(พิมพ์ตะวัน)
(ไอ้ฝรั่งโรคจิตเอ๊ย) ฉันทำได้แค่นึกด่าคนตรงหน้าไปผ่านทางสายตา แต่ก็ยังคงเลือกที่จะยิ้มตอบกลับไป เพราะยังไงหมอนี้ก็คือลูกค้าวีไอพีของที่นี่ ซึ่งคงไม่มีคนปกติที่ไหนจะจองโต๊ะละ ห้าหมื่นกว่า ๆ มานั่งจิบค็อกเทลชิล ๆ ได้ ถ้าไม่ใช่พวกลูกคนรวย ที่เหลือกินเหลือใช้เต็มทน
"Anything else? (รับอะไรดีไหม?) " ฉันเลือกที่จะไม่ใส่ใจในพูดเชิงสองแง่สองง่ามของไอ้หัวทองตรงหน้า และยืนก้มหน้าก้มตาจดรับออเดอร์ต่อไป..
"Um..later (อืม..ทีหลังแล้วกัน) " ร่างสูงเสยผมขึ้นพร้อมกับถอดเสื้อยืดของเขาออกต่อหน้าต่อตาของฉันเต็ม ๆ
"ฉันก็เอา..เซ็กส์ออนเดอะบีสเหมือนกัน" นางแบบสาวที่พอมีชื่อคนนั้นกระแทกเมนูปิดลงและยื่นส่งให้กับฉันแทบจะฟาดใส่หน้า
"ได้..ค่ะ" ฉันกัดฟันรับเมนูกลับมาและรีบหันหลังเตรียมจะเดินกลับไปที่บาร์ แต่ทว่า..
"ดะ..เดี๋ยวสิ!" เสียงของไอ้ฝรั่งหัวทองนั้นซึ่งดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นลูกครึ่งมากกว่าเพราะเขาดูพูดภาษาไทยได้ แม้จะไม่ค่อยชัดก็ตาม
"ต้องการอะไร..อีกงั้นเหรอคะ" ฉันหันกลับไปมาตอบเขาเสียงแข็ง ๆ แต่ก็ต้องเติมหางเสียงไปด้วยเพราะยังไงเขาก็คือลูกค้า แทบยัง เป็น VIP อีกต่างหาก
ฟุ่บ!! ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับถลกกางเกงลายฮาวาย ๆ ของเขาลง...ฉันเงยหน้ามองฟ้าแทบไม่ทันเลย จริง ๆ ก็เข้าใจนะว่าโตมาแบบฝรั่ง แต่ที่นี่มันเมืองไทยมั้ยละ?
แกร็ก! ร่างสูงยื่นกุญแจล็อกเกอร์ห้อง VIP ยัดใส่มือขอฉัน
"เฮ่อ" ฉันพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อข่มความโกรธเอาไว้และดึงหน้าให้ปกติ
ฟุ่บ!! เสื้อยืดและกางเกงของชายตรงหน้าก็หล่นลงมากองอยู่ที่พื้น ทับลงบนปลายเท้าของฉันพอดิบพอดี..แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าแม้ไม่ได้อยากจะมองแต่ไอ้กางเกงว่ายน้ำสีแดงสะท้อนแสงของตาบ้านี่มัน..แสบตามากจริง ๆ
"ฝากเอาไปเก็บที่ล็อคเกอร์ให้ด้วย" เขาเอ่ยสั่งฉันด้วยภาษาไทยที่ฟังดูจะออกแนวพูดไม่ค่อยชัดมาก แต่ก็ฟังรู้เรื่องอยู่บ้าง
ตุ๊บ ๆ เขาโยนนาฬิกาเรือนแพง และกุญแจรถลงไปกองกับพื้นตรงหน้าของฉันเหมือนราคาไม่กี่ร้อย
"..ได้..ค่ะ!" ฉันข่มเสียงทุ่มต่ำตอบกลับไป ก่อนจะก้มลงไปหยิบเสื้อผ้าของเขาขึ้นมาเพื่อนำไปเก็บให้ที่ล็อกเกอร์ ด้านในของทางบาร์
"ของฉันด้วย แล้วก็วางดี ๆ นะ นี่ชาแนลใบละสามแสนเลย ถ้าเธอทำเป็นรอยละก็ เธอคงจ่ายคืนไม่ไหวแน่ ๆ " นางแบบสาวก็ยื่นกระเป๋าถือของเธอส่งให้กับฉันด้วยเช่นกัน
“ค่าาา” ฉันลากเสียงตอบกลับไปเชิงประชด ๆ แต่จะทำอะไรได้ บาร์นี้ ลูกค้า (รวย) คือพระเจ้า
และก็เนื่องด้วยบาร์แห่งนี้เป็นบาร์ริมชายหาดวิวสวยและเป็นบาร์ริมหาดชื่อดัง ที่จองโต๊ะกันเข้ามาไม่ได้ง่าย ๆ ระบบการรักษาความปลอดภัย
รวมถึงบริการต่าง ๆ ต้องดีที่สุดจริง ๆ เพราะค่าโต๊ะถูกสุดของที่นี่ก็ สองหมื่นกว่า ๆ แล้ว และแพงไปจนถึงเกือบ ๆ ห้าถึงหกหมื่นบาทเลยต่อคืน แน่นอนว่าถ้าบริการไม่ดีคงเปิดบาร์ไม่ได้นานถึงวันนี้
ลูกค้าที่จองเข้ามาในบาร์จะมีกำไลข้อมือสแกนโค้ด เพื่อชำระค่าเครื่องดื่ม อาหาร และเตาชิชาเพื่อสูบรสชาติ ต่าง ๆ และมีล็อกเกอร์รวมถึงห้องอาบน้ำ แต่งตัวสุดหรู ไว้ให้บริการอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือห้องที่จะลากกันไปทำอย่างว่า ๆ แหละ
คนส่วนมากที่มาเที่ยวที่นี่ก็ล้วนแต่เป็นพวกชาวต่างชาติ ไม่ก็คนรวย ๆ เงินเหลือ ๆ กันทั้งนั้น
เพราะราคาเครื่องดื่ม จองโต๊ะและอาหารที่นี่ค่อนข้างแพงมาก ๆ แต่ก็คุ้มค่ากับวิวทะเลสวย บริการ รสชาติเครื่องดื่มอาหารจากเชฟดัง รวมถึงมีดีเจต่างประเทศมาเปิดเพลงตลอดทั้งคืน
เคาร์เตอร์บาร์
หลังจากที่ฉันเอาของทุกอย่างไปเก็บที่ล็อกเกอร์ให้ไอ้ฝรั่งบ้านั้นเรียบร้อย ก็รีบเดินกลับมาที่เคาร์เตอร์บาร์เพื่อรับเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้กับเขา และก็ไม่รู้ว่ามันเป็นวันซวยอะไรของฉันที่ ต้องมาดูแลโต๊ะ ของไอ้บ้ากามนี้
