แชร์

มีแฟนแล้ว

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-30 21:40:29

12 ปีต่อมา

รถเบนซ์คันหรูสีดำแล่นอยู่บนท้องถนนด้วยความเร็วคงที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พวงมาลัยถูกควบคุมโดยหนุ่มหล่อหน้าตี๋ ผิวพรรณขาวเหมือนหยวกกล้วย ชายหนุ่มสวมใส่เสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูคลุมทับเสื้อยืดสีดำ ท่อนล่างถูกปกปิดด้วยกางเกงยีนสีฟอกตัดกับรองเท้าผ้าใบสีขาวล้วน ทว่ามีรอยเลอะไปด้วยคราบปูนและเปื้อนดินทรายในบางจุด เขามาพร้อมกับหญิงสาวหน้าตาสะสวยจิ้มลิ้ม ใบหน้าถูกเติมแต่งด้วยเครื่องประทินโฉม พร้อมเสริมความเซ็กซี่ด้วยการกรีดอายไลเนอร์ตัดนัยน์ตาสีดำนิลให้ดวงตาดูมีมิติมากขึ้น ทรงผมเหยียดตรงยาว อีกทั้งยังไว้ผมข้างหน้าเป็นหน้าม้าสไลด์ตามฉบับสาวเกาหลี สีผมของหล่อนเป็นสีน้ำตาลคาราเมล แถมเส้นผมยังอบอวลไปด้วยความหอมของน้ำยาหมักผมกลิ่นวานิลลา เธอสวมใส่ชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัย เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้น กระโปรงทรงเอความยาวเหนือเข่าผ่าด้านข้าง แต่ไม่ใส่เข็มขัดนักศึกษาและยังสวมรองเท้าส้นสูงสีดำเงา

“วันนี้ไม่ไปส่งที่ตึกนะ เช้านี้มีเตรียมงานประชุมเชียร์คณะ” หนุ่มตี๋ที่ขับรถเอ่ยบอกหญิงสาวที่นั่งข้างกัน

“รู้แล้ว ไม่ต้องห่วงดูแลตัวเองได้” หญิงสาวตอบอย่างห้วน ๆ

“เหอะ เห็นพูดแบบนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่ง จนตอนนี้อยู่ปีสี่ก็ยังวิ่งหนีผู้ชายที่มาดักรอจีบกันเป็นฝูงอยู่ดี”

เพี๊ยะ!

“โอ๊ย! เจ็บนะซูมี่”

หนุ่มตี๋โดนสาวที่ชื่อว่า ‘ซูมี่’ ใช้ฝ่ามือฟาดที่กระหม่อมเสียงดังเพี๊ยะไปหนึ่งที จนเขาต้องถอนมือข้างหนึ่งที่จับพวงมาลัยรถมาลูบหัวตัวเองเบา ๆ

“สมน้ำหน้า อยากมาพูดประชดประชันใส่ก่อนทำไมล่ะซิงอี” เธอโต้ตอบชายหนุ่มที่ชื่อ ‘ซิงอี’ กลับไป

“น่าเบื่อโคตร ผมต้องเป็น ไม้กันหมา ให้พี่ไปจนถึงเมื่อไหร่กัน เลิกเสียเถอะไอ้แต่งหน้าวอก กรีดตาหนาอย่างกับปลิง แถมทาปากแดงเหมือนไปกินเลือดมา ลองมาเรียนแบบหน้าสดดูบ้าง ผมจะได้เหนื่อยน้อยลงหน่อย”

ซูมี่และซิงอี พี่น้องสายเลือดเดียวกันที่ลืมตาออกมาดูโลกห่างกันเพียงปีเดียว ตอนนี้ทั้งคู่โตเป็นหนุ่มหล่อและสาวสวยเต็มตัว โดยเฉพาะซูมี่เรียกว่าเนื้อหอมจนหัวกระไดบ้านไม่แห้งเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้องทั้งในและนอกคณะต่างพากันมาขายขนมจีบกันยกใหญ่ ถึงขั้นต้องเดือดร้อนน้องชายมาคอยช่วยกันท่าให้ทุกรอบ

ปัจจุบันซูมี่เรียนอยู่ชั้นปี 4 คณะบริหารธุรกิจสาขาวิชาการจัดการโรงแรม เหตุผลที่เลือกเรียนสาขานี้ ง่าย ๆ ไม่ต้องคิดเยอะ เพราะดันปลื้มผู้ชายคนหนึ่งมานานแสนนาน เลยอยากเรียนตามเขาเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม กว่าจะได้เรียนก็แทบจะตีกันตายกับที่บ้าน คุณพ่ออยากให้ลูกทั้งสองเรียนต่อในสาขาวิชาที่นำไปต่อยอดในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของครอบครัวได้ จึงวาดฝันให้เรียนหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับงานโยธา ทว่าลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนดันเรียนไม่ตรงกับใจที่พ่อต้องการ ถือว่ายังดีที่ลูกชายคนเล็กช่วยสานฝันให้คนเป็นพ่อ

ได้ ซิงอีเลือกเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาวิชาวิศวกรรมโยธาซึ่งตอนนี้เรียนอยู่ชั้นปี 3 มหาวิทยาลัยเดียวกันกับพี่สาว

“แกไม่ใช่ผู้หญิงจะไปรู้อะไร ความสวยกับผู้หญิงนั้นเป็นของคู่กัน” ซิงอีถอนหายใจแรงยิ่งกว่าเสียงแอร์ในรถก่อนจะพูดโต้ตอบซูมี่

“ยังไงก็รีบ ๆ หาแฟนสักคนเถอะ ถือว่าผมขอ”

“อีกไม่นานหรอก ฉันจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว กรี๊ด” ซูมี่พูดพลางเขินจนตัวบิดเป็นเลขแปด

“ฮะ นี่อย่าบอกว่าพี่ยังรอเฮียอยู่เหรอ”

“เออสิ ก็พี่เขาให้สัญญากับฉันไว้แล้วนี่นา”

‘เฮีย หรือ พี่’ ที่ทั้งสองคนกำลังพูดถึง ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหนเขาคือ อลัน อชิรวิชญ์ หฤษฎ์ธานุเดช ทายาทเจ้าของกิจการโรงแรมและรีสอร์ตในเครือ HTND ทว่าชีวิตเขาตอนนี้เป็นอย่างไรก็ไม่มีใครทราบได้ เพราะหลังเรียนจบปริญญาตรีในประเทศไทย อลันก็ถูกส่งตัวไปเรียนต่อปริญญาโททางด้านการโรงแรมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ทันที

“เฮียไปอยู่สวิตฯ ตั้งหลายปีแล้ว คงไม่กลับมาไทยแล้วมั้งพี่ เผลอ ๆ อาจได้เมียเป็นฝรั่งตาน้ำข้าวไปแล้วแหละ”

คำพูดของน้องชายในสายเลือดสร้างความไม่พอใจให้กับพี่สาวเป็นอย่างมาก เขาจึงโดนฟาดกระบาลไปอีกหนึ่งชุด

เพี๊ยะ!

“แกขโมยปากสุนัขมาพูดหรือไง! สัญญาใจกันไว้แล้ว ไม่มีทางที่เขาจะมีเมีย”

“พี่ยึดคำพูดของเฮียเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วได้ไงวะ เป็นผมถอดใจไปแล้วเสียเวลาชีวิตเปล่า ๆ”

“ค่าพ่อคนหล่อเลือกได้ พูดอย่างกับตัวเองมีแฟนมาแล้วเป็นสิบคน นี่ฉันเรียนจะจบอยู่แล้ว ยังไม่เห็นแกควงสาวสักคนให้เห็นผ่านลูกตาทั้งสองข้างของฉันเลย”

“จะเห็นได้ไง เวลาหาแฟนแทบจะไม่มี ทุกวันนี้แค่ไปรับ-ส่งพี่ ผู้หญิงเกือบครึ่งมหาลัยพากันเข้าใจผิดไปแล้วว่าผมกับพี่เป็นแฟนกัน เฮ้อ...พูดแล้ว คนหล่อก็เศร้าใจ อยากดื่มเหล้าเข้ม ๆ”

“เฮ้ยฉันก็อยาก งั้นคืนนี้ไปดื่มกัน”

“ไม่ว่างครับ คืนนี้มีนัดเล่นเกมกับเพื่อน”

“เพื่อนผู้ชาย หรือ ผู้หญิงจ๊ะพ่อหนุ่ม”

“ไม่เสือกครับพี่”

“เออค่ะ”

