"ตอนนี้คนไข้มีอาการยังไงบ้างครับ" หลังจากที่เทียนฟื้นขึ้นมาหมอก็รีบเข้ามาดูอาการของเขาทันที
"ปวดหัวครับแล้วก็เจ็บแผลมาก ๆ""ครับ เท่าที่หมอตรวจดูทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ดีแล้วแต่เดี๋ยวหมอจะให้ยาแก้ปวดเพิ่มก็แล้วกันนะครับ""ขอบคุณครับ" หลังจากหมอเดินออกไปธูปก็รีบเข้ามานั่งข้างเตียงเทียนด้วยความเร็ว"พี่เทียน""ฮะ""เจ็บไหมพี่""ลองไหมล่ะ" เทียนแทบอยากจะเขกหัวน้องชายของเขาสักทีที่เจ้าตัวถามอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระสิ้นดี"แล้วคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นอ่ะ" เทียนมีท่าทีที่ดูนิ่งขึ้นทันที"พี่เทียน..." ธูปเห็นว่าเทียนเงียบไปจึงลองเรียกอีกครั้ง ภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นมันยังคงวนเวียนหลอกหลอนอยู่ตลอด"แล้วแกรู้มาว่าไงบ้างล่ะ" เทียนถาม"ผมรู้มาแค่ว่าพี่ไปงานเลี้ยงต้อนรับลูกชายของคุณไพบูลย์แล้วก็เกิดอุบัติรถพุ่งชนเข้าที่เสาไฟฟ้าแค่นั้นเลย""ระหว่างทางกลับบ้านฉันโดนกลุ่มคนตามประกบและไล่ยิงมาตลอด จำได้ว่าพวกมันมากันเยอะมากไม่รู้ว่าเป็นคนของแก๊งค์ไหน ไอ้พายุมันยังอ่อนประสบการณ์ได้ยินเสียงปืนนิดหน่อย"ผมไปด้วยได้ไหมครับ" ปูนปั้นถามอีกครั้งเพราะเห็นสีหน้าของหมิงดูลำบากใจแปลก ๆ"เอ่อ~ คือพี่ก็ไม่ได้ไม่อยากให้น้องปูนปั้นไปนะแต่ว่าการจะเข้าใกล้ไอ้เทียนได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ขนาดพี่เนี่ยสนิทกับครอบครัวไอ้เทียนพี่ก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าไปแล้วจะได้เข้าเยี่ยมมันหรือเปล่า" หมิงตอบ"ผมอยากไปขอบคุณเขาเรื่องวันนั้นนะครับ เขาช่วยผมไว้เยอะเลยแต่ผมยังไม่ได้มีโอกาสขอบคุณเขาสักที" ปูนปั้นพูดแล้วทำหน้าเศร้าทันที หมิงเองก็อยากให้เขาไปเพราะรู้ว่าเพื่อนต้องดีใจมากแน่ ๆ แต่ถ้าเขาพาปูนปั้นไปหาเทียนแล้วเจอคนอื่นในครอบครัวของเทียนล่ะเขาจะอธิบายยังไงดีเพราะถ้าทุกคนรู้ว่าเทียนชอบปูนปั้น ชีวิตนี้ของปูนปั้นคงไม่มีทางสงบสุขอีกเป็นแน่ หมิงยืนคิดไตร่ตรองอยู่สักพักแล้วหันไปมองหน้าปูนปั้น"พี่พาไปก็ได้แต่ว่าน้องปูนปั้นต้องเชื่อฟังพี่ทุกอย่างนะไม่ว่าจะเจออะไรหรือเห็นอะไรก็ห้ามสงสัยอะไรเด็ดขาด เข้าใจไหม" หมิงพูดดักไว้ก่อนเพราะกลัวว่าถ้าปูนปั้นไปเจอคนของบ้านสิริยากรแล้วจะเกิดอาการสงสัยจนเผลอทำอะไรที่คนเหล่านั้นไม่ชอบ"ครับ" ปูนปั้นตอบ จริง ๆ แล้วปูนปั้นอยากไปเจอเทียนเพราะเขาอยากโขอโทษ
