอด้วยความสงสัย แต่ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมก่อนจะเดินออกจากร้านไป

เธอมองตามหลังเขาไปจนลับตา คำพูดของเขาทำให้เธออดคิดถึงอดีตไม่ได้ ครั้งหนึ่งเธอเองก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของโลกดันเจี้ยนและผู้อเวค แต่ตอนนี้โลกนั้นดูเหมือนจะอยู่ไกลจากเธออย่างไม่น่าเชื่อ

ในขณะที่เธอจัดชั้นวางสินค้า เสียงบางอย่างจากข้างนอกทำให้เธอต้องหยุดชะงัก มันเป็นเสียงแหลมสูง คล้ายกับเสียงกระจกแตก แต่ดังก้องและแหลมลึกกว่าปกติ เธอขมวดคิ้ว หันไปมองผ่านกระจกหน้าร้าน

แสงสีฟ้าสว่างจ้าปรากฏขึ้นที่ปลายถนน ราวกับว่ามันฉีกมิติของพื้นที่ตรงนั้นออกเป็นชิ้นๆ ผู้คนที่เดินอยู่บริเวณนั้นต่างหยุดชะงัก และบางคนเริ่มถอยหนี

“เวสเปอร์!” เสียงเรียกจากเพื่อนร่วมงานของเธอทำให้เธอสะดุ้ง “ดูเหมือนจะมีดันเจี้ยนปรากฏตรงหัวมุมถนน ฉันว่าคืนนี้เราปิดร้านก่อนดีกว่า”

เธอพยักหน้ารับคำโดยไม่พูดอะไร แต่สายตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่แสงสีฟ้านั้น มันเป็นดันเจี้ยนขนาดเล็ก ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเมืองนี้ แต่มันเป็นครั้งแรกที่ดันเจี้ยนปรากฏขึ้นใกล้กับเธอมากขนาดนี้

เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากถนนหน้าร้าน เธอรีบหันไปมอง เห็นเงาร่างขนาดใหญ่บางอย่างเคลื่อนไหวในความมืด มันเป็นมอนสเตอร์ขนาดกลาง รูปร่างเหมือนหมาป่าที่มีเขาแหลมคมประดับบนหัว

เวสเปอร์ยืนแข็งทื่อ เธอรู้ดีว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของเธอที่จะจัดการกับสิ่งเหล่านี้ นี่คือหน้าที่ของผู้อเวคในเมือง แต่เธออดรู้สึกไม่ได้ว่าเหตุการณ์นี้กำลังจะดึงเธอกลับไปสู่อดีต

เสียงประตูร้านดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นชายวัยรุ่นคนหนึ่งที่วิ่งเข้ามาพร้อมกับเด็กหญิงตัวเล็กในอ้อมแขน “ช่วยพวกเราด้วย!” เขาร้องเสียงดัง

เวสเปอร์หันไปมองเพื่อนร่วมงานของเธอซึ่งกำลังรีบล็อกประตูหลังร้าน เธอไม่มีทางเลือกอื่น เธอพยักหน้าให้ชายคนนั้น “เข้าไปข้างในก่อน!”

เธอช่วยพวกเขาหาที่หลบในห้องเก็บของเล็กๆหลังร้าน ขณะที่มอนสเตอร์เริ่มเดินเข้ามาใกล้ประตูหน้าร้าน เสียงกีบเท้าของมันกระแทกกับพื้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

จังหวะนั้นเองประตูหน้าร้านถูกกระแทกอย่างแรง เสียงแก้วแตกกระจายดังขึ้นในทันที ก่อนที่หัวของมอนสเตอร์จะโผล่เข้ามา เธอเห็นมันชัดเจน หมาป่าขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนถูกฉีกจากหนังสือภาพฝันร้าย ขนสีดำมันวาวสะท้อนแสงไฟในร้าน ดวงตาของมันเปล่งแสงสีเหลืองทองที่ดูไร้ชีวิตและเต็มไปด้วยความดุร้าย

กรงเล็บของมันข่วนกระจกที่ยังหลงเหลืออยู่ เสียงดังจนเธอขนลุก มันจ้องตรงมาที่เธอคล้ายกับรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือเป้าหมาย

“แย่แล้ว…” เวสเปอร์กระซิบกับตัวเอง เธอรู้ดีว่าพลังของเธอไม่เหมาะสำหรับการเผชิญหน้าตรงๆแต่ในสถานการณ์นี้ เธอไม่มีทางเลือกอื่น

เธอเหลือบมองไปที่ประตูหลังของร้านซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่มาก นั่นอาจเป็นทางออกเดียวที่เหลืออยู่ แต่ในเวลาเดียวกันเธอได้ยินเสียงของเด็กหญิงตัวเล็กที่ร้องไห้ออกมาด้วยความกลัวอยู่ในห้องเก็บของหลังร้าน

“ได้โปรด” เสียงเล็กๆที่สั่นเครือนั้นทำให้เธอกล้ามากพอที่จะยืนหยัดอยู่ตรงหน้าของมอนสเตอร์

ความกลัวที่กัดกินในใจถูกแทนที่ด้วยความตั้งใจที่จะปกป้อง เธอต้องเผชิญหน้ากับมัน ไม่ใช่เพื่อชัยชนะ แต่เพื่อซื้อเวลาให้คนอื่นๆ

มอนสเตอร์มันกระโจนเข้ามาโจมตีเธอทันที มันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เธอจะหลบหลีกได้ทัน เสียงของมันคำรามสะท้อนอยู่ในหัว เธอยกมือขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อใช้พลังควบคุมเวลา

“หยะ...หยุด!” เธอร้องออกมา

เวลารอบตัวเธอชะลอลง มอนสเตอร์ที่กำลังพุ่งเข้ามาเหมือนถูกหยุดกลางอากาศ เธอเห็นกรงเล็บของมันชัดเจนราวกับว่ามันอยู่ในภาพถ่ายที่หยุดนิ่ง แต่พลังของเธอมีข้อจำกัด เวลาที่เธอหยุดไว้เริ่มไหลกลับมาตามธรรมชาติ

เธอฉวยโอกาสนี้ คว้าถังดับเพลิงจากมุมหนึ่งของร้านแล้วฟาดเข้าที่ด้านข้างของมัน เสียงกระแทกดังสนั่น มอนสเตอร์คำรามอย่างเกรี้ยวกราด มันสะบัดตัวจนถังดับเพลิงหลุดจากมือของเธอ

มอนสเตอร์ถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่มันก็กลับมาโจมตีอีกครั้ง มันพุ่งมาด้วยความเร็วที่เธอแทบมองไม่ทัน เธอถอยหลังไปชนกับชั้นวางสินค้า ขวดน้ำหล่นกระจายไปทั่วพื้น

