วันนี้พิริสาอารมณ์ดีทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น เพราะวันนี้ดอกไม้ช่อโตที่ส่งมาจากเซรเกย์ไม่มีให้เธอต้องรับแล้ว จะว่าไปชายหนุ่มก็ความอดทนไม่สูงอย่างที่คิดเอาไว้เสียเลย เทียวส่งดอกไม้มาจีบเธอเพียงแค่เดือนกว่าๆ ก็ถอดใจเสียแล้ว
แต่ก็ดี เพราะเธอก็ไม่ได้คิดที่จะเปิดใจให้เซรเกย์อยู่แล้ว จากท่าทางของเขาที่เธอเจอวันนั้นมันดูเจ้าเล่ห์เป็นพิษต่อผู้หญิงอย่างมาก เธอเชื่อว่าผู้ชายในตอนที่ยังไม่ได้อะไรๆ ที่ต้องการก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ได้มา สุดท้ายพอเบื่อก็ทิ้งๆ ขว้างๆ
ไม่ต้องดูจากใคร ดูจากแม่ของเธอที่ถูกพ่อของเธอทิ้งอย่างไม่เหลือเยื่อใยจนตรอมใจ ก่อนหน้านี้เธอคิดโกรธเคืองคนเป็นพ่อที่ไม่เคยเห็นหน้า ทว่าก็ไม่ได้อยากเอาอดีตมาบั่นทอนจิตใจ ทั้งยังมีใจคิดอยากที่จะเจอหน้าพ่อของเธอสักครั้ง อยากจะถามเหตุผลว่าทำแบบนั้นกับแม่ของเธอทำไม แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหรือเปล่า
“ทำไมวันนี้ดูอารมณ์ดี” รามิลเอ่ยถามเลขาของตนที่นั่งทำงานหน้าระรื่นผิดแปลกไปจากทุกวัน
“วันนี้อากาศดีน่ะค่ะก็เลยอารมณ์ดี”
“นึกว่ามีนัดกับเพื่อนผมซะอีก” วันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนตั้งแต่เช้าจรดเย็น ไม่มีทางที่พิริสาจะอารมณ์ดีได้เพราะอากาศแน่นอน ไม่รู้หรอกว่าเพื่อนของเขากับพิริสาดำเนินความสัมพันธ์กันไปถึงขั้นไหน ให้เดาก็คงจะเป็นช่วงเวลาที่เซรเกย์กำลังทำคะแนน แล้ววันนี้ที่พิริสาก็อารมณ์ดีก็น่าจะรู้ว่าเซรเกย์จะเข้ามาหาที่นี่แน่นอน
“นัดใครคะ ริสาไม่มีนัดกับใครนะคะ”
“เอ่อ... ผมแค่แซวเล่นครับ” รามิลเริ่มอึกอัก พอจะรู้แล้วว่าเลขาของเขาไม่ได้รู้เรื่องที่เซรเกย์จะเข้ามาที่นี่ ทว่าไม่กี่วินาทีต่อจากนั้นเซรเกย์ก็เปิดประตูเข้ามา เดินนำหน้าหญิงสาวหน้าตาน่ารักน่าชังพร้อมกับดอกไม้ช่อโต
“ว่าไง” เซรเกย์มาถึงก็ส่งช่อกุหลายสีแดงให้กับมือของพิริสา
สาวเจ้ารับด้วยความไม่เต็มใจ หากไม่อยู่ต่อหน้ารามิลมีหวังเธอได้ต่อว่าเขาชุดใหญ่ที่ตามตื๊อเธอไม่เลิกแน่ เค้าจะมานี่สินะเจ้านายเธอถึงหาว่าเธอมีนัด ดูซิ เขาเอาแต่ส่งดอกไม้ให้เธอจนคนอื่นเข้าใจผิดไปหมดแล้ว เธอไม่ได้คิดจะเปิดใจให้เขาสักนิด เพราะหัวใจของเธอไปอยู่ที่เจ้านายของเธอแทบจะหมดแล้ว
“พี่มิล สวัสดีค่ะ” มนต์ธารา หญิงสาวลูกครึ่งหน้าตาน่ารักน่าชัง น้องสาวของเซรเกย์ เธอเดินเข้ามายืนข้างกับพี่ชายก่อนจะยกมือสวัสดีรามิลพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้คู่หมั้นของเธอและเลขาสาว
“มนต์กลับจากลอนดอนพอดี เลยชวนมาด้วย นั่นริสาเป็นเลขาของมิล”
“สวยน่ารักเหมือนที่พี่ใหญ่บอกเลยค่ะ” มนต์ธารามองหน้าพิริสาด้วยสายตามีเลศนัยก่อนจะหันไปกระซิบกับเซรเกย์ ทว่าเสียงกระซิบของเธอก็ไม่ได้เบาจนคนอื่นได้ยิน
พิริสาถูกชมต่อหน้าได้แต่ยิ้มเขิน คนชมก็ดูน่ารักน่าชังราวกับตุ๊กตาไม่แพ้กัน ให้เดาคงเป็นน้องสาวเซรเกย์เพราะหน้าตาละม้ายคล้ายกันหลายอย่าง แต่สาวเจ้าก็เหมือนจะเป็นลูกครึ่ง
“นี่มนต์ น้องสาวต่างแม่ผม เธอเป็นคู่หมั้นกับมิล”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณริสา”
สิ้นเสียงของมนต์ธารา พิริสาก็หน้าชาวาบ ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ารามิลมีคู่หมั้นแล้ว “เอ่อ...ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”
“เราไปทานข้าวพร้อมกันเลยไหม”
“เอ่อ..วันนี้ต้องขอโทษด้วยค่ะคุณมิล ริสามีนัดแล้วค่ะ” พิริสาที่กำลังตกใจกับเรื่องที่เพิ่งรับรู้เธอก็ตอบปฏิเสธด้วยน้ำเสียงละล่ำละลัก
