LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาส
Chapter 1 รถยนต์คันหรูหยุดจอดลงใต้ชายคาบ้านหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่สีขาว ประตูรถถูกเปิดออกพร้อมกับปรากฏร่างระหงที่ก้าวเท้าออกมา หญิงสาวหยุดอยู่สักพักเพื่อมองก่อนจะเดินเข้าบ้าน สายตาคู่สวยมองไปยังสิ่งที่ยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน นานแล้วที่จากที่นี่ไป สี่ปีนับตั้งแต่เธอเรียนจบมัธยมหก ก็ตัดสินใจไปเรียนเมืองนอกทันที ชาลิสาเดินขึ้นบันไดมายังหน้าห้องนอน สายตาจ้องมองไปยังกรอบรูปบนโต๊ะขณะสาวเท้าเดินไป รูปในอดีตเด็กสาวร่างอ้วนท้วมถ่ายภาพคู่กับบิดา ใช่แล้ว... นั่นเป็นเพียงอดีต เด็กสาวในภาพคืออดีตเมื่อหกปีก่อน หลังจากที่ถูกรุ่นพี่ปฏิเสธอย่างเยือกเย็น เธอไม่เคยลืมเขา ผู้ชายที่ไร้หัวใจคนนั้น ทั้งที่หลายปีผ่านมาก็พยายามที่จะลืมแล้วก็ตาม แต่สุดท้ายก็ได้แต่หลอกตัวเองว่าเธอลืมเขาแล้วจริง ๆ สายตาหยุดจ้องมองของสิ่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนตู้โชว์ขนาดกลาง ขวดคุกกี้ที่เธอเคยให้ใครบางคน ใครคนนั้นที่ไม่เคยเห็นค่าแม้แต่น้อย มือเรียวเอื้อมหยิบขวดคุกกี้ขึ้นมามองด้วยความเจ็บปวดก่อนจะวางลงที่เดิม ถึงแม้คุกกี้จะถูกเททิ้งไปแล้ว แต่เธอก็ยังอยากจะเก็บขวดแก้วไว้เพื่อเตือนใจเธอ ทั้งที่รู้ว่ายังคงลืมเขาไม่ได้ ก๊อกๆ ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับประตูถูกเปิดออก ปรากฏร่างหญิงวัยกลางคนร่างอวบเดินเข้ามาหา “คุณหนูคะ คุณหญิงท่านให้มาตามคุณหนูไปพบค่ะ” แม่นมพูดก่อนเดินออกจากห้องไป ชาลิสาได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินตามลงไป “แม่ว่าอะไรนะคะ !” หญิงสาวอุทานออกมาเสียงดันด้วยความตกใจพลางลุกขึ้นจากโซฟา เมื่อได้ยินแม่เลี้ยงพูดออกมา “ใช่แล้ว แม่ขอโทษ” ชลรินดา ผู้เป็นแม่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด มองไปยังลูกเลี้ยงของเธอ เธอเองก็เป็นหญิงที่ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ เนื่องจากมีปัญหาทางด้านมดลูก ดังนั้นเธอรักชาลิสาเหมือนกับเป็นบุตรแท้ แต่เพราะว่า ในเวลานี้ครอบครัวก็เกือบล้มละลายดีที่ สหรัฐผู้เป็นเพื่อนของสามีได้ยื่นข้อเสนอให้ โดยการยกบุตรสาวให้แต่งงานกับบุตรชายของเขา “หมายความว่ายังไง จะให้ลิสาแต่งงานกับลูกชายคุณสหรัฐ เพื่อรักษาธุรกิจเอาไว้” เธอแทบทรุดทั้งยืน จะให้เธอแต่งงานกับคนที่เธอไม่รักเพื่อธุรกิจของครอบครัว “แม่ขอโทษ แต่พ่อของลูกเล่นหุ้นผิดจนเกือบล้มละลาย ดีที่คุณสหรัฐเพื่อนของคุณพ่อยื่นมือเข้ามาช่วย” ผู้เป็นแม่กล่าวบอก แต่ชาลิสาถึงกับยืนอึ้งตัวเธอแทบชาไปทั้งตัว “ไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือคะ ทำไมต้องให้แต่งงาน เราผ่อนผันกับเขาก็ได้นี่คะ” เธอถามแสดงความคิดเห็นพร้อมค่อยๆ นั่งลงอีกครั้ง “คือพ่อของลูกคุยแล้วแต่ทางนั้นเขาไม่ยอม” ชลรินดาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า “ทำไมล่ะคะ” “ช่วยเถอะนะ ตอนนี้พ่อเครียดอยู่ ถ้าอาการกำเริบจะไม่ดีนะ” ชาลิสานั่งเงียบอยู่นานเพื่อใช้เวลาตัดสินใจ “ตกลงค่ะ ถ้าทำเพื่อคุณพ่อ” เธอไม่อยากจะให้บิดาลำบากใจ ยิ่งถ้าแล้วบิดาเธอมีอาการเป็นโรคหัวใจล้มเหลวอยู่ เธอยังไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นลูกอกตัญญู “ขอบคุณนะจ๊ะลูกแม่ เดี๋ยวแม่จะไปหาพ่อก่อน ลูกไปพักผ่อนเถอะ” ชลรินดาพูดจบแล้วลุกเดินจากไป เหลือแต่เพียงชาลิสาที่นั่งปลงอยู่กับชีวิตของเธอ ชลรินดาเดินออกจากห้องรับแขกมาเพื่อไปหาสามีเธอที่อยู่ห้องทำงาน เธอเดินเปิดประตูเข้าไป พลางถอนหายใจอย่างสงสารชาลิสาที่ต้องมารับหน้าที่และภาระของครอบครัว สามีของเธอที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะทำงานค่อยเงยหน้าขึ้นมามองผู้เป็นภรรยา “คุณคะ แบบนี้จะดีเหรอคะ ฉันสงสารลูกนะคะ” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด “ผมเข้าใจ แต่มันไม่มีทางเลือก...” เขาวางมือจากงานแล้วเดินเข้ามาโอบไหล่ของผู้เป็นภรรยา สีหน้าของผู้เป็นภรรยาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “แต่ว่า...” “เชื่อผม ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น” ผู้เป็นสามีพูดปลอบให้กำลังใจ เขารู้ดีว่าชลรินดาถึงแม้ไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิดของชาลิสา แต่เธอก็ยังรักชาลิสาเหมือนลูกสาวแท้ๆ หลายปีมานี้จิตใจเขาดีขึ้นหลังจากภรรยาคนเก่าเสียชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เขาแทบเหมือนคนที่ไร้วิญญาณ จนกระทั่งเขามาพบกับชลรินดา เธอเป็นผู้หญิงที่สดใสคนหนึ่ง เขาและเธอใช้เวลาศึกษากันและกันจนกระทั่งตกลงใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน “ฉันหวังว่าจะเป็นอย่างที่คุณพูดค่ะ” เธอพูดแล้วซบลงในอ้อมอกของเขาที่ยังอบอุ่นไม่เคยเปลี่ยน บรรยากาศภายในห้องประชุมโรงแรงระดับห้าดาวแห่งหนึ่งใจกลางเมือง อัดแน่นเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด พนักงานทุกคนต่างนั่งนิ่งเงียบ “ทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น !” ชายหนุ่มตวาดอย่างโมโห คนในห้องประชุมต่างพากันก้มหน้าไม่กล้าตอบด้วยความกลัว “ฉันถามทำไมไม่มีใครตอบ !” “ เอ่อ เป็นความผิดพลาดของฉันเองค่ะ ที่ไม่ตรวจสอบให้ละเอียด” หญิงสาวพนักงานฝ่ายบัญชีเงยหน้าขึ้นมาพูด แต่เธอก็ต้องก้มหน้าลง เพราะสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธได้จ้องมองมาที่เธอ “ทำงานสะเพร่าแบบนี้ คุณว่าผมควรจะจ้างงานคุณอีกอย่างงั้นเหรอ ! คุณควรพิจารณาตัวเองใหม่ได้แล้วคุณพัชนิญา” เสียงชายหนุ่มพูดออกมาอย่างเยือกเย็น เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปจากห้องประชุมด้วยอารมณ์หงุดหงิด เจ้าของชื่อที่ฟังได้แต่นิ่งเงียบกลั้นน้ำตาไว้ ภูวดลทิ้งตัวลงเก้าอี้อย่างอ่อนล้า หลังจากที่เขาเดินออกจากห้องประชุมด้วยความโมโห เพราะความไม่รอบคอบของพนักงาน ทำให้ยอดเงินในเดือนนี้ของโรงแรมเขาขาดทุนเกือบสิบล้าน นับตั้งแต่เขามาบริหารการแทนบิดาเมื่อสามปีก่อนไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ โรงแรมของเขาไม่เคยขาดทุนเว้นแต่จะมีพวกยักยอกเงิน ชายหนุ่มคิดและยิ้มอย่างมีเล่ห์ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาใครบางคน เพื่อเช็คเรื่องบางอย่างที่เขาอยากรู้ ภูวดลวางโทรศัพท์ลงทันทีที่คุยเสร็จ ก่อนก้มหน้าอ่านเอกสารต่อ เสียงประตูถูกปิดลงพร้อมร่างหญิงสาวร่างอรชรที่เดินเข้ามาหาเขาในชุดเกาะอกสีแดง เผยให้เห็นอกอวบขาวที่ล้นออกมาจากชุดสวย พิมพ์ดาราเดินเข้ามาหาเขาและนั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน ก่อนโน้มตัวลงมาเพื่อมองชายหนุ่ม ชายหนุ่มละสายตาจากเอกสารที่เขาทำอยู่ขึ้นมามองเธอ ร่องอกของหญิงสาวพยายามจะให้เขาเห็นเพื่อยั่วยวน เขามองเธอพร้อมลุกเดินมาหาเธอ หญิงสาวยันกายขึ้นแล้วหันมาหาชายหนุ่ม “คิดถึงจังค่ะ ที่รัก” พิมพ์ดาราพูดพร้อมยกมือลูบใบหน้าเข้ม ภูวดลจับมือของเธอลงและดึงเข้ามาจูบ ลิ้นหนาของเขาตวัดและบดจูบอย่างเร้าร้อน เธอเองก็จูบตอบเขาเช่นกัน มือเรียว ๆ ค่อยเอื้อมไปโอบไหล่ ก่อนที่แผ่นหลังของเธอจะถูกดันลงแนบกับโต๊ะทำงานเขา มือหนาเลื่อนไปตามขาเรียวยาวที่นวลไร้ที่ติเพื่อปลุกเร้าเธอ ก่อนจะค่อยลูบเข้าไปข้างในเนื้อกลีบกุหลาบ ปลายนิ้วเรียวยาวของเขาทำหน้าที่ปลุกอารมณ์หล่อนมากขึ้นเข้าไปอีก ชายหนุ่มสลัดชุดเกาะอกสีแดงออกแล้วโยนร่วงลงไปอยู่ที่พื้น “อืม” เสียงหวานเซ็กซี่ครางออกมาเบา ๆ ปลุกอารมณ์ดิบของเขา เขาจ้องมองใบหน้าของพิมพ์ดาราที่เซ็กซี่ ก่อนจะอุ้มเธอไปไว้ที่โซฟาทั้งที่ปากของเธอและเขายังจูบกันดูดดื่ม “ฉัน...อยากได้คุณนะคะ” เสียงหวานกระเส่าของเธอเชิญเขา ภูวดลตอบรับโดยการถอดกางเกงออก ก่อนจะพรมจูบไปที่ท้องแบนราบของเธอ เสียงครางหวานครางตอบรับเขาเป็นอย่างดี ขาเรียวสวยถูกจับแยกออกและยกขึ้น ก่อนแทรกความแข็งแกร่งเข้าหาเธอทันที ชายหนุ่มเริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้นจนคนที่อยู่ใต้ก็แอนสะบั้นรับเขาอย่างชำนาญ เสียงของเธอและเขาครางกระเส่าออกมา เมื่อเขาและเธอใกล้ถึงจุดสุดยอด ชายหนุ่มขยับตัวออกจากหล่อนเพื่อหลั่งข้างนอกทันที