“ต้องทำให้มันช้าลง…” เธอพึมพำ

เธอใช้พลังของเธออีกครั้ง รอบข้างชะลอลงอีกครั้ง เธอรู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดของพลังงานที่ดึงจากตัวเธอไป เธอเหงื่อออกท่วมตัว แต่เธอใช้ช่วงเวลานั้นกวาดสายตามองหาสิ่งที่จะช่วยให้เธอเอาชนะมันได้

เธอเห็นกระจกบานใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ หากเธอสามารถล่อให้มอนสเตอร์ชนเข้ากับกระจกนั้นได้ มันอาจจะหยุดมันได้ชั่วคราว เมื่อนึกได้เช่นนั้นจึงรีบเร่งทำตามแผนที่คิดไว้

“มานี่สิวะไอ้เบิ้ม!” เธอตะโกน พร้อมกับถอยไปยืนข้างกระจก

มอนสเตอร์คำรามเสียงดังและพุ่งเข้าหาเธออีกครั้ง เธอรอจนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนจะกระโดดหลบออกไปด้านข้างอย่างฉิวเฉียด มันพุ่งชนกระจกอย่างแรงจนกระจกแตกกระจาย

มอนสเตอร์ล้มลงกับพื้น มีเศษกระจกปักอยู่ตามตัว แต่มันยังไม่ยอมแพ้ มันดิ้นรนที่จะลุกขึ้น

ในจังหวะนั้นเอง แสงสีฟ้าสว่างจ้าพุ่งเข้ามาจากหน้าประตูร้าน พร้อมกับเสียงกระทบที่ราวกับสายฟ้าฟาดลงบนพื้นดิน กลุ่มผู้อเวคในชุดเกราะสีเงินสามคนปรากฏตัวในทันที หนึ่งในนั้นยกมือขึ้น ร่ายวงเวทที่เรืองแสงอยู่กลางอากาศ

“จัดการมัน!” เสียงหัวหน้ากลุ่มตะโกน

มอนสเตอร์คำรามเสียงดังอีกครั้ง ขณะที่วงเวทเปล่งแสงสีทองล้อมรอบร่างของมัน ทำให้มันชะงักไปชั่วขณะ

“ฉันจะตรึงมันไว้!” ชายคนหนึ่งที่มีพลังควบคุมแรงโน้มถ่วงตะโกน เขาเหยียดมือไปข้างหน้า ทำให้ร่างของมอนสเตอร์เหมือนถูกกดทับลงกับพื้น

หญิงสาวอีกคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวทธาตุเพลิง เดินเข้ามาพร้อมร่ายเวทบอลไฟสีแดงเข้มที่หมุนวนอยู่ในมือ เธอโยนมันใส่มอนสเตอร์โดยไม่ลังเล เปลวไฟแผดเผาร่างของมันในทันที

มอนสเตอร์พยายามดิ้นรน มันคำรามด้วยความเจ็บปวดขณะที่เปลวไฟลุกลามไปทั่วร่าง วงเวทที่ล้อมรอบมันทำให้มันไม่สามารถหลบหนีได้ จนกระทั่งเสียงสุดท้ายของมันเงียบลงพร้อมกับร่างที่กลายเป็นเถ้าถ่าน

เวสเปอร์ยืนอยู่ตรงนั้น เหงื่อชุ่มตัว เธอมองกลุ่มผู้อเวคด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งโล่งใจและหวาดกลัว

“คุณโอเคไหม?” หนึ่งในผู้อเวคถาม เขามองเธอด้วยสายตาเป็นมิตร แต่เต็มไปด้วยความสงสัย

เวสเปอร์หลบสายตา เธอพยายามสงบสติอารมณ์และตอบด้วยเสียงเบา ๆ “ฉัน… โอเคดีค่ะ ไม่เป็นไร”

“ใช้พลังควบคุมเวลาเหรอ?” หญิงสาวที่ใช้บอลไฟถามเมื่อเธอจับพลังของเวสเปอร์ได้ เธอหรี่ตามองเวสเปอร์เหมือนกำลังวิเคราะห์

เวสเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย แต่ไม่พูดอะไรเพิ่มเติม และพวกเขาก็ไม่ได้ซักไซร้อะไรเธอมากมายนัก

เสียงฝีเท้าหนักๆของผู้อเวคในชุดเกราะค่อยๆ เดินออกจากร้านเพื่อสำรวจพื้นที่โดยรอบ เวสเปอร์ยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น มองดูร่างของมอนสเตอร์ที่เหลือเพียงเถ้าถ่านบนพื้น กลิ่นไหม้จากเปลวไฟยังคงอบอวลอยู่ในอากาศ

เพื่อนร่วมงานของเธอซึ่งซ่อนตัวอยู่ในห้องเก็บของ เดินออกมาด้วยสีหน้าตื่นตกใจ เขาชำเลืองมองซากมอนสเตอร์และกลุ่มผู้อเวคด้วยความหวาดระแวง ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา “มัน… มันจบแล้วใช่ไหม”

เวสเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย ขณะที่สายตายังจับจ้องไปที่ประตูหน้าร้าน เธอพยายามสงบสติอารมณ์ ทั้งที่หัวใจยังเต้นรัว

ชายหนุ่มที่พาเด็กหญิงเข้ามาเมื่อครู่โผล่ออกมาจากห้องเก็บของเช่นกัน เขายังอุ้มเด็กหญิงไว้แน่นในอ้อมแขน เด็กหญิงมีใบหน้าซีดเผือด และดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา เธอมองเวสเปอร์ด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเป ทั้งขอบคุณและหวาดกลัว

“คุณช่วยพวกเราไว้…” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อยแต่จริงใจ

เวสเปอร์ยิ้มบางๆแต่ไม่ได้พูดอะไร เธอหันกลับไปมองผู้อเวคคนหนึ่งที่ยังคงยืนอยู่ในร้าน ชายในชุดเกราะสีเงินมองเธอด้วยสายตาเฉียบคม

“คุณใช้พลังควบคุมเวลาจริงหรือ” ผู้อเวคคนหนึ่งถามอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาดูเหมือนคนที่กำลังประเมิน

“ค่ะ…” เวสเปอร์ตอบเบาๆ เธอพยายามรักษาสีหน้าให้นิ่งที่สุด แม้ว่าในใจเธอจะสั่นไหว

“พลังแบบนี้หายากนะ โดยเฉพาะในระดับที่คุณสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์ได้ แม้จะเป็นเพียงแค่ชั่วขณะเดียว”

