LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาส
Chapter 2 “เอานังผู้หญิงคนนี้ออกไป !” สุชารัตน์พูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามระงับความโกรธ พลางส่งสายตาจิกไปหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างลูกชาย “น่าอาย ฮึ โรงแรมฉันไม่ใช่ที่หล่อนควรจะมา ถึงหล่อนจะเป็นนางแบบ หล่อนเองก็ไม่ต่างจาก...ผู้ดีเข้าไม่ทำกันหรอก !” “ว่าแต่ลูกชายของคุณแม่ก็ชอบด้วยสิคะ” พิมพ์ดาราตอบพร้อมยิ้มหวานกลับมาพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ภูวดลเพื่อควงแขนของเขา ก่อนจะพูดต่อไปว่า “ว่าแต่เพิ่งจะรู้นะคะ ว่าผู้ดีเขาพูดกันอย่างนี้” เธอพูดแล้วยิ้มเย้ยหยันให้ สุชารัตน์เมื่อเห็นสีหน้าของเธอเดิมที่เต็มไปด้วยความโกรธอยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ “นังคนชั้นต่ำ ! ออกไปเดี๋ยวนี้” “คุณแม่ขา ผู้ดีค่ะ อย่าทำสันดานเหมือนคนชั้นต่ำแบบหนูสิคะ” เธอตอบกลับ แววตาของหล่อนเต็มไปด้วยความเหยียดหยามคนตรงหน้า “ออกไปก่อน ลูซี่” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ ๆ เมื่อรู้ว่าถ้าเธออยู่ต่อวันนี้คงไม่จบเท่านี้แน่ แต่คนข้างกายเขามองด้วยแววตาที่ไม่พอใจ ก่อนจะเดินออกไปโดยส่งสายตายิ้มหวานให้สุชารัตน์ “แล้วพบกันใหม่นะคะคุณแม่” หล่อนพูดแล้วยิ้มก่อนเดินสะบัดออกไป สุชารัตน์ได้แต่จิกหางตามองนางแบบสาวจนเดินออกจากห้องไป แล้วหันมามองลูกชายของเธอด้วยสีหน้าที่โกรธจัด “ตาดล !” “คุณแม่ครับ นั่งก่อนแล้วค่อย ๆ พูดก็ได้ครับ” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อนและส่งสายตาหวานมาให้ผู้เป็นแม่ “ไม่นงไม่นั่ง แล้วอย่ามาทำสายตาแบบนี้ด้วย เหมือนพ่อแก่ไม่มีผิด” สุชารัตน์ยืนด่าว่าลูกชายของเธอ ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจออกมา อย่างทุกครั้งที่โดนกล่าวว่าและพานถึงบิดาทุกครั้ง “โธ่ แม่ครับ ก็แค่ระบายอารมณ์น่ะครับ ไม่มีอะไรหรอก” ภูวดลกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆ แต่คนเป็นแม่หันมามองทันที “ฮึ! รอเอาไว้แกมีเมียเมื่อไร แกจะรู้” คนเป็นแม่กล่าวแล้วหันหน้าหนี ใช้ผู้หญิงเป็นที่ระบายอารมณ์มีที่ไหนกัน “ไม่ต้องรอหรอกคุณ” เสียงที่แทรกขึ้นมาพร้อมกับชายหนุ่มรุ่นใหญ่ ใบหน้าถึงแม้จะมีรอยเหี่ยวย่นตามอายุ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อลดน้อยลง “คุณ//พ่อ” “คุณมาที่นี่ทำไม ไหนบอกว่าไม่สบาย” สุชารัตน์ถาม เธอมองใบหน้าผู้เป็นสามีที่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “มาบอกข่าวดีให้คุณ” สหรัฐผู้เป็นสามีพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ก่อนจะเดินเข้าไปหาลูกชายของเขาพร้อมนั่งลงที่โซฟาแล้วพูดขึ้นว่า “แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับแก เจ้าดล !” “ข่าวอะไรครับ” ภูวดลถามแล้วมองใบหน้าของผู้เป็นบิดาที่มีรอยยิ้มผิดปกติพลางสงสัยในใจ เรื่องอะไรที่ทำให้ถึงกับต้องมาเอง “นั่นสิ ข่าวดีอะไรของคุณ ทำไมไม่ไปพูดกันที่บ้าน” “งานแต่งงานของแกไง เจ้าดล” สหรัฐพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆ แต่คนฟังทั้งสองคนเมื่อได้ยินก็ตกใจไม่ต่างกัน “แต่งงาน !” ชายหนุ่มร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ พลางมองสีหน้าของผู้เป็นบิดาที่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แต่ใบหน้าของเขากับแสดงความโกธรออกมาทันที “หมายความว่า หนูลิสา...” ผู้เป็นภรรยาเอ่ยขึ้น มองหน้าสามี “ใช่หนูลิสาเพิ่งกลับมา ตามที่เราตกลงกันไว้...” “ตกลงอะไรกันครับ ? แล้วทำไมต้องให้ผมแต่งงานด้วย !” ชายหนุ่มแทรกถามขึ้นทันที “คุณอทิตยวัฒน์เพื่อนของพ่อ สมัยยังหนุ่มเขาเกือบล้มละลายเพราะถูกหลอกเล่นหุ้นเมื่อเดือนก่อน พ่อเห็นเขาเดือดร้อนก็เลยยื่นมือเข้าไปช่วย” สหรัฐพูดไปพลางเดินมานั่งที่โซฟาโดยมีสุชารัตน์และภูวดลนั่งลงด้วย “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม” ภูวลดถามพลางมองอย่างไม่เข้าใจ “ก็ข้อตกลงระหว่างการช่วยเหลือนะ เขายกลูกสาวให้แต่งงานกับเรา” สุชารัตน์พูดเสริม ชายหนุ่มเมื่อได้ยินแล้วก็ถามขึ้นอย่างโมโหทันที “เอาลูกสาวตัวเองแลกกับเงิน ฮึ !” ชายหนุ่มพูดแล้วยิ้มออกมา ใจคิดเพียงว่าผู้หญิงที่เขาจะแต่งงานก็ไม่ต่างจากหญิงขายตัวที่เอาเงินแลกมา “อย่าคิดในทางที่เสียหายกับหนูลิสาเขาแบบนั้น แม่กับพ่อเป็นคนขอเอง” สุชารัตน์กล่าวดักความคิดของบุตรชาย “เอาล่ะ พ่อก็มาบอกเราเท่านี้ งั้นเดี๋ยวพ่อไปซื้อของข้างนอกก่อน” สหรัฐพูดบอกลาแล้วลุกขึ้นจากโซฟาหันเดินออกไป “ผมไม่แต่ง !” ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างทันที ผู้เป็นบิดาหันหลังกลับมามองบุตรชาย “แกกล้าปฏิเสธคำสั่งฉันหรือไง เจ้าดล !” ผู้เป็นบิดาพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาดแล้วเดินออกจากห้องไป สุชารัตน์มองหน้าของผู้เป็นลูกชายที่มีสีหน้าไม่พอใจแล้วเดินตามออกไป เหลือเพียงแต่ชายหนุ่มที่ยืนนิ่งด้วยความโกรธ ฮึ ! ในเมื่ออยากแต่งนักฉันก็จะสงเคราะห์ให้ แสงอาทิตย์เริ่มตกดิน ชายหนุ่มละสายตาจากแฟ้มงานบนโต๊ะก่อนจะทิ้งตัวลงเพื่อพิงเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า เขาเหลือบมองนาฬิกาบนโต๊ะทำงานที่บอกเวลา ตลอดเวลาทั้งวันนั่งแต่ทำหน้าเครียดเรื่องที่จะต้องแต่งงานจนไม่เป็นทำงาน