Share

บทที่ 3 ข่าวดี

LOVE MARRIAGE วิวาห์รักพิศวาส

Chapter 2

“เอานังผู้หญิงคนนี้ออกไป !” สุชารัตน์พูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามระงับความโกรธ พลางส่งสายตาจิกไปหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างลูกชาย

“น่าอาย ฮึ โรงแรมฉันไม่ใช่ที่หล่อนควรจะมา ถึงหล่อนจะเป็นนางแบบ หล่อนเองก็ไม่ต่างจาก...ผู้ดีเข้าไม่ทำกันหรอก !”

“ว่าแต่ลูกชายของคุณแม่ก็ชอบด้วยสิคะ” พิมพ์ดาราตอบพร้อมยิ้มหวานกลับมาพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ภูวดลเพื่อควงแขนของเขา ก่อนจะพูดต่อไปว่า “ว่าแต่เพิ่งจะรู้นะคะ ว่าผู้ดีเขาพูดกันอย่างนี้” เธอพูดแล้วยิ้มเย้ยหยันให้ สุชารัตน์เมื่อเห็นสีหน้าของเธอเดิมที่เต็มไปด้วยความโกรธอยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปใหญ่

“นังคนชั้นต่ำ ! ออกไปเดี๋ยวนี้”

“คุณแม่ขา ผู้ดีค่ะ อย่าทำสันดานเหมือนคนชั้นต่ำแบบหนูสิคะ” เธอตอบกลับ แววตาของหล่อนเต็มไปด้วยความเหยียดหยามคนตรงหน้า

“ออกไปก่อน ลูซี่” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ ๆ เมื่อรู้ว่าถ้าเธออยู่ต่อวันนี้คงไม่จบเท่านี้แน่ แต่คนข้างกายเขามองด้วยแววตาที่ไม่พอใจ ก่อนจะเดินออกไปโดยส่งสายตายิ้มหวานให้สุชารัตน์

“แล้วพบกันใหม่นะคะคุณแม่” หล่อนพูดแล้วยิ้มก่อนเดินสะบัดออกไป สุชารัตน์ได้แต่จิกหางตามองนางแบบสาวจนเดินออกจากห้องไป แล้วหันมามองลูกชายของเธอด้วยสีหน้าที่โกรธจัด

“ตาดล !”

“คุณแม่ครับ นั่งก่อนแล้วค่อย ๆ พูดก็ได้ครับ” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อนและส่งสายตาหวานมาให้ผู้เป็นแม่

“ไม่นงไม่นั่ง แล้วอย่ามาทำสายตาแบบนี้ด้วย เหมือนพ่อแก่ไม่มีผิด” สุชารัตน์ยืนด่าว่าลูกชายของเธอ ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจออกมา อย่างทุกครั้งที่โดนกล่าวว่าและพานถึงบิดาทุกครั้ง

“โธ่ แม่ครับ ก็แค่ระบายอารมณ์น่ะครับ ไม่มีอะไรหรอก” ภูวดลกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆ แต่คนเป็นแม่หันมามองทันที

“ฮึ! รอเอาไว้แกมีเมียเมื่อไร แกจะรู้” คนเป็นแม่กล่าวแล้วหันหน้าหนี ใช้ผู้หญิงเป็นที่ระบายอารมณ์มีที่ไหนกัน

“ไม่ต้องรอหรอกคุณ” เสียงที่แทรกขึ้นมาพร้อมกับชายหนุ่มรุ่นใหญ่ ใบหน้าถึงแม้จะมีรอยเหี่ยวย่นตามอายุ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อลดน้อยลง

“คุณ//พ่อ”

“คุณมาที่นี่ทำไม ไหนบอกว่าไม่สบาย” สุชารัตน์ถาม เธอมองใบหน้าผู้เป็นสามีที่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

“มาบอกข่าวดีให้คุณ” สหรัฐผู้เป็นสามีพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ก่อนจะเดินเข้าไปหาลูกชายของเขาพร้อมนั่งลงที่โซฟาแล้วพูดขึ้นว่า “แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับแก เจ้าดล !”

“ข่าวอะไรครับ” ภูวดลถามแล้วมองใบหน้าของผู้เป็นบิดาที่มีรอยยิ้มผิดปกติพลางสงสัยในใจ เรื่องอะไรที่ทำให้ถึงกับต้องมาเอง

“นั่นสิ ข่าวดีอะไรของคุณ ทำไมไม่ไปพูดกันที่บ้าน”

“งานแต่งงานของแกไง เจ้าดล” สหรัฐพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆ แต่คนฟังทั้งสองคนเมื่อได้ยินก็ตกใจไม่ต่างกัน

“แต่งงาน !” ชายหนุ่มร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ พลางมองสีหน้าของผู้เป็นบิดาที่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แต่ใบหน้าของเขากับแสดงความโกธรออกมาทันที

“หมายความว่า หนูลิสา...” ผู้เป็นภรรยาเอ่ยขึ้น มองหน้าสามี

“ใช่หนูลิสาเพิ่งกลับมา ตามที่เราตกลงกันไว้...”

