วันต่อมา 17.30 กริ๊งงงงๆๆ ~ (ฮัลโหลครับคุณหนู) " ได้เรื่องอะไรไหมพี่ศักดิ์ " ศักดิ์ดา คือลูกน้องคนสนิทของพ่ออีกคนหนึ่ง ซึ่งฉันไหว้วานให้ไปสืบเรื่องของนายก้าวหน้าให้อย่างเงียบๆ เพราะอดสงสัยไม่ได้จริงๆ ทำไมหมอนั่นต้องเข้ามาวุ่นวายทำให้ชีวิตฉันไม่สงบสุขเเบบนี้ด้วย " ได้ครับ เดี๋ยวผมส่งลิงก์ข้อมูลไปให้ในไลน์นะครับ " " ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวหนูโอนค่าขนมให้ " ฉันจึงรีบวางสาย รอไม่นานข้อความเเชทก็เเจ้งเตือน จึงรีบกดเข้าไปอ่าน นายกวินท์ ก้องเกียรติ์ เป็นลูกชายคนเดียวของคุณกรรชัยเเละคุณหญิงภิรดา เจ้าของธุรกิจชื่อดังพันล้าน มีธุรกิจทั้งในเเละนอกประเทศปัจจุบันเรียนอยู่ปีสอง คณะบริหารธุรกิจ มอ Lผลการเรียนตั้งเเต่เด็กจนโต ได้เกรด A+ ทุกวิชา ความสามารถเรื่องการเรียนเเละกีฬาก็ได้เรียนทองตลอด พูดได้ 5 ภาษา...... // " เเสดงว่าวันนั้นที่ให้ไปช่วยทำรายงานคือเป็นเเผนที่จะเข้าหาสินะ ทั้งๆที่ตัวเองเก่งหมดขนาดนี้ " ประวัติเขานั้นไม่ธรรมดาเลยล่ะ เรียกได้ว่าโปรไฟล์ดีเลิศจนอดที่จะชมไม่ได้ เเต่ก็ขึ้นโรงพักข้อหาทะเลาะวิวาทมาหลายครั้งเเล้วเหมือนกัน ส่วนข้อเสียด้านอื่นไม่ค่
3 อาทิตย์ต่อมา " เห้ออออ กว่าจะหมดชั่วโมง " ฉันนั่งถอนหายใจด้วยความเหนื่อย เเละเอาผ้ามาเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าด้วย " เเค่นี้ก็บ่น " " ชิ...ไม่บ่นก็ได้ " " สนใจไปกินเหล้าที่ผับด้วยกันไหม " " ไม่อ่ะ...สถานที่ที่มีเเต่ความเสี่ยงเเบบนั้นเราไม่ไปหรอก " " ก็ดี อย่าลืมสวดมนต์ก่อนนอนด้วยล่ะ " " ประชดเหรอ เเต่เราก็ทำทุกวันนะ " " เปล๊าา " ผมเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าตัวเองไปด้วย " จะไปไหนก็ไปเลยไป " " เดี๋ยวนี้ไล่เก่งนะ " " ใช่ เห็นหน้านายเเล้วหงุดหงิด " " หึ...ฉันควรดีใจใช่ไหมที่ทำให้เธอหงุดหงิดหน้ามุ่ยใส่ได้ขนาดนี้เป็นคนเเรก เพราะปกติเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้เป็นร้อยผืนเวลาอยู่กับคนอื่น " " ไม่กระเเนะกระเเหนสักวันจะนอนไม่หลับเหรอ " ฉันทำหน้ายู่ใส่เขาด้วยความหมันไส้ ในความหล่อร้ายนี้ " อย่าทำหน้าเหมือนปลาปักเป้าดิ " ผมเอานิ้วไปจิ้มเเก้มป่องนั่นอย่างหยอกล้อ " นี่นาย!!..สรรหาคำมาว่าเราอีกเเล้วนะ " " ฮ่าาๆๆ ...ฉันชอบเธอเวอร์ชั่นนี้ว่ะ " " นายไม่ไป เราไปเองก็ได้ " " เดินดีๆล่ะ