เวสเปอร์ไม่ได้ตอบอะไร เธอเพียงพยักหน้าเล็กน้อย พยายามไม่สบตากับพวกเขา

“คุณเคยฝึกในกิลล์หรือเปล่า” ผู้อเวคอีกคนถามขึ้น น้ำเสียงของเขาดูสงสัยมากกว่าเดิม

“ไม่ค่ะ ฉันแค่… ฉันแค่เคยพยายามจะทำแบบนั้นในอดีต แต่ตอนนี้ไม่แล้ว” เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงนัก

“คุณทำได้ดีนะ แม้จะไม่มีการฝึกฝนอย่างเป็นทางการ” หญิงสาวในชุดเกราะที่ใช้พลังเพลิงเมื่อครู่พูดขึ้น สีหน้าเธอผ่อนคลายกว่าเพื่อนร่วมทีมเล็กน้อย “คุณช่วยซื้อเวลาให้เราได้มาก ถ้าไม่มีคุณ คนในร้านนี้อาจไม่ได้รอดออกไป”

คำพูดนั้นทำให้เวสเปอร์รู้สึกอุ่นใจเล็กน้อย แต่เธอยังคงก้มหน้ามองพื้น

หลังจากผู้อเวคออกไปจากร้านพร้อมกับเถ้าถ่านของมอนสเตอร์ เวสเปอร์หันกลับมามองพื้นที่รอบตัว ร้านที่เคยเป็นสถานที่ทำงานธรรมดา บัดนี้เต็มไปด้วยเศษกระจกแตก ชั้นวางสินค้าที่ล้มระเนระนาด และกลิ่นไหม้ที่ยังคงติดอยู่ในอากาศ

“เวสเปอร์…” เพื่อนร่วมงานของเธอเอ่ยขึ้น เขาดูเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เพียงแค่ถอนหายใจ “ขอบคุณนะ ถ้าไม่มีเธอ เราคงแย่กันหมด”

เวสเปอร์พยักหน้าโดยไม่พูดอะไร เธอไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะแม้แต่ตัวเธอเองยังไม่แน่ใจว่าเธอสมควรได้รับคำขอบคุณหรือไม่

ชายหนุ่มที่อุ้มเด็กหญิงเดินเข้ามาใกล้ “คุณมีพลังที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่วันนี้คุณช่วยชีวิตพวกเราไว้ ผมซาบซึ้งจริงๆ”

เวสเปอร์เพียงแต่ยิ้มบางๆ และตอบด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย “ฉันก็แค่ทำในสิ่งที่ควรทำในตอนนั้นน่ะ”

หลังจากทุกคนกลับไป เวสเปอร์ยังคงอยู่ในร้านเพียงลำพัง เธอนั่งลงบนเก้าอี้ที่เคาน์เตอร์ หัวใจของเธอยังคงเต้นแรง ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว

เธอไม่เคยคิดว่าพลังของเธอจะช่วยอะไรใครได้จริง ๆ แต่คืนนี้มันกลับเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง แม้ว่ามันจะเป็นเพียงความสำเร็จเล็กน้อย แต่มันทำให้เธอเริ่มสงสัยว่าพลังที่เธอเคยมองว่าไร้ค่ามาตลอด อาจมีศักยภาพมากกว่าที่เธอเคยเชื่อ

เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นกลุ่มผู้อเวคเดินจากไปในความมืด ไฟถนนส่องให้เห็นเงาของพวกเขาที่หายลับไป

ในใจของเธอมีคำถามมากมายเกิดขึ้น แต่คำถามที่ใหญ่ที่สุดคือ… “นี่คือจุดเริ่มต้นของบางสิ่งหรือเปล่านะ?”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.3 เส้นทางที่ยังมองไม่เห็น

    เวสเปอร์ยังคงนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ร้านสะดวกซื้อ แม้เวลาจะล่วงเลยไปถึงช่วงกลางดึกแล้ว แต่เธอยังรู้สึกเหมือนทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ กลิ่นไหม้จากมอนสเตอร์และเศษกระจกที่กระจัดกระจายบนพื้นยังคงเป็นเครื่องเตือนใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เพียงแค่ความฝันเธอเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำจากเคาน์เตอร์ มือของเธอสั่นเล็กน้อย เธอไม่แน่ใจว่ามันเกิดจากความเหนื่อยล้าหรือความหวาดกลัวเสียงฝีเท้าเบาๆทำให้เธอหันไปมอง เพื่อนร่วมงานของเธอกลับมาจากด้านหลังร้านพร้อมกับผ้าขี้ริ้วในมือ เขาเหลือบมองเศษซากความเสียหายก่อนจะถอนหายใจหนักๆ“นี่มันเละเทะไปหมดเลย…” เขาพูดเบาๆพร้อมกับเริ่มเช็ดเศษเลือดและเถ้าถ่านที่หลงเหลืออยู่บนเคาน์เตอร์ “ฉันไม่รู้ว่าเราจะต้องจ่ายค่าซ่อมแซมเองหรือเปล่า แต่หวังว่าเจ้าของร้านจะเข้าใจว่ามันไม่ใช่ความผิดของเรา”เวสเปอร์พยักหน้าช้าๆโดยไม่ได้ตอบอะไร เธอจ้องมองมือของตัวเองที่ยังมีรอยแดงจากการจับถังดับเพลิงเมื่อก่อนหน้านี้ ภาพมอนสเตอร์ที่พุ่งเข้าหาเธอยังคงติดตา“เธอ… โอเคไหม?” เพื่อนร่วมงานถาม เขาดูเหมือนจะลังเลก่อนจะพูดต่อ “ฉันหมายถึง… ที่เธอใช้พลังเมื่อกี้ มันน่าทึ่งมากเลยนะ ฉันไม่เคยร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.4 สัปดาห์ของการเริ่มต้นใหม่

    เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนๆที่ลอดผ่านหน้าต่างห้องเช่าของเวสเปอร์ปลุกเธอให้ตื่น เธอลืมตาช้าๆพลางจ้องมองเพดานห้องเล็กๆที่เธออาศัยอยู่มาหลายปี มันเป็นห้องที่คุ้นเคยและแสนธรรมดา แต่วันนี้กลับรู้สึกต่างออกไปภาพเหตุการณ์เมื่อคืนยังคงชัดเจนอยู่ในหัวของเธอ เสียงคำรามของมอนสเตอร์ ความรู้สึกของเวลาที่ชะลอลงเมื่อเธอใช้พลัง และคำพูดของไอริสที่ยังคงก้องอยู่ในใจหลังจากลุกขึ้นเตรียมตัว เธอเดินไปที่ร้านสะดวกซื้อที่เธอทำงานตามปกติ แต่ทันทีที่มาถึง เธอก็พบกับบางสิ่งที่ไม่คาดคิด ประตูร้านถูกปิดและป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า ปิดปรับปรุง ถูกแขวนอยู่ด้านหน้า“เวสเปอร์!” เสียงของลุงมาร์ต เจ้าของร้านดังขึ้นจากด้านในร้านเวสเปอร์เดินเข้าไปหาเขาด้วยความสงสัย “ลุงคะ เกิดอะไรขึ้น?”ชายวัยกลางคนในเสื้อเชิ้ตเก่าๆมองเธอด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “เมื่อคืนร้านเราพังเละเทะใช่ไหมล่ะ ทางรัฐบาลบอกว่าจะเข้ามาช่วยซ่อมแซมให้ ฉันเลยตัดสินใจว่าจะปิดร้านสักอาทิตย์หนึ่งเพื่อปรับปรุงทุกอย่างให้เรียบร้อย”“แล้วพวกเราล่ะคะ จะให้ช่วยอะไรไหม” เวสเปอร์ถามอย่างกังวล“ไม่ต้องหรอก” ลุงมาร์ตตอบพลางโบกมือ “ฉันอยากให้พวกเธอพักผ่อนกันบ้าง ใช้เวลานี้ทำอะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.5 การฝึกฝนอีกครั้ง

    แสงแรกของวันส่องผ่านหน้าต่างห้องเช่าของเวสเปอร์ เธอรู้สึกถึงไออุ่นของแสงแดดที่ทอดผ่านม่านบางๆ ลงบนใบหน้า เสียงนกร้องแผ่วเบาในยามเช้าช่วยปลุกให้เธอตื่นขึ้นจากการหลับใหลเธอลุกขึ้นนั่งบนเตียง ดวงตายังปรับตัวกับแสงที่เริ่มจ้า เธอหันไปมองแมวตัวโตเต็มวัยที่นอนขดตัวอยู่บนเก้าอี้ใกล้โต๊ะ มันกำลังหายใจสม่ำเสมอเหมือนกำลังหลับลึก“นี่คือผู้ช่วยของฉันเหรอจริงๆเหรอเนี่ย” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆพลางถอนหายใจทันใดนั้น ดวงตาสีเหลืองทองของแมวตัวนั้นก็ลืมขึ้น และเอซก็ยืดตัวขึ้นอย่างเกียจคร้านก่อนจะหาว“อย่าคิดว่าฉันไม่ได้ยินที่เธอพูดนะ” เอซกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่แฝงไปด้วยความขบขัน “และใช่ ฉันคือผู้ช่วยของเธอ แต่ถ้าเธอยังสงสัย ฉันก็ไม่ว่าอะไร เราจะได้พิสูจน์กันวันนี้แหละ ว่าเธอสมควรได้รับความช่วยเหลือจากฉันหรือเปล่า”เวสเปอร์ขมวดคิ้ว เธอพยายามจะไม่ใส่ใจกับคำพูดกวนๆของเอซมากนัก และลุกขึ้นไปล้างหน้าเตรียมตัวสำหรับวันใหม่หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย เวสเปอร์พบว่าเอซกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะตัวเล็กในท่าที่ดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง ดวงตาของมันจับจ้องเธอราวกับกำลังประเมิน“พร้อมจะเริ่มหรือยัง” เอซถามด้วยน้ำเส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.6 ฝึกร่างกาย

    เสียงนกร้องรับแสงแรกของวันดังก้องอยู่ในอากาศ เวสเปอร์ตื่นขึ้นจากการหลับใหลด้วยความเมื่อยล้าจากการฝึกหนักในวันก่อน แต่เมื่อเธอหันไปมองเห็นเอซกำลังนั่งบนโต๊ะเล็กใกล้หน้าต่าง ดวงตาสีเหลืองทองของมันจ้องมองเธอราวกับกำลังบอกว่าการพักผ่อนของเธอสิ้นสุดลงแล้ว“ตื่นได้แล้ว เวสเปอร์” เอซพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้เร่งเร้า แต่ฟังดูมีความจริงจังพอที่จะทำให้เธอลุกจากเตียงเธอลุกขึ้นและยืดร่างกายเบาๆก่อนจะเดินไปล้างหน้าในห้องน้ำเล็กๆขณะมองตัวเองในกระจก เธอเห็นดวงตาที่อ่อนล้า แต่กลับมีแววของความมุ่งมั่นหลังจากจัดการตัวเองเสร็จ เธอก็พบว่าเอซได้ออกมายืนรออยู่ตรงประตูทางออกของห้องเช่า“วันนี้ฉันคิดว่าเธอจะตื่นสายกว่านี้เสียอีก” เอซพูดพลางหาวเบาๆ “โชคดีที่เธอยังรู้หน้าที่”“อย่ากวนได้ไหม ฉันก็ลุกขึ้นมาพร้อมแล้วนี่ไง” เวสเปอร์ตอบกลับเอซยิ้มเย้ยๆก่อนจะเดินนำเธอไปยังลานฝึกลานฝึกยามเช้านั้น แสงแดดอ่อนๆที่สาดส่องลงมายังลานฝึกทำให้พื้นที่รกร้างดูมีชีวิตชีวาขึ้นเล็กน้อย เศษซากอาคารเก่ายังคงอยู่ที่เดิม แต่ต้นไม้เล็กๆรอบข้างดูเหมือนจะเขียวชอุ่มขึ้นเอซกระโดดขึ้นไปนั่งบนก้อนหินขนาดใหญ่ตรงกลางลานก่อนจะหันมามองเวสเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.7 ฝึกวันที่5

