ดีซี“คุณทำให้ฉันโดนเกลียด”ผมก้มลงมองคนที่ผมกำลังกอดอยู่บนตัก นอกจากจะว่าผมแล้วยังมีหน้ามาเบะปากใส่ผมอีก ส่วนเรื่องเมื่อกี้หลายคนคงอาจจะคิดว่าผมพูดแรงไปใช่มั้ยครับ แต่สำหรับผมแค่นั้นมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ผมกับแม่ไม่ลงรอยกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ“ถือว่าหายกัน” ผมบอกไป“คุ้มมั้ยเนี่ยอิงค์เอ๊ยยย” เสียงคนที่นั่งตักผมอยู่บ่นพึมพำ“นายครับนาย.....” ผมหันมองไอ้คิมที่ผลักประตูเข้ามาก่อนที่มันจะหยุดมองผมกับคนที่นั่งอยู่ที่ตักผมอย่างอึ้งๆ“อะไรของมึง”“อุ้ย..ขอโทษค่ะ” พี่แนนนี่วิ่งเข้ามาก่อนจะเกิดอาการเดียวกันกับไอ้คิม“มีอะไรกันคะ” เธอถามสองคนที่ยืนมองอยู่จนลืมไปมั้งว่ากำลังนั่งตักผมอยู่“เขาคงตกใจที่เห็นคุณกับผมกำลังนั่งแบบนี้กัน” ผมบอกก่อนที่คนบนตักจะตาโต แล้วรีบลุกออกจากตักผมทันที“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะคือว่า.....” นอกจากจะรีบลุกแล้วเธอยังรีบแก้ตัวทันที“ขอตัวก่อนนะคะพอดีพี่มีประชุม” พี่แนนนี่พูดจบก็รีบเดินออกไปทันที“เข้าใจผิดกันหมดแล้ว คุณบอกพวกพี่เขาไปสิคะมันไม่ใช่แบบที่พวกพี่เขาเห็น” ผมนั่งยิ้มกับคนที่รีบบอกก่อนจะเขย่าแขนผมไปมา“เขาก็เข้าใจถูกแล้วนี่ครับ” ผมบอก“คุณดีซี”“ผมว่าผมออกไปดีก
ดีซีเพล้ง!!!เสียงแก้วกระทบกับผนังจนแตกกระจายไปทั่วพื้น ผมนั่งมองมือถือตัวเองอยู่แบบนี้มาเกือบชั่วโมงแล้ว ผมจะมองเพื่ออะไรวะ ตอนนี้ผมหงุดหงิดแล้วมันไม่ใช่เรื่องแม่ผมแต่มันอีกเรื่องต่างหาก“เหอะ เมียเพื่อน” ผมพูดย้ำคำนี้ซ้ำๆ ซากๆติ้งฮาร์เปอร์ : มึงโอเคใช่มั้ยผมมองมือถือที่ดังขึ้นก่อนจะกดเข้าไปดูข้อความของเพื่อนตัวเองที่ทักมาถามฮาร์เปอร์ : มึงอ่านแล้วก็ตอบสิวะไอ้เวร มึงโอเคใช่มั้ยดีซีดีซี : แล้วทำไมกูต้องไม่โอเคฮาร์เปอร์ : ให้กูไปหามั้ย กูว่ามึงไม่โอเคดีซี : กูอยากอยู่คนเดียว ช่างกูเถอะฮาร์เปอร์ : ก็กูเป็นห่วงดีซี : ขอบใจ แต่กูอยู่ได้หลังจากนั้นเพื่อนผมทั้งไอ้เจฟและไอ้มาร์คก็ทักมาถามจนผมขี้เกียจจะตอบพวกมัน ผมปล่อยให้มือถือดังอยู่แบบนั้นจนพวกมันเหนื่อยไปเองอิงค์แลนด์หลังจากที่เมื่อคืนฉันอาบน้ำเสร็จพอหัวถึงหมอนปุ๊บหลับเป็นตายเลย ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูก่อนจะไปสะดุดกับชื่อของใครคนนึงที่วิดีโอคอลมาหาฉันและมันมีคนรับแทน“เมื่อคืนมันโทรหาหนูค่ะ พี่เลยรับแทน” ฉันมองพี่ฮาร์เปอร์ที่นั่งพูดอยู่โซฟา“แล้วเขาว่าอะไรมั้ยคะ” ฉันถาม“มันบอกโทรผิดค่ะ” ฉันพยักหน้า ไม่บังเอิญไปหน่อยหรอที่เขาจะ
