@ร้านอาหาร " ร้านนี้อาหารอร่อยมากเลยนะ " ผมเดินนำเธอเข้ามาด้านในร้านเเละเดินนำไปที่โต๊ะประจำ ยังดีหน่อยที่คนยังไม่เยอะมาก " นี่ค่ะเมณูอาหาร " พนักงานรีบนำเมณูอาหารมาให้เลือกทันที หลังจากที่สั่งเสร็จก็นั่งเล่นรอกัน " ไม่เห็นต้องพามาร้านหรูขนาดนี้เลย " เพียงเเค่ก้าวขาลงมาจากรถเขาก็รู้สึกตัวเองเหมือนเเม่บ้านที่เดินตามเจ้านายมายังไงยังงั้น รู้สึกเกร็งไปหมด " ก็ฉันอยากกินอาหารร้านนี้ไง เเละก็อยากเลี้ยงขอบคุณเธอด้วยที่มาช่วยงานฉันถ้าไม่ได้เธอฉันเเย่เเน่ๆ อย่าคิดมากเรื่องราคาอะไรเลยนะ ขนหน้าเเข้งฉันไม่ร่วงหรอก " บ้านฉันก็รวยเหมือนกันนะเเต่ไม่กล้าใช้ฟุ่มเฟือยเเบบเขา สงสารพ่อที่ต้องทำงานหาเงินงกๆให้เรียน " นายมาที่นี่บ่อยเหรอ " " บ่อยอยู่นะ " เเค่เห็นราคาอาหารเเต่ล่ะอย่าง เหงื่อฉันก็เเทบจะตกเเล้วเพราะมองว่าสิ้นเปลืองไปหน่อยถ้ามาบ่อย เเต่เขากับชิลมาก รอไม่นานอาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟเต็มโต๊ะไปหมด ฉันสั่งเเค่สองอย่างเองนะที่เหลือเขาสั่งมาเอง ไม่รู้จะทานกันหมดไหม ถ้าเหลือก็เสียดายเเย่ ระหว่างทานเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเพราะไม่มีเรื่องที่จะต้องพูดอะไรกัน " เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ไปรอที่รถก่อนได้เลย " " อื้อ " ฉันเดินออกมาจากร้านมายืนรอบริเวณหน้าร้าน เเละเล่นโทรศัพท์รอ " ไม่คิดว่าจะได้เห็นยัยเฉิ่มอย่างเธออยู่ร้านอาหารหรูเเบบนี้กับเขานะ " เนเน่ คือเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกัน เเต่พวกเธอไม่ค่อยเห็นฉันเป็นเพื่อนสักเท่าไหร่ เอาเเต่คอยกลั่นเเกล้ง " นั่นน่ะสิ หรือมายืนเชคอินอยู่ที่นี่เฉยๆ เเล้วก็กลับ " ใบเตย คือเพื่อนสนิทของ เนเน่ เเละนิสัยก็เหมือนกันเป๊ะคือชอบเเกล้งฉัน ฉันว่าฉันไม่เคยไปทำอะไรพวกเขาก่อนเลยนะ " เราไม่ใช่เธอ " " หึ....เดี๋ยวนี้รู้จักตอบโต้คืนเเล้วเหรอ หรือติดเชื้อยัยฮายังมา " ใบเตยยังคงพูดด้วยน้ำเสียงกระเเนะกระเเหนเเละมองเหยียด " อย่ามาว่าเพื่อนเรานะ " " ถ้าว่าเเล้วจะทำไม กล้ามีปัญหากับพวกฉันเหรอ " เนเน่พูดเเละยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจให้ เเละเดินมาผลักไหล่ฉันจนเสียหลักเซไม่ทันตั้งตัว " ... " " อย่าเงียบดิ เมื่อกี้ยังปากดีอยู่เลย " " พวกเธอทำอะไร " ผมที่เดินมาเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้พอดี จึงรีบเดินมาหาเธอเเละพูดใส่พวกนั้นเสียงเข้ม " ปะ....เปล่านะ ไม่ได้ทำอะไร " " ไม่ได้ทำอะไรงั้นเหรอ เปิดกล้องหน้าร้านดูไหมล่ะ " " เราเเค่ทักทายกันเฉยๆ ใช่ไหมนับเงิน " เขาสองคนรู้จักก้าวหน้าดีเพราะเป็นคนดังของมอเเต่ไม่เคยได้เข้าใกล้เลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งเเรก เเละข่าวลือที่ว่าเขาเป็นคนเกรี้ยวกราด คงจะเป็นเรื่องจริงสินะ " อืม... " " งั้นเราไปก่อนนะ " เนเน่ เเละ ใบเตย รีบเผ่นหนีทันทีเพราะเริ่มกลัวสายตาผู้ชายข้างฉันในตอนนี้ที่กำลังเเผ่รังสีอำมหิตจากสายตาอย่างเห็นได้ชัด " มือก็มีสองมือ เท้าก็มีสองเท้าเหมือนพวกนั้น ทำไมไม่รู้จักสู้กลับบ้างว่ะ " ผมหันมามองเธอ ที่ทำตัวอ่อนเเอจนน่าหงุดหงิด " เราไม่ชอบมีเรื่อง " ฉันก้มหน้างุดตอบเสียงเเผ่วเบาเเละเริ่มกลัวคนตรงหน้า " เเต่มันทำเธอก่อนนะเว้ย เธอจะรอให้พวกนั้นเอามีดมาเเทงให้เกือบตายก่อนเหรอถึงจะคิดเอาคืนเเละปกป้องตัวเองได้ " " พวกเขาคงไม่กล้าทำขนาดนั้นหรอก " " รู้ได้ยังไง คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจหรอกนะ เเละโลกใบนี้มันไม่ได้ดีเเละโรยด้วยกลีบกุหลาบขนาดนั้นหรอกนะนับเงิน มันโหดร้ายด้วยซ้ำ เราควรเลือกดีเป็นคนๆไปสิ " " น่ะ...