LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาส
(พิมพ์ครั้งที่ 2 ฉบับปรับปรุง) เรื่องนี้เคยตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์มาเเล้วนะคะ ประมาณ 5 ปีก่อนได้ค่ะ ดังนั้นจึงเอามารีอัพให้อ่านค่ะ ฉบับนี้อาจะมีการปรับเปลี่ยนสำนวน เนื้อหาบางส่วนที่เคยตีพิมพ์ไปเเล้วให้ดีขึ้นนะคะ โดนจะปรับเปลี่ยนสำนวน เเละฉาก NC เล็กน้อย เเต่ยังคำสำนวนอิโรติกไว้เช่นเดิม ทั้งไม่มีการเพิ่มเหตุการณ์ด้วยค่ะ บทนำ เสียงคุณครูสอนประจำคาบวิชาวิทยาศาสตร์ดังทั่วห้อง แต่ก็ไม่ได้เข้าผ่านหูของเด็กสาวร่างอ้วนท้วมที่ส่งสายตามองออกไปนอกหน้าต่างตลอดเวลาด้วยใจเหม่อลอย แม้กระทั่งเสียงเข้มของคุณครูเรียกถึงสามครั้ง “ชาลิสา !” เด็กสาวสะดุ้งขึ้น เธอหันมามองหน้าคุณครูประจำวิชาพร้อมก้มลงด้วยความรู้สึกผิด “เธอเหม่ออะไร ถ้าไม่ตั้งใจเรียนอีกครั้งฉันจะให้ออกไปยืนหน้าห้อง” เสียงเข้มของคุณครูประจำวิชาดุ “ค่ะ คุณครู” ชาลิวาก้มหน้ารับผิด แต่ทว่าสายตาสอดส่องก้มมองขวดคุกกี้ที่อยู่ใต้โต๊ะด้วยความชื่นชม ทลายความรู้สึกผิดออกไปจนหมดสิ้น เธอมองนาฬิกาข้อมือรอเวลาอีกไม่กี่นาทีที่จะหมดลง กริ๊ง ๆ เสียงออดดังขึ้นบ่งบอกถึงเวลาพักกลางวัน เด็ก ๆ ต่างพากันเดินออกจากห้องด้วยความเหนื่อยล้าจากการเรียนในคาบที่ผ่านมา ทุกคนตรงไปที่จุดเดียวกัน นั่นคือ โรงอาหาร เรียงรายหลายสิบร้าน แต่ละร้านอัดแน่นเต็มไปด้วยนักเรียนที่กำลังต่อแถวเพื่อซื้ออาหารกลางวันเป็นจำนวนมาก ชาลิสาเด็กสาวรูปร่างอ้วนท้วม ผิวสีขาวอมชมพูอายุราว ๆ สิบห้าปี เดินมองหารุ่นพี่ที่อายุมากกว่าถึงสามปี ใบหน้าคมเข้มของเขาที่ยังตรึงใจและติดตาอยู่ไม่เลือนหาย เมื่อสองเดือนก่อนเธอพบเขาโดยบังเอิญในงานกีฬาสีของโรงเรียน ตั้งแต่นั้นก็ชอบเขา มองเขาด้วยความชอบทุกครั้ง “ลิสามองใครน่ะ” เด็กสาวผู้เป็นเพื่อนหันไปถาม พลางส่งสายตามองไปทางที่เพื่อนสาวมอง “ไม่มีอะไรหรอก” เธอตอบเลี่ยง ๆ “อ้าวแล้วนี่จะไม่กินข้าวกลางวันหรือไง” ผู้เป็นเพื่อนถาม แต่ไม่ทันเสียแล้ว เพราะเธอเดินจากไปด้วยความรีบร้อนเรื่องอะไรบางอย่าง ชาลิสาเดินออกมาจากโรงอาหารด้วยความรีบร้อน เธอมาดักรอรุ่นพี่ที่แห่งนี้ เมื่อรู้ว่าทุกเที่ยงเขาจะมาที่สนามบาส วันนี้ตั้งใจจะมอบของให้เขา คุกกี้ช็อกโกแลตถูกบรรจุใส่ขวดโหลอย่างดี พร้อมกับการ์ดเล็ก ๆ สีชมพูน่ารัก ๆ อยากให้รู้ว่าเธอชอบเขา สายตาเธอสอดส่องมองเขาตลอดเวลาเพื่อที่จะรอรุ่นพี่เดินมายังสนามบาส ฯ ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างสูงโปร่งที่เดินเข้ามายังสนาม แววตาของเธอเป็นประกายเมื่อมองเห็นเขา