วชิรันลืมรู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ปวดเนื้อปวดตัวตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณศีรษะ ที่รู้สึกเจ็บแปลบจนต้องนิ่วหน้า
“อูย” วชิรันสูดปากไปด้วยความเจ็บปวดที่เเล่นไปตามร่างกายเมื่อขยับตัวเหมือนแขนซ้ายจะเข้าเฝือกด้วยแฮะวชิรันได้ยินคนร้องไห้ด้านข้างเสียงสูดขี้มูกนั่นชวนรู้สึกขยะแขยงขึ้นมา
‘อิเจ๊นั่นร้องประนึงญาติเสียที่สำคัญมานั่งข้างเตียงเขาด้วย’
“เอ่อ…ขอโทษนะครับผิดเตียงหรือ—” ยังไม่ทันไถ่ถามให้ได้ความอิเจ๊ก็ปรี่เข้ามากอดเขาประนึงญาติมิตรชิดใกล้หรือลูกในอุทรณ์อย่างงั้นแหละ
“คุณหนูคุณหนูของนม”
“คุณหนู? นม? แม่นมอะนะ”
“เอ่อ…ผิดคนหรือเปล่าครับ”
ร่างหญิงชราชะงักกึกก่อนจะเลยหน้าที่ก้มลงกอดเขาเมื่อครู่มองจ้องเขาอย่างงงงวยแถมยังจับใบหน้าของเขาพลิกไปพลิกมาอย่างสำรวจ
“จำนมไม่ได้หรือคะแม่นมภัสสรไงคะนมเลี้ยงคุณหนูมาตั้งแต่แบเบาะ”
“ภัสสร?”
วชิรันทวนชื่ออย่างซ้ำๆภัสสรถึงเขาจะเป็นลูกนายพลเกิดมามีกินมีใช้แต่ก็ไม่ได้มีแม่นมส่วนตัวมีแต่แม่อุ้ยยายน้องรินและแม่ลาที่ชื่อกมลาไม่มีคนชื่อภัสสรอยู่ในความทรงจำของเขาเลยสักนิด
วชิรันกำลังจะอ้าปากถามพลันคอแห้งอยากจิบน้ำมองดูสายน้ำเกลือที่ห้อยระโยงระยางเขาถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกว่าจะคอหักตายซะแล้วยังไม่ทันเอ่ยปากขอน้ำประตูก็เปิดเข้ามาไม่มีปลี่มีขลุ่ย
‘ใครอีกละเนี่ยหน้าไม่คุ้นเลย’
“ไงนึกว่าจะตายซะแล้ว”
พออีกฝ่ายเห็นเขานิ่งสงบไม่ปริปากก็เหมือนจะโมโหมากขึ้น
“แกมันลูกไม่รักดีขยันสร้างแต่เรื่องไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรสักอย่างมีดีอย่างเดียวที่เป็นโอเมก้ามีแต่ผลาญเงินแถมยังร่าน—”
“พอแล้วค่ะคุณท่านคุณหนูพึ่งฟื้นมีอะไรค่อยๆพูดค่อยจากันอีกอย่างที่นี่ก็โรงพยาบาลนะคะ”
“ฉันคิดผิดคิดถูกที่ให้เธอเลี้ยงดูเจ้ารันมาถึงทุกวันนี้ให้ท้ายแบบนี้ไงมันถึงไม่โตสักที”
“ไม่ใช่เพราะว่าคุณท่านไม่เคยโอบอุ้มคุณหนูต่างหากคุณหนูเลยเป็นอย่างทุกวันนี้”
“เธอกล้าว่าฉันเหรอ”
“หรือไม่จริงคะ”
ก่อนสงครามน้ำลายจะบานปลายไปมากกว่านี้จะเป็นใครก็ช่างแต่โครตไม่มีมารยาทมาพล่ามใส่อารมณ์ใส่คนอื่นเฉย
“เอ่อ…ผมหิวน้ำขอน้ำให้ผมสักแก้ว”
“จริงสิ…ได้ค่ะๆ” ภัสสรหันไปหยิบแก้วน้ำข้างเตียงรินน้ำใส่ให้เต็มแก้วแกะหลอดใส่มาให้พร้อมเพราะกลัวว่าจะหกเลอะเทอะและลำบากสำหรับคนป่วย
“หมอว่ายังไงบ้าง” คนมาใหม่ถามเสียงแข็ง
“ไม่ทราบค่ะ” ภัสสรหันหลังตอบให้อย่างขอไปทีถึงจะเป็นเจ้านายแต่เธอมีสิทธ์มีเสียงอยู่ในบ้าน ‘หนึ่งตระการ’ อยู่ไม่น้อยในฐานะคนเก่าคนแก่ของนายหญิงที่ล่วงลับไปหลายปี
“นี่เธอ”
“หมอเขาให้ญาติใกล้ชิดเข้าไปคุยอาการมันเป็นหน้าที่พ่ออย่างคุณไม่ใช่หรือคะหรือว่าต้องให้ดิฉันเตือนความทรงจำ”
“ภัสสร”
อาคเนย์กัดฟันกรอดก่อนจะปิดประตูห้องพักพิเศษออกไปดังปังโดยไม่สนใจว่าที่นี่จะเป็นโรงพยาบาลก่อนจะเดินไปติดต่อสอบถามอาการจากหมอเจ้าของคนไข้
“นั่นใครครับ” ภัสสรเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“คุณหนูจำไม่ได้หรือคะนั่นคุณอาคเนย์คุณพ่อของคุณหนูไงคะ”
“คุณจำผิดคนแล้วละครับพ่อผมชื่อวชิรวิทย์”
“…”
สอบถามได้สองสามประโยคคุณหมอเจ้าของคนไข้ก็เดินนำอาคเนย์เข้ามาด้วยรอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าตามแบบฉบับคุณหมอใจดีวัยกลางคน
“สวัสดีครับคุณอันดารัน” วชิรันยกมือไหว้อย่างนอบน้อมการกระทำนั้นทำให้คนสองคนที่อยู่ในเหตุการณ์อึ้งกิมกี่
“สวัสดีครับผมไม่ใช่อันดารันผมวชิรันครับคุณหมออาจจำผิด”
“อ้อ…ขอโทษด้วยครับ”
“อาการของคุณเอ่อ…วชิรันอีกสองสามวันก็กลับบ้านได้แล้วครับหลังจากนอนดูอาการมา 2 สัปดาห์แผลฟกช้ำภายในไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมีแต่แผลฟกช้ำภายนอกและแขนที่เข้าเฝือกที่อาจต้องใช้ระยะเวลาสักพักรับรองไม่เสียโฉมแน่ๆครับสบายใจได้”
“2 สัปดาห์ผมหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรือครับแล้วพ่อกับแม่ผมล่ะมาเยี่ยมบ้างหรือเปล่า”
“…”
หลังจากอาคเนย์เข้าไปพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับอาการของลูกชายคนเล็กหลังจากที่ได้ฟังใบหน้าพลันซีดเผือด
“ความจำเสื่อมหรือสูญเสียความทรงจำที่มีก่อนหน้าไปชั่วคราว?”
