ปัง!
"โอ๊ย" เสียงบอดี้การ์ดคนนึงของเทียนร้องขึ้นมาเนื่องจากเขาถูกกระสุนยิงเข้าที่แขนข้างซ้ายขณะกำลังพยายามช่วยยิงสะกัดคนร้ายที่ต้องการจะเอาชีวิตของเทียนอยู่แต่อาการเจ็บที่แขนทำให้เขาไม่สามารถประคองรถต่อไปได้จนทำให้รถล้มลงอย่างแรง บอดี้การ์ดอีกคนก็เห็นแล้วแต่ไม่สามารถหยุดรถช่วยได้เพราะอันตรายเกินไปแถมเขาเองยังต้องปกป้องเทียนอีก"โอ๊ย! เอาไงดีว่ะ เอาไงดี...ฮือ" พายุเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านกระจกจนทำให้เขาสติแตกควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่"พายุ ไอ้พายุใจเย็นๆ" เทียนตะโกนใส่พายุเสียงดังเนื่องจากเจ้าตัวลนไปหมดแล้ว"ผมกลัวอ่ะคุณเทียน...ฮือ...ทำไงดีอ่ะครับ" พายุเริ่มงอแงออกมาตามประสาเด็กที่ไม่เคยผ่านเรื่องอันตรายและความเสี่ยงมาก่อน"มึงไปขับ! อย่าเบาคันเร่ง""แม่งเอ้ย!" เทียนรู้สึกหงุดหงิดที่พายุไม่ได้ดั่งใจ เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปที่ข้างหลังแป๊ปนึงก่อนจะรีบก้มหัวลงมาเหมือนเดิมเพราะมีกระสุนพุ่งมาอย่างแรงจนกระจกด้านหลังแตกกระจายซึ่งมันกระเด็นโดนหน้าเขาด้วยจนเกิดแผล"เฮ้ย!" พายุตกใจสะดุ้งต้องเผลอปล่อยพวงมาลัย"ไอ้พายุ!""คุณใจเย็นๆ ก่อนนะคะ" ดารินพยายามบอกให้สามีของเธอควบคุมสติอารมณ์เอาไว้ "ไอ้เจสันมึงไปบ้านใหญ่รายงานเรื่องนี้กับคุณแม่และแม่เล็กแต่มึงต้องจำไว้นะว่าห้ามให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาดยกเว้นพวกคุณแม่เท่านั้น""ได้ครับเดี๋ยวผมจะบอกกับพวกคุณผู้หญิงเอง" เจสันตอบแล้วก็เดินออกไป"ส่วนมึงไอ้เวกัส มึงไปตามสืบมาว่าบอดี้การ์ดอีกสองคนที่หายไปในคืนนี้พวกมันหายไปได้ยังไง ถ้ามันยังไม่ตายก็เอาพวกมันกลับมาให้ได้" "ครับคุณหล่ง" หลังจากรับคำสั่งเวกัสก็รีบออกไปทำงานของเขาทันทีเช่นกัน"ผมจะไม่ยอมให้ตาเทียนเจ็บตัวฟรีแน่" หล่งพูดกับดารินด้วยสีหน้าโกรธแค้นสุดๆ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ตอนนนี้หน้าห้องพัก VIP ของโรงพยาบาลที่ถูกจองเอาไว้สามห้องติดกันล้วนมีบอดี้การ์ดรูปร่างบึกบึนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูจำนวนหลายคนเลย ซึ่งก่อนหน้านี้เจสันได้สั่งให้คนตรวจค้นห้องพักทั้งสามห้องให้เรียบร้อยและยืนเฝ้าไว้ตลอดห้ามให้ใครมาเข้ามาวางกำดักหรือทำอะไรไม่ดีก่อนที่คนเจ็บจะถูกย้ายมาและแน่นอนว่าทุกครั้งที่มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเข้ามาปูเตียงหรือนำของอะไรมาวางคนข
