“สวัสดีค่ะพี่ฟ้า” เสียงพนักงานในบริษัทเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นเลขาสาวก้าวออกมาจากลิฟต์
“สวัสดีจ้า วันนี้แต่งตัวสวยนะเนี่ย” “แหมพี่ฟ้าก็” พนักงานสาวยิ้มกริ่มอย่างพอใจ “คืนนั้นพี่ฟ้าหายไปไหนเหรอคะ” สาวิกาที่นั่งอยู่อีกฝั่งเอ่ยทักขึ้น “จ้ะ?” “คืนนั้นเหมือนเห็นพี่ฟ้าออกจากงานไปกับใครสักคน แฟนใหม่เหรอคะ?” “เอ่อ..” “นี่ยัยสาแซวอะไรก็เกรงใจพี่เขาหน่อย พี่ฟ้าเขาพึ่งเลิกกับแฟนที่คบมาตั้งนานนะ” “นานนี่กี่ปีเหรอ ห้า หก หรือเจ็ด.. เห็นว่าวันครบรอบด้วยนี่คะ” สาวิกาทำหน้าตาไขสือพร้อมยกยิ้มมุมปาก “ข้อมูลเราก็แน่นเหมือนกันนะ คงดีถ้าตอนทำงานเธอเป๊ะแบบนี้บ้าง” นภาภัสตอบโต้ จากรอยยิ้มแปรเปลี่ยนเป็นการชักสีหน้าทันทีเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากโต๊ะรอบข้าง “พี่ขอตัวก่อนนนะ พอดีมีเอกสารต้องจัดการ” นภาภัสยิ้มส่งท้ายก่อนจะเดินถือแฟ้มเอกสารในมือไปทางโต๊ะทำงานของตัวเองที่ถูกจัดวางอยู่ตรงหน้าห้องของประธาน ทิ้งระยะห่างกันไม่นานประธานหนุ่มที่ขึ้นลิฟต์ตามมาที่หลังก็เดินเข้าไปยังห้องทำงานก่อนจะกดเรียกเลขาส่วนตัวเข้าไปในห้อง “มอนิ่งครับที่รัก” “คุณวินคะวันนั้นที่เรากลับด้วยกันมีพนักงานเห็นด้วยค่ะ เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ ฉันบอกแล้วว่าฉันกลับเองได้” เมื่อประตูห้องปิดลงหญิงสาวรีบพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ใจเย็นๆ ก่อนครับ ตอนนี้ยังไม่มีใครจับได้สักหน่อยคุณวางใจเถอะ” “แล้วถ้าโดนจับได้ล่ะคะ?” “ก็ไม่เห็นเป็นไร เราไม่ได้ทำอะไรผิดกันสักหน่อยนะ” “แต่ฉันเป็น! นี่คุณอย่าทำเป็นเล่นได้ไหม” “โอ๋ๆ มานี่มา” ราวินอ้าแขนรับให้หญิงสาวเดินเข้าไปหา นภาภัสเดินไปนั่งลงที่ตักด้วยหน้าตาบูดบึ้งก่อนจะมีมือมาโอบเอวไว้ “ขอโทษนะครับ ผมแค่แหย่เล่น” “ไม่ตลกค่ะ” “ก็ตอนคุณงอนมันน่ารักดีนี่” “ชิ!” “วันนี้ตอนกลางวันลงตารางงานให้ผมหน่อยสิ” “คะ? แต่วันนี้คุณไม่มีนัดอะไรนะคะ” “มีสิ เดี๋ยวผมเลือกร้านเองลงไว้ว่านัดสำคัญ” “สำคัญ?” “ใช่ วันนี้คุณไปกับผมด้วยนะ ทำตัวให้ว่างๆ ล่ะ” เขาจูบลงที่ไหล่ของหญิงสาวในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยนก่อนจะคลายมือที่โอบเอวไว้ออก ปล่อยให้เลขาได้กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง : : ณ ร้านอาหารหรู “แล้วไหนคะแขกคนสำคัญ?” นภาภัสมองไปรอบๆ ก่อนจะเอ่ยถามเพราะไม่เห็นวี่แววว่าจะมีใครมานั่งที่โต๊ะเพิ่ม แถมดูเหมือนเป็นการจองไว้สำหรับสองที่ “ผมบอกเหรอว่ามีแขก ผมบอกแค่ว่านัดสำคัญ” “เอาอีกแล้วนะคุณวิน นี่มันเวลางานเราไม่ควรมาทำแบบนี้นะคะ” “ใครว่าเวลางาน นี่มันเวลาพักกลางวันนะ” “คุณนี่จริงๆ เลย ถ้ามีคนมาเห็นเข้าจะว่ายังไงคะ” “แล้วคุณคิดว่าพนักงานบริษัทเราจะมาทานข้าวกลางวันร้านหรูแบบนี้เหรอ ไม่เจอใครหรอกหน่าอยากทานอะไรสั่งเลย” นภาภัสคลายกังวลก่อนจะหันมาสนใจเล่มเมนูอาหารที่โชว์ราคาแพงหูฉี่ “แพงไปไหมคะ?” “ก็ปกตินะ คุณน่ะชินได้แล้วเป็นแฟนผมไม่มีคำว่าแพง” เลขาสาวตระหนักได้ว่าตอนนี้เธออยู่ในบทบาทแฟนสาวไม่ใช่เลขาเช่นก่อนหน้านี้ที่บริษัท จึงค่อยๆ ผ่อนคลายและเป็นกันเองอย่างเช่นทุกวัน ตั้งแต่คบกับราวินมาไม่มีวันไหนที่เขาจะละเลยความรู้สึกเธอเลยแม้แต่วิเดียว เธอหวังว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะราบรื่นกว่าครั้งก่อนๆ : : : “พี่ฟ้าเคยเจอไหมคะ?” “เจอใครจ๊ะ?” นภาภัสที่พึ่งเลิกงานกำลังจะเดินไปขึ้นลิฟต์ได้ผ่านโต๊ะทำงานที่มีพนักงานกำลังจับกลุ่มเม้าท์มอยกันอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เธอเห็นจนชินตา “แหม พี่ฟ้าอย่ามาทำเป็นไม่รู้ค่ะ” “ใช่ๆ ก็มีแค่พี่ฟ้าที่ตัวติดกับท่านประธานอยู่คนเดียว” “เดี๋ยวๆ นี่ไปได้ยินเรื่องอะไรมาอีกไหนอัพเดทให้พี่ฟังซิ” หญิงสาวเริ่มให้ความสนใจเมื่อได้ยินว่าแฟนหนุ่มมีบทบาทในวงสนทนา “ก็มีคนเม้าท์กันน่ะสิว่าท่านประธานควงสาวไปกินข้าวที่ร้านอาหารอิตาลี!” “อยากจะรู้จริงๆ เลยเชียวว่าลูกหลานประธานบริษัทไหน หรือทายาทตระกูลอะไร” “ใช่มั้ย พี่ล่ะอยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นเลยว่าจะสวยขนาดไหนถึงมัดใจท่านประธานของพวกเราได้” “พี่ฟ้าเคยเห็นไหมคะ?” “พี่ฟ้า..พี่ฟ้าคะ!” “อ่ะ..เอ่อ ใช่เหรอ ข่าวมั่วเปล่าเนี่ยพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” “จะมั่วได้ยังไงล่ะคะก็พี่สาวิกาน่ะเป็นคนบอกมา ไม่ใช่ข่าวลือแน่นอน” “สาวิกาเหรอ?” “ใช่จ้ะ พอดีวันนี้ฉันมีคุยงานกับลูกค้าที่ร้านอาหารเดียวกันพอดี แล้วดันบังเอิญไปเห็นท่านประธานมาเดทกับสาวเข้าน่ะ” “รู้ได้ไงว่าเดท วันนี้ประธานมีนัดคุยงานเธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ” นภาภัสยืนกราน “คุยงานเหรอ ฉันเห็นมีช่อดอกไม้กับกล่อง..อืม ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ากล่องอะไร แต่น่าจะเป็นjewelryนะ ถ้าไม่ใช่แฟนเธอว่าท่านประธานจะให้เนื่องในโอกาสอะไรล่ะ” “ก็คง..จะ..” “คุยอะไรกันอยู่เหรอ” “ท่านประธาน!” “ไม่มีอะไรค่ะ ก็แค่คุยกันเรื่องทั่วไป” หนึ่งในพนักงานตอบกลับทันควัน “คงไม่ใช่เรื่องทั่วไปมั้ง เลขาผมถึงมาร่วมวงด้วย” “คะ?” ประโยคเมื่อครู่ทำเอาเธอเองประหม่าไม่น้อย “จริงสินภาภัส คืนนี้อย่าลืมส่งเมลล์งานที่ผมต้องอ่านก่อนเข้าประชุมมาให้ด้วยนะ” “เอ่อ..ได้ค่ะ” “งั้นผมขอตัวก่อนแล้วกันทุกคน” “สวัสดีค่ะท่านประธาน” พนักงานทุกคนพร้อมใจกันบอกลาก่อนจะเริ่มบทสนทนากันต่อ “โอ๊ยหัวใจจะวาย พี่ฟ้าว่าท่านประธานจะได้ยินที่เราคุยกันไหม” “ไม่หรอกมั้ง งั้นพี่กลับก่อนดีกว่า” “ท่านประธานนี่ก็นะ ขนาดเลิกงานแล้วยังใช้ให้เธอทำงานต่ออีก” สาวิกาไม่วายพูดจาถากถาง “อ่อ..