(END : พิมพ์ตะวัน)
การรวมพลกันของชาววิศวะ ทั้งปีหนึ่ง สอง สามและสี่ผ่านไปได้ด้วยดี รุ่นพี่ก็บอกถึงกำหนดการต่าง ๆ แบบคร่าว ๆ ไปว่าเดือนไหนจะมีกิจกรรมอะไร และหลังจากสอบเสร็จเราจะมีค่ายรับน้อง (โหด) ที่พวกน้อง ๆ ทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะหากใครไม่เข้าร่วม ก็จะไม่ได้รับเกียร์รุ่น
(เกียร์ = สัญลักษณ์ตัวแทนของวิศวะ)
หลังจากที่รุ่นพี่ได้บอกกฎเกรณ์ประจำคณะของเรา ข้อปฏิบัติต่าง ๆ รวมไปถึงการเข้าร่วมกิจกรรม การแข่งขันสำคัญ ๆ ของคณะ เสร็จก็ได้แจกกลุ่มไลน์ใหญ่ของทั้งคณะ เพื่อที่เวลามีกิจกรรมอะไรจะมีการแจ้งผ่านไลน์เป็นหลัก
และอย่างที่รู้กันดีว่า ทุกคณะจะมีการแข่งขันกีฬาภายในมหาลัย ซึ่งทุกคณะจริงจังกันเอามาก ๆ และก็มีเรื่องต่อยตีกันแทบจะทุกปี และน้อยคนมากที่จะย้ายคณะกลางคันแบบเพอร์ซุส
แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้มีท่าทีกังวลใจอะไรเลย แถมยังเข้าได้ดีกับพวกสาว ๆ คนอื่นในคณะอีกด้วย
"ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ให้ความร่วมมือมาชมนุมกันอย่างครบถ้วนในวันนี้" รุ่นพี่ปีสี่เริ่ม ๆ เข้าแถวเรียวกระดาน เป็นอันจบพิธีชุมนุมรุ่นพี่รุ่นน้องในวันแรก
"แรดเหลือเกินพ่อคุณ" พิมพ์ตะวันมองไปที่เขาและทำได้แค่ยืนแบะปากอย่างหมั่นไส้
"ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ให้ความร่วมมือมาชุมนุมกันอย่างครบถ้วนในวันนี้"
"และคืนนี้ คณะวิศวะของเราจองโต๊ะที่ บลูมูนบาร์ไว้สิบสองโต๊ะด้วยกัน"
"หวังว่าทุกคนจะเข้ามาร่วมสนุกด้วยกันนะ"
ฟุ่บ! จู่ ๆ ไอ้ฝรั่งจอมหื่นก็ยกมือขึ้นขณะที่รุ่นพี่ยังไม่ทันจะพูดจบดี
"มีอะไรเหรอ..คุณเพอร์ซุส จากบริหาร" รุ่นพี่ปีสี่ถามกลับด้วยใบหน้านิ่ง ๆ และดูไม่ได้เป็นมิตรเท่าไหร่
"สิบสองโต๊ะ คิดว่าไม่น่าจะพอหรอกนะ" ผมลุกขึ้นยืนและพูดขึ้นก่อนจะกวาดสายตามองไปยังรุ่นน้องปีหนึ่ง ปีสอง ปีสาม และปีสี่ที่ยืน ๆ กันอยู่
"เหมาทั้งบาร์เลย..ไม่ดีกว่าเหรอ?" คำพูดของเพอร์ซุสทำให้หลาย ๆ คนหันมองหน้ากัน และมีอีกหลายคนที่กระซิบกระซาบกันสนั่น
(มึงคนนี้แหละ กัปตันทีมบอล BBA ปีก่อน) เสียงของเพื่อนผู้ชายก็หันไปหารือกันทันที
"ส่วนเรื่องค่าเหล้า..คืนนี้ดื่มฟรีไม่มีอั้น" เพอร์ซุสพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มาเตรียมจะกดโทรจอง..บาร์ทั้งบาร์ให้กับคณะเรา
(ฟรีจริงดิ?) เสียงไอ้ออโต้ตาโตขึ้นมาทันควัน พอได้ยินคำว่าเหล้าฟรี
(เชี่ย..เขารู้ไหมว่าคณะเราแดกเหล้าโหด) ไอ้โยขมวดคิ้วพร้อมกับลูบปากเหมือนหิวโหยมานาน
"แบบนี้..คิดว่าไง?" เพอร์ซุสเดินออกจากแถวรุ่นน้อง และมุ่งหน้าตรงไปที่ คนที่ถือว่าเป็นผู้คลั่งในระบบโซตัสแบบขั้นสุดแล้ว
"ขอโทษนะครับคุณเพอร์ซุส! แต่คณะวิศวะของเรา..ไม่ใช่คณะบริหาร..ของคุณน่ะ" รุ่นพี่ประกาศออกไมค์เหมือนจงใจฉีกหน้าเพอร์ซุส
"ที่แห่งนี้ ทุกอย่างไม่ได้ซื้อได้ด้วยเงิน!" ขณะที่เขาพูดอยู่ เพอร์ซุสเองก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับเดินตรงไปหยุดตรงหน้าของเขา
"งั้นเหรอ?" เขาใช้ลิ้นดุน ๆ ที่กระพุ้งแก้มเล็กน้อย
"ดังนั้นถ้าคุณอยากเป็นส่วนหนึ่งของวิศวะ คุณก็ต้องทำให้ทุกคนเห็นและยอมรับว่าคุณจะเป็นพวกของเราได้จริง ๆ " รุ่นพี่พูดเสียงแข็งตอกกลับใบหน้ากวน ๆ ของเขาไป
"แต่ผมคิดว่าคงยากหน่อย เพราะกัปตันทีมบอลบริหารที่เคยเอาชนะวิศวะเมื่อปีก่อน วันนี้ดันจะย้ายมาเป็นวิศวะ..แค่เริ่มต้นความเป็น BBA ของคุณมันก็กลบไม่มิดแล้ว"
"…." ร่างสูงยืนฟังอีกฝ่ายพูดจนจบ ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองเด็กวิศวะทั้งคณะอีกครั้ง
"ผมเข้าใจในระบบ โซตัสของคุณเป็นอย่างดี" เพอร์ซุสหันไปพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง โดนที่เขาแทบไม่ต้องใช้ไมค์ใด ๆ แต่สามารถสะกดทุกสายตาให้หันไปมองทางเขาได้
"และที่ผมยอมสละเวลาส่วนตัว..มาร่วมกิจกรรมรับน้องในครั้งนี้"
"ก็เพื่อจะแสดงให้พวกคุณได้เห็นว่า..ผมต้องการที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับทุกคน"
"และสิ่งหนึ่งที่ผมอยากทำให้ทุกคนได้เห็นก็คือ..เวลาที่ผมเป็นพวกของใคร"
"เวลาที่ผมทุ่มเทให้ใคร..ผมทุ่มได้หมดตัว"
"หวังว่ารุ่นพี่..รุ่นน้อง และเพื่อน ๆ ทุกคน จะเห็นแก่ความตั้งใจของผม"
"และมางานปาร์ตี้คืนนี้กันเยอะ ๆ นะครับ" เพอร์ซุสพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะกดโทรศัพท์เดินออกไปจอง บลูมูนบาร์ทั้งบาร์เพื่อปิดฉลองให้กับวิศวะ
"เชี่ย..เอาจริงขนาดกูเป็นผู้ชาย กูยังว่ามันเท่โคตรเลยวะ" เสียงของไอ้โยพูดขึ้น แต่พอมันหันไปเห็นหน้าหยิกงอเป็นส้นเท้าของไอ้อาร์เดล มันก็หุบยิ้มทันที
"เท่เชี้ยอะไร..แบบนี้เรียกขี้เก๊กต่างหาก" พิมพ์ตะวันแบะปากมองไปทางเพอร์ซุส ที่หลังจากที่เขาพูดจบก็เดินหลบออกไปสูบบุหรี่แบบหน้าตาเฉย
ส่วนคนอื่น ๆ ก็ยืนซุบซิบนินทาถึงเขากันอย่างเมามันส์ ก็คนบ้าอะไร มั่นหน้ามั่นโหนกซะเหลือเกิน ..พิมพ์ตะวันคิดภายในใจ
แต่ในขณะที่เธอกับเพื่อน ๆ กำลังจะเดินแยกย้ายออกจากลานกิจกรรม
"ฉันชอบเขา ๆ ๆ ใครไม่รับเข้าคณะ..ฉันรับ" รุ่นพี่สาวอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็หันไปกรี๊ดเพอร์ซุสกับเพื่อนของเธอ
"หล่อมาก..มาก ๆ เขาควรเป็นของกู" เพื่อนสาวของเธอก็มองเพอร์ซุสตาเป็นมันไม่ต่างกัน
"เราโสดนะ" สาวอีกคนก็หัวเราะต่อกระซิกกันไปมา คงจะแค่แซวกันเล่น ๆ แหละ
"เห็นว่าไอ้หมอนี่มันฟันสาวนิเทศ กับบริหารแทบหมดคณะแล้วมั้ง" อาร์เดลหันกลับมาคุยกับกลุ่มเพื่อน ๆ กัน และส่ายหน้าเบา ๆ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอาร์เดลแค้นฝังใจและเกลียด เพอร์ซุสมากแค่ไหน
"หรือว่ามันจะย้ายมาเพื่อล่อ สาววิศวะวะ?" ไอ้เลโอรีบวิเคราะห์ต่อในทันที
"แต่เชื่อกูเถอะว่ามึงปลอดภัยแน่ ๆ ไอ้พิมพ์ เพราะมึงน่ะ ดุอย่างกับร็อตไวเลอร์โซ่หลุด" ไอ้ออโต้พูดเสริมขึ้นและเดินคล้องคอของพิมพ์ตะวันไปเดินไป
"มันคงไม่มีคิดจะมาฟันมึงแน่ ไอ้พิมพ์" คนตัวเล็กกัดฟันกรอดและหันไปยิ้มให้ออโต้เพื่อปล่อยให้มันได้มีโอกาสพูดจนจบซะก่อน
"โถ่ไอ้ออโต้ปากหมา ๆ อย่างมึง มันก็น่าจะโดนส้นตีนยัดปากอยู่นะ!!" พิมพ์ตะวันกระชากหัวของไอ้ออโต้ ก่อนจะไล่ทุบมันอย่างบ้าคลั่ง
แต่แล้วจู่ ๆ ไอ้ออโต้มันก็หยุดชะงักพร้อมกับลูบที่หน้าอกราวกับเจ็บปวดหัวใจปางจะขาดใจตายตรงนี้ ซึ่งพอพิมพ์ตะวันหันไปมองตามสายตาของออโต้ ยอมรับว่าเธอเองก็ชะงักไม่ต่างกัน
"พี่มีนา..คนสวยของกู" ออโต้มองตามสาวสวยตาปริบ ๆ
ภาพตรงหน้าคือพี่มีนา..สาวสวยสุดฮอตวิศวะคอมปีสี่ อดีตดาวมหาลัยในรุ่นของเธอ เดินเข้าไปคุยกับเพอร์ซุสด้วยท่าทีแปลก ๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินจูงมือกันไปพร้อมกันหันมาจูบนัวเนียกันไปตลอดทางเดินไปที่รถ
"นี่มันเขตมหาลัยนะเว้ย" พิมพ์ตะวันส่ายหน้ากับพฤติกรรมของคนอย่างเพอร์ซุสที่ไม่แคร์อะไรเลยจริง ๆ
หอพักนักศึกษา
แกร็ก...มือเล็ก ๆ ไขประตูห้อง แต่พอจังหวะที่พิมพ์ตะวันผลักประตูเปิดเข้าไป...