"ตอนนี้คนไข้มีอาการยังไงบ้างครับ" หลังจากที่เทียนฟื้นขึ้นมาหมอก็รีบเข้ามาดูอาการของเขาทันที"ปวดหัวครับแล้วก็เจ็บแผลมาก ๆ" "ครับ เท่าที่หมอตรวจดูทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ดีแล้วแต่เดี๋ยวหมอจะให้ยาแก้ปวดเพิ่มก็แล้วกันนะครับ" "ขอบคุณครับ" หลังจากหมอเดินออกไปธูปก็รีบเข้ามานั่งข้างเตียงเทียนด้วยความเร็ว"พี่เทียน" "ฮะ" "เจ็บไหมพี่" "ลองไหมล่ะ" เทียนแทบอยากจะเขกหัวน้องชายของเขาสักทีที่เจ้าตัวถามอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระสิ้นดี"แล้วคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นอ่ะ" เทียนมีท่าทีที่ดูนิ่งขึ้นทันที"พี่เทียน..." ธูปเห็นว่าเทียนเงียบไปจึงลองเรียกอีกครั้ง ภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นมันยังคงวนเวียนหลอกหลอนอยู่ตลอด"แล้วแกรู้มาว่าไงบ้างล่ะ" เทียนถาม"ผมรู้มาแค่ว่าพี่ไปงานเลี้ยงต้อนรับลูกชายของคุณไพบูลย์แล้วก็เกิดอุบัติรถพุ่งชนเข้าที่เสาไฟฟ้าแค่นั้นเลย" "ระหว่างทางกลับบ้านฉันโดนกลุ่มคนตามประกบและไล่ยิงมาตลอด จำได้ว่าพวกมันมากันเยอะมากไม่รู้ว่าเป็นคนของแก๊งค์ไหน ไอ้พายุมันยังอ่อนประสบการณ์ได้ยินเสียงปืนนิดหน่อย
"ผมไปด้วยได้ไหมครับ" ปูนปั้นถามอีกครั้งเพราะเห็นสีหน้าของหมิงดูลำบากใจแปลก ๆ"เอ่อ~ คือพี่ก็ไม่ได้ไม่อยากให้น้องปูนปั้นไปนะแต่ว่าการจะเข้าใกล้ไอ้เทียนได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ขนาดพี่เนี่ยสนิทกับครอบครัวไอ้เทียนพี่ก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าไปแล้วจะได้เข้าเยี่ยมมันหรือเปล่า" หมิงตอบ"ผมอยากไปขอบคุณเขาเรื่องวันนั้นนะครับ เขาช่วยผมไว้เยอะเลยแต่ผมยังไม่ได้มีโอกาสขอบคุณเขาสักที" ปูนปั้นพูดแล้วทำหน้าเศร้าทันที หมิงเองก็อยากให้เขาไปเพราะรู้ว่าเพื่อนต้องดีใจมากแน่ ๆ แต่ถ้าเขาพาปูนปั้นไปหาเทียนแล้วเจอคนอื่นในครอบครัวของเทียนล่ะเขาจะอธิบายยังไงดีเพราะถ้าทุกคนรู้ว่าเทียนชอบปูนปั้น ชีวิตนี้ของปูนปั้นคงไม่มีทางสงบสุขอีกเป็นแน่ หมิงยืนคิดไตร่ตรองอยู่สักพักแล้วหันไปมองหน้าปูนปั้น"พี่พาไปก็ได้แต่ว่าน้องปูนปั้นต้องเชื่อฟังพี่ทุกอย่างนะไม่ว่าจะเจออะไรหรือเห็นอะไรก็ห้ามสงสัยอะไรเด็ดขาด เข้าใจไหม" หมิงพูดดักไว้ก่อนเพราะกลัวว่าถ้าปูนปั้นไปเจอคนของบ้านสิริยากรแล้วจะเกิดอาการสงสัยจนเผลอทำอะไรที่คนเหล่านั้นไม่ชอบ"ครับ" ปูนปั้นตอบ จริง ๆ แล้วปูนปั้นอยากไปเจอเทียนเพราะเขาอยากโขอโทษ
ปูนปั้นรู้สึกตกใจไม่น้อยที่จู่ ๆ เทียนก็เรียกแทนตัวเขาว่าคุณซึ่งปกติเทียนจะเรียกเขาว่านายไม่ก็ปูนปั้นตลอดพอถูกคนแบบเทียนเรียกว่าคุณ ปูนปั้นก็รู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาเลย "พอได้แล้วมั้งลุง" ปูนปั้นพูดเพราะกลัวคนอื่นจะเข้ามาเห็น"ขออยู่แบบนี้อีกหน่อยนะ" เทียนตอบแล้วกระชับกอดให้แน่นขึ้น"คุณว่า---""เลิกเรียกผมว่าคุณเถอะหน่า กลับไปเรียกเหมือนเดิมนั่นแหละลุงทำแบบนี้ผมไม่ชินเลยนะ" ปูนปั้นพูด"ทำไมอ่ะ เรียกว่าคุณก็ดูให้เกียรติดีนะ" เทียนเงยหน้าขึ้นมามองปูนปั้น"ฟังดูเหมือนเมียท่านผู้นำดี" เทียนพูดแล้วยิ้มออกมาเหมือนต้องการหยอกล้อปูนปั้นเล่น"ลุง! ปล่อยเลย" ปูนปั้นตกใจรีบแกะแขนเทียนออกทันที "เบา ๆ สิเจ็บ" เทียนทำหน้างอแงเมื่อเห็นว่าปูนปั้นไม่ยอมให้เขากอดแล้ว"เรื่องของลุงสิ เอ้า~กินเองเลย" ปูนปั้นพูดแล้วดันจานอาหารไปให้เทียนดี ๆ"ไม่ป้อนแล้วเหรอ" เทียนถาม"ไม่" ปูนปั้นตอบแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงเทียน"กินสิ!" ปูนปั้นทำทีเป้นดุแก้เขินเพราะเทียนเแาแต่มองเขาแล้วยิ้มอยู่แบบนั้นจนน่าหมั่
ตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่เทียนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปูนปั้นก็คอยเอาข้าวเอาน้ำมาส่งให้เขาตลอดทุกวันตามที่รับปากไว้แต่เขาจะมาเฉพาะช่วงที่ครอบครัวของเทียนไม่อยู่เท่านั้นโดยมีธูปคอยช่วยด้วยตามคำขอของเทียน"รีบกินเข้านะลุงวันนี้ผมอยู่นานไม่ได้นะเพราะที่ร้านคนเยอะ" ปูนปั้นพูดพร้อมจัดอาหารมาวางให้เทียน"อยู่ได้นานแค่ไหนอ่ะ" เทียนถาม"ครึ่งชั่วโมง" ปูนปั้นตอบ เทียนหันขวับไปมองเขาด้วยความไม่พอใจ"อะไรอ่า~ ปกติก็อยู่ได้ตั้ง 2 ชั่วโมงไม่ใช่เหรอ" เทียนพูด เขาอยากให้ปูนปั้นอยู่คุยเล่นเป็นเพื่อนเขาเหมือนทุกวันเพราะถึงแม้มันจะเป็นเวลาแค่ 2 ชั่วโมงแต่ก็เป็น 2 ชั่วโมงที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดของวันเลย"ก็ที่ร้านมันยุ่งจะให้ผมทิ้งร้านได้ไงเล่า ตอนนี้พนักงานก็ยิ่งมีน้อย ๆ อยู่" ปูนปั้นตอบ"ก็เปิดรับสมัครสิ" เทียนพูด"เปิดไปแล้วแต่ยังไม่มีใครมาสมัครเลย" ปูนปั้นตอบ"เลือกเยอะเองหรือเปล่า" เทียนพูด"มันก็ต้องคัดคุณสมบัติกันหน่อยป่ะ" ปูนปั้นตอบ"แล้วถ้าเป็นล่ะครับ" จู่ ๆ ก็มีเสียงชายคนนึงดังขึ้นพร้อมกับประตูที่ห้องที
"เมื่อกี้ผมต้องขอโทษแทนพี่สาวด้วยนะครับ" ปูนปั้นเห็นหมิงนั่งเงียบมาตลอดทางจึงคิดว่าหมิงคงตกใจไม่น้อย"อ๋อ~ ไม่เป็นไร...ว่าแต่ทำไมพี่ไม่เคยเห็นพี่สาวปูนปั้นมาที่ร้านเลยล่ะ" หมิงถาม"พอดีช่วงนี้พี่ผมไม่ค่อยสบายก็เลยให้ผมมารับช่วงต่อน่ะครับส่วนที่ว่าทำไมพี่ไม่เคยเจอก็อาจเป็นเพราะหลังจากที่พี่สาวของผมวางมือจากร้านเธอก็เลยไม่ค่อยได้กลับมาที่บ้านน่ะ" ปูนปั้นตอบ"พี่สาวปูนปั้นมีแฟนแล้วเหรอ" หมิงถาม"ครับ คบกันมาตั้งแต่มหาลัยแล้วจนตอนนี้ก็ 10 กว่าปีแล้ว" ปูนปั้นตอบ"อ๋อ~" ปูนปั้นหันหน้าไปมองหมิงด้วยความสงสัยเพราะเห็นเขาถามถึงพี่สาวตัวเอง"พี่หมิงมีอะไรหรือเปล่าครับ" ปูนปั้นถาม"เปล่า พอดีพี่เคยได้ยินมาบ้างเรื่องที่พี่สาวของปูนปั้นป่วยแต่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยน่ะว่าพี่สาวของปูนปั้นมีแฟนด้วย" หมิงตอบ"อ๋อ~ความจริงเรื่องนี้ก็มีคนรู้อยู่ไม่กี่คนหรอกครับ ถ้านับคนที่ร้านก็น่าจะมีแค่พี่กุ๊กไก่คนเดียว" ปูนปั้นพูด"ทำไมล่ะ" หมิงถาม "เฮ่อ~ ตั้งแต่พี่เคนไปเป็นนายแบบความสัมพันธ์ของเขากับพี่เอมม่าก็ต้องเก