ร่างอ้วนท้วมของเธอรีบวิ่งเข้าไปหาเขาด้วยความตื่นเต้นอย่างทันที สายตาเยือกเย็นของรุ่นพี่หนุ่มมองมายังเด็กสาวร่างอ้วนท้วมที่วิ่งเข้ามาหา เขาจึงส่ายหน้าอย่างรำคาญแล้วเดินหนีไป แต่ว่าเสียงเรียกของเธอทำให้เขาหยุดแล้วหันกลับไปมอง “รุ่นพี่คะ เดี๋ยวค่ะ” ชาลิสาวิ่งเข้ามาหาเขา เธอก้มหน้าพลางสูดหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยความเหนื่อย ก่อนจะเงยหน้าไปมองใบหน้าคมเข้ม ส่งสายตามาที่เธอ “คือว่าฉันทำมาให้รุ่นพี่ค่ะ” เธอก้มหน้าพูดแล้วยกขวดคุกกี้ให้ “... ” เขามองขวดคุกกี้ในมือของเด็กสาวอ้วนท้วม ก่อนตัดสินใจรับมาด้วยความรำคาญ มือหนาเอื้อมไปรับขวดคุกกี้ ก่อนหันหลังเดินจากไป ใบหน้าของชาลิสายิ้มออกมาด้วยความเขินอาย ก่อนจะเดินกลับไปที่โรงอาหารอย่างร่าเริง ช่วงเวลาเย็นหลังเลิกเรียน ชาลิสาก้าวออกจากห้องเรียนอย่างอารมณ์ดี เธอเดินเข้าไปทักเพื่อนสาวที่กำลังเดินอยู่ แต่แล้วสายตาก็ต้องสะดุดเข้ากับของบางสิ่งบางอย่างในมือเพื่อนสาวของเธอ คุกกี้ที่เธอให้รุ่นพี่เมื่อช่วงเที่ยงมาอยู่ในมือของรินดา เพื่อนของเธอ ! “อ้าว ลิสามาพอดีเลย มีอะไรจะให้” รินดาพูดแล้วยื่นขวดคุกกี้ให้ “เอ่อ...” ชาสิลามองขวดคุกกี้ในมือรินดา จุกจนพูดแทบไม่ออก คุกกี้ที่ตั้งใจทำมาให้รุ่นพี่ แต่กลับมาอยู่ในมือของรินดาได้ยังไง ! “เอาไปเหอะ พี่ตั้มให้ฉันมา เขาบอกว่าเพื่อนเขาไม่อยากได้ เห็นทีตอนแรกบอกว่าจะทิ้งด้วยนะ แต่พี่ตั้มเห็นแล้วเสียดายก็เลยเอามาให้ฉัน แต่ฉันไม่ชอบกินคุกกี้สักเท่าไหร่ ก็เลยเอามาให้ลิสา ฉันต้องรีบด้วย แม่มีงานเลี้ยง นี่ให้” รินดาพูดจบแล้วยัดคุกกี้ใส่มือของเธอก่อนจะรีบวิ่งไป แต่คนที่ถูกรับกลับไม่ได้ดีใจเลยสักนิด คุกกี้ที่เธอพยายามทำมาให้เขา แลกกับรอยแผลเป็นบนฝ่ามือที่โดนไฟลวก แต่เขากลับเอาไปให้คนอื่น สุดท้ายแล้วก็ต้องกลับมาอยู่ที่เธอ ใบหน้าเนียนขาวเต็มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอ ความรู้สึกเจ็บได้ถมทับร่างกายของเธออย่างที่ไม่เคยเป็น ชาลิสาค่อยๆ ก้าวออกมาจากตึกอย่างเหม่อลอยราวกับร่างไร้วิญญาณ สายตามองไปรถที่อยู่จอดตรงหน้า พร้อมกับคนขับรถที่รอรับเธออยู่ก่อนแล้ว “คุณหนูเป็นอะไรหรือครับ” ลุงเชิดถามด้วยความเป็นห่วง พลางมองเห็นใบหน้าของเด็กสาวที่มีคราบน้ำตา แต่เธอกลับมองหน้าของลุงเชิดแล้วเดินขึ้นรถไปโดยไม่ตอบคำถาม เวลาผ่านไปราวๆ สามชั่วโมงนับตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน ชาลิสาเก็บตัวเงียบอยู่แต่ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ร่างอวบขดตัวอยู่ที่พื้นข้างเตียงนอน เสียงสะอื้นที่ร้องออกมาเป็นระยะค่อยๆ หยุดเงียบลง