นายจะมาหงุดหงิดโมโหใส่เราทำไมล่ะ มันไม่ใช่เรื่องของนายนะ " " ก็เห็นเเล้วมันหงุดหงิดลูกกะตาไง ที่เธอดูไม่สู้คนเลยอ่ะ " " เรากลับกันเถอะ " ฉันเงยหน้ามาสบตากับเขาผ่านเลนส์เเว่นหนาของตัวเอง เพื่อขอให้เขาใจเย็นลง " กลับก็ได้ " @ในรถ " สองคนนั้นมาหาเรื่องเธอบ่อยไหม " ผมอดที่จะถามเธอไม่ได้ ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมต้องหงุดหงิดเรื่องของเธอขนาดนี้ จะว่าเป็นห่วงก็ไม่เชิง " ก็...บ่อย " ืื " เเล้วเธอเอาตัวรอดยังไง " " ฮายังคอยปกป้องตลอด " " เพื่อนเธอดูกล้าเเละเเมนดีนะ ถูกเเล้วล่ะที่ต้องโต้ตอบพวกนั้นกลับบ้าง " ผมหันมาพูดกับเธอในขณะที่รถติดไฟเเดงอยู่ " ใช่...เพื่อนเราเก่งมากเลย ทั้งสวยทั้งเรียนเก่งเเละไม่กลัวใคร " " ทำไมเธอไม่ซึมซับนิสัยเพื่อนเธอมาบ้าง เพื่อนเธอไม่ได้อยู่ปกป้องเธอไปตลอดหรอกนะ " " เราก็ปกป้องตัวเราในเเบบของเราไง " " เห่อะ...ยังงั้นเรียกว่าปกป้องเหรอ คนพวกนั้นคงจะกลัวเธอล่ะเนาะ " ผมถึงกับดันลิ้นกับกระพุงเเก้มเเละเบือนใบหน้ากลับไปมองถนนต่อ " .... " " เเล้วมีใครมาเเกล้งเธออีกไหม นอกจากสองคนนี้ " " ไม่มีนะ " เพื่อนทั้งห้องเเละเพื่อนร่วมคณะคนอื่นๆ น่ารักกับฉันหมดเลย เเต่ยกเว้นใบเตยกับเนเน่ " เคยเรียนกีฬาพวกมวยพวกต่อสู้อะไรมาบ้างไหม " " ไม่เคย " " เดี๋ยวฉันสอนให้ เอาไว้เป็นวิชาปกป้องตัวเอง โลกใบนี้ถ้าอ่อนเเอมากอยู่ยากนะ ทุกคนไม่ได้ดีกับเราหมดหรอก " " เป็นห่วงเราเหรอ " " ใครเป็นห่วงเธอ ฉันเเค่หงุดหงิดที่เวลาเห็นเธอยอมคนพวกนั้นทั้งๆที่สู้ได้เเต่กับไม่สู้ " " เชื่อก็ได้ " ฉันถึงกับอมยิ้มเเละหันหน้ามองวิวข้างถนนเเทนมองหน้าเขา @คอนโด " อ่ะนี่ไลน์ของฉัน สเเกนซ่ะสิเอาไว้เผื่อติดต่อกัน " ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดปลดล็อคเข้าเเอปไลน์เเละสเเกนคิดอารโค๊ดเพื่อเป็นโค๊ดเฟรน์กัน " พรุ่งนี้หกโมงเย็นเจอกันที่ห้องของฉันนะ ฉันจะสอนมวยไทยให้ " ผมเอ่ยบอกจบก็เปิดประตูลงจากรถทันทีโดยที่ไม่ได้ถามความเห็นของอีกคนเลยว่าเต็มใจจะเรียนไหม ....อะไรของเขา นึกจะทำอะไรก็ทำโดยที่ไม่ถามความคิดเห็นของเธอเลย เเต่เอาเถอะ ถือซะว่าเรียนอะไรเพิ่มเติมเเล้วกัน @วันต่อมา " กว่าจะหมดวัน " ฮายังเอ่ยบอกหลังจากหมดคาบเรียนสุดท้าย " ไปหาชานมกินกันดีกว่า " ฉันบอกเเละหยิบของใส่กระเป๋าไปด้วย " ไปสิ " ตุ๊บบบ!! " อุ๊บบส์!!.... ซอรี่นะ เราไม่ได้ตั้งใจอ่ะ " เนเน่เดินมาปัดไอเเพดฉันตกลงพื้นเสียงดังตุ๊บบ จนฉันรีบเงยหน้ามองคนต้นเหตุ " มันจะมากไปเเล้วนะอีเนเน่ " " ใจเย็นนะฮายัง " ฉันจับมือเพื่อนไว้ในขณะที่กำลังจะเดินข้ามมาทางพวกนั้น เเละฉันก็ก้มตัวลงเพื่อจะเก็บไอเเพดที่หล่นอยู่ข้างลำตัวขึ้นมาดู " โอ้ยยย!! .... " " อุ้ยย...เราขอโทษนะนับเงิน เราไม่ได้ตั้งใจอ่ะอย่าโกรธเราเลยนะ " ใบเตยเอามือป้องปากมีจริตจะก้านยิ้มหวานให้ เเต่เเววตานั้นตรงกันข้ามเลย เเถมเหยียบนิ้วฉันอีก " อีเนเน่ อีใบเตย พวกมึงสองตัวจะเเกล้งเพื่อนกูมากไปเเล้วนะ ตบกับกูเลยดีกว่า " " ว๊ายย...ปล่อยนะ " ฮายังเดินมาหยุมหัวเนเน่กับใบเตยอย่างเเรงจนสองคนหน้าเบ๊ ส่วนสองคนนั้นก็พยายามสู้กลับ " ใจเย็นฮายัง อย่ามีเรื่องกันเลยนะ " " อีฮายัง มึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ " " ไม่ปล่อย เพราะมึงมาทำเพื่อนกูก่อน พวกมึงมีตั้งสองตัวมีปัญญาสู้กลับได้เท่านี้เหรอว่ะ " ฮายังพูดจบก็ขยุมหัวสองคนนั้นไปโขกที่โต๊ะอย่างเเรงคนล่ะที จนสองคนนั้นร้องโอดครวญ ไม่รู้ว่าฮายังเอาเรี่ยวเเรงมาเเต่ไหนนักขนาดฉันคอยดึงมือเพื่อนออกจากหัวสองคนนั้นยังทำไม่ได้เลย " หยุดนะ!!...