ปูนปั้นรู้สึกตกใจไม่น้อยที่จู่ ๆ เทียนก็เรียกแทนตัวเขาว่าคุณซึ่งปกติเทียนจะเรียกเขาว่านายไม่ก็ปูนปั้นตลอดพอถูกคนแบบเทียนเรียกว่าคุณ ปูนปั้นก็รู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาเลย "พอได้แล้วมั้งลุง" ปูนปั้นพูดเพราะกลัวคนอื่นจะเข้ามาเห็น"ขออยู่แบบนี้อีกหน่อยนะ" เทียนตอบแล้วกระชับกอดให้แน่นขึ้น"คุณว่า---""เลิกเรียกผมว่าคุณเถอะหน่า กลับไปเรียกเหมือนเดิมนั่นแหละลุงทำแบบนี้ผมไม่ชินเลยนะ" ปูนปั้นพูด"ทำไมอ่ะ เรียกว่าคุณก็ดูให้เกียรติดีนะ" เทียนเงยหน้าขึ้นมามองปูนปั้น"ฟังดูเหมือนเมียท่านผู้นำดี" เทียนพูดแล้วยิ้มออกมาเหมือนต้องการหยอกล้อปูนปั้นเล่น"ลุง! ปล่อยเลย" ปูนปั้นตกใจรีบแกะแขนเทียนออกทันที "เบา ๆ สิเจ็บ" เทียนทำหน้างอแงเมื่อเห็นว่าปูนปั้นไม่ยอมให้เขากอดแล้ว"เรื่องของลุงสิ เอ้า~กินเองเลย" ปูนปั้นพูดแล้วดันจานอาหารไปให้เทียนดี ๆ"ไม่ป้อนแล้วเหรอ" เทียนถาม"ไม่" ปูนปั้นตอบแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงเทียน"กินสิ!" ปูนปั้นทำทีเป้นดุแก้เขินเพราะเทียนเแาแต่มองเขาแล้วยิ้มอยู่แบบนั้นจนน่าหมั่
ตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่เทียนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปูนปั้นก็คอยเอาข้าวเอาน้ำมาส่งให้เขาตลอดทุกวันตามที่รับปากไว้แต่เขาจะมาเฉพาะช่วงที่ครอบครัวของเทียนไม่อยู่เท่านั้นโดยมีธูปคอยช่วยด้วยตามคำขอของเทียน"รีบกินเข้านะลุงวันนี้ผมอยู่นานไม่ได้นะเพราะที่ร้านคนเยอะ" ปูนปั้นพูดพร้อมจัดอาหารมาวางให้เทียน"อยู่ได้นานแค่ไหนอ่ะ" เทียนถาม"ครึ่งชั่วโมง" ปูนปั้นตอบ เทียนหันขวับไปมองเขาด้วยความไม่พอใจ"อะไรอ่า~ ปกติก็อยู่ได้ตั้ง 2 ชั่วโมงไม่ใช่เหรอ" เทียนพูด เขาอยากให้ปูนปั้นอยู่คุยเล่นเป็นเพื่อนเขาเหมือนทุกวันเพราะถึงแม้มันจะเป็นเวลาแค่ 2 ชั่วโมงแต่ก็เป็น 2 ชั่วโมงที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดของวันเลย"ก็ที่ร้านมันยุ่งจะให้ผมทิ้งร้านได้ไงเล่า ตอนนี้พนักงานก็ยิ่งมีน้อย ๆ อยู่" ปูนปั้นตอบ"ก็เปิดรับสมัครสิ" เทียนพูด"เปิดไปแล้วแต่ยังไม่มีใครมาสมัครเลย" ปูนปั้นตอบ"เลือกเยอะเองหรือเปล่า" เทียนพูด"มันก็ต้องคัดคุณสมบัติกันหน่อยป่ะ" ปูนปั้นตอบ"แล้วถ้าเป็นล่ะครับ" จู่ ๆ ก็มีเสียงชายคนนึงดังขึ้นพร้อมกับประตูที่ห้องที
"เมื่อกี้ผมต้องขอโทษแทนพี่สาวด้วยนะครับ" ปูนปั้นเห็นหมิงนั่งเงียบมาตลอดทางจึงคิดว่าหมิงคงตกใจไม่น้อย"อ๋อ~ ไม่เป็นไร...ว่าแต่ทำไมพี่ไม่เคยเห็นพี่สาวปูนปั้นมาที่ร้านเลยล่ะ" หมิงถาม"พอดีช่วงนี้พี่ผมไม่ค่อยสบายก็เลยให้ผมมารับช่วงต่อน่ะครับส่วนที่ว่าทำไมพี่ไม่เคยเจอก็อาจเป็นเพราะหลังจากที่พี่สาวของผมวางมือจากร้านเธอก็เลยไม่ค่อยได้กลับมาที่บ้านน่ะ" ปูนปั้นตอบ"พี่สาวปูนปั้นมีแฟนแล้วเหรอ" หมิงถาม"ครับ คบกันมาตั้งแต่มหาลัยแล้วจนตอนนี้ก็ 10 กว่าปีแล้ว" ปูนปั้นตอบ"อ๋อ~" ปูนปั้นหันหน้าไปมองหมิงด้วยความสงสัยเพราะเห็นเขาถามถึงพี่สาวตัวเอง"พี่หมิงมีอะไรหรือเปล่าครับ" ปูนปั้นถาม"เปล่า พอดีพี่เคยได้ยินมาบ้างเรื่องที่พี่สาวของปูนปั้นป่วยแต่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยน่ะว่าพี่สาวของปูนปั้นมีแฟนด้วย" หมิงตอบ"อ๋อ~ความจริงเรื่องนี้ก็มีคนรู้อยู่ไม่กี่คนหรอกครับ ถ้านับคนที่ร้านก็น่าจะมีแค่พี่กุ๊กไก่คนเดียว" ปูนปั้นพูด"ทำไมล่ะ" หมิงถาม "เฮ่อ~ ตั้งแต่พี่เคนไปเป็นนายแบบความสัมพันธ์ของเขากับพี่เอมม่าก็ต้องเก