    แสงแดดอ่อนๆของเช้าวันใหม่ส่องผ่านหน้าต่างเล็กๆ เช่นทุกวัน เสียงนกร้องรับอรุณผสานกับสายลมเย็นที่พัดเบาๆทำให้เธอลืมตาตื่นขึ้นจากการหลับใหลเธอลุกขึ้นนั่งบนเตียง ดวงตายังปรับตัวกับแสงที่เริ่มเจิดจ้า เธอเห็นเอซนอนขดตัวอยู่บนโต๊ะเล็กข้างหน้าต่าง มันดูเหมือนกำลังหลับสนิท แต่ทันทีที่เธอขยับตัว เสียงหาวเบาๆของมันก็ดังขึ้น“เช้านี้ตื่นช้าจังนะ” เอซกล่าวด้วยน้ำเสียงกึ่งล้อเลียนกึ่งจริงจังเวสเปอร์ยกคิ้วพลางยืดแขนออก “ฉันไม่ได้ขี้เกียจนะ นายเองต่างหากที่ดูเหมือนจะชอบตื่นก่อนฉันทุกวัน”“แน่นอน หน้าที่ของฉันคือเฝ้าดูว่าเธอจะขี้เกียจหรือเปล่า” เอซตอบด้วยรอยยิ้มกวนๆเธอหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินไปล้างหน้าล้างตา เมื่อเธอจัดการตัวเองเรียบร้อย เอซก็เดินนำเธอออกจากห้องเพื่อไปยังลานฝึกที่พวกเขาใช้เป็นประจำเมื่อมาถึงลานฝึก เวสเปอร์สังเกตว่าบรรยากาศวันนี้ดูแปลกไปเล็กน้อย อาจเป็นเพราะความเงียบสงบที่เหมือนจะซ่อนพลังงานบางอย่างเอาไว้ หรืออาจเป็นเพราะสายตาของเอซที่ดูจริงจังผิดปกติ“วันนี้นายดูเอาจริงเอาจังเป็นพิเศษนะ” เวสเปอร์กล่าวขณะวางกระเป๋าของเธอลง“แน่นอน” เอซตอบขณะเดินขึ้นไปนั่งบนก้อนหินขนาดใหญ่ “วันนี้เธอจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.8 การต่อสู้ครั้งแรก

    ยามเย็นที่เงียบสงบพัดผ่านร่างของเวสเปอร์และเอซขณะที่พวกเขาเดินทางกลับห้องพัก แสงสีส้มอ่อนของดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ก็ซ่อนเร้นความลึกลับบางอย่างในเงามืด“วันนี้ฉันทำได้ดีไหม” เวสเปอร์เอ่ยถาม ขณะที่ขยับแขนที่รู้สึกเมื่อยล้าจากการฝึกหนัก“ก็ดี…ในแบบของมือใหม่” เอซตอบด้วยน้ำเสียงกึ่งล้อเลียนกึ่งจริงจัง“ขอบคุณสำหรับคำชมที่เหมือนกำลังเหน็บแนม” เวสเปอร์พูดพร้อมกลอกตาทั้งสองเดินผ่านพื้นที่เปิดโล่งที่เป็นทางลัดกลับห้องพัก บรรยากาศดูเงียบสงบจนผิดปกติ ทันใดนั้น ลมแรงกว่าปกติพัดผ่าน ทำให้ต้นไม้รอบๆโยกไหว เสียงแหลมแปลกประหลาดดังขึ้นจากท้องฟ้ารอยแยกสีดำสนิทปรากฏขึ้นกลางอากาศ ท้องฟ้าที่เคยอบอุ่นกลับกลายเป็นมืดมน เงามืดที่แผ่ออกมาจากรอยแยกนั้นดูเหมือนจะกลืนกินทุกสิ่ง เวสเปอร์หยุดเดิน หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความตื่นตระหนก“เอซ…นั่นมัน…”“ดันเจี้ยน” เอซตอบ ดวงตาสีทองของมันจับจ้องไปยังรอยแยกโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆจากรอยแยกนั้น มอนสเตอร์ตัวแรกปรากฏออกมา มันมีรูปร่างคล้ายหมาป่า ผิวหนังเป็นเงามืดที่เหมือนกับควัน ดวงตาสีแดงสดของมันจับจ้องไปที่เวสเปอร์“ครั้งแรกของฉันกับมอนสเตอร์…ดู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.9 การเผชิญหน้า

    หลังจากที่เวสเปอร์และเอซเดินออกมาจากสนามต่อสู้อันโหดร้าย ร่างกายของเธอยังคงเหนื่อยล้าจากการเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์และบอสในดันเจี้ยน แม้พวกเขาจะออกจากพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย แต่ความตึงเครียดยังคงลอยอยู่ในอากาศเสียงฝีเท้าหนักๆดังขึ้นจากระยะไกล เงาของกลุ่มคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ปรากฏขึ้นภายใต้แสงจันทร์ โลโก้สีทองของ กิลด์เซเลสเทียร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิลด์ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งผู้อเวคสะท้อนกับแสงจางๆ“ให้ตายเถอะ ดันมาเจอจนได้” เอซพูดพร้อมรอยยิ้มเยาะเวสเปอร์หันไปมองกลุ่มคนที่กำลังใกล้เข้ามา ท่าทางของพวกเขาดูจริงจังและเต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพท่ามกลางกลุ่มผู้อเวคที่มากับกิลด์เซเลสเทียร์ หญิงสาวคนหนึ่งดึงดูดสายตาของทุกคน เธอก้าวเดินอย่างมั่นคงด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยอำนาจและเสน่ห์ที่ไม่อาจละสายตาได้เธอคือ แคลร์ คาเซลิน ประธานของ สมาพันธ์อเวคสมาพันธ์ที่คอยควบคุมดูแลกิลด์ต่างๆทั่วโลก ความสง่างามของเธอทำให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างต้องหลบสายตาด้วยความเกรงขามแคลร์มีเรือนผมสีแดงสดที่ยาวสยายถึงกลางหลัง มันเปล่งประกายเหมือนเปลวไฟที่ไม่อาจดับได้ ดวงตาสีฟ้าสดใสของเธอเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ทำให้ผู้ที่จ้องมองรู้ส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.10 ความก้าวหน้า

    แสงอ่อนๆจากดวงอาทิตย์ในยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างห้องพัก เสียงนกร้องคลอเคล้าสายลมเย็นๆที่พัดผ่านม่าน เวสเปอร์ลืมตาขึ้นพร้อมความรู้สึกที่เต็มไปด้วยพลังใหม่ ร่างกายของเธอยังคงรู้สึกตึงเล็กน้อยจากการฝึกหนักและการต่อสู้ในดันเจี้ยนเมื่อวันก่อน แต่ในใจของเธอกลับเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นเอซที่เปลี่ยนไปเป็นร่างแมวนั่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง ดวงตาสีทองของมันจ้องมองเธอพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ“ตื่นแล้วสินะ” เอซพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ “ฉันคิดว่าเธอคงจะนอนยาวไปทั้งวัน”เวสเปอร์หัวเราะเบาๆ “นายก็รู้ว่าฉันนอนไม่ได้นานขนาดนั้น ยังมีอะไรอีกเยอะที่ต้องทำ”“งั้นก่อนจะเริ่มวันใหม่ ลองเปิดระบบดูสิ” เอซพูดขึ้น “ฉันอยากเห็นว่าพลังของเธอเปลี่ยนไปมากแค่ไหน”เวสเปอร์พยักหน้าและยกมือขึ้นเรียกหน้าต่างระบบ ข้อมูลที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความก้าวหน้าที่เห็นได้ชัด[ข้อมูลผู้อเวค]ชื่อ: เวสเปอร์ มอนต์ทีร่าแรงค์: Fพลังหลัก: การควบคุมเวลา (Chronokinesis) ค่าประสบการณ์ (EXP) : 0/500พลังชีวิต (HP) : 160/160 (+20 จาก Crystal of Timeflow) พลังเวท (MP) : 400/400 (+40 จาก Crystal of Timeflow) พลังโจมตี (ATK) : 22 (+4