"เซอร์ไพรส์ ~"
9เซอร์ไพรส์(พิมพ์ตะวัน) "ยัยพิ้ง?" ฉันหรี่ตามองตรงไปที่น้องสาวที่กำลังนั่งมาสก์หน้าด้วยโคลนสีเขียว ๆ และหันมาโบกมือทักทายฉันด้วยหน้าระรื่น"มาได้ไงเนี่ย..แล้วเรามีกุญแจห้องพี่ได้ไง?" ฉันแอบตกใจอยู่เหมือนกัน จริงอยู่ที่พิ้งเคยมาที่ห้องฉัน แต่ไม่คิดว่าพิ้งจะมีกุญแจเปิดเข้ามารอก่อนแบบนี้"พอดีพิ้งเข้าไปขอยืมของในห้องพี่พิมพ์น่ะ ก็เลยบังเอิญเจอกุญแจสำรอง..บวกกับคิดถึงพี่พิมพ์มาก ๆ เลยนั่งรถแท็กซี่มาหา" พิ้งกี้เดินเข้ามาสวมกอดฉัน ซึ่งฉันก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรไปเพราะห้องนอนที่บ้าน ยัยพิ้งก็มักจะเข้ามายืมเสื้อผ้าของใช้อยู่บ่อย ๆ อยู่แล้วเพราะความจริงเราสองคนก็ไม่ได้อายุต่างกันมาก ฉันยี่สิบเอ็ดปี ส่วนยัยพิ้งก็สิบเก้าปี"แล้วได้คุณพ่อกับแม่รึยังว่าจะมาหาพี่" ฉันเดินไปวางกระเป๋าลงก่อนจะถอดเสื้อช็อปออกแขวนเอาไว้"พี่พิมพ์! พิ้งอายุสิบเก้าปีจะยี่สิบแล้วนะ..จะไปไหนทำอะไรไม่จำเป็นต้องรายงานพ่อกับแม่แล้วไหมอะ?" พิ้งถอนหายใจออกมาก่อนจะเถียงกลับทันที"พิ้งโตมากแล้ว พี่พิมพ์เองก็เหมือนกัน..เลิกทำเหมือนพิ้งเป็นเด็ก ๆ สักทีน่า" เธอพูดก่อนจะเดินสะบัดตูดเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างที่มาส์กหน้าอยู่ออกโทรศัพท์
10ไม่ซ้ำหน้า@บลูมูนบาร์(หนึ่งในบาร์ชื่อดังหลังมหาลัยอเธน่า)บลูมูนบาร์จะมีสระว่ายน้ำอยู่กลางบาร์ และมีวงดนตรีสดเล่นตลอดทั้งคืน สลับกับการเป็นเพลงแนว EDM ทุก ๆ เที่ยงคืนจะกิจกรรมโยนเหล้าราคาลงไปในสระว่ายน้ำ หากลูกค้าคนไหนที่กระโดดลงไปในสระแล้วงมเหล้าขึ้นมาได้ ก็จะได้เหล้าขวดแพงนั้นไปในทันทีและที่ยิ่งไปกว่านั้นคือบาร์แห่งนี้เป็นการถือหุ้นรวมกันระหว่างศิษย์เก่าจากคณะวิศวะล้วน ๆ จึงไม่แปลกเลยที่พวกเราจะนับว่า บลูมูนบาร์คือถิ่นฐาน แต่ก็ไม่ใช่บาร์จะไม่รับคนจากคณะอื่น ๆ เลย เพราะถ้ามีแต่วิศวะมาเที่ยวคงไม่มีสาว ๆ สวย ๆ เต็มบาร์แบบทุกวันนี้แน่"เข้างานมาก็เจอภาพบาดตาบาดใจเลยวะ..พี่มีนาหักอกกูซ้ำแล้วซ้ำเล่า" ไอ้ออโต้คล้องคอของฉันเหมือนคนที่ยืนไม่ไหว มันจับที่อกตัวเอง พลางบีบน้ำตา เมื่อเห็นพี่มีนาของตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเพอร์ซุสทั้งสองโยกย้ายไปตามเสียงเพลง ก่อนจะโน้มหน้าจูบนัวกันไปโดยไม่แคร์สายตาของคนรอบ ๆ ที่ซุบซิบนินทากันให้แซด"มึงอย่าเวอร์ได้ไหม..มึงกับพี่เขายังไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ กูเห็นมึงน่ะคุยแต่กับรูปโปสเตอร์หน้าตึกของเขา" ฉันถอนหายใจและมองไปทางเพื่อนตัวเองแบบเอื้อม ๆ"จริง ๆ ม
1เซ็กส์ออนเดอะบีทส์(มีภาพประกอบ)บรื้นน..บรื้น..เสียงมอเตอร์ไซค์สีดำสนิทบิดทะยานฝ่าสายลมกระโชกไปตามเส้นทาง มุ่งหน้าตรงไปยังเมืองพัทยาดวงตาคมกริบเหลือบมองที่นาฬิกาข้อมือของเธอ ก่อนจะบิดเร่งความเร็วเร่งแซงรถยนต์เกือบทุกคันที่จอดติดอยู่เกือบทั้งหมดบรื้น....บะบรื้นนนนนนน!! เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มกลบทุกเสียงบนท้องถนนข้อมือเล็กบิดแฮนด์เร่งเครื่องจนเกือบสุด…หน้าจอดิจิตอลเข็มไมล์ของรถค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ตามแรงบิดเร่งเครื่องของเธอ สายตาของเธอมองตรงไปยังถนนเส้นทางตรงที่ไกลออกไปจาก 90 ทะยานไปถึง 100 และ 120 จนเกือบ ๆ มิด..140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ ความเร็วและแรงของรถทำให้ผมสีน้ำตาลแดงของเธอปลิวไปตามแรงลมชุดสีดำรัดรูปทำให้เห็นส่วนโค้งเว้าของเรือนร่างเพรียวบางของพิมพ์ตะวันสะกดทุกสายตาของรถยนต์โดนรอบที่เธอเพิ่งจะขับแซงผ่านมือเล็กกำจับแฮนด์มอเตอร์ไซค์ ใบหน้าของเธอมองตรงขณะที่สายตาจดจ่ออยู่กับท้องถนนบรื้น ๆ ๆ ความเร็วค่อย ๆ เพิ่มมากยิ่งขึ้นแข่งกับเวลา และ เท้ายังคงสับเเปลี่ยนเกียร์ พลางงัดครัชขึ้นเป็นระยะ ๆด้วยความคล่องแคล่วของรถและความชำนาญในการขับขี่ของเธอทำให้เธอสามารถเดินทางมาถึงยันเมือ