ตอนเด็ก ๆ ทั้งคู่ดูตัวติดกันและรักกันมาก ไฉนตอนนี้แทบเหมือนหนังที่ฉายคนละม้วนฟิล์ม แต่ลึก ๆ ก็เชื่อว่าซิงอีแอบห่วงพี่สาวอยู่ไม่น้อย ไม่งั้นคงไม่มากันท่าพวกผู้ชายที่ชอบมาดักรอจีบพี่สาวตัวเองที่หน้าตึกเรียนแทบทุกวันหรอก เผอิญวันนี้เขาติดงานสำคัญของคณะจึงไม่มีเวลาไปเป็นบอดี้การ์ดให้ วันนี้อาจจะต้องปล่อยซูมี่ลงตรงไหนสักที่เพื่อรอให้กลุ่มผู้ชายพวกนั้นสลายตัวไปจากหน้าตึกคณะ ประเด็นคือจะลงที่ไหนดีล่ะ แถมที่ลงต้องถึงก่อนตึกคณะวิศวะด้วย

“ว่าแต่ แกจะหย่อนฉันลงตรงไหนก่อน”

“ยังไม่ได้คิดเลย มีสักที่ในใจไหม”

“โรงอาหารก็แล้วกัน จะได้ไปซื้อของกินเล่นด้วย”

“อันนี้คิดแล้วใช่ไหม จะหนีผู้ชายที่มาดักจีบแต่ดันเลือกลงแหล่งรวมพลนักศึกษาเลยเนี่ยนะ” ซิงอีส่ายหัวกับความคิดของพี่สาวตัวเอง

“แล้วแกจะให้ฉันลงตรงไหน ก่อนถึงตึกคณะแกมันก็มีที่เดียวไหมยะ”

“ลงบ่อปลาไหม เดี๋ยวผมเลี้ยวจอดให้เลย” ซิงอีกวนประสาทใส่พี่สาวตัวเอง

“อยากโดนเขกกะโหลกอีกรอบไหมจ๊ะน้องรัก เอาอย่างนี้เพื่อไม่ให้แกลำบากแถมไม่ต้องห่วงพี่สาวคนสวยจะเป็นอันตราย งั้นฉันลงที่เดียวกับแกเลยแล้วกัน”

“ที่เดียวกับผมคือ?”

“ก็ตึกวิศวะไง”

ดูท่าจะบรรลัยกว่าเดิม

“พูดจา...แค่ไปนั่งแป๊บเดียว แกจะไปเชียร์ลีดเดอร์อะไรก็ไปทำเถอะ”

“ประชุมเชียร์”

“เออนั่นแหละ”

ในเมื่อพี่สาวยืนยันการตัดสินใจของตัวเอง ว่าจะไปนั่งแอบที่ตึกคณะวิศวะก่อน น้องชายอย่างเขาเห็นทีจะขัดพี่สาวไม่ได้ ถึงแม้เตือนไปแล้วว่าอาจจะ ‘บรรลัย’ ก็ตาม

ทั้งคู่มาถึงที่ลานจอดรถของคณะ ซิงอีเรียกให้ซูมี่เดินตามเขามาติด ๆ จากนั้นน้องชายจึงถอดเสื้อช็อปให้พี่สาวเอาไว้คลุมหน้าตาเพื่อหลบผู้คนที่เดินผ่านไปมา เพราะรู้ดีว่าเธอเป็นคนดังพอสมควรในมหาวิทยาลัย

“เท่จังเลยค่ะพี่ ถอดเสื้อช็อปให้หนูแล้ว มอบเกียร์ให้ด้วยได้ไหมคะ”

ซูมี่ลองกวนประสาทน้องชายกลับดูบ้าง โดยแกล้งทำท่าเหมือนหญิงสาวที่อยากมีแฟนเป็นหนุ่มวิศวะจนเนื้อเต้น แต่เธอคงลืมไปว่าไม่มีใครจะกวนอวัยวะเบื้องล่างได้มากกว่าเขาอีกแล้ว

“อยากได้เกียร์เหรอ งั้นก็เปิดหน้าโชว์ไปเลย เชื่อสิสักพักหนุ่มวิศวะจะวิ่งมาถวายเกียร์ใส่พานให้เป็นฝูง เอาเสื้อมา!”

ซิงอีพูดจบก็ดึงเสื้อช็อปที่คลุมหน้าซูมี่ออกทันที โดยไม่คิดห่วงแล้วพี่สาวว่าจะเป็นอย่างไรแล้ว

“ไอ้น้องบ้า!” ซูมี่รีบวิ่งตามไปดึงเอาเสื้อช็อปมาคลุมไว้แบบเดิม

ซูมี่เดินตามซิงอีมาหยุดตรงหน้าห้องที่ดูคล้ายห้องเก็บของก่อนที่ซิงอีจะหมุนลูกบิดประตูเปิดเข้าไป ภายในห้องเป็นห้องสี่เหลี่ยมที่มีพื้นที่แคบ หากมีคนอยู่ในนี้เกิน 5 คน ดูท่าว่าจะแย่งอากาศกันหายใจ โชคดีหน่อยที่ห้องนี้ยังติดตั้งแอร์ไว้ ฝั่งซ้ายมือมีอุปกรณ์งานเชียร์ชิ้นน้อยใหญ่เก็บไว้มากมาย บางชิ้นก็เป็นของเหมือนพึ่งซื้อมาใหม่ บ้างก็ดูเหมือนไม่ได้ใช้งานแล้วแต่ยังไม่ได้โละทิ้ง ขณะที่อีกฝั่งเป็นมุมนั่งพักผ่อนหย่อนใจมีโซฟาหนังสีน้ำตาลขนาดกลางนั่งได้ประมาณ 3 คน และข้างกันมีโต๊ะไม้สีซีดเผือกเอาไว้วางสิ่งของ ซิงอีเดินไปหยิบรีโมทแอร์กดปุ่มเพิ่มอากาศหายใจให้คนในห้องแล้วพลางชี้นิ้วไปที่โซฟา

“นั่งรอตรงนี้ เดี๋ยวผมมา”

“แกจะไปไหน”

“ไปคุยกับประธานเชียร์” ซูมี่อ้าปากเหมือนจะพูดบางอย่างต่อ แต่ถูกซิงอีพูดดักคอไว้เสียก่อน

“ไม่ต้องตามมา ด้วยความปรารถนาดีจากผม”

ซิงอีหันไปชี้นิ้วใส่ซูมี่พี่สาวจอมดื้อ รู้ว่าตัวเองเป็นเป้าสายตาของชายหนุ่มหลายคน ก็ยังจะทำตัวเป็นเด็กวิ่งเล่นในสนามเด็กเล่นอยู่นั่นแหละ แค่ซิงอีพาพี่สาวมาแอบไว้ในห้องเก็บอุปกรณ์เชียร์ของคณะก็ไม่รู้จะต้องรับผิดชอบอะไรหลังจากนี้ คิดได้แค่ต้องรีบไปบอกประธานเชียร์ให้ทราบเรื่องไว้ก่อน

เมื่อน้องชายเดินออกไปได้สักพัก พี่สาวก็เอนกายพิงโซฟาพลางกดมือถือไถดูข้อมูลข่าวสารทางสื่อโซเซียลของตัวเองคั่นเวลา ด้วยห้องที่เล็กจิ๋วทำให้ไอความเย็นของแอร์แผ่ไปทั่วห้องอย่างรวดเร็ว บรรยากาศในตอนนี้เหมือนอยู่ที่ขั้วโลกเหนือและช่างชวนเคลิ้มให้พักสายตาทุกขณะ จนในที่สุดเปลือกตาของหญิงสาวก็ถูกกดทับด้วยความเย็น เธอผล็อยหลับไปในที่สุด

มุมมองของซูมี่

แอ๊ด...

เสียงประตูถูกเปิดเข้ามาจากภายนอกสัมผัสได้ถึงเสียงฝีเท้าที่ก้าวเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ เย้ ซิงอีกลับมาแล้วสินะ ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเพื่อถามไถ่น้องชายว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทว่าดันไม่ใช่เขา คำแรกที่เอ่ยพูดในใจหลังจากเห็นบุคคลปริศนาตรงหน้าคือคำว่า ‘ซวยแล้ว’

“เรียนภาคไหนครับ”

ถ้ารู้จักกันคงตอบกวนบาทาไปแล้วว่าภาคเช้าไม่ก็ภาคค่ำ อันที่จริงคำถามนี้ตอบโคตรง่ายหากเป็นนักศึกษาคณะวิศวะจริง

“เอ่อ...” เอาไงดีนะ ควรบอกความจริงไปเลยหรือแสดงละครตบตาไปก่อนดี

“ไม่ใช่เด็กวิศวะเหรอครับ” ก็ไม่ใช่น่ะสิยะ ถ้าดูออกจะถามเพื่อ!

“ม...ไม่ใช่ค่ะ”

"แล้วมาอยูที่นี่ได้ไง" เหาะพรมวิเศษมามั้ง เอ้อ!

