LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาส
Chapter 5 แสงอรุณยามเช้าสาดส่องเข้าทางหน้าต่าง ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงนอนด้วยความอ่อนล้า เดินเข้าห้องน้ำไปพลางบีบคอสะบัดเบา ๆ เวลาผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาทีประตูห้องน้ำเปิดออก เขาเดินมายังตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดใส่ไปทำงานในวันนี้ ตู้เสื้อผ้าเรียงรายด้วยชุดทำงานเป็นแถวทางด้านขวามือของเขา ส่วนทางด้านซ้ายมือเป็นชุดสำหรับไปเวท ภูวดลเอื้อมมือไปหยิบชุดทำงานสีดำสนิท ก่อนจะเปิดตู้ด้านล่างเพื่อเลือกหยิบเนคไท ภูวดลอยู่หน้ากระจกใส่ชุดสูทผูกไทอย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกจากห้อง ถึงแม้จะเป็นเวลาเช้าที่เขาจะต้องไปทำงาน แต่เมื่อคืนเขานั้นแทบจะนอนไม่หลับ เพราะเมื่อวานหลังจากที่เขากลับมาถึงบ้าน มารดาของเขาว่ากล่าวเขาอยู่นาน ที่ไปมีความสัมพันธ์กับพิมพ์ดาราหรือลูซี่ อีกทั้งยังเป็นการไม่ให้เกียรติเพื่อนของผู้เป็นบิดา ทำให้ต้องขายหน้าคนในร้านอาหาร ชายหนุ่มก้าวลงบันได ออกมาพร้อมกับกระเป๋าเอกสารที่ถืออยู่ในมือซ้าย เมื่อเขาเดินลงมาสุด เขายื่นกระเป๋าลงให้ลุงแช่มคนขับรถประจำบ้านเพื่อนำไปเก็บไว้ในรถของเขา “ตาดล จะไปทำงานเหรอ ไม่ทานข้าวเช้าก่อนล่ะ” เสียงของผู้เป็นแม่เรียกเขา ภูวดลหันไปหาแล้วยิ้มให้กับสุชารัตน์ “ไม่ครับ” เขาตอบก่อนจะเดินไปใส่รองเท้าที่อยู่หน้าประตู “อ้อ ! จริงสิแม่ลืมบอกไป วันนี้หนูลิสาจะเข้าไปทำงานที่โรงแรมของลูกด้วย ยังไงลูกก็ดูแลน้องเขาด้วยละกัน” เมื่อได้ยินชายหนุ่มหันหน้ามามองอย่างทันที คิ้วคมเข้มขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ “หมายความว่ายังไงครับ จะให้...ลิสามาทำงานที่โรงแรมเหรอครับ” “ใช่ แม่เป็นคนชวนมาเองแหละ ลูกสองคนจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ถ้าอยู่กันคนละที่ จะมีเวลาดูใจกันได้ไง” สุชารัตน์พูดออกมาด้วย สีหน้าและแววตาที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข แต่หากคนเป็นลูกชายกลับเริ่มนิ่งหน้าเครียดขึ้นมาทันที แต่เขาก็ได้เพียงแต่ยิ้มตอบผู้เป็นแม่กลับมา “ครับ ผมจะดูแลให้เป็นอย่างดี งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับ” ภูวดลพูดจบยกมือกล่าวสวัสดี ก่อนจะเดินขึ้นรถแล้วขับออกไป ใช่! เขาจะต้อนรับเธอเป็นอย่างดี รถยนต์คันหรูแล่นอยู่บนถนนสี่เลนก่อนจะเลี้ยวเข้าโรงแรมอธิพัฒน์เดชากรแล้วหยุดจอดลงช้า ๆ ประตูรถถูกเปิดออก ขาเรียวยาวที่ถูกคลุมด้วยกระโปรงสีน้ำเงินสไตล์วินเทจก้าวออกมาพร้อมกับหันไปปิดประตูรถ สายตาคู่หวานมองไปยังหน้าโรงแรม