LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาส
Chapter 4 รุ่นพี่ ! “ตาดลทำไมมาช้า ปล่อยให้พ่อกับแม่ต้องรอ” สุชารัตน์พูดตำหนิลูกชายอย่างเสียอารมณ์ “ไหน ๆ ก็มาแล้วสั่งอาหารเถอะ” สหรัฐพูดพร้อมหยิบเมนูขึ้นมาดู “จริงสิตาดล มาทำความรู้จักกับน้องลิสาเขาสิ อีกหน่อยจะต้องแต่งงานกันแล้วนะ” สุชารัตน์แนะนำ “สวัสดีครับ พี่ชื่อภูวดล เรียกว่าพี่ดลก็ได้ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยทัก พลางสำรวจใบหน้าสวยตรงหน้าเขา ชาลิสาได้แต่ยิ้มตอบกลับแล้วหลบสายตา เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าของเธอมอง มือที่อยู่ใต้โต๊ะกำแน่นเพื่อเก็บซ่อนความรู้สึก “สวัสดีค่ะ พี่ดล” ชาลิสาพูดพร้อมยกมือขึ้นไหว้ เพียงเวลาผ่านไปไม่นาน อาหารถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะ ชาลิสาได้แต่รับประทานอย่างนิ่งเงียบโดยไม่พูดไม่จา ซึ่งแตกต่างจากชายหนุ่มที่คุยสนิทสนมกับพ่อแม่ของเธอ แล้วเวลาแห่งความสุขก็หมดลงเมื่อมีเสียงหวานแทรกขึ้น ทุกคนต่างหยุดชะงักอย่างทันที “ที่รักคะ มาทานข้าวทำไมไม่ชวนลูซี่มาด้วย” สายตาของทุกคนเงยขึ้นไปจับจ้องต้นเสียง ร่างหญิงสาวอรชรอยู่ในชุดเกาะอกสีดำครึ่งตัวพร้อมกางเกงขาสั้นสีแดงที่เผยให้เห็นน่องขาเรียวยาวกระชากใจบรรดาหนุ่ม ๆ ที่อยู่ในร้านได้เป็นอย่างดี “ลูซี่ คุณมาที่นี่ได้ยังไง?” ชายหนุ่มถามออกมาอย่างตกใจ เขาไม่คิดว่าจะมาบังเอิญเจอพิมพ์ดาราที่นี่ “ก็แค่บังเอิญค่ะ ที่รักมาทานข้าวไม่ชวนบ้างเลย” พิมพ์ดาราได้ยินคำถามก็ยิ้มหวานออกมาพลางลูบไล้ใบหน้าคมเข้ม แววตาของสุชารัตน์ผู้เป็นแม่มองลูกชายด้วยความโกรธ “ตาดล !” สุชารัตน์พูดด้วยความโมโหทันที “อุ๊ย ! สวัสดีค่ะคุณแม่” พิมพ์ดาราพูดทักแล้วยกมือขึ้นไหว้ พลางยิ้มให้ก่อนจะค่อยก้มลูบไล้ชายหนุ่มอย่างไม่อาย “ตาดล !” ผู้เป็นแม่พูดเสียงแข็งอย่างทันทีเมื่อรับภาพตรงหน้าไม่ได้ “ทักทายเองค่ะ” พิมพ์ดาราใช้นิ้วเรียวลูบใบหน้าคมคายเพื่อยั่วอารมณ์ของสุชารัตน์ ชาลิสาได้แต่นั่งมองจนเริ่มหมดความอดทน “ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะคะ ถ้าอยากมากลิสาจะได้ให้บริการเตรียมห้องให้ จะได้ไม่ทำคนอื่นเสียสายตาไปด้วย” ใบหน้าสวยพูดแล้วยิ้มหวานให้ ทุกคนต่างหันมามองกันเป็นตาเดียวที่เธอ แต่คนถูกกล่าวกลับวีนออกมาแต่ต้องชะงักหยุดอย่างทันที “ตาดล !” เสียงเข้มของผู้เป็นบิดาพูดขึ้น ภูวดลจึงรู้ทันทีว่าหากพิมพ์ดาราอยู่ต่อ คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ มีแต่จะทำให้เขาเดือดร้อนเข้าไปอีก “ลูซี่ คุณกลับไปก่อน อย่าให้ผมรำคาญคุณ” เมื่อได้ยินพิมพ์ดาราจึงได้แต่ยิ้มตอบกลับ แล้วเดินจากไปทันที