อิงค์แลนด์ฉันนั่งยิ้มให้กับช่อดอกไม้ เธอจะรู้มั้ยเนี่ยว่ามันหายากขนาดไหน ฉันหันไปมองคุณดีซีที่นั่งดูแบบแล้วก้มมองช่อดอกไม้อีกรอบ“ชอบขนาดนั้น” เสียงเขาถามฉัน“ชอบสิคะอีกอย่างฉันไม่มีปัญญาซื้อหรอก เพราะมันแพง” ฉันรีบบอก“วันหยุดคุณไปไหนหรือเปล่า” คุณดีซีถามฉัน“ไม่นะคะ คุณจะให้ฉันมาทำงานหรอ” ฉันถาม วันนี้ผียังไม่เข้าสินะถึงพูดดีแบบนี้“แค่ถาม แต่ถ้าคุณอยากมาผมก็จะมาเป็นเพื่อน” หื้ม..ใครเขาขยันทำงานวันหยุดกันล่ะ“หยุดดีกว่าค่ะ” ฉันบอกเขาก่อนที่เราสองคนจะเงียบไป ฉันวางช่อดอกไม้ไว้ข้างๆ ก่อนจะหันมาทำงาน วันนี้เป็นวันที่ฉันทำงานแบบมีความสุขมากที่สุดตั้งแต่มาทำงานกับเขามา แต่จะว่าไปก็สงสารนะชอบผู้หญิงแต่ผู้หญิงไม่ชอบ แต่ยังไงฉันก็จะช่วยจนเขาสองคนได้เป็นแฟนกันฉันอยากเห็นเขายิ้มมากกว่าหน้าบึ้งแกร๊กฉันเงยหน้าขึ้นมองคนที่เปิดประตูเข้ามาพี่คิมนั่นเอง แต่ไหนบอกว่าไม่สบายไงทำไมถึงมาทำงานล่ะ“มาทำไม”“นายจ่ายตังค์เขาหรือยังเขาทวงผมเนี่ย มือถือมีหัดรับบ้างสิครับ” ฉันนั่งงงกับคำพูดของพี่คิม จ่ายอะไรของพี่เขานะ“เออ...เอาไปจัดการให้กูด้วย” คุณดีซียื่นบัตรเครดิตให้พี่คิม“ดอกไม้สวยนะอิงค์” พี่คิมถาม
ดีซี“นายครับพรุ่งนี้คนออกแบบคนใหม่จะเข้ามาเริ่มงานแล้วนะครับ”ก่อนอื่นผมต้องขอแนะนำตัวก่อนผมชื่อดีซีครับ อายุยี่สิบแปดปี ที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แต่พอดีผมไม่ชอบผมก็เลยมาเปิดบริษัทนำเข้ารถแทน ผมเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลีครับตั้งแต่เกิดมาผมก็อยู่เกาหลีตลอด พ่อผมเป็นคนไทยส่วนแม่ก็นั่นแหละตามนั้น“แล้วกูต้องเอาพรมมาปูรับมั้ยล่ะคิม” ผมถามลูกน้องตัวเอง“แจ้งเพื่อนทราบครับนาย”“เออกูรับทราบ และเดี๋ยวกูจะออกไปข้างนอก” ผมบอกไอ้คิมที่กำลังนั่งเช็คข้อมูลอยู่หน้าคอม คิมเป็นลูกน้องคนสนิทของผมเองครับ สนิทจนมันสามารถสั่งงานแทนผมได้ทุกอย่าง“จะให้ไปส่ง” มันถามผม“กูแจ้งเพื่อทราบ” ผมพูดย้อนมัน ที่จริงผมมีนัดกับเพื่อนที่ร้านกาแฟ ไม่ใช่ว่าผมว่างนะครับเพื่อนผมต่างหากที่ว่างคือไม่ไปก็ไม่ได้เดี๋ยวพวกมันจะเล่นงานผมเอา“เชิญครับ” ผมมองหน้าไอ้คิมก่อนจะเดินออกจากห้อง “คุณดีซีคะพรุ่งนี้....” ผมออกมาก็เจอเลขาของผมอีกคนพูดขึ้น“ไปอยู่กับไอ้คิมนะครับ” ผมบอกพี่แนนนี่ก่อนจะเดินออกมา ทำไมต้องตื่นเต้นกันจังแค่คนออกแบบคนเดียวผมขับรถออกจากบริษัทเพื่อไปหาเพื่อนคือพวกมันมาแล้วไงเลยโทรจิกผมกันใหญ่ ที่ไปนั่งร้