“กับเพื่อนผมใช่ไหมล่ะ” รามิลรู้อยู่แล้วว่าเลขาของเขาจะต้องปฏิเสธ ไม่แปลกที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันจะอยากพูดคุยกันสองต่อสอง เขาเข้าใจทุกอย่างดี
“ใช่” เซรเกย์หรือจะดูไม่ออกว่าตอนนี้พิริสารู้สึกอึดอัดเรื่องอะไร เขาชิงตอบแทนหญิงสาว ยิ่งเห็นเธอผิดหวัง เขาก็จะใช้โอกาสนี้ทำคะแนนกับเธอ
“โอเค งั้นฉันไปกับมนต์สองคนก็ได้” เป็นรามิลที่เอ่ยบทสรุปออกมาจนพิริสาโล่งใจ คราวนี้ต้องยกความดีความชอบให้เซรเกย์ถึงจะต้องลำบากใจทำทีออกไปกับเขาก็เถอะ
พิริสานั่งรถออกมากับเซรเกย์ได้ไม่กี่นาทีฝนเม็ดใหญ่ก็ตกลงมาอย่างหนักจนมองทางแทบไม่ค่อยจะเห็น เธอเอาแต่นั่งเหม่อลอยออกไปนอกกระจกคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยและไม่ได้สนใจที่จถามว่าเซรเกย์กำลังจะพาเธอไปที่ไหน เพราะยังคงผิดหวังกับเรื่องที่เพิ่งรับรู้มาไม่หาย
“อกหักเหรอครับ” เซรเกย์เอ่ยพูดกับหญิงสาวขณะที่สายตายังมองตรงไปยังทางข้างหน้า เขาสังเกตอาการของเธอตั้งแต่ที่แนะนำมนต์ธาราให้เธอรู้จักในฐานะคู่หมั้นของรามิลแล้ว สีหน้าแววตาของพิริสาฉายความผิดหวังให้เขาได้เห็นชัดเจน อีกทั้งหากเธอยังปกติดีตอนนี้คงขอแยกกันกลับคนละทางกับเขาแล้ว
“พูดอะไรของคุณ”
“สายตาคุณมันฟ้อง ชอบเจ้านายตัวเองมานานแค่ไหน”
“ฉันไม่ได้ชอบเค้าสักหน่อย ที่ไม่ได้ไปทานข้าวกับพวกเค้าก็เพราะไม่อยากเป็นก้างขวางคอใคร ไม่ใช่ไม่อยากเห็นภาพบาดตา”
“ร้อนตัวจังเลย”
“นี่! ก็บอกว่าไม่ได้ชอบไง”
“ไปดื่มกันไหม”
“ไม่อะ”
สิ้นเสียงปฏิเสธรถคันหรูก็จอดเทียบเข้าข้างทาง จากนั้นเซรเกย์ก็ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเปิดประตูลงจากรถไปในทันที
“อ้าว แล้วไม่กลัวเปียกรึไงคะ” พิริสาตะโกนตามหลังคนที่วิ่งฝ่าสายฝนออกไป เธอเริ่มมีสีหน้าไม่สบอารมณ์เพราะไม่รู้ว่าเซรเกย์กำลังจะทำอะไรของเขา
พิริสานั่งกอดอกหน้าบึ้งตึงไม่นานนักเซรเกย์ที่ตัวเปียกชุ่มก็กลับมาพร้อมกับไวน์แดงสี่ขวดใหญ่ที่เขาเพิ่งจะซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ เขากลับมานั่งในรถได้ก็รีบถอดเสื้อถอดกางเกงจนเหลือเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียวในขณะที่หญิงสาวที่เบาะข้างคนขับกำลังนั่งมองเขาตาค้าง
“จะทำอะไรของคุณเนี่ย เอาผ้าฉันไปคลุม” รีบความผ้าพันคอในกระเป๋าไปคลุมแผงกล้ามกำยำของเขาทันที เขาทำเธอหน้าร้อนผ่าวทั้งที่อุณหภูมิในรถตอนนี้เย็นยะเยือก
“หวั่นไหวกับกล้ามผมเหรอ” เซรเกรย์ขยับผ้าของเธอให้ปิดร่างกายของเขาให้ได้มากที่สุด ทั้งยังไม่วายเอ่ยหยอกคนที่หน้าเห่อแดง
“ถ้าจะตอบแบบคนดีก็กลัวคุณหนาว แต่ตอบแบบไม่ดีก็ไม่อยากเห็นค่ะ” เธอคว้าเอาขวดไวน์แดงมาถือเอาไว้ในมือแก้เขิน
“ไหนบอกไม่อยากดื่ม”
“ก็ไม่อยากขัดน้ำใจคุณ”
“อกหักก็ให้ผมดามใจได้นะครับ ผมยังไม่เข้าใจว่าผมมีอะไรเทียบรามิลไม่ได้ตรงไหน” พูดจบก็ดึงขวดไวน์จากมือหญิงสาวไปถือ จากนั้นก็ควานหาที่เปิดฝาขวดไวน์ข้างประตูรถขึ้นมาเปิดขวดไวน์
“อุปกรณ์คุณนี่พร้อมจังเลยนะคะ”
“อ้าว ก็ผมมันพวกชอบดื่ม พกของพวกนี้ไว้ก็สะดวกดี แล้วที่ผมถามว่าผมมีอะไรเทียบรามิลไม่ได้ จะตอบได้หรือยังครับ”