เธอเดินออกมาทั้งที่มือด้านขวายังคงกำแน่นอย่างเจ็บแค้น ร่างของนางแบบสาวก้าวออกมาจากร้านอาหารอย่างอารมณ์เสีย ทั้งที่เธออุตส่าห์บังเอิญเข้ามาแล้วแท้ ๆ แต่กลับถูกเมิน คิดหรือว่าจะทิ้งเธอไปง่าย ๆ อย่างงั้นเหรอ ไม่มีทางซะหรอก ตราบใดที่เขายังมีเงินมากมายให้เธอ ถ้าจับเขาได้ล่ะก็เธอจะสบายไปทั้งชาติ มีเงินให้เธอใช้ไม่ขาดมือ ใช่แล้ว !! กว่าเธอจะมาถึงจุด ๆ นี้ มันทำให้เธอต้องแลกอะไรหลายอย่าง แม้กระทั่งร่างกาย เธอไม่มีวันปล่อยความสุขของเธอให้หลุดมือไปแน่… สี่ปี่ที่ผ่านมากกว่าเธอจะมีวันนี้ มันทำให้เธอเสียทุกอย่างแม้กระทั่งศักดิ์ศรีที่เธอเคยมี ความยากจน ความอยาก ทำให้เธอต้องดิ้นรนทำทุกอย่าง แต่แล้วสวรรค์ก็เมตตาเธอ...เธอได้เข้าสู่วงการนางแบบ...เงินทองทุกอย่างเริ่มไหลเข้ามาหาเธอ แต่มันก็ยังไม่พอสำหรับคนอย่างเธอ...สำหรับคนที่เคยยากจนมาอย่างเธอไม่มีวันกลับไปอยู่จุดๆ นั้นอีกเด็ดขาด ไม่มีวัน ! ขอเพียงแค่เธอรวย ไม่ว่าวิธีไหนเธอก็จะทำ ร่างนางแบบสาวเดินขึ้นลิฟต์ไป เธอคิดแต่เพียงว่า วันนี้เธอจะต้องได้เพชรสักสองสามกะรัตจากชายหนุ่มที่เธอรักเขาอีกเป็นแน่ ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก ขาเรียวยาวก้าวออกจากลิฟต์ เดินตรงไปยังห้องที่เธอนัดไว้ ภายในห้องหรูของโรงแรมระดับห้าดาว บนเตียงขนาดใหญ่ ร่างกึ่งเปลือยของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเคลื่อนไหวอย่างเร้าร้อน ใบหน้าคมสันของชายหนุ่ม คลอเคลียซอกคอของอีกฝ่ายอย่างกระหาย ฝ่ามือหนาได้บีบเคล้าคลึงอกอวบของหล่อนและบดจูบอย่างเร้าร้อน ก่อนที่จะไล้ริมฝีปากหนามายังท้องแบนราบ ชายหนุ่มสูดดมกลีบกุหลาบก่อนจะใส่นิ้วเข้าไป แล้วเร่งจังหวะจากช้าๆ เป็นแรงขึ้นเรื่อยๆ “อ๊า” เสียงเซ็กซี่ของพิมพ์ดาราครางออกมา ฝ่ามือเรียวลูบแผ่นหลังของเขา พิมพ์ดาราไม่ยอมให้เขาทรมานเธอเพียงอย่างเดียว เธอจับร่างหนาของชายหนุ่มลงไปอยู่ด้านล่างแทนแล้วยืนคร่อมอยู่กลางลำตัวเขา พิมพ์ดาราย่อตัวนั่งทับอยู่บนร่างกายของเขา ก่อนใช้มืออีกข้างของเธอกรีดแก่นกายแกร่งเพื่อยั่วอามรณ์ของชายหนุ่ม แล้วหยุดลง เธอโน้มตัวลงมาแล้วลากลิ้นไปยังหน้าอกที่ไร้ไรขนอย่างยั่วยวน “ที่รักคะ ต้องการลูซี่ไหมคะ” พิมพ์ดาราพูดเสียงหวาน “โอว์...” ชายหนุ่มครางเสียงกระเส่า เมื่อมือเรียวของหล่อนจับเข้าที่แก่นกายของเขาแล้วเริ่มบำเรอความสุขให้เขาอีกครั้ง “ต้องการลูซี่ไหมคะ บอกมาสิคะ” พิมพ์ดารายังพูดยั่วยวนเขา ทั้งที่รู้ว่าชายหนุ่มนั้นต้องการแทบใจจะขาด “ลูซี่ ผมต้องการคุณ” เขาพูดจบแล้วพลิกร่างของพิมพ์ดารามาอยู่ข้างใต้เขาอย่างทันที แต่ว่ามือเรียวยกมือดันอกแกร่งอย่างห้าม “เพชรสองกระรัตค่ะ ที่รัก...” เธอพูดเสียงหวานพลางลูบไล้อกแกร่งของเขา