นักศึกษา " อาจารย์ใบหม่อน หรืออาจารย์เเม่ของคณะเดินเข้ามาหาด้วบใบหน้าบึ้งตึง จึงต้องหยุดทะเลาะกันก่อน ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ในห้องเหลือเเค่สองสามคนเท่านั้นเพราะออกกันไปจะหมดห้องเเล้ว " นี่มันอะไรกัน " @ห้องพักอาจารย์ " เกิดอะไรขึ้นเล่ามาให้หมด " อาจารย์ใบหม่อนเอ่ยคาดคั้น " คือยังงี้ค่ะอาจารย์ ...." ฮายังอาสาเล่าให้อาจารย์ฟังทั้งหมดอย่างละเอียดตั้งเเต่ต้นจนจบ " ไม่จริงค่ะ มันใส่ร้ายพวกหนูนะคะอาจารย์ " เนเน่รีบเอ่ยบอกเเก้ตัวอย่างเลิ่กลั่ก " อาจารย์ก็เห็นว่ามันทำร้ายพวกหนูก่อน " ใบเตยรีบเอ่ยต่อ " พวกเเกไม่ใช่เหรอ ที่ชอบหาเรื่องเเกล้งเพื่อนฉันตลอดน่ะ " ฮายังเอ่ยสวนทันควัน " พอก่อนฮายัง " " เอาล่ะๆ หยุดทะเลาะกันก่อน อาจารย์ได้ฟังเเล้วก็ผิดกันทั้งสองฝ่าย เรื่องนี้อาจารย์จะทำโทษด้วยการหักคะเเนนทุกวิชาของพวกเธอคนล่ะสิบคะเเนน ถ้ามีรอบหน้าพักการเรียนทั้งคู่ " " อาจารย์ !!... ทำโทษเเบบอื่นได้ไหมคะ " พวกเราทั้งสี่คนตะโกนพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย " ไม่ได้ ถ้าไม่ทำเเบบนี้พวกเธอก็ไม่เกรงกลัวเเละไม่เคารพกฏมหาลัยสิ เเละก็อย่าให้มีรอบหน้าอีกไม่งั้นพักการเรียนหนึ่งเทอมเต็ม เข้าใจกันไหมหรือจะส่งเรื่องให้อธิการบดีดี พวกเธอโดนกันหนักกว่านี้นะ " " ไม่ค่ะไม่ เข้าใจเเล้วค่ะ " " ถ้างั้นก็เชิญกลับกันได้ " " ค่ะ " " ฝากไว้ก่อนเถอะ " เนเน่เอ่ยทิ้งท้ายเเละรีบสะบัดตูดเดินออกไปทันที " ไม่ใช่ธนาคารไม่รับฝากเว้ย " " พอเเล้วฮายัง " " เทอมนี้เราคงเรียนได้เเต่ B เเละ C เเหง๋ๆ เลยอ่ะนับเงิน " " อย่ามาทำเสียงเศร้าเหงาหงอย เราห้ามเธอเเล้วว่าอย่ามีเรื่อง เห็นไหมได้ไม่คุ้มเสียเลย " " ก็เรายอมไม่ได้นี่นาที่มันมารังเเกเธออ่ะ เธอก็ไม่ตอบโต้มันกลับสักที " " อีกสองปีพวกเราก็จะเรียนจบกันเเล้ว เราก็คิดว่ายอมๆปล่อยผ่านไปก่อน เพราะไม่อยากมีเรื่องไง " " เรายอมไม่ได้น่ะสิ " " พอเลยพอ เรากลับกันดีกว่า " ............ บวกได้บวกนะยัยพี่ 🙃 ฝากกดไลค์เเละคอมเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ 🙏💓
" งั้นหรอ เหมือนเคยเจอที่ร้าน... " ผมเว้นวรรคคำพูดไว้ จนทุกคนมองมาว่าผมจะพูดอะไรต่อ เริ่มสนุกเเล้วสิที่จะได้เอาคืนเด็กตรงหน้า " ร้านชาบูในห้างค่ะ ใช่ไหมคะ...เหมือนหนูเคยเห็นคุณเเว๊บๆ " " อ่อ....น่าจะใช่นะ " หัวไวจริงๆเด็กคนนี้ ได้เเต่ยกยิ้มในใจ" ลูกสาวน้าเขาเที่ยวเก่งน่ะ... " ขวัญฤทัยบอกคนตรงหน้า " ครับ " " หนูพึ่งเรียนจบมาใช่ไหมลูก ป้าได้ข่าวว่าได้เกียรตินิยมอันดับ 1 มาด้วยนิ " เเจนเอ่ยถามคนตรงหน้า" ใช่ค่ะ " โคตรภูมิใจเลยมีคนทักเเบบนี้ ฉันเรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 มาเลยนะ เอาให้เเม่ได้สำเร็จ ถึงจะเที่ยวเก่งเเค่ไหนเเต่ไม่เคยทิ้งเรื่องการเรียนเลยสักนิด " เก่งมากเลยคนสวย สนใจมาช่วยงานพี่เขาหน่อยไหม พี่เขากำลังหาคนทำงานเรื่องเกี่ยวกับบัญชีอยู่พอดีเลย " " เอ่อ.... " " เรียนจบเกี่ยวกับการเงินมาก็ใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์หน่อยสิลูก เราก็ว่างๆอยู่นะ การเงินที่เราเรียนมาก็คล้ายๆกับบัญชีนั่นเเหล่ะ " น้ารินเอ่ยเสริม เล่นเอาฉันไปไม่เป็นเลย" เเต่หนูต้องช่วยงานน้ากับเเม่ คงไม่ว่างค่ะ " " ทำไมจะไม่ว่างล่ะ เดี๋ยวคนงานก็กลับมาทำงานเเล้ว อยู่บ้านก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรสักเท่าไหร่ ช่วยงานพี่