อื้อ ฉันชินแล้วล่ะ ไปนะจ๊ะทุกคน” นภาภัสบอกลาก่อนจะรีบชิ่งออกมา : “ลงมาช้าจัง” “นี่คุณ!” เลขาสาวหันมองซ้ายขวาก่อนจะดึงแฟนหนุ่มให้ตามมาที่รถของตน “ใจเย็นคุณ” “ขึ้นไปเลยเร็วๆ!” “ขึ้นแล้วครับๆ” เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครเห็นนภาภัสรีบเหยียบคันเร่งรถเก๋งสปอร์ตคันแดงหรูออกจากลานจอดรถบริษัททันที : - TBC - #เลขาของราวิน“เฮ้อ วันนี้เราเสี่ยงกันมากเลยนะคะ” นภาภัสทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยล้า“เอาหน่า น่าสนุกดีออก” ราวินเดินมานั่งลงข้างๆ พร้อมจับหัวแฟนสาวให้ซบอิงมาที่ไหล่“สนุกกับผีน่ะสิ ฉันซีเรียสนะคุณ”“งั้นคืนนี้ให้ผมกลับไปนอนที่บ้านมั้ย พรุ่งนี้เราก็แยกย้ายกันเข้าบริษัท”“เอางั้นก็ได้ค่ะ ฉันว่าช่วงนี้เราระวังตัวกันหน่อยดีกว่า”“ได้ครับ งั้นผมกลับเลยดีกว่าคุณจะได้พักผ่อน”“ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ”“ผมก็ต้องเข้าใจความรู้สึกแฟนตัวเองสิ”“งั้นวันนี้ฉันไม่ลงไปส่งนะ ปวดข้อเท้ามากเลย”“ไหนขอผมดูหน่อยสิ”“อ๊ะ!” ราวินลงไปนั่งที่พื้นก่อนจะยกเท้าของแฟนสาวขึ้นมาวางไว้บนเข่าและนวดอย่างเบามือ“เจ็บมั้ย”“นิดนึงค่ะ”“ถ้าพรุ่งนี้ไม่ดีขึ้นคุณลาได้นะ”“จะบ้าเหรอคุณ แค่ข้อเท้าพลิก”“นั่นแหละ ถ้าอยากไปหาหมอบอกนะผมพาไป”“ขอบคุณนะคะ”“ขอบคุณผมบ่อยไปแล้วนะ เปลี่ยนเป็นบอกรักแทนได้มั้ย”“พอเลยๆ กลับได้แล้วค่ะจะได้พักผ่อน”นภาภัสดึงเท้ากลับมาก่อนจะพยุงให้ราวินลุกขึ้นและเดินไปส่งที่ประตู ทั้งสองจูบลากันเพราะนี่เป็นคืนแรกที่เขาต้องนอนแยกกันตั้งแต่ที่เริ่มคบกันเป็นแฟน‘ตือ~อ ดึ่งง’ เสียงกดรหัสประตูที่หน้าห้องก่อนจะตามมาด้วยเส
“ขอโทษนะคะกร ฟ้าขอเลื่อนนัดเป็นพรุ่งนี้แทนนะคะ”“ไม่เป็นไรที่รัก งานคุณยุ่งผมเข้าใจ”“ขอบคุณที่เข้าใจกันนะ สุขสันต์วันครบรอบ7ปีนะคะ”“เอ่อ..ฟ้าใหม่”“คะ?”“ผมรักคุณนะ”“ฟ้าก็รักคุณค่ะกร” ใบหน้าเรียวสวยแต้มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ยินปลายสายบอกคำหวาน เขาตอบกลับอย่างอ่อนโยนก่อนจะวางสายจากกัน“ช่อดอกไม้ของคุณผู้หญิงได้แล้วค่ะ” พนักงานร้านดอกไม้เอ่ยขึ้นพร้อมยกช่อดอกลิลลี่สีขาวช่อใหญ่ห่อด้วยกระดาษสีชมพูอ่อนผูกโบด้วยริบบิ้นสีทองอย่างประณีต“ช่วยเขียนการ์ดให้หน่อยนะคะ เอาเป็นตามโน๊ตนี้เลยค่ะ” เธอยื่นกระดาษโน๊ตที่ถูกพับยู่ยี่ให้พนักงาน‘Happy Anniversary 7th Always love you naka Korn’วันนี้เป็นวันครบรอบ 7 ปีของเธอกับแฟนหนุ่ม หญิงสาวที่งานยุ่งอ้างว่าวันนี้ไปตามนัดไม่ได้แล้วเพราะติดงานด่วน แต่ความจริงเธอต้องการไปเซอร์ไพรส์เขาต่างหาก ไหนๆ พรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดเธอจึงตั้งใจจะใช้เวลาช่วงวันหยุดกับคนที่รักเพื่อฉลองช่วงเวลาสำคัญ:ไม่นานนักนภาภัสก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องบนคอนโดหรูตั้งอยู่ในใจกลางเมือง เธอคิดในใจว่าถ้าแอบเข้าไปเงียบๆ คงจะทำอีกฝ่ายรู้สึกแปลกใจไม่น้อยจึงไม่ได้กดกริ่งเรียกและถือวิสาส
วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นนี้สถานที่อย่างร้านบาร์หรูใจกลางเมืองเนืองแน่นไปด้วยหนุ่มสาวนักท่องราตรี ทุกคนต่างเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศภายในร้านต่างจากหญิงสาวที่นั่งเหม่อลอยในมือกุมแก้วไวน์อยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ แม้เพลงจะบรรเลงเร้าใจเพียงใดก็ไม่สามารถเย้ายวนใจให้เธอเพลิดเพลินไปกับมันได้ ในใจร้อนรุ่มไปด้วยไฟแค้นและฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงสั่งบาริสต้าให้เสิร์ฟแก้วที่แรงที่สุดในร้านมาให้ เธออยากเมาจนลืมว่าความรู้สึกเสียใจนี้มันเจ็บเพียงใด“มาคนเดียวเหรอครับ”“ค่ะ” นภาภัสใช้นิ้วเรียวปาดน้ำตาที่แก้มออกเมื่อเห็นว่ามีหนุ่มหล่อเดินถือแก้วมานั่งข้างๆ“แฟนไม่มาด้วยเหรอครับ”“อืม..ไม่มีค่ะ” เธอยิ้มก่อนจะหยิบแก้วขึ้นมาดื่มจนหมดแล้วสั่งเพิ่ม“แปลกจัง”“คะ?”“สวยขนาดนี้ไม่มีแฟนได้ไง” ชายหนุ่มในชุดเชิ้ตสีดำสนิทปลดกระดุมเม็ดบนเผยให้เห็นร่องอกที่เกิดจากการออกกำลังกายอย่างหนัก“นั่นน่ะสิคะ” หญิงสาวรู้จุดประสงค์ทันที และเธอเลือกที่จะเล่นด้วย“เช็กบิลเลยมั้ยครับ ไปต่อที่ห้องผมดีกว่ามีไวน์รสเลิศอยากให้คุณลอง” เขาเข้ามากระซิบที่ข้างหูก่อนจะยื่นบัตรเครติดให้บาริสต้าจัดการค่าไวน์ของเธอให้เสร็จสับที่ผ่
หลังจากนอนคิดมาทั้งวันจนตะวันลับฟ้านภาภัสก็ตระหนักได้ว่าควรจะไปเก็บของของตัวเองในห้องของทิวากรก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายขนมาคืนเธอเองให้เสียเกียรติ เธอสิต้องเป็นคนทิ้งเขา เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยเดรสรัดรูปสีแดงฉ่าและทาปากด้วยสีเฉดเดียวกันก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางใบโตไปที่คอนโดหรูอีกครั้ง เธอไม่ได้คิดที่จะกดกริ่งเช่นเคยแต่เลือกจะใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าไปเลย ในใจคิดหากเจอนังผู้หญิงคนเมื่อคืนจะขอด่าให้สะใจก่อนกลับแต่สิ่งแรกที่พบคือช่อดอกไม้ที่เธอเลือกเองกับมือถูกทิ้งอยู่ในถังขยะ น้ำตาค่อยๆ ไหลรินอาบแก้ม ต่อให้ในใจแค้นเพียงใดแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าข้างในแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี “ฟ้าใหม่” ทิวากรเปิดประตูห้องนอนออกมา เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ห้องเธอรีบดึงสติและเช็ดคราบน้ำตาทันที “ผมว่าแล้วว่าคุณต้องมา” “ฟ้ามาเก็บของ” หญิงสาวลากกระเป๋าเข้าไปที่ห้องแต่งตัวทันที “ไม่เอาหน่า” เขาเดินเข้ามาสวมกอดนภาภัสจากด้านหลังอย่างใจเย็น “กี่ครั้งแล้ว ทำแบบนี้กี่ครั้งแล้ว” เธอถามด้วยเสียงสะอื้น “ครั้งเดียวครับ ผมขอโทษนะฟ้าเมื่อคืนคือครั้งแรกที่พลาดไป ผมเมามากจริงๆ” “เมา?” เธอผละออกทันทีก่อนจ