ใช่แล้วเธอยอมนอนเพราะเงิน เธอทำทุกอย่างเพราะว่าเงินเพียงอย่างเดียว ถึงแม้ว่าชายหนุ่มตรงหน้า เธอจะรักเขามากแค่ไหนก็ตาม “ได้สิ แต่ตอนนี้หมดเวลาเล่นของคุณแล้ว ที่รัก...” เขาพูดแล้วจับขาเรียวแยกออกจากกัน และชันขึ้นพาดไว้บนบ่าของเขา ก่อนจะดันแก่นกายของเขาเข้าไป แล้วขยับทีละนิดเพื่อยั่วให้หล่อนทรมาน “อ๊ะ...” พิมพ์ดาราขยับสะโพกให้เขาเข้ามาสุดกาย ยิ่งทำให้เขาแทบคลั่งจนชายหนุ่มเร่งจังหวะขึ้นเรื่อย ๆ “ที่รัก...ผมไม่ไหวแล้ว...” “เร็วอีกค่ะ ลูซี่ใจจะขาด...แล้วคะ” เสียงหวานร้องครางออกมา ร่างกายของพิมพ์ดาราเริ่มเกร็งอย่างทรมาน เธอจึงขยับสะโพกพร้อมกับเขาที่ขยับใส่เธออย่างรุนแรง “อ๊ะ...” เสียงร้องของทั้งคู่ร้องครางออกมาเมื่อเธอและเขาถึงจุดสุดยอดพร้อมกัน เธอยังคงนอนนิ่ง แต่ชายหนุ่มถอนแก่นกายออกแล้วเดินไปยังห้องน้ำ ร่างนางแบบสาวดันกายขึ้นปรายตามองชายหนุ่มที่เดินลับสายตาเข้าไปในห้องน้ำ ถึงแม้จะเป็นความสัมพันธ์ที่แลกเพื่อเงินแต่ลึก ๆ แล้วตัวเธอรู้ดีว่ามันมากกว่านั้น แน่นอนว่าเขาก็ไม่คิดจะจริงจังกับเธอเช่นกัน แค่ทำได้ขอเงินจากเขาเพื่อวันที่ถูกเขี่ยทิ้งก็เท่านั้น... ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกร่างเปลือยที่นอนอยู่บนเตียงลุกขึ้นมามองเขา เขาเดินออกมาแล้วหยิบเสื้อผ้าสวมใส่ ร่างนางแบบสาวบนเตียงลุกขึ้นคว้าหาผ้าคลุมร่างกาย เดินมากอดเขาจากทางด้านหลัง “อยู่ต่ออีกสักพักนะคะ ลูซี่คิดถึงคุณค่ะ” พิมพ์ดาราพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนหวังว่าเขาจะเห็นใจ แต่ทว่ากลับผิดคาด ชายหนุ่มแกะมือของเธอออกอย่างไม่ใยดี เขาเดินไปที่หัวเตียงเพื่อหยิบของ ก่อนจะเดินมาหาเธออีกครั้ง เขายื่นแบงก์พันจำนวนหนึ่งหมื่นยัดใส่มือของเธอ พิมพ์ดาราได้แต่ยืนอึ้งมองเขาด้วยแววตาที่ปวดร้าว มือที่รับเงินยังคงค้างไม่ขยับ “สำหรับวันนี้” เขาพูดแล้วเดินหยิบกุญแจรถบนโต๊ะหัวเตียงก่อนเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เธอยืนนิ่งอึ้งอย่างจำยอม มันก็เป็นแบบนี้แต่แรกแล้วสินะ... ชาลิสานั่งมองสมุดบันทึกที่บันทึกบทความเสร็จมาด ๆ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงแล้วลืมตาขึ้นมองไปที่สมุดบันทึกอีกครั้ง นิ้วเรียวยาวลูบไล้หน้าสมุดที่เธอเขียน นานมาแล้วที่ไม่ได้บันทึกนับตั้งแต่เธอไปเรียนต่อ ถึงแม้ว่าจะพกติดไปด้วยแต่ว่าที่นั่นกลับเป็นเรื่องราวธรรมดาที่เธอไม่ค่อยสนใจ เรื่องราวล่าสุดที่เธอบันทึกคงจะเป็นความอดทนที่เธอพยายามลดความอ้วน หลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยหยิบออกมาอีกเลย เธอเปิดย้อนกลับไปอ่าน เรื่องราวความทรงจำในวัยเด็กและหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของเขา ภูวดล ผู้ชายที่เธอเคยคิดว่าดีทุกอย่าง แต่ทำไมเขาถึงได้เยือกเย็นแบบนี้ เมื่อคิดถึงความทรงจำในวัยเด็ก น้ำใสๆ ก็ค่อยไหลลงมา “ยินดีที่พบกันอีกครั้งนะคะ รุ่นพี่” เหลือเวลาอิสระของเธออีกแค่สามเดือนเท่านั้น เธอจะต้องแต่งงานกับเขา หลังจากนี้ต่อไปจะเป็นเช่นไร ? ชาลิสาปิดสมุดบันทึกลง ก่อนจะเดินไปยังเตียงนอน เธอพยายามข่มตาเพื่อนอนหลับ แต่จิตใจของเธอช่างว้าวุ่นซะเหลือเกิน เวลาที่เขาอยู่ใกล้เธอยิ่งทำให้เธอห้ามใจไม่ให้รักเขาไม่ได้ ทำไมนะ ทำไมต้องมาพบกันอีก ทั้งที่เธอพยายามลืมเขาแล้วแท้ๆ แต่ทำไมต้องกลับมา กลับมาทำให้เธอเจ็บอีกครั้งทำไม ?LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 5แสงอรุณยามเช้าสาดส่องเข้าทางหน้าต่าง ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงนอนด้วยความอ่อนล้า เดินเข้าห้องน้ำไปพลางบีบคอสะบัดเบา ๆ เวลาผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาทีประตูห้องน้ำเปิดออก เขาเดินมายังตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดใส่ไปทำงานในวันนี้ตู้เสื้อผ้าเรียงรายด้วยชุดทำงานเป็นแถวทางด้านขวามือของเขา ส่วนทางด้านซ้ายมือเป็นชุดสำหรับไปเวท ภูวดลเอื้อมมือไปหยิบชุดทำงานสีดำสนิท ก่อนจะเปิดตู้ด้านล่างเพื่อเลือกหยิบเนคไทภูวดลอยู่หน้ากระจกใส่ชุดสูทผูกไทอย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกจากห้อง ถึงแม้จะเป็นเวลาเช้าที่เขาจะต้องไปทำงาน แต่เมื่อคืนเขานั้นแทบจะนอนไม่หลับ เพราะเมื่อวานหลังจากที่เขากลับมาถึงบ้าน มารดาของเขาว่ากล่าวเขาอยู่นาน ที่ไปมีความสัมพันธ์กับพิมพ์ดาราหรือลูซี่ อีกทั้งยังเป็นการไม่ให้เกียรติเพื่อนของผู้เป็นบิดา ทำให้ต้องขายหน้าคนในร้านอาหารชายหนุ่มก้าวลงบันได ออกมาพร้อมกับกระเป๋าเอกสารที่ถืออยู่ในมือซ้าย เมื่อเขาเดินลงมาสุด เขายื่นกระเป๋าลงให้ลุงแช่มคนขับรถประจำบ้านเพื่อนำไปเก็บไว้ในรถของเขา“ตาดล จะไปทำงานเหรอ ไม่ทานข้าวเช้าก่อนล่ะ&
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 6ภายในบ้านของอธิพัฒน์เดชากร สุชารัตน์ที่กำลังนั่งดูทีวีในยามสายอยู่ต้องละสายตาแล้วหันไปมอง เสียงรถยนต์คันหรูที่แล่นเข้ามาแล้วหยุดจอดลงอย่างช้าๆ“นวลไปดูสิว่าใครมา” สุชารัตน์กล่าวแล้วหันกลับไปจดจ้องทีวีต่อ นวลเมื่อได้รับคำสั่งก็เดินออกไป แต่พบกับหญิงสาวร่างงามที่ยืนอยู่ตรงหน้า“อุ๊ย คุณผู้หญิงค่า นวลว่าไม่ต้องไปดูแล้วค่ะ” เมื่อได้ยินนวลพูดขึ้นสุชารัตน์จึงละสายตาจากทีวีแล้วลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะหันไปมอง“หนูลิสา”“สวัสดีค่ะคุณแม่” หญิงสาวเจ้าของร่างงามเดินมาหาก่อนจะยกมือไหว้ สุชารัตน์จึงยกมือไหว้รับตอบ“นั่งลงก่อนสิ มีอะไรถึงมาหาแม่” สุชารัตน์นั่งลง ชาลิสาจึงค่อยนั่งลงตาม พลางบีบน้ำตาออกมาเพื่อเรียกความสงสาร เมื่อสุชารัตน์เห็นจึงตกใจอย่างทันที“เป็นอะไรไปหนูสาร้องไห้ทำไม” สุชารัตน์ถามแล้วเขยิบเข้าไปเพื่อที่จะปลอบ มือที่เหี่ยวย่นได้เอื้อมเข้าไปกุมมือเรียวของเธอ“พี่ดลคะ” ชาลิสาพูดแล้วเอียงตัวเข้าไปซุกในอ้อมกอดของสุชารัตน์ก