วันต่อมาฉันลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการงัวเงียง่วงนอน เเต่ก็รู้สึกตัวเเล้วล่ะว่านี้สายมากเเล้ว เพราะเเสงเเดดส่องผ่านเข้ามาทางม่านด้านระเบียงห้องนอนจนเริ่มรู้สึกร้อน จึงพยายามตั้งสติเเละลุกขึ้นมานั่งเเละมองไปที่นาฬิกาผาผนัง ก็พบว่านี่สิบโมงเช้าเเล้ว " รู้สึกดีขึ้นจัง " อาการปวดท้องปวดหัวที่รู้สึกเป็นไข้ เเละเจ็บคอจนจะอาเจียนก่อนหน้านี้ กับดีขึ้นมากอย่างคาดไม่ถึง เเต่ก็ยังรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยู่บ้าง" ตื่นเเล้วก็ลุกไปเข้าห้องน้ำจะได้ทานข้าวทานยา นี่สายมากเเล้วนะ " เมื่อเช้าผมมีธุระรีบออกไปจึงกลับมาในตอนสาย เเต่ก็ไม่ลืมซื้อข้าวมาฝากคนป่วยด้วย " เรานึกว่านายกลับไปเเล้วซะอีก " " กลับไปเเล้วเเละก็ไปธุระตั้งเเต่เช้ามาเเล้วจนพึ่งกับมาเนี่ยเเหล่ะ ตื่นมาก็ไล่เลยนะเเม่คุณเเทนที่จะขอบคุณกันสักคำ " " อย่าบอกนะเมื่อคืนนายอยู่ดูเเลเราทั้งคืนเลยอ่ะ " " ใช่อ่ะดิ ไข้ขึ้นสูงทั้งคืนนี่ถ้าเช็ดตัวเเล้วไข้ไม่ลดลงนะฉันได้พาเธอไปโรงบาลกลางดึกเเน่ " " นี่นายเช็ดตัวให้เราเองเหรอ " -///- " ใช่....เเต่ฉันขอโทษเธอก่อนเเล้วนะเเต่เธอก็ไม่รู้สึกตัวมารับรู้สักท
5 วันต่อมา " เเน่ใจใช่ไหมว่าไหว " ผมถามย้ำเธออีกครั้ง ตอนนี้เราอยู่ที่ฟิตเนสของคอนโดกันเหมือนเดิมเวลาเดิม " ไหวสิ เป็นห่วงเราเหรอ " " เปล่า กลัวจะมาตายอยู่เเถวนี้เเล้วลำบากคนอื่นต้องมาตามเก็บอีก " " นายมีหมาอยู่ในปากเหรอ ถึงปากเสียจัง " " เดี๋ยวนี้ชักจะอัพเลเวลความกวนขึ้นนะเธอเนี่ย " ผมไม่โกรธที่เธอยอกย้อนคืน เเต่กลับถูกใจมากกว่าที่เธอมีความกล้าพูดขึ้น " ติดมากจากนายไง " ฉันจงใจยิ้มใส่เขาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว " เดี๋ยววันนี้เธอเจอสอนเเบบโหดเเน่ " " เเยกเเยะหน่อยดิ อย่าเอาอารมณ์มาปน " ปึก!! " มีสติหน่อย " ผมปล่อยหมัดใส่เธอในตอนที่เธอไม่ทันตั้งตัว เเต่ก็หลบได้ทัน " เล่นทีเผลอตลอด...ชิส์ " " อย่ามาบ่นเป็นคนเเก่เเถวนี้ ต่อยเข้ามาที่เป้าล่อต่อย " " ได้ " ฉันที่กำลังโมโหที่ถูกว่าเป็นคนเเก่ในวัยยี่สิบเอ็ด จึงพยายามตั้งสติเเละรัวหมัดใส่เป้าอย่างไม่ยั้ง มีเท่าไหร่ใส่ไปให้หมดเเม๊กปึกกๆๆ " ดี...เเต่ต้องเเรงกว่านี้อีก " ผมกระตุ้นเธอด้วยน้ำเสียงที่เสียงดังฮึกเหิม จนทำให้เธอฟึดฟัดรัวหมัดใส่ไม่ยั้ง ไม่เสียเเรงท