เสียงหายใจหอบของเขาและเธอดังขึ้น ชายหนุ่มลุกขึ้นแล้วหยิบเสื้อผ้าที่กระจายอยู่สวมใส่ก่อนหันมาหาหญิงสาวที่นอนอยู่บนโซฟา “ลุกขึ้นแล้วใส่เสื้อผ้าซะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานเช่นเดิม พิมพ์ดาราได้แต่มองเขาด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาแต่ว่าประตูถูกเปิดเข้ามาซะก่อน เสียงเปิดประตูพร้อมกับปรากฏร่างหญิงสาวสูงวัยเดินเข้ามา แต่แล้วก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นร่างอรชรเปล่าเปลือยยืนอยู่มองมาที่เธอด้วยความตกใจไม่แพ้กัน เธอจึงรีบสวมใส่เดรสของเธอโดยเร็ว “คุณแม่ !” ภูวดลมีสีหน้าตกใจ “นี่มันอะไรกัน ตาดล !” ผู้เป็นแม่เอ่ยถามด้วยความโกรธ “เอ่อ...” ชายหนุ่มอ้ำอึ้งตอบไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าแม่จะมา เขาเดินไปหาแต่ต้องหยุดชะงักลงอยู่ข้างหล่อน “เอานังผู้หญิงคนนี้ออกไป !”LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 2“เอานังผู้หญิงคนนี้ออกไป !” สุชารัตน์พูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามระงับความโกรธ พลางส่งสายตาจิกไปหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างลูกชาย“น่าอาย ฮึ โรงแรมฉันไม่ใช่ที่หล่อนควรจะมา ถึงหล่อนจะเป็นนางแบบ หล่อนเองก็ไม่ต่างจาก...ผู้ดีเข้าไม่ทำกันหรอก !”“ว่าแต่ลูกชายของคุณแม่ก็ชอบด้วยสิคะ” พิมพ์ดาราตอบพร้อมยิ้มหวานกลับมาพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ภูวดลเพื่อควงแขนของเขา ก่อนจะพูดต่อไปว่า “ว่าแต่เพิ่งจะรู้นะคะ ว่าผู้ดีเขาพูดกันอย่างนี้” เธอพูดแล้วยิ้มเย้ยหยันให้ สุชารัตน์เมื่อเห็นสีหน้าของเธอเดิมที่เต็มไปด้วยความโกรธอยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปใหญ่“นังคนชั้นต่ำ ! ออกไปเดี๋ยวนี้”“คุณแม่ขา ผู้ดีค่ะ อย่าทำสันดานเหมือนคนชั้นต่ำแบบหนูสิคะ” เธอตอบกลับ แววตาของหล่อนเต็มไปด้วยความเหยียดหยามคนตรงหน้า“ออกไปก่อน ลูซี่” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ ๆ เมื่อรู้ว่าถ้าเธออยู่ต่อวันนี้คงไม่จบเท่านี้แน่ แต่คนข้างกายเขามองด้วยแววตาที่ไม่พอใจ ก่อนจะเดินออกไปโดยส่งสายตายิ้มหวานให้สุชารัตน์“แล้วพบกันใหม่นะคะคุณแม่” หล่อนพูดแล้วยิ้มก่อนเดินสะบัดออกไป สุชารัตน์ได้แต่จิกหางตามองนางแบบสาวจนเดินออกจากห้องไป