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 7“ฉันไม่ไป ฉันจะฟ้องคุณแม่ !” เธอขู่ฟ่อ เมื่อคนฟังได้ยินก็ยิ้มออกมาอย่างทันที ชาลิสามองรอยยิ้มของเขาอย่างนึกขึ้นกลัวมาทันที“เชิญครับ แต่กว่าคุณจะได้ฟ้องแม่ บางทีเราสองคน...” เขาโน้มตัวใกล้ๆ ที่ต้นคอ พูดขู่เธอต่อไปว่า “อาจจะมีหลานให้ท่านวันนี้เลยก็ได้นะครับ” เธอดันอกเขาออกห่างทันที แล้วมองด้วยสายตาที่โกรธเมื่อได้ยินจากปากของเขา“นั่นมันความคิดสกปรกของคุณ ไม่ใช่ของฉัน !” ภูวดลสำรวจใบหน้าสวยแล้วยิ้มกว้างออกมา เขาจะยอมเธอก็ตอนนี้เท่านั้นแหละ แต่หลังจากแต่งงานแล้ว เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรมาเล่นกับไฟอย่างเขา“ขึ้นรถดีกว่าไหมครับ หรือถ้าคุณไม่ขึ้นผมจะอุ้มเข้าบ้านคุณแทนนะ” เมื่อได้ยินก็ค้อนเขาอย่างทันที เขาพูดจาไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิดภูวดลมองสายตาคู่หวานของคนตรงหน้าที่มีสีหน้าลังเล เธอมองเขาอย่างโกรธ แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจพลางส่งสายตาให้เธอประมาณว่า ขึ้นรถซะชาลิสามองเขาด้วยความขุ่นเคือง สุดท้ายเธอก็ต้องยอมจำใจขึ้นรถของเขาไป ชายหนุ่มลอบยิ้มออกมาอย่างพอใจแล้วเดิ
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 8“ข้อตกลงอะไรคะ ?”“หลังจากคุณแต่งงานกับผมแล้ว ภายในหนึ่งปีเราจะหย่ากัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมิน ชาลิสาเมื่อได้ยินก็ช็อก นิ้วเรียวสวยของเธอค่อยกำแน่นเพื่อเก็บอารมณ์ไม่ให้เขารู้“ผมแค่ต้องการอิสระ และอีกอย่างคุณกับผมเราไม่ได้รักกัน”ชาลิสาได้แต่ก้มหน้านิ่งเงียบ เขาจะรู้ไหมนะที่เขาพูดมาทั้งหมดเธออยากจะร้องไห้ออกมาซะตรงนี้เลย ทำไมล่ะเธอไม่คู่ควรที่จะได้รับความรักจากเขางั้นเหรอ“ค่ะ ฉันทราบเรื่องนี้ดี ฉันเองก็อยากจะเป็นอิสระเหมือนกัน แต่ว่าแม่ของคุณ...” เธอข่มเสียงตอบกลับไป พลางหลบสายตาของเขา“เรื่องแม่ของผม ผมจะจัดการเอง ส่วนคุณเมื่อถึงเวลาก็ช่วยรักษาสัญญาด้วย” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง จนเธอรู้สึกเจ็บปวด แต่งงานเพราะความจำเป็น แต่หนึ่งปีเขาไม่คิดที่จะรักเธอบ้างเลยอย่างงั้นหรือ“ตกลงค่ะ เพราะว่าฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ต่อ” ในเมื่อเธอไม่เคยอยู่ในสายตาเขาแต่แรก ได้เพียงแค่พูดต่อในใจ แต่ไม่กล้าที่จะพูดต่อออกไป“ดี