2ลูกค้าวีไอพี(มีภาพประกอบ)(พิมพ์ตะวัน)(ไอ้ฝรั่งโรคจิตเอ๊ย) ฉันทำได้แค่นึกด่าคนตรงหน้าไปผ่านทางสายตา แต่ก็ยังคงเลือกที่จะยิ้มตอบกลับไป เพราะยังไงหมอนี้ก็คือลูกค้าวีไอพีของที่นี่ ซึ่งคงไม่มีคนปกติที่ไหนจะจองโต๊ะละ ห้าหมื่นกว่า ๆ มานั่งจิบค็อกเทลชิล ๆ ได้ ถ้าไม่ใช่พวกลูกคนรวย ที่เหลือกินเหลือใช้เต็มทน"Anything else? (รับอะไรดีไหม?) " ฉันเลือกที่จะไม่ใส่ใจในพูดเชิงสองแง่สองง่ามของไอ้หัวทองตรงหน้า และยืนก้มหน้าก้มตาจดรับออเดอร์ต่อไป.."Um..later (อืม..ทีหลังแล้วกัน) " ร่างสูงเสยผมขึ้นพร้อมกับถอดเสื้อยืดของเขาออกต่อหน้าต่อตาของฉันเต็ม ๆ"ฉันก็เอา..เซ็กส์ออนเดอะบีสเหมือนกัน" นางแบบสาวที่พอมีชื่อคนนั้นกระแทกเมนูปิดลงและยื่นส่งให้กับฉันแทบจะฟาดใส่หน้า"ได้..ค่ะ" ฉันกัดฟันรับเมนูกลับมาและรีบหันหลังเตรียมจะเดินกลับไปที่บาร์ แต่ทว่า.."ดะ..เดี๋ยวสิ!" เสียงของไอ้ฝรั่งหัวทองนั้นซึ่งดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นลูกครึ่งมากกว่าเพราะเขาดูพูดภาษาไทยได้ แม้จะไม่ค่อยชัดก็ตาม"ต้องการอะไร..อีกงั้นเหรอคะ" ฉันหันกลับไปมาตอบเขาเสียงแข็ง ๆ แต่ก็ต้องเติมหางเสียงไปด้วยเพราะยังไงเขาก็คือลูกค้า แทบยัง เป็น VIP อีกต่
3พิมพ์ตะวัน(มีภาพประกอบ) (END : พิมพ์ตะวัน)สิ่งที่ทำให้พิมพ์ตะวันตกใจไม่ใช่เพราะถูกกระชากคอเสื้อ แต่ที่เธอชะงักไปการที่คือ ใบหน้าของเขามันใกล้กับเธอมากจนเกินไป ใกล้ในแบบที่เรียกว่าแลกเปลี่ยนลมหายใจของกันและกันเลยก็ว่าได้พิมพ์ตะวันตั้งสติเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ ปรับสีหน้าเรียบเฉยตามปกติ แล้วค่อย ๆ จับมือหนาของเขาออกจากคอเสื้อของตัวเองอย่างช้า ๆ ซึ่งเพอร์ซุสเองก็ปล่อยมือจากคอเสื้อของเธอ พร้อมกับยิ้มเยาะอย่างสะใจที่ทำให้อีกฝ่ายหน้าเสียได้ เล็กน้อยพิมพ์ตะวันค่อย ๆ ก้มหน้าลงมองลำท่อนใต้กางเกงว่ายน้ำสีแดงของเขาแบบชัด ๆ อย่างพินิจพิจารณาอยู่นาน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนตรงหน้าอีกครั้ง"ขอโทษนะ...พอดีว่าฉันไม่ชอบหยิบของสกปรก ๆ เข้าปากน่ะ" พิมพ์ตะวันจ้องหน้าของเขาอย่างไม่มีความเกรงกลัวใด ๆ เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง เพราะสุดจะทนกับลูกค้าไร้มารยาทและวิตถารคนนี้แล้วจริง ๆ"หึ หึ" เพอร์ซุสไม่ได้มีท่าทีโกรธอะไรเลยกับคำตอบของสาวเสิร์ฟปากร้ายตรงหน้าของเขา" PIM TA WAN " เพอร์ซุสหรี่ตามองและอ่านป้ายชื่อของเธอพร้อมกับมองหน้าหญิงสาวเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง"ถ้าไม่อะไรแล้ว..ขอตัว
4ขออย่าให้เจอกันอีกเลย!!(มีภาพประกอบ) หญิงสาวพยายามกดปลายเท้าให้แตะถึงขอบสระและพยายามดีดตัวเองให้พ้นขึ้นมาหายใจ แต่สิ่งที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำได้มีเพียงแค่มือทั้งสองข้างของเธอเพียงเท่านั้น"ชะช่วยด้วย" พิมพ์ตะวันพึมพำ ๆ ใต้น้ำ"พะ..พ่อขา~" หญิงสาวที่แข็งแกร่งหลับตาลงและนึกถึงแต่หน้าของผู้เป็นพ่อของเธอ..พ่อคนที่เธอไม่มีวันได้พบเจอท่านอีกแล้วในชีวิตนี้และในเสี้ยววินาทีที่ลมหายใจของเธอใกล้จะหมดลงเต็มที ภาพในอดีตมันก็ย้อนกลับมาจนเธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ใต้น้ำสีฟ้าและแสงไฟจากด้านบนที่ริบหรี่ลงช้า ๆเธอมองเห็นมือของใครบางคนที่ยื่นลงมาจากด้านบน แต่มือเล็ก ๆ ของเธอมันเอื้อมไปไม่ถึงแล้วจริง ๆ ฟองอากาศที่มีค่อย ๆ พ่นออกจากจมูกของเธอร่างบางค่อย ๆ จมลงไปจนเกือบถึงขอบสระที่ลึกเกือบ ๆ สองเมตร ขาทั้งสองข้างของเธอที่ดีดไปมาเริ่มเกร็งและแข็งกร้าวคล้ายเป็นตะคริว มือของเธอพยายามจะแหวกว่ายขึ้นไปแต่มันช่างไกลเหลือเกิน...น้ำคลอรีนทำให้ตาของเธอแสบพร่าจนต้องหลับตาลงและปล่อยให้ตัวเองจมลงสู่ก้นสระว่ายน้ำใจกลางบาร์สุดหรูแห่งนี้และ...ฟุ่บ!!! มือหนาของใครบางคนกระชากเข้าที่ข้อมือและกระชากเธอขึ้นมาพร้อ