“ตกลงอะไรกันครับ ? แล้วทำไมต้องให้ผมแต่งงานด้วย !” ชายหนุ่มแทรกถามขึ้นทันที

“คุณอทิตยวัฒน์เพื่อนของพ่อ สมัยยังหนุ่มเขาเกือบล้มละลายเพราะถูกหลอกเล่นหุ้นเมื่อเดือนก่อน พ่อเห็นเขาเดือดร้อนก็เลยยื่นมือเข้าไปช่วย” สหรัฐพูดไปพลางเดินมานั่งที่โซฟาโดยมีสุชารัตน์และภูวดลนั่งลงด้วย

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม” ภูวลดถามพลางมองอย่างไม่เข้าใจ

“ก็ข้อตกลงระหว่างการช่วยเหลือนะ เขายกลูกสาวให้แต่งงานกับเรา” สุชารัตน์พูดเสริม ชายหนุ่มเมื่อได้ยินแล้วก็ถามขึ้นอย่างโมโหทันที

“เอาลูกสาวตัวเองแลกกับเงิน ฮึ !” ชายหนุ่มพูดแล้วยิ้มออกมา ใจคิดเพียงว่าผู้หญิงที่เขาจะแต่งงานก็ไม่ต่างจากหญิงขายตัวที่เอาเงินแลกมา

“อย่าคิดในทางที่เสียหายกับหนูลิสาเขาแบบนั้น แม่กับพ่อเป็นคนขอเอง” สุชารัตน์กล่าวดักความคิดของบุตรชาย

“เอาล่ะ พ่อก็มาบอกเราเท่านี้ งั้นเดี๋ยวพ่อไปซื้อของข้างนอกก่อน” สหรัฐพูดบอกลาแล้วลุกขึ้นจากโซฟาหันเดินออกไป

“ผมไม่แต่ง !” ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างทันที ผู้เป็นบิดาหันหลังกลับมามองบุตรชาย

“แกกล้าปฏิเสธคำสั่งฉันหรือไง เจ้าดล !” ผู้เป็นบิดาพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาดแล้วเดินออกจากห้องไป สุชารัตน์มองหน้าของผู้เป็นลูกชายที่มีสีหน้าไม่พอใจแล้วเดินตามออกไป เหลือเพียงแต่ชายหนุ่มที่ยืนนิ่งด้วยความโกรธ

ฮึ ! ในเมื่ออยากแต่งนักฉันก็จะสงเคราะห์ให้

แสงอาทิตย์เริ่มตกดิน ชายหนุ่มละสายตาจากแฟ้มงานบนโต๊ะก่อนจะทิ้งตัวลงเพื่อพิงเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า เขาเหลือบมองนาฬิกาบนโต๊ะทำงานที่บอกเวลา ตลอดเวลาทั้งวันนั่งแต่ทำหน้าเครียดเรื่องที่จะต้องแต่งงานจนไม่เป็นทำงาน ถึงเวลาแล้วที่ควรจะผ่อนคลายซะบ้าง

ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินออกจากห้องไปทันที

“คุณดลจะกลับแล้วหรือคะ” ชนาภาเลขาส่วนตัวของภูวดลเอ่ยทักขึ้น เมื่อเห็นเจ้านายของเธอเลิกงานเร็วผิดปกติ

“ผมอยากจะออกไปผ่อนคลายซะหน่อย ถ้าคุณกลับผมฝากเก็บเอกสารบนโต๊ะด้วยละกัน” ชายหนุ่มพูดแล้วเดินจากไป

ชนาภาได้แต่มองเจ้านายจนลับสายตาไป

เธอส่ายหน้ามองเจ้านายแล้วถอนหายใจออกมาและคิดอย่างเห็นใจ

เสียงเพลงที่เปิดดังสนั่นก้องไปทั่วผับในย่านตัวเมืองแห่งหนึ่ง ร่างเย้ายวนและร่างสูงใหญ่ของหญิงและชายที่สะบัดสะโพกเต้นกันอย่างเมามัน ภูวลดเดินเข้ามาในร้านสายตาของหญิงสาวมากมายจ้องมาทางเขา เขาหันหน้าหนีอย่างรำคาญพลางกวาดสายตามองหาใครบางคน ทางโต๊ะริมมุมด้านขวา ก่อนจะเดินเข้าไปหา