“ยอมรับว่าคุณน่ะดูดี ถึงแม้ว่าจะมีหนวดเครารุงรังก็เถอะ... แต่ว่าคุณดูเจ้าเล่ห์ไม่จริงใจ” สาวเจ้าเอ่ยออกไปตามตรงก่อนจะดึงขวดไวน์จากมือชายหนุ่มที่เปิดเรียบร้อยแล้วขึ้นมากระดกดื่มอึกใหญ่“อืม ก็เป็นเหตุผลที่เข้าใจได้” เซรเกย์พนักหน้าน้อยๆ เขาก็มักจะถูกสาวๆ มองแบบนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พิริสาจะเข้าใจเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ทว่าคนที่เคยคบกับเขาก่อนหน้าต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามองเขาผิดไป เพราะเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้อย่างที่คนภายนอกมอง กลับเป็นฝ่ายที่ถูกผู้หญิงทิ้งเสียมากกว่าด้วยซ้ำ“ฟังแค่นี้ก็รู้ว่าคุณตัดสินคนจากเปลือกนอก ยังไม่รู้นิสัยผมดีก็ว่าผมเจ้าเล่ห์แล้ว”“ก็นี่ไง คุณกำลังเจ้าเล่ห์ท้าทายฉันอยู่ จะให้ฉันลองคบคุณดูใช่ไหมล่ะ”“ก็ได้ไหมล่ะครับ” ยื่นใบหน้าไปกระซิบข้างใบหูขาว จนหญิงสาวต้องเอียงตัวหนี“อย่ามายั่วฉันค่ะ ฉันรับมือไหว” เธอจะไม่ยอมหลงกลของผู้ชายง่ายๆ แม้จะไม่เคยมีแฟนมาก่อน แต่ก็รู้ว่าช่วงโปรโมชั่นของผู้ชายที่ยังไม่ได้ผู้หญิงมาเป็นของเล่นมันเป็นยังไง เห็นเหล่าเพื่อนๆ สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเสียน้ำตากันมานักต่อนักแล้ว“ถ้าอยากลืมรามิลเร็วๆ ก็คบกับผม ให้โอกาสผม รับรองว่าคุณจะไม่ผิด
“เป็นพี่ชายริสาเหรอคะ หมายถึงคือยังไงคะ” เมื่อได้ฟังความคร่าวๆ พิริสาก็อานออกมาด้วยสีหน้าท่าทางตกใจปนฉงนในใจ หากฟาเบียนเป็นพี่ชายของเธอ เท่ากับว่าพ่อของเธอก็คือหัวหน้ามาเฟียชาวอิตาลีอย่างงั้นเหรอเซรเกย์นั่งฟังฟาเบียนอธิบายเขาก็ได้แต่นั่งเงียบ แสดงว่าแม่เลี้ยงที่ฟาเบียนคาใจมาตลอดว่าเธอยังไม่ตายก็คือแม่ของพิริสา เขาชักอยากจะรู้แล้วสิว่าทำไมแม่ของพิริสาถึงคิดว่าพ่อของฟาเบียนทิ้งเธอไป“ตอนนั้นดามิล่าเลขาของคุณพ่อไม่ยอมบอกคุณแม่ว่าคุณพ่อบาดเจ็บหนักจากการถูกลอบสังหาร ดามิล่าใช้โอกาสตอนที่คุณพ่อป่วยบอกกับคุณแม่ว่าคุณพ่อไปแต่งงานและมีครอบครัวใหม่ และไล่ให้คุณแม่ออกไปจากชีวิตคุณพ่อถ้าไม่อยากเจ็บปวด หลังจากคุณพ่อรักษาตัวอยู่ร่วมสามเดือน กลับมาก็ไม่เจอกับคุณแม่ เจอเพียงหลักฐานที่ดามิล่าเอามาให้ แล้วบอกว่าคุณแม่หนีไปกับชู้แล้วก็หายสาบสูญ เธอจัดฉากทุกอย่างอย่างแนบเนียนจนคุณพ่อต้องป่วยใจอีกพักใหญ่กว่าจะกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ หลังจากนั้นดามิล่าก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นภรรยาคุณพ่อ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถเอาหัวใจของคุณพ่อไปได้”“แล้วคุณฟาเบียนรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“พี่เพิ่งรู้เมื่อไม่นานม
“ค่ะ เราจะไม่จากกันไปอีกแล้ว ต่อไปนี้โรสจะดูแลคุณเองนะคะ”พิริสาและฟาเบียนที่ยืนอยู่มุมห้องต่างก็ยืนปาดน้ำตา ซาบซึ้งในความรักความโหยหาของทั้งสอง“มาหาพ่อเราสิ”สิ้นเสียงเรียกของรสสุคน พิริสาก็เดินเข้ามายืนยิ้มทั้งน้ำต่อหน้าพ่อของเธอก่อนจะก้มกราบเขา“มาให้พ่อดูหน้าใกล้ๆ หน่อยสิลูก”พิริสาเดินเข้ามายืนข้างคนเป็นแม่ ให้พ่อได้ดูหน้าตาขอวงเธอชัดๆ และเอื้อมมือไปจับมือของพ่อ วินาทีนั้นเธอได้แต่ปล่อยน้ำตาของความสุขให้ไหลออกมาอย่างเดียวเพราะดีใจจนพูดอะไรไม่ออกพ่อที่เธอเคยอยากจะเห็นหน้าพ่อที่เธอคิดว่าอยากจะมีเหมือนกับคนอื่นๆ ตอนนี้พ่อของเธออยู่ตรงหน้านี้แล้ว อยู่ให้เธอได้สัมผัส ได้พูดคุยตรงนี้แล้วดันเต้นยกมือปาดน้ำตาให้ลูกสาว “สวยน่ารักจริงๆ ลูกพ่อ” ไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอเขาก็มั่นใจว่าพิริสาเป็นลูกสาวของเขาร้อยเปอร์เซ็น เพราะใบหน้าสวยหวานที่มีลักยิ้มทั้งสองข้าง เหมือนกับแม่ของเขาสมัยสาวๆ ไม่มีผิด“พ่อขอกอดได้ไหมลูก”พิริสาพยักหน้าแล้วโผเข้าไปกอดพ่อของเธอตามที่ถูกร้องขอทันที เธอร้องให้คาอ้อมอกของคนเป็นพ่อพักใหญ่ บรรยากาศในห้องของดันเต้อบอวลไปด้วยความรักความคิดถึงเมื่อพิริสาได้ทำความคุ้นเคยกับคน