ชาลิสาก้าวเท้ายาวเข้าไปในโรงแรม กระโปรงสีน้ำเงินและรองเท้าสีดำพร้อมกับใบหน้าเรียวสวย ทำให้พนักงานหรือแม้แต่แขกที่อยู่หันมามอง บรรยากาศภายในโรงแรมดีกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก สายตาของเธอหันไปทางด้านขวาซึ่งเป็นล็อบบี้ของโรงแรม สังเกตเห็นคนมากมายที่นั่งพูดคุยหรือรับประทานอาหาร เธอชำเลืองเพื่อหาเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ “ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าห้องท่านประธานอยู่ชั้นไหนคะ” เสียงหวานเอ่ยถามพนักงานที่เคาน์เตอร์พลางยกมือขึ้นทาบที่เคาน์เตอร์เพื่อรอฟังคำตอบ “ได้นัดเอาไว้ไหมคะ” พนักงานสาวถาม “ไม่ค่ะ” “งั้นคงบอกไม่ได้หรอกค่ะ เพราะท่านประธานสั่งไว้ค่ะ” พนักงานสาวพูดแล้วยิ้มออกมาอย่างสะใจ ในใจของพนักงานสาวคงคิดว่าเธอจะมาอ่อยเจ้านายถึงได้พูดกับเธอแบบนี้ “งั้นเหรอคะ สงสัยฉันคงต้องโทรไปถามคุณสหรัฐซะหน่อยดีกว่าคะ” ชาลิสาพูดอย่างเรียบๆ แล้วยิ้มหวานให้พนักงานสาว พลางค้นหาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายของเธอ แต่ใบหน้าของคนที่ได้ยินชื่อก็เริ่มซีดออกมา เมื่อรู้ว่าต้องเป็นแขกคนสำคัญ ถึงกล้าเอ่ยนามของประธานใหญ่ได้ “เอ่อ...ท่านประธานอยู่ชั้นที่ 26 ค่ะ ขึ้นลิฟต์ไปแล้วเดินไปทางด้านขวามือค่ะ” พนักงานสาวรีบพูดทันที ชาลิสายิ้มให้แล้วเดินไปที่ลิฟต์ก่อนจะก้าวเข้าไปในลิฟต์ ชายหนุ่มนั่งอ่านเอกสารอยู่ในมือ แต่ว่ารอยยิ้มของเขากลับไม่ได้มาจากเอกสารที่อยู่ในมือแม้แต่น้อย เขาเตรียมต้อนรับว่าที่เจ้าสาวของเขาเอาไว้แล้ว ฮึ ! อยากจะดูสิว่าจะทนได้สักกี่วัน ภูวดลเงยหน้าขึ้นไปมองประตูที่เปิดออก ใบหน้าที่เขายังคงจำได้ ครั้นพบเธอที่ร้านอาหารในงานนัดดูตัว เธอเดินก้าวเข้ามาหาเขาก่อนจะนั่งลงบนโซฟาอย่างนิ่งเงียบด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่ง “คุณมาทำอะไร ?” ภูวดลถามแล้ววางเอกสารลงบนโต๊ะ พลางมองเธอก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้ามาหา หญิงสาวที่นั่งนิ่งเงียบอยู่ที่โซฟา “ก็มานั่งรอไงคะ เผื่อจะมีงานอะไรให้ช่วย คุณแม่ของคุณบอกว่าให้ฉันมาช่วยคุณทำงาน” เธอหันหน้ามาทางเขา พร้อมยิ้มหวาน “ว่าแต่มีอะไรให้ช่วยไหมคะ คุณท่านประธาน” ชาลิสาพูดแล้วยิ้มหวานให้เขา แต่ภูวดลกลับยิ้มแบบไม่เป็นมิตรกลับมาให้ “มีสิ” เขาพูดแล้วเดินไปกดโทรศัพท์ที่โต๊ะ “ชนาภา คุณเอาของที่ผมให้เตรียมเมื่อเช้า เข้ามาให้ผมหน่อย” ประตูเปิดออกพร้อมกับเลขาส่วนตัวของภูวดลก้าวเข้ามา ชนาภาถือชุดอยู่ในมือหนึ่งชุด เธอลุกขึ้นหรี่ตามองและหันไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “เอาให้เธอไป” ภูวดลพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆ ชนาภาเมื่อได้ยินก็อึ้งเล็กน้อย “เอ่อ...