อิงค์แลนด์ฉันก็พึ่งรู้ว่าผู้ชายเกาหลีนี่หลงตัวเองเหมือนกันนะ ฉันไม่เหมารวมทั้งหมดแต่ฉันหมายถึงคนที่ยืนจ้องหน้าฉันอยู่ แถมยังไม่มีความเป็นมิตรเลยสักนิดอีกอย่างเขาเป็นคนเดินมาชนฉันเองนะ“งั้นก็ขอโทษด้วยค่ะ” ฉันพูดแล้วก้มหัวให้แต่เดี๋ยวนะทำไมเขาพูดภาษาไทยได้ด้วยล่ะ“กองไว้ตรงนั้นแหละ”ฉันมองหน้าผู้ชายที่พูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่งคือจะเอายังไงกับฉันวะ นี่ฉันก็ยอมขอโทษทั้งที่ฉันเองไม่ได้ผิดเลยนะแล้วดูสิ่งที่เขาตอบกลับมาสิ“งั้นก็ขอตัวค่ะ” ฉันบอกก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้นทันทีฉันชื่ออิงค์แลนด์หรือจะเรียกอิงค์เฉยๆ ก็ได้ค่ะ ฉันอายุยี่สิบสี่แล้วสงสัยใช่มั้ยว่าฉันมาทำอะไรที่เกาหลี ฉันถูกบริษัทส่งมาทำงานที่นี่ค่ะฉันทำงานออกแบบ มาเกาหลีเจอต้อนรับแบบนี้ก็ประทับใจเลยฉันกำลังกลับคอนโด ฉันเองพึ่งมาถึงวันนี้แหละหลังจากลงเครื่องฉันก็ขี้เกียจรอพี่ฮาร์เปอร์ก็เลยนั่งรถเอากระเป๋ามาเก็บแล้วมานั่งรอที่ร้านกาแฟ และไม่ต้องสงสัยนะคะพี่ฮาร์เปอร์เป็นพี่ชายของฉันค่ะ ฉันเป็นเด็กกำพร้าพ่อกับแม่ของพี่เขารับอุปการะฉันตั้งแต่เด็กแล้ว“เหนื่อยจัง” ทันทีที่เข้าห้องมาฉันก็ทิ้งตัวลงที่เตียงนอนไหนใครบอกว่าโอปป้านิสัยดีไ
ดีซีวันนี้ผมมาออฟฟิศตั้งแต่เช้าเพราะได้ข่าวว่าคนออกแบบคนใหม่จะมาเริ่มงาน และตอนนี้ผมก็กำลังมองคนที่ยืนอยู่หน้าประตู วันแรกก็มาทำงานสายเลย“อะไรกันครับท่านประธานนี่ยังเหลือเวลาตั้งเกือบสิบนาที อย่ามารับน้องแบบนี้สิครับ” แล้วไอ้คนที่นั่งไขว่ห้างหมุนเก้าอี้ไปมาเนี่ยมันจะมาทำไมกัน“ไอ้ฮาร์เปอร์มึงมาทำไม” ผมถามเพื่่อนรักตัวเอง“กูก็มาส่งคนสำคัญของกูไง ถ้ารู้ว่าเป็นบริษัทมึงกูไม่ยอมให้อิงค์มาหรอก” มันบอกผม“บริษัทกูแล้วทำไม” ผมถามมันกลับ“ก็มึงเรื่องมากไงครับ”“ไอ้เวรส่งเสร็จก็กลับไป กูจะทำงาน” ผมบอก เพราะถ้าขืนมันอยู่กวนตีนผมนานกว่านี้ผมได้ฆ่ามันแน่“อิงค์คะมาหาพี่มา” มันเรียกคนที่ยืนนิ่งอยู่ที่ประตู ผมปรายตามองก่อนที่เธอจะเดินมาหาเพื่อนผม“สวัสดีอีกครั้งค่ะ” เธอพูดขึ้น“ถ้ามันทำอะไรหนูบอกพี่เลยนะคะ เดี๋ยวพี่จัดการมันให้” ไอ้ฮาร์เปอร์บอก“ร่ำลาเสร็จก็เชิญ นู่นประตู” ผมบอกไป“งั้นเดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับนะคะ ตั้งใจทำงาน จุ้บ” แล้วผมต้องมานั่งดูอะไรแบบนี้ด้วยวะหลังจากที่ไอ้ฮาร์เปอร์ออกไปตอนนี้ก็เหลือแค่ผมกับพนักงานใหม่และไอ้คิม และเหมือนว่าเธอจะจ้องหน้าผมนานเกินไปแล้วมั้ง“จ้องเพื่อ” ผมถาม“พ