"มาเดี๋ยวพี่ขับเอง" หมิงยื่นมือไปขอกุญแจรถจากปูนปั้น"ไม่เป็นไรครับผมโอเค" ปูนปั้นตอบ"เอามาเถอะ" หมิงพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนปูนปั้นต้องยอมแล้วเดินไปขึ้นอีกฝั่งแทน ระหว่างขับรถกลับหมิงรู้สึกผิดอยู่ในใจมาตลอดแต่เขาก็ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว หมิงแอบเหล่มองปูนปั้นอยู่หลายครั้งเพราะเห็นว่าเขาเอาแต่นั่งเอามือแตะและนวดที่แก้มอยู่ตลอด"พี่ขอโทษนะ" หมิงพูด"ผมทำตัวเองเจ็บเองพี่หมิงไม่ต้องขอโทษผมหรอก" ปูนปั้นตอบ"พี่ลากปูนปั้นเข้ามาเกี่ยวด้วยแท้ ๆ ป่านนี้เสี่ยชัชเขาคงหมายหัวปูนปั้นไว้เรียบร้อยแล้วแหละ" หมิงพูด"เขาจะทำอะไรก็ช่างเขาเถอะเพราะผมไม่มีทางยอมให้ใครมาพูดจาดูถูกผมฝ่ายเดียวอยู่แล้ว อีกอย่างนะต่อให้เขาจะใหญ่แค่ไหนมันก็ไม่มีใครใหญ่เกินกฏหมายหรอก" ปูนปั้นถาม หมิงถอนหายใจออกมาทันทีเพราะถึงแม้เขาจะไกับครอบครัวของเทียนมานานได้รู้จักคนมีอำนาจอิทธิพลมาก็ไม่ใช่น้อย เขาจึงรู้ดีว่าคนที่มันใหญ่กว่ากฏหมายมันมีอยู่จริง ๆ "ของแบบนี้เราไม่รู้ใช่ว่าจะไม่มีนะ" หมิงพูด ปูนปั้นหันไปมองหมิงด้วยสีหน้างง ๆ เพราะเขาไม่เข้าใจว่าหมิงต้อ
เทียนได้ยินเสียงอ๊อดหน้าห้องก็ยิ้มออกมาทันทีเพราะคิดว่าคนที่มาน่าจะเป็นปูนปั้น เมื่อเช้าเขาตื่นมาไม่เจอปูนปั้นแล้วก็เลยรู้สึกนอยด์หน่อย ๆ แต่ก็คิดว่าไว้ค่อยคิดบัญชีทีหลังแล้วกันเพราะยังไงซะปูนปั้นก็ต้องเอาอาหารมาส่งให้เขาอยู่แล้ว พอได้ยินเสียงอ๊อดเทียนก็เลยรีบลุกไปเปิดประตูทันที"กว่าจะมาได้นะ" เทียนหุบยิ้มแล้วอึ้งมากที่คนตรงหน้าไม่ใช่ปูนปั้นแต่เป็นหมิงเพื่อนรักของเขา "โทษทีว่ะพอดีเกิดเรื่องนิดหน่อยเลยเอามาส่งให้ช้า" หมิงตอบแล้วเดินเข้าห้องของเทียนไปอย่างหน้าตาเฉย"ทำไมเป็นมึงว่ะ" เทียนถาม"เป็นกูแล้วมันทำไมว่ะ" หมิงแกล้งถามกลับเพราะเห็นสีหน้าเพื่อนดูผิดหวังมาก"เปล่า~ เห็นปกติไม่ใช่มึงที่มาส่งไงกูก็เลยสงสัยเฉย ๆ" เทียนตอบแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างเซ็ง ๆ หมิงเอาอาหารไปวางไว้ให้เทียนในครัวแล้วเดินมานั่งกับเทียนที่โซฟา"มึงเป็นไรว่ะ" เทียนสังเกตเห็นหมิงมีสีหน้าที่ดูเป็นกังวลใจแปลก ๆ จึงลองถามดู หมิงเงยหน้าขึ้นมามองเทียนก็ยิ่งรู้สึกลังเลเข้าไปใหญ่ว่าคสรจะเล่าดีไหม"มึงมีอะไรก็พูดดิ่...เราเพื่อนกันนะเว้ย" เทียนพูด