วาดิมยื่นกล่องของขวัญตรงหน้ากลิ่นชวาขณะที่เธอกำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจก“ผมให้คุณ”“อะไรคะ” สาวเจ้ารีบเก็บหวีแปรงเข้าที่จากนั้นก็บรรจงแกะของขวัญที่วาดิมตั้งใจห่อมาให้ และแล้วเธอก็ได้เห็นของที่อยู่ด้านใน เป็นคีย์การ์ดกุญแจบ้านพร้อมโฉนดที่ดินและรูปถ่ายบ้านหลังใหญ่สีขาวอยู่ติดริมชายหาด“ให้ฉันเหรอคะ”“ครับ”กลิ่นชวาวางของทุกอย่างในมือได้เธอก็รีบลุกขึ้นยืนโผเข้ากอดวาดิมเอาไว้แน่น“เราอาจจะยังไม่ได้ไปตอนนี้ แต่สักวันเราจะไปที่นั่นด้วยกัน”“ฉันจะรอวันนั้นนะคะ”วาดิมค่อยๆ ย่อตัวลงคุกเข่า จากนั้นก็ล้วงเอากล่องแหวนในกระเป๋ากางเกงนอนมาเปิดแล้วยื่นตรงหน้ากลิ่นชวา“แต่งงานกับผมนะครับ”“ค่ะ” เธอตอบตกลงโดยไม่คิดลังเล ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวินาทีที่ถูกเขาขอแต่งงาน เพียงแค่เขารับปากว่าจะดูแลเธอและไม่ทำให้เธอเสียใจแค่นั้นเธอก็ดีใจมากแล้ววาดิมสวมแหวนเพชรเม็ดโตที่นิ้วนางข้างซ้ายของกลิ่นชวาเรียบร้อยก็ยืนขึ้นกอดเธอเอาไว้แน่น “ถ้าผมกลับมาจากทำธุระ งานแต่งของเราจะเกิดขึ้นทันที ตกลงไหมครับ”“ค่ะ ฉันแล้วแต่คุณเลยค่ะ รีบๆ ทำธุระให้เสร็จนะคะ” คนที่ดีใจจนน้ำตาซึมเอาแต่วซุกหน้าอยู่กับอกอุ่น ไม่อยากรู้หรอกว่าธุร
“ฉันรู้ว่าถึงนายจะไม่ถูกกับพ่อ แต่นายก็ไม่ได้อยากเห็นพ่อนายถูกฆ่าตาย ถ้านายรับปากว่าจะรับตำแหน่งหัวหน้าจากฉัน ฉันจะไว้ชีวิตพ่อนาย ฉันจะให้เค้ารับโทษตามกฎหมาย”“ไม่มีใครเชื่อถือฉัน นายก็รู้” เซรเกย์รู้เรื่องแล้วว่าวาดิมหมายหมั้นให้เขารับตำแหน่งแทนตัวเองหลังจากเรื่องราวทุกอย่างจบ เรื่องนี้ที่เขาคิดหนัก พ่อของเขาฆ่าล้างตระกูลหัวหน้ามาเฟีย ส่วนเขาก็ได้ขึ้นมารับตำแหน่งทั้งที่ไม่ได้รับการยอมรับจากคนในองค์กร เขาไม่อยากเดาถึงความวุ่นวายในวันข้างหน้าเลย“พวกเค้าจะเชื่อถือนาย ตอนนี้นายมีคนรักเป็นริสา เธอเป็นทายาทของดันเต้ แล้วก็มีพี่ชายเป็นฟาเบียน ทุกคนจะเคารพนายและไม่มีใครกล้าทำร้ายพวกนาย แต่ฉันขอให้นายสัญญาว่านายจะไม่ทำร้ายพรรคพวกของฉัน จะปกครององค์กรด้วยความยุติธรรม” วาดิมคิดทุกอย่างมาดีแล้วเขาคิดว่าเซรเกย์เหมาะสมที่สุดที่จะรับตำแหน่งต่อจากเขา เขาเชื่อว่าทุกอย่างมันจะไม่เลวร้ายอย่างที่เซรเกย์กังวลไปก่อน เพราะหลังจากที่เซรเกย์หมั้นกับพิริสา ใครก็ไม่อาจต้านทานบารมีของเขาได้ และนั่นก็หมายถึงความปลอดภัยในชีวิตเซรเกย์และพิริสาด้วย“ฉันรับปากก็ได้ แต่ฉันจะรับตำแหน่งก็ต่อเมื่อนายกลับมาส่งมอบตำแหน่
“วาดิมทำทุกอย่างเพื่อคุณกับลูก เค้าหวังว่าจะใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดากับคุณ ตอนนี้เค้าทำสำเร็จแล้ว ผมหวังว่าเค้าจะกลับมาใช้ชีวิตธรรมดาอย่างที่หวังได้เร็วๆ ครับ”“เพราะแบบนี้ฉันยิ่งเสียใจมาก” กลิ่นชวาเอ่ยพูดกับเซรเกย์เสียงสั่น หากไม่ใช่เพราะเธอที่ตั้งท่าฝันอยากจะมีชีวิตอิสระวาดิมก็คงไม่มาอยู่ในสภาพนี้มนต์ธาราเดินทางมาถึงทีหลังทุกคน เมื่อสาวเจ้ามาถึงก็เห็นพี่ชายเธอนั่งคอตกอยู่หน้าห้องไอซียูก็รีบเข้าไปถามไถ่อาการของวาดิม“หมอแจ้งอาการเพิ่มเติมหรือยังคะ”เซรเกย์ส่ายหัวน้อยๆ “เมื่อกี้สัญญาณชีพวาดิมหายไป ดีที่หมอช่วยกลับมาได้” เอ่ยติดๆ ขัดๆ เหมือนมีก้อนอะไรขวางอยู่ที่ลำคอ หากเขาตัดสินใจขัดคำสั่งวาดิมแล้วตามเพื่อนของเขาไปเร็วกว่านี้อีกสักนิด วาดิมก็คงไม่เจ็บหนักเช่นตอนนี้ภาพที่เขาเห็นกลิ่นชวามีน้ำตาเป็นลมล้มพับเมื่อรู้ว่าคนรักของตัวเองสัญญาณชีพหายมันสะเทือนใจของเขาเป็นที่สุด หากวาดิมไม่รอด เท่ากับว่าเขาได้ทำให้กลิ่นชวาต้องตายทั้งเป็น“มนต์ไม่อยากจะเชื่อกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยค่ะ” มนต์ธาราอดที่จะมีน้ำตาไม่ได้ เธอรู้ว่าพ่อของเธอไม่ได้มีความรับผิดชอบเรื่องชีวิตลูกและภรรยาที่มีหลายคนเท่าไหร่นัก ทว่