เจ้านายคะ...แต่นี้มัน...” ชนาภามองหน้าของเจ้านายแล้วเหลือบไปมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ก่อนจะหันกลับมามองหน้าเจ้านายอีกครั้ง “นั่นแหละ ส่งให้เธอ” เขาพูดพลางยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ชนาภาได้แต่ทำหน้างุนงง เดินเข้าไปหาชาลิสาก่อนจะยื่นชุดที่อยู่ในมือให้ ชาลิสามองชุดที่อยู่ในมือของชนาภาด้วยความตกใจ เธอหันหน้าไปทางชายหนุ่มที่ยืนอมยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “นี่มันชุดแม่บ้านนี่คะ ! คุณเอามาให้ฉันทำไม” หญิงสาวตวาดเสียงดังลั่นห้อง พลางมองเขาด้วยสายตาที่โกรธจัด สีหน้าของเธอเมื่อยิ่งโกรธยิ่งแดงขึ้นเรื่อย ๆ แต่เขากลับยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ส่วนชนาภาเห็นว่าเริ่มมีท่าทีที่ไม่ดี เธอจึงเดินเข้าไปวางชุดที่โซฟาแล้วรีบเดินออกจากห้องไป ในห้องทำงานตอนนี้เหลือเพียงแต่ภูวดลและชาลิสา เธอจ้องคนตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ พร้อมเดินเข้ามาหาภูวดลที่ยังคงยืนนิ่งและยิ้มออกมาเช่นเดิม “คุณตั้งใจแกล้งฉันใช่ไหม คุณภูวดล !” เธอถามออกไปด้วยน้ำขุ่นเคืองปนโมโห ชายหนุ่มส่ายหน้าหัวเราะออกมา “เปล่า ผมก็แค่คิดว่าพนักงานใหม่ควรเริ่มงานที่ง่าย ๆ ก่อน” เขาพูดแล้วยิ้มเยาะเย้ยเธอ พร้อมทำหน้ากวนอารมณ์ให้เธอ “งานง่าย !” คนฟังเมื่อได้ยินก็พยักหน้าเป็นคำตอบ “ฉันจบปริญญาจากเมืองนอกมานะ ! จะให้มาทำงานแม่บ้านได้ยังไง ฉันไม่ทำ !” เธอพูดแล้วเชิดหน้าใส่เขา มีที่ไหนเรียนจบปริญญาจากเมืองนอกกลับมาที่ไทยแล้วทำงานแม่บ้าน “ผมว่าเป็นงานที่น่าภูมิใจนะ” เขาลอบยิ้มออกมา แต่คนฟังกลับมองเขาด้วยสายตาที่โกรธมากกว่าเดิม “ภูมิใจ ?” “ใช่ เพราะผมอุตส่าห์ให้คุณเป็นถึงหัวหน้าแม่บ้านเลยนะ” เขาพูดแล้วยิ้มให้เธอ แต่คนฟังถึงกับอึ้งพูดไม่ออก หัวหน้าแม่บ้าน ! เขาจงใจแกล้งเธอชัดๆ “คุณภูวดล !” เธอจ้องมองเขาด้วยความโกรธ “ครับ” เขาตอบแล้วยิ้มกลับมาให้เธอ ชาลิสาได้แต่กำหมัดแน่นพลางสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้ามายิ้มหวานให้เขา “ก็ได้ค่ะ ในเมื่อคุณว่าที่สามีอุตส่าห์ เชิญมาเป็นแม่บ้านทั้งที สงสัยจะปฏิเสธไม่ได้ซะแล้วสิคะ” เธอพูดแล้วมองใบหน้าคมเข้มที่ยิ้มออกมาอย่างพอใจ “โรงแรมผมคงจะดังน่าดูนะครับ ที่แม่บ้านมีวุฒิจบจากเมืองนอกมาสมัครงาน” เขาพูดพลางยิ้มออกมา ชาลิสาได้แต่ยิ้มตอบแล้วเก็บกลั้นอารมณ์ไว้ “ว่าแต่จะเริ่มงานเลยนะคะเจ้านาย” เธอกัดฟันพูด พร้อมเดินเข้ามาหยิบชุดที่วางอยู่บนโซฟาก่อนจะเดินออกจากห้องไป ภูวดลมองชาลิสาเดินออกไปด้วยความสะใจ ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะทำงานเช่นเดิม โดยไม่รู้ว่าเจ้าของร่างงามนั้นอยากจะร้องกรี๊ดออกมาดังๆ หญิงสาวเดินออกมาจากห้องทำงานของชายหนุ่มด้วยสีหน้าและอารมณ์ที่โมโหเขาอย่างสุดขีด เธอหันไปมองประตูห้องทำงานของเขาอีกครั้งก่อนจะยิ้มออกมาที่มุมปากเรียว ทันทีก้าวพ้นจากห้องทำงานของภูวดล เธอเดินตรงไปยังลิฟต์พร้อมกับโยนชุดแม่บ้านทิ้งถังขยะที่อยู่หน้าลิฟต์ด้วยความโมโห เขาทำกับเธอไปได้ยังไง ! อย่าหวังว่าทำกับเธอแบบนี้แล้วเธอจะยอมแพ้ง่ายๆ ในเมื่อเข้าทางเขาแล้วเธอมีแต่จะเสียเปรียบก็เข้าทางผู้ใหญ่ซะดีกว่าLOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 6ภายในบ้านของอธิพัฒน์เดชากร สุชารัตน์ที่กำลังนั่งดูทีวีในยามสายอยู่ต้องละสายตาแล้วหันไปมอง เสียงรถยนต์คันหรูที่แล่นเข้ามาแล้วหยุดจอดลงอย่างช้าๆ“นวลไปดูสิว่าใครมา” สุชารัตน์กล่าวแล้วหันกลับไปจดจ้องทีวีต่อ นวลเมื่อได้รับคำสั่งก็เดินออกไป แต่พบกับหญิงสาวร่างงามที่ยืนอยู่ตรงหน้า“อุ๊ย คุณผู้หญิงค่า นวลว่าไม่ต้องไปดูแล้วค่ะ” เมื่อได้ยินนวลพูดขึ้นสุชารัตน์จึงละสายตาจากทีวีแล้วลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะหันไปมอง“หนูลิสา”“สวัสดีค่ะคุณแม่” หญิงสาวเจ้าของร่างงามเดินมาหาก่อนจะยกมือไหว้ สุชารัตน์จึงยกมือไหว้รับตอบ“นั่งลงก่อนสิ มีอะไรถึงมาหาแม่” สุชารัตน์นั่งลง ชาลิสาจึงค่อยนั่งลงตาม พลางบีบน้ำตาออกมาเพื่อเรียกความสงสาร เมื่อสุชารัตน์เห็นจึงตกใจอย่างทันที“เป็นอะไรไปหนูสาร้องไห้ทำไม” สุชารัตน์ถามแล้วเขยิบเข้าไปเพื่อที่จะปลอบ มือที่เหี่ยวย่นได้เอื้อมเข้าไปกุมมือเรียวของเธอ“พี่ดลคะ” ชาลิสาพูดแล้วเอียงตัวเข้าไปซุกในอ้อมกอดของสุชารัตน์ก
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 7“ฉันไม่ไป ฉันจะฟ้องคุณแม่ !” เธอขู่ฟ่อ เมื่อคนฟังได้ยินก็ยิ้มออกมาอย่างทันที ชาลิสามองรอยยิ้มของเขาอย่างนึกขึ้นกลัวมาทันที“เชิญครับ แต่กว่าคุณจะได้ฟ้องแม่ บางทีเราสองคน...” เขาโน้มตัวใกล้ๆ ที่ต้นคอ พูดขู่เธอต่อไปว่า “อาจจะมีหลานให้ท่านวันนี้เลยก็ได้นะครับ” เธอดันอกเขาออกห่างทันที แล้วมองด้วยสายตาที่โกรธเมื่อได้ยินจากปากของเขา“นั่นมันความคิดสกปรกของคุณ ไม่ใช่ของฉัน !” ภูวดลสำรวจใบหน้าสวยแล้วยิ้มกว้างออกมา เขาจะยอมเธอก็ตอนนี้เท่านั้นแหละ แต่หลังจากแต่งงานแล้ว เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรมาเล่นกับไฟอย่างเขา“ขึ้นรถดีกว่าไหมครับ หรือถ้าคุณไม่ขึ้นผมจะอุ้มเข้าบ้านคุณแทนนะ” เมื่อได้ยินก็ค้อนเขาอย่างทันที เขาพูดจาไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิดภูวดลมองสายตาคู่หวานของคนตรงหน้าที่มีสีหน้าลังเล เธอมองเขาอย่างโกรธ แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจพลางส่งสายตาให้เธอประมาณว่า ขึ้นรถซะชาลิสามองเขาด้วยความขุ่นเคือง สุดท้ายเธอก็ต้องยอมจำใจขึ้นรถของเขาไป ชายหนุ่มลอบยิ้มออกมาอย่างพอใจแล้วเดิ
