วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นนี้สถานที่อย่างร้านบาร์หรูใจกลางเมืองเนืองแน่นไปด้วยหนุ่มสาวนักท่องราตรี ทุกคนต่างเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศภายในร้านต่างจากหญิงสาวที่นั่งเหม่อลอยในมือกุมแก้วไวน์อยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ แม้เพลงจะบรรเลงเร้าใจเพียงใดก็ไม่สามารถเย้ายวนใจให้เธอเพลิดเพลินไปกับมันได้ ในใจร้อนรุ่มไปด้วยไฟแค้นและฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงสั่งบาริสต้าให้เสิร์ฟแก้วที่แรงที่สุดในร้านมาให้ เธออยากเมาจนลืมว่าความรู้สึกเสียใจนี้มันเจ็บเพียงใด
“มาคนเดียวเหรอครับ” “ค่ะ” นภาภัสใช้นิ้วเรียวปาดน้ำตาที่แก้มออกเมื่อเห็นว่ามีหนุ่มหล่อเดินถือแก้วมานั่งข้างๆ “แฟนไม่มาด้วยเหรอครับ” “อืม..ไม่มีค่ะ” เธอยิ้มก่อนจะหยิบแก้วขึ้นมาดื่มจนหมดแล้วสั่งเพิ่ม “แปลกจัง” “คะ?” “สวยขนาดนี้ไม่มีแฟนได้ไง” ชายหนุ่มในชุดเชิ้ตสีดำสนิทปลดกระดุมเม็ดบนเผยให้เห็นร่องอกที่เกิดจากการออกกำลังกายอย่างหนัก “นั่นน่ะสิคะ” หญิงสาวรู้จุดประสงค์ทันที และเธอเลือกที่จะเล่นด้วย “เช็กบิลเลยมั้ยครับ ไปต่อที่ห้องผมดีกว่ามีไวน์รสเลิศอยากให้คุณลอง” เขาเข้ามากระซิบที่ข้างหูก่อนจะยื่นบัตรเครติดให้บาริสต้าจัดการค่าไวน์ของเธอให้เสร็จสับ ที่ผ่านมาไม่รู้ว่าแฟนหนุ่มที่ตอนนี้เป็นอดีตไปแล้วทำเรื่องอย่างว่ามานานแค่ไหน เธอไม่อยากรู้แล้ว ถ้าคืนนี้ได้ปลดปล่อยความเสียใจและลองทำแบบที่เขาทำบ้างคงจะสนุกไม่น้อย “รอผมนานมั้ย” เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นที่ด้านหลังของทั้งคู่ “คะ?” “คุณคือ..ใครครับ?” ชายหนุ่มคนก่อนหน้าถามขึ้นเมื่อหันมาเห็นผู้ชายอีกคนทำท่าทางเหมือนรู้จักหญิงสาวที่ตัวเองสนใจ “ผมเป็นแฟนครับ แล้วคุณล่ะ” คนที่พึ่งมาตอบเสียงนิ่ง “อ่าวแล้วบอกไม่มีผัว” ชายหนุ่มกล้ามแน่นฉุนเฉียวก่อนหยิบบัตรเครดิตคืนจากบาริสต้าอย่างหัวเสีย “ประธานมาได้ไงคะ” นภาภัสเบิกตากว้างเมื่อเห็นราวินหัวหน้าของเธอมายืนอยู่ตรงหน้า “คุณเมามากแล้วกลับบ้านเถอะ” “ฉันพึ่งจะเริ่มดื่มเมื่อชั่วโมงก่อนเองค่ะ” “นภาภัส คุณกล้าเถียงผมเหรอ” เขาทำเสียงเข้ม “ตอนนี้นอกเวลางานแล้วประธานไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งนะคะ” เลขาสาวยังคงดื้อดึง พูดจบก็หันไปสั่งเครื่องดื่มเพิ่มแต่โดนหัวหน้าดึงแขนออกมา “ช้าหน่อยค่ะคุณวิน” เธอบอกคนที่กำลังดึงแขนให้เดินตามเดินช้าลงหน่อย “นี่ไงเมาจนเดินไม่ไหว” “ต่อให้ไม่เมาก็เดินช้าๆ หน่อยค่ะฉันเจ็บเท้า” ราวินผ่อนฝีเท้าลงพลางก้มลงมองที่เท้าก็เห็นว่าเธอยังคงสวมรองเท้าส้นเข็มสูง 5 นิ้วที่ใส่ไปทำงานอยู่ “นั่งตรงนี้ก่อน” เขาพาเธอออกมาที่ม้านั่งตรงลานจอดรถข้างร้าน หลังจากนภาภัสนั่งลงก็ถอดรองเท้าทันทีเพราะความเจ็บ เผยให้เห็นส้นเท้าที่แดงก่ำมีเลือดซิบออกมานิดหน่อย “ฮึก..ฮืออ” “เจ็บขนาดนั้นเลยเหรอ” ราวินตกใจที่เห็นเลขาคนสนิทร้องไห้ออกมา ตั้งแต่ทำงานร่วมกันมาเธอเป็นหญิงสาวที่เข้มแข็งและร่าเริงมาก เขาไม่เคยเห็นน้ำตาของเธอแม้แต่หยดเดียว แม้กระทั่งตอนที่เธอทำงานพลาดแล้วโดนดุเสียง-แข็ง แต่วันนี้กลับร้องไห้โฮออกมาอย่างหมดสภาพ “ไม่เท่าไรหรอกค่ะ เจ็บข้างในมากกว่า” เมื่อได้ยินอย่างนั้นเขาจึงนั่งลงข้างๆ เพื่อฟังเธอระบายความในใจ “ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลางานแล้ว งั้นคุณอยากเล่าอะไรก็เล่ามาเถอะผมจะรับฟังในฐานะเพื่อนแล้วกัน” “คะ?” นภาภัสงุนงงนิดหน่อยแต่ก็เริ่มเล่าออกมา “คือ.. วันนี้ประธานก็รู้ว่าฉันขอเลิกงานเร็ว จะว่าฉันว่าทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ก็ได้นะคะ แต่วันนี้มันวันครบรอบ 7 ปีที่ฉันคบกับแฟน…ไม่สิ คบกับไอบ้านั่นวันนี้ฉันตั้งใจไปร้านดอกไม้เพื่อหอบดอกไม้ช่อใหญ่กว่าตัวไปหาเขาที่คอนโดแท้ๆ แต่กลับเจอเขากำลัง..ทำอะไร.ฮึก..อยู่กับ..ฮึก..” เธอสะอื้นหนัก “พอแล้ว ผมเข้าใจสถานการณ์แล้วล่ะ” ทิวากรเอามือมาตบไหล่ของเลขาอย่างเก้ๆ กังๆ ด้วยความที่ปลอบคนไม่เก่งนัก “ประธานจะมาเข้าใจได้ยังไงคะ ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาไม่เคยเห็นมีแฟนสักคน” “อืม..ผมว่าคุณเมาแล้วนะ” “ชีวิตนี้เจอผู้ชายก็น้อย วันๆ เจออยู่แค่สองคน อีกคนก็เฮงซวยอีกคนก็เป็นเจ้านายใช้งานโคตรหนัก สวรรค์กลั่นแกล้งอีฟ้าหรือไงวะเนี่ยยยย” เสียงของเธอดังลั่นจนทำให้คนละแวกนั้นเริ่มให้ความสนใจ “เอ่อ..ผมว่าคุณเมาแล้วจริงๆ ล่ะ” ประธานหนุ่มพยายามพยุงให้เลขาสาวที่เมาจนพูดไปเรื่อยลุกขึ้นแต่ดูเหมือนแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปทุกแก้วจะพร้อมใจกันออกฤทธิ์ : : : “ปวดหัวชะมัด” หญิงสาวที่อยู่ในอาการแฮงค์จากเมื่อคืนส่ายหัวไปมาอย่างมึนงง “ดีนะเป็นวันหยุดไม่งั้นแย่แน่” เธอบ่นต่อ “ใช่” “ตาเถร!” หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงตอบรับทั้งๆ ที่เขาควรจะอยู่คนเดียว เมื่อมองไปรอบๆ ห้องก็พบว่าที่นี่ช่างไม่คุ้นตาเสียเลย เมื่อมองไปที่ต้นตอของเสียงก็ต้องตกใจหนักกว่าเดิม “ท่านประธาน!” “ดีนะที่วันนี้เป็นวันหยุด แต่เมื่อคืนคุณหางานให้ผมทำ” ประธานหนุ่มยืนกอดอกอยู่ที่ปลายเตียง “ที่นี่..คือ..” “บ้านผม ห้องนอนผม และนั่นก็เตียงนอนของผม” “อุ้ยย” เลขาสาวรีบเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงทันที “ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยให้แม่บ้านมาจัดการ” “เอ่อ..เมื่อคืน..” “จำไม่ได้ล่ะสิ” “ค่ะ” เธอก้มหน้าด้วยความอายเพราะจำไม่ได้จริงๆ ว่าเมื่อคืนทำอะไรไปทำไมถึงได้มาโผล่อยู่ที่นี่ได้ “แนะนำว่าอย่าจำดีกว่า ผมเองก็ไม่อยากจะจำเพราะมันอุบาทว์มาก” ประธานหนุ่มพูดจบก่อนจะเดินออกจากห้องไป หญิงสาวเดินตามออกมาก็พบว่ากระเป๋าและรองเท้าถูกทิ้งระเนระนาดอยู่ที่หน้าประตูห้อง เธอรีบก้มเก็บด้วยความอายก่อนจะวิ่งลงบันไดเพื่อหาทางออก “ตื่นแล้วเหรอคะคุณ” เสียงแม่บ้านเอ่ยทักขึ้นในขณะที่เธอกำลังก้มลงใส่รองเท้า “เอ่อ..ค่ะ” “ไม่อยู่ทานอาหารเช้ากับคุณหนูก่อนเหรอคะ” “ให้เขากลับเถอะครับป้าจิต จะได้รีบอาบน้ำคงเหม็นกลิ่นอ้วกแย่” “กลิ่นอ้วก??” เลขาสาวทวนอีกครั้ง ราวินส่ายหัวอย่างเอือมระอาเป็นคำตอบก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทานข้าว “งั้นฉันกลับก่อนนะคะ แล้วเจอกันที่บริษัทนะคะท่านประธาน” เขาไม่ได้ตอบอะไรแถมยังสนใจแต่ข้าวต้มกุ้งที่วางอยู่ตรงหน้า มีเพียงรอยยิ้มจากแม่บ้านที่ส่งมาให้เท่านั้น นภาภัสชินแล้วเพราะเจ้านายของเธอค่อนข้างจะเป็นคนเคร่งขรึมตั้งแต่วันที่เข้ามาทำงานวันแรก เขาไม่เคยคุยเล่นกับพนักงานคนไหนแม้แต่ครั้งเดียวถ้าไม่ใช่เรื่องงาน : หญิงสาวนั่งรถกลับมาถึงที่หน้าคอนโดของตนซึ่งไม่ได้ไกลมากจากบ้านผู้เป็นเจ้านาย เธอก้าวเท้าลงจากรถที่หน้าตึกก่อนจะเงยหน้ามองตึกสูงเสียดฟ้าพลันนึกว่าเป็นความผิดของตนหรือไม่ที่เลือกมาอยู่คอนโดใกล้ที่ทำงานแทนที่จะเลือกอยู่กับแฟนหนุ่ม นี่อาจจะทำให้มีช่องว่างระหว่างกันไม่งั้นเขาคงไม่เอาผู้หญิงมาร่วมหลับนอนในตอนที่เธอไปเจอเขาไม่ได้แบบนี้ คิดแล้วก็น่าปวดใจเธอเลิกคิดก่อนจะรีบเดินเข้าตึกไปเพื่อชะล้างร่างกายให้สะอาดและพักผ่อนในวันหยุด : - TBC - #เลขาของราวินหลังจากนอนคิดมาทั้งวันจนตะวันลับฟ้านภาภัสก็ตระหนักได้ว่าควรจะไปเก็บของของตัวเองในห้องของทิวากรก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายขนมาคืนเธอเองให้เสียเกียรติ เธอสิต้องเป็นคนทิ้งเขา เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยเดรสรัดรูปสีแดงฉ่าและทาปากด้วยสีเฉดเดียวกันก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางใบโตไปที่คอนโดหรูอีกครั้ง เธอไม่ได้คิดที่จะกดกริ่งเช่นเคยแต่เลือกจะใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าไปเลย ในใจคิดหากเจอนังผู้หญิงคนเมื่อคืนจะขอด่าให้สะใจก่อนกลับแต่สิ่งแรกที่พบคือช่อดอกไม้ที่เธอเลือกเองกับมือถูกทิ้งอยู่ในถังขยะ น้ำตาค่อยๆ ไหลรินอาบแก้ม ต่อให้ในใจแค้นเพียงใดแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าข้างในแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี “ฟ้าใหม่” ทิวากรเปิดประตูห้องนอนออกมา เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ห้องเธอรีบดึงสติและเช็ดคราบน้ำตาทันที “ผมว่าแล้วว่าคุณต้องมา” “ฟ้ามาเก็บของ” หญิงสาวลากกระเป๋าเข้าไปที่ห้องแต่งตัวทันที “ไม่เอาหน่า” เขาเดินเข้ามาสวมกอดนภาภัสจากด้านหลังอย่างใจเย็น “กี่ครั้งแล้ว ทำแบบนี้กี่ครั้งแล้ว” เธอถามด้วยเสียงสะอื้น “ครั้งเดียวครับ ผมขอโทษนะฟ้าเมื่อคืนคือครั้งแรกที่พลาดไป ผมเมามากจริงๆ” “เมา?” เธอผละออกทันทีก่อนจ
เมื่อราวินตื่นขึ้นก็พบว่าคนข้างกายได้หายไปแล้ว เขารีบพรวดพราดออกมาจากห้องในขณะที่ท่อนบนยังเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าขนหนูห่อหุ้มร่างกายท่อนล่างเอาไว้แต่ก็ไม่เจอใครนอกจากป้าจิตที่เตรียมมื้อเช้าอยู่ที่โต๊ะอาหาร“ป้าว่าแล้วว่าคุณผู้หญิงรีบออกไปทำไม ป้าทักเธอก็ทำสีหน้าตกใจด้วยค่ะ”“นภาภัสครับ เธอชื่อนภาภัส”“ค่ะ คุณหนูทำอะไรก็ทำให้มันถูกต้องนะคะ”“ครับ..”เขากลับเข้ามาในห้องพร้อมกดโทรไปหาเลขาสาวแต่ก็ถูกตัดสายทิ้งเป็นคำตอบ ราวินรู้สึกงุนงงนิดหน่อยนึกเสียดายที่วันนี้คือวันหยุดถ้าจะคุยกันคงต้องรอเจอกันที่บริษัทพรุ่งนี้เช้าวันรุ่งขึ้นเขารีบขับรถหรูสีดำโชว์โลโก้ห่วงคล้องกันสี่ห่วงเหยียบจนมิดไมล์เพื่อไปบริษัท ในใจร้อนรุ่มเพราะอยากจะรู้ว่าเหตุใดเธอจึงหายเงียบไป“ฉันขอลาออกค่ะ”“ผมไม่เข้าใจ”“ตามนี้เลยค่ะ” นภาภัสเลื่อนซองจดหมายสีขาวมาให้ประธานหนุ่ม“ทำไมล่ะ?”“ขอไม่ตอบนะคะเหตุผลส่วนตัว ช่วยเซ็นอนุมัติให้ด้วยค่ะ” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นเตรียมเดินออกนอกห้อง“เพราะเรื่องคืนนั้นเหรอ?”“คืนไหนคะ?”“นภาภัส”“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันแค่เผลอตัวไปไม่ได้ตั้งใจ”“ได้! ถ้าคุณต้องการแบบนี้ผมจะเซ็นใบลาออกให้”“ขอบคุณที่กรุณาค่