"มากับน้องชายค่ะ" ซิงอี...เจ้ขอโทษนะ

“น้องชายชื่ออะไรครับ”

“หลิน ซิงอีค่ะ”

“แล้วคุณล่ะ”

“หลิน ซูมี่ค่ะ” เขาจะเช็กสำมะโนครัวเหรอว่ามีใครบ้าง?

“ซูมี่เหรอ” แคะหูบ้างเถอะพ่อคุณถือว่าขอ ฉันคิดด่าเขาในใจไปอย่างนั้นแหละ แต่ความเป็นจริงแล้วพยักหน้าตอบแต่โดยดีเพราะไม่มีพวก

จู่ ๆ นายทรงผมหัวเห็ดก็เดินเขยิบตัวเข้ามาทีละก้าว ส่วนฉันก็ก้าวถอยออกเว้นระยะห่างจากเขา ไม่ทันไรนายคนนี้ก็เอามือข้างขวาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบอะไรบางอย่าง นี่ก็เดาไม่ถูกว่าสิ่งของที่นายหัวเห็ดหยิบคืออะไร อย่างแรกภาวนาอย่าให้เป็นอาวุธหรือของมีคมก็พอ อย่างที่สองหากประเมินสถานการณ์แล้วสุ่มเสี่ยงต่อชีวิต ฉันพร้อมที่จะกรีดร้องให้คอแตกและเตะผ่าลูกมะเฟืองสองลูกของเขาตามศาสตร์แม่ไม้มวยไทยที่เคยร่ำเรียนมาสมัยอยู่ม.ปลายทันที

“ขอไลน์หน่อยครับ”

“คะ?”

“ได้ยินชื่อหนาหูมาสักพักแล้ว บังเอิญจังที่ได้เจอ...ตัวจริงสวยมาก เราอยากจะรู้จักซูมี่มากขึ้นได้หรือเปล่า”

ฉันก็พึ่งจะมาเข้าใจคำกล่าวที่ว่า ‘ความสวยเป็นเหตุ’ ก็ตอนนี้แหละ หนีรอดจากผู้ชายนับสิบมาได้ทุกรอบ ครานี้ท่าจะไม่รอด...สรุปว่าฉันต้องให้ไอดีไลน์กับเขาจริงเหรอเนี่ย! มันคงจะเป็นเพียงทางเดียวที่จะออกจากห้องรูหนูด้วยอวัยวะที่ครบ 32

ขณะที่กำลังจะเอื้อมมือหยิบมือถือจากเขา จู่ ๆ มือถือของนายนั่นก็ถูกปัดปลิวลอยขึ้นฟ้าโดยบุคคลที่สามที่เข้ามาในห้อง ซิงอี! น้องชายสุดที่รักของพี่ที่เป็นดังอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยพี่สาวออกจากปราสาทหอคอย ถือว่ายังดีที่มือถือนายหัวเห็ดร่วงหล่นไปแหมะบนโซฟาพอดี เห็นใจจะได้ไม่ต้องซื้อมือถือเครื่องใหม่

“ไอ้เรย์ มึงจะไปหน้าหม้อกับสาวคนไหนก็ได้ แต่อย่ามาเสือกยุ่งกับพี่กู”

เออน้องฉันมันเลิศอย่างกับพระเอกในนิยาย กร้าวใจพี่สาวคนนี้ยิ่งนัก!

“พี่สาวมึงต่างหากที่อยากรู้จักกับกู”

ช้าก่อนนายหัวเห็ดมัตสึทาเกะ ฉันอยากไปรู้จักมักคุ้นด้วยตอนไหนมิทราบ! รู้จักคนอย่างซูมี่น้อยไปเสียแล้ว

ซิงอีหันมาสื่อจิตกับฉันทำนองถามว่าจริงไหม ฉันเลยยักคิ้วข้างซ้ายให้น้องชายไปหนึ่งที ซึ่งมีเพียงเราสองคนที่รู้กันในสัญลักษณ์ท่าทางนี้ หากใครคนหนึ่งทำแบบนี้เมื่อไหร่ ขอให้รู้ไว้ว่าจงอยู่เฉย ๆ และคนที่ยักคิ้วจะจัดการเรื่องทั้งหมดเอง

“ใช่เราอยากรู้จัก...ว่านายทำไมถึงหลงตัวเองได้ขนาดนี้กันนะ อย่าสำคัญตัวผิดสิ...จะบอกให้เอาบุญว่าเราไม่เคยสนใจและยอมให้ไอดีไลน์กับผู้ชายคนไหนเลยสักคน รู้ไหมว่าเพราะอะไร”

“เพราะ?”

“เพราะเรามีแฟนแล้วแถมแฟนก็หวงมากด้วย รู้แล้วก็ฝากไปบอกคนอื่น ๆ ด้วย จะขอบพระคุณมาก”

พูดจบฉันก็สะบัดหน้าม้าอย่างไม่แคร์สายตานายหัวเห็ด สมองซีกซ้ายสั่งให้ก้าวขาพาร่างตัวเองเดินหนีออกมาจากห้องทันที เดินออกมาได้สักพักก็พึ่งนึกออกว่าลืมจูงน้องชายตัวเองมาด้วย แถมตอนนี้ไม่มีอะไรปิดบังหน้าทั้งสิ้น สายตาประชาชนชาววิศวะที่เดินผ่านต่างหันมองเป็นตาเดียวกัน จุดจุดนี้เชื่อว่าไม่ได้มองด้วยความเสน่ห์หาผสมหลงใหลในความงามของฉัน พวกเขาน่าจะมองฉันเหมือนเป็นตัวประหลาดในคณะมากกว่า เสื้อช็อปก็ไม่มีใส่ แถมไม่มีเกียร์ห้อยคอแสดงรุ่นอีกต่างหาก ฉันรีบยกมือป้องปิดหน้าตัวเองแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวออกจากบริเวณตรงนี้ให้เร็วที่สุด

หมับ!

“จะเดินเร็วไปไหนเนี่ยพี่ ตามอย่างเหนื่อย” ซิงอีวิ่งมาจับแขนให้ฉันหยุดเดินพร้อมหายใจหอบถี่

“ซิงอีน้องรัก พาพี่กลับตึกคณะที” อยากกลับแล้ว...ไม่มาที่นี่แล้ว แง ๆ

“เป็นไงล่ะ บอกแล้วว่าจะบรรลัยพี่ไม่ยอมฟังเอง” ซิงอีได้แต่ส่ายหน้าด้วยอารมณ์หงุดหงิดความดื้อด้านของพี่สาว

“ฉันขอโทษที่ไม่ยอมฟังแก แต่ก็ขอบคุณนะที่มาช่วยพี่สาวคนนี้”

“เติมเกมให้ผมตอบแทนก็แล้วกัน จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง”

อยากจะรู้จังไอ้เกมที่เล่นแบบถ่างตาไม่ยอมนอน จนค่าไฟที่บ้านขึ้นเท่าตัวมันคือเกมอะไร แล้วเล่นกับเพื่อนจริงหรือเปล่าหนอ

พวกเราเดินกลับมายังลานจอดรถ ซิงอีสตาร์ทรถขับพาฉันกลับไปส่งที่ตึกคณะบริหารฯ เขาได้บอกประธานเชียร์ไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะขอเข้าประชุมสายกว่าคนอื่นหน่อยนึงเพราะมีเหตุจำเป็น แต่ก็แอบสงสัยเหมือนกันว่าทำไมประธานเชียร์อนุญาตง่ายจัง ของคณะฉันนี่โหดยิ่งกว่าพี่ว้ากพี่ระเบียบอีกนะ ต่อมเผือกมันกระตุกเลยปาคำถามใส่น้องชายเลย

“ถามหน่อย ประธานเชียร์ไม่บ่นอะไรแกเลยเหรอ”

“ไม่นะ เขาก็อนุญาตบอกว่าได้เลยไม่มีปัญหา”

“แปลก นี่แกไปติดสินบนกับเขามาหรือเปล่า” เวลาที่ถูกจับได้ซิงอีจะชอบทำตัวเลิ่กลั่ก ซึ่งตอนนี้อาการน้องชายฉันมันฟ้องมาก

“ปะ...เปล่า ไม่มี๊”

“เสียงสูงติดเพดานรถแล้วค่า ว่ามาแกจ่ายเขาไปเท่าไหร่ เดี๋ยวฉันโอนคืน”

ฉันรีบหยิบมือถือออกมาจากระเป๋าหิ้ว และกดเข้าแอปฯ ธนาคารเพื่อเตรียมโอนเงินคืนให้น้องชาย

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนข้อความจากไลน์เด้งขึ้น ชื่อโปรไฟล์ AmKey ใครกัน

'สวัสดีครับซูมี่ เราชื่อคีย์นะ'

'เป็นประธานเชียร์วิศวะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ'

เพียงเห็นข้อความสั้น ๆ ในเวลาไม่ถึงสองวินาที คำถามที่ฉันสงสัยมาตลอดถูกเฉลยจนหมดเปลือก ไม่ต้องถามต่อแล้วว่าบุรุษนามว่า คีย์ได้ไอดีไลน์ของฉันมาจากไหน