วันต่อมา Line ก้าวหน้า : คุณลุงครับ ผมขออนุญาตพานับเงินมาเที่ยวนะครับ พาเธอมาเล่นอะไรสนุกๆ ลุงชัชชัย : ได้สิลูก อย่าลืมถ่ายรูปนับเงินส่งมาให้ลุงดูบ้างนะ ลุงยังไม่เคยเห็นเขาทำอะไรสนุกๆบ้างเลย วันๆ เอาเเต่อยู่ห้องกับอ่านหนังสือ ก้าวหน้า : ได้ครับ " มันสูงอ่ะ เรากลัวความสูง " ตอนนี้ใส่เซฟตี้เตรียมพร้อมจะปีนหน้าผาจำลองเเล้ว เเต่ขานี่สิมันก้าวไม่ออก " ถ้าเธอไม่กล้า เธอก็จะไม่กล้าไปตลอดชีวิตเนี่ยเเหล่ะ เกิดเป็นคนมันต้องลอง " ผมบิ๊วอารมณ์เธอให้เธอกล้าขึ้น " ลองอย่างอื่นได้ไหม " " มาถึงขนาดนี้เเล้วเธอเปลี่ยนใจไม่ทันเเล้วล่ะ " " ทันสิ " " เธอเห็นเด็กกลุ่มนั้นไหม " ผมชี้ไปที่กลุ่มเด็กผู้หญิง อายุน่าจะประมาณ8-9 ขวบ กำลังเเข่งกันปีนผาจำลองกันอยู่อย่างไม่ยอมเเพ้ โดยมีพ่อกับเเม่คอยให้กำลังใจอยู่ข้างล่าง เเต่ก็มีเจ้าหน้าที่คอยดูเเลเเละช่วยเหลืออยู่เเต่อันนั้นมันของโซนเด็ก " เห็น " " ขนาดน้องเขาตัวเเค่นั้นยังกล้า เเล้วเธอล่ะ...ตัวโตกว่าน้องตั้งเยอะ ทำไมถึงไม่กล้าลอง คนเรามันต้องลองออกจากเซฟโซนเดิมๆบ้างนะ ถึงจะไ
วันต่อมา17.30" รถติดหนักมาก กว่าจะมาถึงได้น่าเบื่อชะมัด " ทันทีที่ฮายังมาถึง ก็บ่นออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายกับการจราจรติดขัดในเมืองกรุง " มันก็เป็นเเบบนี้ทุกวันอยู่เเล้วนี่นา ยังไม่ชินอีกเหรอ " " ไม่ชินอ่ะ ถ้าเรียนจบเมื่อไหร่จะไปอยู่ขอนเเก่นทันที " " อ่ะนี่ของขวัญวันเกิด " ฉันส่ายหน้าไปมาเบาๆด้วยรอยยิ้ม " ขอบคุณนะ ไม่ต้องมีอะไรมาให้เราก็ได้ " " ไม่ได้สิ ขนาดวันเกิดเราฮายังยังมีของขวัญให้เราเลย " "Thanks you เราเริ่มจากเเต่งหน้าทำผมก่อนเเล้วกัน เดี๋ยวค่อยไปเเต่งตัว "หงึกๆ1 ชั่วโมงต่อมา " ว๊าววว....ฝีมือเราก็ใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย " ฮายังเอ่ยชมตัวเอง พร้อมจับตัวเพื่อนรักหมุนตัวเพื่อเช็คความเรียบร้อยอีกครั้ง " เราไม่มั่นใจเลยอ่ะ ไม่ชิน " ฉันมองสำรวจตัวเองอีกครั้งที่เพื่อนรักจับเเต่งตัวเหมือนฉันเป็นตุ๊กตา " มั่นใจหน่อยสินับเงิน เธอสวยมากเลยนะหัดงัดความสวยออกมาใช้ให้ผู้ชายเสียดายบ้าง " " อื้อ " ฉันมองตัวเองในกระจกอีกครั้งอย่างยิ้มๆเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง ฮายังเเต่งหน้าทำผมสวยมากอย่างกับมืออาชีพเเหน่ะ ส่ว
10 นาทีต่อมา " จะมาขวางทางเราทำไม...หลบหน่อยจะไปหาเพื่อน " ฉันที่เดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขายืนอยู่ จึงเลี่ยงที่จะเดินออกไปเเต่เขาก็มายืนขวางไว้ " มางานวันเกิดเพื่อนเเต่เเต่งตัวเหมือนมาเช็คเรตติ้งเลยนะ " " นายหรือเรากันเเน่ที่มาเช็คเรตติ้ง? " สาวๆ มองเขากันทั้งร้านยิ่งกว่าหนุ่มๆ มองฉันซะอีก " ยอกย้อนเก่งนักนะเดี๋ยวนี้ " " หลบหน่อย เราจะเข้าไปข้างใน " " ถ้าไม่หลบล่ะ " " เราไปทางอื่นก็ได้...