“ผมเซ็นเอกสารหมดแล้วนะที่รัก”“ท่านประธาน! เดี๋ยวก็มีคนมาได้ยินหรอกค่ะ”“ใครจะมาได้ยินในห้องมีแค่ผมกับคุณ”“ฉันบอกว่ายังไงคะ? อยู่บริษัทเราต้องสวมบทบาทเจ้านายกับลูกน้องนะ”“ผมอยากเลิกงานเร็วๆ จัง อยากกอดคุณจะแย่” ราวินตบลงที่ตักของตัวเองก่อนจะอ้าแขนอ้อนนภาภัสเลขาสาวส่ายหัวให้กับความเอาแต่ใจแต่ก็เลือกที่จะเดินเข้าไปนั่งบนตักให้อีกฝ่ายกอดเติมพลัง“แค่นี้ก็มีแรงไปประชุมละ”‘ก๊อกๆๆ’ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทั้งคู่สะดุ้งโหยงก่อนจะรีบแยกออกจากกัน“เชิญครับ” ราวินจัดสูทและเนกไทให้เป็นระเบียบก่อนจะพูดอนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามา“ขอตัวก่อนนะคะ” เธอสวมบทบาทเลขาสาวหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะของราวินเดินออกมาทันที“บอสคะแผนการตลาดของทีมBเหมือนจะมีปัญหานะคะ” สาวิกา รุ่นน้องที่ไม่ค่อยถูกชะตากับนภาภัสตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ดันได้มาร่วมงานกันเดินถือแฟ้มเอกสารเข้ามาหาประธานหนุ่มในห้องเหมือนรู้จังหวะ“อ๊ะพี่ฟ้า ไม่ทักทายกันเลยนะคะ” พนักงานบัญชีสาวในชุดกระโปรงสั้นรัดรูปหันมาถามเมื่อเห็นหญิงสาวเดินสวนไปอย่างเมินเฉย“ว่าไงจ๊ะน้องสา”“วันนี้สีลิปสติกแก่ไปนิดนะคะ” พูดจบก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะประธานหนุ่ม
“ขอโทษนะคะกร ฟ้าขอเลื่อนนัดเป็นพรุ่งนี้แทนนะคะ”“ไม่เป็นไรที่รัก งานคุณยุ่งผมเข้าใจ”“ขอบคุณที่เข้าใจกันนะ สุขสันต์วันครบรอบ7ปีนะคะ”“เอ่อ..ฟ้าใหม่”“คะ?”“ผมรักคุณนะ”“ฟ้าก็รักคุณค่ะกร” ใบหน้าเรียวสวยแต้มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ยินปลายสายบอกคำหวาน เขาตอบกลับอย่างอ่อนโยนก่อนจะวางสายจากกัน“ช่อดอกไม้ของคุณผู้หญิงได้แล้วค่ะ” พนักงานร้านดอกไม้เอ่ยขึ้นพร้อมยกช่อดอกลิลลี่สีขาวช่อใหญ่ห่อด้วยกระดาษสีชมพูอ่อนผูกโบด้วยริบบิ้นสีทองอย่างประณีต“ช่วยเขียนการ์ดให้หน่อยนะคะ เอาเป็นตามโน๊ตนี้เลยค่ะ” เธอยื่นกระดาษโน๊ตที่ถูกพับยู่ยี่ให้พนักงาน‘Happy Anniversary 7th Always love you naka Korn’วันนี้เป็นวันครบรอบ 7 ปีของเธอกับแฟนหนุ่ม หญิงสาวที่งานยุ่งอ้างว่าวันนี้ไปตามนัดไม่ได้แล้วเพราะติดงานด่วน