อิงค์แลนด์
หลังจากที่เมื่อคืนฉันโดนคนบ้าโทรกวนจนนอนไม่หลับสุดท้ายฉันก็เลือกที่จะนั่งออกแบบต่อเอาไว้ให้เขาดูหลายๆ แบบเพราะฉันคิดว่าคนอย่างคุณดีซีจอมกวนคงไม่จบแค่ที่คุยเมื่อคืนแน่
แกร๊ก
“สวัสดีค่ะพี่คิม” ฉันพูดพลางมองพี่คิมที่กำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่ที่โต๊ะทำงาน
“อ้าวอิงค์มาสะเช้าเลย” พี่คิมทักฉัน
“ค่ะ เพราะเจ้านายของพี่คิมเล่นโทรกวนอิงค์จนอิงค์นอนไม่หลับเลย” ฉันบอกไป
“ถือว่าอิงค์โชคดี” หื้ม..ฉันรีบเดินมานั่งตรงข้ามกับพี่คิมทันที
“พี่คิมว่าอะไรนะคะ” ฉันถามพี่คิม
“ปะ..เปล่าพี่แค่จะบอกว่าปกตินายไม่เป็นแบบนี้” หึ..เป็นหนักกว่านี้น่ะสิ
“เจ้านายของพี่เกลียดอิงค์เถอะ”
ฉันบอกแต่เหมือนพี่คิมจะยิ้มนะ เมื่อกี้ฉันเห็นว่าพี่คิมแอบยิ้มอ่ะ
“ไม่ต้องมายิ้มเลยค่ะ อิงค์จะรีบทำงานให้เสร็จแล้วก็จะกลับไทย” ฉันบอกไป เพราะถ้าขืนยังเป็นอยู่แบบนี้ฉันได้กลายเป็นฆาตกรแน่ๆ
“คิดว่าง่ายขนาดนั้นหริออิงค์”
“แล้วทำไมต้องทำให้มันยากด้วยล่ะคะ หน้าที่อิงค์คือจบงานจบแยกย้าย” ฉันนั่งคุยกับพี่คิมอยู่นานคุณเจ้านายก็ยังไม่มาสักที
“แล้วนี่ใครมาส่ง เฮียฮาร์เปอร์หรอ” พี่คิมพูดแบบนี้สนิทกับพี่ชายฉันชัวร์
“ค่ะ อิงค์จะมาเองก็ไม่ยอม”
“ดูอิงค์กับเฮียฮาร์เปอร์สนิทกันจังเนาะ”พี่คิมหรี่ตาเหมือนกำลังจับผิดฉันยังไงก็ไม่รู้
“เพราะพี่ฮาร์เปอร์เป็นทุกอย่างของอิงค์ค่ะ” ฉันบอกพี่คิมไป
“วันนี้นายเข้าบ่ายนะ พอดีนายไปหาพ่อนายน่ะ” พี่คิมบอกฉัน
“แล้วเกี่ยวอะไรกับอิงค์เล่า ไม่คุยด้วยแล้วไปทำงานดีกว่า” ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะนั่งทำงานของตัวเอง เพราะบ่ายฉันต้องรับศึกหนักจากเจ้านายของพี่คิม
“อิงค์ พี่ถามอะไรหน่อยได้มั้ย” อยู่ๆ พี่คิมก็เดินมานั่งตรงข้ามกับฉันแล้วถามด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าอิงค์ตอบได้ อิงค์ก็จะตอบค่ะ”
“อิงค์มีแฟนหรือยัง” ฉันช้อนตามองพี่คิมที่ฉีกยิ้มให้ฉัน
“อิงค์มีแค่คนสำคัญค่ะซึ่งคนสำคัญของอิงค์ อิงค์รักมากด้วย” ฉันตอบพี่คิม แต่เหมือนว่าพี่คิมยังมีคำถามต่อ
“เฮียฮาร์เปอร์หรอ”
“ก็มีอยู่คนเดียวนี่คะ พี่คิมถามอะไรเนี่ยจะจีบอิงค์หรือไงกัน” ฉันพูดติดตลก
“มะ..ไม่ พี่ไม่อยากโดนกระทืบ” พี่คิมพูดพร้อมทำหน้ากลัว
“ใครคะ ใครจะกระทืบพี่คิมกัน”