นี่นาย จะมาขวางทางเราทำไมเนี่ย " " เห็นเเจกเบอร์ให้หนุ่มๆเยอะเเยะเลยนิ " " เเล้วเกี่ยวอะไรกับนายไม่ทราบ ทีนายยังยืนคุยกับสาวๆได้เลย " เธอมองผมหน้าบึ้ง เเต่หน้าเธอดูเริ่มเเดงๆอยู่นะ " หึงเหรอ? " " ไม่ได้หึง เเค่บังเอิญเห็น " " เมื่อกี้คือเพื่อนฉันเอง " " เเล้วจะมาบอกเราทำไม " โล่งใจเเบบบอกไม่ถูกเลยเเฮะ " เเค่อยากบอกไว้ จะกลับคอนโดเลยไหมจะได้กลับพร้อมกัน เธอดูเริ่มเมาเเล้วนะ " " ไม่ได้เมาสักหน่อย " เเค่กรึ่มๆ เอง " ไม่เมาทำไมหน้าเริ่มเเดง " " อากาศร้อน " " เหรอ "
3 วันต่อมา ฉันที่ตื่นเต้นที่พ่อบอกจะมารับเเละพาไปเที่ยวล่องเเก่งที่ฉันอยากไปอยู่นครนายกใกล้ๆนี้เอง จึงลงมารอที่ลานจอดรถก่อนเวลาด้วยความตื่นเต้น เพราะพ่อมัวเเต่บ้างานจนเเทบไม่มีเวลาให้เลย ส่วนน้องสาวของฉันนั้นเรียนอยู่เกาหลีอยู่กับคุณอา น้องอยากเรียนต่อม.ปลายที่นั่น พ่อก็ตามใจเเละบินไปหาปีล่ะสองครั้ง ส่วนฉันนั้นบินไปหาน้องสาวบ่อยกว่าเเละอยู่เกาหลีเเก้เบื่อช่วงปิดเทอมเป็นเดือนๆ ซึ่งเห็นได้ว่าน้องมีความสุขกับชีวิตที่นั่นมาก น้องฉันกับฉันนิสัยต่างขั้วกันสุดๆ เลยล่ะ คนนั่นน่ะทั้งเเสบทั้งห้าวเอาเรื่องเหมือนฮายังเพื่อนฉันเลย ปรี๊นๆๆๆ !! นั่นไงพ่อมาเเล้ว จึงไม่รอช้ารีบสะพายกระเป๋าเปิดประตูขึ้นรถไปทันที " น่ะ...นาย " " ตกใจอะไรขนาดนั้น เห็นหน้าฉันเเล้วเหมือนเห็นผีเหรอ " ผมขับรถออกจากคอนโดทันทีก่อนที่เธอจะลงจากรถ " ทำไมถึงเป็นนาย เรานึกว่าเป็นพ่อเรา " " พ่อเธอไม่ว่างกะทันหันเลยส่งฉันมาเเทน ถ้าไม่เชื่อก็ลองโทรถามดูสิ " ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพ่อด้วยความสงสัย รอไม่นานปลายสายก็รับสาย" ฮัลโหลค่ะพ่อ " (ฮัลโหลลูก ก้าวหน้าไปรับเเล้วใช่ไหม)
2 ปีต่อมา วันนี้คือวันรับปริญญา ได้ใส่ชุดครุยกับเขาสักที บอกตามตรงว่าตื่นเต้นมากกว่าจะเรียนจบคณะหินสุดโหดนี้มาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลับคาโปรเจคประจำ เเต่ก็สู้จนเรียนจบมาได้ เเถมจบพร้อมเเฟนสุดหล่ออีก ฉันเเต่งหน้าทำผมเองตั้งเเต่เช้ามืดอยากให้ออกมาสวยที่สุด เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญ" พอได้เห็นใบปริญญาเเล้วดีใจภูมิใจชะมัด สมกับที่อดหลับอดนอนจนจะเป็นหมีเเพนด้าอยู่เเล้ว " ฮายังเอ่ยออกมายิ้มๆ ในขณะที่กำลังออกไปที่หน้าคณะกัน " นั่นน่ะสิ เกือบจะพากันเข้าโรงบาลไปฝากตัวเป็นผู้ป่วยอยู่เเล้ว " " ฮ่าๆๆ ...ก็จริง " " เรียนจบเเล้ว ฮายังจะกลับไปอยู่ขอนเเก่นเลยไหม " " ไปเลย เราเบื่อชีวิตที่วุ่นวายในกรุงเทพเเล้วอ่ะ " " เเล้วกังฟูล่ะ " " นายหมอนั่นก็จะไปอยู่กับเราเหมือนกัน ว่าจะทำธุรกิจด้วยกันอยู่ " " ยังงี้เราก็เหงาเเย่เลยสิ นานๆเจอกันที " " ไม่เหงาหรอกหน่า เดี๋ยวเราลงมาหาบ่อยๆ หรือจะไปหาเราบ้างก็ได้ " " คงต้องอย่างงั้น เราไปหาครอบครัวเรากันดีกว่า "" มาให้พ่อหอมทีลูกสาวคนสวย ยินดีด้วยนะลูก...ฟอด~ " ฉันสวมกอดกับคนเป็นพ่อเเละท่านก็หอ