ถึงเวลาแล้วที่ควรจะผ่อนคลายซะบ้าง ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินออกจากห้องไปทันที “คุณดลจะกลับแล้วหรือคะ” ชนาภาเลขาส่วนตัวของภูวดลเอ่ยทักขึ้น เมื่อเห็นเจ้านายของเธอเลิกงานเร็วผิดปกติ “ผมอยากจะออกไปผ่อนคลายซะหน่อย ถ้าคุณกลับผมฝากเก็บเอกสารบนโต๊ะด้วยละกัน” ชายหนุ่มพูดแล้วเดินจากไป ชนาภาได้แต่มองเจ้านายจนลับสายตาไป เธอส่ายหน้ามองเจ้านายแล้วถอนหายใจออกมาและคิดอย่างเห็นใจ เสียงเพลงที่เปิดดังสนั่นก้องไปทั่วผับในย่านตัวเมืองแห่งหนึ่ง ร่างเย้ายวนและร่างสูงใหญ่ของหญิงและชายที่สะบัดสะโพกเต้นกันอย่างเมามัน ภูวลดเดินเข้ามาในร้านสายตาของหญิงสาวมากมายจ้องมาทางเขา เขาหันหน้าหนีอย่างรำคาญพลางกวาดสายตามองหาใครบางคน ทางโต๊ะริมมุมด้านขวา ก่อนจะเดินเข้าไปหา ชายหนุ่มลูกครึ่งดวงตาสีนิลนั่งจิบไวน์อยู่พร้อมกับแขนอีกข้างได้โอบกอดสาวสวยไว้ พลางส่งสายตาเหลือบมองเพื่อนที่กำลังเดินมาพอดี “ดล !” แพทริก เชสเฟเดส เขายืนขึ้นเพื่อต้อนรับ ภูวดลเดินเข้ามานั่งที่โซฟาเงียบๆ ชายหนุ่มลูกครึ่งมองสีหน้าของเพื่อนที่ไม่ค่อยสบอารมณ์จึงเอ่ยถาม“นายเป็นอะไรมา ทำไมทำหน้าอย่างกับคนเบื่อชีวิต” หญิงสาวบริการเดินเข้ามานั่งข้างเขาก่อนที่จะเข้าไปซบไหล่ แต่เขากลับผลักออกอย่างไม่สนใจ หล่อนจึงมองหน้าด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเดินลุกจากโต๊ะ เดินไปรับแขกรายอื่น ภูวดลนั่งนิ่งเงียบไม่ตอบ เอื้อมมือหยิบแก้วเบียร์ขึ้นดื่มจนหมด ก่อนจะเติมเพิ่มแล้วดื่มเข้าไป แพทริกได้แต่มองอย่างงงๆ “มีเรื่องอะไร ทำไมเอาแต่ดื่มแบบนี้ อย่าบอกนะว่านายอกหัก” คนถูกถามมองหน้าอย่างทันที ถ้าถูกหักอกไม่มานั่งดื่มอย่างนี้หรอก “อย่ารู้เลยจะดีกว่า ฉันไม่อยากพูดถึงมันสักเท่าไหร่” ภูวดลพูดแล้วยกขึ้นดื่ม ด้วยความเสียอารมณ์ “ขนาดนั้นเลยหรือ นายทำท่าอย่างกับว่ากำลังจะมีเมียอย่างงั้นแหละ” แพทริกพูดขึ้นอย่างลอย ๆ แต่คนฟังถึงกับวางแก้วอย่างทันที เขารู้ว่าภูวดลเป็นพวกหวงความโสด นับตั้งแต่เขารู้จักภูวดลแค่ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแฟนเป็นตัวเป็นตนยังไม่มีเลยจะมีก็แต่คู่นอนเท่านั้น “ก็เออสิ !” ภูวดลพูดออกมาทันที ภูวดลกำลังจะแต่งงาน ! แพทริกเมื่อได้ยินภูวดลเอ่ยตอบกลับมาเขาก็หัวเราะออกมาอย่างทันที “ไปทำใครท้องเอาไว้ล่ะ” “บ้าหรือไง ฉันจะไปทำใครท้องให้เดือดร้อนตัวเองทำไม” ชายหนุ่มตอบกลับมาอย่างหัวเสีย “อ้าวแล้ว...” “ฉันถูกบังคับให้แต่งงานต่างหากล่ะ” คนฟังถึงกับอึ้งอย่างทันตา “ใครบังคับ?” “ก็จะใครซะอีก” แพทริกพยักหน้าเข้าใจความหมายอย่างทันที คงเป็นเพราะบิดาของภูวดลที่บังคับให้แต่ง แต่จะบังคับทำไมในเมื่อไม่มีเหตุให้บังคับ เว้นแต่อยากให้หยุดอยู่ที่เพียงผู้หญิงคนเดียว “พ่อกับแม่บอกว่าลูกหนี้ยกลูกสาวให้แต่งงานด้วย อีกอย่างลูกหนี้ที่ว่าเป็นเพื่อนของพ่อฉันเอง...” ภูวดลเล่าให้ฟัง คนฟังได้แต่ฟังแล้วยิ้มขำออกมา กรรมตามสนองแล้วล่ะมั้งงานนี้ “ฮึ แต่ถึงยังไงซะ คิดหรือว่าฉันจะยอมรับ” ภูวดลพูดขึ้น รอยยิ้มของเขาดูหน้ากลัว แพทริกได้แต่มองแล้วส่ายหน้าเพียงอย่างเดียว “แล้วนายจะทำยังไง ในเมื่อนายก็ต้องแต่งงานกับเธอคนนั้นอยู่ดีนั่นแหละ” คนถูกถามได้แต่เหยียดยิ้มออกมา “ในเมื่ออยากแต่ง ฉันก็จะแต่ง แต่ก็เป็นเพียงเมียที่กอดแต่ทะเบียนสมรสไว้เท่านั้นแหละ” แพทริกได้แต่ถอนหายใจออมา เขาสงสารผู้หญิงที่จะต้องแต่งงานกับภูวดลคงจะโชคร้ายที่สุดแน่ เพราะนอกจากจะไม่ได้รับความรักแล้วยังจะถูกเหยียดหยามอีกLOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 3วันรุ่งเช้าอากาศที่แจ่มใส ทว่าคนที่ลุกจากที่เตียงนอนนั้นไม่ได้แจ่มใสด้วยเลย เกือบตลอดทั้งคืนชาลิสาแทบข่มตาหลับไม่ลง คิดแต่เรื่องงานแต่งงานที่ไม่พร้อมที่จะแต่งงานในตอนนี้หญิงสาวเดินเข้าห้องน้ำไปก่อนประตูจะถูกปิดลง สายน้ำจากฝักบัวที่รดลงมายังร่างกาย ก่อนจะหลับตาลงเพื่อทบทวนเรื่องของเมื่อวานนี่เธอต้องทำเพื่อครอบครัวจริง ๆ หรือนี่เวลาผ่านไปไม่นานชาลิสาเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร โดยมีผู้เป็นบิดาแล้วมารดานั่งรอเธออยู่ก่อนแล้ว เก้าอี้ถูกลากออกมาอย่างพอดี ก่อนที่จะนั่งลง“ขอโทษค่ะ ที่ตื่นสายไปหน่อย”“ไม่เป็นไรหรอก พ่อกับแม่ก็เพิ่งลงมาเหมือนกัน” ชาลิสายิ้มตอบกลับ ก่อนจะเริ่มตักโจ๊กกินอย่างเงียบๆ“เย็นนี้ลูกว่างไหม” ชลรินดาถามขึ้นคนฟังเมื่อฟังก็เงยหน้ามองอย่างสงสัย “มีอะไรหรือคะ”“คือ...คุณสหรัฐเขามานัดดูตัวหนูกับลูกชายเขาน่ะ แม่ก็อยากจะถามลูกว่าว่างไหม ถ้าไม่ว่างแม่จะโทรไปเลื่อนให้”ชลรินดามองลูกสาวที่เริ่มมีสีหน้าลำบากใจ“เอ่อ...ถ้าลูกไม่สบายใจไม่อยากไป แม่ก็จะ...”“ไปค่ะ ลิสาว่าง แล้วเย็นนี้ตอนกี่โมงคะ” ชาลิสาตอบ ในเมื่อจะต้องแต่งงานกัน เธอก็อยากจะ
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 4รุ่นพี่ !“ตาดลทำไมมาช้า ปล่อยให้พ่อกับแม่ต้องรอ” สุชารัตน์พูดตำหนิลูกชายอย่างเสียอารมณ์“ไหน ๆ ก็มาแล้วสั่งอาหารเถอะ” สหรัฐพูดพร้อมหยิบเมนูขึ้นมาดู“จริงสิตาดล มาทำความรู้จักกับน้องลิสาเขาสิ อีกหน่อยจะต้องแต่งงานกันแล้วนะ” สุชารัตน์แนะนำ“สวัสดีครับ พี่ชื่อภูวดล เรียกว่าพี่ดลก็ได้ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยทัก พลางสำรวจใบหน้าสวยตรงหน้าเขาชาลิสาได้แต่ยิ้มตอบกลับแล้วหลบสายตา เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าของเธอมอง