อิงค์แลนด์ฉันว่าใส่คนที่อารมณ์เสีย เหมือนจะดีแต่ก็กลับมาหงุดหงิดใส่ฉันอีก นี่ฉันไปทำอะไรให้นักหนาก็ไม่รู้ ฉันต้องเจ็บตัวเพราะเขามาสองครั้งในวันเดียวเลยนะ ฉันรีบหันกลับมาทำงานตัวเองทันที“เจ็บนะคะฉันอยากให้คุณรับรู้ไว้” ฉันบอกก็มันเจ็บจริงๆ จะปล่อยก็บอกดีๆ ก็ได้มั้ยล่ะไม่เห็นต้องเหวี่ยงเลย“.....................”ฉันนั่งทำงานโดยที่มีคนนั่งจ้องฉันอยู่ แต่เขาไม่ได้พูดอะไรอยากมองก็มองไปฉันไม่สนใจหรอกรีบทำงานจะได้รีบกลับสักที เพราะความอดทนของฉันมันจะหมดแล้วอ่ะเจอแบบนี้ทุกวันฉันก็ไม่ไหวหรอกนะครืด ครืดฉันมองมือถือของตัวเองที่ดังและเป็นพี่ฮาร์เปอร์โทรเข้ามาปกติไม่เคยโทรเวลานี้นี่นา“ค่ะ”(ตอนเย็นพี่ไม่ได้ไปรับนะคะ มีประชุมกับลูกค้า)“ได้ค่ะ”(แต่พี่เจฟจะไปรับหนูแทนนะค ะพอดีพี่ใช้มันไปเอาของให้ด้วย)“พี่เจฟจะมารับอิงค์”(ค่ะ แต่หนูห้ามมันจีบนะ)“หวงหนูหรอคะ”(หวงมากค่ะ พี่ทำงานแล้ว)พี่ฮาร์เปอร์วางสายฉันไปกับเพื่อนจะหวงทำไมในเมื่อฉันไม่ได้จะชอบเพื่อนพี่ชายอยู่แล้ว และฉันก็ไม่อยากโดนสาวๆ ของพวกพี่เขามาดักตบหรอกนะ ส่วนพี่ชายฉันน่ะหรอเรื่องสาวๆ ฉันก็พอจะรู้แต่นั้นมันก็เรื่องปกติแหละมั้ง“นี่ค่
อิงค์แลนด์ตอนนี้ฉันกำลังนั่งรถกลับคอนโดโดยมีคุณดีซีเป็นคนขับมาส่ง ก็ดีเหมือนกันประหยัดค่ารถไปอีก ฉันนั่งมองวิวสองข้างทางซึ่งคุณดีซีบอกว่ามันเป็นทางลัดกลับคอนโด และฉันก็พึ่งเคยเห็นเหมือนกัน“สวยมากเลยค่ะ ฉันพึ่งรู้ว่ามีทางลัดกลับคอนโดแบบนี้ด้วย” ฉันบอกก่อนที่คุณดีซีจะแวะจอดรถข้างทาง“ไม่รีบกลับใช่มั้ย” เขาถามฉัน“ไม่รีบค่ะ ฉันขอลงไปด้วยได้มั้ยคะ” ฉันถามก่อนที่จะเขาจะพยักหน้าอนุญาต ฉันรีบลงจากรถวิ่งไปตรงที่สวนดอกไม้ทันที“ชอบหรอครับ”“ชอบค่ะ เมืองไทยก็มีแต่ไม่สวยขนาดนี้” ฉันบอกเขาก่อนจะนั่งลงกับพื้นแล้วหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปฉันนั่งถ่ายรูปดอกไม้ที่อยู่รายรอบตัว ก่อนจะหันไปมองคุณดีซีที่นั่งยิ้มอยู่ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันเห็นเขายิ้มแบบนี้ เวลาผีไม่เข้าก็น่าคุยด้วยอยู่หรอกแต่พอผีเข้าทีฉันนี่แทบอยากจะมุดดินหนีเลย“ขอนั่งด้วยได้มั้ยคะ” ฉันเดินมายืนตรงหน้าเขาแล้วถามเขาช้อนตามองฉันก่อนขยับที่ให้“วันหลังมาอีกมั้ย”“มาค่ะ”เราสองคนนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ก็แค่เรื่องงานน่ะ เพราะฉันไม่กล้าถามเรื่องส่วนตัวของเขาหรอก“ฉันชอบเวลาคุณยิ้ม ยิ้มบ่อยๆ สิคะ คุณยิ้มสวยดี” ฉันบอกคุณดีซีที่นั่งก้มหน้าเล่นม