วันต่อมา 22.00 ฉันรีบอาบน้ำเเต่งตัวให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยอาบที่ห้องทำงานของพ่อเเละใส่ชุดธรรมดามา ใจจริงอยากเเต่งตัวสวยๆให้เกรียรติ์เจ้าของงานมากนะ เเต่ไม่มีเวลากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโด ถ้าขับกลับไปที่คอนโดคงได้มาถึงที่บ้านป๊าก้องตอนเที่ยงคืนเเน่ ซึ่งงานเลี้ยงอาจจะเลิกราเเล้ว ตามจริงก็เลิกงานตอนห้าโมงเย็นเเต่มีประชุมด่วนเข้ามาจึงต้องรีบเข้าประชุมด่วนเเบบไม่ทันได้เตรียมตัว ส่วนพ่อไปดูงานอีกที่หนึ่งจึงมาไม่ได้....ชีวิตช่วงนี้โคตรปวดหัวเลยล่ะ จนอยากจะเเยกร่างได้สักสิบร่างจะได้ทำงานให้หมดๆ จะได้มีเวลาพักผ่อนกับเขาบ้าง ทำไมมันเหนื่อยเเบบนี้นะจะมาล้มเลิกอะไรตอนนี้ก็ไม่ทันเเล้วล่ะเพราะสงสารพ่อที่ต้องเหนื่อย ตั้งเเต่ฉันเข้ามาช่วยงานพ่อเเบบเต็มตัว พ่อท่านดูสดใสเเละมีเวลาพักผ่อนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด " สวัสดีค่ะป๊า สวัสดีค่ะเเม่ หนูต้องขอโทษด้วยนะคะที่มาช้าพอดีติดประชุมด่วนอยู่อ่ะค่ะเเถมเเต่งตัวไม่เรียบร้อยด้วย " ฉันยกมือไหว้ท่านก่อนที่จะยื่นกล่องของขวัญขนาดกลางให้ป๊าซึ่งเป็นเจ้าของงานวันเกิดวันนี้ ท่านทั้งสองเเต่งตัวได้หล่อสวยสมวัยโกงอายุมาก บอกว่าสามสิบต้นๆ
@โรงพยาบาล ฉันเลือกพาเขามาทำเเผลที่โรงบาล ทั้งๆที่เขาขอตัวกลับบ้านบอกว่าเเผลเเค่นี้จิ๊บจ๊อยไม่ได้เจ็บอะไรมาก เเต่ใครจะปล่อยให้เขากลับไปทำเเผลเองล่ะ โคตรรู้สึกผิดกับคุณเจย์เลยที่คนของตัวเองไม่มีเหตุผลเเถมขอโทษเเบบส่งเดชอีก " รอนานไหมครับ " หลังจากที่ได้ทำเเผลเสร็จคุณเจย์ก็เดินเข้ามาหา " ไม่นานค่ะ คุณเจย์เจ็บมากไหมคะ " ฉันเอ่ยถามเขาด้วยความเป็นห่วง " นิดหน่อยครับ เเต่ไม่นานก็คงหาย " " ขอโทษคุณเจย์เเทนก้าวหน้าด้วยนะคะ อย่าเอาผิดเขาเลยนะคะ " ฉันกลัวจะกระทบกับธุรกิจของพ่อเขา จึงรีบเอ่ยขอ " ไม่เอาผิดหรอกครับเเละผมก็จะไม่บอกพ่อผมด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับว่าจะกระทบกับธุรกิจ เรื่องเเบบนี้เป็นใครใครก็ต้องเข้าใจผิดกันครับ " เจย์เอ่ยอย่างใจเย็นเมื่อเห็นคนตรงหน้าวิตกกังวลเเบบเห็นได้ชัด " ขอบคุณคุณเจย์นะคะที่เข้าใจ เเละก็ต้องขอโทษคุณเจย์อีกครั้งด้วยค่ะที่ทำให้ต้องเจ็บตัว " " ไม่ต้องขอโทษผมเเล้วครับ คุณนับเงินขอโทษผมมาเป็นสิบครั้งเเล้ว เเละคุณนับก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย " " เเต่... " " กลับกันเถอะครับ เดี๋ยวผมไปส่ง " " ค่ะ " @คอนโด "