“เอ่อ... พี่ว่าพี่กลับไปทำงานดีกว่า” เอ้า..ทำไมวันนี้พี่คิมแปลกจัง
นี่ก็จะเที่ยงแล้วพี่คิมก็ออกไปกินข้าวกับพี่แนนนี่ ส่วนฉันน่ะหรอพี่คิมสั่งข้าวมาให้เรียบร้อยแถมยังสั่งฉันว่าห้ามไปนั่งกินข้าวคนเดียวอีก คงไม่ต้องบอกนะคะว่าใครสั่งก็มีอยู่คนเดียวนี่แหละ
แกร๊ก
ฉันหันไปมองประตูที่ถูกเปิดออกโดยเจ้าของห้อง แต่แล้วยังไงฉันไม่สนใจหรอกเพราะนี่ช่วงพักของฉัน เสียงเท้าเดินตรงมานั่งที่โต๊ะข้างฉัน
“ไม่คิดจะทักกันบ้าง” เสียงดังอยู่ข้างฉัน
“ดีค่ะ”
“ดีครับ อร่อยมั้ยข้าวที่ผมสั่งให้” ฉันหันมองทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด
“พี่คิมสั่งให้ค่ะ” ฉันบอก
“อ้าวหรอ แต่ผมจำได้ว่าผมสั่งไอ้คิมไว้นี่” เนี่ยเวลาพักของฉันกำลังจะหมดเพราะเขานี่แหละ
“วันหลังไม่ต้องก็ได้นะคะ ฉันไปกินเองได้ รบกวนคุณเปล่าๆ” ฉันกระแทกเสียงใส่
“ก็ไม่ได้หนักหนาอะไรนี่ครับ”
“นี่เวลาพักของฉันค่ะ อย่าพึ่งกวน” ฉันหันกลับมาที่โต๊ะทันที
ครืด ครืด
ฉันมองมือถือตัวเองที่ดังขึ้นพร้อมกับเบอร์ที่คุ้นเคย
“ขา”
(วันนี้พี่ไม่ได้ไปรับนะคะ หนูกลับเองได้ใช่มั้ย)
“งานยุ่งหรอคะ อิงค์กลับเองได้ค่ะไม่ต้องเป็นห่วง”
(ถึงแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะคะ)
“โอเคค่ะตั้งใจทำงานนะคะ”
(ครับผม วันนี้พี่ไปนอนที่คอนโดด้วยนะ แต่จะดึกหน่อย)
“เดี๋ยวอิงค์รอเปิดประตูให้นะคะ”
ดีซี
ผมไม่ได้จะแอบฟังเธอคุยโทรศัพท์หรอกนะ แต่เพราะในห้องมันอยู่กันแค่สองคนไง หรือเธอลืมไปว่าผมก็นั่งอยู่ถึงได้ทำเสียงสองเสียงสาม ถ้าผมเดาไม่ผิดก็คงจะเป็นไอ้ฮาร์เปอร์เพื่อนผมนี่แหละที่โทรหาเธอ เอาจริงนะตั้งแต่คบกับมันมาผมรู้จักแฟนของมันทุกคนแต่ยกเว้นเธอที่อยู่ๆ ก็มาเป็นคนสำคัญซึ่งของมัน ผมก็ไม่รู้ว่ามันรู้จักเธอได้ยังไงถ้าจะบอกว่ามันปิดเรื่องเธอมันก็เก่งเกินไปแล้วอ่ะ แต่ก็ช่างแม่งไอ้ฮาร์เปอร์เถอะ
"อ่อยเก่ง"ผมพูดลอยๆ หลังจากที่เธอวางสายไป
"คุณว่าใคร"
"ว่าหมามั้งนั่งอยู่กันสองคน"ผมพูดขึ้น
"ถ้าไม่รู้ก็ไม่ควรพูดให้คนอื่นเขาเสียหายนะคะ"ก็ผมรู้ไงถึงพูดอ่อยขนาดนี้มิน่าล่ะไอ้ฮาร์เปอร์มันถึงได้หลงหัวปักหัวปำ
"หรอครับ"
"แล้วการที่ฉันอ่อยใครมันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน"ผมหันมองคนที่พูดอยู่ข้างๆ ผม
"อย่าปากดีให้มันมากนะ เพราะผมไม่ได้เหมือนไอ้ฮาร์เปอร์"
“ใช่ค่ะคุณไม่เหมือนพี่ฮาร์เปอร์ เพราะพี่ฮาร์เปอร์เขาไม่เคยแกล้งฉันและเขาก็ไม่เคยพูดให้ฉันเสียหายด้วย”
และเหมือนตอนนี้เธอจ้องหน้าผมอย่างเอาเรื่อง แล้วยังไงคิดว่าผมจะยอมผู้หญิงแบบนี้หรอไม่มีทาง ถึงจะเป็นแฟนเพื่อนก็ช่าง ผมจ้องหน้าเธอกลับจนไอ้คิมผลักประตูเข้ามา
“เอ่อ..ผมควรออกไปใช่มั้ย” ผมปรายตามองไอ้คิมที่ยืนถามอยู่ตรงประตู แล้วผมก็หันกลับมามองคนที่ยืนจ้องหน้าผมอยู่แบบไม่วางสายตา
“เรื่องของมึง” ผมบอก
“คะ..ครับนาย” ไอ้คิมรีบเดินมานั่งที่โต๊ะตัวเองทันที
“นั่งลงครับนี่เวลางานแล้วเอาไว้วันหลังคุณค่อยมาเถียงกับผมต่อ” ผมบอกก่อนที่เธอจะนั่งลงแบบไม่พอใจ
“ตกลงคุณเลือกแบบไหนคะกรุณาแจ้งด้วยค่ะ ขอบคุณ” เสียงเล็กที่ดังขึ้นจนไอ้คิมกลั้นขำเกือบไม่อยู่จนผมต้องใช้สายตาดุมัน
“ไอ้คิมเดี๋ยวกูจะไปดูออฟฟิศใหม่” ผมบอกก่อนจะลุกขึ้น
“ได้ครับนายเดี๋ยวผม....”
“มึงจะไปไหน” ผมรีบถามไอ้คิมที่ลุกขึ้นเหมือนกัน
“ไปกับนายไงครับ” ไอ้คิมรีบตอบผม
“ไม่ใช่มึงแต่เป็นคุณครับคุณอิงค์แลนด์” ผมพูดขึ้น
“อ้าว..”
“แล้วทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ ฉันมีหน้าที่ออกแบบไม่ใช่ไปเดินหน้างาน” เธอแย้งผมทันที
“ไปดูสถานที่จริงไงครับ เชิญ” ผมพูดแล้วผายมือก่อนที่เธอจะลุกขึ้นแบบไม่พอใจ
“แล้วจะไปยังไงครับ” ไอ้คิมถาม
“ขับรถไปและรถกูครับคุณคิม” ผมบอก
“แต่ว่ารถนาย.....” มันพูดก่อนจะหันไปมองเธอที่ยืนหน้าบึ้งให้ผมอยู่
“ก็รถกูไงจะทำไม”
“ไปหรือยังคะถ้าไม่ฉันจะกลับไปทำงานต่อ”
“มึงจะถามอะไรอีกมั้ยไอ้คิม” ผมถาม
“ก็นายเคยให้ผู้หญิงนั่งรถที่ไหนกัน”
ดีซี“ก็นายเคยให้ผู้หญิงนั่งรถที่ไหนกัน”ผมหันมองไอ้คิมตาขวางทันทีเมื่อมันพูดออกมา แบบนี้คนอื่นก็เข้าใจผิดหมดดิว่าผมชอบเธอ ซึ่งนั่นมันไม่ใช่ความจริง“ไอ้คิมมึงพูดใหม่” ผมชี้หน้ามัน“ผมก็พูดความจริง”“แล้วมึงจะให้คุณอิงค์แลนด์นั่งรถไปเอง ซึ่งจะถึงตอนไหนไปถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้” ผมพูดก่อนจะหันมามองคนที่ยืนข้างผม“ครับ ครับ”“และอีกอย่างกูไม่อยากให้ไอ้ฮาร์เปอร์มาแหกอกกู มาว่ากูใช้งานคนสำคัญของมัน” ผมบอกไป“ไปกันหรือยังคะ” เสียงเล็กดังขึ้นจนผมกับไอ้คิมหันมามองกันเป็นตาเดียว“ดูงานแทนกูด้วย” ผมบอกก่อนจะเดินออกจากห้อง และตามด้วยคนที่เดินอย่างใจเย็น“อิงค์ไปดูงานกับเจ้านายพี่แนนนี่นะคะ” เสียงของเธอที่บอกเลขาของผมที่นั่งอยู่หน้าห้อง