@ บ้านตระกูลหลิน
40 นาทีผ่านไป
ในที่สุดทุกคนก็มาถึงปลายทางเป็นที่เรียบร้อย คนขับรถส่วนตัวของคุณชางอีเดินมาเลื่อนประตูทางฝั่งผู้โดยสารเปิดออก ทุกคนต่างรู้สึกตัวตื่นขึ้นในสภาพที่ยังงัวเงีย
“ถึงแล้วทุกคน” คุณชางอีที่นั่งตรงประตูทางลงเอ่ยพลางทำท่าบิดตัว
ในฐานะเป็นเจ้าของบ้าน เขาและภรรยาที่หิ้วกระเตงซิงอีเดินนำเข้าบ้านไปก่อนล่วงหน้าเพื่อบอกให้แม่บ้านรีบจัดเตรียมห้องนอนไว้สำหรับแขกทันที ขณะที่อลันพึ่งลืมตาตื่นขึ้นแถมยังอยู่ในสภาพเดิม เด็กตัวน้อยยังนอนเกาะเขาราวกับเป็นโคอาล่าน้อยกำลังเกาะอยู่บนขอนไม้
“ซูมี่ถึงบ้านแล้ว”
อลันใช้มือเขย่าไหล่ซูมี่เบา ๆ ทว่าไร้ปฏิกิริยาตอบโต้ เขาจึงตัดสินใจอุ้มเธอลงโดยไม่ปลุกซ้ำ
บ้านตระกูลหลินช่างงดงามราวกับภาพวาดจากพู่กันจีน ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้นสไตล์จีนโบราณแต่ก็มีความร่วมสมัย ตัวบ้านทาสีแดงแซมขาว ทางเข้ามีประตูบานใหญ่สีแดงตั้งตระหง่าน เมื่อผ่านเข้าประตูมาจะพบกันสวนจีนขนาดใหญ่ที่ประดับประดาด้วยพันธุ์ไม้มงคลนานาชนิดตามความเชื่อจีนโบราณ ดังเช่น ต้นไผ่ ต้นหลิว เป็นต้น ทั้งยังมีสะพานหินโค้งทอดข้ามผ่านบ่อปลาขนาดใหญ่ไปยังซุ้มที่นั่งรับรองในสวน ถัดไปอีกโซนก่อนถึงตัวบ้านจะพบกับลานน้ำพุตั้งอยู่หน้าบ้านตามหลักฮวงจุ้ยที่ดี เมื่อเดินเข้ามาภายในบ้านจะพบห้องโถงต้อนรับขนาดใหญ่ราวกับเป็นท้องพระโรง มีโซฟาแกะสลักลวดลายมังกรทอง และข้างกันมีโต๊ะน้ำชาไว้รองรับแขกที่มาเยี่ยม เมื่อกวาดสายตามองขึ้นไปชั้นบนจะเห็นห้องลายไม้สักเรียงติดกันเป็นแถว คาดว่าเป็นห้องนอนส่วนตัวและของแขกทั้งชั้น
“ตามสบายนะอลัน เดี๋ยวให้อาเพียงขวัญพาขึ้นไปนะ”
“ขอบคุณครับคุณอาหลิน”
อลันก้มตัวโค้งคำนับขณะที่ยังอุ้มเด็กน้อยไว้ คุณเพียงขวัญพาเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นสองของบ้าน จากนั้นพาเดินเลี้ยวมาทางฝั่งขวา แล้วมาหยุดที่หน้าประตูบานที่สามจากซ้ายมือ
แอ๊ด...
