Share

บทที่ 7 ฟ้อง

LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาส

Chapter 6

ภายในบ้านของอธิพัฒน์เดชากร สุชารัตน์ที่กำลังนั่งดูทีวีในยามสายอยู่ต้องละสายตาแล้วหันไปมอง เสียงรถยนต์คันหรูที่แล่นเข้ามาแล้วหยุดจอดลงอย่างช้าๆ

“นวลไปดูสิว่าใครมา” สุชารัตน์กล่าวแล้วหันกลับไปจดจ้องทีวีต่อ นวลเมื่อได้รับคำสั่งก็เดินออกไป แต่พบกับหญิงสาวร่างงามที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“อุ๊ย คุณผู้หญิงค่า นวลว่าไม่ต้องไปดูแล้วค่ะ” เมื่อได้ยินนวลพูดขึ้นสุชารัตน์จึงละสายตาจากทีวีแล้วลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะหันไปมอง

“หนูลิสา”

“สวัสดีค่ะคุณแม่” หญิงสาวเจ้าของร่างงามเดินมาหาก่อนจะยกมือไหว้ สุชารัตน์จึงยกมือไหว้รับตอบ

“นั่งลงก่อนสิ มีอะไรถึงมาหาแม่” สุชารัตน์นั่งลง ชาลิสาจึงค่อยนั่งลงตาม พลางบีบน้ำตาออกมาเพื่อเรียกความสงสาร เมื่อสุชารัตน์เห็นจึงตกใจอย่างทันที

“เป็นอะไรไปหนูสาร้องไห้ทำไม” สุชารัตน์ถามแล้วเขยิบเข้าไปเพื่อที่จะปลอบ มือที่เหี่ยวย่นได้เอื้อมเข้าไปกุมมือเรียวของเธอ

“พี่ดลคะ” ชาลิสาพูดแล้วเอียงตัวเข้าไปซุกในอ้อมกอดของสุชารัตน์ก่อนจะเปรยยิ้มออกมาโดยที่สุชารัตน์ไม่เห็น

“ตาดลทำอะไรหนู บอกแม่มา !” ชาลิสาค่อยๆ คลายอ้อมกอดออก มองสีหน้าของสุชารัตน์ซึ่งแสดงถึงความโกธรออกมาอย่างเห็นได้ชัด เธอจึงบีบน้ำตาร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม

“พี่ดลขืนใจลิสาค่ะ !” เพียงแค่ได้ยินสุชารัตน์ถึงกับช็อกออกมา คิดไม่ถึงว่าบุตรชายของเธอจะไม่ให้เกียรติฝ่ายหญิงขนาดนี้ สุชารัตน์เอื้อมมือไปลูบผมของชาลิสาอย่างบางเบา

“หนูลิสาไม่ต้องกลัวนะ แม่จะจัดการกับตาดลให้” สุชารัตน์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ชาลิสาปลอบยิ้มออกมาอย่างทันที แต่ในใจก็นึกโมโหเจ้าลูกชายตัวดีขึ้นมา

“ขอบคุณค่ะ” ชาลิสาพูดพร้อมยกมือไหว้

“คุณแม่คะ...คือ...ลิสายังไม่อยากให้ เอ่อ...”

“พ่อกับแม่ของหนูรู้ใช่ไหม” สุชารัตน์เอ่ยขึ้น ชาลิสาพยักหน้ารับ

“ค่ะ หนูกลัวคุณพ่อจะว่า...” ชาลิสาพูดและนิ่งเงียบลง แล้วก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด

“ไม่เห็นต้องกลัวเลย” สุชารัตน์พูดแล้วยิ้มเปรยออกมา

“คุณแม่ เอ่อ...หมายถึง”

“ใช่แล้ว แม่ว่าไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว จัดงานแต่งงานอาทิตย์หน้าเลยดีไหม” ชาลิสาเมื่อได้ยินก็มีสีหน้าตกใจอย่างทันที หัวใจของชาลิสาร่วงหล่นไปทันที เธอแค่ตั้งใจจะแกล้งภูวดลเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าจะถึงกับต้องรวบรัดให้แต่งงานเร็วขึ้น

“ทีแรกตกลงกันว่าจะแต่งอีกสามเดือนข้างหน้า แต่แม่กลัวว่าหนูจะท้องก่อนแต่ง ” คนฟังได้แต่นั่งนิ่งพูดอะไรไม่ออก

“เอ่อ...ลิสาว่ายังไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้น...”