มือที่อยู่ใต้โต๊ะกำแน่นเพื่อเก็บซ่อนความรู้สึก“สวัสดีค่ะ พี่ดล” ชาลิสาพูดพร้อมยกมือขึ้นไหว้เพียงเวลาผ่านไปไม่นาน อาหารถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะ ชาลิสาได้แต่รับประทานอย่างนิ่งเงียบโดยไม่พูดไม่จา ซึ่งแตกต่างจากชายหนุ่มที่คุยสนิทสนมกับพ่อแม่ของเธอ แล้วเวลาแห่งความสุขก็หมดลงเมื่อมีเสียงหวานแทรกขึ้น ทุกคนต่างหยุดชะงักอย่างทันที“ที่รักคะ มาทานข้าวทำไมไม่ชวนลูซี่มาด้วย”สายตาของทุกคนเงยขึ้นไปจับจ้องต้นเสียง ร่างหญิงสาวอรชรอยู่ในชุดเกาะอกสี
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 5แสงอรุณยามเช้าสาดส่องเข้าทางหน้าต่าง ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงนอนด้วยความอ่อนล้า เดินเข้าห้องน้ำไปพลางบีบคอสะบัดเบา ๆ เวลาผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาทีประตูห้องน้ำเปิดออก เขาเดินมายังตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดใส่ไปทำงานในวันนี้ตู้เสื้อผ้าเรียงรายด้วยชุดทำงานเป็นแถวทางด้านขวามือของเขา ส่วนทางด้านซ้ายมือเป็นชุดสำหรับไปเวท ภูวดลเอื้อมมือไปหยิบชุดทำงานสีดำสนิท ก่อนจะเปิดตู้ด้านล่างเพื่อเลือกหยิบเนคไทภูวดลอยู่หน้ากระจกใส่ชุดสูทผูกไทอย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกจากห้อง ถึงแม้จะเป็นเวลาเช้าที่เขาจะต้องไปทำงาน แต่เมื่อคืนเขานั้นแทบจะนอนไม่หลับ เพราะเมื่อวานหลังจากที่เขากลับมาถึงบ้าน มารดาของเขาว่ากล่าวเขาอยู่นาน ที่ไปมีความสัมพันธ์กับพิมพ์ดาราหรือลูซี่ อีกทั้งยังเป็นการไม่ให้เกียรติเพื่อนของผู้เป็นบิดา ทำให้ต้องขายหน้าคนในร้านอาหารชายหนุ่มก้าวลงบันได ออกมาพร้อมกับกระเป๋าเอกสารที่ถืออยู่ในมือซ้าย เมื่อเขาเดินลงมาสุด เขายื่นกระเป๋าลงให้ลุงแช่มคนขับรถประจำบ้านเพื่อนำไปเก็บไว้ในรถของเขา“ตาดล จะไปทำงานเหรอ ไม่ทานข้าวเช้าก่อนล่ะ&
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 6ภายในบ้านของอธิพัฒน์เดชากร สุชารัตน์ที่กำลังนั่งดูทีวีในยามสายอยู่ต้องละสายตาแล้วหันไปมอง เสียงรถยนต์คันหรูที่แล่นเข้ามาแล้วหยุดจอดลงอย่างช้าๆ“นวลไปดูสิว่าใครมา” สุชารัตน์กล่าวแล้วหันกลับไปจดจ้องทีวีต่อ นวลเมื่อได้รับคำสั่งก็เดินออกไป แต่พบกับหญิงสาวร่างงามที่ยืนอยู่ตรงหน้า“อุ๊ย คุณผู้หญิงค่า นวลว่าไม่ต้องไปดูแล้วค่ะ” เมื่อได้ยินนวลพูดขึ้นสุชารัตน์จึงละสายตาจากทีวีแล้วลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะหันไปมอง“หนูลิสา”“สวัสดีค่ะคุณแม่” หญิงสาวเจ้าของร่างงามเดินมาหาก่อนจะยกมือไหว้ สุชารัตน์จึงยกมือไหว้รับตอบ“นั่งลงก่อนสิ มีอะไรถึงมาหาแม่” สุชารัตน์นั่งลง ชาลิสาจึงค่อยนั่งลงตาม พลางบีบน้ำตาออกมาเพื่อเรียกความสงสาร เมื่อสุชารัตน์เห็นจึงตกใจอย่างทันที“เป็นอะไรไปหนูสาร้องไห้ทำไม” สุชารัตน์ถามแล้วเขยิบเข้าไปเพื่อที่จะปลอบ มือที่เหี่ยวย่นได้เอื้อมเข้าไปกุมมือเรียวของเธอ“พี่ดลคะ” ชาลิสาพูดแล้วเอียงตัวเข้าไปซุกในอ้อมกอดของสุชารัตน์ก