ชายหนุ่มลูกครึ่งดวงตาสีนิลนั่งจิบไวน์อยู่พร้อมกับแขนอีกข้างได้โอบกอดสาวสวยไว้ พลางส่งสายตาเหลือบมองเพื่อนที่กำลังเดินมาพอดี

“ดล !” แพทริก เชสเฟเดส เขายืนขึ้นเพื่อต้อนรับ

ภูวดลเดินเข้ามานั่งที่โซฟาเงียบๆ

ชายหนุ่มลูกครึ่งมองสีหน้าของเพื่อนที่ไม่ค่อยสบอารมณ์จึงเอ่ยถาม“นายเป็นอะไรมา ทำไมทำหน้าอย่างกับคนเบื่อชีวิต”

หญิงสาวบริการเดินเข้ามานั่งข้างเขาก่อนที่จะเข้าไปซบไหล่ แต่เขากลับผลักออกอย่างไม่สนใจ หล่อนจึงมองหน้าด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเดินลุกจากโต๊ะ เดินไปรับแขกรายอื่น

ภูวดลนั่งนิ่งเงียบไม่ตอบ เอื้อมมือหยิบแก้วเบียร์ขึ้นดื่มจนหมด ก่อนจะเติมเพิ่มแล้วดื่มเข้าไป แพทริกได้แต่มองอย่างงงๆ

“มีเรื่องอะไร ทำไมเอาแต่ดื่มแบบนี้ อย่าบอกนะว่านายอกหัก”

คนถูกถามมองหน้าอย่างทันที ถ้าถูกหักอกไม่มานั่งดื่มอย่างนี้หรอก

“อย่ารู้เลยจะดีกว่า ฉันไม่อยากพูดถึงมันสักเท่าไหร่” ภูวดลพูดแล้วยกขึ้นดื่ม ด้วยความเสียอารมณ์

“ขนาดนั้นเลยหรือ นายทำท่าอย่างกับว่ากำลังจะมีเมียอย่างงั้นแหละ” แพทริกพูดขึ้นอย่างลอย ๆ แต่คนฟังถึงกับวางแก้วอย่างทันที เขารู้ว่าภูวดลเป็นพวกหวงความโสด นับตั้งแต่เขารู้จักภูวดลแค่ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแฟนเป็นตัวเป็นตนยังไม่มีเลยจะมีก็แต่คู่นอนเท่านั้น

“ก็เออสิ !” ภูวดลพูดออกมาทันที

ภูวดลกำลังจะแต่งงาน !

แพทริกเมื่อได้ยินภูวดลเอ่ยตอบกลับมาเขาก็หัวเราะออกมาอย่างทันที “ไปทำใครท้องเอาไว้ล่ะ”

“บ้าหรือไง ฉันจะไปทำใครท้องให้เดือดร้อนตัวเองทำไม” ชายหนุ่มตอบกลับมาอย่างหัวเสีย

“อ้าวแล้ว...”

“ฉันถูกบังคับให้แต่งงานต่างหากล่ะ” คนฟังถึงกับอึ้งอย่างทันตา

“ใครบังคับ?”

“ก็จะใครซะอีก” แพทริกพยักหน้าเข้าใจความหมายอย่างทันที คงเป็นเพราะบิดาของภูวดลที่บังคับให้แต่ง แต่จะบังคับทำไมในเมื่อไม่มีเหตุให้บังคับ เว้นแต่อยากให้หยุดอยู่ที่เพียงผู้หญิงคนเดียว

“พ่อกับแม่บอกว่าลูกหนี้ยกลูกสาวให้แต่งงานด้วย อีกอย่างลูกหนี้ที่ว่าเป็นเพื่อนของพ่อฉันเอง...” ภูวดลเล่าให้ฟัง

คนฟังได้แต่ฟังแล้วยิ้มขำออกมา

กรรมตามสนองแล้วล่ะมั้งงานนี้

“ฮึ แต่ถึงยังไงซะ คิดหรือว่าฉันจะยอมรับ” ภูวดลพูดขึ้น รอยยิ้มของเขาดูหน้ากลัว แพทริกได้แต่มองแล้วส่ายหน้าเพียงอย่างเดียว

“แล้วนายจะทำยังไง ในเมื่อนายก็ต้องแต่งงานกับเธอคนนั้นอยู่ดีนั่นแหละ” คนถูกถามได้แต่เหยียดยิ้มออกมา

“ในเมื่ออยากแต่ง ฉันก็จะแต่ง แต่ก็เป็นเพียงเมียที่กอดแต่ทะเบียนสมรสไว้เท่านั้นแหละ”

แพทริกได้แต่ถอนหายใจออมา เขาสงสารผู้หญิงที่จะต้องแต่งงานกับภูวดลคงจะโชคร้ายที่สุดแน่ เพราะนอกจากจะไม่ได้รับความรักแล้วยังจะถูกเหยียดหยามอีก

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status