@โรงพยาบาล ฉันเลือกพาเขามาทำเเผลที่โรงบาล ทั้งๆที่เขาขอตัวกลับบ้านบอกว่าเเผลเเค่นี้จิ๊บจ๊อยไม่ได้เจ็บอะไรมาก เเต่ใครจะปล่อยให้เขากลับไปทำเเผลเองล่ะ โคตรรู้สึกผิดกับคุณเจย์เลยที่คนของตัวเองไม่มีเหตุผลเเถมขอโทษเเบบส่งเดชอีก " รอนานไหมครับ " หลังจากที่ได้ทำเเผลเสร็จคุณเจย์ก็เดินเข้ามาหา " ไม่นานค่ะ คุณเจย์เจ็บมากไหมคะ " ฉันเอ่ยถามเขาด้วยความเป็นห่วง " นิดหน่อยครับ เเต่ไม่นานก็คงหาย " " ขอโทษคุณเจย์เเทนก้าวหน้าด้วยนะคะ อย่าเอาผิดเขาเลยนะคะ " ฉันกลัวจะกระทบกับธุรกิจของพ่อเขา จึงรีบเอ่ยขอ " ไม่เอาผิดหรอกครับเเละผมก็จะไม่บอกพ่อผมด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับว่าจะกระทบกับธุรกิจ เรื่องเเบบนี้เป็นใครใครก็ต้องเข้าใจผิดกันครับ " เจย์เอ่ยอย่างใจเย็นเมื่อเห็นคนตรงหน้าวิตกกังวลเเบบเห็นได้ชัด " ขอบคุณคุณเจย์นะคะที่เข้าใจ เเละก็ต้องขอโทษคุณเจย์อีกครั้งด้วยค่ะที่ทำให้ต้องเจ็บตัว " " ไม่ต้องขอโทษผมเเล้วครับ คุณนับเงินขอโทษผมมาเป็นสิบครั้งเเล้ว เเละคุณนับก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย " " เเต่... " " กลับกันเถอะครับ เดี๋ยวผมไปส่ง " " ค่ะ " @คอนโด "
1 เดือนต่อมา การฝึกงานในช่วงปิดเทอมตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้น เล่นเอาเหนื่อยมากเหมือนกันทำให้รู้เลยว่าพ่อตัวเองทำงานหนักขนาดไหนในเเต่ล่ะวัน เเต่ยังโชคดีที่มีพี่ๆที่ทำงานคอยช่วยสอนเเละเเฟนที่น่ารักคอยช่วยซัพพอร์ตอีกเเรง จึงทำให้ผ่านไปได้เเละเข้าใจอะไรง่ายขึ้น เวลาที่จะสวีทกับเเฟนอย่าพูดถึง เพราะต่างคนต่างทำงานหนักมากกลับมาถึงห้องก็นอนสลบหมดเเรงกันทั้งคู่ เเต่ยังดีที่เราเข้าใจกันไม่ได้งอเเงว่าไม่มีเวลาให้กันจนถึงขั้นน้อยใจกันเเต่เเรกๆถามว่ามีบ้างไหมว่าน้อยใจตอบเลยว่ามี ถือว่าเป็นความสัมพันธ์เเบบผู้ใหญ่มากขึ้น " กลับไปพักเถอะลูก เหนื่อยมาทั้งวันเเล้ว " ตนเอ่ยบอกลูกสาวของตนเพราะตอนนี้เย็นมากเเล้วจึงอยากให้กลับไปพักผ่อน ลูกสาวของเขาช่วยงานได้เยอะมากเลยทีเดียว อาจจะเป็นเด็กหัวดีอยู่เเล้ว เลยเข้าใจอะไรง่าย " พ่อก็ต้องกลับไปพักเหมือนกันนะคะ เหนื่อยมาทั้งวันเเล้วเหมือนกัน " " งั้นเก็บของกัน จะได้กลับพร้อมกัน" " ค่ะ " ฉันเก็บของบนโต๊ะให้เรียบร้อยเเละเดินคล้องเเขนคุณพ่อออกจากห้องทำงานไปที่ลานจอดรถ ตอนนี้เย็นมากเเล้วจึงเหลือเเค่รถเราสองคนพ่อลูกที่ยังจอดอยู่