วันต่อมาา 20.00 เเกร๊กก!! " เห้ย!!!นายเข้ามาได้ยังไงเนี่ย " เขาไม่ตอบเเต่โชว์คีย์การ์ดห้องของฉันให้ดู เเละเดินเข้ามาหาหน้านิ่งอย่างน่ากลัวจนฉันเดินถอยหลังเสียหลักหงายหลังลงโซฟา ส่วนเขาก็เดินเข้ามาหาเเละยืนกอดอกมอง " เราจะเเจ้งความข้อหาบุกรุก " " เห่อะ...ถ้าคิดว่าทำอะไรคนอย่างฉันได้ก็เชิญ "เพล๊งงงง !!" มีเเรงทำอะไรฉันได้เเค่นี้เองเหรอว่ะ " เธอเล่นทีเผลอโดยหยิบเเจกันตรงโต๊ะข้างโซฟามาขว้างใส่ผมจนมันหล่นเเตกเต็มพื้น โชคดีที่ผมหลบได้ทัน เเต่เธอก็ขว้างหมอนมาอีกสามลูกผมก็หลบทันอยู่ดี " ออกไปเลยนะ " " เรานัดกันกี่โมง เห็นฉันใจดีหน่อยก็จะเบี้ยวนัดเหรอ " " เราไม่ได้ไปนัดกับนายนิ " " เหรอ " " อืม... " " เเต่จะบอกอะไรให้นะ เธอต้องไปซ้อมกับฉันเดี๋ยวนี้อย่าให้ความอดทนฉันหมดนะนับเงิน " " เเล้วทำไมเราต้องไปกับนายด้วย เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันสักหน่อย " " เกี่ยวไม่เกี่ยวเดี๋ยวอีกไม่นานเธอก็จะรู้เองเเหล่ะ เเต่ตอนนี้ต้องไปยิมกับฉัน ฉันให้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าสองนาที " " เราไม่ไป จะทำการบ้าน "
วันต่อมา 17.30 กริ๊งงงงๆๆ ~ (ฮัลโหลครับคุณหนู) " ได้เรื่องอะไรไหมพี่ศักดิ์ " ศักดิ์ดา คือลูกน้องคนสนิทของพ่ออีกคนหนึ่ง ซึ่งฉันไหว้วานให้ไปสืบเรื่องของนายก้าวหน้าให้อย่างเงียบๆ เพราะอดสงสัยไม่ได้จริงๆ ทำไมหมอนั่นต้องเข้ามาวุ่นวายทำให้ชีวิตฉันไม่สงบสุขเเบบนี้ด้วย " ได้ครับ เดี๋ยวผมส่งลิงก์ข้อมูลไปให้ในไลน์นะครับ " " ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวหนูโอนค่าขนมให้ " ฉันจึงรีบวางสาย รอไม่นานข้อความเเชทก็เเจ้งเตือน จึงรีบกดเข้าไปอ่าน นายกวินท์ ก้องเกียรติ์ เป็นลูกชายคนเดียวของคุณกรรชัยเเละคุณหญิงภิรดา เจ้าของธุรกิจชื่อดังพันล้าน มีธุรกิจทั้งในเเละนอกประเทศปัจจุบันเรียนอยู่ปีสอง คณะบริหารธุรกิจ มอ Lผลการเรียนตั้งเเต่เด็กจนโต ได้เกรด A+ ทุกวิชา ความสามารถเรื่องการเรียนเเละกีฬาก็ได้เรียนทองตลอด พูดได้ 5 ภาษา...... // " เเสดงว่าวันนั้นที่ให้ไปช่วยทำรายงานคือเป็นเเผนที่จะเข้าหาสินะ ทั้งๆที่ตัวเองเก่งหมดขนาดนี้ " ประวัติเขานั้นไม่ธรรมดาเลยล่ะ เรียกได้ว่าโปรไฟล์ดีเลิศจนอดที่จะชมไม่ได้ เเต่ก็ขึ้นโรงพักข้อหาทะเลาะวิวาทมาหลายครั้งเเล้วเหมือนกัน ส่วนข้อเสียด้านอื่นไม่ค่
3 อาทิตย์ต่อมา " เห้ออออ กว่าจะหมดชั่วโมง " ฉันนั่งถอนหายใจด้วยความเหนื่อย เเละเอาผ้ามาเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าด้วย " เเค่นี้ก็บ่น " " ชิ...ไม่บ่นก็ได้ " " สนใจไปกินเหล้าที่ผับด้วยกันไหม " " ไม่อ่ะ...สถานที่ที่มีเเต่ความเสี่ยงเเบบนั้นเราไม่ไปหรอก " " ก็ดี อย่าลืมสวดมนต์ก่อนนอนด้วยล่ะ " " ประชดเหรอ เเต่เราก็ทำทุกวันนะ " " เปล๊าา " ผมเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าตัวเองไปด้วย " จะไปไหนก็ไปเลยไป " " เดี๋ยวนี้ไล่เก่งนะ " " ใช่ เห็นหน้านายเเล้วหงุดหงิด " " หึ...ฉันควรดีใจใช่ไหมที่ทำให้เธอหงุดหงิดหน้ามุ่ยใส่ได้ขนาดนี้เป็นคนเเรก เพราะปกติเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้เป็นร้อยผืนเวลาอยู่กับคนอื่น " " ไม่กระเเนะกระเเหนสักวันจะนอนไม่หลับเหรอ " ฉันทำหน้ายู่ใส่เขาด้วยความหมันไส้ ในความหล่อร้ายนี้ " อย่าทำหน้าเหมือนปลาปักเป้าดิ " ผมเอานิ้วไปจิ้มเเก้มป่องนั่นอย่างหยอกล้อ " นี่นาย!!..สรรหาคำมาว่าเราอีกเเล้วนะ " " ฮ่าาๆๆ ...ฉันชอบเธอเวอร์ชั่นนี้ว่ะ " " นายไม่ไป เราไปเองก็ได้ " " เดินดีๆล่ะ
วันต่อมาฉันลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงียง่วงนอน เเต่ก็รู้สึกตัวเเล้วล่ะว่านี้สายมากเเล้ว เพราะเเสงเเดดส่องผ่านเข้ามาทางม่านด้านระเบียงห้องนอนจนเริ่มรู้สึกร้อน จึงพยายามตั้งสติเเละลุกขึ้นมานั่งเเละมองไปที่นาฬิกาผาผนัง ก็พบว่านี่สิบโมงเช้าเเล้ว " รู้สึกดีขึ้นจัง " อาการปวดท้องปวดหัวที่รู้สึกเป็นไข้ เเละเจ็บคอจนจะอาเจียนก่อนหน้านี้ กับดีขึ้นมากอย่างคาดไม่ถึง เเต่ก็ยังรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยู่บ้าง" ตื่นเเล้วก็ลุกไปเข้าห้องน้ำจะได้ทานข้าวทานยา นี่สายมากเเล้วนะ " เมื่อเช้าผมมีธุระรีบออกไปจึงกลับมาในตอนสาย เเต่ก็ไม่ลืมซื้อข้าวมาฝากคนป่วยด้วย " เรานึกว่านายกลับไปเเล้วซะอีก " " กลับไปเเล้วเเละก็ไปธุระตั้งเเต่เช้ามาเเล้วจนพึ่งกับมาเนี่ยเเหล่ะ ตื่นมาก็ไล่เลยนะเเม่คุณเเทนที่จะขอบคุณกันสักคำ " " อย่าบอกนะเมื่อคืนนายอยู่ดูเเลเราทั้งคืนเลยอ่ะ " " ใช่อ่ะดิ ไข้ขึ้นสูงทั้งคืนนี่ถ้าเช็ดตัวเเล้วไข้ไม่ลดลงนะฉันได้พาเธอไปโรงบาลกลางดึกเเน่ " " นี่นายเช็ดตัวให้เราเองเหรอ " -///- " ใช่....เเต่ฉันขอโทษเธอก่อนเเล้วนะเเต่เธอก็ไม่รู้สึกตัวมารับรู้สักท