5เปิดเทอม (มีภาพประกอบ)(พิมพ์ตะวัน) วันต่อมา"อ้าว..เปิดเทอมแล้วเหรอลูก?" สามีของแม่เอ่ยทักทายฉันด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เขาเองก็กำลังเตรียมตัวจะออกไปทำงานเช่นค่ะ"ใช่ค่ะคุณพ่อ" ฉันพยักหน้ารับก่อนจะสวมเสื้อแจ็กเกตทับชุดนักศึกษาอีกที"อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนมั้ยลูก มื้อเช้าเนี่ยสำคัญนะพิมพ์" ท่านเดินเข้ามาพูดคุยด้วยใบหน้าที่ดูปกติดีทุกอย่าง ราวกับคนละคนกับคนเมื่อคืนเลย"ไม่เป็นไรค่ะ พอดีมหาลัยอยู่ไกลนะคะ..อีกอย่างพิมพ์ต้องรีบจ่ายค่าเช่าหอพักก่อน" ฉันรีบยกมือไหว้คุณพ่อ และหันไปไหว้แม่ของตัวเองที่กำลังเดินจูงมือน้องชายตัวแสบลงมาจากบันไดชั้นสองของบ้านพอดี"พี่พิมพ์ครับ"พัตเตอร์น้องชายตัวเล็กตะโกนเรียกหาฉันลั่น พร้อมกับวิ่งเข้ามาสวมกอดฉันไว้ทันที"พัตเตอร์ไม่อยากให้พี่พิมพ์ไปเรียนเลย...เพราะกว่าพี่พิมพ์จะกลับบ้านก็สองสามอาทิตย์ทีหนึ่งเลย พัตเตอร์เบื่อไม่มีใครสอนทำการบ้านเลย" เจ้าตัวเล็กกระทืบเท้าเบา ๆ และงอแงทันทีที่เห็นฉันใส่ชุดนักศึกษา ซึ่งก็งอแงงแบบนี้มาตั้งแต่ตอนที่ฉันเริ่มเข้ามหาลัยแล้วล่ะ"งั้นถ้าพัตมีอะไรที่ไม่เข้าใจจริง ๆ ก็โทรมาหาพี่สิ เดี๋ยวพี่สอนทางโทรศัพท์ก็ได้" ฉันย่อตัวลงลูบหัวน
6นักศึกษา (วิศวะ) ใหม่"โอ๊ย!! ไอ้พิมพ์หัวกู" ออโต้กุมหัวตัวเองก่อนจะเอื้อมมือมาดึงผมฉันคืนแต่ไม่ได้ดึงแรงมาก เหมือนแค่แกล้งกันเล่น"โขกแรง ๆ เนี่ยแหละ มึงจะได้ตื่น!" ฉันกระชากผมมันแล้วดึงซ้ำ ๆ"เฮ ๆ ๆ พวกคุณปีสามกันแล้วนะ!!" อาจารย์วิลเลี่ยมตวาดขึ้นลั่น ทำให้เราสองคนจำต้องหยุดการอาฆาตแค้นต่อกันเพียงเท่านี้"เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ " ท่านตำหนิก่อนจะหันไปคุยกับนักเรียนใหม่ รวมถึงหัวหน้าจากฝ่ายทะเบียนอีกคนในตอนแรกอาจารย์ก็คุยกับนักเรียนใหม่เป็นภาษาอังกฤษ แต่พอมีฝ่ายทะเบียนเข้ามาด้วย ท่านก็เลยสนทนาเป็นภาษาไทยแทน ซึ่งอีกฝ่ายก็พูดไทยได้เช่นกัน"เอาจริงวิชาของปีหนึ่งปีสอง เทียบโอนได้หมด แต่วิชาของคณะวิศวะบางตัว ก็ยังมีต้องเก็บอีก" อาจารย์วิลเลี่ยมพูดพร้อมกับเปิดเอกสารการเรียนของนักศึกษาคนนั้นไปพลาง ๆ ซึ่งร่างสูงก็หันหลังให้กับพวกเรา แต่หันหน้าคุยกับอาจารย์ด้วยที่เคร่งเครียด"แต่ที่น่าทึ้งคือ..เรียนบริหารมา แต่ดันทำข้อสอบของคณะวิศวะภาคเหมืองแร่และปิโตรเลียมได้เกือบเต็ม""เพราะขนาดเด็กในคณะวิศวะ ยังสอบผ่านมาได้แค่ ห้าคนเอง" อาจารย์วิลเลี่ยมเม้มปากอย่างช่างใจ เพราะปกติแล้วการย้ายคณะเป็นเรื่องที่ไ
10ไม่ซ้ำหน้า@บลูมูนบาร์(หนึ่งในบาร์ชื่อดังหลังมหาลัยอเธน่า)บลูมูนบาร์จะมีสระว่ายน้ำอยู่กลางบาร์ และมีวงดนตรีสดเล่นตลอดทั้งคืน สลับกับการเป็นเพลงแนว EDM ทุก ๆ เที่ยงคืนจะกิจกรรมโยนเหล้าราคาลงไปในสระว่ายน้ำ หากลูกค้าคนไหนที่กระโดดลงไปในสระแล้วงมเหล้าขึ้นมาได้ ก็จะได้เหล้าขวดแพงนั้นไปในทันทีและที่ยิ่งไปกว่านั้นคือบาร์แห่งนี้เป็นการถือหุ้นรวมกันระหว่างศิษย์เก่าจากคณะวิศวะล้วน ๆ จึงไม่แปลกเลยที่พวกเราจะนับว่า บลูมูนบาร์คือถิ่นฐาน แต่ก็ไม่ใช่บาร์จะไม่รับคนจากคณะอื่น ๆ เลย เพราะถ้ามีแต่วิศวะมาเที่ยวคงไม่มีสาว ๆ สวย ๆ เต็มบาร์แบบทุกวันนี้แน่"เข้างานมาก็เจอภาพบาดตาบาดใจเลยวะ..