“ใช่แล้วครับเพราะสมองส่วนหน้าได้รับความกระเทือนกระเทือนอาจจะจำไม่ได้ชั่วคราวหรือตลอดไปไม่ทราบได้แน่ชัดรวมไปถึงบุคคลิกภาพอาจเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม”
“คุณหมอจะบอกว่าสูญเสียความเป็นตัวเองอย่างนั้นหรือครับ”
“ก็มีส่วนครับอย่างที่คุณเห็นเมื่อครู่อาการภายนอกไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”
อาคเนย์ยิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัยอย่างน้อยเรื่องนี้ก็ถึงเวลาคลี่คลายลงล็อคที่เขาพยายามจัดการงัดไม้ตายต่างๆมาบีบบังคับเรื่องการแต่งงานของสองตระกูลอย่างหนึ่งตระการกับชองส์อันดารันจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาสักที
พรุ่งนี้เป็นวันที่วชิรันจะได้ออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านลุงที่เข้ามาฉอดมาหาว่าเขาเป็นลูกไม่รักดีก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นอีกมีเพียงแต่แม่นมภัสสรที่ตัวติดเขาแถมจะทุกเวลาเหมือนจะเฝ้าไม่ให้คลาดสายตาอย่างงั้นแหละแม้แต่เรื่องเข้าห้องน้ำ
“คุณ…เอ่อนมภัสสร”
“เรียกนมเฉยๆก็ได้ค่ะ”
“ผมอยากเข้าห้องน้ำ”
“ได้ค่ะเดี๋ยวนมช่วย”
“ไม่ต้องผมอยากถ่ายหนักนะ”
“อ้อ…ได้ค่ะแต่มีอะไรเรียกนมได้เลยนะคะ”
วชิรันพยุงร่างกายอันบอบบางของตัวเองเข้าห้องน้ำหลังจากถอดสายฉี่ที่เสียบคารูไว้ตั้งหลายวันรู้สึกแสบขัดตรงส่วนปลายพอสมควรเหลือบมองเงาที่สะท้อนบนกระจกอย่างเลื่อนลอยก่อนจะเบิกตากว้างเหมือนเห็นผี
‘เห้ยยยย ใครวะเนี่ย’ วชิรันลูบหน้าตาตัวเอง ผมเผ้าเบ้าหน้าไม่ใช่วชิรันคนเดิมเลยสักนิด สีผิว แม้แต่ร่างกายนี้ ผิวขาวอมชมพู นิ้วมือยาวเรียวสวยแบบฉบับคนไม่เคยทำงานหนัก แม้แต่ตัวเองเขาสรรหาครีมมาบำรุงสารพัดยังไม่ได้ขนาดนี้ รวมไปถึงขนต่าง ๆ ที่ไม่มีให้เคืองลูกกะตา ปากนิด จมูกเชิดรั้นแสดงความเอาแต่ใจของเจ้าตัว ดวงตากลมโตสุกสกาวสีนิล ผมยาวระต้นคอ แถมยังเจาะหูไว้อีกไม่รู้กี่สิบรู ผิวเรียบเนียน นุ่มลื่นไปทั้งตัว ตัวเขาเมื่อก่อนเสียเวลาเสียเงินไปทำหน้า เลเซอร์ขนเสียเงินหลักแสนยังไม่สวยเท่ายัยคุณหนูนี้ที่ว่า ชักสังหรณ์ใจไม่ดีจึงลูบคลำหว่างขาตัวเอง โล่งใจอย่างบอกไม่ถูกที่ยังคลำเจอไอ้จ้อน แม้ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าแต่อย่างน้อยพระเจ้ายังปรานีที่ไม่ส่งวชิรันที่ภายนอกรูปร่างแบบชายฉกรรจ์ไปอยู่ในร่างผู้หญิง ไม่งั้นลำบากกว่านี้หลายเท่า‘เรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย’ วชิรันดึงทึ้งผมตัวเองอย่างเสียสติก่อนจะปล่อยโฮออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เสียงร้องไห้สะอึกสะอึ้นคนที่รอข้างนอกหน้าประตูอย่างภัสสรรีบเปิดเข้ามาโอบอุ้มร่างบางที่เธอรักเหมือนลูกในไส้คุณหนูอันดารันแม้ภายนอกจะดูร้ายกาจแต่ทว่าภายในบอบบางยิ่งกว่า
ก็อก ก็อก“เชิญ” “คุณหนูนมอุ่นโจ๊กและนมมาให้ค่ะเห็นว่ามื้อเย็นคุณหนูแทบไม่แตะอะไรเลย”“ผมกินไม่ลงจริงๆครับ”“นมเข้าใจค่ะแต่ละมื้อก็เป็นแบบนี้คุณหนูไม่ค่อยลงรอยกับคนในบ้านสักเท่าไหร่”“เพราะอะไรเหรอครับ” วชิรันถามพลางคิ้วขมวดเป็นปมโดยไม่รู้ตัวเพราะครอบครัวที่เขาจากมาแตกต่างจากโลกนี้อย่างสิ้นเชิง “อืม…เพราะชนชั้นมั้งคะ”“ชนชั้น?” วชิรันกำลังจะอ้าปากถามรายละเอียดต่างๆพลันนมภัสสรร้องเสียงหลงประนึงโลกจะแตกยังไงยังงั้น“ว้ายคุณหนูแม้จะอยู่ในบ้านก็ต้องสวมปลอกคอนะคะอย่าทะเล่อทะล่าแบบวันนี้อีกมันอันตราย” นมภัสสรแหวใส่คุณหนูของเธอเสียงดังเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวไม่ได้สวมปลอกคอปลอกคอเปรียบเสมือนอวัยวะชิ้นที่ 