ดีซีตอนนี้ผมกำลังนังรอข้าวเที่ยง ไม่รู้ว่าไปสั่งถึงไหนทำไมไปนานขนาดนี้ ที่ผมทำนี่ไม่ได้ชอบเธอหรอกครับผมแค่หมั่นไส้เพื่อนผมและหมั่นไส้เธอก็แค่นั้น“นายครับรายงานการประชุม” ผมรับแฟ้มเอกสารจากไอ้คิมมาดู“อือ..ขอบใจ”“แล้วอิงค์ไปไหนครับนาย ผมว่าจะชวนน้องไปกินข้าวเที่ยงด้วย” ผมตวัดสายตามองไอ้คิมที่ยืนถามหาเธอแกร๊ก“อ้าวอิงค์ ไปซื้อข้าวมาแล้วหรอพี่ว่าจะชวนอิงค์ไปกินข้าวพอดีเลย” ผมปรายตามองคนที่เปิดประตูเข้ามาก่อนไอ้คิมจะชวนเธอไปกินข้าว“นี่ค่ะข้าวที่คุณสั่ง” เธอยื่นถุงข้าวให้ผม“นายครับงั้นผมขอพาน้องไปกินข้าวนะครับ” ไอ้คิมบอกผม “ฉันขอตัวไปกินข้าวนะคะ”“ผมขอดูงานที่ออกแบบหน่อยครับ” ผมพูดก่อนที่สองคนจะหันกลับมาหาผมพร้อมกับสายตาที่ตั้งคำถามมากมาย“ตะ..แต่นายครับนี่ช่วงพัก” ไอ้คิมพูดขึ้น“แต่ผมจะดูตอนนี้หรือใครมีปัญหา” ผมบอกไป“ไม่เป็นไรค่ะพี่คิมไปเถอะอิงค์ฝากซื้อข้าวด้วยนะคะ” เธอบอกกอ่นจะเดินมานั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม แต่สายตาของไอ้คิมมันกำลังยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผมอยู่“กูต้องเปิดประตูให้มึงด้วยมั้ยคิม” ผมเลิกคิ้วถามมัน“ไปแล้วคร้าบบบบบบ”“ถ้าการแกล้งฉันมันเป็นเรื่องสนุก ฉันบอกเลยนะคะว่าฉันไม
อิงค์แลนด์ฉันเดินออกมาจากห้องทำงานโดยที่ไม่สนใจคนที่ฉันกระแทกเสียงใส่เมื่อกี้ นี่เป็นการทำงานที่ฉันเหนื่อยที่สุดเท่าที่เคยทำงานมาเลยนอกจากจะเรื่องมากแล้วยังแกล้งเก่งอีกครืด ครืด“ค่ะ”(เลิกงานยังครับ)“พึ่งเลิกค่ะ อิงค์ขอเดินเล่นแถวนี้รอพี่นะคะ”(โอเคค่ะเดี๋ยวพี่ไปรับ)ฉันวางสายพี่ชายตัวเองไป คอยดูนะจะฟ้องให้หมดเลยว่าเพื่อนรักของพี่ชายฉันเนี่ยแสบแค่ไหน ฉันเดินออกจากบริษัทตรงไปที่สวนสาธารณะ วันนี้ต้องนอนเร็วแล้วมั้งเพราะพรุ่งนี้ต้องมาสู้รบกับเจ้านายบ้าบออีก“อิงค์แลนด์อันฮยอง อิงค์” ฉันหันมองตาเสียงที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี“นาบี คิดถึงจังเลย” ฉันวิ่งเข้าไปกอดเพื่อนทันทีนาบีเป็นชาวเกาหลีคนเดียวที่ฉันมีเลยนะ“คิดถึงเหมือนกัน”ฉันยืนกอดกับเพื่อนอยู่นานก่อนที่นาบีจะลากฉันมานั่งแล้วซักฉันใหญ่เรื่องมาทำงานที่นี่ ที่จริงฉันกับนาบีเจอกันแทบจะนับครั้งได้เลยนะ ส่วนเรื่องที่เรารู้จักกันไว้มีเวลาจะเล่าให้ฟัง“อิงค์ทำงานกับคุณดีซี” นาบีถามฉันแล้วยังทำหน้าตื่นเต้น“อืม..บริษัทส่งมา” ฉันบอกเพื่อนไป“คุณดีซี”“จะพูดถึงเขาทำไมเล่า รู้มั้ยว่าวันนี้อิงค์โดนแกล้งทั้งวันเลยนะ” ฉันบอกก่อนที่นาบีจะทำท่าสงสัยแ