“หลิน ซิงอี...” ฉันเรียกชื่อน้องชายเต็มยศด้วยน้ำเสียงโทนต่ำเย็นยะเยือกยิ่งกว่าเอาน้ำแข็งไปผสมน้ำเย็น เจ้าน้องชายตัวแสบที่ขับรถอยู่หันหน้ามาฉีกยิ้มเจื่อน ๆ ให้

“คุณซูมี่ ผมอธิบายได้นะ” พอรู้ตัวว่าทำผิดถึงกับเรียกชื่อฉันสุภาพเชียว

“ว่ามา”

“ก็ไปคุยกับประธานเชียร์มา พี่คีย์อนุญาตให้พี่แอบในห้องนั้นได้ตามสะดวกแถมพาพี่มาส่งกลับที่ตึกได้ด้วย แต่เขาอยากขอแลกไลน์พี่ไว้เผื่อมีติดต่อคุยงานเชียร์ข้ามคณะกันเฉย ๆ”

“แกเบลอเหรอ ติดต่อคุยงานเชียร์ข้ามคณะก็ต้องติดต่อประธานเชียร์คณะด้วยกันสิโว้ย! ถ้าแกโดนมิจฉาชีพหลอกนี่ไม่ต้องสงสัยเลย”

“เอาน่า อย่างน้อยเขาก็สัญญากับผมว่าจะไม่ส่งต่อไอดีของพี่ให้ใคร พี่ก็รักษาน้ำใจเขาเสียหน่อย ทำเป็นคุย ๆ พอเป็นพิธีแล้วค่อยหายตัวเข้ากลีบเมฆไปก็ได้”

เรื่องอะไรที่ฉันต้องชวนนายกุญแจ (คีย์) คุยไปก่อนด้วย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเสียหน่อย อย่าเสียเวลากันเลยตัดไฟแต่ต้นลมดีที่สุด เพราะฉะนั้นขอปิดประเด็นไปเลยแล้วกัน ฉันจึงพิมพ์ส่งข้อความบอกนายคีย์ไปว่า

ซูมี่ : ไม่ต้องทักมาแล้วนะคะ

ซูมี่ : พอดีมีแฟนแล้วค่ะ

คีย์ : ไหนซิงอีบอกว่ายังไม่มี

ซูมี่ : ยังไม่ได้เปิดตัว

คีย์ : เหรอ งั้นแฟนซูมี่คือใคร บอกได้มั้ย

ส ใส่ เกือกจริง ๆ ยุ่งเรื่องส่วนตัวคนอื่นไม่เข้าเรื่อง ขณะที่ฉันกำลังนั่งพิมพ์ปะทะคารมไปมากับนายคีย์ ซิงอีก็จอดรถที่หน้าตึกคณะของฉันพอดีเป๊ะพร้อมส่งสายตาไล่ให้ลงจากรถ ณ บัดนาว ฉันจึงชี้นิ้วให้ดูว่ากำลังพิมพ์ข้อความตอบตาประธานเจ้าปัญหาอยู่ เขาจึงเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดเพลงฟังเพื่อรอฉันคุยให้จบ เป็นจังหวะเดียวกันที่ฉันเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำยกขึ้นดื่ม ซึ่งช่องวางแก้วดันใกล้กันกับปุ่มเปิดเพลงในรถพอดิบพอดี มือเจ้ากรรมของฉันจึงเผลอไปโดนมือน้องชายให้เลื่อนกดปุ่มคลื่นวิทยุข่าวแทน

“อุ๊ย! ตุ้ยปู้ฉี่” ฉัน ‘ขอโทษ’ น้องชายกลับด้วยภาษาบ้านเกิดของคุณพ่อ

“เหมยซื่อ” และเขาก็ตอบกลับว่า ‘ไม่เป็นไร’ ในภาษาเดียวกัน และกำลังจะกดเปลี่ยนเป็นฟังเพลงแทน

‘ข่าวสดจากสนามบินค่ะ คุณอชิรวิชญ์ หฤษฎ์ธานุเดช ทายาทเจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตชื่อดังในเครือ HTND เดินทางจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ถึงประเทศไทยพร้อมคณะทำงานเมื่อเวลา 9:00 น. ที่ผ่านมา’

“ซิงอีเดี๋ยว...” ฉันรั้งมือน้องชายให้นิ่งไว้และตั้งใจฟังเสียงข่าวสดจากทางคลื่นวิทยุต่อ

‘ในช่วงเย็นวันเดียวกัน จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นทั้งหมด ณ โรงแรม HTND กรุงเทพฯ พร้อมแถลงข่าวเรื่องสำคัญซึ่งหลายคนคาดการณ์ว่าจะเป็นข่าวดีค่ะ’

“พี่อลัน…”

เขา...ผู้ชายที่คอยสอนฉันทุก ๆ เรื่องในวัยเด็ก ว่าอะไรที่ควรและไม่ควรทำ

เขา...ผู้ชายแสนดีที่หนึ่งในดวงใจ ที่คอยดูแลเอาใจใส่ฉันอย่างสม่ำเสมอ

เขา...ผู้ชายที่ทำให้ฉันรู้สึกเศร้า เมื่อรู้ว่าเราต้องห่างไกลกันในช่วงเวลาหนึ่ง

แต่ฉัน...ก็ยังรอเขาอยู่ที่เดิม และไม่เคยคิดจะจากไปไหน

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่เขากลับมา...ความหวังที่ฉันรอไม่ริบหรี่อีกต่อไปและตั้งใจจะไปพบเขาในบ่ายวันนี้เพื่อเคลียร์สิ่งที่ยังค้างคา หรือที่เรียกว่า ‘สัญญาใจ’

“ฉันจะไปหาพี่อลันบ่ายนี้ แกไปด้วยกันไหม”

“ผมติดงานภาคน่ะสิ ฝากพี่ทักทายเฮียก่อนแล้วกันนะ”

“ได้สิ เดี๋ยวบอกให้” ขณะที่ฉันกำลังก้าวขาลงจากรถ น้องชายตัวดีก็ทักถามบางอย่าง

“แล้วสรุปเรื่องพี่คีย์ พี่จะตอบเขาไปว่ายังไง”

“นี่ไง ฉันตอบเขาไปแล้ว”

ฉันหยิบมือถือโชว์หน้าจอให้ซิงอีดูข้อความที่ส่งไปหานายคีย์เมื่อสักครู่

เหรอ งั้นแฟนซูมี่คือใคร บอกได้มั้ย

'อชิรวิชญ์ หฤษฎ์ธานุเดช'

'ถ้าไม่รู้จัก ลองหาชื่อดูในอินเทอร์เน็ตค่ะ'

บัวน้อยลอยละล่อง

แอบอ้างใช้ชื่อพี่อลันเป็นแฟนตัวเองเฉย 5555 ตอนหน้ายัยน้องเจอพี่อลันแล้วในรอบ 12 ปี! มาเดากันว่าตอนเจอกันจะเป็นยังไง

| ชอบ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   มั่นใจในตัวเอง

    เวลา 11.59 น.@ ห้องเรียน ตึกคณะบริหารธุรกิจ“อีกหนึ่งนาทีเท่านั้น”ซูมี่นั่งจ้องนาฬิกาแขวนติดผนังรอเข็มนาทีชี้ตรงเลข 12 อย่างไม่ละสายตา จนเพื่อนสาวฝาแฝดคนสนิทอย่างต้นข้าวกับต้นรักต่างหันหน้าไปมองเธอด้วยความสงสัย“ยัยมี่ ฉันเห็นแกมองนาฬิกาตั้งแต่ต้นคาบแล้วนะ” ต้นข้าวเอ่ย“สงสัยต้องมีนัดแหง ๆ นัดเดตกับผู้บ่าวใช่ไหมมีมี่” ต้นรักแทรกถาม“คนอย่างยัยมี่จะนัดผู้ชายเหรอ ทุกวันนี้ผู้ชายมาดักรอหน้าตึกเรียนตั้งไม่รู้กี่คน มันแทบจะไม่ชายตามองสักคนเลย”ฝาแฝดทั้งสองคนแม้จะหน้าตาพิมพ์เดียวกันเป๊ะ แต่นิสัยหรือความคิดนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหวฝาแฝดผู้พี่ ‘ต้นข้าว’ จะเป็นคนชอบพูดตรงไปตรงมา รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ตัวใครตัวมัน ชนิดที่เรียกว่า ‘ขวานผ่าซาก’ อีกทั้งความคิดของเธออิงทุกสิ่งที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงเท่านั้น ไม่ละเมอเพ้อฝันเรื่องไร้สาระโดยเฉพาะกับเรื่องความรักขณะที่ฝาแฝดผู้น้อง ‘ต้นรัก’ มักเป็นคนพูดจาถนอมน้ำใจผู้อื่น พูดจาน่าฟังและรื่นหูในทำนอง ‘บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น’ ความคิดก็ตรงกันข้ามกับแฝดคนพี่ เธอมองว่าทุกคนต่างมีความฝันและสามารถทำให้เป็นจริงขึ้นมาได้ ยิ่งกับความรักเธอถือว่าเป็นศิราณี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   ฉันผิดตรงไหน?