"เครื่องดื่มโต๊ะ VIP 26 เสร็จแล้วนะพิมพ์" พี่แอมวางเครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่งเตรียมใส่ถาดรอไว้ให้ฉัน
"แล้วก็บอสฝากบอกว่าโต๊ะนี้ดูแลดี ๆ หน่อย..เพื่อนเจ้าของบาร์นะ" พี่แอมหันมาบอกกับฉันอย่างยิ้ม ๆ แต่ก็ยังไม่กล้าขอเปลี่ยนโต๊ะใด ๆ
"ค่ะพี่" ฉันพยักหน้ารับ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และเดินถือถาดไปเสิร์ฟให้ทั้งคู่
พอไปถึงโต๊ะก็เห็นว่าทั้งคู่กำลังจูบนัวกันอยู่บนโต๊ะ ขณะที่มืออีกข้างของเขายังคงบีบครีมกันแดด ทาลงบนผิวกายให้หญิงสาวตรงหน้าพร้อมกับบีบขย้ำผิวกายของเธอแบบเน้น ๆ
โต๊ะ VIP 26
"เครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่งได้แล้วนะคะ" ฉันพูดพร้อมกับวางค็อกเทลที่เขาสั่งไว้ให้ที่โต๊ะ และเลือกที่จะเมินต่อการกระทำที่อะลางฉางของคนทั้งคู่
"เพอร์ซุสคะ..อาการมันร้อน..ร๊อน..นะว่ามั้ย" นางแบบสาวเอ่ยบอกพร้อมกับลูบไล้แผ่นอกของเขา
"เราลงไปเล่นน้ำดับร้อนหน่อยดีไหมคะ" หญิงสาวไม่พูดเปล่า แต่กระโดดลงไปในสระว่ายน้ำพร้อม ๆ กับใช้มือโน้มรั้งลำคอของหนุ่มหัวทองจอมหื่นนั้นลงไปจูบนัวกันต่อในน้ำ
"แล้วยูอยากจะเล่นสัก..กี่น้ำอีกละคะ..my baby" ร่างสูงบดขยี้ริมฝีปากจูบนางแบบสาวสุดเซ็กซี่ของเขาซ้ำ ๆ แต่สายตากลับเหลือบมองมาทางที่ฉันกำลังวางเครื่องดื่มลง
"เดี๋ยวไอขอไปถ่ายรูปวิว กับค็อกเทลแป๊บนึงนะคะ เดี๋ยวมา" นางแบบสาวเอื้อมมือหยิบแก้วค็อกเทลของเธอและค่อย ๆ เดินวนไปในสระว่ายน้ำ พร้อมกับหยิบกล้องมือถือของเธอมาถ่ายตามนิสัยของสาว ๆ ทั่ว ๆ ไป
(รวยก็รวย ไม่มีปัญญาซื้อกางเกงว่ายน้ำที่มันยาว หรือหนากว่านี้รึไงนะ) ฉันพยายามจะมองไปทางอื่น แต่มันก็ตรงกับระดับสายตาของฉันมากจริง ๆ
(อี๋..จะอ้วกๆๆ) ฉันพึมพำ ๆ ในใจและเผลอแบะปากเล็กน้อย
" Have a nice day " ฉันพูดออกไปตามแพทเทินของพนักงานบริการทั่ว ๆ ไป แต่ยังไม่ทันจะลุกขึ้นจากโต๊ะ
"เดี๋ยว! ฉันคิดว่า..ฉันเปลี่ยนใจไม่เอา SEX ON THE BEACH แล้วละ.." จู่ ๆ ร่างสูงก็เลื่อนแก้วที่ฉันเพิ่งจะเสิร์ฟออกไปห่างจากตัวของเขา สำเนียงการพูดไทยที่ไม่ค่อยชัดของเขามันยังไม่น่าขัดใจเท่ากับสายตาและท่าทางสุดเจ้าเล่ห์นี้เลยจริง ๆ
"แต่ขอเป็น Tinto de Verano แทน" ร่างสูงผละไปส่งจูบทางไกล ให้กับนางแบบสาวก่อนจะหันกลับมามองทางฉันอีกครั้ง และเลื่อนแก้วที่เขาสั่งมาตรงหน้า เชิงไม่ต้องการมันแล้ว
(ลูกค้า วีไอพี วีไอพี..ท่องไว้พิมพ์) ฉันดึงหน้านิ่ง ๆ ก่อนจะหยักหน้ารับ
"แต่ยังไงแก้วนี้ก็ต้องลงบิลนะคะ เพราะคุณสั่งไปแล้ว" ฉันตอบกลับพร้อมกับเลื่อนคืนไปทางเขา
"เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว" เขาก็เลื่อนคืนพร้อมกับแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์
"งั้น..เธอดื่มสิ" เขาใช้ปลายนิ้วเคาะเบา ๆ ที่โต๊ะของตนเอง
"ฉันคิดว่าไม่มีใครควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะทำงานค่ะ" ฉันตอบกลับไปตามตรงอย่างไม่ใส่ใจ
"สรุปว่าคุณลูกค้าจะรับเป็น..ทินโท ดี วีราโน..ถูกต้องไหม?" ฉันพยายามจะทวนคำนั้นก่อนจะจดเป็นภาษาอังกฤษลงไปในออเดอร์
แต่ยอมรับเลยว่าไม่เคยได้ยินชื่อเมนูมาก่อนเลย แต่คิดว่าพี่แอม คนที่เป็นบาร์เทนเดอร์มานานน่าจะพอรู้
"ไม่ใช่ มันออกเสียงว่า Tinto de Verano (ตินโตเดเบราโน) " ร่างสูงสบสายตาของฉันอีกครั้ง เขาชี้ไปที่มุมปากของตัวเองและออกเสียงให้ฟังอย่างชัด ๆ ซึ่งมันฟังดูคล้าย ๆ จะเป็นภาษาสเปนนีส
"…(กึ๊ด) โอเค.. งั้นเดี๋ยวฉันจะไปบอกบาร์เทนเดอร์ทำให้คุณแล้วกันนะ...คะ!" ฉันก้มกัดฟันกรอดพร้อมกับจดอย่างละเอียด
แต่ยังไม่ทันตั้งตัวและไม่รู้เลยว่าเขาลุกขึ้นมาหยุดยืนตรงหน้าของฉันตอนไหน เมื่อไหร่ แต่รู้อีกทีร่างสูงก็มาหยุดที่ตรงหน้าของฉัน ชนิดที่เรียกว่าหายใจรดหน้าผากเลยก็ว่าได้
"แล้วเมื่อกี้ที่เธอ....ชูนิ้วกลางให้ฉันน่ะ" เขาพูดพร้อมขึ้นพร้อมกับค่อย ๆ เอื้อมมือมาและ
ฟุ่บ!! เขากระชากคอเสื้อของฉันให้โน้มเข้าไปใกล้ ๆ จนแทบจะชนกับหน้าของเขา
"เธอตั้งใจจะด่าฉัน….หรืออยากอม*วยให้ฉันบ้างกันแน่?"