33 ของโอเมก้าไปเสียแล้ว“ผมอึดอัดที่เหมือนมีอะไรมารัดคอตัวเองตลอดเวลา”“อึดอัดก็ต้องทนหากถูกอัลฟ่ากัดเข้าละก็—”“กัดกันด้วยเหรอกัดทำไมครับ”“เอ่อ…เอางี้ไหมคะทานให้เสร็จก่อนเดี๋ยวนมจะเล่าให้ฟัง”หลังจากทานเสร็จวชิรันก็ได้ความรู้ใหม่ๆและได้ฟังเรื่องราวมากมายจากแม่นมประจำตัวที่ตอนนี้แทบจะตัวติดเขาตลอดเวลาตอนนี้แม้วชิรันจะเป็นเพศชายแต่มีเพศรองเป็นโอเมก้าซึ่งเป็นเพศที่สามารถตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตร
เนื่องจากสมัยก่อน ประชากรส่วนใหญ่มักจับคู่กันอย่างอิสระ โดยมักจะเลือกชนชั้นเดียวกัน เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของสายเลือดโดยเฉพาะอัลฟ่า หากรัฐบาลไม่จัดการควบคุมออกกฏหมายการจับคู่ออกมา เชื่อว่าอีกไม่กี่สิบปีประชากรบนโลกใบนี้คงจะลดน้อยลงเหลือเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น หากความหลากหลายทางพันธุกรรมมีน้อยไปก็ส่งผลให้ไม่เกิดพันธุกรรมใหม่ๆรวมไปถึงการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดแม้จะออกกฏควบคุมประชากรได้สารพัดแต่มีหลายสิ่งที่เหนือการความคุมของมนุษย์ได้นั่นคือธรรมชาติภัยพิบัติและโรคติดต่อ การกลายพันธุ์ในรุ่นต่อรุ่นจะถ่ายทอดลักษณะการอยู่รอดการต้านทานธรรมชาติให้กับลูกหลานต่อไปรัฐบาลตระหนักอย่างถี่ถ้วนจนได้ข้อสรุปการเข้ากันได้ของอสุจิและไข่ที่รัฐบาลจะเป็นฝ่ายตรวจสอบและเลือกความเข้ากันได้ของสองสิ่งโดยการตรวจเลือดตั้งแต่แบเบาะเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทุกคนที่ลืมตาบนโลกใบนี้ไม่มีสิทธิปฏิเสธสิทธิพิเศษในการฝากไข่และอสุจิโดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือในกรณีผู้ที่มีบุตรยากอันเกิดจากปัจจัยทางสุขภาพของเจ้าตัวที่จะได้รับอนุญาตให้อุ้มบุญด้วยปัจจัยนี้และเป็นการส่งต่อพันธุกรรมรุ่นต่อรุ่นไม่ว่าเพศสภาพไหนหากไม่มีความเข้ากันได้ขอ
“เรื่องพันธุกรรมไงคะ รัฐบาลเลยเข้ามามีบทบาทจับคู่ คุณหนูเคยอธิบายให้นมฟังคร่าว ๆ ว่า อย่างโรคเลือดจางมีหลายสายพันธุ์ หากเหมือนกันแต่งงานมีลูกมีโอกาสที่เด็กจะแท้งและตายได้สูง รัฐเลยเข้ามามีบทบาทและจัดสรรคู่ที่เข้ากันได้ทั้งทางพันธุกรรม และการเข้าคู่ของไข่และอสุจิที่สมบูรณ์หลังจากศึกษาและทดลองมาหลายรุ่น ปัจจุบันจึงไม่พบความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ก่อให้เกิดโรคหลงเหลืออยู่ มีบ้างเล็กน้อยแต่สามารถเข้าคู่จับคู่เลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ดี ๆ ส่งต่อไปทอด ๆ”“แล้วแบบนี้คนจะยอมแต่งงานกับคนที่เพียงแค่พันธุกรรมเข้ากันได้เหรอครับผมไม่เข้าใจอะไรแบบนี้เลยไม่เหมือนบังคับยังไงครับนมแล้วจะสามารถสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์อบอุ่นมาจากการคัดเลือกจัดสรรนี้ได้ยังไงผมไม่เห็นปลายทางเลยครับ”คุณหนูในตอนนี้ช่างน่ารักชอบถามนั่นนี่เหมือนสมัยเด็กไม่มีผิดเจ้าหนูจำไมเสียจริง“นมยิ้มอะไรครับ”“คุณหนูในตอนนี้ก็ดีนะคะดูมองโลกอย่างเป็นเหตุเป็นผลช่างถามไถ่และไม่ถือตนเหมือนแต่ก่อน”“เมื่อก่อนผมคงทำตัวแย่ๆมากเลยสินะครับ”ภัสสรยิ้มละไมอดีตผ่านไปแล้วเหลือแต่คุณหนูคนใหม่ที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นก่อนตาย“แล้วนมเป็นเบต้าไม่มีการจับคู