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07

บทล่าสุด

  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.11 การตัดสินใจเพื่อพัฒนา

    หลังจากกลับมาถึงห้องพัก เวสเปอร์และเอซต่างปล่อยตัวเองลงบนโซฟา ร่างกายของเธอยังคงเหนื่อยล้าจากการฝึกที่หนักหน่วงในวันนั้น ขณะที่เอซนั่งอยู่บนพนักโซฟา เขายังคงใช้ดวงตาสีทองอันแหลมคมจับจ้องเธอเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างเวสเปอร์หันไปมองเขาด้วยความสงสัย “นายมีอะไรอยากพูดหรือเปล่า”“ฉันกำลังคิดว่า…การฝึกในลานฝึกอย่างเดียวมันไม่พอ” เอซตอบ“นายคิดว่าไม่พอเหรอ แต่ฉันรู้สึกเหมือนจะตายอยู่แล้วนะ” เวสเปอร์พูดพลางหัวเราะเบาๆ“เธออยากจะเป็นแค่ผู้อเวคแรงค์ F ไปตลอดชีวิตไหมล่ะ” เอซถามเสียงเย็นคำพูดของเขาทำให้เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง ความจริงที่เจ็บปวดทำให้เธอไม่มีคำตอบ“ถ้าเธออยากพัฒนา เธอต้องก้าวออกจากเขตปลอดภัย และเผชิญหน้ากับความเป็นจริง” เอซพูดต่อ “ดันเจี้ยนคือสถานที่เดียวที่จะทำให้เธอเข้าใจถึงศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง”เวสเปอร์ถอนหายใจ เธอรู้ว่าเอซพูดถูก แม้ความคิดที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับดันเจี้ยนอีกครั้งจะทำให้เธอหวั่นใจ แต่ลึกๆแล้วเธอรู้ว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องทำ“ก็ได้…งั้นเราจะไปดันเจี้ยนกัน” เวสเปอร์ตอบในช่วงบ่ายของวันถัดมา เวสเปอร์และเอซใช้เวลาจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง พวกเขาเ

  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.10 ความก้าวหน้า

    แสงอ่อนๆจากดวงอาทิตย์ในยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างห้องพัก เสียงนกร้องคลอเคล้าสายลมเย็นๆที่พัดผ่านม่าน เวสเปอร์ลืมตาขึ้นพร้อมความรู้สึกที่เต็มไปด้วยพลังใหม่ ร่างกายของเธอยังคงรู้สึกตึงเล็กน้อยจากการฝึกหนักและการต่อสู้ในดันเจี้ยนเมื่อวันก่อน แต่ในใจของเธอกลับเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นเอซที่เปลี่ยนไปเป็นร่างแมวนั่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง ดวงตาสีทองของมันจ้องมองเธอพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ“ตื่นแล้วสินะ” เอซพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ “ฉันคิดว่าเธอคงจะนอนยาวไปทั้งวัน”เวสเปอร์หัวเราะเบาๆ “นายก็รู้ว่าฉันนอนไม่ได้นานขนาดนั้น ยังมีอะไรอีกเยอะที่ต้องทำ”“งั้นก่อนจะเริ่มวันใหม่ ลองเปิดระบบดูสิ” เอซพูดขึ้น “ฉันอยากเห็นว่าพลังของเธอเปลี่ยนไปมากแค่ไหน”เวสเปอร์พยักหน้าและยกมือขึ้นเรียกหน้าต่างระบบ ข้อมูลที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความก้าวหน้าที่เห็นได้ชัด[ข้อมูลผู้อเวค]ชื่อ: เวสเปอร์ มอนต์ทีร่าแรงค์: Fพลังหลัก: การควบคุมเวลา (Chronokinesis) ค่าประสบการณ์ (EXP) : 0/500พลังชีวิต (HP) : 160/160 (+20 จาก Crystal of Timeflow) พลังเวท (MP) : 400/400 (+40 จาก Crystal of Timeflow) พลังโจมตี (ATK) : 22 (+4

  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.9 การเผชิญหน้า

    หลังจากที่เวสเปอร์และเอซเดินออกมาจากสนามต่อสู้อันโหดร้าย ร่างกายของเธอยังคงเหนื่อยล้าจากการเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์และบอสในดันเจี้ยน แม้พวกเขาจะออกจากพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย แต่ความตึงเครียดยังคงลอยอยู่ในอากาศเสียงฝีเท้าหนักๆดังขึ้นจากระยะไกล เงาของกลุ่มคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ปรากฏขึ้นภายใต้แสงจันทร์ โลโก้สีทองของ กิลด์เซเลสเทียร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิลด์ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งผู้อเวคสะท้อนกับแสงจางๆ“ให้ตายเถอะ ดันมาเจอจนได้” เอซพูดพร้อมรอยยิ้มเยาะเวสเปอร์หันไปมองกลุ่มคนที่กำลังใกล้เข้ามา ท่าทางของพวกเขาดูจริงจังและเต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพท่ามกลางกลุ่มผู้อเวคที่มากับกิลด์เซเลสเทียร์ หญิงสาวคนหนึ่งดึงดูดสายตาของทุกคน เธอก้าวเดินอย่างมั่นคงด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยอำนาจและเสน่ห์ที่ไม่อาจละสายตาได้เธอคือ แคลร์ คาเซลิน ประธานของ สมาพันธ์อเวคสมาพันธ์ที่คอยควบคุมดูแลกิลด์ต่างๆทั่วโลก ความสง่างามของเธอทำให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างต้องหลบสายตาด้วยความเกรงขามแคลร์มีเรือนผมสีแดงสดที่ยาวสยายถึงกลางหลัง มันเปล่งประกายเหมือนเปลวไฟที่ไม่อาจดับได้ ดวงตาสีฟ้าสดใสของเธอเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ทำให้ผู้ที่จ้องมองรู้ส