อิงค์แลนด์หลังจากที่เมื่อคืนฉันโดนคนบ้าโทรกวนจนนอนไม่หลับสุดท้ายฉันก็เลือกที่จะนั่งออกแบบต่อเอาไว้ให้เขาดูหลายๆ แบบเพราะฉันคิดว่าคนอย่างคุณดีซีจอมกวนคงไม่จบแค่ที่คุยเมื่อคืนแน่แกร๊ก“สวัสดีค่ะพี่คิม” ฉันพูดพลางมองพี่คิมที่กำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่ที่โต๊ะทำงาน“อ้าวอิงค์มาสะเช้าเลย” พี่คิมทักฉัน“ค่ะ เพราะเจ้านายของพี่คิมเล่นโทรกวนอิงค์จนอิงค์นอนไม่หลับเลย” ฉันบอกไป“ถือว่าอิงค์โชคดี” หื้ม..ฉันรีบเดินมานั่งตรงข้ามกับพี่คิมทันที“พี่คิมว่าอะไรนะคะ” ฉันถามพี่คิม“ปะ..เปล่าพี่แค่จะบอกว่าปกตินายไม่เป็นแบบนี้” หึ..เป็นหนักกว่านี้น่ะสิ“เจ้านายของพี่เกลียดอิงค์เถอะ”ฉันบอกแต่เหมือนพี่คิมจะยิ้มนะ เมื่อกี้ฉันเห็นว่าพี่คิมแอบยิ้มอ่ะ“ไม่ต้องมายิ้มเลยค่ะ อิงค์จะรีบทำงานให้เสร็จแล้วก็จะกลับไทย” ฉันบอกไป เพราะถ้าขืนยังเป็นอยู่แบบนี้ฉันได้กลายเป็นฆาตกรแน่ๆ“คิดว่าง่ายขนาดนั้นหริออิงค์”“แล้วทำไมต้องทำให้มันยากด้วยล่ะคะ หน้าที่อิงค์คือจบงานจบแยกย้าย” ฉันนั่งคุยกับพี่คิมอยู่นานคุณเจ้านายก็ยังไม่มาสักที“แล้วนี่ใครมาส่ง เฮียฮาร์เปอร์หรอ” พี่คิมพูดแบบนี้สนิทกับพี่ชายฉันชัวร์“ค่ะ อิงค์จะมาเองก็ไม่ยอม”“
ดีซี“ก็นายเคยให้ผู้หญิงนั่งรถที่ไหนกัน”ผมหันมองไอ้คิมตาขวางทันทีเมื่อมันพูดออกมา แบบนี้คนอื่นก็เข้าใจผิดหมดดิว่าผมชอบเธอ ซึ่งนั่นมันไม่ใช่ความจริง“ไอ้คิมมึงพูดใหม่” ผมชี้หน้ามัน“ผมก็พูดความจริง”“แล้วมึงจะให้คุณอิงค์แลนด์นั่งรถไปเอง ซึ่งจะถึงตอนไหนไปถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้” ผมพูดก่อนจะหันมามองคนที่ยืนข้างผม“ครับ ครับ”“และอีกอย่างกูไม่อยากให้ไอ้ฮาร์เปอร์มาแหกอกกู มาว่ากูใช้งานคนสำคัญของมัน” ผมบอกไป“ไปกันหรือยังคะ” เสียงเล็กดังขึ้นจนผมกับไอ้คิมหันมามองกันเป็นตาเดียว“ดูงานแทนกูด้วย” ผมบอกก่อนจะเดินออกจากห้อง และตามด้วยคนที่เดินอย่างใจเย็น“อิงค์ไปดูงานกับเจ้านายพี่แนนนี่นะคะ” เสียงของเธอที่บอกเลขาของผมที่นั่งอยู่หน้าห้อง คือผมจะไม่อะไรถ้าเลขาไม่มองผมแล้วนั่งอมยิ้มซึ่งอาการมันเหมือนไอ้คิม“ไปครับ” ผมกัดฟันพูด“รีบก็ไปก่อนสิคะ”อิงค์แลนด์ฉันบอกคนที่ยืนหน้าบึ้งแล้วสั่งนู่นสั่งนี่ฉัน คือฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องไปดูด้วยเพราะในเมื่อฉันก็มีรูปภาพทั้งหมดอยู่แล้ว คงไม่แกล้งไปทิ้งฉันไว้กลางทางหรอกนะ“ก็แล้วแต่ ถ้าไปถึงช้าคุณก็เลิกงานช้านะครับ ส่วนผมก็ไม่ค่อยรีบไม่ค่อยรีบเท่าไหร่” เฮ้อ..ฉันย