แม้จะก้าวเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ของหนึ่งตระการในฐานะลูกชายคนเล็กอย่างถูกต้อง แต่ความสัมพันธ์ภายในบ้านหลังนี้ย่ำแย่เหมือนเดิม วชิรันแทบไม่ก้าวเท้าออกจากห้อง เขารู้สึกไม่ปลอดภัยที่มีอัลฟ่าคนอื่น ๆ ยังปวนเปี้ยนอยู่ภายในบริเวณบ้าน กินนอนอยู่แต่ในห้องตัวเองอย่างไม่รู้เบื่อ ซึ่งสร้างความฉงนให้กับสมาชิกคนอื่น ๆ เป็นอย่างมาก เพราะปกติเจ้าตัวแทบไม่อยู่ติดบ้าน ต้องออกร่าราตรีอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 วัน หากไม่ใช้ไม้เด็ดกำราบอย่าหวังว่าจะได้เห็นหน้าค่าตาในตอนกลางวันหรือหัวค่ำอย่างเช่นทุกวันนี้ ทุกคนในบ้านรู้ดีว่าอันดารันความจำเสื่อมแต่ก็ยังหวาดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้สุ่มสี่สุ่มห้าอาหารการกินถูกเปลี่ยนใหม่หมดเมื่อก่อนคุณหนูโอเมก้าคนเดียวของบ้านไม่ทานเผ็ดและของหวานแม้แต่น้อยอาหารในแต่ละมื้อต้องถูกจัดสรรตามหลักโภชนาการแต่ว่าตอนนี้อันดารันเปลี่ยนมาทานอาหารรสจัดกินของหวานแถมยังไม่ต้องการรับอาหารตามโภชนาการหรือนับแคลอรี่ในแต่ละมื้อเหมือนเฉกเช่นที่ผ่านมาซึ่งทำให้หัวหน้าพ่อครัวโล่งอกยกมือบนบานขอบคุณพระเจ้ายกใหญ่ คุณหนูอันดารันน่ะหากอาหารการกินไม่ถูกใจละก็เรื่องใหญ่เชียวล่ะแต่ว่าคุณหนูอันดารันคนนี้เปลี่ยนไปคนละ
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”“เมื่อไหร่จะกลับครับ”“…”“เจ้ารัน!! เสียมารยาทคุณซานนาห์ผมต้องขอโทษแทนลูกชายด้วยนะครับแกพึ่งหายป่วยขอคุณอย่าถือสา”“ไม่เลยครับไม่เหนือจากความคาดคิดของผมเท่าไหร่” โอเมก้าที่ไม่เคยเห็นใครนั่งอดทนมาได้เกือบชั่วโมงแค่นี้ก็เกินฝันสำหรับโอเมก้าอย่างอันดารันซานนาห์คิดในใจ“งั้นผมขอตัวกลับก่อนละกันนะครับและขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้” ซานนาห์ค้อมหัวให้อาคเนย์อย่างเคารพก่อนจะหยิบผ้าเช็ดปากที่วางอยู่บนตักมาเช็ดปากพอเป็นพิธีก่อนจะลุกเดินออกไปโดยไม่ล่ำลาโอเมก้าว่าที่ภรรยาเลยสักนิดอาคเนย์ลุกตามไปส่งแขกรอจนรถของอีกฝ่ายแล่นออกจากตัวคฤหาสน์ออกไปก่อนจะหมุนตัวตีหน้านิ่งหมายจะไปสั่งสอนเจ้าลูกชายคนเล็กเรื่องมารยาทสักหน่อยแต่กลับไม่พบอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้วอาคเนย์ทำท่าจะเดินขึ้นไปชั้นสองแต่โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่นครืดคราดขึ้นมาเสียก่อนการสั่งสอนบุตรจึงถูกทบไปอีกวันนึงอีกโลกนึงผู้คนต่างโศกเศร้าและเสียใจกับการจากไปของบุคคลอันเป็นที่รักกมลาที่นอนไม่หลับได้รับโทรศัพท์ทางไกลถึงข่าวร้ายจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครเสียงกรีดร้องโหยหวนของผู้เป็นแม่ดังก้องไปทั่วบ้านจนคนอื่นๆสะดุ้งตื่นไป
วันนี้เป็นวันเผาศพของวชิรันร่างที่ไร้วิญญาณนอนแน่นิ่งในโลงศพไม้สักอย่างดีที่แกะสลักลวดลายได้อย่างวิจิตรบรรจงเพื่อนฝูงไม่ว่าจะตอนเรียนหรือตอนทำงานมากันแน่นขนัดต่างพากันมานั่งสวดครั้งสุดท้ายที่ศาลาในสุสานของหมู่บ้านที่บัดนี้คราคร่ำไปด้วยผู้คนที่สวมชุดไว้ทุกข์สีดำไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้นัดมาเจอกันในงานเผาศพของเพื่อนรักวชิรันเป็นเด็กดีละเป็นที่รักไม่ว่าจะญาติพี่น้องเพื่อนฝูงรวมไปถึงครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่ได้รับข่าวต่างก็ตกใจและใจหายกันทั้งนั้นไม่มีแล้วบุคคลอันเป็นที่รักเหลือเพียงแต่ความทรงจำและความดีที่ให้ผู้คนนึกถึงและกล่าวสรรเสริญแมกกี้เพื่อนสาวคนสนิทที่อยู่ด้วยกันจวบจนวินาทีสุดท้ายในชีวิตของวชิรันเธอกล่าวโทษตัวเองและร่ำไห้ตั่งแต่วันนั้นจวบจนถึงวันงานสุดท้ายสองดวงตาบอบช้ำตั้งแต่เจอหน้ากมลาแม่ของรันที่โรงพยาบาลเธอก็กล่าวขอโทษขอโพยยกมือไหว้ผู้เป็นมารดาของเพื่อนสนิทปากก็กล่าวโทษตัวเองถ้าหากเธอไม่ปล่อยขาเพื่อนรักที่กำลังปีนขึ้นบันไดในขณะที่เมามายเจ้าตัวคงไม่อายุสั้นแบบนี้กมลาโอบกอดร่างบางน้อยๆที่สั่นเหมือนลูกนกตกน้ำอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดยิ่งกับบุคคลอันเป็นที่รักด้วยแล้วกล่าวโทษว่าร้า
พิธีการนี้มีเพียงครอบครัวและญาติมิตรชิดใกล้ ก่อนจะนำยกโลงศพวางบนปราสาทที่วางอยู่บนฟืนกองใหญ่ เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายที่เจ้าตัวเคยสั่งเสียไว้ก่อนตายกับบรรดาเพื่อนฝูงเท่านั้นดนตรีสามช่าดังขึ้นเพื่อนหญิงชายหรือเพศที่สามต่างลุกมาเต้นสามช่าตามสเตปที่เคยเต้นด้วยกันผู้คนหลายสิบชีวิตสวมชุดอาภรณ์สีดำมาส่งเพื่อนสู่สวรรค์คาลัยเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อดนตรีจบลงเสียงหวีดของประทัดก็ดังขึ้นพร้อมกับไฟที่ลุกไหม้เผาร่างที่ไร้ลมหายใจของวชิรันควันสีดำล่องลอยสู่ท้องฟ้านภาลัยเป็นนิมิตรหมายที่ดีบ่งบอกว่าวชิรันจะได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีขอให้คนที่อยู่ข้างหลังปล่อยวางและดำเนินชีวิตต่อไปอย่าได้โศกเศร้าเสียใจต่อไปอีกเลยภพภูมินี้หนึ่งชีวิตแตกดับสูญสิ้นเหลือเพียงแต่เถ้าธุลีแต่ภพภูมินี้อีกโลกนึงเป็นวันที่อันดารันหรือวชิรันสวมชุดสูทสีขาวเป็นทางการเดินทางออกจากคฤหาสน์ตระกูลไม่มีอีกแล้วอันดารันหนึ่งตระการบัดนี้มีเพียงอันดารันชองส์คู่สมรสของซานนาส์ชองส์อย่างถูกต้องตามกฎหมายรถหรูหลายสิบคันเคลื่อนตัวไปข้างหน้าพร้อมเจ้านายคนใหม่และสัมภาระกองโตความจริงวชิรันไม่ได้อยากเอาอะไรติดตัวมามายเท่าไหร่นักแต่เพราะนมภัสสรนั่นนี่ก็สำคัญ
วชิรันสะดุ้งตื่นเหมือนตกลงมาจากที่สูงจนซานนาห์สะดุ้งตื่นตามไม่ได้ “ฝันร้ายเหรอ” วชิรันพยักหน้าพร้อมหอบหายใจแฮกๆเหลือบมองนาฬิกาเป็นเวลาตีสามกว่าๆ วชิรันยกมือลูบอกด้วยความรู้สึกหวูบโหวงจะว่าฝันร้ายก็ไม่ใช่เป็นฝันดีที่สุดในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ “คุณผมฝันฝันว่าเรากลับไปบ้านเกิดของผม” ซานนาห์นิ่วหน้าด้วยความประหลาดใจ“บ้านทรงแปลกๆใช่ไหม” วชิรันหันมามองหน้าสามี“อย่าบอกนะว่า…คุณก็ฝันเหมือนกับผมนะ” วชิรันตกใจจนหน้าถอดสีแต่ก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อข้อมือของเขารู้สึกถึงสายสิญจน์เส้นนั้นที่ยายพันรอบข้อมือพร้อมอวยพรมากมายให้เขาและคนข้างๆ ซานนาห์ไม่ตอบได้แต่ยกมือขึ้นมาเสยผมอย่างลวก ๆ ผมของเขาเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ ตั้งแต่ได้เจอกับวชิรันซานนาห์ก็ได้พบเจอเหตุการณ์แปลกประหลาดมามากมาย ตั้งแต่ที่เจ้าตัวไม่ใช่อันดารัน แต่ความฝันครั้งนี้เขามั่นใจแล้วว่าวชิรันมาจากอีกโลกนึงจริง ๆ โลกที่เขาเพิ่งได้เห็นกับตาตอนฝันเมื่อครู่“ยังกะหนังไซไฟ” วชิรันลูบหน้าตัวเองขึ้นลงด้วยความสับสน“ที่คุณเห็นนั่นแหละผมผมไม่ได้สวยแบบอันดารันออกจะขาวตี๋ธรรมดาทั่วไปไม่โดดเด่นอะไร”“เธอจะเป็นยังไงรูปร่างหน้าตาแบบไหนฉันก็รักเธอเพรา