พี่มีนาหักอกกูซ้ำแล้วซ้ำเล่า" ไอ้ออโต้คล้องคอของฉันเหมือนคนที่ยืนไม่ไหว มันจับที่อกตัวเอง พลางบีบน้ำตา เมื่อเห็นพี่มีนาของตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเพอร์ซุสทั้งสองโยกย้ายไปตามเสียงเพลง ก่อนจะโน้มหน้าจูบนัวกันไปโดยไม่แคร์สายตาของคนรอบ ๆ ที่ซุบซิบนินทากันให้แซด"มึงอย่าเวอร์ได้ไหม..มึงกับพี่เขายังไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ กูเห็นมึงน่ะคุยแต่กับรูปโปสเตอร์หน้าตึกของเขา" ฉันถอนหายใจและมองไปทางเพื่อนตัวเองแบบเอื้อม ๆ"จริง ๆ ม
9เซอร์ไพรส์(พิมพ์ตะวัน) "ยัยพิ้ง?" ฉันหรี่ตามองตรงไปที่น้องสาวที่กำลังนั่งมาสก์หน้าด้วยโคลนสีเขียว ๆ และหันมาโบกมือทักทายฉันด้วยหน้าระรื่น"มาได้ไงเนี่ย..แล้วเรามีกุญแจห้องพี่ได้ไง?" ฉันแอบตกใจอยู่เหมือนกัน จริงอยู่ที่พิ้งเคยมาที่ห้องฉัน แต่ไม่คิดว่าพิ้งจะมีกุญแจเปิดเข้ามารอก่อนแบบนี้"พอดีพิ้งเข้าไปขอยืมของในห้องพี่พิมพ์น่ะ ก็เลยบังเอิญเจอกุญแจสำรอง..บวกกับคิดถึงพี่พิมพ์มาก ๆ เลยนั่งรถแท็กซี่มาหา" พิ้งกี้เดินเข้ามาสวมกอดฉัน ซึ่งฉันก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรไปเพราะห้องนอนที่บ้าน ยัยพิ้งก็มักจะเข้ามายืมเสื้อผ้าของใช้อยู่บ่อย ๆ อยู่แล้วเพราะความจริงเราสองคนก็ไม่ได้อายุต่างกันมาก ฉันยี่สิบเอ็ดปี ส่วนยัยพิ้งก็สิบเก้าปี"แล้วได้คุณพ่อกับแม่รึยังว่าจะมาหาพี่" ฉันเดินไปวางกระเป๋าลงก่อนจะถอดเสื้อช็อปออกแขวนเอาไว้"พี่พิมพ์! พิ้งอายุสิบเก้าปีจะยี่สิบแล้วนะ..จะไปไหนทำอะไรไม่จำเป็นต้องรายงานพ่อกับแม่แล้วไหมอะ?" พิ้งถอนหายใจออกมาก่อนจะเถียงกลับทันที"พิ้งโตมากแล้ว พี่พิมพ์เองก็เหมือนกัน..เลิกทำเหมือนพิ้งเป็นเด็ก ๆ สักทีน่า" เธอพูดก่อนจะเดินสะบัดตูดเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างที่มาส์กหน้าอยู่ออกโทรศัพท์
8ทุ่มหมดตัวและหัวใจ(END : พิมพ์ตะวัน) การรวมพลกันของชาววิศวะ ทั้งปีหนึ่ง สอง สามและสี่ผ่านไปได้ด้วยดี รุ่นพี่ก็บอกถึงกำหนดการต่าง ๆ แบบคร่าว ๆ ไปว่าเดือนไหนจะมีกิจกรรมอะไร และหลังจากสอบเสร็จเราจะมีค่ายรับน้อง (โหด) ที่พวกน้อง ๆ ทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะหากใครไม่เข้าร่วม ก็จะไม่ได้รับเกียร์รุ่น(เกียร์ = สัญลักษณ์ตัวแทนของวิศวะ)หลังจากที่รุ่นพี่ได้บอกกฎเกรณ์ประจำคณะของเรา ข้อปฏิบัติต่าง ๆ รวมไปถึงการเข้าร่วมกิจกรรม การแข่งขันสำคัญ ๆ ของคณะ เสร็จก็ได้แจกกลุ่มไลน์ใหญ่ของทั้งคณะ เพื่อที่เวลามีกิจกรรมอะไรจะมีการแจ้งผ่านไลน์เป็นหลักและอย่างที่รู้กันดีว่า ทุกคณะจะมีการแข่งขันกีฬาภายในมหาลัย ซึ่งทุกคณะจริงจังกันเอามาก ๆ และก็มีเรื่องต่อยตีกันแทบจะทุกปี และน้อยคนมากที่จะย้ายคณะกลางคันแบบเพอร์ซุสแต่ดูเหมือนเขาไม่ได้มีท่าทีกังวลใจอะไรเลย แถมยังเข้าได้ดีกับพวกสาว ๆ คนอื่นในคณะอีกด้วย"ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ให้ความร่วมมือมาชมนุมกันอย่างครบถ้วนในวันนี้" รุ่นพี่ปีสี่เริ่ม ๆ เข้าแถวเรียวกระดาน เป็นอันจบพิธีชุมนุมรุ่นพี่รุ่นน้องในวันแรก"แรดเหลือเกินพ่อคุณ" พิมพ์ตะวันมองไปที่เขาและทำได้แค่ย