เทียนเอาแต่ตามติดปูนปั้นตลอดไม่ห่างไปไหนเลยขนาดเขาไล่ให้ไปไกล ๆ ก็ยังไม่สนใจ"ลุงจะตามผมทำไมเนี่ย" ปูนปั้นหยุดเดินแล้วหันไปถามเทียน"ก็ฉันมาเที่ยวอ่ะจะให้นอนเฉย ๆ ในห้องพักหรอ" "ลุงก็ไปเที่ยวของลุงสิจะมาเดินตามผมทำไม" "ก็ฉันอยากไปทางนี้พอดี" "ได้ งั้นลุงไปทางนี้เลยเดี๋ยวผมไปทางนู้นเอง" ปูนปั้นพูดแล้วเดินไปอีกทางกับตอนแรกแต่หลังจากที่เขาเดินหนีเทียนมายังไม่ถึงสามก้าวเทียนก็หมุนตัวกลับมาแล้วเดินตามเขาเหมือนเดิมอย่างหน้าตาเฉย ปูนปั้นรู้ได้ทันทีว่าเทียนกำลังตามเขาอยู่จึงหยุดเดินแล้วหันกลับไปหาเขาอีกครั้ง"ไหนบอกว่าจะไปทางนู้นไง" "ฉันเปลี่ยนใจแล้วอยากไปทางนี้แทน" "นี่ลุงกำลังกวนประสาทผมอยู่ใช่ไหม""ฉันไปทำแบบนั้นตอนไหน" "ลุงถ่อตัวเองมาหาผมถึงที่นี่แถมยังเดินตามติดผมต้อย ๆ ไม่พูดไม่จาถ้าแบบนี้ไม่เรียกว่าแกล้งแล้วจะเรียกว่าอะไรอีก" ปูนปั้นเข้าใจว่าที่เทียนกำลังทำอยู่ไม่ใช่เพราะเขาอยากอยู่ใกล้ตัวเองแต่กำลังต้องการกวนให้เขาโมโหต่างหาก"นายไม่คิดว่าฉันแค่อยากมาเที่ยวแล้วใช้เวลาอยู่กับนายบ้
"มะ ไม่ต้องชมหรอกหน่า~" ปูนปั้นตอบออกไปอย่างไม่เต็มเสียงด้วยความเขินอาย เทียนยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะก้มลงไปจูบกับปูนปั้นอีกครั้ง จ๊วบ...จ๊วบ...จ๊วบเทียนใช้มือสัมผัสที่หน้าอกของปูนปั้นแล้วออกแรงบีบขย้ำมันเบา ๆ "อือ...อ่า...อือ...อื้อ..."เทียนเลื่อนลงไปงับที่หน้าอกของปูนปั้นแล้วใช้ลิ้นตวัดเลียทำเอาปูนปั้นเสียวซ่านจนต้องแอ่นอกตามเขา"อ่า~ อือ..."ปูนปั้นยกแขนไปกอดรัดหัวของเทียนไว้แน่นจนหน้าของเทียนจมอยู่กับหน้าอกของเขา"โอ๊ย!" ปูนปั้นรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาเมื่ออยู่ ๆ เทียนก็ใช้ฟันงับเข้าที่หน้าอกของเขา ปูนปั้นเลยปล่อยแขนออกจากเทียนแล้วก้มหน้าลงมาดูเขาว่าทำไปทำไม"มันเจ็บนะ" "หงุดหงิดอ่ะ อยากกินลงท้องไปเลยไม่ให้ใครได้มีโอกาสเห็นอีก" เทียนหลงไหลในตัวของปูนปั้นมากจนเผลอคิดไปว่าถ้าคนอื่นได้เห็นก็คงตกหลุมรักเด็กคนนี้แน่ ๆ พอคิดไก้แบบนั้นเขาก็เกิดอาการหึงหวงขึ้นมาจนอยากจะจับปูนปั้นขังเอาไว้ในห้องเลย"เว่อร์ไปป่ะ" ปูนปั้นตอบ เทียนมองตาปูนปั้นก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วถอดเสื้อของเขาออกจากนั้นก็ตามด้วยกางเกง
"หมายความว่าไง" คุณโฉมหันไปถามวิสุทธิ์ด้วยสีหน้าตกใจ แววตาของวิสุทธิ์ยังคงมีแต่ความเศร้าอาลัยถึงเจ้านายอันเป็นที่รักอยู่ตลอดเวลาตอนนี้ในใจของเทียนรู้สึกหวิว ๆ ขึ้นมาแปลก ๆ "วันนั้นหลังจากถึงฮ่องกงคุณท่านก็รีบไปพบกับคุณเมฆทันทีเพื่อถามหาเหตุผลที่ทำให้คุณเมฆยอมทรยศหักหลังตระกูล ตอนแรกทุกอย่างก็เหมือนจะเป็นไปด้วยดีเพราะคุณเมฆยอมรับสารภาพออกมาตรง ๆ ว่าที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะถูกผีพนันเข้าสิง