เขยฝรั่งอย่างซานนาห์ตื่นตาตื่นใจกับการต้มไข่ในบ่อกลางแจ้งแถมหากไม่เฝ้าไข่อาจหายไปทั้งตะกร้าซานนาห์ได้ลองหลายอย่างที่ไม่เคยลองอย่างการนวดไทยนวดเท้าและจะเป็นที่เล่าขานไปอีกนานคือตอนไปฟังเทศน์ฟังธรรมที่วัดด้วยความที่เจ้าตัวนั่งขัดสมาธิไม่ได้จึงได้แต่นั่งพิงผนังโบสถ์ชันเข่าขึ้นมาพร้อมยกมือไหว้ฟังพระสวดด้วยภาษาที่ไม่เข้าใจผู้เฒ่าคนแก่ต่างเอ็นดูเขยฝรั่งคนนี้กันมาก เวลาแห่งความสุขและครอบครัวสุขสันต์ใกล้หมดลงไปทุกทีในโลกนี้เขาจากลาเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพไปทำงานแต่วชิรันรู้ว่ามันจะเป็นการจากลาชั่วนิจนิรันดร์วชิรันนึกแปลกใจในท่าทีของพ่อตัวเองไม่น้อยหลังจากทานมื้อเช้าเขาได้นำพวงมาลัยมากราบแทบเท้าพร้อมล้างเท้าให้วชิรวิทย์และกมลารวมถึงยายด้วยทุกคนต่างน้ำตาหลั่งรินด้วยความปลื้มปิติด้วยความที่เป็นวัยทำงานมีสังคมเพื่อนฝูงอีกทั้งวชิรันคิดว่ามีเวลาอีกมากเลยไม่ค่อยได้สนใจครอบครัวคนทางบ้านเท่าไหร่นักแต่หลังจากผ่านเหตุการณ์ความเป็นความตายมาครั้งนึงหรือเพราะว่าพระเจ้าคงแลเห็นว่าวชิรันเองยังมีเรื่องอะไรมากมายที่รู้สึกติดค้างอยู่ในอีกโลกไม่ว่าเพราะเหตุผลอะไรแต่วันนี้เขาได้ทำในสิ่งที่อยากทำมาตลอดแถมยังได้
ซานนาห์สำรวจบ้านทรงไทยตรงหน้าด้วยความสนใจเป็นทรงที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนในเดอะแกรนด์ซิตี้ไหนจะเสื้อผ้าของคนทั้งสองที่นุ่งกระโปรงยาวถึงตาตุ่มวชิรันอธิบายให้เขาฟังว่าคือซิ่นใช้ผ้าไหมอย่างดีมาทอแล้วที่ยายกำลังเคี้ยวจนปากแดงคือหมากบรรยากาศรอบบ้านร่มรื่นรั้วบ้านแต่ละหลังติดกันผู้คนเดินขวักไขว่ทักทายยิ้มแย้มแจ่มใสเอ่ยทักทายกันอย่างเป็นกันเองแล้วเรื่องที่วชิรันเอาผัวฝรั่งกลับมาเที่ยวบ้านก็เป็นเรื่องทอร์คออฟเดอะทาวน์ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้จริงๆ “ยายสาหันเขาว่าน้องรันบ้านลุ่มเอาผัวฝรั่งมาบ้านอิวะ” (ยายสาเห็นเขาว่าน้องรันบ้านข้างล่างเอาผัวฝรั่งมาบ้านด้วย)“ผิดผีหั้นสู” วชิรันคร้านจะสนใจขี้ปากชาวบ้านแต่ละอย่างใส่เสริมเติมไข่เพื่ออรรถรสในการเม้ามอยทั้งนั้นคนที่เขาแคร์คำพูดมากที่สุดเห็นที่จะเป็นพ่อไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะกลับมาบ้านหรือเปล่าในช่วงวันหยุดนี้เพราะพ่อของเขาค่อนข้างหน้าบางไหนจะรสนิยมทางเพศของเขาที่ไม่เป็นที่ยอมรับอีกที่บ้านของวชิรันมีโต๊ะเก้าอี้ไม้สักขนาดใหญ่ที่รองรับคนได้นับสิบก็จริงแต่ทุกคนมักจะล้อมรอบกินข้าวด้วยขันโตกขนาดใหญ่ที่สั่งทำพิเศษนั่งขัดสมาธิจกข้าวเหนียวกินอย่างเอร็ดอร่อยซานนาห์ท
ตั้งแต่เด็กทั้ง 3 คนเกิดมาคุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ก็ยุ่งจนหัวหมุน แม้จะมีพี่เลี้ยงมาช่วยแต่ทั้งคู่ก็ยังอยากเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง 5 คนพ่อแม่ลูกทุลักทุเลกว่า 3 ปีกว่าจะเข้าที่ สองสามีภรรยาจะได้มีเวลาเติมรสรักให้แก่กันสักทีเมื่อซานนาห์กลับมาจากบริษัทกลับพบว่าเจ้าสามแสบมายืนจังก้าหน้าห้องนอนเขาทำเหมือนองครักษ์พิทักษ์เจ้าหญิงมีสมบัติอยู่ห้องยังไงยังงั้นซานนาห์ยืนมองลูกๆที่จ้องมองเขาไม่กระพริบตา“ทำไมยังไม่นอน”“พวกเราต้องปกป้องปาปาไม่ให้ดาด้าทำร้ายปาปาเด็ดขาด” แฝดพี่ซานดารันกางแขนอ้วนป้อมไม่ให้ผู้เป็นพ่อผ่านเข้าไปส่วนซานนารันแฝดน้องก็ทำตามเช่นกันซานดาราโอเมก้าเพียงหนึ่งเดียวแถมยังเป็นผู้หญิงยกมือน้อยๆทั้งสองข้างให้ดาด้าเข้ามาอุ้มมือนึงถือตุ๊กตาหมีอีกมือนึงกอดคอซานนาห์แน่นสองตาลืมแทบไม่ขึ้นด้วยความที่เป็นพ่อ-พ่อทั้งคู่ถึงวชิรันจะมีเพศรองเป็นโอเมก้าเป็นชายที่คลอดลูกได้แต่ก็ไม่กล้าเรียกตัวเองว่าแม่ได้เต็มปากเลยสอนให้เด็กๆเรียกเขาว่าปาปาส่วนซานนาห์ว่าดาด้า “ทำร้าย? ใครทำร้ายใครไหนบอกดาด้ามาซิ” “พอปาปาไปนอนกับดาด้าทีไรถูกยุงกัดเต็มตัวไปหมดไหนจะเสียงแหบแห้งปาปาต้องนอนตื่นสายคืนนี้พวกเราจะนอนปกป้