    เวลา 14.30 น.อีกเพียงครึ่งชั่วโมงการเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มภายในงานจะเริ่มขึ้นเหล่าบรรดาแขกที่ได้รับเชิญต่างเริ่มทยอยเดินเข้ามาภายในห้องจัดเลี้ยงกันไม่ขาดสาย แขกแต่ละคนลงทะเบียนเข้างานเพื่อการคัดกรองให้นั่งตามโซนโต๊ะรับประทานอาหารที่ถูกจัดไว้อย่างถูกต้อง โดยจะมีหมายเลขติดที่ป้ายไว้สำหรับแขกที่ได้หมายเลข 1 คือแขกทั่วไปซึ่งทางทีมแรกจะเป็นผู้ดูแล ในขณะเดียวกันทีมที่สองจะดูแลแขกที่ติดหมายเลข 2 หรือที่เรียกว่า VIP เมื่อแขกที่ต้องดูแลเดินเข้ามาที่ห้องจัดเลี้ยง ซูมี่จึงเดินไปสวัสดีทักทายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสและเชิญแขกไปนั่งประจำโต๊ะในระหว่างที่รอเวลาอาหารพร้อมเสิร์ฟ ในช่วงนั้นเองเธอสามารถเสิร์ฟเครื่องดื่มให้แขกระหว่างรอได้แขกคนแรกที่หญิงสาวได้ต้อนรับเป็นนักธุรกิจชายชาวจีนที่พอพูดอังกฤษได้เล็กน้อย ทว่าภาษาไทยเป็นศูนย์ โชคดีที่เธอได้ภาษาจีนติดตัวมาทางสายเลือดจึงเป็นเรื่องง่ายในการสื่อสาร“ฉิ่ง เวิ่น หนี เสี่ยง เฮอ เสิ่น เมอะ หยิ่นเลี่ยว?”ซูมี่ถามแขกเป็นภาษาจีนว่า ‘ขออนุญาตถามค่ะ คุณอยากดื่มเครื่องดื่มอะไรดีคะ’“โหย่ว เสิ่น เมอะ หยิ่นเลี่ยว?”นักธุรกิจชาวจีนถามเธอกลับว่า ‘มีเครื่องด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   ....จำไม่ได้

    มุมมองของอลัน ☻@ HTND Hotel, Bangkok12 ปีแล้วสินะ ที่ผมไม่ได้กลับมาบ้านเกิดตัวเอง หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยในไทยคุณพ่อก็ส่งให้ผมไปเรียนต่อปริญญาโทสายตรงทางด้านการโรงแรมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ทันที ไม่มีแม้แต่เวลาบอกลาเพื่อนฝูง คนรู้จัก หรือเด็กตัวน้อย ทุกอย่างเป็นเรื่องกะทันหันและไม่ได้มีสัญญาณบอกไว้ล่วงหน้า ทว่าก่อนที่จะไปจากที่นี่ผมได้ฝากซองจดหมายเล็ก ๆ ผ่านทางคุณพ่อช่วยมอบให้คุณอาหลินเพื่อส่งถึงเด็กตัวน้อย ใจความในจดหมายเขียนข้อความไม่ถึงหนึ่งย่อหน้ากระดาษ โดยผมเขียนอธิบายทำนองว่าจะไม่ได้เจอเธอหลังจากนี้ แต่ก็ทิ้งท้ายเพื่อไม่ให้เด็กน้อยรู้สึกตกใจ‘พี่ไปแป๊บเดียว เดี๋ยวพี่จะรีบกลับมานะ’จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าเธอจะลืมผมไปแล้วหรือยัง แล้วจดหมายฉบับนั้นส่งถึงมือเธอหรือเปล่า ไม่ว่ายังไงผมก็พร้อมที่จะไปเจอเธอเร็ว ๆ นี้ในรอบ 12 ปี หลังจากเคลียร์ตารางงานสำคัญ 'การประชุมผู้ถือหุ้น' ในบ่ายวันนี้ และผมย้ำนักย้ำหนากับคุณพ่อให้ช่วยบอกคุณอาหลินว่าอย่าพึ่งบอกเรื่องนี้กับเธอเป็นอันขาด ผมมีของฝากน่ารัก ๆ ไปเซอร์ไพรส์เธอและหวังว่าเธอจะชอบมันตื๊ด...ตื๊ด...เบอร์ปริศนาโทรเข้ามาที่มือถือของผม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   แค่บอกพี่

    ซูมี่หันมาสบตาอลันหลังจากได้ยิน คำว่า ‘เด็กดื้อ’ ที่เขาเอ่ยมาเมื่อสักครู่ นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้ถูกเรียกแบบนี้จากปากของผู้ชายคนหนึ่ง นั่นก็หมายความว่าเขารู้แล้วว่าเธอคือซูมี่ ทว่ารู้ตั้งแต่ตอนไหนกันนะ“สนุกดีค่ะคุณอลัน ขอตัวก่อนนะคะ” แทนที่จะทักเรียกเขาว่าพี่ เธอดันเลือกที่จะเรียกเขาด้วยสรรพนามอื่นที่ดูห่างเหินและกำลังเดินจากไปหมับ!อลันเดินเข้าไปจับแขนซูมี่พร้อมไปยืนกั้นขวางทางข้างหน้าเพื่อไม่ให้เธอเดินหนี“พี่รู้ว่าเรากำลังไม่พอใจพี่อยู่ ไปคุยกับพี่ที่ห้องทำงานก่อน”“น้ำผึ้งมีงานที่ต้องทำต่อค่ะ โปรดกรุณาปล่อยด้วย” ซูมี่พยายามสะบัดแขนออกจากมืออันแข็งแกร่งของอลันที่จับไว้ราวกับเอากาวมาเชื่อมติด“ไม่ จนกว่าซูมี่จะฟังพี่และหยุดแทนตัวเองว่าน้ำผึ้งได้แล้ว”อลันใช้เสียงเข้มพูดกับซูมี่พร้อมบอกให้เธอเลิกเรียกชื่อจอมปลอมนั่นเสียที“ก็ชื่อน้ำผึ้งจริง ๆ นะคะ” ซูมี่เลือกที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเขา“พี่ขอร้องนะ ไปคุยกันดี ๆ อีก 30 นาทีพี่จะมีประชุมต่อแล้ว”อลันพยายามพูดจาดี ๆ เพื่อให้ซูมี่ยอมเชื่อฟังพี่ชายคนนี้สักครั้ง ซึ่งเธอ ก็ยอมโอนอ่อนให้ อาจเห็นว่าเขากำลังมีประชุมงานที่สำคัญจึงไม่อยากให้ เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   สัญญาต้องเป็นสัญญา

    @ HTND Hotel, Bangkokเวลา 18.00 น.อลันตัดสินใจพาซูมี่กลับมาทานข้าวที่โรงแรมของตัวเอง ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ ก่อนจะเดินทางมาถึงเขาได้โทรแจ้งเลขาให้ช่วยบอกพ่อครัวเตรียมอาหารชุดใหญ่ไว้สำหรับ 2 คนเป็นที่เรียบร้อย และในเมนูอาหารต้องมีชุดติ่มซำถาดใหญ่ไว้พร้อมเสิร์ฟด้วยเมื่อรถได้เทียบจอดที่ลานจอดรถ VIP ทั้งคู่ก้าวเท้าลงจากรถและเดินมุ่งตรงไปยังห้องรับรองที่ถูกจัดเตรียมไว้ เมื่อประตูห้องฯ เปิดออกก็พบกับเมนูอาหารเรียงรายมากกว่า 10 เมนูบนโต๊ะกลมหมุนลายหินอ่อน หญิงสาวกวาดสายตามองอาหารด้วยแววตาเป็นประกาย จนพี่ชายคนข้าง ๆ หันไปยิ้มถาม“เมนูอาหารพอจะถูกใจเราไหม”“ถูกใจมากเลยค่ะ เราจะกินกันหมดไหมคะพี่อลัน” ซูมี่เอ่ยถาม“ไม่หมดก็ห่อกลับบ้านได้นะ เผื่อเมนูไหนคนที่บ้านอยากทานด้วย เอาล่ะมากินกันเถอะ”อลันลากเก้าอี้ออกให้ซูมี่นั่งก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกัน เขาเริ่มจากหยิบขนมจีบและฮะเก๋าสุดเลิฟให้เธอลองชิมเสียก่อน พอซูมี่เอาเข้าปากถึงกับร้องอุทานว่าอร่อยมาก ขนาดแม่ครัวที่บ้านยังทำให้ทานไม่ได้แบบนี้เลย พี่ชายแสนดีสุดแสนจะดีใจ หากรู้ว่าเธอชอบขนาดนี้คงไม่เสียเวลาพาไปกินไกลที่ไหนอีกแล้ว ทั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   สักวัน