“ไม่ได้ !...หนูกลัวตาดลไม่รับผิดชอบใช่ไหม ไม่เป็นไรเดี๋ยวแม่จัดการให้เอง !” ชาลิสาเมื่อได้ยินก็ยิ่งพูดไม่ออกเข้าไปใหญ่ ลิสาได้แต่กลืนน้ำลายลงลำคอแล้วเงียบนิ่ง แบบนี้เขาเรียกว่า ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ทีแรกเธอแค่ตั้งใจจะฟ้องคุณสุชารัตน์เท่านั้น แล้วก็กลับไปยังร้านขนมเค้กของเธอ แต่เมื่อถึงเวลาเที่ยงคุณสุชารัตน์ได้ชวนเธอรับประทานอาหารกลางวันเป็นเพื่อน ไม่รู้เป็นเพราะเวลาเดินเร็วหรือเธอดันคุยกับคุณสุชารัตน์เพลิน นานจนลืมดูว่าเวลาล่วงผ่านมานานเกือบพระอาทิตย์ตกดิน กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบสามทุ่ม เพราะคุณ สุชารัตน์ชวนเธอทานอาหารมื้อเย็นอีกครั้ง เพราะว่าคุณสหรัฐไปดูงานที่ต่างจังหวัดกว่าจะกลับก็ดึก

ชาลิสานอนคิดทบทวนย้อนไปในวันนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เธอไม่นึกว่าคำพูดของเธอจะทำให้อะไรหลายอย่างเปลี่ยน อิสระของเธอเหลือเพียงอีกแค่เจ็ดวัน เธอยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานกับเขา เธอควรจะทำอย่างไรดี จะไปบอกความจริงว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องจริง เธอก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยบอกพูดด้วยซ้ำ ชาลิสาถอนหายใจออกมาอย่างแรง แล้วนอนพลิกไปพลิกมา พลางคิดเรื่องวุ่น ๆ แล้วเผลอหลับไปในที่สุด

ตีหนึ่งกว่า ๆ ชายหนุ่มลุกขึ้นมาแล้วมองไปยังร่างหญิงสาวที่เพิ่งร่วมรักกับเขาเสร็จก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ความจริงเขาก็ตั้งใจจะกลับบ้านไม่ไปใช้บริการที่ไหน แต่เหตุการณ์เมื่อช่วงหัวค่ำ หลังจากที่เขากลับถึงบ้านแล้ว มารดาของเขาที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขกก็เดินเข้ามาตวาดกล่าวว่าเขาด้วยความโมโห ว่าเขาไปขืนใจชาลิสา ซึ่งเขาเองเมื่อฟังแล้วถึงกับต้องงง

“แกไม่ต้องทำหน้าไม่เข้าใจ สันดานแกมันไม่เปลี่ยนจริง ๆ” ผู้เป็นมารดาชี้หน้ากล่าวว่าเขา ภูวดลคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยว่าเรื่องอะไร เขาไปทำอะไรมาแม่ถึงได้โมโหว่ากล่าวเขา

“แล้วเรื่องอะไรครับ” เขาถาม บางทีอาจจะเป็นเรื่องที่เขาให้ชาลิสามาเป็นแม่บ้านก็เป็นได้

“หนูลิสาเค้ามาร้องไห้แล้วฟ้องแม่เมื่อเช้า ว่าแกไปขืนใจน้องเขา !”