อิงค์แลนด์ฉันไม่รู้ว่าเขาหงุดหงิดเรื่องเมื่อวานหรือจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ตอนนี้ฉันปล่อยเขาไว้คนเดียวไม่ได้ จะว่าฉันเสือกฉันยุ่งยังไงก็เชิญ เพราะตอนนี้สภาพของคุณดีซีดูแทบไม่ได้เลยไหนจะกลิ่นเหล้าที่ฟุ้งและสายตาเหมือนคนที่ไม่ได้นอนอีก“พอดีฉันมันเป็นพวกหน้าด้านน่ะ” ฉันพูดก่อนจะนั่งลงที่เดิม“เก็บไว้ทำให้ไอ้ฮาร์เปอร์เถอะ” คุณดีซีพูดแล้วเหยียดยิ้มให้ฉัน“ไม่ต้องบอกหรอกค่ะ เพราะฉันทำอยู่แล้วและทำมานานแล้วด้วย” ฉันพูดแต่ไม่ได้หันไปมองเขาหรอกนะ เพราะวันนี้ฉันพูดอะไรไปเขาก็คงพาลไปทั่วอยู่ดีเพล้ง!!!ฉันสะดุ้งเมื่อมีสิ่งของบางอย่างกระทบกับพื้น ฉันรีบหันไปมองพื้นที่มีเศษแก้วแตกกระจาย เฮ้อ ฉันถอนหายใจก่อนจะรีบลุกไปเก็บเศษแก้วทันที“ฉันจะไม่ถามว่าคุณเป็นอะไร เพราะยังไงคุณก็ไม่มีทางตอบฉัน แต่คุณไม่ควรเอาความหวังดีของคนอื่นมาทำแบบนี้นะคะ” ฉันพูดให้คนที่นั่งมองฉันอยู่ที่โต๊ะ“....................”“ถ้าการเก็บไว้คนเดียวแล้วทำให้คุณเป็นบ้าขนาดนี้ฉันว่าคุณควร....โอ๊ย” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อเศษแก้วที่กำลังเก็บอยู่บาดมือ“เป็นอะไร” เขาถามเสียงเรียบ“แก้วบาด แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” ฉันบอกแล้วเดินเอาเศษแก้วมาทิ
อิงค์แลนด์ฉันว่าใส่คนที่อารมณ์เสีย เหมือนจะดีแต่ก็กลับมาหงุดหงิดใส่ฉันอีก นี่ฉันไปทำอะไรให้นักหนาก็ไม่รู้ ฉันต้องเจ็บตัวเพราะเขามาสองครั้งในวันเดียวเลยนะ ฉันรีบหันกลับมาทำงานตัวเองทันที“เจ็บนะคะฉันอยากให้คุณรับรู้ไว้” ฉันบอกก็มันเจ็บจริงๆ จะปล่อยก็บอกดีๆ ก็ได้มั้ยล่ะไม่เห็นต้องเหวี่ยงเลย“.....................”ฉันนั่งทำงานโดยที่มีคนนั่งจ้องฉันอยู่ แต่เขาไม่ได้พูดอะไรอยากมองก็มองไปฉันไม่สนใจหรอกรีบทำงานจะได้รีบกลับสักที เพราะความอดทนของฉันมันจะหมดแล้วอ่ะเจอแบบนี้ทุกวันฉันก็ไม่ไหวหรอกนะครืด ครืดฉันมองมือถือของตัวเองที่ดังและเป็นพี่ฮาร์เปอร์โทรเข้ามาปกติไม่เคยโทรเวลานี้นี่นา“ค่ะ”(ตอนเย็นพี่ไม่ได้ไปรับนะคะ มีประชุมกับลูกค้า)“ได้ค่ะ”(แต่พี่เจฟจะไปรับหนูแทนนะค ะพอดีพี่ใช้มันไปเอาของให้ด้วย)“พี่เจฟจะมารับอิงค์”(ค่ะ แต่หนูห้ามมันจีบนะ)“หวงหนูหรอคะ”(หวงมากค่ะ พี่ทำงานแล้ว)พี่ฮาร์เปอร์วางสายฉันไปกับเพื่อนจะหวงทำไมในเมื่อฉันไม่ได้จะชอบเพื่อนพี่ชายอยู่แล้ว และฉันก็ไม่อยากโดนสาวๆ ของพวกพี่เขามาดักตบหรอกนะ ส่วนพี่ชายฉันน่ะหรอเรื่องสาวๆ ฉันก็พอจะรู้แต่นั้นมันก็เรื่องปกติแหละมั้ง“นี่ค่