7ความซวยมาเยื่อนถึงที่(มีภาพประกอบ)(เลิกคลาส)"โอเค เดี๋ยวครูจะให้เลิกคลาสก่อนเวลาสามสิบนาทีนะ" อาจารย์วิลเลี่ยมเงยหน้าขึ้นถามทุกคนอีกครั้ง"เพราะวันนี้คณะวิศวะเรามีนัดรวมตัวกันที่ลานกิจกรรม เรื่องการรับน้องปีหนึ่ง" อาจารย์วิลเลี่ยมปิดหนังสือลงก่อนจะเดินตรงเข้ามาหยุดตรงหน้าพวกเราทั้งห้าคน"ถ้าจะเข้าวิศวะแค่ย้ายหน่วยกิจอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องรับรุ่นด้วย" อาจารย์พูดขึ้นกับเพอร์ซุสก่อนจะกดปิดจอโปรเจคเตอร์ด้วยรีโมท"ทุกคนกลับได้เลย ยกเว้นพิมพ์ตะวัน ครูจะคุยเรื่องงานเด็กทุนปีนี้น่ะ" อาจารย์วิลเลี่ยมเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ พร้อมกับหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมารอ"งั้นเจอกันหน้าลานรับน้องนะ พวกกูไปดูดบุหรี่ก่อน" อาร์เดลหันมาบอกกับฉัน และใช้หางตามองทางเพอร์ซุสเล็กน้อยก่อนที่พวกมันทั้งสี่คนจะลุกจากโต๊ะ พร้อมกับสะพายกระเป๋าเดินนำออกจากห้องไปจนหมด เหลือแค่เพอร์ซุสที่ยังคงนั่งเปิดชีทเรียนอ่านไปคร่าว ๆ ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าและเดินออกไปเป็นคนสุดท้ายฟุ่บ! แผ่นกระดาษตารางชั่งโมงทุนที่ฉันต้องทำให้กับทางมหาลัย ซึ่งก็จะเป็นพวกกิจกรรมแทบจะทุกกิจกรรมของมหาลัยเลย ไม่ว่าจะจัดเตรียมงานประชุม รับน้อง หรือกีฬาสี เด็
6นักศึกษา (วิศวะ) ใหม่"โอ๊ย!! ไอ้พิมพ์หัวกู" ออโต้กุมหัวตัวเองก่อนจะเอื้อมมือมาดึงผมฉันคืนแต่ไม่ได้ดึงแรงมาก เหมือนแค่แกล้งกันเล่น"โขกแรง ๆ เนี่ยแหละ มึงจะได้ตื่น!" ฉันกระชากผมมันแล้วดึงซ้ำ ๆ"เฮ ๆ ๆ พวกคุณปีสามกันแล้วนะ!!" อาจารย์วิลเลี่ยมตวาดขึ้นลั่น ทำให้เราสองคนจำต้องหยุดการอาฆาตแค้นต่อกันเพียงเท่านี้"เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ " ท่านตำหนิก่อนจะหันไปคุยกับนักเรียนใหม่ รวมถึงหัวหน้าจากฝ่ายทะเบียนอีกคนในตอนแรกอาจารย์ก็คุยกับนักเรียนใหม่เป็นภาษาอังกฤษ แต่พอมีฝ่ายทะเบียนเข้ามาด้วย ท่านก็เลยสนทนาเป็นภาษาไทยแทน ซึ่งอีกฝ่ายก็พูดไทยได้เช่นกัน"เอาจริงวิชาของปีหนึ่งปีสอง เทียบโอนได้หมด แต่วิชาของคณะวิศวะบางตัว ก็ยังมีต้องเก็บอีก" อาจารย์วิลเลี่ยมพูดพร้อมกับเปิดเอกสารการเรียนของนักศึกษาคนนั้นไปพลาง ๆ ซึ่งร่างสูงก็หันหลังให้กับพวกเรา แต่หันหน้าคุยกับอาจารย์ด้วยที่เคร่งเครียด"แต่ที่น่าทึ้งคือ..เรียนบริหารมา แต่ดันทำข้อสอบของคณะวิศวะภาคเหมืองแร่และปิโตรเลียมได้เกือบเต็ม""เพราะขนาดเด็กในคณะวิศวะ ยังสอบผ่านมาได้แค่ ห้าคนเอง" อาจารย์วิลเลี่ยมเม้มปากอย่างช่างใจ เพราะปกติแล้วการย้ายคณะเป็นเรื่องที่ไ
5เปิดเทอม (มีภาพประกอบ)(พิมพ์ตะวัน) วันต่อมา"อ้าว..เปิดเทอมแล้วเหรอลูก?" สามีของแม่เอ่ยทักทายฉันด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เขาเองก็กำลังเตรียมตัวจะออกไปทำงานเช่นค่ะ"ใช่ค่ะคุณพ่อ" ฉันพยักหน้ารับก่อนจะสวมเสื้อแจ็กเกตทับชุดนักศึกษาอีกที"อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนมั้ยลูก มื้อเช้าเนี่ยสำคัญนะพิมพ์" ท่านเดินเข้ามาพูดคุยด้วยใบหน้าที่ดูปกติดีทุกอย่าง ราวกับคนละคนกับคนเมื่อคืนเลย"ไม่เป็นไรค่ะ พอดีมหาลัยอยู่ไกลนะคะ..อีกอย่างพิมพ์ต้องรีบจ่ายค่าเช่าหอพักก่อน" ฉันรีบยกมือไหว้คุณพ่อ และหันไปไหว้แม่ของตัวเองที่กำลังเดินจูงมือน้องชายตัวแสบลงมาจากบันไดชั้นสองของบ้านพอดี"พี่พิมพ์ครับ"พัตเตอร์น้องชายตัวเล็กตะโกนเรียกหาฉันลั่น พร้อมกับวิ่งเข้ามาสวมกอดฉันไว้ทันที"พัตเตอร์ไม่อยากให้พี่พิมพ์ไปเรียนเลย...เพราะกว่าพี่พิมพ์จะกลับบ้านก็สองสามอาทิตย์ทีหนึ่งเลย พัตเตอร์เบื่อไม่มีใครสอนทำการบ้านเลย" เจ้าตัวเล็กกระทืบเท้าเบา ๆ และงอแงทันทีที่เห็นฉันใส่ชุดนักศึกษา ซึ่งก็งอแงงแบบนี้มาตั้งแต่ตอนที่ฉันเริ่มเข้ามหาลัยแล้วล่ะ"งั้นถ้าพัตมีอะไรที่ไม่เข้าใจจริง ๆ ก็โทรมาหาพี่สิ เดี๋ยวพี่สอนทางโทรศัพท์ก็ได้" ฉันย่อตัวลงลูบหัวน