เมื่อประตูเปิดออกให้คนภายนอกเห็น อลันถึงกับตกตะลึงการตกแต่งภายในช่างต่างกับข้างนอกมากโข ผนังและพื้นห้องถูกทาด้วยสีชมพูหวานแหวว เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งทุกชิ้นล้วนเป็นสีชมพูแม้กระทั่งเตียงนอน แถมยังเป็นเตียงสไตล์เจ้าหญิงในเทพนิยายมีผ้าคลุมสีขาวคล้ายมุ้งที่สามารถดึงลงมากั้นปิดตอนนอนได้ ไหนจะมีตุ๊กตาสัตว์แสนน่ารักรายล้อมรอบหัวเตียง อลันเดินมาข้างเตียงก่อนจะหย่อนตัวเด็กน้อยลงบนที่นอนนุ่มนิ่ม พร้อมแกะมือที่โอบคอเขาออกอย่างเบามือและดึงผ้าห่มขนเป็ดมาห่มกายให้เธอ
“อลันเลี้ยงเด็กเก่งจังลูก” คุณเพียงขวัญเอ่ยขณะที่ยืนมองอลันดูแลลูกสาวตัวเองเป็นอย่างดี
“ไม่เลยครับคุณอา ผมรู้แค่งู ๆ ปลา ๆ เองครับ”
“ใช่เหรอ เราไปเรียนรู้มาจากไหนล่ะ” คุณเพียงขวัญถามแบบไม่เชื่อว่าอลันรู้เพียงผิวเผิน
“ที่มหาลัยจัดกิจกรรมค่ายอาสาดูแลน้องบ้านเด็กกำพร้าบ่อยน่ะครับ ผมเลยหยิบประสบการณ์มาจากครูพี่เลี้ยงเด็กอีกที”
“มิน่าล่ะถึงได้คล่องขนาดนี้ ว่าแต่พอเรียนจบแล้วจะแต่งงานมีครอบครัวเลยไหม”
“ฮ่า ๆ ยังก่อนครับ คุณพ่อของผมต้องมอบหมายงานในบริษัทให้ทำกองโต คงไม่มีเวลาไปหาคนรู้ใจในตอนนั้นหรอกครับ”
“ก็จริงนะ แต่โปรไฟล์อลันดีขนาดนี้ อาว่าหาคนรู้ใจคงไม่ยาก เผลอ ๆ สาวน้อยสาวใหญ่น่าจะต่อคิวยาวไปถึงหน้าปากซอยบ้านแน่เลยเนอะ”
อลันยิ้มเขินตอบเพราะไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อดี คุณเพียงขวัญพลางขำเล็กน้อยก่อนจะขอตัวออกไปดูลูกคนเล็กที่นอนอยู่อีกห้อง และบอกเขาว่าห้องนอนถูกจัดไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องนี้เพียงแค่เดินออกจากประตูแล้วเดินข้ามฝั่งไปสองก้าวก็ถึง พูดง่าย ๆ อยู่ตรงข้ามห้องนอนของซูมี่เนี่ยแหละ
ชายหนุ่มยืนมองเด็กน้อยที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้อง
“พี่อลันคะ...” เด็กคนหนึ่งที่หลับไปยาวนานทำให้เขาต้องหันตัวกลับมาตามเสียงเรียกทัก
“ตื่นแล้วเหรอซูมี่”
“ค่ะ พี่อลันจะไปนอนแล้วเหรอ”
“ยังหรอก พี่แค่จะไปนอนเล่นที่ห้องน่ะ”
“นอนเล่น? คืออะไรคะ”
ซูมี่เป็นเด็กช่างถามและช่างสังเกต แถมเจ้าตัวยังพูดเก่งที่สุดในบ้าน หากเป็นคนไม่ชอบอยู่กับเด็กน่าจะปวดหัวที่ต้องคอยมาตอบคำถามเธอแทบจะทุกเวลา
“ก็คือ นอนพักแต่ยังไม่หลับตานอนจริง ๆ”
“อ๋องั้นซูมี่ไปนอนเล่นกับพี่อลันด้วยสิคะ ซูมี่ยังไม่ง่วง”
ประโยคล่าสุดที่เด็กน้อยพูดออกมา อลันถึงกับรีบมานั่งข้างเตียงพร้อมเอื้อมมือดึงแก้มเด็กน้อยยืดออกไปข้างหนึ่ง
“พี่เป็นผู้ชาย ซูมี่เป็นผู้หญิง เรานอนด้วยกันไม่ได้นะ”
“ทำไมเหรอคะ ป่าป๊ากับหม่าม้ายังนอนด้วยกันได้เลย”
“นั่นเพราะพวกท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว”
“ถ้าซูมี่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็นอนกับพี่อลันได้ถูกไหมคะ”
“ไม่ใช่ ๆ พี่จะอธิบายยังไงดีนะ ป่าป๊ากับหม่าม้าของซูมี่พวกเขาเป็นคู่กัน เลยนอนด้วยกันได้” อลันทำท่าใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างมาชิดบรรจบกัน
“แล้วต้องทำยังไงถึงจะเป็นคู่กันได้คะ”
“ถามเก่งเหลือเกิน เดี๋ยวโตขึ้นเราก็รู้เองแหละ”
“เล่าให้ฟังหน่อยไม่ได้เหรอคะ นะ ๆ”
ซูมี่เขย่าแขนอลันพร้อมส่งสายตาเว้าวอนอยากรู้เรื่อง แต่เขาคิดว่าเธอยังเด็กเกินไปที่จะรับรู้เรื่องราวทำนองนี้ หรือต่อให้เล่าก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี
“ไม่ได้...นอนเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปโรงเรียนสาย”
“พี่อลันต้องไปโรงเรียนไหมคะ”
“ไปสิ แต่พี่มีเรียนบ่าย เพราะฉะนั้นพี่นอนตื่นสายได้”
“แล้วคุณครูไม่ว่า...” ยังไม่ทันได้พูดต่อ เด็กน้อยก็ถูกฝ่ามือหนาปิดปากไว้สนิท
“เก็บคำถามไว้ถามพรุ่งนี้ นอนได้แล้ว”
“ก็ได้ ฝันดีค่ะพี่อลัน”
แม้เด็กน้อยจะทำหน้างอนแก้มป่องเป็นปลาทองเพราะยังไม่ได้คำตอบที่ิอยากรู้ ท้ายสุดก็ยอมเชื่อฟังพี่ชายที่แสนดี อลันลูบหัวเด็กน้อยอย่างอ่อนโยนก่อนเดินไปปิดไฟห้อง
“ฝันดีนะเด็กดื้อ”
ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องที่อลันนอนดังขึ้น ชายหนุ่มดีดตัวเด้งเป็นสปริงและเดินเกาหัวแกรก ๆ ไปเปิดประตูห้อง เดาว่าเด็กตัวแสบมาปลุกเขาตั้งแต่เช้าตรู่แน่นอน“ซูมี่พี่บอกแล้วไงว่า พี่มีเรียนตอน...”“อาเอง ขอโทษที่มารบกวนอลันนะลูก”คุณเพียงขวัญเอ่ยด้วยสีหน้าดูเป็นกังวลบางอย่าง อลันจึงสะบัดความง่วงนอนออกทันใด“ไม่เป็นไรครับคุณอา มีอะไรหรือเปล่าครับ”“อาขอความช่วยเหลือจากเราหน่อยสิ ช่วยพาซูมี่ไปส่งที่โรงเรียนและรับกลับบ้านหน่อยได้ไหม ซิงอีไข้ขึ้นสูงมาก อากำลังจะพาไปหาหมอ คุณหลินก็ออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วด้วยสิ”สีหน้าเธอดูคร่ำเครียดที่แยกร่างทำหน้าที่แม่ดูแลลูกสองคนพร้อมกันไม่ได้ อลันเข้าใจความรู้สึกของเธอเป็นอย่างดี จึงตอบรับที่จะช่วยเหลือแบบไม่ลังเล“ได้เลยครับคุณอา เดี๋ยวผมไปส่งน้องให้ครับ”“ขอบใจนะอลัน เราขับรถเป็นและมีใบขับขี่ใช่ไหม”“ใช่ครับ”“อ่านี่กุญแจรถ ซูมี่เลิกเรียนตอน 4 โมงเย็นค่อยเอารถมาคืนตอนไหนก็ได้ที่สะดวกเลย อาฝากหน่อยนะลูก”คุณเพียงขวัญยื่นกุญแจรถเบนซ์คันหรูป้ายแดงให้กับเขา พร้อมบอกพิกัดที่ตั้งโรงเรียนให้อลันก่อนจะรีบอุ้มเจ้าซิงอีไปโรงพยาบาลด้วยรถอีกคัน เมื่อพูดคุยจบอลั