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 8“ข้อตกลงอะไรคะ ?”“หลังจากคุณแต่งงานกับผมแล้ว ภายในหนึ่งปีเราจะหย่ากัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมิน ชาลิสาเมื่อได้ยินก็ช็อก นิ้วเรียวสวยของเธอค่อยกำแน่นเพื่อเก็บอารมณ์ไม่ให้เขารู้“ผมแค่ต้องการอิสระ และอีกอย่างคุณกับผมเราไม่ได้รักกัน”ชาลิสาได้แต่ก้มหน้านิ่งเงียบ เขาจะรู้ไหมนะที่เขาพูดมาทั้งหมดเธออยากจะร้องไห้ออกมาซะตรงนี้เลย ทำไมล่ะเธอไม่คู่ควรที่จะได้รับความรักจากเขางั้นเหรอ“ค่ะ ฉันทราบเรื่องนี้ดี ฉันเองก็อยากจะเป็นอิสระเหมือนกัน แต่ว่าแม่ของคุณ...” เธอข่มเสียงตอบกลับไป พลางหลบสายตาของเขา“เรื่องแม่ของผม ผมจะจัดการเอง ส่วนคุณเมื่อถึงเวลาก็ช่วยรักษาสัญญาด้วย” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง จนเธอรู้สึกเจ็บปวด แต่งงานเพราะความจำเป็น แต่หนึ่งปีเขาไม่คิดที่จะรักเธอบ้างเลยอย่างงั้นหรือ“ตกลงค่ะ เพราะว่าฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ต่อ” ในเมื่อเธอไม่เคยอยู่ในสายตาเขาแต่แรก ได้เพียงแค่พูดต่อในใจ แต่ไม่กล้าที่จะพูดต่อออกไป“ดี
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 9หลังจากที่ตอบปฏิเสธภูวดลไปเธอก็นั่งอ่านเอกสารที่ถูกนำมายื่นให้ เพื่อให้เธอเข้าใจถึงแผนการทำงานของแผนก โดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มเมื่อได้รับคำตอบแล้วจะรู้สึกโมโหหรืออย่างไร เธอไม่จำเป็นต้องใส่ใจเขา ทั้งที่เขาไม่เคยใส่ใจเธอเลยสักนิดสายตาของชาลิสาค่อยไล่อ่านเอกสารและยอดจำนวนผู้เข้าพักโรงแรมอย่างละเอียดแล้วย้อนกลับไปอ่านใหม่อีกครั้ง แต่ต้องสะดุดลงเมื่อยอดบัญชีของเดือนที่แล้วลดลงกว่าทุกครั้ง อีกทั้งตลอดเกือบเดือนนี้ก็ลดลงกว่าเดือนที่แล้วอีกเช่นกัน ทั้งที่นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ใช้บริการในโรงแรมที่เธอเห็นเมื่อช่วงเช้าและเที่ยงก็เยอะพอสมควร แต่ทำไมยอดถึงน้อยลงชาลิสาเดินออกจากห้องทำงานของแผนกมายังห้องเก็บเอกสารทั้งหมด แต่กว่าจะใช้เวลาเดินมาถึงก็นานเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะต้องถามคนโน้นคนนี้ทีกว่าจะมาถึงภายในห้องเก็บเอกสารที่มีตู้ใส่เอกสารเรียงรายนับสิบตู้ เอกสารทั้งหมดถูกจัดแบ่งเป็นหมวด ๆ ทั้งหมวดการตลาด และบัญชี และอีกหลาย หมวดสายตาของเธอมองไปยังภายในห้องเอกสารที่ถูกจัดเรียงอย่างมีระเบียบ ตามเดือนและปีบนชั้นวางขนาดสูงและใหญ