“แม่ว่าอะไรนะครับ !” ภูวดลถามด้วยความตกใจอย่างทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่พูดจากปากมารดา

“แกฟังไม่ผิดหรอก ลิสาเข้ามาฟ้องแม่ว่าแกขืนใจน้อง” มารดาพูดด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคืองพลางมองลูกชายที่ยังทำหน้างงอย่างไม่เข้าใจ

“แม่เข้าใจผิดแล้วครับ !” ชายหนุ่มรีบบอกอย่างทันที

“จะมาแก้ตัวอะไรฉันก็ไม่อยากจะฟัง เพราะอาทิตย์หน้าแกจะต้องแต่งงานกับหนูลิสาทันที” เมื่อสุชารัตน์กล่าวจบแล้วลุกขึ้นไปทันที ภูวดลได้แต่ยืนนิ่งอย่างอึ้ง ๆ

“อ้อ แล้วถ้าแกคิดจะหนีงานแต่ง แกกับฉันได้เห็นดีกันแน่ !” ผู้เป็นแม่หันมากล่าวทิ้งท้ายไว้แล้วเดินจากไปด้วยความโมโห โดยที่ไม่ถามความจริงกับเขาสักคำว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริงหรือไม่

แต่งงาน! อาทิตย์หน้า! ชาลิสาเธอมันนางมารร้ายชัด ๆ

รุ่งเช้าแห่งความสดใส ชาลิสาเดินก้าวลงจากบันไดด้วยสีหน้าแล้วรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยม ก่อนจะเดินมารับประทานอาหารเช้าที่โต๊ะแล้วออกไปทำงาน แต่ความสุขของเธอต้องหยุดชะงักลงเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของใครบางคนยืนรอเธออยู่ที่หน้าประตู

รุ่งพี่ ! ชาลิสาเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าเขาจะมาถึงที่บ้าน เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วตั้งสติก่อนจะเดินออกไปโดยไม่สนใจเขา

“ไม่คิดจะทักสามีหน่อยหรือครับคุณภรรยา” เขาพูดขึ้นพร้อมกับก้าวขาไปดึงเธอมา ร่างของเธอเซไปตามแรงแล้วตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา

“ว้าย ! ” ลมหายใจอุ่นของเขาจรดอยู่ที่ข้างใบหูของเธอ รู้ทันทีว่าเขาคงมาหาเรื่องเมื่อวานที่เธอไปฟ้องคุณสุชารัตน์ไว้

“ไง แค่นี้ก็ตกใจซะแล้ว รู้สึกว่าเมื่อวานผมกับคุณเพิ่งจะ...” ชาลิสาดันแผ่นอกออกจากตัวเธอแล้วมองเขาด้วยความขุ่นเคือง

“ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร และมันไม่สำคัญที่ฉันต้องมารับฟัง” ชาลิสาพูดแล้วเดินเบี่ยงออกไป แต่ว่าเขาคว้าข้อมือของเธอเอาไว้

“ขึ้นรถ ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณ” เขาพูดด้วยเสียงต่ำแล้วมองหน้าของเธอด้วยแววตาที่ขุ่นเคือง

“แต่ฉันไม่มีเรื่องต้องคุยค่ะ” ชาลิสาสะบัดข้อมือของเธอ แต่ว่าเขากลับข้อมือบีบแน่นขึ้น

“ขึ้นรถ” เขาพูดย้ำอีกครั้งพร้อมลากเธอมาที่หน้าประตูรถก่อนจะเปิดประตู แล้วพยายามดันเธอเข้าไป

“ฉันต้องไปทำงานค่ะ เดี๋ยวท่านประธานจะตำหนิหัวหน้าแม่บ้านอย่างฉัน” เธอยิ้มหวาน เก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ไม่ให้เขาสังเกตเห็น

“วันนี้ท่านประธานจะลาพัก ไปทำลูกกับว่าที่เมีย” เขาพูดแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ให้เธอ แต่คนที่รับฟังอยากจะแทรกแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด

“คุณ !”

“ครับ ใครก็ไม่รู้ที่ขับรถไปฟ้องแม่ผม บีบน้ำตา บอกว่าผมข่มขืนคุณ” เขาเอ่ยรับแล้วยิ้มออกมาอย่างสนุกเมื่อเห็นคนตรงหน้ามีสีหน้าโมโห

“ฉันไม่ไป ฉันจะฟ้องคุณแม่ !”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status