5 วันต่อมา " เเน่ใจใช่ไหมว่าไหว " ผมถามย้ำเธออีกครั้ง ตอนนี้เราอยู่ที่ฟิตเนสของคอนโดกันเหมือนเดิมเวลาเดิม " ไหวสิ เป็นห่วงเราเหรอ " " เปล่า กลัวจะมาตายอยู่เเถวนี้เเล้วลำบากคนอื่นต้องมาตามเก็บอีก " " นายมีหมาอยู่ในปากเหรอ ถึงปากเสียจัง " " เดี๋ยวนี้ชักจะอัพเลเวลความกวนขึ้นนะเธอเนี่ย " ผมไม่โกรธที่เธอยอกย้อนคืน เเต่กลับถูกใจมากกว่าที่เธอมีความกล้าพูดขึ้น " ติดมากจากนายไง " ฉันจงใจยิ้มใส่เขาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว " เดี๋ยววันนี้เธอเจอสอนเเบบโหดเเน่ " " เเยกเเยะหน่อยดิ อย่าเอาอารมณ์มาปน " ปึก!! " มีสติหน่อย " ผมปล่อยหมัดใส่เธอในตอนที่เธอไม่ทันตั้งตัว เเต่ก็หลบได้ทัน " เล่นทีเผลอตลอด...ชิส์ " " อย่ามาบ่นเป็นคนเเก่เเถวนี้ ต่อยเข้ามาที่เป้าล่อต่อย " " ได้ " ฉันที่กำลังโมโหที่ถูกว่าเป็นคนเเก่ในวัยยี่สิบเอ็ด จึงพยายามตั้งสติเเละรัวหมัดใส่เป้าอย่างไม่ยั้ง มีเท่าไหร่ใส่ไปให้หมดเเม๊กปึกกๆๆ " ดี...เเต่ต้องเเรงกว่านี้อีก " ผมกระตุ้นเธอด้วยน้ำเสียงที่เสียงดังฮึกเหิม จนทำให้เธอฟึดฟัดรัวหมัดใส่ไม่ยั้ง ไม่เสียเเรงท
วันต่อมา Line ก้าวหน้า : คุณลุงครับ ผมขออนุญาตพานับเงินมาเที่ยวนะครับ พาเธอมาเล่นอะไรสนุกๆ ลุงชัชชัย : ได้สิลูก อย่าลืมถ่ายรูปนับเงินส่งมาให้ลุงดูบ้างนะ ลุงยังไม่เคยเห็นเขาทำอะไรสนุกๆบ้างเลย วันๆ เอาเเต่อยู่ห้องกับอ่านหนังสือ ก้าวหน้า : ได้ครับ " มันสูงอ่ะ เรากลัวความสูง " ตอนนี้ใส่เซฟตี้เตรียมพร้อมจะปีนหน้าผาจำลองเเล้ว เเต่ขานี่สิมันก้าวไม่ออก " ถ้าเธอไม่กล้า เธอก็จะไม่กล้าไปตลอดชีวิตเนี่ยเเหล่ะ เกิดเป็นคนมันต้องลอง " ผมบิ๊วอารมณ์เธอให้เธอกล้าขึ้น " ลองอย่างอื่นได้ไหม " " มาถึงขนาดนี้เเล้วเธอเปลี่ยนใจไม่ทันเเล้วล่ะ " " ทันสิ " " เธอเห็นเด็กกลุ่มนั้นไหม " ผมชี้ไปที่กลุ่มเด็กผู้หญิง อายุน่าจะประมาณ8-9 ขวบ กำลังเเข่งกันปีนผาจำลองกันอยู่อย่างไม่ยอมเเพ้ โดยมีพ่อกับเเม่คอยให้กำลังใจอยู่ข้างล่าง เเต่ก็มีเจ้าหน้าที่คอยดูเเลเเละช่วยเหลืออยู่เเต่อันนั้นมันของโซนเด็ก " เห็น " " ขนาดน้องเขาตัวเเค่นั้นยังกล้า เเล้วเธอล่ะ...ตัวโตกว่าน้องตั้งเยอะ ทำไมถึงไม่กล้าลอง คนเรามันต้องลองออกจากเซฟโซนเดิมๆบ้างนะ ถึงจะไ
วันต่อมา17.30" รถติดหนักมาก กว่าจะมาถึงได้น่าเบื่อชะมัด " ทันทีที่ฮายังมาถึง ก็บ่นออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายกับการจราจรติดขัดในเมืองกรุง " มันก็เป็นเเบบนี้ทุกวันอยู่เเล้วนี่นา ยังไม่ชินอีกเหรอ " " ไม่ชินอ่ะ ถ้าเรียนจบเมื่อไหร่จะไปอยู่ขอนเเก่นทันที " " อ่ะนี่ของขวัญวันเกิด " ฉันส่ายหน้าไปมาเบาๆด้วยรอยยิ้ม " ขอบคุณนะ ไม่ต้องมีอะไรมาให้เราก็ได้ " " ไม่ได้สิ ขนาดวันเกิดเราฮายังยังมีของขวัญให้เราเลย " "Thanks you เราเริ่มจากเเต่งหน้าทำผมก่อนเเล้วกัน เดี๋ยวค่อยไปเเต่งตัว "หงึกๆ1 ชั่วโมงต่อมา " ว๊าววว....ฝีมือเราก็ใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย " ฮายังเอ่ยชมตัวเอง พร้อมจับตัวเพื่อนรักหมุนตัวเพื่อเช็คความเรียบร้อยอีกครั้ง " เราไม่มั่นใจเลยอ่ะ ไม่ชิน " ฉันมองสำรวจตัวเองอีกครั้งที่เพื่อนรักจับเเต่งตัวเหมือนฉันเป็นตุ๊กตา " มั่นใจหน่อยสินับเงิน เธอสวยมากเลยนะหัดงัดความสวยออกมาใช้ให้ผู้ชายเสียดายบ้าง " " อื้อ " ฉันมองตัวเองในกระจกอีกครั้งอย่างยิ้มๆเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง ฮายังเเต่งหน้าทำผมสวยมากอย่างกับมืออาชีพเเหน่ะ ส่ว