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาส(พิมพ์ครั้งที่ 2 ฉบับปรับปรุง)เรื่องนี้เคยตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์มาเเล้วนะคะ ประมาณ 5 ปีก่อนได้ค่ะดังนั้นจึงเอามารีอัพให้อ่านค่ะ ฉบับนี้อาจะมีการปรับเปลี่ยนสำนวน เนื้อหาบางส่วนที่เคยตีพิมพ์ไปเเล้วให้ดีขึ้นนะคะโดนจะปรับเปลี่ยนสำนวน เเละฉาก NC เล็กน้อย เเต่ยังคำสำนวนอิโรติกไว้เช่นเดิม ทั้งไม่มีการเพิ่มเหตุการณ์ด้วยค่ะบทนำเสียงคุณครูสอนประจำคาบวิชาวิทยาศาสตร์ดังทั่วห้อง แต่ก็ไม่ได้เข้าผ่านหูของเด็กสาวร่างอ้วนท้วมที่ส่งสายตามองออกไปนอกหน้าต่างตลอดเวลาด้วยใจเหม่อลอย แม้กระทั่งเสียงเข้มของคุณครูเรียกถึงสามครั้ง“ชาลิสา !” เด็กสาวสะดุ้งขึ้น เธอหันมามองหน้าคุณครูประจำวิชาพร้อมก้มลงด้วยความรู้สึกผิด“เธอเหม่ออะไร ถ้าไม่ตั้งใจเรียนอีกครั้งฉันจะให้ออกไปยืนหน้าห้อง” เสียงเข้มของคุณครูประจำวิชาดุ“ค่ะ คุณครู” ชาลิวาก้มหน้ารับผิด แต่ทว่าสายตาสอดส่องก้มมองขวดคุกกี้ที่อยู่ใต้โต๊ะด้วยความชื่นชม ทลายความรู้สึกผิดออกไปจนหมดสิ้น เธอมองนาฬิกาข้อมือรอเวลาอีกไม่กี่นาทีที่จะหมดลงกริ๊ง ๆเสียงออดดังขึ้นบ่งบอกถึงเวลาพักกลางวัน เด็ก ๆ ต่างพากันเดินออกจากห้องด้วยความเหนื่อยล้าจาก
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 1รถยนต์คันหรูหยุดจอดลงใต้ชายคาบ้านหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่สีขาว ประตูรถถูกเปิดออกพร้อมกับปรากฏร่างระหงที่ก้าวเท้าออกมา หญิงสาวหยุดอยู่สักพักเพื่อมองก่อนจะเดินเข้าบ้าน สายตาคู่สวยมองไปยังสิ่งที่ยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน นานแล้วที่จากที่นี่ไป สี่ปีนับตั้งแต่เธอเรียนจบมัธยมหก ก็ตัดสินใจไปเรียนเมืองนอกทันทีชาลิสาเดินขึ้นบันไดมายังหน้าห้องนอน สายตาจ้องมองไปยังกรอบรูปบนโต๊ะขณะสาวเท้าเดินไป รูปในอดีตเด็กสาวร่างอ้วนท้วมถ่ายภาพคู่กับบิดาใช่แล้ว... นั่นเป็นเพียงอดีต เด็กสาวในภาพคืออดีตเมื่อหกปีก่อน หลังจากที่ถูกรุ่นพี่ปฏิเสธอย่างเยือกเย็น เธอไม่เคยลืมเขา ผู้ชายที่ไร้หัวใจคนนั้น ทั้งที่หลายปีผ่านมาก็พยายามที่จะลืมแล้วก็ตาม แต่สุดท้ายก็ได้แต่หลอกตัวเองว่าเธอลืมเขาแล้วจริง ๆสายตาหยุดจ้องมองของสิ่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนตู้โชว์ขนาดกลาง ขวดคุกกี้ที่เธอเคยให้ใครบางคน ใครคนนั้นที่ไม่เคยเห็นค่าแม้แต่น้อย มือเรียวเอื้อมหยิบขวดคุกกี้ขึ้นมามองด้วยความเจ็บปวดก่อนจะวางลงที่เดิม ถึงแม้คุกกี้จะถูกเททิ้งไปแล้ว แต่เธอก็ยังอยากจะเก็บขวดแก้วไว้เพื่อเตือนใจเธอ ทั้งที่รู้ว่ายังคง