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 3วันรุ่งเช้าอากาศที่แจ่มใส ทว่าคนที่ลุกจากที่เตียงนอนนั้นไม่ได้แจ่มใสด้วยเลย เกือบตลอดทั้งคืนชาลิสาแทบข่มตาหลับไม่ลง คิดแต่เรื่องงานแต่งงานที่ไม่พร้อมที่จะแต่งงานในตอนนี้หญิงสาวเดินเข้าห้องน้ำไปก่อนประตูจะถูกปิดลง สายน้ำจากฝักบัวที่รดลงมายังร่างกาย ก่อนจะหลับตาลงเพื่อทบทวนเรื่องของเมื่อวานนี่เธอต้องทำเพื่อครอบครัวจริง ๆ หรือนี่เวลาผ่านไปไม่นานชาลิสาเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร โดยมีผู้เป็นบิดาแล้วมารดานั่งรอเธออยู่ก่อนแล้ว เก้าอี้ถูกลากออกมาอย่างพอดี ก่อนที่จะนั่งลง“ขอโทษค่ะ ที่ตื่นสายไปหน่อย”“ไม่เป็นไรหรอก พ่อกับแม่ก็เพิ่งลงมาเหมือนกัน” ชาลิสายิ้มตอบกลับ ก่อนจะเริ่มตักโจ๊กกินอย่างเงียบๆ“เย็นนี้ลูกว่างไหม” ชลรินดาถามขึ้นคนฟังเมื่อฟังก็เงยหน้ามองอย่างสงสัย “มีอะไรหรือคะ”“คือ...คุณสหรัฐเขามานัดดูตัวหนูกับลูกชายเขาน่ะ แม่ก็อยากจะถามลูกว่าว่างไหม ถ้าไม่ว่างแม่จะโทรไปเลื่อนให้”ชลรินดามองลูกสาวที่เริ่มมีสีหน้าลำบากใจ“เอ่อ...ถ้าลูกไม่สบายใจไม่อยากไป แม่ก็จะ...”“ไปค่ะ ลิสาว่าง แล้วเย็นนี้ตอนกี่โมงคะ” ชาลิสาตอบ ในเมื่อจะต้องแต่งงานกัน เธอก็อยากจะ
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 4รุ่นพี่ !“ตาดลทำไมมาช้า ปล่อยให้พ่อกับแม่ต้องรอ” สุชารัตน์พูดตำหนิลูกชายอย่างเสียอารมณ์“ไหน ๆ ก็มาแล้วสั่งอาหารเถอะ” สหรัฐพูดพร้อมหยิบเมนูขึ้นมาดู“จริงสิตาดล มาทำความรู้จักกับน้องลิสาเขาสิ อีกหน่อยจะต้องแต่งงานกันแล้วนะ” สุชารัตน์แนะนำ“สวัสดีครับ พี่ชื่อภูวดล เรียกว่าพี่ดลก็ได้ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยทัก พลางสำรวจใบหน้าสวยตรงหน้าเขาชาลิสาได้แต่ยิ้มตอบกลับแล้วหลบสายตา เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าของเธอมอง มือที่อยู่ใต้โต๊ะกำแน่นเพื่อเก็บซ่อนความรู้สึก“สวัสดีค่ะ พี่ดล” ชาลิสาพูดพร้อมยกมือขึ้นไหว้เพียงเวลาผ่านไปไม่นาน อาหารถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะ ชาลิสาได้แต่รับประทานอย่างนิ่งเงียบโดยไม่พูดไม่จา ซึ่งแตกต่างจากชายหนุ่มที่คุยสนิทสนมกับพ่อแม่ของเธอ แล้วเวลาแห่งความสุขก็หมดลงเมื่อมีเสียงหวานแทรกขึ้น ทุกคนต่างหยุดชะงักอย่างทันที“ที่รักคะ มาทานข้าวทำไมไม่ชวนลูซี่มาด้วย”สายตาของทุกคนเงยขึ้นไปจับจ้องต้นเสียง ร่างหญิงสาวอรชรอยู่ในชุดเกาะอกสี
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 5แสงอรุณยามเช้าสาดส่องเข้าทางหน้าต่าง ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงนอนด้วยความอ่อนล้า เดินเข้าห้องน้ำไปพลางบีบคอสะบัดเบา ๆ เวลาผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาทีประตูห้องน้ำเปิดออก เขาเดินมายังตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดใส่ไปทำงานในวันนี้ตู้เสื้อผ้าเรียงรายด้วยชุดทำงานเป็นแถวทางด้านขวามือของเขา ส่วนทางด้านซ้ายมือเป็นชุดสำหรับไปเวท ภูวดลเอื้อมมือไปหยิบชุดทำงานสีดำสนิท