  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.8 การต่อสู้ครั้งแรก

    ยามเย็นที่เงียบสงบพัดผ่านร่างของเวสเปอร์และเอซขณะที่พวกเขาเดินทางกลับห้องพัก แสงสีส้มอ่อนของดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ก็ซ่อนเร้นความลึกลับบางอย่างในเงามืด“วันนี้ฉันทำได้ดีไหม” เวสเปอร์เอ่ยถาม ขณะที่ขยับแขนที่รู้สึกเมื่อยล้าจากการฝึกหนัก“ก็ดี…ในแบบของมือใหม่” เอซตอบด้วยน้ำเสียงกึ่งล้อเลียนกึ่งจริงจัง“ขอบคุณสำหรับคำชมที่เหมือนกำลังเหน็บแนม” เวสเปอร์พูดพร้อมกลอกตาทั้งสองเดินผ่านพื้นที่เปิดโล่งที่เป็นทางลัดกลับห้องพัก บรรยากาศดูเงียบสงบจนผิดปกติ ทันใดนั้น ลมแรงกว่าปกติพัดผ่าน ทำให้ต้นไม้รอบๆโยกไหว เสียงแหลมแปลกประหลาดดังขึ้นจากท้องฟ้ารอยแยกสีดำสนิทปรากฏขึ้นกลางอากาศ ท้องฟ้าที่เคยอบอุ่นกลับกลายเป็นมืดมน เงามืดที่แผ่ออกมาจากรอยแยกนั้นดูเหมือนจะกลืนกินทุกสิ่ง เวสเปอร์หยุดเดิน หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความตื่นตระหนก“เอซ…นั่นมัน…”“ดันเจี้ยน” เอซตอบ ดวงตาสีทองของมันจับจ้องไปยังรอยแยกโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆจากรอยแยกนั้น มอนสเตอร์ตัวแรกปรากฏออกมา มันมีรูปร่างคล้ายหมาป่า ผิวหนังเป็นเงามืดที่เหมือนกับควัน ดวงตาสีแดงสดของมันจับจ้องไปที่เวสเปอร์“ครั้งแรกของฉันกับมอนสเตอร์…ดู

  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.7 ฝึกวันที่5

    แสงแดดอ่อนๆของเช้าวันใหม่ส่องผ่านหน้าต่างเล็กๆ เช่นทุกวัน เสียงนกร้องรับอรุณผสานกับสายลมเย็นที่พัดเบาๆทำให้เธอลืมตาตื่นขึ้นจากการหลับใหลเธอลุกขึ้นนั่งบนเตียง ดวงตายังปรับตัวกับแสงที่เริ่มเจิดจ้า เธอเห็นเอซนอนขดตัวอยู่บนโต๊ะเล็กข้างหน้าต่าง มันดูเหมือนกำลังหลับสนิท แต่ทันทีที่เธอขยับตัว เสียงหาวเบาๆของมันก็ดังขึ้น“เช้านี้ตื่นช้าจังนะ” เอซกล่าวด้วยน้ำเสียงกึ่งล้อเลียนกึ่งจริงจังเวสเปอร์ยกคิ้วพลางยืดแขนออก “ฉันไม่ได้ขี้เกียจนะ นายเองต่างหากที่ดูเหมือนจะชอบตื่นก่อนฉันทุกวัน”“แน่นอน หน้าที่ของฉันคือเฝ้าดูว่าเธอจะขี้เกียจหรือเปล่า” เอซตอบด้วยรอยยิ้มกวนๆเธอหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินไปล้างหน้าล้างตา เมื่อเธอจัดการตัวเองเรียบร้อย เอซก็เดินนำเธอออกจากห้องเพื่อไปยังลานฝึกที่พวกเขาใช้เป็นประจำเมื่อมาถึงลานฝึก เวสเปอร์สังเกตว่าบรรยากาศวันนี้ดูแปลกไปเล็กน้อย อาจเป็นเพราะความเงียบสงบที่เหมือนจะซ่อนพลังงานบางอย่างเอาไว้ หรืออาจเป็นเพราะสายตาของเอซที่ดูจริงจังผิดปกติ“วันนี้นายดูเอาจริงเอาจังเป็นพิเศษนะ” เวสเปอร์กล่าวขณะวางกระเป๋าของเธอลง“แน่นอน” เอซตอบขณะเดินขึ้นไปนั่งบนก้อนหินขนาดใหญ่ “วันนี้เธอจะ

  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.6 ฝึกร่างกาย

    เสียงนกร้องรับแสงแรกของวันดังก้องอยู่ในอากาศ เวสเปอร์ตื่นขึ้นจากการหลับใหลด้วยความเมื่อยล้าจากการฝึกหนักในวันก่อน แต่เมื่อเธอหันไปมองเห็นเอซกำลังนั่งบนโต๊ะเล็กใกล้หน้าต่าง ดวงตาสีเหลืองทองของมันจ้องมองเธอราวกับกำลังบอกว่าการพักผ่อนของเธอสิ้นสุดลงแล้ว“ตื่นได้แล้ว เวสเปอร์” เอซพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้เร่งเร้า แต่ฟังดูมีความจริงจังพอที่จะทำให้เธอลุกจากเตียงเธอลุกขึ้นและยืดร่างกายเบาๆก่อนจะเดินไปล้างหน้าในห้องน้ำเล็กๆขณะมองตัวเองในกระจก เธอเห็นดวงตาที่อ่อนล้า แต่กลับมีแววของความมุ่งมั่นหลังจากจัดการตัวเองเสร็จ เธอก็พบว่าเอซได้ออกมายืนรออยู่ตรงประตูทางออกของห้องเช่า“วันนี้ฉันคิดว่าเธอจะตื่นสายกว่านี้เสียอีก” เอซพูดพลางหาวเบาๆ “โชคดีที่เธอยังรู้หน้าที่”“อย่ากวนได้ไหม ฉันก็ลุกขึ้นมาพร้อมแล้วนี่ไง” เวสเปอร์ตอบกลับเอซยิ้มเย้ยๆก่อนจะเดินนำเธอไปยังลานฝึกลานฝึกยามเช้านั้น แสงแดดอ่อนๆที่สาดส่องลงมายังลานฝึกทำให้พื้นที่รกร้างดูมีชีวิตชีวาขึ้นเล็กน้อย เศษซากอาคารเก่ายังคงอยู่ที่เดิม แต่ต้นไม้เล็กๆรอบข้างดูเหมือนจะเขียวชอุ่มขึ้นเอซกระโดดขึ้นไปนั่งบนก้อนหินขนาดใหญ่ตรงกลางลานก่อนจะหันมามองเวสเป