คุณเมฆหลอมตัวเข้าไปเล่นในบ่อนของคุณเหรียญแต่ติดหนี้จำนวนมากและหลังจากที่คุณเมฆหาเงินมาใช้คืนให้พวกคุณเหรียญไม่ได้เขาก็ถูกทำร้ายอยู่หลายครั้งจากคนที่คุณเหรียญส่งมา คุณเมฆกลัวว่าจะถูกคุณเอกต่อว่าและเปรียบเทียบกับคุณสายฟ้าจึงได้ยอมตกลงรับข้อเสนอจสกคุณเหรียญโดยการขโมยข้อมูลลับของพวกเราไปให้เพื่อแลกกับการหักลบยอดหนี้ที่ติดค้างไว้โดยจำนวนยอดที่ลบออกก็มากน้อยต่างกันไปตามความสำคัญของข้อมูลที่ให้ไปในแต่ละครั้งดังนั้นหลังจากที่คุณท่านได้ฟังคำสารภาพของคุณเมฆจึงได้ตัดสินใจว่าจะช่วยใช้หนี้ให้ทั้งหมดแทนเองแต่ต้องแลกกับการที่คุณเมฆต้องกลับไทยมาอยู่ในสายตาของคุณท่านและไม่อนุญาตให้คุณเมฆเข้าร่วมหรือดูแลในธุรกิจใด ๆ ในตร
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~เมฆเดินเข้ามาในบ้านของคุณเหรียญด้วยสีหน้าสลดเพราะเขารู้ตัวดีกว่าตัวเองทำให้เหรียญไม่พอใจมาก"สวัสดีครับคุณเหรียญ" เมฆเอ่ยทักทายอย่างไม่เต็มเสียง"หายไปนานเลยนะ" เหรียญพูด"ผมขอโทษครับ ผมไม่คิดว่าไอ้เทียนมันจะใช้วิธีขังผมเอาไว้ก็เลยทำให้แผนของเราล่าช้า" เมฆตอบ"นี่ถ้าคนของกูไม่ช่วยมึงออกมามึงก็คงเป็นได้แค่นักโทษของไอ้เทียนเท่านั้นสินะ อย่าลืมสิว่ามึงติดหนี้กูอยู่นะ ช่วยทำอะไรที่มันมีประโยชน์บ้างเพราะถ้ามึงไม่ทำงานใช้หนี้กูเนี่ยแหละจะเป็นคนเอาชีวิตมึงมาลบหนี้ที่มึงก่อไว้เอง" เหรียญพูด"ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำตามแผนของเราแต่ผมก็ไม่คิดว่านอกจากมันจะไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์พี่น้องในวัยเด็กแล้วมันยังกล้าสั่งขังผมต่อหน้าทุกคนอีกแถมตอนหลังมันยังสั่งคนยึดมือถือของผมไปอีก พูดแล้วก็เจ็บใจจริง ๆ " เมฆตอบ"เจ็บใจแล้วได้อะไรล่ะ ที่บ้านนั้นมีใครเห็นหัวมึงบ้างพ่อแม่มึงยังไม่เคยไปเยี่ยมมึงสักครั้ง เขาไม่แม้แต่จะไปขอร้องให้ไอ้เทียนเห็นใจมึงเลยด้วย ไหนจะย่ามึงอีก เขาอยู่รั้วบ้านเดียวกับมึงเขายังไม่กล้าขัดคำสั่งไอ้เทียนให้ปล่อยตัวมึงเลยยิ่งปู่มึงยิ่งแล้วใหญ่" เหรียญพูด"ที่ผ่าน
เทียนมาถึงโรงพยาบาลก็รีบตรงไปที่ห้องฉุกเฉินทันทีและเมื่อมาถึงเขาก็เห็นแม่ของตัวเองกำลังนั่งก้มหน้าร้องไห้โดยมีเจ๋งกับพายุยืนเฝ้าดูแลอยู่ข้าง ๆ "แม่" เทียนเรียกแล้วรีบเข้าไปหาแม่ทันที ดารินเองเมื่อได้ยินเสียงลูกชายก็รีบลุกขึ้นมาสวมกอด"หมอว่าไงบ้างครับ" เทียนถาม"ฮือ...ฮื้อ...อือ" "ยังไม่ออกมาเลยครับคุณเทียน" เจ๋งตอบแทนเมื่อเห็นว่าดารินเอาแต่ร้องไห้จนตอบอะไรเทียนไม่ได้"ใจเย็น ๆ นะครับแม่" เทียนพยายามปลอบแล้วใช้มือลูบหลังของดารินเบา ๆ "ฮึก...แม่...แม่ไม่เคยเห็นพ่อเป็นแบบนี้มาก่อนเลยเทียน...ฮือ...