12 ปีก่อนเวลา 20.00 น.@ HTND Hotel, Bangkokโรงแรมหรู 3 ชั้น ระดับ 5 ดาวใจกลางกรุง ตั้งตระหง่านติดริมฝั่งแม่น้ำออกแบบโครงสร้างสไตล์ไทยประยุกต์ ตัวอาคารถูกออกแบบให้มีความผสมผสานระหว่างไทยแท้ร่วมกับความเป็นยุโรป หรือที่รู้จักกัน 'สไตล์โคโลเนียล' โดยจะใช้ไม้ อิฐ และปูนเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง ผนังปูนถูกทาทับด้วยสีเหลืองอ่อนตัดกับสีขาวที่ถูกทาลงบนโครงไม้แกะสลักลายกนกอย่างลงตัว พื้นทางเดินภายในปูด้วยวัสดุไม้เคลือบเงามันวาว ชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์รวมถึงของตกแต่งโดยส่วนใหญ่เป็นของมูลค่าสูง และได้รับมาจากการประมูลวัตถุโบราณที่หายาก เพื่อให้แขกที่มาเข้าพักรู้สึกไม่ได้แค่มาพักผ่อน แต่ก็ยังได้เหมือนมาเดินเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ของสะสมไปในตัวในค่ำคืนนี้บริเวณลานจอดรถหนาแน่นไปด้วยรถหรูหลากหลายแบรนด์ชั้นนำระดับโลก กลุ่มผู้คนฐานะมั่งคั่งต่างพากันเดินทยอยเข้าไปยังห้องจัดเลี้ยงตามที่ถูกระบุไว้ในการ์ดเชิญเมื่อมาถึงยังห้องจัดงาน ทุกคนต่างร่วมวงสนทนากันประดุจดังญาติมิตรที่สนิทชิดเชื้อมาตั้งแต่ชาติปางก่อน หากสังเกตมองไปที่บนเวที จะพบกับป้ายขนาดใหญ่ที่ระบุข้อความเอาไว้ว่า‘งานเปิดตัวโรงแรมในเครือ HTND แห่งแร
ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องที่อลันนอนดังขึ้น ชายหนุ่มดีดตัวเด้งเป็นสปริงและเดินเกาหัวแกรก ๆ ไปเปิดประตูห้อง เดาว่าเด็กตัวแสบมาปลุกเขาตั้งแต่เช้าตรู่แน่นอน“ซูมี่พี่บอกแล้วไงว่า พี่มีเรียนตอน...”“อาเอง ขอโทษที่มารบกวนอลันนะลูก”คุณเพียงขวัญเอ่ยด้วยสีหน้าดูเป็นกังวลบางอย่าง อลันจึงสะบัดความง่วงนอนออกทันใด“ไม่เป็นไรครับคุณอา มีอะไรหรือเปล่าครับ”“อาขอความช่วยเหลือจากเราหน่อยสิ ช่วยพาซูมี่ไปส่งที่โรงเรียนและรับกลับบ้านหน่อยได้ไหม ซิงอีไข้ขึ้นสูงมาก อากำลังจะพาไปหาหมอ คุณหลินก็ออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วด้วยสิ”สีหน้าเธอดูคร่ำเครียดที่แยกร่างทำหน้าที่แม่ดูแลลูกสองคนพร้อมกันไม่ได้ อลันเข้าใจความรู้สึกของเธอเป็นอย่างดี จึงตอบรับที่จะช่วยเหลือแบบไม่ลังเล“ได้เลยครับคุณอา เดี๋ยวผมไปส่งน้องให้ครับ”“ขอบใจนะอลัน เราขับรถเป็นและมีใบขับขี่ใช่ไหม”“ใช่ครับ”“อ่านี่กุญแจรถ ซูมี่เลิกเรียนตอน 4 โมงเย็นค่อยเอารถมาคืนตอนไหนก็ได้ที่สะดวกเลย อาฝากหน่อยนะลูก”คุณเพียงขวัญยื่นกุญแจรถเบนซ์คันหรูป้ายแดงให้กับเขา พร้อมบอกพิกัดที่ตั้งโรงเรียนให้อลันก่อนจะรีบอุ้มเจ้าซิงอีไปโรงพยาบาลด้วยรถอีกคัน เมื่อพูดคุยจบอลั