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 7“ฉันไม่ไป ฉันจะฟ้องคุณแม่ !” เธอขู่ฟ่อ เมื่อคนฟังได้ยินก็ยิ้มออกมาอย่างทันที ชาลิสามองรอยยิ้มของเขาอย่างนึกขึ้นกลัวมาทันที“เชิญครับ แต่กว่าคุณจะได้ฟ้องแม่ บางทีเราสองคน...” เขาโน้มตัวใกล้ๆ ที่ต้นคอ พูดขู่เธอต่อไปว่า “อาจจะมีหลานให้ท่านวันนี้เลยก็ได้นะครับ” เธอดันอกเขาออกห่างทันที แล้วมองด้วยสายตาที่โกรธเมื่อได้ยินจากปากของเขา“นั่นมันความคิดสกปรกของคุณ ไม่ใช่ของฉัน !” ภูวดลสำรวจใบหน้าสวยแล้วยิ้มกว้างออกมา เขาจะยอมเธอก็ตอนนี้เท่านั้นแหละ แต่หลังจากแต่งงานแล้ว เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรมาเล่นกับไฟอย่างเขา“ขึ้นรถดีกว่าไหมครับ หรือถ้าคุณไม่ขึ้นผมจะอุ้มเข้าบ้านคุณแทนนะ” เมื่อได้ยินก็ค้อนเขาอย่างทันที เขาพูดจาไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิดภูวดลมองสายตาคู่หวานของคนตรงหน้าที่มีสีหน้าลังเล เธอมองเขาอย่างโกรธ แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจพลางส่งสายตาให้เธอประมาณว่า ขึ้นรถซะชาลิสามองเขาด้วยความขุ่นเคือง สุดท้ายเธอก็ต้องยอมจำใจขึ้นรถของเขาไป ชายหนุ่มลอบยิ้มออกมาอย่างพอใจแล้วเดิ
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 8“ข้อตกลงอะไรคะ ?”“หลังจากคุณแต่งงานกับผมแล้ว ภายในหนึ่งปีเราจะหย่ากัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมิน ชาลิสาเมื่อได้ยินก็ช็อก นิ้วเรียวสวยของเธอค่อยกำแน่นเพื่อเก็บอารมณ์ไม่ให้เขารู้“ผมแค่ต้องการอิสระ และอีกอย่างคุณกับผมเราไม่ได้รักกัน”ชาลิสาได้แต่ก้มหน้านิ่งเงียบ เขาจะรู้ไหมนะที่เขาพูดมาทั้งหมดเธออยากจะร้องไห้ออกมาซะตรงนี้เลย ทำไมล่ะเธอไม่คู่ควรที่จะได้รับความรักจากเขางั้นเหรอ“ค่ะ ฉันทราบเรื่องนี้ดี ฉันเองก็อยากจะเป็นอิสระเหมือนกัน แต่ว่าแม่ของคุณ...” เธอข่มเสียงตอบกลับไป พลางหลบสายตาของเขา“เรื่องแม่ของผม ผมจะจัดการเอง ส่วนคุณเมื่อถึงเวลาก็ช่วยรักษาสัญญาด้วย” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง จนเธอรู้สึกเจ็บปวด แต่งงานเพราะความจำเป็น แต่หนึ่งปีเขาไม่คิดที่จะรักเธอบ้างเลยอย่างงั้นหรือ“ตกลงค่ะ เพราะว่าฉันก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ต่อ” ในเมื่อเธอไม่เคยอยู่ในสายตาเขาแต่แรก ได้เพียงแค่พูดต่อในใจ แต่ไม่กล้าที่จะพูดต่อออกไป“ดี