เมื่อประตูเปิดออกพร้อมกับร่างของใครบางคนที่คุ้นเคยเดินเข้ามาหา หญิงสาวร่างอวบเดินเข้ามาพร้อมถาดอาหาร เธอวางถาดอาหารลงที่โต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนจะเดินเข้ามาหาชาลิสาแล้วนั่งลงข้าง ๆ แม้ใบหน้าของเธอจะดูเหี่ยวย่นไปตามกาลเวลา แต่รอยยิ้มอ่อนโยนเวลามองมาที่ ชาลิสาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “คุณหนูของนมเป็นอะไรไปคะ” “แม่นม...เพราะว่า...ลิ...สาไม่สวย ใช่ไหมคะ...” เสียงสะอื้นชาลิสาของนมฟังดูแล้วติดขัด แต่ถ้อยคำที่เธอพูดออกมาเต็มไปด้วยความน้อยใจและตัดพ้อ “ไม่นะคะ คุณหนูของนมสวยเสมอ” แม่นมพูดพลางลูบผมสีดำเพื่อปลอบโยน แม่นมได้แต่มองคุณหนูอย่างสงสารและเอ็นดู ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร “แม่นมโกหก ลิสาอ้วนจะตายไป” ชาลิสาพูดด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อ “ไม่หรอกค่ะ แม่นมจะโกหกคุณหนูทำไม คุณหนูน่ารักในแบบของคุณหนู” แต่คนฟังได้แต่นั่งนิ่งเงียบไม่ตอบใดๆ ทั้งสิ้น “คุณหนูคะ รับประทานอาหารเย็นดีกว่า นี่ก็ดึกมากแล้วค่ะ” แม่นมพูดขึ้นพร้อมกับเดินไปหยิบถาดอาหารมาวางไว้บนเตียงของเธอ “กินเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณหนูจะไม่สบายอีกนะคะ” คนฟังได้แต่นั่งนิ่งเงียบแล้วเงยหน้าไปมองแม่นม ก่อนจะลุกขึ้นมารับประทานอาหาร แล้วอาบน้ำเข้านอน ทั้งที่หัวใจนั้นยังร้องไห้ เช้าวันรุ่งขึ้น ชาลิสาเดินเข้ามาภายในห้องเรียนมาด้วยดวงตาที่หมองคล้ำและแดงก่ำ รินดาเดินเข้ามาทักถามด้วยเสียงใส “ลิสาเป็นไงบ้าง คุกกี้เมื่อวานที่ให้อร่อยไหม” คนถูกถามได้ฟังแล้วถึงกับต้องกำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์ไว้ “อืม อร่อยมากเลยล่ะ” ช่วงเวลาที่ดูยาวนานผ่านพ้นไปของตลอดทั้งวัน เสียงออดดังขึ้นบ่งบอกว่าเวลาเรียนได้หมดลงแล้ว ชาลิสาเก็บของลงกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องทันที เธอเดินลงมายังบันไดและพบกับใครคนหนึ่ง ใบหน้าคมเข้มที่คุ้นเคย รุ่นพี่ ! สายตาคู่สวยมองไปยังเขาที่เดินผ่านเธอไปแบบไม่สนใจ เธอตัดสินใจเดินเข้าไปหา แต่ว่ามีคนเดินเข้ามาหาเขาเสียก่อน หญิงสาวจึงหยุดชะงักลงเพื่อรอ “ไงดล เมื่อวานเห็นตั้มบอกว่าแกให้คุกกี้มันเหรอ แปลกมาก ! แล้วให้มันทำไม ?” ผู้เป็นเพื่อนถามออกมาด้วยความสงสัย เขารู้ดีว่าคนอย่างภูวดลจะไม่รับของจากผู้หญิงคนไหนและจะไม่ให้ของใครสักเท่าไร “เปล่าก็แค่ได้มาน่ะ ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไร อันที่จริงก็ไม่อยากจะรับไว้เท่าไหร่” ภูวดลตอบด้วยน้ำเสียที่เรียบและไม่ค่อยใส่ใจ “อ้าว ไม่อยากจะรับ ทำไมไม่ปฏิเสธเขาไป” “รำคาญก็เลยรับมา” “แล้วสวยไหม” ผู้เป็นเพื่อนถามอย่างอยากรู้ แต่คนตอบกลับตอบกลับมาว่า “อ้วนแบบนั้นใครจะไปชอบลง อย่าไปสนใจเลย ไร้สาระ” เขาพูดจบแล้วเดินจากไป คนเป็นเพื่อนได้แต่ยืนส่ายหน้าแล้วเดินตามไป ชาลิสายืนฟังได้แต่น้ำตาไหลพรากออกมา คำพูดที่ฟังแล้วทิ่มแทง เธอดูน่าเกลียดมากหรือ แล้วทำไมไม่พูดกันตรง ๆ ทำไมต้องพูดลับหลังแบบนี้ ในเวลานี้ภาพลักษณ์ของรุ่นพี่ที่เธอแอบชอบค่อย ๆ จางลงไป เหลือเพียงแต่ความเจ็บและความเกลียดเอาไว้LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 1รถยนต์คันหรูหยุดจอดลงใต้ชายคาบ้านหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่สีขาว ประตูรถถูกเปิดออกพร้อมกับปรากฏร่างระหงที่ก้าวเท้าออกมา หญิงสาวหยุดอยู่สักพักเพื่อมองก่อนจะเดินเข้าบ้าน สายตาคู่สวยมองไปยังสิ่งที่ยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน นานแล้วที่จากที่นี่ไป สี่ปีนับตั้งแต่เธอเรียนจบมัธยมหก ก็ตัดสินใจไปเรียนเมืองนอกทันทีชาลิสาเดินขึ้นบันไดมายังหน้าห้องนอน สายตาจ้องมองไปยังกรอบรูปบนโต๊ะขณะสาวเท้าเดินไป รูปในอดีตเด็กสาวร่างอ้วนท้วมถ่ายภาพคู่กับบิดาใช่แล้ว... นั่นเป็นเพียงอดีต เด็กสาวในภาพคืออดีตเมื่อหกปีก่อน หลังจากที่ถูกรุ่นพี่ปฏิเสธอย่างเยือกเย็น เธอไม่เคยลืมเขา ผู้ชายที่ไร้หัวใจคนนั้น ทั้งที่หลายปีผ่านมาก็พยายามที่จะลืมแล้วก็ตาม แต่สุดท้ายก็ได้แต่หลอกตัวเองว่าเธอลืมเขาแล้วจริง ๆสายตาหยุดจ้องมองของสิ่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนตู้โชว์ขนาดกลาง ขวดคุกกี้ที่เธอเคยให้ใครบางคน ใครคนนั้นที่ไม่เคยเห็นค่าแม้แต่น้อย มือเรียวเอื้อมหยิบขวดคุกกี้ขึ้นมามองด้วยความเจ็บปวดก่อนจะวางลงที่เดิม ถึงแม้คุกกี้จะถูกเททิ้งไปแล้ว แต่เธอก็ยังอยากจะเก็บขวดแก้วไว้เพื่อเตือนใจเธอ ทั้งที่รู้ว่ายังคง
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 2“เอานังผู้หญิงคนนี้ออกไป !” สุชารัตน์พูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามระงับความโกรธ พลางส่งสายตาจิกไปหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างลูกชาย“น่าอาย ฮึ โรงแรมฉันไม่ใช่ที่หล่อนควรจะมา ถึงหล่อนจะเป็นนางแบบ หล่อนเองก็ไม่ต่างจาก...ผู้ดีเข้าไม่ทำกันหรอก !”