  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.5 การฝึกฝนอีกครั้ง

    แสงแรกของวันส่องผ่านหน้าต่างห้องเช่าของเวสเปอร์ เธอรู้สึกถึงไออุ่นของแสงแดดที่ทอดผ่านม่านบางๆ ลงบนใบหน้า เสียงนกร้องแผ่วเบาในยามเช้าช่วยปลุกให้เธอตื่นขึ้นจากการหลับใหลเธอลุกขึ้นนั่งบนเตียง ดวงตายังปรับตัวกับแสงที่เริ่มจ้า เธอหันไปมองแมวตัวโตเต็มวัยที่นอนขดตัวอยู่บนเก้าอี้ใกล้โต๊ะ มันกำลังหายใจสม่ำเสมอเหมือนกำลังหลับลึก“นี่คือผู้ช่วยของฉันเหรอจริงๆเหรอเนี่ย” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆพลางถอนหายใจทันใดนั้น ดวงตาสีเหลืองทองของแมวตัวนั้นก็ลืมขึ้น และเอซก็ยืดตัวขึ้นอย่างเกียจคร้านก่อนจะหาว“อย่าคิดว่าฉันไม่ได้ยินที่เธอพูดนะ” เอซกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่แฝงไปด้วยความขบขัน “และใช่ ฉันคือผู้ช่วยของเธอ แต่ถ้าเธอยังสงสัย ฉันก็ไม่ว่าอะไร เราจะได้พิสูจน์กันวันนี้แหละ ว่าเธอสมควรได้รับความช่วยเหลือจากฉันหรือเปล่า”เวสเปอร์ขมวดคิ้ว เธอพยายามจะไม่ใส่ใจกับคำพูดกวนๆของเอซมากนัก และลุกขึ้นไปล้างหน้าเตรียมตัวสำหรับวันใหม่หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย เวสเปอร์พบว่าเอซกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะตัวเล็กในท่าที่ดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง ดวงตาของมันจับจ้องเธอราวกับกำลังประเมิน“พร้อมจะเริ่มหรือยัง” เอซถามด้วยน้ำเส

  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.4 สัปดาห์ของการเริ่มต้นใหม่

    เช้าวันถัดมา แสงแดดอ่อนๆที่ลอดผ่านหน้าต่างห้องเช่าของเวสเปอร์ปลุกเธอให้ตื่น เธอลืมตาช้าๆพลางจ้องมองเพดานห้องเล็กๆที่เธออาศัยอยู่มาหลายปี มันเป็นห้องที่คุ้นเคยและแสนธรรมดา แต่วันนี้กลับรู้สึกต่างออกไปภาพเหตุการณ์เมื่อคืนยังคงชัดเจนอยู่ในหัวของเธอ เสียงคำรามของมอนสเตอร์ ความรู้สึกของเวลาที่ชะลอลงเมื่อเธอใช้พลัง และคำพูดของไอริสที่ยังคงก้องอยู่ในใจหลังจากลุกขึ้นเตรียมตัว เธอเดินไปที่ร้านสะดวกซื้อที่เธอทำงานตามปกติ แต่ทันทีที่มาถึง เธอก็พบกับบางสิ่งที่ไม่คาดคิด ประตูร้านถูกปิดและป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า ปิดปรับปรุง ถูกแขวนอยู่ด้านหน้า“เวสเปอร์!” เสียงของลุงมาร์ต เจ้าของร้านดังขึ้นจากด้านในร้านเวสเปอร์เดินเข้าไปหาเขาด้วยความสงสัย “ลุงคะ เกิดอะไรขึ้น?”ชายวัยกลางคนในเสื้อเชิ้ตเก่าๆมองเธอด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “เมื่อคืนร้านเราพังเละเทะใช่ไหมล่ะ ทางรัฐบาลบอกว่าจะเข้ามาช่วยซ่อมแซมให้ ฉันเลยตัดสินใจว่าจะปิดร้านสักอาทิตย์หนึ่งเพื่อปรับปรุงทุกอย่างให้เรียบร้อย”“แล้วพวกเราล่ะคะ จะให้ช่วยอะไรไหม” เวสเปอร์ถามอย่างกังวล“ไม่ต้องหรอก” ลุงมาร์ตตอบพลางโบกมือ “ฉันอยากให้พวกเธอพักผ่อนกันบ้าง ใช้เวลานี้ทำอะ

  • She’s manaic | หมาบ้าของท่านประธาน   EP.3 เส้นทางที่ยังมองไม่เห็น

    เวสเปอร์ยังคงนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ร้านสะดวกซื้อ แม้เวลาจะล่วงเลยไปถึงช่วงกลางดึกแล้ว แต่เธอยังรู้สึกเหมือนทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ กลิ่นไหม้จากมอนสเตอร์และเศษกระจกที่กระจัดกระจายบนพื้นยังคงเป็นเครื่องเตือนใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เพียงแค่ความฝันเธอเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำจากเคาน์เตอร์ มือของเธอสั่นเล็กน้อย เธอไม่แน่ใจว่ามันเกิดจากความเหนื่อยล้าหรือความหวาดกลัวเสียงฝีเท้าเบาๆทำให้เธอหันไปมอง เพื่อนร่วมงานของเธอกลับมาจากด้านหลังร้านพร้อมกับผ้าขี้ริ้วในมือ เขาเหลือบมองเศษซากความเสียหายก่อนจะถอนหายใจหนักๆ“นี่มันเละเทะไปหมดเลย…” เขาพูดเบาๆพร้อมกับเริ่มเช็ดเศษเลือดและเถ้าถ่านที่หลงเหลืออยู่บนเคาน์เตอร์ “ฉันไม่รู้ว่าเราจะต้องจ่ายค่าซ่อมแซมเองหรือเปล่า แต่หวังว่าเจ้าของร้านจะเข้าใจว่ามันไม่ใช่ความผิดของเรา”เวสเปอร์พยักหน้าช้าๆโดยไม่ได้ตอบอะไร เธอจ้องมองมือของตัวเองที่ยังมีรอยแดงจากการจับถังดับเพลิงเมื่อก่อนหน้านี้ ภาพมอนสเตอร์ที่พุ่งเข้าหาเธอยังคงติดตา“เธอ… โอเคไหม?” เพื่อนร่วมงานถาม เขาดูเหมือนจะลังเลก่อนจะพูดต่อ “ฉันหมายถึง… ที่เธอใช้พลังเมื่อกี้ มันน่าทึ่งมากเลยนะ ฉันไม่เคยร

DMCA.com Protection Status