    ต่อให้อลันพยายามจะพูดให้ซูมี่เข้าใจความรู้สึกที่เขามีต่อเธออย่างไร ซูมี่ก็เลือกที่จะไม่ฟัง สรุปง่าย ๆ ก็คือดื้อนั่นเองแต่ถือว่าอลันมีความใจเย็นและเป็นผู้ใหญ่มากพอที่สามารถแยกแยะระหว่างเรื่องความรู้สึกกับเรื่องที่ต้องดูแลน้องสาวจอมดื้อออกจากกันได้ เขาขับรถไปส่งเธอกลับบ้าน ระหว่างเดินทางบรรยากาศในรถยิ่งกว่าป่าช้า หากมีเสียงหมาหอนแทรกขึ้นมาน่าจะอุ่นใจกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้@ บ้านครอบครัวตระกูลหลินเมื่อรถมาจอดที่หน้าบ้านซูมี่ คุณแม่ของซูมี่ก็ออกมารับลูกสาวกลอยใจเข้าบ้าน อลันยกมือไหว้สวัสดีคุณอาเพียงขวัญที่ไม่ได้เจอกันนาน เธอได้พูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบเล็กน้อยกับอลันก่อนจะเชิญเข้าไปนั่งพักในบ้าน แต่อลันขอปฏิเสธอย่างสุภาพเพราะดึกแล้วจึงไม่อยากรบกวนเวลาของครอบครัวซูมี่ เขาจึงกล่าวลาและขอตัว ทว่าก่อนเดินกลับไปขึ้นรถคุณเพียงขวัญบอกลูกสาวตัวแสบให้ไปส่งพี่ชายที่หน้าบ้านก่อนซูมี่ทำตามคำสั่งคุณแม่ เธอเดินตามหลังอลันมาติด ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลยสักคำ จนอลันรู้สึกว่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปคงจะมองหน้ากันไม่ติดแล้ว จึงเอ่ยพูดเล็กน้อยเพื่อให้บรรยากาศมันดีขึ้น“พี่กลับก่อนนะ เดินเข้าบ้านดี ๆล่ะ”หมับ!

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   แค่พี่น้อง

    3 วันผ่านไป...@ ห้องเรียน ตึกคณะบริหารธุรกิจตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้น จนถึงตอนนี้ซูมี่กับอลันก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย หญิงสาวเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่างตึกเรียนเหมือนกำลังคิดทบทวนในสิ่งที่เธอทำไปทั้งหมดว่ามันได้ผลดีหรือผลเสียกันแน่ การที่เธอมาทวงสัญญาตามที่ให้ไว้มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหาย หากคิดในมุมของซูมี่ก็เพราะอลันให้คำสัญญาไม่ใช่หรอกเหรอจึงกลายเป็นการสร้างความหวังให้กับเธอเช่นนี้ ตั้ง 12 ปีเชียวนะที่ผู้หญิงคนหนึ่งรอผู้ชายคนนั้นอย่างไม่รู้จุดหมาย เธอไม่ยอมเปิดใจให้ผู้ชายคนไหนเข้ามาศึกษาดูใจเลยสักคน เพราะเธอรอแค่เขาเท่านั้น...“สะกิดมันหน่อยยัยรัก วิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้วมั้ง” ต้นข้าวบอกน้องสาวฝาแฝดของตัวเองให้สะกิดเรียกซูมี่ที่นั่งข้างกัน“มีมี่เป็นอะไรหรือเปล่า เห็นนั่งเหม่อมาเป็นชั่วโมงแล้ว” ต้นรักหันไปถาม“ไม่มีอะไรต้นรัก ซูมี่แค่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย” ซูมี่หันมายิ้มให้เพื่อนสนิทตัวเอง“ไอ้ที่ว่าเรื่อยเปื่อยมีเรื่องของผู้ชายคนนั้นอยู่ด้วยไหม” ต้นข้าวเอ่ยถามเพื่อนสาวด้วยท่าทีสงสัย“มีบ้าง แต่ไม่มาก”“โกหก!”ฝาแฝดส่งเสียงพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย พวกหล่อนเป็นเพื่อนเธอม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   อิ่มใจ

    จากวันนั้นที่ซูมี่พยายามหาทางไปเจออลัน ทั้งคู่ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน อลันพาเธอไปส่งถึงบ้านด้วยความเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยหลังจากที่สอนการบ้านเสร็จ ในคืนนั้นตระกูลหลินอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพอดิบพอดี ในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังจะรับประทานอาหารเย็น คุณชางอีจึงชวนอลันทานข้าวด้วยกันที่บ้านก่อนกลับ ซึ่งอลันก็พยายามพูดว่าไม่เป็นไรด้วยความเกร็งใจผู้ใหญ่ แต่หญิงสาวตัวแสบดันลากแขนเขาให้ไปนั่งเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่ข้างเธอ ซึ่งอันที่จริงแล้วที่นั่งตรงนั้นเป็นของซิงอี แต่น้องชายตัวดีดันมาทีหลังจึงโดนแย่งที่นั่งและให้ไปนั่งข้างคุณแม่แทน บทสนทนาภายในโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยหัวข้อสนุกสนานและเบาสมองโดยไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องงานเลย ชายหนุ่มได้สร้างความประทับใจให้คุณชางอีในเรื่องทัศนคติที่ดีของเขาจากการถามตอบเรื่องต่าง ๆ ที่คิดตรงกันเมื่อรับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย ซูมี่ก็ไปส่งอลันที่รถเหมือนดังเคย แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าตรงที่ว่าสาวน้อยรวบรวมความกล้าขอเบอร์ติดต่อและไลน์ส่วนตัวของเขาไว้ และอลันก็เต็มใจให้เพราะเห็นว่าเป็นน้องสาว เผื่อมีอะไรฉุกเฉินจะได้ติดต่อพี่ชายคนนี้ให้ช่วยเหลือได้1 สัปดา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04

บทล่าสุด

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   จากนี้และตลอดไป (ตอนจบ)

    1 เดือนต่อมา @ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัย เวลา 06.00 น.“นักศึกษาชั้นปีที่ 4 เชิญเข้าหอประชุมเลยครับ” ประธานสโมสรนักศึกษาประกาศเสียงผ่านโทรโข่งเพื่อกวาดต้อนนักศึกษาแต่ละคณะเข้าหอประชุมเพื่อเตรียมเข้าพิธีรับประกาศนียบัตรจบการศึกษาวันนี้นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จำนวนมหาศาลจากต่างคณะมารวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยโดยไม่ได้นัดหมาย ยังไม่นับรวมญาติสนิทมิตรสหายที่มาร่วมแสดงความยินดีกับว่าที่บัณฑิตป้ายแดงในอีกไม่กี่ชั่วโมง จำนวนผู้คนหลั่งไหลเข้ามาราวกับฝูงมด หากจะติดต่อหากันคงต้องบอกที่นัดหมายไว้ให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นคงพลัดหลงกันแน่ “ยัยมี่ทางนี้” ต้นข้าวชูมือขึ้นสูงเพื่อเรียกเพื่อนสาวที่กำลังเอามือถือแนบที่หูพลางกวาดสายตามองหาพวกเธอเมื่อซูมี่เห็นเป้าหมายจึงรีบเดินเบียดเสียดคนเข้าไปหาเพื่อนสาว “หวัดดีพวกแก ไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้” “จริง มาเข้าใจรุ่นพี่ปีก่อนก็ตอนนี้แหละเนอะมีมี่” ต้นรักเอ่ย“พวกเราเข้าไปห้องพิธีข้างในกันเถอะ ตรงนี้คนมันแน่นฉันหายใจไม่ออกแล้ว” ต้นข้าวเอ่ยชวน สามสาวเดินตามกันเข้าไปในห้องประชุมด้วยความทุลักทุเลกับชุดครุยที่ลากยาวติดพื้น ไหนจะรองเรื่องรองเท้าคัทชูที่สวมใส่กัดอีก ท