“ว่าแต่ลูกชายของคุณแม่ก็ชอบด้วยสิคะ” พิมพ์ดาราตอบพร้อมยิ้มหวานกลับมาพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ภูวดลเพื่อควงแขนของเขา ก่อนจะพูดต่อไปว่า “ว่าแต่เพิ่งจะรู้นะคะ ว่าผู้ดีเขาพูดกันอย่างนี้” เธอพูดแล้วยิ้มเย้ยหยันให้ สุชารัตน์เมื่อเห็นสีหน้าของเธอเดิมที่เต็มไปด้วยความโกรธอยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปใหญ่“นังคนชั้นต่ำ ! ออกไปเดี๋ยวนี้”“คุณแม่ขา ผู้ดีค่ะ อย่าทำสันดานเหมือนคนชั้นต่ำแบบหนูสิคะ” เธอตอบกลับ แววตาของหล่อนเต็มไปด้วยความเหยียดหยามคนตรงหน้า“ออกไปก่อน ลูซี่” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ ๆ เมื่อรู้ว่าถ้าเธออยู่ต่อวันนี้คงไม่จบเท่านี้แน่ แต่คนข้างกายเขามองด้วยแววตาที่ไม่พอใจ ก่อนจะเดินออกไปโดยส่งสายตายิ้มหวานให้สุชารัตน์“แล้วพบกันใหม่นะคะคุณแม่” หล่อนพูดแล้วยิ้มก่อนเดินสะบัดออกไป สุชารัตน์ได้แต่จิกหางตามองนางแบบสาวจนเดินออกจากห้องไป
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 3วันรุ่งเช้าอากาศที่แจ่มใส ทว่าคนที่ลุกจากที่เตียงนอนนั้นไม่ได้แจ่มใสด้วยเลย เกือบตลอดทั้งคืนชาลิสาแทบข่มตาหลับไม่ลง คิดแต่เรื่องงานแต่งงานที่ไม่พร้อมที่จะแต่งงานในตอนนี้หญิงสาวเดินเข้าห้องน้ำไปก่อนประตูจะถูกปิดลง สายน้ำจากฝักบัวที่รดลงมายังร่างกาย ก่อนจะหลับตาลงเพื่อทบทวนเรื่องของเมื่อวานนี่เธอต้องทำเพื่อครอบครัวจริง ๆ หรือนี่เวลาผ่านไปไม่นานชาลิสาเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร โดยมีผู้เป็นบิดาแล้วมารดานั่งรอเธออยู่ก่อนแล้ว เก้าอี้ถูกลากออกมาอย่างพอดี ก่อนที่จะนั่งลง“ขอโทษค่ะ ที่ตื่นสายไปหน่อย”“ไม่เป็นไรหรอก พ่อกับแม่ก็เพิ่งลงมาเหมือนกัน” ชาลิสายิ้มตอบกลับ ก่อนจะเริ่มตักโจ๊กกินอย่างเงียบๆ“เย็นนี้ลูกว่างไหม” ชลรินดาถามขึ้นคนฟังเมื่อฟังก็เงยหน้ามองอย่างสงสัย “มีอะไรหรือคะ”“คือ...คุณสหรัฐเขามานัดดูตัวหนูกับลูกชายเขาน่ะ แม่ก็อยากจะถามลูกว่าว่างไหม ถ้าไม่ว่างแม่จะโทรไปเลื่อนให้”ชลรินดามองลูกสาวที่เริ่มมีสีหน้าลำบากใจ“เอ่อ...ถ้าลูกไม่สบายใจไม่อยากไป แม่ก็จะ...”“ไปค่ะ ลิสาว่าง แล้วเย็นนี้ตอนกี่โมงคะ” ชาลิสาตอบ ในเมื่อจะต้องแต่งงานกัน เธอก็อยากจะ
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 4รุ่นพี่ !“ตาดลทำไมมาช้า ปล่อยให้พ่อกับแม่ต้องรอ” สุชารัตน์พูดตำหนิลูกชายอย่างเสียอารมณ์“ไหน ๆ ก็มาแล้วสั่งอาหารเถอะ” สหรัฐพูดพร้อมหยิบเมนูขึ้นมาดู“จริงสิตาดล มาทำความรู้จักกับน้องลิสาเขาสิ อีกหน่อยจะต้องแต่งงานกันแล้วนะ” สุชารัตน์แนะนำ“สวัสดีครับ พี่ชื่อภูวดล เรียกว่าพี่ดลก็ได้ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยทัก พลางสำรวจใบหน้าสวยตรงหน้าเขาชาลิสาได้แต่ยิ้มตอบกลับแล้วหลบสายตา เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าของเธอมอง มือที่อยู่ใต้โต๊ะกำแน่นเพื่อเก็บซ่อนความรู้สึก“สวัสดีค่ะ พี่ดล” ชาลิสาพูดพร้อมยกมือขึ้นไหว้เพียงเวลาผ่านไปไม่นาน อาหารถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะ ชาลิสาได้แต่รับประทานอย่างนิ่งเงียบโดยไม่พูดไม่จา ซึ่งแตกต่างจากชายหนุ่มที่คุยสนิทสนมกับพ่อแม่ของเธอ แล้วเวลาแห่งความสุขก็หมดลงเมื่อมีเสียงหวานแทรกขึ้น ทุกคนต่างหยุดชะงักอย่างทันที“ที่รักคะ มาทานข้าวทำไมไม่ชวนลูซี่มาด้วย”สายตาของทุกคนเงยขึ้นไปจับจ้องต้นเสียง ร่างหญิงสาวอรชรอยู่ในชุดเกาะอกสี
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 5แสงอรุณยามเช้าสาดส่องเข้าทางหน้าต่าง ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงนอนด้วยความอ่อนล้า เดินเข้าห้องน้ำไปพลางบีบคอสะบัดเบา ๆ เวลาผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาทีประตูห้องน้ำเปิดออก เขาเดินมายังตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดใส่ไปทำงานในวันนี้ตู้เสื้อผ้าเรียงรายด้วยชุดทำงานเป็นแถวทางด้านขวามือของเขา ส่วนทางด้านซ้ายมือเป็นชุดสำหรับไปเวท ภูวดลเอื้อมมือไปหยิบชุดทำงานสีดำสนิท ก่อนจะเปิดตู้ด้านล่างเพื่อเลือกหยิบเนคไทภูวดลอยู่หน้ากระจกใส่ชุดสูทผูกไทอย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกจากห้อง ถึงแม้จะเป็นเวลาเช้าที่เขาจะต้องไปทำงาน แต่เมื่อคืนเขานั้นแทบจะนอนไม่หลับ เพราะเมื่อวานหลังจากที่เขากลับมาถึงบ้าน มารดาของเขาว่ากล่าวเขาอยู่นาน ที่ไปมีความสัมพันธ์กับพิมพ์ดาราหรือลูซี่ อีกทั้งยังเป็นการไม่ให้เกียรติเพื่อนของผู้เป็นบิดา ทำให้ต้องขายหน้าคนในร้านอาหารชายหนุ่มก้าวลงบันได ออกมาพร้อมกับกระเป๋าเอกสารที่ถืออยู่ในมือซ้าย เมื่อเขาเดินลงมาสุด เขายื่นกระเป๋าลงให้ลุงแช่มคนขับรถประจำบ้านเพื่อนำไปเก็บไว้ในรถของเขา“ตาดล จะไปทำงานเหรอ ไม่ทานข้าวเช้าก่อนล่ะ&
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 6ภายในบ้านของอธิพัฒน์เดชากร สุชารัตน์ที่กำลังนั่งดูทีวีในยามสายอยู่ต้องละสายตาแล้วหันไปมอง เสียงรถยนต์คันหรูที่แล่นเข้ามาแล้วหยุดจอดลงอย่างช้าๆ“นวลไปดูสิว่าใครมา” สุชารัตน์กล่าวแล้วหันกลับไปจดจ้องทีวีต่อ นวลเมื่อได้รับคำสั่งก็เดินออกไป แต่พบกับหญิงสาวร่างงามที่ยืนอยู่ตรงหน้า“อุ๊ย คุณผู้หญิงค่า นวลว่าไม่ต้องไปดูแล้วค่ะ” เมื่อได้ยินนวลพูดขึ้นสุชารัตน์จึงละสายตาจากทีวีแล้วลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะหันไปมอง“หนูลิสา”“สวัสดีค่ะคุณแม่” หญิงสาวเจ้าของร่างงามเดินมาหาก่อนจะยกมือไหว้ สุชารัตน์จึงยกมือไหว้รับตอบ“นั่งลงก่อนสิ มีอะไรถึงมาหาแม่” สุชารัตน์นั่งลง ชาลิสาจึงค่อยนั่งลงตาม พลางบีบน้ำตาออกมาเพื่อเรียกความสงสาร เมื่อสุชารัตน์เห็นจึงตกใจอย่างทันที“เป็นอะไรไปหนูสาร้องไห้ทำไม” สุชารัตน์ถามแล้วเขยิบเข้าไปเพื่อที่จะปลอบ มือที่เหี่ยวย่นได้เอื้อมเข้าไปกุมมือเรียวของเธอ“พี่ดลคะ” ชาลิสาพูดแล้วเอียงตัวเข้าไปซุกในอ้อมกอดของสุชารัตน์ก