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 2“เอานังผู้หญิงคนนี้ออกไป !” สุชารัตน์พูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามระงับความโกรธ พลางส่งสายตาจิกไปหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างลูกชาย“น่าอาย ฮึ โรงแรมฉันไม่ใช่ที่หล่อนควรจะมา ถึงหล่อนจะเป็นนางแบบ หล่อนเองก็ไม่ต่างจาก...ผู้ดีเข้าไม่ทำกันหรอก !”“ว่าแต่ลูกชายของคุณแม่ก็ชอบด้วยสิคะ” พิมพ์ดาราตอบพร้อมยิ้มหวานกลับมาพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ภูวดลเพื่อควงแขนของเขา ก่อนจะพูดต่อไปว่า “ว่าแต่เพิ่งจะรู้นะคะ ว่าผู้ดีเขาพูดกันอย่างนี้” เธอพูดแล้วยิ้มเย้ยหยันให้ สุชารัตน์เมื่อเห็นสีหน้าของเธอเดิมที่เต็มไปด้วยความโกรธอยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปใหญ่“นังคนชั้นต่ำ ! ออกไปเดี๋ยวนี้”“คุณแม่ขา ผู้ดีค่ะ อย่าทำสันดานเหมือนคนชั้นต่ำแบบหนูสิคะ” เธอตอบกลับ แววตาของหล่อนเต็มไปด้วยความเหยียดหยามคนตรงหน้า“ออกไปก่อน ลูซี่” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ ๆ เมื่อรู้ว่าถ้าเธออยู่ต่อวันนี้คงไม่จบเท่านี้แน่ แต่คนข้างกายเขามองด้วยแววตาที่ไม่พอใจ ก่อนจะเดินออกไปโดยส่งสายตายิ้มหวานให้สุชารัตน์“แล้วพบกันใหม่นะคะคุณแม่” หล่อนพูดแล้วยิ้มก่อนเดินสะบัดออกไป สุชารัตน์ได้แต่จิกหางตามองนางแบบสาวจนเดินออกจากห้องไป
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 3วันรุ่งเช้าอากาศที่แจ่มใส ทว่าคนที่ลุกจากที่เตียงนอนนั้นไม่ได้แจ่มใสด้วยเลย เกือบตลอดทั้งคืนชาลิสาแทบข่มตาหลับไม่ลง คิดแต่เรื่องงานแต่งงานที่ไม่พร้อมที่จะแต่งงานในตอนนี้หญิงสาวเดินเข้าห้องน้ำไปก่อนประตูจะถูกปิดลง สายน้ำจากฝักบัวที่รดลงมายังร่างกาย ก่อนจะหลับตาลงเพื่อทบทวนเรื่องของเมื่อวานนี่เธอต้องทำเพื่อครอบครัวจริง ๆ หรือนี่เวลาผ่านไปไม่นานชาลิสาเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร โดยมีผู้เป็นบิดาแล้วมารดานั่งรอเธออยู่ก่อนแล้ว เก้าอี้ถูกลากออกมาอย่างพอดี ก่อนที่จะนั่งลง“ขอโทษค่ะ ที่ตื่นสายไปหน่อย”“ไม่เป็นไรหรอก พ่อกับแม่ก็เพิ่งลงมาเหมือนกัน” ชาลิสายิ้มตอบกลับ ก่อนจะเริ่มตักโจ๊กกินอย่างเงียบๆ“เย็นนี้ลูกว่างไหม” ชลรินดาถามขึ้นคนฟังเมื่อฟังก็เงยหน้ามองอย่างสงสัย “มีอะไรหรือคะ”“คือ...คุณสหรัฐเขามานัดดูตัวหนูกับลูกชายเขาน่ะ แม่ก็อยากจะถามลูกว่าว่างไหม ถ้าไม่ว่างแม่จะโทรไปเลื่อนให้”ชลรินดามองลูกสาวที่เริ่มมีสีหน้าลำบากใจ“เอ่อ...ถ้าลูกไม่สบายใจไม่อยากไป แม่ก็จะ...”“ไปค่ะ ลิสาว่าง แล้วเย็นนี้ตอนกี่โมงคะ” ชาลิสาตอบ ในเมื่อจะต้องแต่งงานกัน เธอก็อยากจะ