อิงค์แลนด์ตอนนี้ฉันกำลังนั่งรถกลับคอนโดโดยมีคุณดีซีเป็นคนขับมาส่ง ก็ดีเหมือนกันประหยัดค่ารถไปอีก ฉันนั่งมองวิวสองข้างทางซึ่งคุณดีซีบอกว่ามันเป็นทางลัดกลับคอนโด และฉันก็พึ่งเคยเห็นเหมือนกัน“สวยมากเลยค่ะ ฉันพึ่งรู้ว่ามีทางลัดกลับคอนโดแบบนี้ด้วย” ฉันบอกก่อนที่คุณดีซีจะแวะจอดรถข้างทาง“ไม่รีบกลับใช่มั้ย” เขาถามฉัน“ไม่รีบค่ะ ฉันขอลงไปด้วยได้มั้ยคะ” ฉันถามก่อนที่จะเขาจะพยักหน้าอนุญาต ฉันรีบลงจากรถวิ่งไปตรงที่สวนดอกไม้ทันที“ชอบหรอครับ”“ชอบค่ะ เมืองไทยก็มีแต่ไม่สวยขนาดนี้” ฉันบอกเขาก่อนจะนั่งลงกับพื้นแล้วหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปฉันนั่งถ่ายรูปดอกไม้ที่อยู่รายรอบตัว ก่อนจะหันไปมองคุณดีซีที่นั่งยิ้มอยู่ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันเห็นเขายิ้มแบบนี้ เวลาผีไม่เข้าก็น่าคุยด้วยอยู่หรอกแต่พอผีเข้าทีฉันนี่แทบอยากจะมุดดินหนีเลย“ขอนั่งด้วยได้มั้ยคะ” ฉันเดินมายืนตรงหน้าเขาแล้วถามเขาช้อนตามองฉันก่อนขยับที่ให้“วันหลังมาอีกมั้ย”“มาค่ะ”เราสองคนนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ก็แค่เรื่องงานน่ะ เพราะฉันไม่กล้าถามเรื่องส่วนตัวของเขาหรอก“ฉันชอบเวลาคุณยิ้ม ยิ้มบ่อยๆ สิคะ คุณยิ้มสวยดี” ฉันบอกคุณดีซีที่นั่งก้มหน้าเล่นม
อิงค์แลนด์ฉันนั่งยิ้มให้กับช่อดอกไม้ เธอจะรู้มั้ยเนี่ยว่ามันหายากขนาดไหน ฉันหันไปมองคุณดีซีที่นั่งดูแบบแล้วก้มมองช่อดอกไม้อีกรอบ“ชอบขนาดนั้น” เสียงเขาถามฉัน“ชอบสิคะอีกอย่างฉันไม่มีปัญญาซื้อหรอก เพราะมันแพง” ฉันรีบบอก“วันหยุดคุณไปไหนหรือเปล่า” คุณดีซีถามฉัน“ไม่นะคะ คุณจะให้ฉันมาทำงานหรอ” ฉันถาม วันนี้ผียังไม่เข้าสินะถึงพูดดีแบบนี้“แค่ถาม แต่ถ้าคุณอยากมาผมก็จะมาเป็นเพื่อน” หื้ม..ใครเขาขยันทำงานวันหยุดกันล่ะ“หยุดดีกว่าค่ะ” ฉันบอกเขาก่อนที่เราสองคนจะเงียบไป ฉันวางช่อดอกไม้ไว้ข้างๆ ก่อนจะหันมาทำงาน วันนี้เป็นวันที่ฉันทำงานแบบมีความสุขมากที่สุดตั้งแต่มาทำงานกับเขามา แต่จะว่าไปก็สงสารนะชอบผู้หญิงแต่ผู้หญิงไม่ชอบ แต่ยังไงฉันก็จะช่วยจนเขาสองคนได้เป็นแฟนกันฉันอยากเห็นเขายิ้มมากกว่าหน้าบึ้งแกร๊กฉันเงยหน้าขึ้นมองคนที่เปิดประตูเข้ามาพี่คิมนั่นเอง แต่ไหนบอกว่าไม่สบายไงทำไมถึงมาทำงานล่ะ“มาทำไม”“นายจ่ายตังค์เขาหรือยังเขาทวงผมเนี่ย มือถือมีหัดรับบ้างสิครับ” ฉันนั่งงงกับคำพูดของพี่คิม จ่ายอะไรของพี่เขานะ“เออ...เอาไปจัดการให้กูด้วย” คุณดีซียื่นบัตรเครดิตให้พี่คิม“ดอกไม้สวยนะอิงค์” พี่คิมถาม