แต่ความจริงเธอต้องการไปเซอร์ไพรส์เขาต่างหาก ไหนๆ พรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดเธอจึงตั้งใจจะใช้เวลาช่วงวันหยุดกับคนที่รักเพื่อฉลองช่วงเวลาสำคัญ:ไม่นานนักนภาภัสก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องบนคอนโดหรูตั้งอยู่ในใจกลางเมือง เธอคิดในใจว่าถ้าแอบเข้าไปเงียบๆ คงจะทำอีกฝ่ายรู้สึกแปลกใจไม่น้อยจึงไม่ได้กดกริ่งเรียกและถือวิสาส
“ผมเซ็นเอกสารหมดแล้วนะที่รัก”“ท่านประธาน! เดี๋ยวก็มีคนมาได้ยินหรอกค่ะ”“ใครจะมาได้ยินในห้องมีแค่ผมกับคุณ”“ฉันบอกว่ายังไงคะ? อยู่บริษัทเราต้องสวมบทบาทเจ้านายกับลูกน้องนะ”“ผมอยากเลิกงานเร็วๆ จัง อยากกอดคุณจะแย่” ราวินตบลงที่ตักของตัวเองก่อนจะอ้าแขนอ้อนนภาภัสเลขาสาวส่ายหัวให้กับความเอาแต่ใจแต่ก็เลือกที่จะเดินเข้าไปนั่งบนตักให้อีกฝ่ายกอดเติมพลัง“แค่นี้ก็มีแรงไปประชุมละ”‘ก๊อกๆๆ’ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทั้งคู่สะดุ้งโหยงก่อนจะรีบแยกออกจากกัน“เชิญครับ” ราวินจัดสูทและเนกไทให้เป็นระเบียบก่อนจะพูดอนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามา“ขอตัวก่อนนะคะ” เธอสวมบทบาทเลขาสาวหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะของราวินเดินออกมาทันที“บอสคะแผนการตลาดของทีมBเหมือนจะมีปัญหานะคะ” สาวิกา รุ่นน้องที่ไม่ค่อยถูกชะตากับนภาภัสตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ดันได้มาร่วมงานกันเดินถือแฟ้มเอกสารเข้ามาหาประธานหนุ่มในห้องเหมือนรู้จังหวะ“อ๊ะพี่ฟ้า ไม่ทักทายกันเลยนะคะ” พนักงานบัญชีสาวในชุดกระโปรงสั้นรัดรูปหันมาถามเมื่อเห็นหญิงสาวเดินสวนไปอย่างเมินเฉย“ว่าไงจ๊ะน้องสา”“วันนี้สีลิปสติกแก่ไปนิดนะคะ” พูดจบก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะประธานหนุ่ม
เมื่อราวินตื่นขึ้นก็พบว่าคนข้างกายได้หายไปแล้ว เขารีบพรวดพราดออกมาจากห้องในขณะที่ท่อนบนยังเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าขนหนูห่อหุ้มร่างกายท่อนล่างเอาไว้แต่ก็ไม่เจอใครนอกจากป้าจิตที่เตรียมมื้อเช้าอยู่ที่โต๊ะอาหาร“ป้าว่าแล้วว่าคุณผู้หญิงรีบออกไปทำไม ป้าทักเธอก็ทำสีหน้าตกใจด้วยค่ะ”“นภาภัสครับ เธอชื่อนภาภัส”“ค่ะ คุณหนูทำอะไรก็ทำให้มันถูกต้องนะคะ”“ครับ..”