ฮื้อ" ดารินตอบ"แม่นั่งพักก่อนนะครับ" เทียนพูดแล้วพาดารินไปนั่งลงที่เดิมจากนั้นเขาก็หักไปมองหน้าพายุเพื่อส่งสัญญาณให้พายุเดินออกไปคุยกับเขา"ดูแลแม่ฉันดี ๆ " เทียนหันไปพูดกับเจ๋ง"ครับคุณเทียน" เจ๋งตอบจากนั้นเทียนกับพายุก็เดินออกจากหน้าห้องฉุกเฉินไป"นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ ๆ พ่อฉันถึงเป็นแบบนี้" เทียนถาม"พี่เวกัสกับพี่เจสันกำลังตรวจสอบอยู่ครับ" พายุตอบ"ไหนนายลองเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้าที่พ่อฉันจะเป็นแบบนี้มาสิ" เทียนพูด"วันนี้หลังจากที่คุณหล่งกลับมาจากบ้านคุณมุกดาท่านก็ขังตัวเองทำงานอยู่
"โอ้โห~ หาวขนาดนี้มึงไปแดกกาแฟดีกว่าไหม" บอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้าบ้านพักของเมฆทักบอดี้การ์ดอีกคนที่ยืนหาวติด ๆ กันมาหลายครั้งแล้ว"นี่เพิ่ง 4 ทุ่มกว่าเองทำไมผมง่วงแล้วว่ะพี่" "กูจะไปรู้มึงเหรอ เอ่อ! แต่จะว่าไปวันนี้กูก็รู้สึกง่วงแปลก ๆ นะ" "นั่นดิพี่ หาคนมาเปลี่ยนดีไหมผมกลัวผมเผลอหลับว่ะ" "มึงจะบ้าเหรอพวกเราเพิ่งจะผลัดเปลี่ยนกะกันไปเอง ใครเขาจะยอมมายืนแทนมึงเวลาเนี่ยอ่ะ" "แต่วันนี้บ้านใหญ่เงียบแปลก ๆ เนอะ" "เออว่ะ ปกติเดินกันให้วุ่นอย่างกับคนดีดยาทำไมวันนี้ไม่เห็นใครเลยว่ะ" "แปลก ๆ นะพี่ พวกเราไปดูกันหน่อยไหม" "ไปแล้วใครจะเฝ้าประตูว่ะ มึงไม่ต้องไปสนใจใครหรอกเอางานตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า""โธีพี่~ ไปแค่แป๊ปเดียวเองจะได้ไปหาอะไรมาไว้นั่งกินเล่นด้วย พี่ก็ดูดิล็อคแน่นหนาขนาดนี้ใครจะออกไปได้ต่อให้ไอ้คุณเมฆมันหายตัวได้จริงมันก็ยังหนีออกไปยากเลย" บอดี้การ์ดรุ่นพี่กำลังคิดตามคำพูดของรุ่นน้องคนสนิทอย่างลังเลใจเพราะตอนนี้เขาก็รู้สึกเบื่อเต็มทีที่ต้องมายืนประตูที่ปิดแน่นสนิทขนาดนี้"แต่ถ้าพี่เวกัสมาเดินลาดตระเวนแล้วไม่เจอคนเฝ้าที่นี่จะทำไงว่ะ" "พี่เวกัสเป็นคนของบ้านคุณหล่งเขาไม่ได้มาบ้านใหญ่ท
หลังจากที่เกรทเดินออกจากห้องไปเทียนก็รีบล้วงกระเป๋าหยิบเอาโทรศัพท์ของเขาออกมาโทรหาปูนปั้นทันที"ครับลุง" ปูนปั้นพูด"อยู่ไหนอ่ะ" เทียนถาม"อยู่ที่ร้านครับ" ปูนปั้นตอบ"โอเคดีใช่ไหม" เทียนถาม"ครับ ลุงเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย" ปูนปั้นพูด"ไม่มีอะไรวันนี้ปิดร้านแล้วรีบกลับบ้านนะ" เทียนพูด"โอเคแค่นี้ก่อนนะ" ปูนปั้นตอบ"อืม" เทียนตอบจากนั้นทั้งคู่ก็วางสายไป"คุณเทียนกังวลเรื่องอะไรเหรอครับ" เจ๋งถาม"แค่รู้สึกไม่สบายใจเฉย ๆ น่ะ" เทียนตอบ"ผมว่าคุณเกรทเขาก็คงอยากจะปั่นหัวคุณเทียนเล่น ไม่มีอะไรหรอกครับ" เจ๋งพูด"ฉันรู้จักเกรทดี เขาเป็นที่แค้นฝังลึกมากและถ้าเขาไม่คิดว่าจะอะไรเลยก็คงไม่ลงแรงตามหาตัวปูนปั้นจนเจอแบบนี้หรอกไหนจะเรื่องที่บริษัทอีก เกรทกลับมาครั้งนี้ฉันคงต้องวางแผนรับมือดี ๆ หน่อยละ" เทียนตอบ"งั้นเดี๋ยวผมจะให้โอมคอยไปดูแลความเรียบร้อยแถวบริเวณร้านของคุณปูนปั้นให้นะครับ" เจ๋งพูด"ดี แต่อย่าให้ปูนปั้นหรือคนที่ร้านตกใจเป็นอันขาดนะ" เทียนตอบ"ครับคุณเทียน" เจ๋งตอบ..ก๊อก ๆ ๆเสียงคนเคาะผนังบ้านน็อคดาวน์ของเมฆกดังมาจากข้างนอกซึ่งทำให้เมฆเลิกสนใจหนังสือการ์ตูนในมือแล้วขยับเข้าไปชิดกำแพ