คือผมจะไม่อะไรถ้าเลขาไม่มองผมแล้วนั่งอมยิ้มซึ่งอาการมันเหมือนไอ้คิม“ไปครับ” ผมกัดฟันพูด“รีบก็ไปก่อนสิคะ”อิงค์แลนด์ฉันบอกคนที่ยืนหน้าบึ้งแล้วสั่งนู่นสั่งนี่ฉัน คือฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องไปดูด้วยเพราะในเมื่อฉันก็มีรูปภาพทั้งหมดอยู่แล้ว คงไม่แกล้งไปทิ้งฉันไว้กลางทางหรอกนะ“ก็แล้วแต่ ถ้าไปถึงช้าคุณก็เลิกงานช้านะครับ ส่วนผมก็ไม่ค่อยรีบไม่ค่อยรีบเท่าไหร่” เฮ้อ..ฉันย
ดีซี“คุณทำให้ฉันโดนเกลียด”ผมก้มลงมองคนที่ผมกำลังกอดอยู่บนตัก นอกจากจะว่าผมแล้วยังมีหน้ามาเบะปากใส่ผมอีก ส่วนเรื่องเมื่อกี้หลายคนคงอาจจะคิดว่าผมพูดแรงไปใช่มั้ยครับ แต่สำหรับผมแค่นั้นมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ผมกับแม่ไม่ลงรอยกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ“ถือว่าหายกัน” ผมบอกไป“คุ้มมั้ยเนี่ยอิงค์เอ๊ยยย” เสียงคนที่นั่งตักผมอยู่บ่นพึมพำ“นายครับนาย.....” ผมหันมองไอ้คิมที่ผลักประตูเข้ามาก่อนที่มันจะหยุดมองผมกับคนที่นั่งอยู่ที่ตักผมอย่างอึ้งๆ“อะไรของมึง”“อุ้ย..ขอโทษค่ะ” พี่แนนนี่วิ่งเข้ามาก่อนจะเกิดอาการเดียวกันกับไอ้คิม“มีอะไรกันคะ” เธอถามสองคนที่ยืนมองอยู่จนลืมไปมั้งว่ากำลังนั่งตักผมอยู่“เขาคงตกใจที่เห็นคุณกับผมกำลังนั่งแบบนี้กัน” ผมบอกก่อนที่คนบนตักจะตาโต แล้วรีบลุกออกจากตักผมทันที“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะคือว่า.....” นอกจากจะรีบลุกแล้วเธอยังรีบแก้ตัวทันที“ขอตัวก่อนนะคะพอดีพี่มีประชุม” พี่แนนนี่พูดจบก็รีบเดินออกไปทันที“เข้าใจผิดกันหมดแล้ว คุณบอกพวกพี่เขาไปสิคะมันไม่ใช่แบบที่พวกพี่เขาเห็น” ผมนั่งยิ้มกับคนที่รีบบอกก่อนจะเขย่าแขนผมไปมา“เขาก็เข้าใจถูกแล้วนี่ครับ” ผมบอก“คุณดีซี”“ผมว่าผมออกไปดีก
ดีซีเพล้ง!!!เสียงแก้วกระทบกับผนังจนแตกกระจายไปทั่วพื้น ผมนั่งมองมือถือตัวเองอยู่แบบนี้มาเกือบชั่วโมงแล้ว ผมจะมองเพื่ออะไรวะ ตอนนี้ผมหงุดหงิดแล้วมันไม่ใช่เรื่องแม่ผมแต่มันอีกเรื่องต่างหาก“เหอะ เมียเพื่อน” ผมพูดย้ำคำนี้ซ้ำๆ ซากๆติ้งฮาร์เปอร์ : มึงโอเคใช่มั้ยผมมองมือถือที่ดังขึ้นก่อนจะกดเข้าไปดูข้อความของเพื่อนตัวเองที่ทักมาถามฮาร์เปอร์ : มึงอ่านแล้วก็ตอบสิวะไอ้เวร มึงโอเคใช่มั้ยดีซีดีซี : แล้วทำไมกูต้องไม่โอเคฮาร์เปอร์ : ให้กูไปหามั้ย กูว่ามึงไม่โอเคดีซี : กูอยากอยู่คนเดียว ช่างกูเถอะฮาร์เปอร์ : ก็กูเป็นห่วงดีซี : ขอบใจ แต่กูอยู่ได้หลังจากนั้นเพื่อนผมทั้งไอ้เจฟและไอ้มาร์คก็ทักมาถามจนผมขี้เกียจจะตอบพวกมัน ผมปล่อยให้มือถือดังอยู่แบบนั้นจนพวกมันเหนื่อยไปเองอิงค์แลนด์หลังจากที่เมื่อคืนฉันอาบน้ำเสร็จพอหัวถึงหมอนปุ๊บหลับเป็นตายเลย ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูก่อนจะไปสะดุดกับชื่อของใครคนนึงที่วิดีโอคอลมาหาฉันและมันมีคนรับแทน“เมื่อคืนมันโทรหาหนูค่ะ พี่เลยรับแทน” ฉันมองพี่ฮาร์เปอร์ที่นั่งพูดอยู่โซฟา“แล้วเขาว่าอะไรมั้ยคะ” ฉันถาม“มันบอกโทรผิดค่ะ” ฉันพยักหน้า ไม่บังเอิญไปหน่อยหรอที่เขาจะ
อิงค์แลนด์ฉันไม่รู้ว่าเขาหงุดหงิดเรื่องเมื่อวานหรือจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ตอนนี้ฉันปล่อยเขาไว้คนเดียวไม่ได้ จะว่าฉันเสือกฉันยุ่งยังไงก็เชิญ เพราะตอนนี้สภาพของคุณดีซีดูแทบไม่ได้เลยไหนจะกลิ่นเหล้าที่ฟุ้งและสายตาเหมือนคนที่ไม่ได้นอนอีก“พอดีฉันมันเป็นพวกหน้าด้านน่ะ” ฉันพูดก่อนจะนั่งลงที่เดิม“เก็บไว้ทำให้ไอ้ฮาร์เปอร์เถอะ” คุณดีซีพูดแล้วเหยียดยิ้มให้ฉัน“ไม่ต้องบอกหรอกค่ะ เพราะฉันทำอยู่แล้วและทำมานานแล้วด้วย” ฉันพูดแต่ไม่ได้หันไปมองเขาหรอกนะ เพราะวันนี้ฉันพูดอะไรไปเขาก็คงพาลไปทั่วอยู่ดีเพล้ง!!!ฉันสะดุ้งเมื่อมีสิ่งของบางอย่างกระทบกับพื้น ฉันรีบหันไปมองพื้นที่มีเศษแก้วแตกกระจาย เฮ้อ ฉันถอนหายใจก่อนจะรีบลุกไปเก็บเศษแก้วทันที“ฉันจะไม่ถามว่าคุณเป็นอะไร เพราะยังไงคุณก็ไม่มีทางตอบฉัน แต่คุณไม่ควรเอาความหวังดีของคนอื่นมาทำแบบนี้นะคะ” ฉันพูดให้คนที่นั่งมองฉันอยู่ที่โต๊ะ“....................”“ถ้าการเก็บไว้คนเดียวแล้วทำให้คุณเป็นบ้าขนาดนี้ฉันว่าคุณควร....โอ๊ย” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อเศษแก้วที่กำลังเก็บอยู่บาดมือ“เป็นอะไร” เขาถามเสียงเรียบ“แก้วบาด แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” ฉันบอกแล้วเดินเอาเศษแก้วมาทิ