3พิมพ์ตะวัน(มีภาพประกอบ) (END : พิมพ์ตะวัน)สิ่งที่ทำให้พิมพ์ตะวันตกใจไม่ใช่เพราะถูกกระชากคอเสื้อ แต่ที่เธอชะงักไปการที่คือ ใบหน้าของเขามันใกล้กับเธอมากจนเกินไป ใกล้ในแบบที่เรียกว่าแลกเปลี่ยนลมหายใจของกันและกันเลยก็ว่าได้พิมพ์ตะวันตั้งสติเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ ปรับสีหน้าเรียบเฉยตามปกติ แล้วค่อย ๆ จับมือหนาของเขาออกจากคอเสื้อของตัวเองอย่างช้า ๆ ซึ่งเพอร์ซุสเองก็ปล่อยมือจากคอเสื้อของเธอ พร้อมกับยิ้มเยาะอย่างสะใจที่ทำให้อีกฝ่ายหน้าเสียได้ เล็กน้อยพิมพ์ตะวันค่อย ๆ ก้มหน้าลงมองลำท่อนใต้กางเกงว่ายน้ำสีแดงของเขาแบบชัด ๆ อย่างพินิจพิจารณาอยู่นาน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนตรงหน้าอีกครั้ง"ขอโทษนะ...พอดีว่าฉันไม่ชอบหยิบของสกปรก ๆ เข้าปากน่ะ" พิมพ์ตะวันจ้องหน้าของเขาอย่างไม่มีความเกรงกลัวใด ๆ เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง เพราะสุดจะทนกับลูกค้าไร้มารยาทและวิตถารคนนี้แล้วจริง ๆ"หึ หึ" เพอร์ซุสไม่ได้มีท่าทีโกรธอะไรเลยกับคำตอบของสาวเสิร์ฟปากร้ายตรงหน้าของเขา" PIM TA WAN " เพอร์ซุสหรี่ตามองและอ่านป้ายชื่อของเธอพร้อมกับมองหน้าหญิงสาวเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง"ถ้าไม่อะไรแล้ว..ขอตัว
4ขออย่าให้เจอกันอีกเลย!!(มีภาพประกอบ) หญิงสาวพยายามกดปลายเท้าให้แตะถึงขอบสระและพยายามดีดตัวเองให้พ้นขึ้นมาหายใจ แต่สิ่งที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำได้มีเพียงแค่มือทั้งสองข้างของเธอเพียงเท่านั้น"ชะช่วยด้วย" พิมพ์ตะวันพึมพำ ๆ ใต้น้ำ"พะ..พ่อขา~" หญิงสาวที่แข็งแกร่งหลับตาลงและนึกถึงแต่หน้าของผู้เป็นพ่อของเธอ..พ่อคนที่เธอไม่มีวันได้พบเจอท่านอีกแล้วในชีวิตนี้และในเสี้ยววินาทีที่ลมหายใจของเธอใกล้จะหมดลงเต็มที ภาพในอดีตมันก็ย้อนกลับมาจนเธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ใต้น้ำสีฟ้าและแสงไฟจากด้านบนที่ริบหรี่ลงช้า ๆเธอมองเห็นมือของใครบางคนที่ยื่นลงมาจากด้านบน แต่มือเล็ก ๆ ของเธอมันเอื้อมไปไม่ถึงแล้วจริง ๆ ฟองอากาศที่มีค่อย ๆ พ่นออกจากจมูกของเธอร่างบางค่อย ๆ จมลงไปจนเกือบถึงขอบสระที่ลึกเกือบ ๆ สองเมตร ขาทั้งสองข้างของเธอที่ดีดไปมาเริ่มเกร็งและแข็งกร้าวคล้ายเป็นตะคริว มือของเธอพยายามจะแหวกว่ายขึ้นไปแต่มันช่างไกลเหลือเกิน...น้ำคลอรีนทำให้ตาของเธอแสบพร่าจนต้องหลับตาลงและปล่อยให้ตัวเองจมลงสู่ก้นสระว่ายน้ำใจกลางบาร์สุดหรูแห่งนี้และ...ฟุ่บ!!! มือหนาของใครบางคนกระชากเข้าที่ข้อมือและกระชากเธอขึ้นมาพร้อ
5เปิดเทอม (มีภาพประกอบ)(พิมพ์ตะวัน) วันต่อมา"อ้าว..เปิดเทอมแล้วเหรอลูก?" สามีของแม่เอ่ยทักทายฉันด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เขาเองก็กำลังเตรียมตัวจะออกไปทำงานเช่นค่ะ"ใช่ค่ะคุณพ่อ" ฉันพยักหน้ารับก่อนจะสวมเสื้อแจ็กเกตทับชุดนักศึกษาอีกที"อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนมั้ยลูก มื้อเช้าเนี่ยสำคัญนะพิมพ์" ท่านเดินเข้ามาพูดคุยด้วยใบหน้าที่ดูปกติดีทุกอย่าง ราวกับคนละคนกับคนเมื่อคืนเลย"ไม่เป็นไรค่ะ พอดีมหาลัยอยู่ไกลนะคะ..อีกอย่างพิมพ์ต้องรีบจ่ายค่าเช่าหอพักก่อน" ฉันรีบยกมือไหว้คุณพ่อ และหันไปไหว้แม่ของตัวเองที่กำลังเดินจูงมือน้องชายตัวแสบลงมาจากบันไดชั้นสองของบ้านพอดี"พี่พิมพ์ครับ"พัตเตอร์น้องชายตัวเล็กตะโกนเรียกหาฉันลั่น พร้อมกับวิ่งเข้ามาสวมกอดฉันไว้ทันที"พัตเตอร์ไม่อยากให้พี่พิมพ์ไปเรียนเลย...เพราะกว่าพี่พิมพ์จะกลับบ้านก็สองสามอาทิตย์ทีหนึ่งเลย พัตเตอร์เบื่อไม่มีใครสอนทำการบ้านเลย" เจ้าตัวเล็กกระทืบเท้าเบา ๆ และงอแงทันทีที่เห็นฉันใส่ชุดนักศึกษา ซึ่งก็งอแงงแบบนี้มาตั้งแต่ตอนที่ฉันเริ่มเข้ามหาลัยแล้วล่ะ"งั้นถ้าพัตมีอะไรที่ไม่เข้าใจจริง ๆ ก็โทรมาหาพี่สิ เดี๋ยวพี่สอนทางโทรศัพท์ก็ได้" ฉันย่อตัวลงลูบหัวน