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 7“ฉันไม่ไป ฉันจะฟ้องคุณแม่ !” เธอขู่ฟ่อ เมื่อคนฟังได้ยินก็ยิ้มออกมาอย่างทันที ชาลิสามองรอยยิ้มของเขาอย่างนึกขึ้นกลัวมาทันที“เชิญครับ แต่กว่าคุณจะได้ฟ้องแม่ บางทีเราสองคน...” เขาโน้มตัวใกล้ๆ ที่ต้นคอ พูดขู่เธอต่อไปว่า “อาจจะมีหลานให้ท่านวันนี้เลยก็ได้นะครับ” เธอดันอกเขาออกห่างทันที แล้วมองด้วยสายตาที่โกรธเมื่อได้ยินจากปากของเขา“นั่นมันความคิดสกปรกของคุณ ไม่ใช่ของฉัน !” ภูวดลสำรวจใบหน้าสวยแล้วยิ้มกว้างออกมา เขาจะยอมเธอก็ตอนนี้เท่านั้นแหละ แต่หลังจากแต่งงานแล้ว เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรมาเล่นกับไฟอย่างเขา“ขึ้นรถดีกว่าไหมครับ หรือถ้าคุณไม่ขึ้นผมจะอุ้มเข้าบ้านคุณแทนนะ” เมื่อได้ยินก็ค้อนเขาอย่างทันที เขาพูดจาไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิดภูวดลมองสายตาคู่หวานของคนตรงหน้าที่มีสีหน้าลังเล เธอมองเขาอย่างโกรธ แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจพลางส่งสายตาให้เธอประมาณว่า ขึ้นรถซะชาลิสามองเขาด้วยความขุ่นเคือง สุดท้ายเธอก็ต้องยอมจำใจขึ้นรถของเขาไป ชายหนุ่มลอบยิ้มออกมาอย่างพอใจแล้วเดิ
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 8“ข้อตกลงอะไรคะ ?”“หลังจากคุณแต่งงานกับผมแล้ว ภายในหนึ่งปีเราจะหย่ากัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมิน ชาลิสาเมื่อได้ยินก็ช็อก นิ้วเรียวสวยของเธอค่อยกำแน่นเพื่อเก็บอารมณ์ไม่ให้เขารู้“ผมแค่ต้องการอิสระ และอีกอย่างคุณกับผมเราไม่ได้รักกัน”ชาลิสาได้แต่ก้มหน้านิ่งเงียบ เขาจะรู้ไหมนะที่เขาพูดมาทั้งหมดเธออยากจะร้องไห้ออกมาซะตรงนี้เลย ทำไมล่ะเธอไม่คู่ควรที่จะได้รับความรักจากเขางั้นเหรอ“ค่ะ ฉันทราบเรื่องนี้ดี ฉันเองก็อยากจะเป็นอิสระเหมือนกัน แต่ว่าแม่ของคุณ...” เธอข่มเสียงตอบกลับไป พลางหลบสายตาของเขา“เรื่องแม่ของผม ผมจะจัดการเอง ส่วนคุณเมื่อถึงเวลาก็ช่วยรักษาสัญญาด้วย” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง จนเธอรู้สึกเจ็บปวด แต่งงานเพราะความจำเป็น แต่หนึ่งปีเขาไม่คิดที่จะรักเธอบ้างเลยอย่างงั้นหรือ“ตกลงค่ะ เพราะว่าฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ต่อ” ในเมื่อเธอไม่เคยอยู่ในสายตาเขาแต่แรก ได้เพียงแค่พูดต่อในใจ แต่ไม่กล้าที่จะพูดต่อออกไป“ดี