อิงค์แลนด์ฉันว่าใส่คนที่อารมณ์เสีย เหมือนจะดีแต่ก็กลับมาหงุดหงิดใส่ฉันอีก นี่ฉันไปทำอะไรให้นักหนาก็ไม่รู้ ฉันต้องเจ็บตัวเพราะเขามาสองครั้งในวันเดียวเลยนะ ฉันรีบหันกลับมาทำงานตัวเองทันที“เจ็บนะคะฉันอยากให้คุณรับรู้ไว้” ฉันบอกก็มันเจ็บจริงๆ จะปล่อยก็บอกดีๆ ก็ได้มั้ยล่ะไม่เห็นต้องเหวี่ยงเลย“.....................”ฉันนั่งทำงานโดยที่มีคนนั่งจ้องฉันอยู่ แต่เขาไม่ได้พูดอะไรอยากมองก็มองไปฉันไม่สนใจหรอกรีบทำงานจะได้รีบกลับสักที เพราะความอดทนของฉันมันจะหมดแล้วอ่ะเจอแบบนี้ทุกวันฉันก็ไม่ไหวหรอกนะครืด ครืดฉันมองมือถือของตัวเองที่ดังและเป็นพี่ฮาร์เปอร์โทรเข้ามาปกติไม่เคยโทรเวลานี้นี่นา“ค่ะ”(ตอนเย็นพี่ไม่ได้ไปรับนะคะ มีประชุมกับลูกค้า)“ได้ค่ะ”(แต่พี่เจฟจะไปรับหนูแทนนะค ะพอดีพี่ใช้มันไปเอาของให้ด้วย)“พี่เจฟจะมารับอิงค์”(ค่ะ แต่หนูห้ามมันจีบนะ)“หวงหนูหรอคะ”(หวงมากค่ะ พี่ทำงานแล้ว)พี่ฮาร์เปอร์วางสายฉันไปกับเพื่อนจะหวงทำไมในเมื่อฉันไม่ได้จะชอบเพื่อนพี่ชายอยู่แล้ว และฉันก็ไม่อยากโดนสาวๆ ของพวกพี่เขามาดักตบหรอกนะ ส่วนพี่ชายฉันน่ะหรอเรื่องสาวๆ ฉันก็พอจะรู้แต่นั้นมันก็เรื่องปกติแหละมั้ง“นี่ค่
อิงค์แลนด์ตอนนี้ฉันกำลังนั่งรถกลับคอนโดโดยมีคุณดีซีเป็นคนขับมาส่ง ก็ดีเหมือนกันประหยัดค่ารถไปอีก ฉันนั่งมองวิวสองข้างทางซึ่งคุณดีซีบอกว่ามันเป็นทางลัดกลับคอนโด และฉันก็พึ่งเคยเห็นเหมือนกัน“สวยมากเลยค่ะ ฉันพึ่งรู้ว่ามีทางลัดกลับคอนโดแบบนี้ด้วย” ฉันบอกก่อนที่คุณดีซีจะแวะจอดรถข้างทาง“ไม่รีบกลับใช่มั้ย” เขาถามฉัน“ไม่รีบค่ะ ฉันขอลงไปด้วยได้มั้ยคะ” ฉันถามก่อนที่จะเขาจะพยักหน้าอนุญาต ฉันรีบลงจากรถวิ่งไปตรงที่สวนดอกไม้ทันที“ชอบหรอครับ”“ชอบค่ะ เมืองไทยก็มีแต่ไม่สวยขนาดนี้” ฉันบอกเขาก่อนจะนั่งลงกับพื้นแล้วหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปฉันนั่งถ่ายรูปดอกไม้ที่อยู่รายรอบตัว ก่อนจะหันไปมองคุณดีซีที่นั่งยิ้มอยู่ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันเห็นเขายิ้มแบบนี้ เวลาผีไม่เข้าก็น่าคุยด้วยอยู่หรอกแต่พอผีเข้าทีฉันนี่แทบอยากจะมุดดินหนีเลย“ขอนั่งด้วยได้มั้ยคะ” ฉันเดินมายืนตรงหน้าเขาแล้วถามเขาช้อนตามองฉันก่อนขยับที่ให้“วันหลังมาอีกมั้ย”“มาค่ะ”เราสองคนนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ก็แค่เรื่องงานน่ะ เพราะฉันไม่กล้าถามเรื่องส่วนตัวของเขาหรอก“ฉันชอบเวลาคุณยิ้ม ยิ้มบ่อยๆ สิคะ คุณยิ้มสวยดี” ฉันบอกคุณดีซีที่นั่งก้มหน้าเล่นม