@ บ้านตระกูลหลิน40 นาทีผ่านไปในที่สุดทุกคนก็มาถึงปลายทางเป็นที่เรียบร้อย คนขับรถส่วนตัวของคุณชางอีเดินมาเลื่อนประตูทางฝั่งผู้โดยสารเปิดออก ทุกคนต่างรู้สึกตัวตื่นขึ้นในสภาพที่ยังงัวเงีย“ถึงแล้วทุกคน” คุณชางอีที่นั่งตรงประตูทางลงเอ่ยพลางทำท่าบิดตัวในฐานะเป็นเจ้าของบ้าน เขาและภรรยาที่หิ้วกระเตงซิงอีเดินนำเข้าบ้านไปก่อนล่วงหน้าเพื่อบอกให้แม่บ้านรีบจัดเตรียมห้องนอนไว้สำหรับแขกทันที ขณะที่อลันพึ่งลืมตาตื่นขึ้นแถมยังอยู่ในสภาพเดิม เด็กตัวน้อยยังนอนเกาะเขาราวกับเป็นโคอาล่าน้อยกำลังเกาะอยู่บนขอนไม้“ซูมี่ถึงบ้านแล้ว”อลันใช้มือเขย่าไหล่ซูมี่เบา ๆ ทว่าไร้ปฏิกิริยาตอบโต้ เขาจึงตัดสินใจอุ้มเธอลงโดยไม่ปลุกซ้ำบ้านตระกูลหลินช่างงดงามราวกับภาพวาดจากพู่กันจีน ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้นสไตล์จีนโบราณแต่ก็มีความร่วมสมัย ตัวบ้านทาสีแดงแซมขาว ทางเข้ามีประตูบานใหญ่สีแดงตั้งตระหง่าน เมื่อผ่านเข้าประตูมาจะพบกันสวนจีนขนาดใหญ่ที่ประดับประดาด้วยพันธุ์ไม้มงคลนานาชนิดตามความเชื่อจีนโบราณ ดังเช่น ต้นไผ่ ต้นหลิว เป็นต้น ทั้งยังมีสะพานหินโค้งทอดข้ามผ่านบ่อปลาขนาดใหญ่ไปยังซุ้มที่นั่งรับรองในสวน ถัดไปอีกโซนก่อนถึงตัวบ้
12 ปีก่อนเวลา 20.00 น.@ HTND Hotel, Bangkokโรงแรมหรู 3 ชั้น ระดับ 5 ดาวใจกลางกรุง ตั้งตระหง่านติดริมฝั่งแม่น้ำออกแบบโครงสร้างสไตล์ไทยประยุกต์ ตัวอาคารถูกออกแบบให้มีความผสมผสานระหว่างไทยแท้ร่วมกับความเป็นยุโรป หรือที่รู้จักกัน 'สไตล์โคโลเนียล' โดยจะใช้ไม้ อิฐ และปูนเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง ผนังปูนถูกทาทับด้วยสีเหลืองอ่อนตัดกับสีขาวที่ถูกทาลงบนโครงไม้แกะสลักลายกนกอย่างลงตัว พื้นทางเดินภายในปูด้วยวัสดุไม้เคลือบเงามันวาว ชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์รวมถึงของตกแต่งโดยส่วนใหญ่เป็นของมูลค่าสูง และได้รับมาจากการประมูลวัตถุโบราณที่หายาก เพื่อให้แขกที่มาเข้าพักรู้สึกไม่ได้แค่มาพักผ่อน แต่ก็ยังได้เหมือนมาเดินเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ของสะสมไปในตัวในค่ำคืนนี้บริเวณลานจอดรถหนาแน่นไปด้วยรถหรูหลากหลายแบรนด์ชั้นนำระดับโลก กลุ่มผู้คนฐานะมั่งคั่งต่างพากันเดินทยอยเข้าไปยังห้องจัดเลี้ยงตามที่ถูกระบุไว้ในการ์ดเชิญเมื่อมาถึงยังห้องจัดงาน ทุกคนต่างร่วมวงสนทนากันประดุจดังญาติมิตรที่สนิทชิดเชื้อมาตั้งแต่ชาติปางก่อน หากสังเกตมองไปที่บนเวที จะพบกับป้ายขนาดใหญ่ที่ระบุข้อความเอาไว้ว่า‘งานเปิดตัวโรงแรมในเครือ HTND แห่งแร