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   ใจฉันมีแต่เธอ

    1 เดือนต่อมา@ คณะบริหารธุรกิจ“เย้! โปรเจคผ่านสักทีเว้ย!” แฝดสาวผู้พี่กระโดดโลดเต้นดีใจ“ดีใจเกินเหตุข้าว อย่าลืมสิว่ามีสอบอีกชุดใหญ่ไฟกะพริบ”แฝดผู้น้องย้ำเตือนเธอว่ายังเหลือโค้งสุดท้ายแห่งชีวิต ถ้าสอบไม่ผ่านก็เตรียมแหกโค้งปลิดชีพเรียนไม่จบไปได้เลย“เออว่ะ อย่าพูดสิฉันเศร้า” ต้นข้าวเสียงหงอยก่อนนั่งลงที่เก้าอี้แต่จะมีอยู่หนึ่งคนที่อยู่เหนือความเครียดและความกังวลใด ๆเพราะโลกของเธอช่างสดใสราวกับเดินเล่นอยู่ในดินแดนแห่งเวทมนตร์“คงจะมียัยมี่คนเดียวที่เบิกบานใจ” ต้นข้าวถึงกับหยิบปากกาขว้างไปที่หัวเหม่งของคนที่ถูกกล่าวถึง“โอ๊ย!ยัยข้าวเจ็บ” หญิงสาวที่โดนขว้างปากกาใส่หัวหันมาเรียกชื่อเพื่อนสาวฝาแฝด“มีความสุขเหลือเกินแม่สาวหมวย พอมีแฟนเป็นตัวเป็นตนก็เทเพื่อนเลยนะยะ” ต้นข้าวเอ่ยเชิงน้อยใจ“ฉันทิ้งพวกยูตรงไหน มา ๆ วันนี้มีแพลนไปไหนกัน ฉันไปด้วย”ซูมี่เอ่ยถามสองแฝดว่าวันนี้มีที่ไหนอยากไป เธอพร้อมจะไปด้วยเพื่อเป็นการไถ่โทษที่ช่วงนี้อยู่กับพวกเธอน้อยกว่าเดิม“ชิ ถ้าฉันบอกว่าอยากไปดื่มเหล้า แกจะไปกับพวกฉันเหรอ” ต้นข้าวเอ่ยถามทั้งที่รู้ว่าซูมี่คงไม่ไปด้วยแน่“ไปสิ ดื่มเหล้านี่ของชอบเลย” หญิงสาว

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   หักห้ามใจ

    3 สัปดาห์ต่อมาความรักของชายหนุ่มกับหญิงสาวเริ่มสุกงอม หลายสัปดาห์ก่อนเขาและเธอได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นในสถานะความสัมพันธ์ที่เรียกว่าแฟนอลันตัดสินใจเปิดตัวซูมี่ต่อครอบครัวเขาและเธออย่างเป็นทางการโดยเชิญพวกท่านมาเป็นสักขีพยานช่วงทานอาหารมื้อค่ำที่โรงแรม HTND ทั้งคุณพ่อคุณแม่ของเขาและเธอต่างพากันตกใจในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ทว่าพวกท่านก็ไม่ได้ขัดที่ทั้งคู่จะคบหาดูใจกันพร้อมทั้งเอ่ยปากร่วมแสดงความยินดีไปในตัว ถือว่าทั้งคู่โชคดีที่ครอบครัวเปิดไฟเขียวให้คบหาดูใจกันได้ตามสะดวก ทางครอบครัวซูมี่ยังเอ่ยฝากฝังลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนกับอลันไว้ด้วย ซึ่งเขารับปากสัญญาว่าจะดูแลเธอเป็นอย่างดีในวันนี้อลันขออนุญาตทางผู้ปกครองของซูมี่พาเธอไปเที่ยวหรือที่เรียกกันว่าชวนไปออกเดต หากเป็นคู่รักคู่อื่น ๆ คงจะพาไปดูหนัง กินข้าว ร้องคาราโอเกะ เดินเล่นในสวน แต่สำหรับพวกเขาซึ่งตัวติดกันอย่างกับหมากฝรั่ง สถานที่ที่เขาเดตกันก็มีเพียงที่เดียวที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวนั่นคือ คอนโดของชายหนุ่ม@ คอนโดของอลันเมื่อทั้งคู่เปิดประตูห้องเข้ามาแล้ววางสัมภาระไว้ที่โต๊ะเรียบร้อย ไม่ทันไรผู้ชายคลั่งรักก็พุ่งตัวเข้าไปสวมกอดแฟนสาวจา

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   ออดอ้อน

    @ คอนโดของอลันเวลา 08.30 น.กริ๊งงงง!เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือที่ตั้งเอาไว้โดยซูมี่ดังขึ้น เธอเอื้อมมือสุดแขนไปที่โต๊ะเล็กข้างเตียงเพื่อปิดมันก่อนจะดันตัวเองจากเตียงแล้วลุกนั่งตัวตรงในสภาพที่ยังไม่ลืมตาตื่น“อยากนอนต่อจัง…ไม่ได้สิ เราอยู่คอนโดพี่อลันนี่นา”ซูมี่สะดุ้งตัวฟื้นคืนสติว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้อยู่ที่บ้าน ทว่ายังอยู่ที่คอนโดผู้ชายที่เธอน่าจะเรียกได้เต็มปากแล้วว่า…แฟนหนุ่มหญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงแล้วพับผ้าห่มอย่างประณีตตามหลักสูตรวิชาการโรงแรมที่เรียนมา ก่อนจะเดินไปเปิดประตูทักทายยามเช้ากับชายหนุ่ม“อรุณสวัสดิ์ค่าพี่อลัน เอ…ยังไม่ตื่นเหรอ”ซูมี่กวาดตามองทั่วทิศเพื่อหาผู้ชายร่างสูง และพบว่าเป้าหมายยังคงนอนหลับสนิทอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น เธอค่อย ๆ ย่องฝีเท้าให้เบาประดุจดังขนนกมาหยุดอยู่ที่โซฟาก่อนจะย่อตัวลงเอามือชันเข่าพลางโน้มตัวจ้องมองใบหน้าของอลัน“คนอะไร ขนาดหลับยังหล่อเลย”เธอยื่นนิ้วเรียวเล็กเอื้อมไปปัดปอยผมข้างหน้าของอลันที่บังตาไว้เพื่อจะได้เห็นความหล่อของแฟนตัวเองชัด ๆหมับ!ยังไม่ทันจะได้ชื่นชมเต็มอิ่ม จู่ ๆ ข้อมือของเธอก็ถูกจับโดยผู้ชายที่นอนอยู่ แถมเขายังดึงร่างเธอใ

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   ความลับระหว่างลูกผู้ชาย

    สามปีก่อน (สมัยซูมี่อยู่ปี 1 และซิงอีอยู่ ม.6) @ บ้านตระกูลหลินเวลา 19.00 น.“กลับมาแล้วค่ะ / ครับ” เสียงเด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายและสาววัยมหาวิทยาลัยแจ้งคนในบ้านให้ทราบว่าพวกเขาเดินทางกลับถึงบ้านเป็นที่เรียบร้อย“วันนี้เป็นไงกันบ้างเด็ก ๆ ” คุณเพียงขวัญเอ่ยถามลูกรักทั้งสอง “เหนื่อยครับคุณแม่ ผมขอตัวไปนอนเลยนะครับ” ซิงอีพูดจบก็รีบขึ้นบันไดเข้าห้องนอนตัวเองทันที“อ้าว ไม่กินข้าวกินปลาก่อนเหรอลูก” ผู้เป็นแม่เอ่ยไล่หลังแต่ลูกชายไม่ตอบกลับอะไรเลย “เดี๋ยวซูมี่ไปดูน้องเองค่ะคุณแม่” ซูมี่รีบเดินขึ้นบันไดตามน้องชายตัวเองไปเธอมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องพลางเคาะประตูขออนุญาตเปิดเข้าไป ภาพที่เธอเห็นคือซิงอีล้มตัวลงนอนทั้งที่ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย “ซิงอี ลุกขึ้นไปอาบน้ำก่อนค่อยมานอน เชื้อโรคมันจะสะสม” “ไม่ไหวแล้วซูมี่ วันนี้ผมเหนื่อยมากขอนอนพักแป๊บ เดี๋ยวมีนัดเล่นเกมตอนดึกกับเพื่อนต่อ” แปะ! พี่สาวตีไปที่หลังน้องชายเสียงดังแปะในขณะที่เขานอนคว่ำหน้าอยู่“โอ๊ย! พี่ทำไรเนี่ย” จนเขาต้องหันหน้ามาคุยกับเธอ “หมั่นไส้ ห่วงเล่นเกมอยู่ได้ หนังสืออ่านมั่งไหม ปีนี้แกต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วนะ” “เออผมรู้แ