6นักศึกษา (วิศวะ) ใหม่"โอ๊ย!! ไอ้พิมพ์หัวกู" ออโต้กุมหัวตัวเองก่อนจะเอื้อมมือมาดึงผมฉันคืนแต่ไม่ได้ดึงแรงมาก เหมือนแค่แกล้งกันเล่น"โขกแรง ๆ เนี่ยแหละ มึงจะได้ตื่น!" ฉันกระชากผมมันแล้วดึงซ้ำ ๆ"เฮ ๆ ๆ พวกคุณปีสามกันแล้วนะ!!" อาจารย์วิลเลี่ยมตวาดขึ้นลั่น ทำให้เราสองคนจำต้องหยุดการอาฆาตแค้นต่อกันเพียงเท่านี้"เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ " ท่านตำหนิก่อนจะหันไปคุยกับนักเรียนใหม่ รวมถึงหัวหน้าจากฝ่ายทะเบียนอีกคนในตอนแรกอาจารย์ก็คุยกับนักเรียนใหม่เป็นภาษาอังกฤษ แต่พอมีฝ่ายทะเบียนเข้ามาด้วย ท่านก็เลยสนทนาเป็นภาษาไทยแทน ซึ่งอีกฝ่ายก็พูดไทยได้เช่นกัน"เอาจริงวิชาของปีหนึ่งปีสอง เทียบโอนได้หมด แต่วิชาของคณะวิศวะบางตัว ก็ยังมีต้องเก็บอีก" อาจารย์วิลเลี่ยมพูดพร้อมกับเปิดเอกสารการเรียนของนักศึกษาคนนั้นไปพลาง ๆ ซึ่งร่างสูงก็หันหลังให้กับพวกเรา แต่หันหน้าคุยกับอาจารย์ด้วยที่เคร่งเครียด"แต่ที่น่าทึ้งคือ..เรียนบริหารมา แต่ดันทำข้อสอบของคณะวิศวะภาคเหมืองแร่และปิโตรเลียมได้เกือบเต็ม""เพราะขนาดเด็กในคณะวิศวะ ยังสอบผ่านมาได้แค่ ห้าคนเอง" อาจารย์วิลเลี่ยมเม้มปากอย่างช่างใจ เพราะปกติแล้วการย้ายคณะเป็นเรื่องที่ไ
7ความซวยมาเยื่อนถึงที่(มีภาพประกอบ)(เลิกคลาส)"โอเค เดี๋ยวครูจะให้เลิกคลาสก่อนเวลาสามสิบนาทีนะ" อาจารย์วิลเลี่ยมเงยหน้าขึ้นถามทุกคนอีกครั้ง"เพราะวันนี้คณะวิศวะเรามีนัดรวมตัวกันที่ลานกิจกรรม เรื่องการรับน้องปีหนึ่ง" อาจารย์วิลเลี่ยมปิดหนังสือลงก่อนจะเดินตรงเข้ามาหยุดตรงหน้าพวกเราทั้งห้าคน"ถ้าจะเข้าวิศวะแค่ย้ายหน่วยกิจอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องรับรุ่นด้วย" อาจารย์พูดขึ้นกับเพอร์ซุสก่อนจะกดปิดจอโปรเจคเตอร์ด้วยรีโมท"ทุกคนกลับได้เลย ยกเว้นพิมพ์ตะวัน ครูจะคุยเรื่องงานเด็กทุนปีนี้น่ะ" อาจารย์วิลเลี่ยมเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ พร้อมกับหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมารอ"งั้นเจอกันหน้าลานรับน้องนะ พวกกูไปดูดบุหรี่ก่อน" อาร์เดลหันมาบอกกับฉัน และใช้หางตามองทางเพอร์ซุสเล็กน้อยก่อนที่พวกมันทั้งสี่คนจะลุกจากโต๊ะ พร้อมกับสะพายกระเป๋าเดินนำออกจากห้องไปจนหมด เหลือแค่เพอร์ซุสที่ยังคงนั่งเปิดชีทเรียนอ่านไปคร่าว ๆ ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าและเดินออกไปเป็นคนสุดท้ายฟุ่บ! แผ่นกระดาษตารางชั่งโมงทุนที่ฉันต้องทำให้กับทางมหาลัย ซึ่งก็จะเป็นพวกกิจกรรมแทบจะทุกกิจกรรมของมหาลัยเลย ไม่ว่าจะจัดเตรียมงานประชุม รับน้อง หรือกีฬาสี เด็
8ทุ่มหมดตัวและหัวใจ(END : พิมพ์ตะวัน) การรวมพลกันของชาววิศวะ ทั้งปีหนึ่ง สอง สามและสี่ผ่านไปได้ด้วยดี รุ่นพี่ก็บอกถึงกำหนดการต่าง ๆ แบบคร่าว ๆ ไปว่าเดือนไหนจะมีกิจกรรมอะไร และหลังจากสอบเสร็จเราจะมีค่ายรับน้อง (โหด) ที่พวกน้อง ๆ ทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะหากใครไม่เข้าร่วม ก็จะไม่ได้รับเกียร์รุ่น(เกียร์ = สัญลักษณ์ตัวแทนของวิศวะ)หลังจากที่รุ่นพี่ได้บอกกฎเกรณ์ประจำคณะของเรา ข้อปฏิบัติต่าง ๆ รวมไปถึงการเข้าร่วมกิจกรรม การแข่งขันสำคัญ ๆ ของคณะ เสร็จก็ได้แจกกลุ่มไลน์ใหญ่ของทั้งคณะ เพื่อที่เวลามีกิจกรรมอะไรจะมีการแจ้งผ่านไลน์เป็นหลักและอย่างที่รู้กันดีว่า ทุกคณะจะมีการแข่งขันกีฬาภายในมหาลัย ซึ่งทุกคณะจริงจังกันเอามาก ๆ และก็มีเรื่องต่อยตีกันแทบจะทุกปี และน้อยคนมากที่จะย้ายคณะกลางคันแบบเพอร์ซุสแต่ดูเหมือนเขาไม่ได้มีท่าทีกังวลใจอะไรเลย แถมยังเข้าได้ดีกับพวกสาว ๆ คนอื่นในคณะอีกด้วย"ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ให้ความร่วมมือมาชมนุมกันอย่างครบถ้วนในวันนี้" รุ่นพี่ปีสี่เริ่ม ๆ เข้าแถวเรียวกระดาน เป็นอันจบพิธีชุมนุมรุ่นพี่รุ่นน้องในวันแรก"แรดเหลือเกินพ่อคุณ" พิมพ์ตะวันมองไปที่เขาและทำได้แค่ย