เมื่อราวินตื่นขึ้นก็พบว่าคนข้างกายได้หายไปแล้ว เขารีบพรวดพราดออกมาจากห้องในขณะที่ท่อนบนยังเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าขนหนูห่อหุ้มร่างกายท่อนล่างเอาไว้แต่ก็ไม่เจอใครนอกจากป้าจิตที่เตรียมมื้อเช้าอยู่ที่โต๊ะอาหาร“ป้าว่าแล้วว่าคุณผู้หญิงรีบออกไปทำไม ป้าทักเธอก็ทำสีหน้าตกใจด้วยค่ะ”“นภาภัสครับ เธอชื่อนภาภัส”“ค่ะ คุณหนูทำอะไรก็ทำให้มันถูกต้องนะคะ”“ครับ..”เขากลับเข้ามาในห้องพร้อมกดโทรไปหาเลขาสาวแต่ก็ถูกตัดสายทิ้งเป็นคำตอบ ราวินรู้สึกงุนงงนิดหน่อยนึกเสียดายที่วันนี้คือวันหยุดถ้าจะคุยกันคงต้องรอเจอกันที่บริษัทพรุ่งนี้เช้าวันรุ่งขึ้นเขารีบขับรถหรูสีดำโชว์โลโก้ห่วงคล้องกันสี่ห่วงเหยียบจนมิดไมล์เพื่อไปบริษัท ในใจร้อนรุ่มเพราะอยากจะรู้ว่าเหตุใดเธอจึงหายเงียบไป“ฉันขอลาออกค่ะ”“ผมไม่เข้าใจ”“ตามนี้เลยค่ะ” นภาภัสเลื่อนซองจดหมายสีขาวมาให้ประธานหนุ่ม“ทำไมล่ะ?”“ขอไม่ตอบนะคะเหตุผลส่วนตัว ช่วยเซ็นอนุมัติให้ด้วยค่ะ” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นเตรียมเดินออกนอกห้อง“เพราะเรื่องคืนนั้นเหรอ?”“คืนไหนคะ?”“นภาภัส”“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันแค่เผลอตัวไปไม่ได้ตั้งใจ”“ได้! ถ้าคุณต้องการแบบนี้ผมจะเซ็นใบลาออกให้”“ขอบคุณที่กรุณาค่
“ผมเซ็นเอกสารหมดแล้วนะที่รัก”“ท่านประธาน! เดี๋ยวก็มีคนมาได้ยินหรอกค่ะ”“ใครจะมาได้ยินในห้องมีแค่ผมกับคุณ”“ฉันบอกว่ายังไงคะ? อยู่บริษัทเราต้องสวมบทบาทเจ้านายกับลูกน้องนะ”“ผมอยากเลิกงานเร็วๆ จัง อยากกอดคุณจะแย่” ราวินตบลงที่ตักของตัวเองก่อนจะอ้าแขนอ้อนนภาภัสเลขาสาวส่ายหัวให้กับความเอาแต่ใจแต่ก็เลือกที่จะเดินเข้าไปนั่งบนตักให้อีกฝ่ายกอดเติมพลัง“แค่นี้ก็มีแรงไปประชุมละ”‘ก๊อกๆๆ’ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทั้งคู่สะดุ้งโหยงก่อนจะรีบแยกออกจากกัน“เชิญครับ” ราวินจัดสูทและเนกไทให้เป็นระเบียบก่อนจะพูดอนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามา“ขอตัวก่อนนะคะ” เธอสวมบทบาทเลขาสาวหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะของราวินเดินออกมาทันที“บอสคะแผนการตลาดของทีมBเหมือนจะมีปัญหานะคะ” สาวิกา รุ่นน้องที่ไม่ค่อยถูกชะตากับนภาภัสตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ดันได้มาร่วมงานกันเดินถือแฟ้มเอกสารเข้ามาหาประธานหนุ่มในห้องเหมือนรู้จังหวะ“อ๊ะพี่ฟ้า ไม่ทักทายกันเลยนะคะ” พนักงานบัญชีสาวในชุดกระโปรงสั้นรัดรูปหันมาถามเมื่อเห็นหญิงสาวเดินสวนไปอย่างเมินเฉย“ว่าไงจ๊ะน้องสา”“วันนี้สีลิปสติกแก่ไปนิดนะคะ” พูดจบก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะประธานหนุ่ม
“เฮ้อ วันนี้เราเสี่ยงกันมากเลยนะคะ” นภาภัสทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยล้า“เอาหน่า น่าสนุกดีออก” ราวินเดินมานั่งลงข้างๆ พร้อมจับหัวแฟนสาวให้ซบอิงมาที่ไหล่“สนุกกับผีน่ะสิ ฉันซีเรียสนะคุณ”“งั้นคืนนี้ให้ผมกลับไปนอนที่บ้านมั้ย พรุ่งนี้เราก็แยกย้ายกันเข้าบริษัท”“เอางั้นก็ได้ค่ะ ฉันว่าช่วงนี้เราระวังตัวกันหน่อยดีกว่า”“ได้ครับ งั้นผมกลับเลยดีกว่าคุณจะได้พักผ่อน”“ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ”“ผมก็ต้องเข้าใจความรู้สึกแฟนตัวเองสิ”“งั้นวันนี้ฉันไม่ลงไปส่งนะ ปวดข้อเท้ามากเลย”“ไหนขอผมดูหน่อยสิ”“อ๊ะ!” ราวินลงไปนั่งที่พื้นก่อนจะยกเท้าของแฟนสาวขึ้นมาวางไว้บนเข่าและนวดอย่างเบามือ“เจ็บมั้ย”“นิดนึงค่ะ”“ถ้าพรุ่งนี้ไม่ดีขึ้นคุณลาได้นะ”“จะบ้าเหรอคุณ แค่ข้อเท้าพลิก”“นั่นแหละ ถ้าอยากไปหาหมอบอกนะผมพาไป”“ขอบคุณนะคะ”“ขอบคุณผมบ่อยไปแล้วนะ เปลี่ยนเป็นบอกรักแทนได้มั้ย”“พอเลยๆ กลับได้แล้วค่ะจะได้พักผ่อน”นภาภัสดึงเท้ากลับมาก่อนจะพยุงให้ราวินลุกขึ้นและเดินไปส่งที่ประตู ทั้งสองจูบลากันเพราะนี่เป็นคืนแรกที่เขาต้องนอนแยกกันตั้งแต่ที่เริ่มคบกันเป็นแฟน‘ตือ~อ ดึ่งง’ เสียงกดรหัสประตูที่หน้าห้องก่อนจะตามมาด้วยเส
“สวัสดีค่ะพี่ฟ้า” เสียงพนักงานในบริษัทเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นเลขาสาวก้าวออกมาจากลิฟต์“สวัสดีจ้า วันนี้แต่งตัวสวยนะเนี่ย”“แหมพี่ฟ้าก็” พนักงานสาวยิ้มกริ่มอย่างพอใจ“คืนนั้นพี่ฟ้าหายไปไหนเหรอคะ” สาวิกาที่นั่งอยู่อีกฝั่งเอ่ยทักขึ้น“จ้ะ?”“คืนนั้นเหมือนเห็นพี่ฟ้าออกจากงานไปกับใครสักคน แฟนใหม่เหรอคะ?”“เอ่อ..”“นี่ยัยสาแซวอะไรก็เกรงใจพี่เขาหน่อย พี่ฟ้าเขาพึ่งเลิกกับแฟนที่คบมาตั้งนานนะ”“นานนี่กี่ปีเหรอ ห้า หก หรือเจ็ด.. เห็นว่าวันครบรอบด้วยนี่คะ” สาวิกาทำหน้าตาไขสือพร้อมยกยิ้มมุมปาก“ข้อมูลเราก็แน่นเหมือนกันนะ คงดีถ้าตอนทำงานเธอเป๊ะแบบนี้บ้าง” นภาภัสตอบโต้จากรอยยิ้มแปรเปลี่ยนเป็นการชักสีหน้าทันทีเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากโต๊ะรอบข้าง“พี่ขอตัวก่อนนนะ พอดีมีเอกสารต้องจัดการ” นภาภัสยิ้มส่งท้ายก่อนจะเดินถือแฟ้มเอกสารในมือไปทางโต๊ะทำงานของตัวเองที่ถูกจัดวางอยู่ตรงหน้าห้องของประธานทิ้งระยะห่างกันไม่นานประธานหนุ่มที่ขึ้นลิฟต์ตามมาที่หลังก็เดินเข้าไปยังห้องทำงานก่อนจะกดเรียกเลขาส่วนตัวเข้าไปในห้อง“มอนิ่งครับที่รัก”“คุณวินคะวันนั้นที่เรากลับด้วยกันมีพนักงานเห็นด้วยค่ะ เกือบไปแล้วมั้ย
“ผมเซ็นเอกสารหมดแล้วนะที่รัก”“ท่านประธาน! เดี๋ยวก็มีคนมาได้ยินหรอกค่ะ”“ใครจะมาได้ยินในห้องมีแค่ผมกับคุณ”“ฉันบอกว่ายังไงคะ? อยู่บริษัทเราต้องสวมบทบาทเจ้านายกับลูกน้องนะ”“ผมอยากเลิกงานเร็วๆ จัง อยากกอดคุณจะแย่” ราวินตบลงที่ตักของตัวเองก่อนจะอ้าแขนอ้อนนภาภัสเลขาสาวส่ายหัวให้กับความเอาแต่ใจแต่ก็เลือกที่จะเดินเข้าไปนั่งบนตักให้อีกฝ่ายกอดเติมพลัง“แค่นี้ก็มีแรงไปประชุมละ”‘ก๊อกๆๆ’ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทั้งคู่สะดุ้งโหยงก่อนจะรีบแยกออกจากกัน“เชิญครับ” ราวินจัดสูทและเนกไทให้เป็นระเบียบก่อนจะพูดอนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามา“ขอตัวก่อนนะคะ” เธอสวมบทบาทเลขาสาวหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะของราวินเดินออกมาทันที“บอสคะแผนการตลาดของทีมBเหมือนจะมีปัญหานะคะ” สาวิกา