2 ปีต่อมา วันนี้คือวันรับปริญญา ได้ใส่ชุดครุยกับเขาสักที บอกตามตรงว่าตื่นเต้นมากกว่าจะเรียนจบคณะหินสุดโหดนี้มาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลับคาโปรเจคประจำ เเต่ก็สู้จนเรียนจบมาได้ เเถมจบพร้อมเเฟนสุดหล่ออีก ฉันเเต่งหน้าทำผมเองตั้งเเต่เช้ามืดอยากให้ออกมาสวยที่สุด เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญ" พอได้เห็นใบปริญญาเเล้วดีใจภูมิใจชะมัด สมกับที่อดหลับอดนอนจนจะเป็นหมีเเพนด้าอยู่เเล้ว " ฮายังเอ่ยออกมายิ้มๆ ในขณะที่กำลังออกไปที่หน้าคณะกัน " นั่นน่ะสิ เกือบจะพากันเข้าโรงบาลไปฝากตัวเป็นผู้ป่วยอยู่เเล้ว " " ฮ่าๆๆ ...ก็จริง " " เรียนจบเเล้ว ฮายังจะกลับไปอยู่ขอนเเก่นเลยไหม " " ไปเลย เราเบื่อชีวิตที่วุ่นวายในกรุงเทพเเล้วอ่ะ " " เเล้วกังฟูล่ะ " " นายหมอนั่นก็จะไปอยู่กับเราเหมือนกัน ว่าจะทำธุรกิจด้วยกันอยู่ " " ยังงี้เราก็เหงาเเย่เลยสิ นานๆเจอกันที " " ไม่เหงาหรอกหน่า เดี๋ยวเราลงมาหาบ่อยๆ หรือจะไปหาเราบ้างก็ได้ " " คงต้องอย่างงั้น เราไปหาครอบครัวเรากันดีกว่า "" มาให้พ่อหอมทีลูกสาวคนสวย ยินดีด้วยนะลูก...ฟอด~ " ฉันสวมกอดกับคนเป็นพ่อเเละท่านก็หอ
วันต่อมา 22.00 ฉันรีบอาบน้ำเเต่งตัวให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยอาบที่ห้องทำงานของพ่อเเละใส่ชุดธรรมดามา ใจจริงอยากเเต่งตัวสวยๆให้เกรียรติ์เจ้าของงานมากนะ เเต่ไม่มีเวลากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโด ถ้าขับกลับไปที่คอนโดคงได้มาถึงที่บ้านป๊าก้องตอนเที่ยงคืนเเน่ ซึ่งงานเลี้ยงอาจจะเลิกราเเล้ว ตามจริงก็เลิกงานตอนห้าโมงเย็นเเต่มีประชุมด่วนเข้ามาจึงต้องรีบเข้าประชุมด่วนเเบบไม่ทันได้เตรียมตัว ส่วนพ่อไปดูงานอีกที่หนึ่งจึงมาไม่ได้....ชีวิตช่วงนี้โคตรปวดหัวเลยล่ะ จนอยากจะเเยกร่างได้สักสิบร่างจะได้ทำงานให้หมดๆ จะได้มีเวลาพักผ่อนกับเขาบ้าง ทำไมมันเหนื่อยเเบบนี้นะจะมาล้มเลิกอะไรตอนนี้ก็ไม่ทันเเล้วล่ะเพราะสงสารพ่อที่ต้องเหนื่อย ตั้งเเต่ฉันเข้ามาช่วยงานพ่อเเบบเต็มตัว พ่อท่านดูสดใสเเละมีเวลาพักผ่อนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด " สวัสดีค่ะป๊า สวัสดีค่ะเเม่ หนูต้องขอโทษด้วยนะคะที่มาช้าพอดีติดประชุมด่วนอยู่อ่ะค่ะเเถมเเต่งตัวไม่เรียบร้อยด้วย " ฉันยกมือไหว้ท่านก่อนที่จะยื่นกล่องของขวัญขนาดกลางให้ป๊าซึ่งเป็นเจ้าของงานวันเกิดวันนี้ ท่านทั้งสองเเต่งตัวได้หล่อสวยสมวัยโกงอายุมาก บอกว่าสามสิบต้นๆ
@โรงพยาบาล ฉันเลือกพาเขามาทำเเผลที่โรงบาล ทั้งๆที่เขาขอตัวกลับบ้านบอกว่าเเผลเเค่นี้จิ๊บจ๊อยไม่ได้เจ็บอะไรมาก เเต่ใครจะปล่อยให้เขากลับไปทำเเผลเองล่ะ โคตรรู้สึกผิดกับคุณเจย์เลยที่คนของตัวเองไม่มีเหตุผลเเถมขอโทษเเบบส่งเดชอีก " รอนานไหมครับ " หลังจากที่ได้ทำเเผลเสร็จคุณเจย์ก็เดินเข้ามาหา " ไม่นานค่ะ คุณเจย์เจ็บมากไหมคะ " ฉันเอ่ยถามเขาด้วยความเป็นห่วง " นิดหน่อยครับ เเต่ไม่นานก็คงหาย " " ขอโทษคุณเจย์เเทนก้าวหน้าด้วยนะคะ อย่าเอาผิดเขาเลยนะคะ " ฉันกลัวจะกระทบกับธุรกิจของพ่อเขา จึงรีบเอ่ยขอ " ไม่เอาผิดหรอกครับเเละผมก็จะไม่บอกพ่อผมด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับว่าจะกระทบกับธุรกิจ เรื่องเเบบนี้เป็นใครใครก็ต้องเข้าใจผิดกันครับ " เจย์เอ่ยอย่างใจเย็นเมื่อเห็นคนตรงหน้าวิตกกังวลเเบบเห็นได้ชัด " ขอบคุณคุณเจย์นะคะที่เข้าใจ เเละก็ต้องขอโทษคุณเจย์อีกครั้งด้วยค่ะที่ทำให้ต้องเจ็บตัว " " ไม่ต้องขอโทษผมเเล้วครับ คุณนับเงินขอโทษผมมาเป็นสิบครั้งเเล้ว เเละคุณนับก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย " " เเต่... " " กลับกันเถอะครับ เดี๋ยวผมไปส่ง " " ค่ะ " @คอนโด "