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 9หลังจากที่ตอบปฏิเสธภูวดลไปเธอก็นั่งอ่านเอกสารที่ถูกนำมายื่นให้ เพื่อให้เธอเข้าใจถึงแผนการทำงานของแผนก โดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มเมื่อได้รับคำตอบแล้วจะรู้สึกโมโหหรืออย่างไร เธอไม่จำเป็นต้องใส่ใจเขา ทั้งที่เขาไม่เคยใส่ใจเธอเลยสักนิดสายตาของชาลิสาค่อยไล่อ่านเอกสารและยอดจำนวนผู้เข้าพักโรงแรมอย่างละเอียดแล้วย้อนกลับไปอ่านใหม่อีกครั้ง แต่ต้องสะดุดลงเมื่อยอดบัญชีของเดือนที่แล้วลดลงกว่าทุกครั้ง อีกทั้งตลอดเกือบเดือนนี้ก็ลดลงกว่าเดือนที่แล้วอีกเช่นกัน ทั้งที่นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ใช้บริการในโรงแรมที่เธอเห็นเมื่อช่วงเช้าและเที่ยงก็เยอะพอสมควร แต่ทำไมยอดถึงน้อยลงชาลิสาเดินออกจากห้องทำงานของแผนกมายังห้องเก็บเอกสารทั้งหมด แต่กว่าจะใช้เวลาเดินมาถึงก็นานเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะต้องถามคนโน้นคนนี้ทีกว่าจะมาถึงภายในห้องเก็บเอกสารที่มีตู้ใส่เอกสารเรียงรายนับสิบตู้ เอกสารทั้งหมดถูกจัดแบ่งเป็นหมวด ๆ ทั้งหมวดการตลาด และบัญชี และอีกหลาย หมวดสายตาของเธอมองไปยังภายในห้องเอกสารที่ถูกจัดเรียงอย่างมีระเบียบ ตามเดือนและปีบนชั้นวางขนาดสูงและใหญ
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาส(พิมพ์ครั้งที่ 2 ฉบับปรับปรุง)เรื่องนี้เคยตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์มาเเล้วนะคะ ประมาณ 5 ปีก่อนได้ค่ะดังนั้นจึงเอามารีอัพให้อ่านค่ะ ฉบับนี้อาจะมีการปรับเปลี่ยนสำนวน เนื้อหาบางส่วนที่เคยตีพิมพ์ไปเเล้วให้ดีขึ้นนะคะโดนจะปรับเปลี่ยนสำนวน เเละฉาก NC เล็กน้อย เเต่ยังคำสำนวนอิโรติกไว้เช่นเดิม ทั้งไม่มีการเพิ่มเหตุการณ์ด้วยค่ะบทนำเสียงคุณครูสอนประจำคาบวิชาวิทยาศาสตร์ดังทั่วห้อง แต่ก็ไม่ได้เข้าผ่านหูของเด็กสาวร่างอ้วนท้วมที่ส่งสายตามองออกไปนอกหน้าต่างตลอดเวลาด้วยใจเหม่อลอย แม้กระทั่งเสียงเข้มของคุณครูเรียกถึงสามครั้ง“ชาลิสา !” เด็กสาวสะดุ้งขึ้น เธอหันมามองหน้าคุณครูประจำวิชาพร้อมก้มลงด้วยความรู้สึกผิด“เธอเหม่ออะไร ถ้าไม่ตั้งใจเรียนอีกครั้งฉันจะให้ออกไปยืนหน้าห้อง” เสียงเข้มของคุณครูประจำวิชาดุ“ค่ะ คุณครู” ชาลิวาก้มหน้ารับผิด แต่ทว่าสายตาสอดส่องก้มมองขวดคุกกี้ที่อยู่ใต้โต๊ะด้วยความชื่นชม ทลายความรู้สึกผิดออกไปจนหมดสิ้น เธอมองนาฬิกาข้อมือรอเวลาอีกไม่กี่นาทีที่จะหมดลงกริ๊ง ๆเสียงออดดังขึ้นบ่งบอกถึงเวลาพักกลางวัน เด็ก ๆ ต่างพากันเดินออกจากห้องด้วยความเหนื่อยล้าจาก