" ..... " เเสงเเดดที่สาดส่องเข้ามาผ่านม่านหน้าต่างนั้นทำให้ฉันต้องตื่น เพราะเริ่มรู้สึกร้อนเเละรู้สึกสายมากเเล้ว เเต่ทำไมมันปวดหัวตุ๊บๆเเบบนี้กันนะ ถึงกับต้องจูนสมองอีกครั้งว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ใช่เเล้วๆ เมื่อคืนเห็นเขานั่งกินไวน์เลยขอกินด้วยเเต่กินไปกินมาดันเเย่งเขากินหมดขวดจนเมาเเอ๋เลย น่าอายชะมัดเลยยัยนับเงิน เเต่ที่จำได้เเม่นๆคือเขาดุขึ้นเสียงใส่ฉันจนฉันงอลล็อคห้องหนี เเต่เมื่อคืนเหมือนรู้สึกว่ามีคนนอนกอดฉันนะ เเกร๊กก!! " ตื่นเเล้วเหรอ ปวดหัวมากไหมลุกไปอาบน้ำเเละไปทานข้าวเช้ากัน เเล้วค่อยมานอนต่อนะเดี๋ยวปวดท้องซะก่อน " ผมยิงคำถามรัวๆใส่คนที่ยังนอนงงอยู่บนเตียง เเต่เธอก็ไม่พูดอะไรยอมลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย จนน่าเเปลกใจ " นี่เเสดงว่าเขาเอากุญเเจสำรองมาไขห้องสินะ " ฉันยินพึมพำเบาๆอยู่ในห้องน้ำ เเต่ว่ารีบอาบน้ำก่อนดีกว่าเดี๋ยวนายนั่นมาพังห้องน้ำเขาอีก ครึ่งชั่วโมงต่อมา " น้ำขิงร้อนๆจะได้เเก้เเฮงค์ " เธอนั่งลงเเต่ก็ยอมรับน้ำขิงจากผมไปจิ๊บก่อนจะมองอาหารบนโต๊ะ ที่มีเเต่อาหารสไตล์ยุโรป " โทรสั่งใหม่ไหม " " ไม่ต
2 อาทิตย์ต่อมา วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการสอบปลายภาค พรุ่งนี้ก็จะปิดเทอมเเล้ว ดีใจที่สุดปีหน้าก็อยู่ปีสี่เเล้วล่ะ วันเวลาผ่านไปไวเหมือนกันนะ อยากไปเที่ยวพักผ่อนเปิดหูเปิดตาบ้าง เเต่ปิดเทอมนี้คงจะไม่เหมือนเดิมเหมือนทุกครั้ง เพราะว่าต้องเข้าไปช่วยงานพ่อที่บริษัทอย่างเต็มตัว ใกล้หมดเวลาการใช้ชีวิตวัยรุ่นเเล้วล่ะถ้าได้เข้าไปบริหารงานเเทนพ่อ " เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเเบบนั้น " พอขึ้นรถเขามาได้เขาก็เอ่ยถามทันที " ไม่ได้เป็นอะไร เเค่คิดว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนก่อนดีก่อนจะเข้าไปช่วยงานพ่อที่บริษัท " " อยากไปที่ไหนบอกเสี่ยมาเลยอีหนู เสี่ยพร้อมจะเปย์เเละพาไป " ผมตบหน้าอกตัวเองสองสามทีจนเธอขำ " เสี่ยอาจจะล้มละลายเพราะหนูเอานะคะ " ฉันเเกล้งกวนเขากลับื " ขนหน้าเเข้งเสี่ยไม่ล่วงง่ายๆหรอกนะอีหนู สมบัติที่มีใช้ได้ยันชาติหน้า " " ขี้อวดจริงๆ " " หึ... " " ไปเมาดีฟส์กันสามสี่วันดีไหม " " ก็ดีนะ เราสองคนไม่ได้ไปสวีทกันเลยช่วงนี้ " " เเล้วจะไปวันไหนกันดี "ื " ไปพรุ่งนี้กันเลยดีไหม เพราะช่วงนี้ฉันว่างๆ อยู่พอดี " " จะจองที่