ก่อนจะเปิดตู้ด้านล่างเพื่อเลือกหยิบเนคไทภูวดลอยู่หน้ากระจกใส่ชุดสูทผูกไทอย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกจากห้อง ถึงแม้จะเป็นเวลาเช้าที่เขาจะต้องไปทำงาน แต่เมื่อคืนเขานั้นแทบจะนอนไม่หลับ เพราะเมื่อวานหลังจากที่เขากลับมาถึงบ้าน มารดาของเขาว่ากล่าวเขาอยู่นาน ที่ไปมีความสัมพันธ์กับพิมพ์ดาราหรือลูซี่ อีกทั้งยังเป็นการไม่ให้เกียรติเพื่อนของผู้เป็นบิดา ทำให้ต้องขายหน้าคนในร้านอาหารชายหนุ่มก้าวลงบันได ออกมาพร้อมกับกระเป๋าเอกสารที่ถืออยู่ในมือซ้าย เมื่อเขาเดินลงมาสุด เขายื่นกระเป๋าลงให้ลุงแช่มคนขับรถประจำบ้านเพื่อนำไปเก็บไว้ในรถของเขา“ตาดล จะไปทำงานเหรอ ไม่ทานข้าวเช้าก่อนล่ะ&
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 6ภายในบ้านของอธิพัฒน์เดชากร สุชารัตน์ที่กำลังนั่งดูทีวีในยามสายอยู่ต้องละสายตาแล้วหันไปมอง เสียงรถยนต์คันหรูที่แล่นเข้ามาแล้วหยุดจอดลงอย่างช้าๆ“นวลไปดูสิว่าใครมา” สุชารัตน์กล่าวแล้วหันกลับไปจดจ้องทีวีต่อ นวลเมื่อได้รับคำสั่งก็เดินออกไป แต่พบกับหญิงสาวร่างงามที่ยืนอยู่ตรงหน้า“อุ๊ย คุณผู้หญิงค่า นวลว่าไม่ต้องไปดูแล้วค่ะ” เมื่อได้ยินนวลพูดขึ้นสุชารัตน์จึงละสายตาจากทีวีแล้วลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะหันไปมอง“หนูลิสา”“สวัสดีค่ะคุณแม่” หญิงสาวเจ้าของร่างงามเดินมาหาก่อนจะยกมือไหว้ สุชารัตน์จึงยกมือไหว้รับตอบ“นั่งลงก่อนสิ มีอะไรถึงมาหาแม่” สุชารัตน์นั่งลง ชาลิสาจึงค่อยนั่งลงตาม พลางบีบน้ำตาออกมาเพื่อเรียกความสงสาร เมื่อสุชารัตน์เห็นจึงตกใจอย่างทันที“เป็นอะไรไปหนูสาร้องไห้ทำไม” สุชารัตน์ถามแล้วเขยิบเข้าไปเพื่อที่จะปลอบ มือที่เหี่ยวย่นได้เอื้อมเข้าไปกุมมือเรียวของเธอ“พี่ดลคะ” ชาลิสาพูดแล้วเอียงตัวเข้าไปซุกในอ้อมกอดของสุชารัตน์ก
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 7“ฉันไม่ไป ฉันจะฟ้องคุณแม่ !” เธอขู่ฟ่อ เมื่อคนฟังได้ยินก็ยิ้มออกมาอย่างทันที ชาลิสามองรอยยิ้มของเขาอย่างนึกขึ้นกลัวมาทันที“เชิญครับ แต่กว่าคุณจะได้ฟ้องแม่ บางทีเราสองคน...” เขาโน้มตัวใกล้ๆ ที่ต้นคอ พูดขู่เธอต่อไปว่า “อาจจะมีหลานให้ท่านวันนี้เลยก็ได้นะครับ” เธอดันอกเขาออกห่างทันที แล้วมองด้วยสายตาที่โกรธเมื่อได้ยินจากปากของเขา“นั่นมันความคิดสกปรกของคุณ ไม่ใช่ของฉัน !” ภูวดลสำรวจใบหน้าสวยแล้วยิ้มกว้างออกมา เขาจะยอมเธอก็ตอนนี้เท่านั้นแหละ แต่หลังจากแต่งงานแล้ว เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรมาเล่นกับไฟอย่างเขา“ขึ้นรถดีกว่าไหมครับ หรือถ้าคุณไม่ขึ้นผมจะอุ้มเข้าบ้านคุณแทนนะ” เมื่อได้ยินก็ค้อนเขาอย่างทันที เขาพูดจาไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิดภูวดลมองสายตาคู่หวานของคนตรงหน้าที่มีสีหน้าลังเล เธอมองเขาอย่างโกรธ แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจพลางส่งสายตาให้เธอประมาณว่า ขึ้นรถซะชาลิสามองเขาด้วยความขุ่นเคือง สุดท้ายเธอก็ต้องยอมจำใจขึ้นรถของเขาไป ชายหนุ่มลอบยิ้มออกมาอย่างพอใจแล้วเดิ