อิงค์แลนด์ฉันนั่งยิ้มให้กับช่อดอกไม้ เธอจะรู้มั้ยเนี่ยว่ามันหายากขนาดไหน ฉันหันไปมองคุณดีซีที่นั่งดูแบบแล้วก้มมองช่อดอกไม้อีกรอบ“ชอบขนาดนั้น” เสียงเขาถามฉัน“ชอบสิคะอีกอย่างฉันไม่มีปัญญาซื้อหรอก เพราะมันแพง” ฉันรีบบอก“วันหยุดคุณไปไหนหรือเปล่า” คุณดีซีถามฉัน“ไม่นะคะ คุณจะให้ฉันมาทำงานหรอ” ฉันถาม วันนี้ผียังไม่เข้าสินะถึงพูดดีแบบนี้“แค่ถาม แต่ถ้าคุณอยากมาผมก็จะมาเป็นเพื่อน” หื้ม..ใครเขาขยันทำงานวันหยุดกันล่ะ“หยุดดีกว่าค่ะ” ฉันบอกเขาก่อนที่เราสองคนจะเงียบไป ฉันวางช่อดอกไม้ไว้ข้างๆ ก่อนจะหันมาทำงาน วันนี้เป็นวันที่ฉันทำงานแบบมีความสุขมากที่สุดตั้งแต่มาทำงานกับเขามา แต่จะว่าไปก็สงสารนะชอบผู้หญิงแต่ผู้หญิงไม่ชอบ แต่ยังไงฉันก็จะช่วยจนเขาสองคนได้เป็นแฟนกันฉันอยากเห็นเขายิ้มมากกว่าหน้าบึ้งแกร๊กฉันเงยหน้าขึ้นมองคนที่เปิดประตูเข้ามาพี่คิมนั่นเอง แต่ไหนบอกว่าไม่สบายไงทำไมถึงมาทำงานล่ะ“มาทำไม”“นายจ่ายตังค์เขาหรือยังเขาทวงผมเนี่ย มือถือมีหัดรับบ้างสิครับ” ฉันนั่งงงกับคำพูดของพี่คิม จ่ายอะไรของพี่เขานะ“เออ...เอาไปจัดการให้กูด้วย” คุณดีซียื่นบัตรเครดิตให้พี่คิม“ดอกไม้สวยนะอิงค์” พี่คิมถาม
ดีซี“นายครับพรุ่งนี้คนออกแบบคนใหม่จะเข้ามาเริ่มงานแล้วนะครับ”ก่อนอื่นผมต้องขอแนะนำตัวก่อนผมชื่อดีซีครับ อายุยี่สิบแปดปี ที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แต่พอดีผมไม่ชอบผมก็เลยมาเปิดบริษัทนำเข้ารถแทน ผมเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลีครับตั้งแต่เกิดมาผมก็อยู่เกาหลีตลอด พ่อผมเป็นคนไทยส่วนแม่ก็นั่นแหละตามนั้น“แล้วกูต้องเอาพรมมาปูรับมั้ยล่ะคิม” ผมถามลูกน้องตัวเอง“แจ้งเพื่อนทราบครับนาย”“เออกูรับทราบ และเดี๋ยวกูจะออกไปข้างนอก” ผมบอกไอ้คิมที่กำลังนั่งเช็คข้อมูลอยู่หน้าคอม คิมเป็นลูกน้องคนสนิทของผมเองครับ สนิทจนมันสามารถสั่งงานแทนผมได้ทุกอย่าง“จะให้ไปส่ง” มันถามผม“กูแจ้งเพื่อทราบ” ผมพูดย้อนมัน ที่จริงผมมีนัดกับเพื่อนที่ร้านกาแฟ ไม่ใช่ว่าผมว่างนะครับเพื่อนผมต่างหากที่ว่างคือไม่ไปก็ไม่ได้เดี๋ยวพวกมันจะเล่นงานผมเอา“เชิญครับ” ผมมองหน้าไอ้คิมก่อนจะเดินออกจากห้อง “คุณดีซีคะพรุ่งนี้....” ผมออกมาก็เจอเลขาของผมอีกคนพูดขึ้น“ไปอยู่กับไอ้คิมนะครับ” ผมบอกพี่แนนนี่ก่อนจะเดินออกมา ทำไมต้องตื่นเต้นกันจังแค่คนออกแบบคนเดียวผมขับรถออกจากบริษัทเพื่อไปหาเพื่อนคือพวกมันมาแล้วไงเลยโทรจิกผมกันใหญ่ ที่ไปนั่งร้