"มาเดี๋ยวพี่ขับเอง" หมิงยื่นมือไปขอกุญแจรถจากปูนปั้น"ไม่เป็นไรครับผมโอเค" ปูนปั้นตอบ"เอามาเถอะ" หมิงพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนปูนปั้นต้องยอมแล้วเดินไปขึ้นอีกฝั่งแทน ระหว่างขับรถกลับหมิงรู้สึกผิดอยู่ในใจมาตลอดแต่เขาก็ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว หมิงแอบเหล่มองปูนปั้นอยู่หลายครั้งเพราะเห็นว่าเขาเอาแต่นั่งเอามือแตะและนวดที่แก้มอยู่ตลอด"พี่ขอโทษนะ" หมิงพูด"ผมทำตัวเองเจ็บเองพี่หมิงไม่ต้องขอโทษผมหรอก" ปูนปั้นตอบ"พี่ลากปูนปั้นเข้ามาเกี่ยวด้วยแท้ ๆ ป่านนี้เสี่ยชัชเขาคงหมายหัวปูนปั้นไว้เรียบร้อยแล้วแหละ" หมิงพูด"เขาจะทำอะไรก็ช่างเขาเถอะเพราะผมไม่มีทางยอมให้ใครมาพูดจาดูถูกผมฝ่ายเดียวอยู่แล้ว อีกอย่างนะต่อให้เขาจะใหญ่แค่ไหนมันก็ไม่มีใครใหญ่เกินกฏหมายหรอก" ปูนปั้นถาม หมิงถอนหายใจออกมาทันทีเพราะถึงแม้เขาจะไกับครอบครัวของเทียนมานานได้รู้จักคนมีอำนาจอิทธิพลมาก็ไม่ใช่น้อย เขาจึงรู้ดีว่าคนที่มันใหญ่กว่ากฏหมายมันมีอยู่จริง ๆ "ของแบบนี้เราไม่รู้ใช่ว่าจะไม่มีนะ" หมิงพูด ปูนปั้นหันไปมองหมิงด้วยสีหน้างง ๆ เพราะเขาไม่เข้าใจว่าหมิงต้อ
เทียนได้ยินเสียงอ๊อดหน้าห้องก็ยิ้มออกมาทันทีเพราะคิดว่าคนที่มาน่าจะเป็นปูนปั้น เมื่อเช้าเขาตื่นมาไม่เจอปูนปั้นแล้วก็เลยรู้สึกนอยด์หน่อย ๆ แต่ก็คิดว่าไว้ค่อยคิดบัญชีทีหลังแล้วกันเพราะยังไงซะปูนปั้นก็ต้องเอาอาหารมาส่งให้เขาอยู่แล้ว พอได้ยินเสียงอ๊อดเทียนก็เลยรีบลุกไปเปิดประตูทันที"กว่าจะมาได้นะ" เทียนหุบยิ้มแล้วอึ้งมากที่คนตรงหน้าไม่ใช่ปูนปั้นแต่เป็นหมิงเพื่อนรักของเขา "โทษทีว่ะพอดีเกิดเรื่องนิดหน่อยเลยเอามาส่งให้ช้า" หมิงตอบแล้วเดินเข้าห้องของเทียนไปอย่างหน้าตาเฉย"ทำไมเป็นมึงว่ะ" เทียนถาม"เป็นกูแล้วมันทำไมว่ะ" หมิงแกล้งถามกลับเพราะเห็นสีหน้าเพื่อนดูผิดหวังมาก"เปล่า~ เห็นปกติไม่ใช่มึงที่มาส่งไงกูก็เลยสงสัยเฉย ๆ" เทียนตอบแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างเซ็ง ๆ หมิงเอาอาหารไปวางไว้ให้เทียนในครัวแล้วเดินมานั่งกับเทียนที่โซฟา"มึงเป็นไรว่ะ" เทียนสังเกตเห็นหมิงมีสีหน้าที่ดูเป็นกังวลใจแปลก ๆ จึงลองถามดู หมิงเงยหน้าขึ้นมามองเทียนก็ยิ่งรู้สึกลังเลเข้าไปใหญ่ว่าคสรจะเล่าดีไหม"มึงมีอะไรก็พูดดิ่...เราเพื่อนกันนะเว้ย" เทียนพูด
"พวกเราจะไปไหนกันอ่ะลุง" ปูนปั้นถาม เขากลัวมากจนต้องกอดเทียนเอาไว้ตลอดส่วนเทียนก็คอยลูบหลังเขาเบา ๆ เพื่อไม่ให้ปูนปั้นสติแตกไปมากกว่านี้"หนูไปอยู่ที่ร้านก่อนตอนนี้ที่นั่นน่าจะปลอดภัยที่สุด" เทียนตอบ"แต่ว่าคุณเกรทก็ส่งคนไปจับผมมาจากที่นั่นนะ" ปูนปั้นพูด"มีแค่เกรทกับโอมที่รู้จักหนูแต่ตอนนี้สองคนนั้นไม่อยู่แล้วดังนั้นที่นั้นจึงปลอดภัยที่สุดอีกอย่างธูปกับหมิงก็อยู่ด้วย