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 8“ข้อตกลงอะไรคะ ?”“หลังจากคุณแต่งงานกับผมแล้ว ภายในหนึ่งปีเราจะหย่ากัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมิน ชาลิสาเมื่อได้ยินก็ช็อก นิ้วเรียวสวยของเธอค่อยกำแน่นเพื่อเก็บอารมณ์ไม่ให้เขารู้“ผมแค่ต้องการอิสระ และอีกอย่างคุณกับผมเราไม่ได้รักกัน”ชาลิสาได้แต่ก้มหน้านิ่งเงียบ เขาจะรู้ไหมนะที่เขาพูดมาทั้งหมดเธออยากจะร้องไห้ออกมาซะตรงนี้เลย ทำไมล่ะเธอไม่คู่ควรที่จะได้รับความรักจากเขางั้นเหรอ“ค่ะ ฉันทราบเรื่องนี้ดี ฉันเองก็อยากจะเป็นอิสระเหมือนกัน แต่ว่าแม่ของคุณ...” เธอข่มเสียงตอบกลับไป พลางหลบสายตาของเขา“เรื่องแม่ของผม ผมจะจัดการเอง ส่วนคุณเมื่อถึงเวลาก็ช่วยรักษาสัญญาด้วย” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง จนเธอรู้สึกเจ็บปวด แต่งงานเพราะความจำเป็น แต่หนึ่งปีเขาไม่คิดที่จะรักเธอบ้างเลยอย่างงั้นหรือ“ตกลงค่ะ เพราะว่าฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ต่อ” ในเมื่อเธอไม่เคยอยู่ในสายตาเขาแต่แรก ได้เพียงแค่พูดต่อในใจ แต่ไม่กล้าที่จะพูดต่อออกไป“ดี
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 9หลังจากที่ตอบปฏิเสธภูวดลไปเธอก็นั่งอ่านเอกสารที่ถูกนำมายื่นให้ เพื่อให้เธอเข้าใจถึงแผนการทำงานของแผนก โดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มเมื่อได้รับคำตอบแล้วจะรู้สึกโมโหหรืออย่างไร เธอไม่จำเป็นต้องใส่ใจเขา ทั้งที่เขาไม่เคยใส่ใจเธอเลยสักนิดสายตาของชาลิสาค่อยไล่อ่านเอกสารและยอดจำนวนผู้เข้าพักโรงแรมอย่างละเอียดแล้วย้อนกลับไปอ่านใหม่อีกครั้ง แต่ต้องสะดุดลงเมื่อยอดบัญชีของเดือนที่แล้วลดลงกว่าทุกครั้ง อีกทั้งตลอดเกือบเดือนนี้ก็ลดลงกว่าเดือนที่แล้วอีกเช่นกัน ทั้งที่นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ใช้บริการในโรงแรมที่เธอเห็นเมื่อช่วงเช้าและเที่ยงก็เยอะพอสมควร แต่ทำไมยอดถึงน้อยลงชาลิสาเดินออกจากห้องทำงานของแผนกมายังห้องเก็บเอกสารทั้งหมด แต่กว่าจะใช้เวลาเดินมาถึงก็นานเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะต้องถามคนโน้นคนนี้ทีกว่าจะมาถึงภายในห้องเก็บเอกสารที่มีตู้ใส่เอกสารเรียงรายนับสิบตู้ เอกสารทั้งหมดถูกจัดแบ่งเป็นหมวด ๆ ทั้งหมวดการตลาด และบัญชี และอีกหลาย หมวดสายตาของเธอมองไปยังภายในห้องเอกสารที่ถูกจัดเรียงอย่างมีระเบียบ ตามเดือนและปีบนชั้นวางขนาดสูงและใหญ