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมปีกว่า ณ บ้านหลังโตริมธารน้ำตกที่วาดิมซื้อเป็นของขวัญให้กลิ่นชวาเป็นหลังแรก บ้านหลังนี้มีชีวิตชีวามากขึ้นเมื่อมีคนมาอยู่ถาวรคราแรกรอบบ้านมีแค่พื้นที่สีเขียว เมื่อกลิ่นชวาได้มาอยู่ก็เริ่มมีไม้ดอกหลากสีนานาพันธุ์ประดับอยู่รอบ้าน อีกทั้งตอนนี้ในบ้านยังมีเสียงแหลมๆ ของยัยหนูตัวกลมที่กำลังพยศคนเป็นแม่เพราะห่วงเล่นอีกด้วยยัยหนูลูกครึ่งตัวกลมวัยเก้าเดือนที่เพิ่งจะเริ่มหัดตั้งไข่ไม่ค่อยสนใจการนั่งรับประทานอาหารบนโต๊ะ ร้องงอแงอยากจะลงไปเล่นที่พื้นจนคนเป็นแม่ต้องตามใจปล่อยให้ไปที่พื้นแล้วตามป้อนข้าว“อ้ำก่อนนะคะคนเก่ง”“หึ...เยา...” เจ้าก้อนกลมส่ายหัวหงึกๆ ขณะกำลังตั้งใจหัดยืน“อ้ำอีกคำแล้วแม่จะปล่อยให้เล่นต่อค่ะ”และแล้วข้าวตุ๋นในช้อนจิ๋วก็ถูกเด็กหญิงอ้าปากงับไปจนหมด กลิ่นชวายิ้มร่า คำพูดของเธอเมื่อครู่ใช้หลอกล่อลูกน้อยได้ผลมาตลอดเวลาห่วงเล่น เธอจะปล่อยให้ลูกของเธอได้เล่นไปสักครู่หนึ่งจนลืมคำพูดของเธอ จากนั้นก็ค่อยป้อนต่อ มารยาของเธอใช้ได้กับทั้งสามีแล้วก็ลูกจริงๆหลังจากกลิ่นชวาใช้เล่ห์เหลี่ยมป้อนข้าวลูกสาสวเธอเรียบร้อยจากนั้นก็ปล่อยให้เจ้าตัวกลมได้เล่นพักใหญ่ พอเห็นว่า
My husband ปล่อยแขนสามีฉันนะ!แค่สามีบาดเจ็บจนจำเธอไม่ได้ก็เจ็บปวดพออยู่แล้ว ยังจะมารู้ว่าเขาดันไปจำได้ช่วงที่ยังรักกับแฟนเก่า หนำซ้ำยัยนั่นยังมาเกาะแกะสามีเธอไม่ห่าง อย่าหวังว่าลูกสาวมาเฟียอย่างฉันจะยอม...ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมเขาต้องมาจำเธอไม่ได้ในวันที่เธอรักเขาไปหมดหัวใจแล้วด้วย ไม่เคยอยากเสียใจเรื่องความรักสักเสี้ยววินาที หากรู้ว่าเขาจะเป็นแบบนี้ เธอไม่ตกลงให้เขาเข้ามาในชีวิตเธอแน่เขาไม่ได้อยากจำเธอไม่ได้ ไม่ได้อยากให้ตัวเองต้องมาเจอเรื่องที่น่าลำบากใจที่ต้องยังรู้สึกรักแฟนเก่าในขณะที่ตัวเองแต่งงานกับเธอไปแล้ว หากอุบัติเหตุครั้งนั้นพรากชีวิตเขาไปเลยมันก็คงดีพิริสาจะจัดการกับเรื่องที้เกิดขึ้นยังไง แล้วเซรเกย์จะกลับมาจำความรู้สึกที่มีต่อภรรยาของเขาได้หรือไม่ ในขณะที่แฟนเก่ายังเกาะแกะไม่ยอมห่าง มาเอาใจช่วยพิริสาในเรื่อง My husband ปล่อยแขนสามีฉันนะ! ได้เลยค่ะ...เริ่มเรื่องหลังจากพิริสาหมั้นหมายกับเซรเกย์จนได้แต่งงานงาน แม้เวลาที่เธอรู้จักกับมันจะเป็นเวลาแค่ปีเดียว แต่ก็ไม่มีสักครั้งที่เขาจะทำให้เธอรู้สึกว่าเธอคิดผิดที่ตัดสินใจให้โอกาสชายหนุ่มในวันที่เขาเสนอตัวขอเป็นแฟนไม่มีส
“ริสา”“สรุปว่าพวกคุณรู้ตั้งแต่แรกว่าฉันจะมีลูกไม่ได้หลังจากใช้ยาถอนพิษเหรอคะ”“ผมขอโทษริสา แต่ที่ผมไม่บอกเพราะกลัวว่าคุณจะไม่ยอมรักษาตัว ถ้าปล่อยให้พิษนั่นอยู่ในร่างกายนานๆ มันทำลายระบบประสาทหลายอย่าง”พิริสาไม่คิดจะฟังอะไรทั้งนั้น เมื่อเห็นเซรเกย์เข้ามาใกล้ เธอก็รีบวิ่งหนี หากเขาบอกเธอถึงความจริงของผลข้างเคียง วันนั้นเธอก็อาจจะทำใจยอมรับเรื่องที่จะมีลูกไม่ได้ก็ได้ แต่ตอนนี้เธอมีความหวังจนไม่อาจจะผิดหวังได้แล้ว ทำไมเรื่องมันต้องกลายมาเป็นแบบนี้ด้วย“ฮื่อ ฮือ ฮือ ฮือ...” เธอวิ่งไปไม่รู้จุดหมาย พร้อมน้ำตาพรั่งพรูและเสียงสะอึกสะอื้น เมื่อหัวใจถูกบีบรัดมากเข้าเธอก็เริ่มหูอื้อตาลาย และหมดสติไป“ริสา” เซรเกย์วิ่งไปรับร่างของพิริสาได้ทันท่วงที จากนั้นก็รีบสาวเท้าพาเธอเข้าไปให้โอเว่นดูอาการพิริสายังนอนให้หมอตรวจโดยที่น้ำตายังคงไหลไม่หยุด ทั้งยังไม่คิดที่มองหน้าทั้งหมอโอเว่นและสามีของเธอ เพราะยังโกรธเรื่องที่พวกเขาไม่ยอมบอกเธอถึงผลข้างเคียงทุกอย่างของการใช้ยาถอนพิษ ทำให้เธอต้องรู้สึกผิดหวังมากๆ ในตอนนี้“ผมว่าเรากำลังจะมีข่าวดีแล้วล่ะ” จากการที่โอเว่นได้เริ่มศึกษาแพทย์แผนจีน เขาก็พอจะจับชีพจ