ดีซี“นายครับพรุ่งนี้คนออกแบบคนใหม่จะเข้ามาเริ่มงานแล้วนะครับ”ก่อนอื่นผมต้องขอแนะนำตัวก่อนผมชื่อดีซีครับ อายุยี่สิบแปดปี ที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แต่พอดีผมไม่ชอบผมก็เลยมาเปิดบริษัทนำเข้ารถแทน ผมเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลีครับตั้งแต่เกิดมาผมก็อยู่เกาหลีตลอด พ่อผมเป็นคนไทยส่วนแม่ก็นั่นแหละตามนั้น“แล้วกูต้องเอาพรมมาปูรับมั้ยล่ะคิม” ผมถามลูกน้องตัวเอง“แจ้งเพื่อนทราบครับนาย”“เออกูรับทราบ และเดี๋ยวกูจะออกไปข้างนอก” ผมบอกไอ้คิมที่กำลังนั่งเช็คข้อมูลอยู่หน้าคอม คิมเป็นลูกน้องคนสนิทของผมเองครับ สนิทจนมันสามารถสั่งงานแทนผมได้ทุกอย่าง“จะให้ไปส่ง” มันถามผม“กูแจ้งเพื่อทราบ” ผมพูดย้อนมัน ที่จริงผมมีนัดกับเพื่อนที่ร้านกาแฟ ไม่ใช่ว่าผมว่างนะครับเพื่อนผมต่างหากที่ว่างคือไม่ไปก็ไม่ได้เดี๋ยวพวกมันจะเล่นงานผมเอา“เชิญครับ” ผมมองหน้าไอ้คิมก่อนจะเดินออกจากห้อง “คุณดีซีคะพรุ่งนี้....” ผมออกมาก็เจอเลขาของผมอีกคนพูดขึ้น“ไปอยู่กับไอ้คิมนะครับ” ผมบอกพี่แนนนี่ก่อนจะเดินออกมา ทำไมต้องตื่นเต้นกันจังแค่คนออกแบบคนเดียวผมขับรถออกจากบริษัทเพื่อไปหาเพื่อนคือพวกมันมาแล้วไงเลยโทรจิกผมกันใหญ่ ที่ไปนั่งร้
อิงค์แลนด์ฉันก็พึ่งรู้ว่าผู้ชายเกาหลีนี่หลงตัวเองเหมือนกันนะ ฉันไม่เหมารวมทั้งหมดแต่ฉันหมายถึงคนที่ยืนจ้องหน้าฉันอยู่ แถมยังไม่มีความเป็นมิตรเลยสักนิดอีกอย่างเขาเป็นคนเดินมาชนฉันเองนะ“งั้นก็ขอโทษด้วยค่ะ” ฉันพูดแล้วก้มหัวให้แต่เดี๋ยวนะทำไมเขาพูดภาษาไทยได้ด้วยล่ะ“กองไว้ตรงนั้นแหละ”ฉันมองหน้าผู้ชายที่พูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่งคือจะเอายังไงกับฉันวะ นี่ฉันก็ยอมขอโทษทั้งที่ฉันเองไม่ได้ผิดเลยนะแล้วดูสิ่งที่เขาตอบกลับมาสิ“งั้นก็ขอตัวค่ะ” ฉันบอกก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้นทันทีฉันชื่ออิงค์แลนด์หรือจะเรียกอิงค์เฉยๆ ก็ได้ค่ะ ฉันอายุยี่สิบสี่แล้วสงสัยใช่มั้ยว่าฉันมาทำอะไรที่เกาหลี ฉันถูกบริษัทส่งมาทำงานที่นี่ค่ะฉันทำงานออกแบบ มาเกาหลีเจอต้อนรับแบบนี้ก็ประทับใจเลยฉันกำลังกลับคอนโด ฉันเองพึ่งมาถึงวันนี้แหละหลังจากลงเครื่องฉันก็ขี้เกียจรอพี่ฮาร์เปอร์ก็เลยนั่งรถเอากระเป๋ามาเก็บแล้วมานั่งรอที่ร้านกาแฟ และไม่ต้องสงสัยนะคะพี่ฮาร์เปอร์เป็นพี่ชายของฉันค่ะ ฉันเป็นเด็กกำพร้าพ่อกับแม่ของพี่เขารับอุปการะฉันตั้งแต่เด็กแล้ว“เหนื่อยจัง” ทันทีที่เข้าห้องมาฉันก็ทิ้งตัวลงที่เตียงนอนไหนใครบอกว่าโอปป้านิสัยดีไ