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาสChapter 9หลังจากที่ตอบปฏิเสธภูวดลไปเธอก็นั่งอ่านเอกสารที่ถูกนำมายื่นให้ เพื่อให้เธอเข้าใจถึงแผนการทำงานของแผนก โดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มเมื่อได้รับคำตอบแล้วจะรู้สึกโมโหหรืออย่างไร เธอไม่จำเป็นต้องใส่ใจเขา ทั้งที่เขาไม่เคยใส่ใจเธอเลยสักนิดสายตาของชาลิสาค่อยไล่อ่านเอกสารและยอดจำนวนผู้เข้าพักโรงแรมอย่างละเอียดแล้วย้อนกลับไปอ่านใหม่อีกครั้ง แต่ต้องสะดุดลงเมื่อยอดบัญชีของเดือนที่แล้วลดลงกว่าทุกครั้ง อีกทั้งตลอดเกือบเดือนนี้ก็ลดลงกว่าเดือนที่แล้วอีกเช่นกัน ทั้งที่นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ใช้บริการในโรงแรมที่เธอเห็นเมื่อช่วงเช้าและเที่ยงก็เยอะพอสมควร แต่ทำไมยอดถึงน้อยลงชาลิสาเดินออกจากห้องทำงานของแผนกมายังห้องเก็บเอกสารทั้งหมด แต่กว่าจะใช้เวลาเดินมาถึงก็นานเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะต้องถามคนโน้นคนนี้ทีกว่าจะมาถึงภายในห้องเก็บเอกสารที่มีตู้ใส่เอกสารเรียงรายนับสิบตู้ เอกสารทั้งหมดถูกจัดแบ่งเป็นหมวด ๆ ทั้งหมวดการตลาด และบัญชี และอีกหลาย หมวดสายตาของเธอมองไปยังภายในห้องเอกสารที่ถูกจัดเรียงอย่างมีระเบียบ ตามเดือนและปีบนชั้นวางขนาดสูงและใหญ
LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาส(พิมพ์ครั้งที่ 2 ฉบับปรับปรุง)เรื่องนี้เคยตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์มาเเล้วนะคะ ประมาณ 5 ปีก่อนได้ค่ะดังนั้นจึงเอามารีอัพให้อ่านค่ะ ฉบับนี้อาจะมีการปรับเปลี่ยนสำนวน เนื้อหาบางส่วนที่เคยตีพิมพ์ไปเเล้วให้ดีขึ้นนะคะโดนจะปรับเปลี่ยนสำนวน เเละฉาก NC เล็กน้อย เเต่ยังคำสำนวนอิโรติกไว้เช่นเดิม ทั้งไม่มีการเพิ่มเหตุการณ์ด้วยค่ะบทนำเสียงคุณครูสอนประจำคาบวิชาวิทยาศาสตร์ดังทั่วห้อง แต่ก็ไม่ได้เข้าผ่านหูของเด็กสาวร่างอ้วนท้วมที่ส่งสายตามองออกไปนอกหน้าต่างตลอดเวลาด้วยใจเหม่อลอย แม้กระทั่งเสียงเข้มของคุณครูเรียกถึงสามครั้ง“ชาลิสา !” เด็กสาวสะดุ้งขึ้น เธอหันมามองหน้าคุณครูประจำวิชาพร้อมก้มลงด้วยความรู้สึกผิด“เธอเหม่ออะไร ถ้าไม่ตั้งใจเรียนอีกครั้งฉันจะให้ออกไปยืนหน้าห้อง” เสียงเข้มของคุณครูประจำวิชาดุ“ค่ะ คุณครู” ชาลิวาก้มหน้ารับผิด แต่ทว่าสายตาสอดส่องก้มมองขวดคุกกี้ที่อยู่ใต้โต๊ะด้วยความชื่นชม ทลายความรู้สึกผิดออกไปจนหมดสิ้น เธอมองนาฬิกาข้อมือรอเวลาอีกไม่กี่นาทีที่จะหมดลงกริ๊ง ๆเสียงออดดังขึ้นบ่งบอกถึงเวลาพักกลางวัน เด็ก ๆ ต่างพากันเดินออกจากห้องด้วยความเหนื่อยล้าจาก