“ซานดารัน ซานนารัน ซานดารา”“แกว่าไง” อาคเนย์หันไปมองลูกชายตัวเองวชิรันอ้าปากค้างก่อนจะหันไปสบตากับสามีซานนาห์พยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงว่าก็ไม่เสียหายอะไร“เพราะดีนะครับซานดารันซานนารันซานดาราขอบคุณครับ” วชิรันตอบกลับเป็นชื่อที่ผสมชื่อของอันดารันและซานนาห์ได้อย่างลงตัวอาคเนย์หยิบเช็กออกมาวางลงเปลแต่ละใบพร้อมด้วยรองเท้าคู่เล็ก 3 คู่ก่อนจะค่อยๆเดินมาหยุดข้างเตียงลูกชายโอเมก้าเพียงคนเดียวของเขา“เหนื่อยหน่อยนะเป็นแม่คนแล้วนี่จะทำตัวเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วนะ” วชิรันกำลังจะอ้าปากแย้งแต่อาคเนย์กลับวางมือลงบนกระหม่อมเขาพร้อมลูบอย่างแผ่วเบา“หากไม่สบายใจมีปัญหาอะไรหนึ่งตระการยังเป็นบ้านของแกอยู่เสมอฉันเชื่อว่าแกจะเป็นแม่ที่ดีในแบบฉบับของแกเองฉันขออวยพรให้ชีวิตและครอบครัวของแกมีแต่ความสุขหากฉันว่างจะไปเยี่ยมหลานๆที่บ้านอย่างน้อยถ้าแกเห็นแก่คนแก่ใกล้ตายอย่างฉันก็พาเด็กๆมาเยี่ยมฉันบ้าง” อาคเนย์พูดเสร็จก็ตบกระหม่อมบางนั้นเบาๆก่อนจะหันไปหาซานนาห์“ผมฝากด้วยนะก่อนอันดารันแต่งงานผมไม่กล้าพอที่จะพูดมันออกมาหากคุณหมดรักหรือเอือมระอากับลูกชายผมผมขออย่างหนึ่งอย่าทำร้ายเขาคืนเขาให้ผมก็พอ”“วางใจเถอะครับจะ
มาถึงช่วงคลอดของคุณแม่ซานนาห์ที่หอบหิ้วงานมาทำที่บ้านทั้งหมดตั้งแต่วชิรันย่างเข้าสู้ไตรมาสที่ 3 ด้วยความที่เป็นท้องแฝดจึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษกิจการร้านอาหารไทยของวชิรันไปได้ดีจนขยายไปหลายสาขาอาหารบ้านๆกลายเป็นอาหารไฮโซที่ควรกินก่อนตายของที่นี่น้ำพริกอ่องราคาถ้วยละ 500 เหรียญเริ่ดซะไม่มีวชิรันกระโดดตัวแทบลอยเมื่อเห็นตัวเลขประกอบการไหนจะธุรกิจปลอกคอเสื้อผ้าที่เขากำลังทำและร่วมหุ้นกับดาร์เมียนก็ไปได้ดีเช่นกันวชิรันไม่กลัวเรื่องการเปลี่ยนแปลงวชิรันคิดว่าตัวเขาสามารถรับมือได้ดีกับทุกสถานการณ์แต่กับเรื่องการคลอดลูกเป็นข้อยกเว้นกลางดึกเที่ยงคืนครึ่งวชิรันรู้สึกถึงของเหลวที่ไหลซึมกางเกงในจนเปียกชุ่มคุณแม่ลุกมาเข้าห้องน้ำด้วยความสงสัยแต่พอก้มลงมองเท่านั้นแหละเหมือนโลกกำลังจะล่มสลายต่อหน้าวชิรันหน้าซีดเผือดจะโกนเรียกหาสามีอย่างสุดเสียง“คุณซานนาห์คุณซานนาห์”“เธอเป็นอะไร” คุณพ่อวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในห้องน้ำอย่างเร่งรีบเมื่อเห็นมูกเลือดก็รีบกดอินเตอร์โฟนเรียกอีธานให้เตรียมรถทั้งคฤหาสน์แตกตื่นกันหมดระหว่างทางไปโรงพยาบาลวชิรันร้องครวญครางจึกดึงทึ้งผมซานนาห์ไปตลอดทาง“โอ้ยเจ็บเจ็บเหมือนจะตายเลย” “สู