ตั้งแต่มาถึงร้านสมุนไพรได้ พิริสาก็ถูกหมอจีนตรวจชีพจรอยู่พักใหญ่ เพราะไม่เคยเจอคนที่เลือดลมเดินทางแปลกๆ เช่นหญิงสาวมาก่อน“อืม...แปลกๆ” หมอสมุนไรวัยเกือบแปดสิบสีหน้าเคร่งเครียดเป็นพิเศษ ก่อนจะปล่อยมือจากชีพจรของหญิงสาวและหยิบตำราใจใต้ลิ้นชักขึ้นมาดูเซรเกย์ที่เห็นว่าได้จังหวะเขาจึงเริ่มออกอุบายที่วางแผนเอาไว้ “ผมลืมเอามือถือมาจากในรถ ริสาไปเอาให้ผมหน่อยได้ไหม”“ได้สิคะ”ให้หลังพิริสาไปได้ เซรเกย์ก็ถือโอกาสพูดคุยรายละเอียดทุกอย่างกับหมอจีน หวังว่าเขาจะเป็นที่พึ่งให้กับคนที่ลูกยากได้จริงๆ อย่างที่ริโอะได้พูดเอาไว้ทางด้านพิริสาเธอก็เอาแต่หาโทรศัพท์มือถือของเซรเกย์อยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็เจอมันก็ตกอยู่ที่ใต้เบาะที่นั่งของเขา กว่าจะกลับเข้าไปในร้านยาได้ เธอก็เห็นหมอจีนเตรียมสมุนไพรเอาไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว“หมอจัดยาให้เรียบร้อยแล้วนะริสา”“เหรอคะ ไวดีจังเลย”“คุณต้องดื่มยาต้มนี่ทุกวัน วันละสามเวลาเป็นเวลาสามเดือน”“แค่นี้จะพอเหรอคะ” ดวงตาคู่สวยเริ่มเพ่งมองไปยังห่อสมุนไพรเล็กๆ ที่ตั้งอยู่สามห่อ“แล้วผมจะส่งสมุนไพรตามไปให้ทุกครึ่งเดือน ระหว่างนี้ก็งดอาหารหมักดอง แล้วก็ต้องทานอาหารที่ทำสดใหม่เ
“ริโอะ”ขณะที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ เสียงที่แสนคุ้นหูก็ดังแว่วมาแต่ไกลทำให้ริโอะรีบหันไปยังต้นเสียงด้วยความรวดเร็ว “อ้าวคุณริสา มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ”“มานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยค่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ ริโอะทำขาหมูไว้ให้คุณริสาด้วยนะคะ”“คุณเรนบอกแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเข้าไปในบ้าน อยากคุยกับริโอะก่อน”“มีอะไรเหรอคะ”“ริโอะกำลังงอนคุณเรนอยู่ใช่ไหม”สีหน้าที่กำลังเปื้อนยิ้มเริ่มเจื่อนลง ไม่ผิดหรอกที่เรนเข้าใจเช่นนั้น แต่นั่นก็เป็นเพราะเขาสร้างข้อจำกัดให้เธอจนเธอรู้สึกอึดอัด“ฉันรู้ว่าที่คุณเรนห้ามริโอะทุกอย่างก็เพราะเป็นห่วง แล้วฉันก็รู้ว่าริโอะรู้ตัวว่าริโอะทำทุกอย่างได้ ฉันก็เลยบอกให้คุณเรนกับริโอะแก้ปัญหากันคนละครึ่งทาง”“ยังไงเหรอคะ” แววตาของริโอะในตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัย การแก้ปัญหาคนละครึ่งทางหมายความว่ายังไง“ลองคุยกับคุณเรนอีกรอบสิ” พิริสาหันหน้าไปมองเรนที่กำลังยืนดูเธอและริโอะอยู่ห่างๆ“ฉันขอตัวไปรอในบ้านนะ”หลังจากพิริสาลุกออกไป เรนก็เข้ามานั่งแทนที่ของเธอ เพราะเรนต้องการที่จะคุยกับริโอะตามที่พิริสาและเซรเกย์แนะนำ
“อื้อ...” ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋ เสียงครางของความเจ็บจุกถูกดูดเข้าไปในลำคอสามี หลังจากนั้นเธอก็หัวสั่นหัวครอนไปกับแรงกระกระทั้นจากการมอบบทสวาทของสามีตัวโตเซรเกย์บดสะโพกส่งเจ้าแท่งร้อนมโหฬารเข้าออกร่องสวาทถี่รัวไม่มีผ่อนอยู่นานสองนาน เสียงครางของคนทั้งสองที่กำลังแลกลิ้นถูกดูดกลืนเข้าไปในลำคอของกันและกัน เมื่อร่องสวาทดูดกลืนแท่งร้อนมโหฬารหนักเข้าก็เริ่มตอดรัดรุนแรงเพราะใกล้จะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง“อื้อ.. อื้อ...” และแล้วพิริสาก็บิดเกร็งแอ่นเร่าตาปรือเยิ้ม มือไม้จิกอยู่ที่ลำแขนแกร่งของคนเป็นสามีจนแทบจะฝังเนื้อเซรเกย์เสียบเจ้าแท่งร้อนคาร่องสวาทเอาไว้ไม่ขยับ เพราะต้องการปล่อยให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันเขาก็ยังบดจูบด้วยลีลาเร่าร้อนเพื่อเล้าโลมคนตัวเล็กให้พร้อมรับกับลีลาสวาทของเขาอีกรอบเมื่อจับจังหวะการหายใจของภรรยาตัวเล็กว่าเป็นปกติเขาก็เริ่มสาวแท่งร้อนดึงออกจนสุดกดเข้าจนมิดไปกับร่องสวาทที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรักอีกรอบให้เร็วและแรงกว่าเดิม จนเกิดเป็นเสียงเนื้อที่กำลังเปียกแฉะกระทบกันดังสนั่นไปทั่วห้อง“เซรเกย์ อื้อ...” พิริสาหัวสั่นหัวครอน ความเสียวซ่านพุ่งเข้ามาในร่างกายจนเริ่มจะแตะข
“อ๋อ ฉันว่าหาของบำรุงสักพักแกก็คงจะกลับมาแข็งแรงเองนั่นแหละ อย่าลืมสิว่าแกเพิ่งผ่านการรักษาตัวมานะ เดี๋ยวอีกสักพักลองไปตรวจร่างกายใหม่ก็ได้”“เซรเกย์ก็บอกฉันแบบนั้น”“จุนน้า...”“ยัยหนู” เห็นหลานสาวตัวกลมวัยเกือบสองขวบก็รีบเข้าไปรวบอุ้มมานั่งที่ตัก ก่อนจะหอมไปที่พวงแก้มย้วยๆ อีกฟอดใหญ่“คิดถึงจังเลย คิดถึงจังเลย” พิริสากอดรัดฟัดเหวี่ยงกับลูกสาวของกลิ่นชวากันจนหายคิดถึง ยิ่งเห็นหลานก็อยากจะมีลูกใจจะขาด ทว่าก็ต้องทำใจเพราะไม่รู้ว่าร่างกายของเธอจะสามารถมีลูกได้เมื่อไหร่ทางด้านสองหนุ่มที่กำลังคุยกันอยู่ด้านนอก เมื่อมองผ่านกระจกเห็นพิริสากำลังเล่นอยู่กับเจ้าตัวกลมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขก็หันมามองหน้ากันด้วยสายตาที่กำลังบ่งบอกถึงความเป็นกังวล โดยเฉพาะเซรเกย์“ดูท่าริสาคงอยากจะมีลูกมากๆ ฉันรู้ว่าริสานิสัยเหมือนว่าน ทางที่ดีนายควรรีบบอกเรื่องที่เธอควรรู้จะดีกว่า” วาดิมเสนอความเห็นหลังจากรับรู้ความจริงว่าเพราะอะไรกันแน่พิริสาถึงยังมีลูกไม่ได้“ฉันยังไม่พร้อมเห็นริสาผิดหวัง เอาเป็นว่าหลังจากการตรวจร่างกายครั้งหน้าไม่ดีขึ้นก็ค่อยบอกเธอตอนนั้น”“อืม ถือว่าฉันเตือนแล้วนะ”เซรเกย์ยืนถอนหายใ
“แล้วริสาจะไปเที่ยวหานะคะคุณพ่อคุณแม่” พิริสาเข้าไปกอดพ่อกับแม่ในขณะที่พวกเขากำลังจะเดินทางกลับอิตาลีหลังจากที่เบาใจเรื่องอาการเจ็บป่วยของเธอแล้ว“ยายจ๋า รักษาสุขภาพด้วยนะ แล้วริสาจะพาเจ้าตัวเล็กไปวิ่งเล่นด้วย” เธอผละออกมาจากดันเต้และรสสุคนเข้ามากอดสอางค์“เราก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ แล้วยายจะส่งสมุนไพรบำรุงร่างกายมาให้นะ”“ขอบคุณค่ะ” ฟอด ฟอด สาวเจ้าหอมซ้ายหอมขวาคนเป็นยายฟอดใหญ่ๆ เป็นประจำทุกครั้งที่ต้องจากกัน ไม่ว่าเธอจะโตมากแค่ไหนเธอก็ยังชอบทำตัวเป็นเด็กกับยายของเธอเสมอ เพราะรู้ว่ายายนั้นชอบเห็นความสดใสของเธอ และเธอเองก็ชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของคนเป็นยายรวมไปถึงพ่อกับแม่ไปนานๆ“แล้วก็ดูแลลูกฉันให้ดีล่ะ ถ้ามีเรื่องให้ลูกฉันเจ็บตัวอีก ฉันพาลูกฉันกลับไปดูแลเองจริงๆ ด้วย” ดันเต้หันมาส่งเสียงดุให้เซรเกย์ส่งท้ายก่อนกลับ เชื่อว่าเซรเกย์จะดูแลลูกสาวของเขาได้ดี ทว่าก็อดที่จะกำชับอีกครั้งตามประสาพ่อที่หวงและห่วงลูกไม่ได้สิ้นเสียงแข็งของคนเป็นพ่อ พิริสาก็รีบเข้าไปกอดเอวเซรเกย์เอาไว้แน่น “ไม่นะคะคุณพ่อ ริสารักเซรเกย์ม๊ากมาก ไม่ยอมไปไหนหรอกค่ะ”รสสุคนและสอางค์ต่างก็ส่ายหน้าให้กับคำพูดของดันเต้ ทว่าก็อม