เชื่อพี่เถอะนะ" เทียนพูด"ครับ" ปูนปั้นตอบเอี๊ยดดดดด! (เสียงเบรกรถ)เสียงเบรกรถดังมากจนเอมม่าตกใจจนต้องหันหน้าออกมาดูเพราะคิดว่าเกิดอุบัติเหตุที่หน้าร้านโชคดีที่ตอนนี้ในร้านไม่มีลูกค้าเลยไม่งั้นคงทำให้ลูกค้าตกใจขวัญกระเจิงเป็นแน่ หลังจากเห็นเทียนกับปูนปั้นลงมาจากรถท่าทางอาลัยอาวรณ์กันเอมม่าก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจว่าทั้งคู่เป็นอะไรไปเพราะเธอไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรกับทั้งสองคนไม่งั้นป่านนี้เธอคงไม่สามารถนั่งเฝ้าร้านได้อย่างสบายใจหรอก"แค่แยกกันไปทำงานต้องกอดอะไรกันขนาดนั้นอ่ะ ทำอย่างกับจะตายจากกันอย่างงั้นแหละ" เอมม่าพูดด้วยความสงสัยเพราะสีหน้าแววตาของทั้งคู่ดูเศร้าและหวาดกลัวมาก จากนั้นไม่นานเทียนก็กลับขึ้นรถแล้วก็ออกจากร
"เกรทททท...เกรทอย่าตายนะเกรท" เทียนพยายามปลุกเกรททั้งน้ำตามทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้จนปูนปั้นที่เห็นก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้จึงได้ขยับเข้ามากอดปลอบเทียน "พวกเราต้องไปแล้วครับ" เจ๋งพูดขึ้นเพราะกลัวว่าจะมีคนจากอีกฝั่งมาเสริมอีก "ลุง" ปูนปั้นเรียกแต่เทียนก็เอาเอาแต่นอนฟุบหน้าลงกับศพของเกรทอยู่ "พาคุณเทียนกับคุณเปูนปั้นไป" เจ๋งหันไปบอกกับพายุ "ครับ" พายุรีบเก็บปืนแล้วเขามาช่วยปูนปั้นพยุงพาเทียนออกไปทั้ง ๆ ที่เขายังไม่อยากไป "ไปครับคุณเทียน" พายุพูด "ไอ้โอมไป" เจ๋งรีบเข้าไปช่วยโอมที่กอดร่างของเจ้านายไว้อยูาเช่นกัน "คุณเกรท" โอมไม่ยอมปล่อยมือออกจากเกรทจนเจ๋งต้องกระชากเขาออกไป "มึงต้องไปก่อน!" เจ๋งพูด "แต่คุณเกรท" โอมพูด "เสร็จแล้วพวกเราค่อยกลับมารับร่างคุณเกรทด้วยกัน รีบไปไอ้โอม" เจ๋งพูด โอมได้แต่ต้องยอมรับแล้วปล่อยมือจากเกรทไป ทั้ง 5 คนเดินออกมาจนถึงรถแต่จู่ ๆ ก็มีคนของเหรียญโผล่มาอีก "เฮ้ย!" ปัง! ปัง! ปัง! (เสียงปืน) "อร๊ายยย" เทียนรีบหมุนตัวมากอดปูนปั้นไว้เพราะกลัวว่าเขาจะถูกยิงจากนั้นเสียงปืนก็ดังรัว ๆ ยิงสวนไปจากฝั่งของพายุและเจ๋งทันทีจนอีกฝ่ายล้มลง "ไอ้โอม!" เสีย
คนของเกรทรีบวิ่งเข้ามาขว้างเทียนทันทีเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะบุกเข้าไปในบ้าน"ถอยไป!" เทียนตะคอกเสียงดังแต่ลูกน้องของเกรทไม่มีท่าทีจะกลัวเทียนเลยแถมยังทำสีหน้าลอยตาจนเทียนอดใจไม่ไหวยกขาขึ้นมาถีบที่ท้องเต็มแรงจนลูกน้องของเกรทล้มลงไป"เฮ้ย!" ลูกน้องคนอื่น ๆ ของเกรทเมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนล้มลงไปก็รีบชักปืนออกมาจ่อหน้าของเทียนด้วยความโมโหแต่เจ๋งกับพายุก็ไม่ยอมเช่นกัน เขาสองคนชักปืนออกมาแล้วเล็งไปที่ลูกน้องของเกรททันที ทั้งหมดมองจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใครจนในที่สุดเกรทก็เดินออกมา"มาแล้วเหรอ" เกรทพูด"ปูนปั้นอยู่ไหน" เทียนถาม"ใจเย็น