แม่นมภัสสรขึ้นบันไดมาด้วยใบหน้ายิ้มแก้มปริก่อนจะเอ่ยปาก“คุณซานนาห์คะปล่อยให้คุณหนูอยู่คนเดียวไปดีกว่าค่ะ”“ทำไม” ซานนาห์ถามอย่างขุ่นเคือง“เป็นช่วงที่คุณหนูกำลังทำรังค่ะ”“ทำรัง?” ซานนาห์สีหน้างงงวยเมื่อเห็นนมภัสสรชู 3 นิ้วใส่หน้า“นายท่านได้แฝด 3 ค่ะ” “…”“อย่าบอกนะว่า” นมภัสสรพยักหน้าแรงๆหลายที“คุณหนูตั้งครรภ์ได้ 4 สัปดาห์แล้วค่ะ”“อีธานการ์ตา” ซานนาห์ที่ปกติเงียบขรึมไม่เคยเอะอะโวยวายแต่วันนี้แตกตื่นขั้นสุดสั่งการรีโนเวทห้องหับใหม่สนามเด็กเล่นรายการอาหารรวมทั้งหาพี่เลี้ยงเด็กจนพ่อบ้านและเหล่าแม่บ้านหัวหมุนกันไปหมดคุณพ่อมือใหม่อย่างซานนาห์เห่อลูกยิ่งกว่าอะไรดีหลายเดือนผ่านไปท้องน้อยขาวผ่องราบเรียบก่อนหน้ากลับป่องนูนจนเห็นได้ชัดย่างเข้าไตรมาสที่ 2 แล้วโอเมก้าไม่ต้องทำรังและหวงถิ่นอีกต่อไปแต่กลับกลายเป็นติดกลิ่นสามีแทนแถมซานนาห์ยังหวงสุดๆเดินตามก้นโอเมก้าเมียรักต้อยๆเหมือนเงาตามตัว“คุณซานนาห์ผมท้องผมไม่ได้ป่วยคุณไม่ต้องตามติดผมขนาดนั้นก็ได้”“ฉันเป็นห่วง”“แต่ผมอึดอัดแถมคุณจะสิงร่างผมอยู่แล้ว”“เธออย่าอารมณ์เสียสูดหายใจลึกๆเดี๋ยวลูกไม่สบายตัวเอานะ”“ผมจะอารมณ์ดีขึ้นกว่านี้ถ้าคุณไม่
หลังจากฮันนีมูนซานนาห์ก็ขยันทำการบ้านทุกคืนไม่มีพักลูกไม่ติดก็ให้มันรู้ไปพวกเขาสองคนเข้ากันได้ดีทุกกระบวนท่ารักกันหวานเอยเตยหอมจนความรักหอมฟุ้งไปทั่วทั้งคฤหาสน์อีกทั้งธุรกิจของวชิรันทั้งหลายแหล่ก็ไปได้ดีมากๆเกินกว่าที่วชิรันคาดฝันเอาไว้ไหนจะเรื่องสวัสดิการของพนักงานโอเมก้าเพราะคุณปู่เคยเป็นหนึ่งในคณะรัฐบาลไม่รู้เพราะเห็นความสำคัญของการเป็นมนุษย์หรือเพราะว่าได้สะใภ้โอเมก้าคนนี้ที่เก่งกาจไปเสียทุกเรื่องถึงได้เปลี่ยนแปลงความคิดร่วมมือปรึกษากับคณะกรรมการบริหารรัฐบาลชุดเดิมเปลี่ยนกฎหมายเดิมๆให้มีความทันสมัยมากขึ้นรวมไปถึงสวัสดิการพื้นฐานของทุกเพศรองให้เท่าเทียมกันเงินเดือนขึ้นกับความสามารถไม่ใช่ที่เพศหลักเพศรอง อีกทั้งโอเมก้าก็ได้รับสวัสดิการพิเศษอีกหลายอย่างบริษัทต่างๆจึงเปิดรับโอเมก้ามากขึ้นรวมทั้งบริษัทของวชิรันและซานนาห์ที่มีโอเมก้าต่างถิ่นต่างตบเท้าเข้ามาสมัครงานกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเพราะสวัสดิการของพนักงานที่ครอบคลุมถึงครอบครัวรวมไปถึงทุนการศึกษาของบุตรอีกด้วยวชิรันภูมิใจสุดๆที่เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่นี้ ถ้าโลกที่เขาจากมามีการเปลี่ยนแปลงเหมือนที่เดอะแกรนด์ซิตี้บ้า
วชิรันน้ำตาไหลพรากตั้งแต่คำถามข้อแรกไม่น่าเชื่อว่าระยะเวลาไม่กี่เดือนมุมมองที่ซานนาห์มีต่อเขาจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ “คุณตอบมันจากใจจริงเหรอครับ” วชิรันถามเสียงสั่นซานนาห์จับมือนิ่มที่สวมถุงมือหนาเตอะมาวางไว้บนตำแหน่งหัวใจก่อนเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ทว่าหนักแน่นและตราตรึงในใจวชิรันไปตลอดชีวิต“จริงทุกถ้อยคำหากฉันโกหกขอให้ซานต้า—” วชิรันยกมือมาปิดปากซานนาห์ทันที“ผมเชื่อแล้วครับคุณไม่ต้องสาบาน” วชิรันกอดซานนาห์พลางซุกตรงอกพูดเสียงอู้อี้อย่างขวัญเสีย“ที่ผมได้มาเจอคุณเพราะปีนขึ้นไปปักคำอธิษฐานแล้วตกลงมาพอฟื้นขึ้นมาก็มาอยู่ที่นี่ในร่างของอันดารันผมไม่อยากให้คุณพูดสาบานอะไรทั้งนั้นคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตามผมกลัวว่าคุณจะเป็นอะไรไปอีก” ซานนาห์รู้สึกถึงความเปียกชื้นตรงหน้าอก“วันนี้วันดีแท้ๆเธอร้องไห้มากเกินไปแล้ว” หิมะโปรยปรายท่ามกลางเทศกาลแห่งความสุขเสียงหัวเราะเสียงผู้คนจอแจตามท้องถนนไม่อาจกลบเสียงเต้นของหัวใจของพวกเขาทั้งสองได้จังหวะหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกันเรียกร้องหากันและกันและจะเต้นเพื่อคนคนเดียวไปตลอดชีวิตห้องที่ซานนาห์เลือกอยู่ใจกลางเมืองมองเห็นวิวได้ทั่วอีกทั้งยังมองเห็นต้นคร