9เซอร์ไพรส์(พิมพ์ตะวัน) "ยัยพิ้ง?" ฉันหรี่ตามองตรงไปที่น้องสาวที่กำลังนั่งมาสก์หน้าด้วยโคลนสีเขียว ๆ และหันมาโบกมือทักทายฉันด้วยหน้าระรื่น"มาได้ไงเนี่ย..แล้วเรามีกุญแจห้องพี่ได้ไง?" ฉันแอบตกใจอยู่เหมือนกัน จริงอยู่ที่พิ้งเคยมาที่ห้องฉัน แต่ไม่คิดว่าพิ้งจะมีกุญแจเปิดเข้ามารอก่อนแบบนี้"พอดีพิ้งเข้าไปขอยืมของในห้องพี่พิมพ์น่ะ ก็เลยบังเอิญเจอกุญแจสำรอง..บวกกับคิดถึงพี่พิมพ์มาก ๆ เลยนั่งรถแท็กซี่มาหา" พิ้งกี้เดินเข้ามาสวมกอดฉัน ซึ่งฉันก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรไปเพราะห้องนอนที่บ้าน ยัยพิ้งก็มักจะเข้ามายืมเสื้อผ้าของใช้อยู่บ่อย ๆ อยู่แล้วเพราะความจริงเราสองคนก็ไม่ได้อายุต่างกันมาก ฉันยี่สิบเอ็ดปี ส่วนยัยพิ้งก็สิบเก้าปี"แล้วได้คุณพ่อกับแม่รึยังว่าจะมาหาพี่" ฉันเดินไปวางกระเป๋าลงก่อนจะถอดเสื้อช็อปออกแขวนเอาไว้"พี่พิมพ์! พิ้งอายุสิบเก้าปีจะยี่สิบแล้วนะ..จะไปไหนทำอะไรไม่จำเป็นต้องรายงานพ่อกับแม่แล้วไหมอะ?" พิ้งถอนหายใจออกมาก่อนจะเถียงกลับทันที"พิ้งโตมากแล้ว พี่พิมพ์เองก็เหมือนกัน..เลิกทำเหมือนพิ้งเป็นเด็ก ๆ สักทีน่า" เธอพูดก่อนจะเดินสะบัดตูดเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างที่มาส์กหน้าอยู่ออกโทรศัพท์
10ไม่ซ้ำหน้า@บลูมูนบาร์(หนึ่งในบาร์ชื่อดังหลังมหาลัยอเธน่า)บลูมูนบาร์จะมีสระว่ายน้ำอยู่กลางบาร์ และมีวงดนตรีสดเล่นตลอดทั้งคืน สลับกับการเป็นเพลงแนว EDM ทุก ๆ เที่ยงคืนจะกิจกรรมโยนเหล้าราคาลงไปในสระว่ายน้ำ หากลูกค้าคนไหนที่กระโดดลงไปในสระแล้วงมเหล้าขึ้นมาได้ ก็จะได้เหล้าขวดแพงนั้นไปในทันทีและที่ยิ่งไปกว่านั้นคือบาร์แห่งนี้เป็นการถือหุ้นรวมกันระหว่างศิษย์เก่าจากคณะวิศวะล้วน ๆ จึงไม่แปลกเลยที่พวกเราจะนับว่า บลูมูนบาร์คือถิ่นฐาน แต่ก็ไม่ใช่บาร์จะไม่รับคนจากคณะอื่น ๆ เลย เพราะถ้ามีแต่วิศวะมาเที่ยวคงไม่มีสาว ๆ สวย ๆ เต็มบาร์แบบทุกวันนี้แน่"เข้างานมาก็เจอภาพบาดตาบาดใจเลยวะ..พี่มีนาหักอกกูซ้ำแล้วซ้ำเล่า" ไอ้ออโต้คล้องคอของฉันเหมือนคนที่ยืนไม่ไหว มันจับที่อกตัวเอง พลางบีบน้ำตา เมื่อเห็นพี่มีนาของตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเพอร์ซุสทั้งสองโยกย้ายไปตามเสียงเพลง ก่อนจะโน้มหน้าจูบนัวกันไปโดยไม่แคร์สายตาของคนรอบ ๆ ที่ซุบซิบนินทากันให้แซด"มึงอย่าเวอร์ได้ไหม..มึงกับพี่เขายังไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ กูเห็นมึงน่ะคุยแต่กับรูปโปสเตอร์หน้าตึกของเขา" ฉันถอนหายใจและมองไปทางเพื่อนตัวเองแบบเอื้อม ๆ"จริง ๆ ม
10ไม่ซ้ำหน้า@บลูมูนบาร์(หนึ่งในบาร์ชื่อดังหลังมหาลัยอเธน่า)บลูมูนบาร์จะมีสระว่ายน้ำอยู่กลางบาร์ และมีวงดนตรีสดเล่นตลอดทั้งคืน สลับกับการเป็นเพลงแนว EDM ทุก ๆ เที่ยงคืนจะกิจกรรมโยนเหล้าราคาลงไปในสระว่ายน้ำ หากลูกค้าคนไหนที่กระโดดลงไปในสระแล้วงมเหล้าขึ้นมาได้ ก็จะได้เหล้าขวดแพงนั้นไปในทันทีและที่ยิ่งไปกว่านั้นคือบาร์แห่งนี้เป็นการถือหุ้นรวมกันระหว่างศิษย์เก่าจากคณะวิศวะล้วน ๆ จึงไม่แปลกเลยที่พวกเราจะนับว่า บลูมูนบาร์คือถิ่นฐาน แต่ก็ไม่ใช่บาร์จะไม่รับคนจากคณะอื่น ๆ เลย เพราะถ้ามีแต่วิศวะมาเที่ยวคงไม่มีสาว ๆ สวย ๆ เต็มบาร์แบบทุกวันนี้แน่"เข้างานมาก็เจอภาพบาดตาบาดใจเลยวะ..