วันต่อมา " ปล่อยพวกเรานะ เเกไม่มีสิทธิ์มาจับตัวพวกเรา " คนที่เอ่ยน่าจะชื่อเนเน่เพราะได้ยินอีกคนเรียกชื่อเมื่อวานนี้ ส่วนอีกคนน่าจะชื่อเตย " เเล้วพวกมึงเป็นใคร มาจับเมียกูไปให้คนอื่นปู้ยี่ปู้ยำ " ผมเอ่ยออกมาเสียงเข้มเกรี้ยวกราดด้วยความโกรธจัด จนพวกมันสามตัวสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ " พะ...พวกเราขอโทษ ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ " " นั่นสิ จะให้พวกเราทำอะไรก็ได้เพื่อเป็นการไถ่โทษ เเต่ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ " ผู้ชายคนนั้นเอ่ยออกมาขอร้องอ้อนวอน เพราะตอนนี้พวกมันสามตัวถูกมัดกองรวมกันที่พื้นอยู่ " ปล่อยงั้นเหรอ? พวกมึงคิดว่าไงว่ะเพื่อน ควรปล่อยไปง่ายๆดีไหม " ผมหันไปถามเพื่อนทั้งสองคน " ถ้าปล่อยไปเฉยๆรู้สึกไม่สนุกเลยว่ะ " กังฟูเอ่ยพร้อมยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ส่วนไต้ฝุ่นมองพวกมันนิ่งๆยากเกินจะคาดเดา " กูก็ว่าอย่างงั้นเเหล่ะ เเต่กูอยากรู้ว่าใครมันเป็นคนคิดเเผนบ้าๆนี้ขึ้นมา พูดด!! " ผมตะคอกเสียงดังลั่นโกดัง จนพวกมันเริ่มกลัวจนตัวสั่น " ยัยเนเน่เป็นคนคิดเเผนนี้ขึ้นมา " " เเกนั่นเเหล่ะนังใบเตย เป็นคิดเเผนนี่ขึ้นมา " " เเกนั่นเเหล่ะ อย่ามาโทษฉันนะ
" กรี๊ดดดด" ตุ๊บบบบ!! ฉันวิ่งออกมาจากบ้านหลังนั้นให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนพวกมันจะมาจับตัวอีกรอบ โดยที่ไม่ได้มองรถช่วงบริเวณทางโค้งให้ดีจนเกือบชนเเละล้มลงที่พื้น เจ็บชะมัด" นับเงิน เป็นยังไงบ้างง " พอได้ยินน้ำเสียงคุ้นเคย จึงได้รีบเงยหน้าขึ้นมามองพอเห็นว่าเป็นเขาฉันจึงโผเข้ากอดเขาทันที " ฮึกกกๆ ...ช่วยเราด้วย เรากลัว " " ไม่ต้องกลัวนะ ฉันมาเเล้ว " ผมกอดเธอกลับเเน่นๆ เพื่อปลอบประโลมให้เธอเลิกกลัว เธอร้องไห้จนตัวสั่นคลอนจนน่าสงสาร " หยุดนะเว้ย " กังฟูกับไต้ฝุ่นรีบวิ่งไปจับตัวพวกมัน " รอฉันอยู่ในรถนะ " ผมผละกอดจากเธอเเละรีบวิ่งไปจับตัวพวกมันช่วยเพื่อนๆ โดยให้เธอรอที่นี่เเทนฉันรีบขึ้นรถตามที่เขาบอก เพราะไม่อยากให้ใครมาเห็นฉันในสภาพที่เเย่ๆเเบบนี้สักเท่าไหร่ ต้องขอบคุณเขาจริงๆ ที่มาช่วยฉันไว้ได้ทันท่วงที ไม่งั้นฉันอาจจะตายทั้งเป็นด้วยฝีมือพวกมันเเน่ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดยิ่งขยะเเขยงกับการกระทำพวกนี้ เพราะคิดว่าสองคนนั้นจะคิดได้จึงยอมมาด้วย ไม่น่าหลงกลเลยจริงๆ น่าจะคิดให้ระเอียดรอบคอบมากกว่านี้ ปึ้กกก !! พอผมจับพว