กุ๊กไก่เห็นท่าทางไม่ประสาของธูปก็รู้สึกเอ็นดูมาก ๆ เพราะมันช่างต่างจากธูปที่ชอบเถียงเขาจนคอเป็นเอ็นที่ร้านมากเลย หลังจากขึ้นมานั่งบนรถทั้งคู่ก็ยังคงเกร็งกันอยู่ไม่น้อยแต่โดยรวมแล้วบรรยากาศมันมีความสุขมากกว่าความอึดอัดมาก "วันนี้พวกเราจะไปไหนกันเหรอ" กุ๊กไก่ถาม"ผมรู้มาว่าพี่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นก็เลยว่าจะพาไปทานโอมากะเสะร้านดังร้านนึงจองคิวยากมากแต่รับรองอร่อยแน่เพราะผมเห็นคนเขารีวิวกันเต็มเลยว่าระดับ 5 ดาว" ธูปตอบ"มันจะไม่แพงไปหน่อยเหรอ" กุ๊กไก่ถาม"ฮะ? อ๋อผมก็แค่อยากพาพี่ไปเลี้ยงของอร่อย ๆ ที่พี่ชอบก็แค่นั้นเอง" ธูปตอบ กุ๊กไก่มองไปรอบ ๆ ภายในรถแล้วก็หพยักหน้าออกมาเบา ๆ "ดูจากรถที่ขับแล้วอาหารมื้อนี้คงไม่แพงเกินไปสำหรับนายหรอกสินะ" กุ๊กไก่พูด ธูปอึ้งไม่น้อยที่อยู่ ๆ กุ๊กไก่ก็พูดกับเขาแบบนี้ในวันที่เขาเพิ่งจะชวนกุ๊กไก่ไปเดทครั้งแรกเลย"ถ้าพี่ไม่ชอบพวกเราไปทานอย่างอื่นก็ได้นะ" ธูปตอบ"ไม่ใช่ไม่ชอบแต่แค่เสียดายเงินอ่ะ" กุ๊กไก่พูด"ถ้างั้นเดี๋ยวผมจองร้านใหม่ให้ก็ได้ครับ" ธูปตอบแล้วยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาด้วยใบหน้าหงอย ๆ กุ๊กไก่ที่มองดูอยู่ก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเองเผลอพลั้งปากพูดจา
หลังจากเช็คเอ้าค์ออกจากที่พักปูนปั้นก็ไม่สนใจเทียนอีกเลย เขาเอาแต่นั่งเงียบใส่หูฟังมาตลอดทั้งทางเหมือนต้องการปิดช่องทางการสนทนาของเขากับเทียนยังไงยังงั้น เทียนเแงก็รู้สึกแปลกนะแต่เขาก็พยายามคิดไปในทางที่ดีก็คือปูนปั้นอาจจะกำลังเครียดกับปัญหาที่ร้านอยู่เลยไม่อยากคุยอะไรตอนนี้มาถึงคอนโดเทียนก็ช่วยปูนปั้นเอากระเป๋าขึ้นมาเก็บบนห้องทันทีและเมื่อปูนปั้นเห็นว่าเทียนกำลังจะออกจากห้องเขาก็รีบเอ่ยถามด้วยความสงสัย"แล้วนี่ลุงจะไปไหนเหรอ" ปูนปั้นถาม"ฮะ! ไป...ไปบ้านน่ะ" เทียนตอบ"ไปบ้าน ไปทำไมเหรอ" ปูนปั้นถาม"ก็พี่ซื้อขนมกลับมาด้วยไงเลยอยากจะเอาไปฝากที่บ้านกับคุณย่าสักหน่อย" เทียนตอบ"ขนมอะไรทำไมผมไม่เห็นเห็นเลย" ปูนปั้นถาม"อยู่ที่เบาะหลังรถไง ไม่เห็นจริงเหรอ" เทียนพูด ความจริงแล้วเขากำลังโกหกปูนปั้นอยู่เพราะเขาก็ไม่ได้ซื้ออะไรกลับมาจริง ๆ แต่ที่ต้องโกหกก็เพราะว่าเขากำลังจะออกไปเคลียร์ปัญหากับเกรทต่างหาก"งั้นผมขอติดรถลุงไปลงที่ร้านด้วยได้ป่ะ" ปูนปั้นถาม"พี่ว่าหนูเอารถตัวเองไปดีกว่านะเผื่ออยากกลับตอนไหนจะได้สะดวก พี่ไปก่อนนะ" เทียนพูดจบก็รีบชิ่งออกไปก่อนเลยเพราะกลัวจะหลุดโป๊ะต่อหน้าปูนปั้น"แ
เทียนเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำเห็นปูนปั้นกำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่จึงเดินเข้าไปหา"ทำอะไรอยู่เหรอ" เทียนถาม"อ่อ ผมกำลังดูรูปของเราสองคนที่ถ่ายด้วยกันวันนี้อยู่น่ะครับ" ปูนปั้นตอบ"อ๋อ" เทียนตอบแล้วนั่งลงข้างปูนปั้นทำให้ปูนปั้นต้องวางโทรศัพท์แล้วขยับลุกไปช่วยเช็คผมให้เขาแทน"ความจริงลุงไม่จำเป็นต้องปิเครื่องก็ได้นะเผื่อมีธุระจริง ๆ จะได้ใช้" ปูนปั้นพูด"ก็พี่สัญญาไว้แล้วไงว่าอาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์พี่จะให้เวลาหนูแค่คนเดียวส่วนเรื่องงานกลับไปค่อยทำทีหลังก็ได้อีกอย่างมีเจ๋งกับพ่อพี่คอยดูแลอยู่มันไม่มีปัญหาอะไรหรอก" เทียนตอบ"ผมก็แค่บอกเฉย ๆ ผมไม่อยากให้ลุงรู้สึกว่าผมเอาแต่ใจเกินไปจนลุงต้องยอมทำเพื่อผมขนาดนี้" ปูนปั้นพูด"พี่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น" เทียนตอบแล้วหมุนตัวหันไปหาปูนปั้น"หนูเป็นไรเนี่ย" เทียนถาม"เปล่า ผมไม่ได้เป็นไร" ปูนปั้นตอบ"งั้นก็ไม่ต้องคิดมากเข้าใจไหม" เทียนพูด"ครับ" ปูนปั้นตอบด้วยรอยยิ้มจากนนั้นเทียนก็ยื่นหน้าเข้าไปจูบบนริมฝีปากของปูนปั้น ปูนปั้นเองเริ่มจูบตอบเทียนตามแรงชักนำของเทียนจากนั้นเทียนก็ค่อย ๆ ดันให้ปูนปั้นนอนลงบนเตียงดี ๆ แล้วซุกไซร้ไปทั่วคอทั้งสองข้างของปู
01:13 น.เทียนเปิดประตูเข้ามาด้วยสภาพอิดโรยเพราะทั้งดื่มทั้งเหนื่อยจากการทำงาน เขาคลำหาสวิตช์ไฟเพราะวันนี้ปูนปั้นดังไฟหมดทุกดวงเลยแต่เมื่อไฟสว่างขึ้นภาพตรงหน้าก็ทำเอาเทียนสตั๊นไปเลย เขาอึ้งกับภาพตรงหน้าขาก้าวขาไม่ออกเพราะรอบห้องเต็มไปด้วยลูกโป่งสีชมพูฟ้าบนนั้นมีข้อความแสดงความยินดีกับวันเกิดของเขาด้วยแถมข้างหน้ายังมีอาหารวางเต็มโต๊ะไปหมดพร้อมกับเค้กก้อนนึงซึ่งดูก็รู้ว่าไม่มีทางซื้อมาแน่ ๆ เพราะการตกแต่งของมันดูไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ เทียนมองไปรอบ ๆ ห้องอย่างรู้สึกผิดก่อนจะก้าวขามาดูสิ่งที่ปูนปั้นตั้งใจทำไว้ให้ช้า ๆ ตอนนี้ในใจของเขารู้สึกเจ็บปวดมากและคิดว่าปูนปั้นเองคงเจ็บปวดไม่น้อย"เห้อ~" เทียนเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วนั่งลงที่เตียงเบา ๆ เื่อไม่ให้รบกวนการนอนของปูนปั้น เขายื่นมือไปเปิดโคมไฟตรงหัวเตียงเพื่อมองดูใบหน้าของปูนปั้นชัด ๆ"พี่ขอโทษนะครับ" เทียนพูดออกมาเบา ๆ แล้วก้มลงไปจุ๊บที่หน้าผากของปูนปั้นทำให้เขารู้สึกตัวทันทีแล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา"กลับมาแล้วเหรอ" ปูนปั้นถาม"ครับ" เทียนตอบ"เหนื่อยไหม" ปูนปั้นแม้จะรู้สึกง่ววจนแทบไม่อยากจะลืมตาแต่เขาก็เลือกที่จะถามไถ่เทียนก่อน"ไม่เหนื่อยคร