พี่มีนาหักอกกูซ้ำแล้วซ้ำเล่า" ไอ้ออโต้คล้องคอของฉันเหมือนคนที่ยืนไม่ไหว มันจับที่อกตัวเอง พลางบีบน้ำตา เมื่อเห็นพี่มีนาของตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเพอร์ซุสทั้งสองโยกย้ายไปตามเสียงเพลง ก่อนจะโน้มหน้าจูบนัวกันไปโดยไม่แคร์สายตาของคนรอบ ๆ ที่ซุบซิบนินทากันให้แซด"มึงอย่าเวอร์ได้ไหม..มึงกับพี่เขายังไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ กูเห็นมึงน่ะคุยแต่กับรูปโปสเตอร์หน้าตึกของเขา" ฉันถอนหายใจและมองไปทางเพื่อนตัวเองแบบเอื้อม ๆ"จริง ๆ ม
9เซอร์ไพรส์(พิมพ์ตะวัน) "ยัยพิ้ง?" ฉันหรี่ตามองตรงไปที่น้องสาวที่กำลังนั่งมาสก์หน้าด้วยโคลนสีเขียว ๆ และหันมาโบกมือทักทายฉันด้วยหน้าระรื่น"มาได้ไงเนี่ย..แล้วเรามีกุญแจห้องพี่ได้ไง?" ฉันแอบตกใจอยู่เหมือนกัน จริงอยู่ที่พิ้งเคยมาที่ห้องฉัน แต่ไม่คิดว่าพิ้งจะมีกุญแจเปิดเข้ามารอก่อนแบบนี้"พอดีพิ้งเข้าไปขอยืมของในห้องพี่พิมพ์น่ะ ก็เลยบังเอิญเจอกุญแจสำรอง..บวกกับคิดถึงพี่พิมพ์มาก ๆ เลยนั่งรถแท็กซี่มาหา" พิ้งกี้เดินเข้ามาสวมกอดฉัน ซึ่งฉันก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรไปเพราะห้องนอนที่บ้าน ยัยพิ้งก็มักจะเข้ามายืมเสื้อผ้าของใช้อยู่บ่อย ๆ อยู่แล้วเพราะความจริงเราสองคนก็ไม่ได้อายุต่างกันมาก ฉันยี่สิบเอ็ดปี ส่วนยัยพิ้งก็สิบเก้าปี"แล้วได้คุณพ่อกับแม่รึยังว่าจะมาหาพี่" ฉันเดินไปวางกระเป๋าลงก่อนจะถอดเสื้อช็อปออกแขวนเอาไว้"พี่พิมพ์! พิ้งอายุสิบเก้าปีจะยี่สิบแล้วนะ..จะไปไหนทำอะไรไม่จำเป็นต้องรายงานพ่อกับแม่แล้วไหมอะ?" พิ้งถอนหายใจออกมาก่อนจะเถียงกลับทันที"พิ้งโตมากแล้ว พี่พิมพ์เองก็เหมือนกัน..เลิกทำเหมือนพิ้งเป็นเด็ก ๆ สักทีน่า" เธอพูดก่อนจะเดินสะบัดตูดเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างที่มาส์กหน้าอยู่ออกโทรศัพท์
8ทุ่มหมดตัวและหัวใจ(END : พิมพ์ตะวัน) การรวมพลกันของชาววิศวะ ทั้งปีหนึ่ง สอง สามและสี่ผ่านไปได้ด้วยดี รุ่นพี่ก็บอกถึงกำหนดการต่าง ๆ แบบคร่าว ๆ ไปว่าเดือนไหนจะมีกิจกรรมอะไร และหลังจากสอบเสร็จเราจะมีค่ายรับน้อง (โหด) ที่พวกน้อง ๆ ทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะหากใครไม่เข้าร่วม ก็จะไม่ได้รับเกียร์รุ่น(เกียร์ = สัญลักษณ์ตัวแทนของวิศวะ)หลังจากที่รุ่นพี่ได้บอกกฎเกรณ์ประจำคณะของเรา ข้อปฏิบัติต่าง ๆ รวมไปถึงการเข้าร่วมกิจกรรม การแข่งขันสำคัญ ๆ ของคณะ เสร็จก็ได้แจกกลุ่มไลน์ใหญ่ของทั้งคณะ เพื่อที่เวลามีกิจกรรมอะไรจะมีการแจ้งผ่านไลน์เป็นหลักและอย่างที่รู้กันดีว่า ทุกคณะจะมีการแข่งขันกีฬาภายในมหาลัย ซึ่งทุกคณะจริงจังกันเอามาก ๆ และก็มีเรื่องต่อยตีกันแทบจะทุกปี และน้อยคนมากที่จะย้ายคณะกลางคันแบบเพอร์ซุสแต่ดูเหมือนเขาไม่ได้มีท่าทีกังวลใจอะไรเลย แถมยังเข้าได้ดีกับพวกสาว ๆ คนอื่นในคณะอีกด้วย"ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ให้ความร่วมมือมาชมนุมกันอย่างครบถ้วนในวันนี้" รุ่นพี่ปีสี่เริ่ม ๆ เข้าแถวเรียวกระดาน เป็นอันจบพิธีชุมนุมรุ่นพี่รุ่นน้องในวันแรก"แรดเหลือเกินพ่อคุณ" พิมพ์ตะวันมองไปที่เขาและทำได้แค่ย