ๆ สิเทียน" เกรทตอบ"เราเคยบอกเกรทแล้วใช่ไหมว่าอย่ายุ่งกับปูนปั้นอ่ะ" เทียนพูด"แล้วทำไมเราต้องฟังเทียนด้วยล่ะ" เกรทถาม"เราไม่อยากมีปัญหากับเกรทนะแค่ถ้าเกรททำอะไรปูนปั้นล่ะก็เราจะทำให้เกรทรู้สึกเสียใจที่สุดที่ทำแบบนี้กับเรา" เทียนตอบ"ฮึ~ เทียนได้ทำมันไปแล้วแหละ" เกรทพูดด้วยแววตาสั่นคลอนจนทำให้เทียนรู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้ง"เราจะพาปูนปั้นกลับ" เทียนพูด"เราไม่อนุญาต" เกรทตอบ"เกรท!" เทียนใช้เสียงต่ำเรียกเขาเหมือนกำลังบอกเขาให้รู้ว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังใช้ความอดทนแบ
เทียนรีบวิ่งเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็วจนเอมม่าที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ยังตกใจ"ว้าย! คุณเทียน~" เอมม่าพูด"ปูนปั้นอยู่ไหมครับ" เทียนถาม"ปูนปั้นออกไปแล้วค่ะ คุณเทียนมีอะไรหรือเปล่าคะทำไมรีบร้อนขนาดนี้" เอมม่าถาม"ปูนปั้นออกไปไหน ไปนานหรือยังครับแล้วไปกับใคร" เทียนถามออกมารัว ๆ ออกมาด้วยสีหน้าตื่นตกใจจนเอมม่าเริ่มรู้สึกแปลก ๆ"เอ่อ...เห็นว่าจะกลับคอนโดนะคะแล้วก็ออกไปสักพักใหญ่แล้วด้วยส่วนถ้าถามว่าออกไปกับใครก็คงไปกับคนของคุณเทียนนั่นแหละค่ะ" เอมม่าตอบ"ขอบคุณครับ" เทียนพูดจบก็รีบออกจากร้านแล้วขึ้นรถไปทันที"ส่งคนของเราออกจากหาไอ้โอมเดี๋ยวนี้แล้วบอกให้ฝ่ายข้อมูลเจาะสัญญาณมือถือของโอมกับปูนปั้นด่วน" เทียนพูด"ครับคุณเทียน" พายุตอบ"เราจะไปที่ไหนกันครับ" เจ๋งถาม"ฉันก็ไม่รู้" เทียนตอบออกมาอย่างสิ้ยหวังแล้วทิ้งตัวพิงไปกับเบาะ"ขับไปที่โกดังที่เราเจอไอ้เมฆก่อนไม่แน่พวกมันอาจพาปูนปั้นไปที่นั่นก็ได้" เทียนพูด"ครับคุณเทียน" เจ๋งตอบแล้วรีบออกรถทันที ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ปูนปั้นนั่งมองโอมที่กำลังใช้เชือกมัดข้อเท้าของเขาอยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรโอมเลยสักนิดอาจเป็นเ
"หมายความว่าไง" คุณโฉมหันไปถามวิสุทธิ์ด้วยสีหน้าตกใจ แววตาของวิสุทธิ์ยังคงมีแต่ความเศร้าอาลัยถึงเจ้านายอันเป็นที่รักอยู่ตลอดเวลาตอนนี้ในใจของเทียนรู้สึกหวิว ๆ ขึ้นมาแปลก ๆ "วันนั้นหลังจากถึงฮ่องกงคุณท่านก็รีบไปพบกับคุณเมฆทันทีเพื่อถามหาเหตุผลที่ทำให้คุณเมฆยอมทรยศหักหลังตระกูล ตอนแรกทุกอย่างก็เหมือนจะเป็นไปด้วยดีเพราะคุณเมฆยอมรับสารภาพออกมาตรง ๆ ว่าที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะถูกผีพนันเข้าสิง คุณเมฆหลอมตัวเข้าไปเล่นในบ่อนของคุณเหรียญแต่ติดหนี้จำนวนมากและหลังจากที่คุณเมฆหาเงินมาใช้คืนให้พวกคุณเหรียญไม่ได้เขาก็ถูกทำร้ายอยู่หลายครั้งจากคนที่คุณเหรียญส่งมา