@โรงพยาบาล ฉันเลือกพาเขามาทำเเผลที่โรงบาล ทั้งๆที่เขาขอตัวกลับบ้านบอกว่าเเผลเเค่นี้จิ๊บจ๊อยไม่ได้เจ็บอะไรมาก เเต่ใครจะปล่อยให้เขากลับไปทำเเผลเองล่ะ โคตรรู้สึกผิดกับคุณเจย์เลยที่คนของตัวเองไม่มีเหตุผลเเถมขอโทษเเบบส่งเดชอีก " รอนานไหมครับ " หลังจากที่ได้ทำเเผลเสร็จคุณเจย์ก็เดินเข้ามาหา " ไม่นานค่ะ คุณเจย์เจ็บมากไหมคะ " ฉันเอ่ยถามเขาด้วยความเป็นห่วง " นิดหน่อยครับ เเต่ไม่นานก็คงหาย " " ขอโทษคุณเจย์เเทนก้าวหน้าด้วยนะคะ อย่าเอาผิดเขาเลยนะคะ " ฉันกลัวจะกระทบกับธุรกิจของพ่อเขา จึงรีบเอ่ยขอ " ไม่เอาผิดหรอกครับเเละผมก็จะไม่บอกพ่อผมด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับว่าจะกระทบกับธุรกิจ เรื่องเเบบนี้เป็นใครใครก็ต้องเข้าใจผิดกันครับ " เจย์เอ่ยอย่างใจเย็นเมื่อเห็นคนตรงหน้าวิตกกังวลเเบบเห็นได้ชัด " ขอบคุณคุณเจย์นะคะที่เข้าใจ เเละก็ต้องขอโทษคุณเจย์อีกครั้งด้วยค่ะที่ทำให้ต้องเจ็บตัว " " ไม่ต้องขอโทษผมเเล้วครับ คุณนับเงินขอโทษผมมาเป็นสิบครั้งเเล้ว เเละคุณนับก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย " " เเต่... " " กลับกันเถอะครับ เดี๋ยวผมไปส่ง " " ค่ะ " @คอนโด "
1 เดือนต่อมา การฝึกงานในช่วงปิดเทอมตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้น เล่นเอาเหนื่อยมากเหมือนกันทำให้รู้เลยว่าพ่อตัวเองทำงานหนักขนาดไหนในเเต่ล่ะวัน เเต่ยังโชคดีที่มีพี่ๆที่ทำงานคอยช่วยสอนเเละเเฟนที่น่ารักคอยช่วยซัพพอร์ตอีกเเรง จึงทำให้ผ่านไปได้เเละเข้าใจอะไรง่ายขึ้น เวลาที่จะสวีทกับเเฟนอย่าพูดถึง เพราะต่างคนต่างทำงานหนักมากกลับมาถึงห้องก็นอนสลบหมดเเรงกันทั้งคู่ เเต่ยังดีที่เราเข้าใจกันไม่ได้งอเเงว่าไม่มีเวลาให้กันจนถึงขั้นน้อยใจกันเเต่เเรกๆถามว่ามีบ้างไหมว่าน้อยใจตอบเลยว่ามี ถือว่าเป็นความสัมพันธ์เเบบผู้ใหญ่มากขึ้น " กลับไปพักเถอะลูก เหนื่อยมาทั้งวันเเล้ว " ตนเอ่ยบอกลูกสาวของตนเพราะตอนนี้เย็นมากเเล้วจึงอยากให้กลับไปพักผ่อน ลูกสาวของเขาช่วยงานได้เยอะมากเลยทีเดียว อาจจะเป็นเด็กหัวดีอยู่เเล้ว เลยเข้าใจอะไรง่าย " พ่อก็ต้องกลับไปพักเหมือนกันนะคะ เหนื่อยมาทั้งวันเเล้วเหมือนกัน " " งั้นเก็บของกัน จะได้กลับพร้อมกัน" " ค่ะ " ฉันเก็บของบนโต๊ะให้เรียบร้อยเเละเดินคล้องเเขนคุณพ่อออกจากห้องทำงานไปที่ลานจอดรถ ตอนนี้เย็นมากเเล้วจึงเหลือเเค่รถเราสองคนพ่อลูกที่ยังจอดอยู่
" ..... " เเสงเเดดที่สาดส่องเข้ามาผ่านม่านหน้าต่างนั้นทำให้ฉันต้องตื่น เพราะเริ่มรู้สึกร้อนเเละรู้สึกสายมากเเล้ว เเต่ทำไมมันปวดหัวตุ๊บๆเเบบนี้กันนะ ถึงกับต้องจูนสมองอีกครั้งว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ใช่เเล้วๆ เมื่อคืนเห็นเขานั่งกินไวน์เลยขอกินด้วยเเต่กินไปกินมาดันเเย่งเขากินหมดขวดจนเมาเเอ๋เลย น่าอายชะมัดเลยยัยนับเงิน เเต่ที่จำได้เเม่นๆคือเขาดุขึ้นเสียงใส่ฉันจนฉันงอลล็อคห้องหนี เเต่เมื่อคืนเหมือนรู้สึกว่ามีคนนอนกอดฉันนะ เเกร๊กก!! " ตื่นเเล้วเหรอ ปวดหัวมากไหมลุกไปอาบน้ำเเละไปทานข้าวเช้ากัน เเล้วค่อยมานอนต่อนะเดี๋ยวปวดท้องซะก่อน " ผมยิงคำถามรัวๆใส่คนที่ยังนอนงงอยู่บนเตียง เเต่เธอก็ไม่พูดอะไรยอมลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย จนน่าเเปลกใจ " นี่เเสดงว่าเขาเอากุญเเจสำรองมาไขห้องสินะ " ฉันยินพึมพำเบาๆอยู่ในห้องน้ำ เเต่ว่ารีบอาบน้ำก่อนดีกว่าเดี๋ยวนายนั่นมาพังห้องน้ำเขาอีก ครึ่งชั่วโมงต่อมา " น้ำขิงร้อนๆจะได้เเก้เเฮงค์ " เธอนั่งลงเเต่ก็ยอมรับน้ำขิงจากผมไปจิ๊บก่อนจะมองอาหารบนโต๊ะ ที่มีเเต่อาหารสไตล์ยุโรป " โทรสั่งใหม่ไหม " " ไม่ต