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   ดึกแล้วอย่าพึ่งกลับ

    @ WithUs Café and Restaurantแอ๊ด...ประตูถูกเปิดอีกครั้งหลังจากสามสิบนาทีก่อนหน้าถูกปิดลง หญิงสาวที่นั่งรอใครบางคนหันไปในทิศทางที่ประตูเปิดออกแล้วเผยรอยยิ้มให้ผู้ชายที่กำลังเดินเข้ามา“ดีใจจัง พี่อลันกลับมาแล้ว”ขณะเดียวกันผู้ชายคนนั้นก็เดินปรี่เข้ามาสวมกอดผู้หญิงตรงหน้า“พี่คิดถึงเราจัง”เมื่อหญิงสาวได้ยินเขาเอ่ยแบบนี้จึงดันตัวเขาออกทันที คนที่สวมกอดถึงกับทำหน้างง“ถามจริง นี่ใช่พี่อลันตัวจริงหรือเปล่าคะ” ซูมี่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย“ซูมี่…เราพูดอย่างกับพี่มีฝาแฝดอีกคนไปได้” คำตอบของเขาจะสื่อว่าไม่มีใครจะตัวจริงไปกว่านี้อีกแล้ว“ปกติพี่อลันไม่เคยทำตัวแบบนี้นี่นา ซูมี่แตะทีหรือกอดทีตะโกนโหวกเหวกตกใจทุกทีเลย”“มันเมื่อก่อนไหม ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว”“ไม่เหมือนเดิมยังไงคะ”“ก็เราเป็นแฟนของพี่แล้วไม่ใช่เหรอคะ”อลันกระชับกอดเอวบางแน่นขึ้น แถมยังพูดคำที่ซูมี่โคตรจะแพ้ใส่ไปในประโยคด้วย“ถ้าบอกยกเลิกตอนนี้ทันไหมคะ” ซูมี่ลองแกล้งพูดอำอลันเชิงขำขัน ทว่าเขาดันไม่รู้สึกขำด้วย“ลองดูสิ” อลันให้คำตอบสั้น ๆ พร้อมยักคิ้วให้“ได้ใช่ม้า”“เราก็ลองดูสิ แล้วเดี๋ยวก็รู้ว่าพี่จะทำยังไงต่อกับเรา”อลันไม่

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   องค์ลง

    อลันคิ้วขมวดมองซูมี่ แววตาเขาแข็งกระด้าง เสียงลมหายใจที่เข้าออกทางจมูกแลดูติดขัด ริมฝีปากเม้มสนิทเหมือนข่มอารมณ์ไม่พอใจบางอย่างอยู่“ค่ะ เสียใจที่ไม่ใช่แฟนของซูมี่มายืนรออยู่ตรงนี้”“ให้พี่ไปเรียกเขาให้ไหมล่ะ”“ก็ดีนะคะ รบกวนด้วยค่ะ”เมื่อได้ยินเธอพูดออกมาแบบนั้น ตัวเขาที่ถูกพูดประชดยิ่งรู้สึกไม่พอใจเข้าไปใหญ่ ชายหนุ่มเริ่มกัดปากตัวเองพลางพยักหน้า“ดูรักกันมากเลยเนอะ”“ใช่ค่ะ รักมากอยากอยู่ใกล้เขาแทบบ้าเลย ขอตัวนะคะแฟนซูมี่คงจะรอดูหนังด้วยกันแย่แล้ว”ซูมี่เอ่ยบอกลาอลันแล้วเดินสวนทางกับเขาเพื่อกลับไปที่ห้องหมับ!ทว่ายังเดินไม่พ้นจากบริเวณนั้น ก็ถูกผู้ชายที่พึ่งสนทนากันเมื่อสักครู่จับแขนข้างหนึ่งของเธอไว้ไม่ให้เดินไปไหนต่อ“ปล่อยค่ะ”“จับนิดจับหน่อยไม่ได้เลยเหรอ เมื่อก่อนอยากใกล้ชิดพี่แทบตายนี่”“เรื่องอดีตซูมี่ไม่เก็บเอามาคิดหรอกค่ะ พี่อลันควรอยู่กับปัจจุบัน ปล่อยค่ะ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นจะเข้าใจผิด”“ก็ดี ปล่อยให้เข้าใจแบบนี้แหละ” ซูมี่ส่ายหน้าให้อลันและพยายามปัดมือเขาออกจากแขนเธอให้ได้ “เลิกเล่นแบบเด็ก ๆ เถอะค่ะพี่อลัน ซูมี่เหนื่อยที่จะพูดกับพี่แล้ว”อลันเผยยิ้มที่มุมปากเมื่อเธอสื่อว

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   ฝืนใจ

    @ WithUs Café and Restaurant“พอใจยังคีย์” ซูมี่หันไปถามคีย์ที่นั่งข้างกัน เธอยื่นมือถือให้ดูรูปคู่ที่ถ่ายแล้วลงโพสต์แคปชันเปิดตัวแฟน“ดีมากซูมี่”“แล้วรักษาสัญญาเรื่องของซิงอีด้วยล่ะ”“ได้เลย ไม่มีปัญหา”พูดจบนายคีย์ก็เขยิบตัวเข้ามาใกล้ซูมี่ก่อนจะเลื่อนใบหน้ามาใกล้ชิดกับเธอ หญิงสาวพยายามเอี้ยวตัวหลบ“คีย์ใกล้ไปแล้ว เขยิบออกไปเดี๋ยวนี้” ซูมี่ดันตัวเขาให้ห่าง “ทำไมต้องหนี ซูมี่เป็นแฟนเราแล้ว”“มัน…เร็วไปไหม เราพึ่งรู้จักกันเองนะ”เธอตอบรับตกลงก็จริง แต่ทำไปเพื่อปกป้องน้องชายตัวเองจากอันตรายเท่านั้น ในเรื่องของความรู้สึกกับผู้ชายคนนี้ไม่มีเลยแม้แต่น้อย“ก็เราอยากอยู่ใกล้ซูมี่นี่ แถม…ตัวซูมี่ยังหอมด้วย”คีย์ยื่นจมูกมาดอมดมตัวเธอ ดีที่ซูมี่ไหวตัวทันไม่เช่นนั้นแก้มของเธอคงชนกับจมูกของเขาแล้ว“ถ้าคีย์ยังทำแบบนี้ เราจะกลับบ้านแล้วนะ”“ก็ได้ไม่ทำแล้ว อยู่ดูหนังด้วยกันก่อนนะครับ” เขาหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ก็ยอมเพราะอยากให้เธออยู่ด้วย“ได้ ดูจบแล้วเราขอกลับบ้านนะ”“ได้เลย”ทั้งคู่เดินไปนั่งที่โซฟาพลางเปิดทีวีเลือกหนังดู คีย์ถามซูมี่ว่าจะดูเรื่องนี้กันไหมน่าดูเป็นหนังรัก เมื่อหญิงสาวหันไปมองตามที่ค

  • My Honey ซูมี่จอมดื้อ   พึ่งรู้ใจตัวเอง

    “คงไม่มีวันนั้นค่ะ”ซูมี่ยังยืนกรานในจุดยืนของตัวเองว่าเธอเลิกชอบอลันแล้ว“ไม่มีเหรอ” อลันทวนถามซูมี่อีกครั้ง“ค่ะ”“ไหนลองบอกพี่หน่อย เพราะอะไรเราถึงเลิกชอบพี่”อลันมองจ้องซูมี่แบบไม่ละสายตาเพื่อเค้นถามเหตุผลที่เลิกชอบเขา“พี่อลันให้ซูมี่อยู่ในฐานะน้องสาวมาตั้งแต่ต้นไม่ใช่เหรอคะ มันก็ถึงเวลาแล้วที่ซูมี่จะถอยแล้วเปิดใจให้คนอื่นบ้าง” “นั่นมันตอนนั้น...ไม่ใช่ตอนนี้” อลันรู้ตัวดีว่าเป็นคนพูดคำนั้นออกจากปากเอง แต่นั่นเป็นสิ่งที่เขาอยากให้เป็นในเมื่อก่อน ในตอนนี้เขาไม่ต้องการแบบนั้น“หมายความว่ายังไงคะ” ซูมี่เลิกคิ้วไม่เข้าใจที่อลันพูด“ก็พี่...”ตืด ตืดเสียงจากมือถือเจ้ากรรมดันมาขัดจังหวะเสียได้ ซูมี่ใช้จังหวะนั้นรีบลุกขึ้นจากตักอลันเพื่อรับสาย“สวัสดีค่ะ”หญิงสาวก็ไม่รู้ว่าใครโทรมาเพราะหน้าจอขึ้นแต่เพียงหมายเลข“สวัสดีซูมี่ จำเราได้หรือเปล่า...คีย์ไง”เมื่อปลายสายเอ่ยชื่อทักทาย ซูมี่ถึงกับตกใจแต่ก็พยายามนิ่งให้ได้มากที่สุด เพราะตอนนี้เธออยู่กับอลันจะให้เขารู้เรื่องนี้ไม่ได้“จำได้ ได้เบอร์มาจากไหน” เธอยังเลี่ยงใช้สรรพนามที่บ่งบอกเพศสภาพที่คุยกันอยู่“เอาเป็นว่าหามาได้...และไม่ใช่จากซิ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status