คุณเมฆกลัวว่าจะถูกคุณเอกต่อว่าและเปรียบเทียบกับคุณสายฟ้าจึงได้ยอมตกลงรับข้อเสนอจสกคุณเหรียญโดยการขโมยข้อมูลลับของพวกเราไปให้เพื่อแลกกับการหักลบยอดหนี้ที่ติดค้างไว้โดยจำนวนยอดที่ลบออกก็มากน้อยต่างกันไปตามความสำคัญของข้อมูลที่ให้ไปในแต่ละครั้งดังนั้นหลังจากที่คุณท่านได้ฟังคำสารภาพของคุณเมฆจึงได้ตัดสินใจว่าจะช่วยใช้หนี้ให้ทั้งหมดแทนเองแต่ต้องแลกกับการที่คุณเมฆต้องกลับไทยมาอยู่ในสายตาของคุณท่านและไม่อนุญาตให้คุณเมฆเข้าร่วมหรือดูแลในธุรกิจใด ๆ ในตร
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~เมฆเดินเข้ามาในบ้านของคุณเหรียญด้วยสีหน้าสลดเพราะเขารู้ตัวดีกว่าตัวเองทำให้เหรียญไม่พอใจมาก"สวัสดีครับคุณเหรียญ" เมฆเอ่ยทักทายอย่างไม่เต็มเสียง"หายไปนานเลยนะ" เหรียญพูด"ผมขอโทษครับ ผมไม่คิดว่าไอ้เทียนมันจะใช้วิธีขังผมเอาไว้ก็เลยทำให้แผนของเราล่าช้า" เมฆตอบ"นี่ถ้าคนของกูไม่ช่วยมึงออกมามึงก็คงเป็นได้แค่นักโทษของไอ้เทียนเท่านั้นสินะ อย่าลืมสิว่ามึงติดหนี้กูอยู่นะ ช่วยทำอะไรที่มันมีประโยชน์บ้างเพราะถ้ามึงไม่ทำงานใช้หนี้กูเนี่ยแหละจะเป็นคนเอาชีวิตมึงมาลบหนี้ที่มึงก่อไว้เอง" เหรียญพูด"ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำตามแผนของเราแต่ผมก็ไม่คิดว่านอกจากมันจะไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์พี่น้องในวัยเด็กแล้วมันยังกล้าสั่งขังผมต่อหน้าทุกคนอีกแถมตอนหลังมันยังสั่งคนยึดมือถือของผมไปอีก พูดแล้วก็เจ็บใจจริง ๆ " เมฆตอบ"เจ็บใจแล้วได้อะไรล่ะ ที่บ้านนั้นมีใครเห็นหัวมึงบ้างพ่อแม่มึงยังไม่เคยไปเยี่ยมมึงสักครั้ง เขาไม่แม้แต่จะไปขอร้องให้ไอ้เทียนเห็นใจมึงเลยด้วย ไหนจะย่ามึงอีก เขาอยู่รั้วบ้านเดียวกับมึงเขายังไม่กล้าขัดคำสั่งไอ้เทียนให้ปล่อยตัวมึงเลยยิ่งปู่มึงยิ่งแล้วใหญ่" เหรียญพูด"ที่ผ่าน
เทียนมาถึงโรงพยาบาลก็รีบตรงไปที่ห้องฉุกเฉินทันทีและเมื่อมาถึงเขาก็เห็นแม่ของตัวเองกำลังนั่งก้มหน้าร้องไห้โดยมีเจ๋งกับพายุยืนเฝ้าดูแลอยู่ข้าง ๆ "แม่" เทียนเรียกแล้วรีบเข้าไปหาแม่ทันที ดารินเองเมื่อได้ยินเสียงลูกชายก็รีบลุกขึ้นมาสวมกอด"หมอว่าไงบ้างครับ" เทียนถาม"ฮือ...ฮื้อ...อือ" "ยังไม่ออกมาเลยครับคุณเทียน" เจ๋งตอบแทนเมื่อเห็นว่าดารินเอาแต่ร้องไห้จนตอบอะไรเทียนไม่ได้"ใจเย็น ๆ นะครับแม่" เทียนพยายามปลอบแล้วใช้มือลูบหลังของดารินเบา ๆ "ฮึก...แม่...แม่ไม่เคยเห็นพ่อเป็นแบบนี้มาก่อนเลยเทียน...ฮือ...ฮื้อ" ดารินตอบ"แม่นั่งพักก่อนนะครับ" เทียนพูดแล้วพาดารินไปนั่งลงที่เดิมจากนั้นเขาก็หักไปมองหน้าพายุเพื่อส่งสัญญาณให้พายุเดินออกไปคุยกับเขา"ดูแลแม่ฉันดี ๆ " เทียนหันไปพูดกับเจ๋ง"ครับคุณเทียน" เจ๋งตอบจากนั้นเทียนกับพายุก็เดินออกจากหน้าห้องฉุกเฉินไป"นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ ๆ พ่อฉันถึงเป็นแบบนี้" เทียนถาม"พี่เวกัสกับพี่เจสันกำลังตรวจสอบอยู่ครับ" พายุตอบ"ไหนนายลองเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้าที่พ่อฉันจะเป็นแบบนี้มาสิ" เทียนพูด"วันนี้หลังจากที่คุณหล่งกลับมาจากบ้านคุณมุกดาท่านก็ขังตัวเองทำงานอยู่