7ความซวยมาเยื่อนถึงที่(มีภาพประกอบ)(เลิกคลาส)"โอเค เดี๋ยวครูจะให้เลิกคลาสก่อนเวลาสามสิบนาทีนะ" อาจารย์วิลเลี่ยมเงยหน้าขึ้นถามทุกคนอีกครั้ง"เพราะวันนี้คณะวิศวะเรามีนัดรวมตัวกันที่ลานกิจกรรม เรื่องการรับน้องปีหนึ่ง" อาจารย์วิลเลี่ยมปิดหนังสือลงก่อนจะเดินตรงเข้ามาหยุดตรงหน้าพวกเราทั้งห้าคน"ถ้าจะเข้าวิศวะแค่ย้ายหน่วยกิจอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องรับรุ่นด้วย" อาจารย์พูดขึ้นกับเพอร์ซุสก่อนจะกดปิดจอโปรเจคเตอร์ด้วยรีโมท"ทุกคนกลับได้เลย ยกเว้นพิมพ์ตะวัน ครูจะคุยเรื่องงานเด็กทุนปีนี้น่ะ" อาจารย์วิลเลี่ยมเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ พร้อมกับหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมารอ"งั้นเจอกันหน้าลานรับน้องนะ พวกกูไปดูดบุหรี่ก่อน" อาร์เดลหันมาบอกกับฉัน และใช้หางตามองทางเพอร์ซุสเล็กน้อยก่อนที่พวกมันทั้งสี่คนจะลุกจากโต๊ะ พร้อมกับสะพายกระเป๋าเดินนำออกจากห้องไปจนหมด เหลือแค่เพอร์ซุสที่ยังคงนั่งเปิดชีทเรียนอ่านไปคร่าว ๆ ก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าและเดินออกไปเป็นคนสุดท้ายฟุ่บ! แผ่นกระดาษตารางชั่งโมงทุนที่ฉันต้องทำให้กับทางมหาลัย ซึ่งก็จะเป็นพวกกิจกรรมแทบจะทุกกิจกรรมของมหาลัยเลย ไม่ว่าจะจัดเตรียมงานประชุม รับน้อง หรือกีฬาสี เด็
6นักศึกษา (วิศวะ) ใหม่"โอ๊ย!! ไอ้พิมพ์หัวกู" ออโต้กุมหัวตัวเองก่อนจะเอื้อมมือมาดึงผมฉันคืนแต่ไม่ได้ดึงแรงมาก เหมือนแค่แกล้งกันเล่น"โขกแรง ๆ เนี่ยแหละ มึงจะได้ตื่น!" ฉันกระชากผมมันแล้วดึงซ้ำ ๆ"เฮ ๆ ๆ พวกคุณปีสามกันแล้วนะ!!" อาจารย์วิลเลี่ยมตวาดขึ้นลั่น ทำให้เราสองคนจำต้องหยุดการอาฆาตแค้นต่อกันเพียงเท่านี้"เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ " ท่านตำหนิก่อนจะหันไปคุยกับนักเรียนใหม่ รวมถึงหัวหน้าจากฝ่ายทะเบียนอีกคนในตอนแรกอาจารย์ก็คุยกับนักเรียนใหม่เป็นภาษาอังกฤษ แต่พอมีฝ่ายทะเบียนเข้ามาด้วย ท่านก็เลยสนทนาเป็นภาษาไทยแทน ซึ่งอีกฝ่ายก็พูดไทยได้เช่นกัน"เอาจริงวิชาของปีหนึ่งปีสอง เทียบโอนได้หมด แต่วิชาของคณะวิศวะบางตัว ก็ยังมีต้องเก็บอีก" อาจารย์วิลเลี่ยมพูดพร้อมกับเปิดเอกสารการเรียนของนักศึกษาคนนั้นไปพลาง ๆ ซึ่งร่างสูงก็หันหลังให้กับพวกเรา แต่หันหน้าคุยกับอาจารย์ด้วยที่เคร่งเครียด"แต่ที่น่าทึ้งคือ..เรียนบริหารมา แต่ดันทำข้อสอบของคณะวิศวะภาคเหมืองแร่และปิโตรเลียมได้เกือบเต็ม""เพราะขนาดเด็กในคณะวิศวะ ยังสอบผ่านมาได้แค่ ห้าคนเอง" อาจารย์วิลเลี่ยมเม้มปากอย่างช่างใจ เพราะปกติแล้วการย้ายคณะเป็นเรื่องที่ไ
5เปิดเทอม (มีภาพประกอบ)(พิมพ์ตะวัน) วันต่อมา"อ้าว..เปิดเทอมแล้วเหรอลูก?" สามีของแม่เอ่ยทักทายฉันด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เขาเองก็กำลังเตรียมตัวจะออกไปทำงานเช่นค่ะ"ใช่ค่ะคุณพ่อ" ฉันพยักหน้ารับก่อนจะสวมเสื้อแจ็กเกตทับชุดนักศึกษาอีกที"อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนมั้ยลูก มื้อเช้าเนี่ยสำคัญนะพิมพ์" ท่านเดินเข้ามาพูดคุยด้วยใบหน้าที่ดูปกติดีทุกอย่าง ราวกับคนละคนกับคนเมื่อคืนเลย"ไม่เป็นไรค่ะ พอดีมหาลัยอยู่ไกลนะคะ..อีกอย่างพิมพ์ต้องรีบจ่ายค่าเช่าหอพักก่อน" ฉันรีบยกมือไหว้คุณพ่อ และหันไปไหว้แม่ของตัวเองที่กำลังเดินจูงมือน้องชายตัวแสบลงมาจากบันไดชั้นสองของบ้านพอดี"พี่พิมพ์ครับ"พัตเตอร์น้องชายตัวเล็กตะโกนเรียกหาฉันลั่น พร้อมกับวิ่งเข้ามาสวมกอดฉันไว้ทันที"พัตเตอร์ไม่อยากให้พี่พิมพ์ไปเรียนเลย...เพราะกว่าพี่พิมพ์จะกลับบ้านก็สองสามอาทิตย์ทีหนึ่งเลย พัตเตอร์เบื่อไม่มีใครสอนทำการบ้านเลย" เจ้าตัวเล็กกระทืบเท้าเบา ๆ และงอแงทันทีที่เห็นฉันใส่ชุดนักศึกษา ซึ่งก็งอแงงแบบนี้มาตั้งแต่ตอนที่ฉันเริ่มเข้ามหาลัยแล้วล่ะ"งั้นถ้าพัตมีอะไรที่ไม่เข้าใจจริง ๆ ก็โทรมาหาพี่สิ เดี๋ยวพี่สอนทางโทรศัพท์ก็ได้" ฉันย่อตัวลงลูบหัวน