เขากลับเข้ามาในห้องพร้อมกดโทรไปหาเลขาสาวแต่ก็ถูกตัดสายทิ้งเป็นคำตอบ ราวินรู้สึกงุนงงนิดหน่อยนึกเสียดายที่วันนี้คือวันหยุดถ้าจะคุยกันคงต้องรอเจอกันที่บริษัทพรุ่งนี้เช้าวันรุ่งขึ้นเขารีบขับรถหรูสีดำโชว์โลโก้ห่วงคล้องกันสี่ห่วงเหยียบจนมิดไมล์เพื่อไปบริษัท ในใจร้อนรุ่มเพราะอยากจะรู้ว่าเหตุใดเธอจึงหายเงียบไป“ฉันขอลาออกค่ะ”“ผมไม่เข้าใจ”“ตามนี้เลยค่ะ” นภาภัสเลื่อนซองจดหมายสีขาวมาให้ประธานหนุ่ม“ทำไมล่ะ?”“ขอไม่ตอบนะคะเหตุผลส่วนตัว ช่วยเซ็นอนุมัติให้ด้วยค่ะ” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นเตรียมเดินออกนอกห้อง“เพราะเรื่องคืนนั้นเหรอ?”“คืนไหนคะ?”“นภาภัส”“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันแค่เผลอตัวไปไม่ได้ตั้งใจ”“ได้! ถ้าคุณต้องการแบบนี้ผมจะเซ็นใบลาออกให้”“ขอบคุณที่กรุณาค่
หลังจากนอนคิดมาทั้งวันจนตะวันลับฟ้านภาภัสก็ตระหนักได้ว่าควรจะไปเก็บของของตัวเองในห้องของทิวากรก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายขนมาคืนเธอเองให้เสียเกียรติ เธอสิต้องเป็นคนทิ้งเขา เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยเดรสรัดรูปสีแดงฉ่าและทาปากด้วยสีเฉดเดียวกันก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางใบโตไปที่คอนโดหรูอีกครั้ง เธอไม่ได้คิดที่จะกดกริ่งเช่นเคยแต่เลือกจะใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าไปเลย ในใจคิดหากเจอนังผู้หญิงคนเมื่อคืนจะขอด่าให้สะใจก่อนกลับแต่สิ่งแรกที่พบคือช่อดอกไม้ที่เธอเลือกเองกับมือถูกทิ้งอยู่ในถังขยะ น้ำตาค่อยๆ ไหลรินอาบแก้ม ต่อให้ในใจแค้นเพียงใดแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าข้างในแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี “ฟ้าใหม่” ทิวากรเปิดประตูห้องนอนออกมา เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ห้องเธอรีบดึงสติและเช็ดคราบน้ำตาทันที “ผมว่าแล้วว่าคุณต้องมา” “ฟ้ามาเก็บของ” หญิงสาวลากกระเป๋าเข้าไปที่ห้องแต่งตัวทันที “ไม่เอาหน่า” เขาเดินเข้ามาสวมกอดนภาภัสจากด้านหลังอย่างใจเย็น “กี่ครั้งแล้ว ทำแบบนี้กี่ครั้งแล้ว” เธอถามด้วยเสียงสะอื้น “ครั้งเดียวครับ ผมขอโทษนะฟ้าเมื่อคืนคือครั้งแรกที่พลาดไป ผมเมามากจริงๆ” “เมา?” เธอผละออกทันทีก่อนจ
วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นนี้สถานที่อย่างร้านบาร์หรูใจกลางเมืองเนืองแน่นไปด้วยหนุ่มสาวนักท่องราตรี ทุกคนต่างเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศภายในร้านต่างจากหญิงสาวที่นั่งเหม่อลอยในมือกุมแก้วไวน์อยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ แม้เพลงจะบรรเลงเร้าใจเพียงใดก็ไม่สามารถเย้ายวนใจให้เธอเพลิดเพลินไปกับมันได้ ในใจร้อนรุ่มไปด้วยไฟแค้นและฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงสั่งบาริสต้าให้เสิร์ฟแก้วที่แรงที่สุดในร้านมาให้ เธออยากเมาจนลืมว่าความรู้สึกเสียใจนี้มันเจ็บเพียงใด“มาคนเดียวเหรอครับ”“ค่ะ” นภาภัสใช้นิ้วเรียวปาดน้ำตาที่แก้มออกเมื่อเห็นว่ามีหนุ่มหล่อเดินถือแก้วมานั่งข้างๆ“แฟนไม่มาด้วยเหรอครับ”“อืม..ไม่มีค่ะ” เธอยิ้มก่อนจะหยิบแก้วขึ้นมาดื่มจนหมดแล้วสั่งเพิ่ม“แปลกจัง”“คะ?”“สวยขนาดนี้ไม่มีแฟนได้ไง” ชายหนุ่มในชุดเชิ้ตสีดำสนิทปลดกระดุมเม็ดบนเผยให้เห็นร่องอกที่เกิดจากการออกกำลังกายอย่างหนัก“นั่นน่ะสิคะ” หญิงสาวรู้จุดประสงค์ทันที และเธอเลือกที่จะเล่นด้วย“เช็กบิลเลยมั้ยครับ ไปต่อที่ห้องผมดีกว่ามีไวน์รสเลิศอยากให้คุณลอง” เขาเข้ามากระซิบที่ข้างหูก่อนจะยื่นบัตรเครติดให้บาริสต้าจัดการค่าไวน์ของเธอให้เสร็จสับที่ผ่
“ขอโทษนะคะกร ฟ้าขอเลื่อนนัดเป็นพรุ่งนี้แทนนะคะ”“ไม่เป็นไรที่รัก งานคุณยุ่งผมเข้าใจ”“ขอบคุณที่เข้าใจกันนะ สุขสันต์วันครบรอบ7ปีนะคะ”“เอ่อ..ฟ้าใหม่”“คะ?”“ผมรักคุณนะ”“ฟ้าก็รักคุณค่ะกร” ใบหน้าเรียวสวยแต้มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ยินปลายสายบอกคำหวาน เขาตอบกลับอย่างอ่อนโยนก่อนจะวางสายจากกัน“ช่อดอกไม้ของคุณผู้หญิงได้แล้วค่ะ” พนักงานร้านดอกไม้เอ่ยขึ้นพร้อมยกช่อดอกลิลลี่สีขาวช่อใหญ่ห่อด้วยกระดาษสีชมพูอ่อนผูกโบด้วยริบบิ้นสีทองอย่างประณีต“ช่วยเขียนการ์ดให้หน่อยนะคะ เอาเป็นตามโน๊ตนี้เลยค่ะ” เธอยื่นกระดาษโน๊ตที่ถูกพับยู่ยี่ให้พนักงาน‘Happy Anniversary 7th Always love you naka Korn’วันนี้เป็นวันครบรอบ 7 ปีของเธอกับแฟนหนุ่ม หญิงสาวที่งานยุ่งอ้างว่าวันนี้ไปตามนัดไม่ได้แล้วเพราะติดงานด่วน แต่ความจริงเธอต้องการไปเซอร์ไพรส์เขาต่างหาก ไหนๆ พรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดเธอจึงตั้งใจจะใช้เวลาช่วงวันหยุดกับคนที่รักเพื่อฉลองช่วงเวลาสำคัญ:ไม่นานนักนภาภัสก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องบนคอนโดหรูตั้งอยู่ในใจกลางเมือง เธอคิดในใจว่าถ้าแอบเข้าไปเงียบๆ คงจะทำอีกฝ่ายรู้สึกแปลกใจไม่น้อยจึงไม่ได้กดกริ่งเรียกและถือวิสาส