"โอ้โห~ หาวขนาดนี้มึงไปแดกกาแฟดีกว่าไหม" บอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าบ้านพักของเมฆทักบอดี้การ์ดอีกคนที่ยืนหาวติด ๆ กันมาหลายครั้งแล้ว"นี่เพิ่ง 4 ทุ่มกว่าเองทำไมผมง่วงแล้วว่ะพี่" "กูจะไปรู้มึงเหรอ เอ่อ! แต่จะว่าไปวันนี้กูก็รู้สึกง่วงแปลก ๆ นะ" "นั่นดิพี่ หาคนมาเปลี่ยนดีไหมผมกลัวผมเผลอหลับว่ะ" "มึงจะบ้าเหรอพวกเราเพิ่งจะผลัดเปลี่ยนกะกันไปเอง ใครเขาจะยอมมายืนแทนมึงเวลาเนี่ยอ่ะ" "แต่วันนี้บ้านใหญ่เงียบแปลก ๆ เนอะ" "เออว่ะ ปกติเดินกันให้วุ่นอย่างกับคนดีดยาทำไมวันนี้ไม่เห็นใครเลยว่ะ" "แปลก ๆ นะพี่ พวกเราไปดูกันหน่อยไหม" "ไปแล้วใครจะเฝ้าประตูว่ะ มึงไม่ต้องไปสนใจใครหรอกเอางานตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า""โธีพี่~ ไปแค่แป๊ปเดียวเองจะได้ไปหาอะไรมาไว้นั่งกินเล่นด้วย พี่ก็ดูดิล็อคแน่นหนาขนาดนี้ใครจะออกไปได้ต่อให้ไอ้คุณเมฆมันหายตัวได้จริงมันก็ยังหนีออกไปยากเลย" บอดี้การ์ดรุ่นพี่กำลังคิดตามคำพูดของรุ่นน้องคนสนิทอย่างลังเลใจเพราะตอนนี้เขาก็รู้สึกเบื่อเต็มทีที่ต้องมายืนประตูที่ปิดแน่นสนิทขนาดนี้"แต่ถ้าพี่เวกัสมาเดินลาดตระเวนแล้วไม่เจอคนเฝ้าที่นี่จะทำไงว่ะ" "พี่เวกัสเป็นคนของบ้านคุณหล่งเขาไม่ได้มาบ้านใหญ่ท
หลังจากที่เกรทเดินออกจากห้องไปเทียนก็รีบล้วงกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์ของเขาออกมาโทรหาปูนปั้นทันที"ครับลุง" ปูนปั้นพูด"อยู่ไหนอ่ะ" เทียนถาม"อยู่ที่ร้านครับ" ปูนปั้นตอบ"โอเคดีใช่ไหม" เทียนถาม"ครับ ลุงเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย" ปูนปั้นพูด"ไม่มีอะไรวันนี้ปิดร้านแล้วรีบกลับบ้านนะ" เทียนพูด"โอเคแค่นี้ก่อนนะ" ปูนปั้นตอบ"อืม" เทียนตอบจากนั้นทั้งคู่ก็วางสายไป"คุณเทียนกังวลเรื่องอะไรเหรอครับ" เจ๋งถาม"แค่รู้สึกไม่สบายใจเฉย ๆ น่ะ" เทียนตอบ"ผมว่าคุณเกรทเขาก็คงอยากจะปั่นหัวคุณเทียนเล่น ไม่มีอะไรหรอกครับ" เจ๋งพูด"ฉันรู้จักเกรทดี เขาเป็นที่แค้นฝังลึกมากและถ้าเขาไม่คิดว่าจะอะไรเลยก็คงไม่ลงแรงตามหาตัวปูนปั้นจนเจอแบบนี้หรอกไหนจะเรื่องที่บริษัทอีก เกรทกลับมาครั้งนี้ฉันคงต้องวางแผนรับมือดี ๆ หน่อยละ" เทียนตอบ"งั้นเดี๋ยวผมจะให้โอมคอยไปดูแลความเรียบร้อยแถวบริเวณร้านของคุณปูนปั้นให้นะครับ" เจ๋งพูด"ดี แต่อย่าให้ปูนปั้นหรือคนที่ร้านตกใจเป็นอันขาดนะ" เทียนตอบ"ครับคุณเทียน" เจ๋งตอบ..ก๊อก ๆ ๆเสียงคนเคาะผนังบ้านน็อคดาวน์ของเมฆกดังมาจากข้างนอกซึ่งทำให้เมฆเลิกสนใจหนังสือการ์ตูนในมือแล้วขยับเข้าไปชิดกำแพ