4ขออย่าให้เจอกันอีกเลย!!(มีภาพประกอบ) หญิงสาวพยายามกดปลายเท้าให้แตะถึงขอบสระและพยายามดีดตัวเองให้พ้นขึ้นมาหายใจ แต่สิ่งที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำได้มีเพียงแค่มือทั้งสองข้างของเธอเพียงเท่านั้น"ชะช่วยด้วย" พิมพ์ตะวันพึมพำ ๆ ใต้น้ำ"พะ..พ่อขา~" หญิงสาวที่แข็งแกร่งหลับตาลงและนึกถึงแต่หน้าของผู้เป็นพ่อของเธอ..พ่อคนที่เธอไม่มีวันได้พบเจอท่านอีกแล้วในชีวิตนี้และในเสี้ยววินาทีที่ลมหายใจของเธอใกล้จะหมดลงเต็มที ภาพในอดีตมันก็ย้อนกลับมาจนเธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ใต้น้ำสีฟ้าและแสงไฟจากด้านบนที่ริบหรี่ลงช้า ๆเธอมองเห็นมือของใครบางคนที่ยื่นลงมาจากด้านบน แต่มือเล็ก ๆ ของเธอมันเอื้อมไปไม่ถึงแล้วจริง ๆ ฟองอากาศที่มีค่อย ๆ พ่นออกจากจมูกของเธอร่างบางค่อย ๆ จมลงไปจนเกือบถึงขอบสระที่ลึกเกือบ ๆ สองเมตร ขาทั้งสองข้างของเธอที่ดีดไปมาเริ่มเกร็งและแข็งกร้าวคล้ายเป็นตะคริว มือของเธอพยายามจะแหวกว่ายขึ้นไปแต่มันช่างไกลเหลือเกิน...น้ำคลอรีนทำให้ตาของเธอแสบพร่าจนต้องหลับตาลงและปล่อยให้ตัวเองจมลงสู่ก้นสระว่ายน้ำใจกลางบาร์สุดหรูแห่งนี้และ...ฟุ่บ!!! มือหนาของใครบางคนกระชากเข้าที่ข้อมือและกระชากเธอขึ้นมาพร้อ
3พิมพ์ตะวัน(มีภาพประกอบ) (END : พิมพ์ตะวัน)สิ่งที่ทำให้พิมพ์ตะวันตกใจไม่ใช่เพราะถูกกระชากคอเสื้อ แต่ที่เธอชะงักไปการที่คือ ใบหน้าของเขามันใกล้กับเธอมากจนเกินไป ใกล้ในแบบที่เรียกว่าแลกเปลี่ยนลมหายใจของกันและกันเลยก็ว่าได้พิมพ์ตะวันตั้งสติเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ ปรับสีหน้าเรียบเฉยตามปกติ แล้วค่อย ๆ จับมือหนาของเขาออกจากคอเสื้อของตัวเองอย่างช้า ๆ ซึ่งเพอร์ซุสเองก็ปล่อยมือจากคอเสื้อของเธอ พร้อมกับยิ้มเยาะอย่างสะใจที่ทำให้อีกฝ่ายหน้าเสียได้ เล็กน้อยพิมพ์ตะวันค่อย ๆ ก้มหน้าลงมองลำท่อนใต้กางเกงว่ายน้ำสีแดงของเขาแบบชัด ๆ อย่างพินิจพิจารณาอยู่นาน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนตรงหน้าอีกครั้ง"ขอโทษนะ...พอดีว่าฉันไม่ชอบหยิบของสกปรก ๆ เข้าปากน่ะ" พิมพ์ตะวันจ้องหน้าของเขาอย่างไม่มีความเกรงกลัวใด ๆ เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง เพราะสุดจะทนกับลูกค้าไร้มารยาทและวิตถารคนนี้แล้วจริง ๆ"หึ หึ" เพอร์ซุสไม่ได้มีท่าทีโกรธอะไรเลยกับคำตอบของสาวเสิร์ฟปากร้ายตรงหน้าของเขา" PIM TA WAN " เพอร์ซุสหรี่ตามองและอ่านป้ายชื่อของเธอพร้อมกับมองหน้าหญิงสาวเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง"ถ้าไม่อะไรแล้ว..ขอตัว
2ลูกค้าวีไอพี(มีภาพประกอบ)(พิมพ์ตะวัน)(ไอ้ฝรั่งโรคจิตเอ๊ย) ฉันทำได้แค่นึกด่าคนตรงหน้าไปผ่านทางสายตา แต่ก็ยังคงเลือกที่จะยิ้มตอบกลับไป เพราะยังไงหมอนี้ก็คือลูกค้าวีไอพีของที่นี่ ซึ่งคงไม่มีคนปกติที่ไหนจะจองโต๊ะละ ห้าหมื่นกว่า ๆ มานั่งจิบค็อกเทลชิล ๆ ได้ ถ้าไม่ใช่พวกลูกคนรวย ที่เหลือกินเหลือใช้เต็มทน"Anything else? (รับอะไรดีไหม?) " ฉันเลือกที่จะไม่ใส่ใจในพูดเชิงสองแง่สองง่ามของไอ้หัวทองตรงหน้า และยืนก้มหน้าก้มตาจดรับออเดอร์ต่อไป.."Um..later (อืม..ทีหลังแล้วกัน) " ร่างสูงเสยผมขึ้นพร้อมกับถอดเสื้อยืดของเขาออกต่อหน้าต่อตาของฉันเต็ม ๆ"ฉันก็เอา..เซ็กส์ออนเดอะบีสเหมือนกัน" นางแบบสาวที่พอมีชื่อคนนั้นกระแทกเมนูปิดลงและยื่นส่งให้กับฉันแทบจะฟาดใส่หน้า"ได้..ค่ะ" ฉันกัดฟันรับเมนูกลับมาและรีบหันหลังเตรียมจะเดินกลับไปที่บาร์ แต่ทว่า.."ดะ..เดี๋ยวสิ!" เสียงของไอ้ฝรั่งหัวทองนั้นซึ่งดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นลูกครึ่งมากกว่าเพราะเขาดูพูดภาษาไทยได้ แม้จะไม่ค่อยชัดก็ตาม"ต้องการอะไร..อีกงั้นเหรอคะ" ฉันหันกลับไปมาตอบเขาเสียงแข็ง ๆ แต่ก็ต้องเติมหางเสียงไปด้วยเพราะยังไงเขาก็คือลูกค้า แทบยัง เป็น VIP อีกต่