4ขออย่าให้เจอกันอีกเลย!!(มีภาพประกอบ) หญิงสาวพยายามกดปลายเท้าให้แตะถึงขอบสระและพยายามดีดตัวเองให้พ้นขึ้นมาหายใจ แต่สิ่งที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำได้มีเพียงแค่มือทั้งสองข้างของเธอเพียงเท่านั้น"ชะช่วยด้วย" พิมพ์ตะวันพึมพำ ๆ ใต้น้ำ"พะ..พ่อขา~" หญิงสาวที่แข็งแกร่งหลับตาลงและนึกถึงแต่หน้าของผู้เป็นพ่อของเธอ..พ่อคนที่เธอไม่มีวันได้พบเจอท่านอีกแล้วในชีวิตนี้และในเสี้ยววินาทีที่ลมหายใจของเธอใกล้จะหมดลงเต็มที ภาพในอดีตมันก็ย้อนกลับมาจนเธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ใต้น้ำสีฟ้าและแสงไฟจากด้านบนที่ริบหรี่ลงช้า ๆเธอมองเห็นมือของใครบางคนที่ยื่นลงมาจากด้านบน แต่มือเล็ก ๆ ของเธอมันเอื้อมไปไม่ถึงแล้วจริง ๆ ฟองอากาศที่มีค่อย ๆ พ่นออกจากจมูกของเธอร่างบางค่อย ๆ จมลงไปจนเกือบถึงขอบสระที่ลึกเกือบ ๆ สองเมตร ขาทั้งสองข้างของเธอที่ดีดไปมาเริ่มเกร็งและแข็งกร้าวคล้ายเป็นตะคริว มือของเธอพยายามจะแหวกว่ายขึ้นไปแต่มันช่างไกลเหลือเกิน...น้ำคลอรีนทำให้ตาของเธอแสบพร่าจนต้องหลับตาลงและปล่อยให้ตัวเองจมลงสู่ก้นสระว่ายน้ำใจกลางบาร์สุดหรูแห่งนี้และ...ฟุ่บ!!! มือหนาของใครบางคนกระชากเข้าที่ข้อมือและกระชากเธอขึ้นมาพร้อ
3พิมพ์ตะวัน(มีภาพประกอบ) (END : พิมพ์ตะวัน)สิ่งที่ทำให้พิมพ์ตะวันตกใจไม่ใช่เพราะถูกกระชากคอเสื้อ แต่ที่เธอชะงักไปการที่คือ ใบหน้าของเขามันใกล้กับเธอมากจนเกินไป ใกล้ในแบบที่เรียกว่าแลกเปลี่ยนลมหายใจของกันและกันเลยก็ว่าได้พิมพ์ตะวันตั้งสติเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ ปรับสีหน้าเรียบเฉยตามปกติ แล้วค่อย ๆ จับมือหนาของเขาออกจากคอเสื้อของตัวเองอย่างช้า ๆ ซึ่งเพอร์ซุสเองก็ปล่อยมือจากคอเสื้อของเธอ พร้อมกับยิ้มเยาะอย่างสะใจที่ทำให้อีกฝ่ายหน้าเสียได้ เล็กน้อยพิมพ์ตะวันค่อย ๆ ก้มหน้าลงมองลำท่อนใต้กางเกงว่ายน้ำสีแดงของเขาแบบชัด ๆ อย่างพินิจพิจารณาอยู่นาน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนตรงหน้าอีกครั้ง"ขอโทษนะ...พอดีว่าฉันไม่ชอบหยิบของสกปรก ๆ เข้าปากน่ะ" พิมพ์ตะวันจ้องหน้าของเขาอย่างไม่มีความเกรงกลัวใด ๆ เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง เพราะสุดจะทนกับลูกค้าไร้มารยาทและวิตถารคนนี้แล้วจริง ๆ"หึ หึ" เพอร์ซุสไม่ได้มีท่าทีโกรธอะไรเลยกับคำตอบของสาวเสิร์ฟปากร้ายตรงหน้าของเขา" PIM TA WAN " เพอร์ซุสหรี่ตามองและอ่านป้ายชื่อของเธอพร้อมกับมองหน้าหญิงสาวเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง"ถ้าไม่อะไรแล้ว..ขอตัว
2ลูกค้าวีไอพี(มีภาพประกอบ)(พิมพ์ตะวัน)(ไอ้ฝรั่งโรคจิตเอ๊ย) ฉันทำได้แค่นึกด่าคนตรงหน้าไปผ่านทางสายตา แต่ก็ยังคงเลือกที่จะยิ้มตอบกลับไป เพราะยังไงหมอนี้ก็คือลูกค้าวีไอพีของที่นี่ ซึ่งคงไม่มีคนปกติที่ไหนจะจองโต๊ะละ ห้าหมื่นกว่า ๆ มานั่งจิบค็อกเทลชิล ๆ ได้ ถ้าไม่ใช่พวกลูกคนรวย ที่เหลือกินเหลือใช้เต็มทน"Anything else? (รับอะไรดีไหม?) " ฉันเลือกที่จะไม่ใส่ใจในพูดเชิงสองแง่สองง่ามของไอ้หัวทองตรงหน้า และยืนก้มหน้าก้มตาจดรับออเดอร์ต่อไป.."Um..later (อืม..ทีหลังแล้วกัน) " ร่างสูงเสยผมขึ้นพร้อมกับถอดเสื้อยืดของเขาออกต่อหน้าต่อตาของฉันเต็ม ๆ"ฉันก็เอา..เซ็กส์ออนเดอะบีสเหมือนกัน" นางแบบสาวที่พอมีชื่อคนนั้นกระแทกเมนูปิดลงและยื่นส่งให้กับฉันแทบจะฟาดใส่หน้า"ได้..ค่ะ" ฉันกัดฟันรับเมนูกลับมาและรีบหันหลังเตรียมจะเดินกลับไปที่บาร์ แต่ทว่า.."ดะ..เดี๋ยวสิ!" เสียงของไอ้ฝรั่งหัวทองนั้นซึ่งดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นลูกครึ่งมากกว่าเพราะเขาดูพูดภาษาไทยได้ แม้จะไม่ค่อยชัดก็ตาม"ต้องการอะไร..อีกงั้นเหรอคะ" ฉันหันกลับไปมาตอบเขาเสียงแข็ง ๆ แต่ก็ต้องเติมหางเสียงไปด้วยเพราะยังไงเขาก็คือลูกค้า แทบยัง เป็น VIP อีกต่