รุ่นน้องที่ไม่ค่อยถูกชะตากับนภาภัสตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ดันได้มาร่วมงานกันเดินถือแฟ้มเอกสารเข้ามาหาประธานหนุ่มในห้องเหมือนรู้จังหวะ“อ๊ะพี่ฟ้า ไม่ทักทายกันเลยนะคะ” พนักงานบัญชีสาวในชุดกระโปรงสั้นรัดรูปหันมาถามเมื่อเห็นหญิงสาวเดินสวนไปอย่างเมินเฉย“ว่าไงจ๊ะน้องสา”“วันนี้สีลิปสติกแก่ไปนิดนะคะ” พูดจบก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะประธานหนุ่ม
เมื่อราวินตื่นขึ้นก็พบว่าคนข้างกายได้หายไปแล้ว เขารีบพรวดพราดออกมาจากห้องในขณะที่ท่อนบนยังเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าขนหนูห่อหุ้มร่างกายท่อนล่างเอาไว้แต่ก็ไม่เจอใครนอกจากป้าจิตที่เตรียมมื้อเช้าอยู่ที่โต๊ะอาหาร“ป้าว่าแล้วว่าคุณผู้หญิงรีบออกไปทำไม ป้าทักเธอก็ทำสีหน้าตกใจด้วยค่ะ”“นภาภัสครับ เธอชื่อนภาภัส”“ค่ะ คุณหนูทำอะไรก็ทำให้มันถูกต้องนะคะ”“ครับ..”เขากลับเข้ามาในห้องพร้อมกดโทรไปหาเลขาสาวแต่ก็ถูกตัดสายทิ้งเป็นคำตอบ ราวินรู้สึกงุนงงนิดหน่อยนึกเสียดายที่วันนี้คือวันหยุดถ้าจะคุยกันคงต้องรอเจอกันที่บริษัทพรุ่งนี้เช้าวันรุ่งขึ้นเขารีบขับรถหรูสีดำโชว์โลโก้ห่วงคล้องกันสี่ห่วงเหยียบจนมิดไมล์เพื่อไปบริษัท ในใจร้อนรุ่มเพราะอยากจะรู้ว่าเหตุใดเธอจึงหายเงียบไป“ฉันขอลาออกค่ะ”“ผมไม่เข้าใจ”“ตามนี้เลยค่ะ” นภาภัสเลื่อนซองจดหมายสีขาวมาให้ประธานหนุ่ม“ทำไมล่ะ?”“ขอไม่ตอบนะคะเหตุผลส่วนตัว ช่วยเซ็นอนุมัติให้ด้วยค่ะ” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นเตรียมเดินออกนอกห้อง“เพราะเรื่องคืนนั้นเหรอ?”“คืนไหนคะ?”“นภาภัส”“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันแค่เผลอตัวไปไม่ได้ตั้งใจ”“ได้! ถ้าคุณต้องการแบบนี้ผมจะเซ็นใบลาออกให้”“ขอบคุณที่กรุณาค่
หลังจากนอนคิดมาทั้งวันจนตะวันลับฟ้านภาภัสก็ตระหนักได้ว่าควรจะไปเก็บของของตัวเองในห้องของทิวากรก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายขนมาคืนเธอเองให้เสียเกียรติ เธอสิต้องเป็นคนทิ้งเขา เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยเดรสรัดรูปสีแดงฉ่าและทาปากด้วยสีเฉดเดียวกันก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางใบโตไปที่คอนโดหรูอีกครั้ง เธอไม่ได้คิดที่จะกดกริ่งเช่นเคยแต่เลือกจะใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าไปเลย ในใจคิดหากเจอนังผู้หญิงคนเมื่อคืนจะขอด่าให้สะใจก่อนกลับแต่สิ่งแรกที่พบคือช่อดอกไม้ที่เธอเลือกเองกับมือถูกทิ้งอยู่ในถังขยะ น้ำตาค่อยๆ ไหลรินอาบแก้ม ต่อให้ในใจแค้นเพียงใดแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าข้างในแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี “ฟ้าใหม่” ทิวากรเปิดประตูห้องนอนออกมา เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ห้องเธอรีบดึงสติและเช็ดคราบน้ำตาทันที “ผมว่าแล้วว่าคุณต้องมา” “ฟ้ามาเก็บของ” หญิงสาวลากกระเป๋าเข้าไปที่ห้องแต่งตัวทันที “ไม่เอาหน่า” เขาเดินเข้ามาสวมกอดนภาภัสจากด้านหลังอย่างใจเย็น “กี่ครั้งแล้ว ทำแบบนี้กี่ครั้งแล้ว” เธอถามด้วยเสียงสะอื้น “ครั้งเดียวครับ ผมขอโทษนะฟ้าเมื่อคืนคือครั้งแรกที่พลาดไป ผมเมามากจริงๆ” “เมา?” เธอผละออกทันทีก่อนจ
วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นนี้สถานที่อย่างร้านบาร์หรูใจกลางเมืองเนืองแน่นไปด้วยหนุ่มสาวนักท่องราตรี ทุกคนต่างเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศภายในร้านต่างจากหญิงสาวที่นั่งเหม่อลอยในมือกุมแก้วไวน์อยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ แม้เพลงจะบรรเลงเร้าใจเพียงใดก็ไม่สามารถเย้ายวนใจให้เธอเพลิดเพลินไปกับมันได้ ในใจร้อนรุ่มไปด้วยไฟแค้นและฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงสั่งบาริสต้าให้เสิร์ฟแก้วที่แรงที่สุดในร้านมาให้ เธออยากเมาจนลืมว่าความรู้สึกเสียใจนี้มันเจ็บเพียงใด“มาคนเดียวเหรอครับ”“ค่ะ” นภาภัสใช้นิ้วเรียวปาดน้ำตาที่แก้มออกเมื่อเห็นว่ามีหนุ่มหล่อเดินถือแก้วมานั่งข้างๆ“แฟนไม่มาด้วยเหรอครับ”“อืม..ไม่มีค่ะ” เธอยิ้มก่อนจะหยิบแก้วขึ้นมาดื่มจนหมดแล้วสั่งเพิ่ม“แปลกจัง”“คะ?”“สวยขนาดนี้ไม่มีแฟนได้ไง” ชายหนุ่มในชุดเชิ้ตสีดำสนิทปลดกระดุมเม็ดบนเผยให้เห็นร่องอกที่เกิดจากการออกกำลังกายอย่างหนัก“นั่นน่ะสิคะ” หญิงสาวรู้จุดประสงค์ทันที และเธอเลือกที่จะเล่นด้วย“เช็กบิลเลยมั้ยครับ ไปต่อที่ห้องผมดีกว่ามีไวน์รสเลิศอยากให้คุณลอง” เขาเข้ามากระซิบที่ข้างหูก่อนจะยื่นบัตรเครติดให้บาริสต้าจัดการค่าไวน์ของเธอให้เสร็จสับที่ผ่
“ขอโทษนะคะกร ฟ้าขอเลื่อนนัดเป็นพรุ่งนี้แทนนะคะ”“ไม่เป็นไรที่รัก งานคุณยุ่งผมเข้าใจ”“ขอบคุณที่เข้าใจกันนะ สุขสันต์วันครบรอบ7ปีนะคะ”“เอ่อ..ฟ้าใหม่”“คะ?”“ผมรักคุณนะ”“ฟ้าก็รักคุณค่ะกร” ใบหน้าเรียวสวยแต้มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ยินปลายสายบอกคำหวาน เขาตอบกลับอย่างอ่อนโยนก่อนจะวางสายจากกัน“ช่อดอกไม้ของคุณผู้หญิงได้แล้วค่ะ” พนักงานร้านดอกไม้เอ่ยขึ้นพร้อมยกช่อดอกลิลลี่สีขาวช่อใหญ่ห่อด้วยกระดาษสีชมพูอ่อนผูกโบด้วยริบบิ้นสีทองอย่างประณีต“ช่วยเขียนการ์ดให้หน่อยนะคะ เอาเป็นตามโน๊ตนี้เลยค่ะ” เธอยื่นกระดาษโน๊ตที่ถูกพับยู่ยี่ให้พนักงาน‘Happy Anniversary 7th Always love you naka Korn’วันนี้เป็นวันครบรอบ 7 ปีของเธอกับแฟนหนุ่ม หญิงสาวที่งานยุ่งอ้างว่าวันนี้ไปตามนัดไม่ได้แล้วเพราะติดงานด่วน แต่ความจริงเธอต้องการไปเซอร์ไพรส์เขาต่างหาก ไหนๆ พรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดเธอจึงตั้งใจจะใช้เวลาช่วงวันหยุดกับคนที่รักเพื่อฉลองช่วงเวลาสำคัญ:ไม่นานนักนภาภัสก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องบนคอนโดหรูตั้งอยู่ในใจกลางเมือง เธอคิดในใจว่าถ้าแอบเข้าไปเงียบๆ คงจะทำอีกฝ่ายรู้สึกแปลกใจไม่น้อยจึงไม่ได้กดกริ่งเรียกและถือวิสาส