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 1รถยนต์คันหรูหยุดจอดลงใต้ชายคาบ้านหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่สีขาว ประตูรถถูกเปิดออกพร้อมกับปรากฏร่างระหงที่ก้าวเท้าออกมา หญิงสาวหยุดอยู่สักพักเพื่อมองก่อนจะเดินเข้าบ้าน สายตาคู่สวยมองไปยังสิ่งที่ยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน นานแล้วที่จากที่นี่ไป สี่ปีนับตั้งแต่เธอเรียนจบมัธยมหก ก็ตัดสินใจไปเรียนเมืองนอกทันทีชาลิสาเดินขึ้นบันไดมายังหน้าห้องนอน สายตาจ้องมองไปยังกรอบรูปบนโต๊ะขณะสาวเท้าเดินไป รูปในอดีตเด็กสาวร่างอ้วนท้วมถ่ายภาพคู่กับบิดาใช่แล้ว... นั่นเป็นเพียงอดีต เด็กสาวในภาพคืออดีตเมื่อหกปีก่อน หลังจากที่ถูกรุ่นพี่ปฏิเสธอย่างเยือกเย็น เธอไม่เคยลืมเขา ผู้ชายที่ไร้หัวใจคนนั้น ทั้งที่หลายปีผ่านมาก็พยายามที่จะลืมแล้วก็ตาม แต่สุดท้ายก็ได้แต่หลอกตัวเองว่าเธอลืมเขาแล้วจริง ๆสายตาหยุดจ้องมองของสิ่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนตู้โชว์ขนาดกลาง ขวดคุกกี้ที่เธอเคยให้ใครบางคน ใครคนนั้นที่ไม่เคยเห็นค่าแม้แต่น้อย มือเรียวเอื้อมหยิบขวดคุกกี้ขึ้นมามองด้วยความเจ็บปวดก่อนจะวางลงที่เดิม ถึงแม้คุกกี้จะถูกเททิ้งไปแล้ว แต่เธอก็ยังอยากจะเก็บขวดแก้วไว้เพื่อเตือนใจเธอ ทั้งที่รู้ว่ายังคง
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 2“เอานังผู้หญิงคนนี้ออกไป !” สุชารัตน์พูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามระงับความโกรธ พลางส่งสายตาจิกไปหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างลูกชาย“น่าอาย ฮึ โรงแรมฉันไม่ใช่ที่หล่อนควรจะมา ถึงหล่อนจะเป็นนางแบบ หล่อนเองก็ไม่ต่างจาก...ผู้ดีเข้าไม่ทำกันหรอก !”“ว่าแต่ลูกชายของคุณแม่ก็ชอบด้วยสิคะ” พิมพ์ดาราตอบพร้อมยิ้มหวานกลับมาพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ภูวดลเพื่อควงแขนของเขา ก่อนจะพูดต่อไปว่า “ว่าแต่เพิ่งจะรู้นะคะ ว่าผู้ดีเขาพูดกันอย่างนี้” เธอพูดแล้วยิ้มเย้ยหยันให้ สุชารัตน์เมื่อเห็นสีหน้าของเธอเดิมที่เต็มไปด้วยความโกรธอยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปใหญ่“นังคนชั้นต่ำ ! ออกไปเดี๋ยวนี้”“คุณแม่ขา ผู้ดีค่ะ อย่าทำสันดานเหมือนคนชั้นต่ำแบบหนูสิคะ” เธอตอบกลับ แววตาของหล่อนเต็มไปด้วยความเหยียดหยามคนตรงหน้า“ออกไปก่อน ลูซี่” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ ๆ เมื่อรู้ว่าถ้าเธออยู่ต่อวันนี้คงไม่จบเท่านี้แน่ แต่คนข้างกายเขามองด้วยแววตาที่ไม่พอใจ ก่อนจะเดินออกไปโดยส่งสายตายิ้มหวานให้สุชารัตน์“แล้วพบกันใหม่นะคะคุณแม่” หล่อนพูดแล้วยิ้มก่อนเดินสะบัดออกไป สุชารัตน์ได้แต่จิกหางตามองนางแบบสาวจนเดินออกจากห้องไป