“คิดอะไรอยู่” เดินออกมาจากห้องแต่งตัวได้ก็เข้ามาสวมกอดคนตัวเล็กที่กำลังยืนกอดอกเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยอาการเหม่อลอยพิริสารีบผลักคนที่เปลือยท่อนบนโชว์แผงกล้ามออกจากตัว “ทำไมไม่ใส่เสื้อคะ” มองกล้ามเนื้อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีครู่เดียวก็ต้องหลบสายตาไปมองทางอื่น เพราะตอนนี้เธอกำลังหน้าร้อนผ่าวเพราะไม่ชินกับการมองผู้ชายถอดเสื้อ“คุณเขินเหรอ” ริมฝีปากหนาอมยิ้มกรุ่มกริ่ม“ใครจะไม่เขินล่ะ”“หันมาดูให้เต็มตาสิ มันเป็นของคุณนะ คุณจะเขินทำไม” เขาดึงมือเธอมาลูบบนเนินอกที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ“ของฉันเหรอ” แม้จะเคอะๆ เขินๆ แต่แผงกล่ามของเขามันก็น่าสัมผัสอยู่ไม่น้อย เลยถือวิสาสะลูบๆ คลำๆ อยู่เช่นนั้นจนรับรู้ได้ว่าตัวของเขาไม่มีไขมันแม้แต่นิดเดียว“ใช่ ก็ผมเป็นของคุณ เป็นสามีคุณ จะดูตรงอื่นด้วยไหม”“ไม่ต้องค่ะ” รีบถอยห่างพร้อมยกมือทั้งสองข้างปิดตา เธอไม่รู้หรอกว่าคนที่เธอมองว่าเขาเจ้าเล่ห์จะพูดจริงหรือพูดเล่น ทว่าเธอก็ไม่เสี่ยงเปิดตาเอาไว้ แค่เห็นแผงกล้ามของเขาเธอก็เขินจนปั้นหน้าไม่ถูกแล้ว หากเห็นอย่างอื่นคงได้วิ่งออกไปข้างนอกแน่“เวลาคุณเขิน น่ารักมากเลยรู้ไหม”“แกล้งฉันใช่ไหมคะ” มือทั้งสองค่อ
พิริสาสะดุ้งตกใจเมื่อตื่นมาแล้วเห็นเซรเกย์อยู่ข้างกาย ทว่าก็ต้องยกมือทาบอกค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นแต่งงานกับเซรเกย์แล้วดวงตาคู่สวยค่อยๆ จ้องไปที่ใบหน้าคมครู่นึง เธอไปหลงรักคนที่สายตาเจ้าเล่ห์หัวปักหัวปำได้อย่างไร เขาทำอะไรให้เธอรักมากมายขนาดนั้นได้ ทั้งเธอก็ปฏิเสธไม่เชื่อไม่ได้ เพราะทุกคนต่างก็ยืนยันว่าเธอหวงเซรเกย์อย่างกับจงอางหวงไข่“อยากกินผมเหรอ” ลืมตาขึ้นได้ก็เอ่ยยียวนกวนประสาทคนตัวเล็ก“อุ้ย ตกใจหมดเลยคุณเนี่ย”“ก็จ้องผมตั้งนานแล้ว จะจูบก็ไม่จูบซะที” พูดจบก็ตวัดแขนหมายจะโอบรั้งคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่พิริสาก็ไหวตัวทัน เธอรีบพลิกตัวลงจากเตียง แล้วสาวเท้าเข้าไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างหน้าล้างตาจะได้ลงไปอยู่กับแม่เซรเกย์มองตามหลังภรรยาตัวเล็กด้วยความขบขัน จะว่าไปการที่เธอจำเขาไม่ค่อยได้ก็ทำให้เธอน่าแกล้งเหมือนกัน ตอนนี้เขาไม่ค่อยกังวลเรื่องความจำของเธอแล้ว ด้วยรู้ว่าอีกไม่นานเธอก็จะจำช่วงเวลาที่มีกับเขาได้ทุกเรื่อง เพราะสมุนไพรทุกอย่างที่หมอโอเว่นจะต้องใช้สกัดเป็นยาถอนพิษตอนนี้ได้มาครบแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ทุกคนนำกลับมาให้กับมือของหมอโอเว่นเท่านั้น“พวกคุณ
“ผมคงต้องขอคุยกับคุณริสาอย่างละเอียดอีกพักใหญ่เลยครับ” หมอโอเว่นเอ่ยก่อนที่พิริสาจะรู้สึกฉงนหนักไปมากกว่านี้“คุณเป็นใครคะ?”“ผมหมอโอเว่นครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ”ดวงตาคู่สวยมองจ้องมายังหมออาวุโสแปลกหน้า คำว่ายินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง เขาเคยรู้จักเธอ หรือ เธอเคยรู้จักเขามาก่อนเช่นนั้นหรือเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา หมอโอเว่นก็เริ่มอธิบายความเป็นมาเป็นไปของอาการหญิงสาว ก่อนจะซักถามความจำของเธอว่าตอนนี้จำอะไรได้บ้างสรุปแล้วก็ได้ความว่าตอนนี้พิริสาจำทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ ทว่าเธอก็จำได้เพียงแค่ตอนที่เพิ่งได้เจอกับพ่อของเธอไม่เท่าไหร่นัก ซึ่งนั่นมันก็เป็นช่วงเวลาที่เธอเพิ่งจะเริ่มคบหากับเซรเกย์เป็นแฟนทั้งยังตกใจมากที่จู่ๆ รู้ตัวว่าตัวเองได้แต่งงานกับเซรเกย์ในเวลาอันรวดเร็ว จนต้องขอคุยกับเซรเกย์เป็นการส่วนตัวอีกรอบหลังจากคุยกับทุกคนเรียบร้อย“ฉันแต่งงานกับคุณแล้วจริงๆ เหรอ อะไรที่ทำให้ฉันแต่งกับคุณได้เร็วขนาดนั้น”“คุณรักผมมากไง”“ฉันน่ะเหรอคะ ฉันยอมรับว่ารู้สึกดีกับคุณมาก แต่ก็ยังไม่ถึงกับรักมากนะคะ”“อย่าพูดให้ผมใจเสียสิ”“ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ นี่คะ แต่จะว่าไปเรื่องราวท