2 อาทิตย์ต่อมา วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการสอบปลายภาค พรุ่งนี้ก็จะปิดเทอมเเล้ว ดีใจที่สุดปีหน้าก็อยู่ปีสี่เเล้วล่ะ วันเวลาผ่านไปไวเหมือนกันนะ อยากไปเที่ยวพักผ่อนเปิดหูเปิดตาบ้าง เเต่ปิดเทอมนี้คงจะไม่เหมือนเดิมเหมือนทุกครั้ง เพราะว่าต้องเข้าไปช่วยงานพ่อที่บริษัทอย่างเต็มตัว ใกล้หมดเวลาการใช้ชีวิตวัยรุ่นเเล้วล่ะถ้าได้เข้าไปบริหารงานเเทนพ่อ " เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเเบบนั้น " พอขึ้นรถเขามาได้เขาก็เอ่ยถามทันที " ไม่ได้เป็นอะไร เเค่คิดว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนก่อนดีก่อนจะเข้าไปช่วยงานพ่อที่บริษัท " " อยากไปที่ไหนบอกเสี่ยมาเลยอีหนู เสี่ยพร้อมจะเปย์เเละพาไป " ผมตบหน้าอกตัวเองสองสามทีจนเธอขำ " เสี่ยอาจจะล้มละลายเพราะหนูเอานะคะ " ฉันเเกล้งกวนเขากลับื " ขนหน้าเเข้งเสี่ยไม่ล่วงง่ายๆหรอกนะอีหนู สมบัติที่มีใช้ได้ยันชาติหน้า " " ขี้อวดจริงๆ " " หึ... " " ไปเมาดีฟส์กันสามสี่วันดีไหม " " ก็ดีนะ เราสองคนไม่ได้ไปสวีทกันเลยช่วงนี้ " " เเล้วจะไปวันไหนกันดี "ื " ไปพรุ่งนี้กันเลยดีไหม เพราะช่วงนี้ฉันว่างๆ อยู่พอดี " " จะจองที่
วันต่อมา " ปล่อยพวกเรานะ เเกไม่มีสิทธิ์มาจับตัวพวกเรา " คนที่เอ่ยน่าจะชื่อเนเน่เพราะได้ยินอีกคนเรียกชื่อเมื่อวานนี้ ส่วนอีกคนน่าจะชื่อเตย " เเล้วพวกมึงเป็นใคร มาจับเมียกูไปให้คนอื่นปู้ยี่ปู้ยำ " ผมเอ่ยออกมาเสียงเข้มเกรี้ยวกราดด้วยความโกรธจัด จนพวกมันสามตัวสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ " พะ...พวกเราขอโทษ ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ " " นั่นสิ จะให้พวกเราทำอะไรก็ได้เพื่อเป็นการไถ่โทษ เเต่ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ " ผู้ชายคนนั้นเอ่ยออกมาขอร้องอ้อนวอน เพราะตอนนี้พวกมันสามตัวถูกมัดกองรวมกันที่พื้นอยู่ " ปล่อยงั้นเหรอ? พวกมึงคิดว่าไงว่ะเพื่อน ควรปล่อยไปง่ายๆดีไหม " ผมหันไปถามเพื่อนทั้งสองคน " ถ้าปล่อยไปเฉยๆรู้สึกไม่สนุกเลยว่ะ " กังฟูเอ่ยพร้อมยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ส่วนไต้ฝุ่นมองพวกมันนิ่งๆยากเกินจะคาดเดา " กูก็ว่าอย่างงั้นเเหล่ะ เเต่กูอยากรู้ว่าใครมันเป็นคนคิดเเผนบ้าๆนี้ขึ้นมา พูดด!! " ผมตะคอกเสียงดังลั่นโกดัง จนพวกมันเริ่มกลัวจนตัวสั่น " ยัยเนเน่เป็นคนคิดเเผนนี้ขึ้นมา " " เเกนั่นเเหล่ะนังใบเตย เป็นคิดเเผนนี่ขึ้นมา " " เเกนั่นเเหล่ะ อย่ามาโทษฉันนะ
" กรี๊ดดดด" ตุ๊บบบบ!! ฉันวิ่งออกมาจากบ้านหลังนั้นให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนพวกมันจะมาจับตัวอีกรอบ โดยที่ไม่ได้มองรถช่วงบริเวณทางโค้งให้ดีจนเกือบชนเเละล้มลงที่พื้น เจ็บชะมัด" นับเงิน เป็นยังไงบ้างง " พอได้ยินน้ำเสียงคุ้นเคย จึงได้รีบเงยหน้าขึ้นมามองพอเห็นว่าเป็นเขาฉันจึงโผเข้ากอดเขาทันที " ฮึกกกๆ ...ช่วยเราด้วย เรากลัว " " ไม่ต้องกลัวนะ ฉันมาเเล้ว " ผมกอดเธอกลับเเน่นๆ เพื่อปลอบประโลมให้เธอเลิกกลัว เธอร้องไห้จนตัวสั่นคลอนจนน่าสงสาร " หยุดนะเว้ย " กังฟูกับไต้ฝุ่นรีบวิ่งไปจับตัวพวกมัน " รอฉันอยู่ในรถนะ " ผมผละกอดจากเธอเเละรีบวิ่งไปจับตัวพวกมันช่วยเพื่อนๆ โดยให้เธอรอที่นี่เเทนฉันรีบขึ้นรถตามที่เขาบอก เพราะไม่อยากให้ใครมาเห็นฉันในสภาพที่เเย่ๆเเบบนี้สักเท่าไหร่ ต้องขอบคุณเขาจริงๆ ที่มาช่วยฉันไว้ได้ทันท่วงที ไม่งั้นฉันอาจจะตายทั้งเป็นด้วยฝีมือพวกมันเเน่ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดยิ่งขยะเเขยงกับการกระทำพวกนี้ เพราะคิดว่าสองคนนั้นจะคิดได้จึงยอมมาด้วย ไม่น่าหลงกลเลยจริงๆ น่าจะคิดให้ระเอียดรอบคอบมากกว่านี้ ปึ้กกก !! พอผมจับพว