อิงค์แลนด์ฉันนั่งยิ้มให้กับช่อดอกไม้ เธอจะรู้มั้ยเนี่ยว่ามันหายากขนาดไหน ฉันหันไปมองคุณดีซีที่นั่งดูแบบแล้วก้มมองช่อดอกไม้อีกรอบ“ชอบขนาดนั้น” เสียงเขาถามฉัน“ชอบสิคะอีกอย่างฉันไม่มีปัญญาซื้อหรอก เพราะมันแพง” ฉันรีบบอก“วันหยุดคุณไปไหนหรือเปล่า” คุณดีซีถามฉัน“ไม่นะคะ คุณจะให้ฉันมาทำงานหรอ” ฉันถาม วันนี้ผียังไม่เข้าสินะถึงพูดดีแบบนี้“แค่ถาม แต่ถ้าคุณอยากมาผมก็จะมาเป็นเพื่อน” หื้ม..ใครเขาขยันทำงานวันหยุดกันล่ะ“หยุดดีกว่าค่ะ” ฉันบอกเขาก่อนที่เราสองคนจะเงียบไป ฉันวางช่อดอกไม้ไว้ข้างๆ ก่อนจะหันมาทำงาน วันนี้เป็นวันที่ฉันทำงานแบบมีความสุขมากที่สุดตั้งแต่มาทำงานกับเขามา แต่จะว่าไปก็สงสารนะชอบผู้หญิงแต่ผู้หญิงไม่ชอบ แต่ยังไงฉันก็จะช่วยจนเขาสองคนได้เป็นแฟนกันฉันอยากเห็นเขายิ้มมากกว่าหน้าบึ้งแกร๊กฉันเงยหน้าขึ้นมองคนที่เปิดประตูเข้ามาพี่คิมนั่นเอง แต่ไหนบอกว่าไม่สบายไงทำไมถึงมาทำงานล่ะ“มาทำไม”“นายจ่ายตังค์เขาหรือยังเขาทวงผมเนี่ย มือถือมีหัดรับบ้างสิครับ” ฉันนั่งงงกับคำพูดของพี่คิม จ่ายอะไรของพี่เขานะ“เออ...เอาไปจัดการให้กูด้วย” คุณดีซียื่นบัตรเครดิตให้พี่คิม“ดอกไม้สวยนะอิงค์” พี่คิมถาม
ดีซี“นายครับพรุ่งนี้คนออกแบบคนใหม่จะเข้ามาเริ่มงานแล้วนะครับ”ก่อนอื่นผมต้องขอแนะนำตัวก่อนผมชื่อดีซีครับ อายุยี่สิบแปดปี ที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แต่พอดีผมไม่ชอบผมก็เลยมาเปิดบริษัทนำเข้ารถแทน ผมเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลีครับตั้งแต่เกิดมาผมก็อยู่เกาหลีตลอด พ่อผมเป็นคนไทยส่วนแม่ก็นั่นแหละตามนั้น“แล้วกูต้องเอาพรมมาปูรับมั้ยล่ะคิม” ผมถามลูกน้องตัวเอง“แจ้งเพื่อนทราบครับนาย”“เออกูรับทราบ และเดี๋ยวกูจะออกไปข้างนอก” ผมบอกไอ้คิมที่กำลังนั่งเช็คข้อมูลอยู่หน้าคอม คิมเป็นลูกน้องคนสนิทของผมเองครับ สนิทจนมันสามารถสั่งงานแทนผมได้ทุกอย่าง“จะให้ไปส่ง” มันถามผม“กูแจ้งเพื่อทราบ” ผมพูดย้อนมัน ที่จริงผมมีนัดกับเพื่อนที่ร้านกาแฟ ไม่ใช่ว่าผมว่างนะครับเพื่อนผมต่างหากที่ว่างคือไม่ไปก็ไม่ได้เดี๋ยวพวกมันจะเล่นงานผมเอา“เชิญครับ” ผมมองหน้าไอ้คิมก่อนจะเดินออกจากห้อง “คุณดีซีคะพรุ่งนี้....” ผมออกมาก็เจอเลขาของผมอีกคนพูดขึ้น“ไปอยู่กับไอ้คิมนะครับ” ผมบอกพี่แนนนี่ก่อนจะเดินออกมา ทำไมต้องตื่นเต้นกันจังแค่คนออกแบบคนเดียวผมขับรถออกจากบริษัทเพื่อไปหาเพื่อนคือพวกมันมาแล้วไงเลยโทรจิกผมกันใหญ่ ที่ไปนั่งร้
อิงค์แลนด์ฉันก็พึ่งรู้ว่าผู้ชายเกาหลีนี่หลงตัวเองเหมือนกันนะ ฉันไม่เหมารวมทั้งหมดแต่ฉันหมายถึงคนที่ยืนจ้องหน้าฉันอยู่ แถมยังไม่มีความเป็นมิตรเลยสักนิดอีกอย่างเขาเป็นคนเดินมาชนฉันเองนะ“งั้นก็ขอโทษด้วยค่ะ” ฉันพูดแล้วก้มหัวให้แต่เดี๋ยวนะทำไมเขาพูดภาษาไทยได้ด้วยล่ะ“กองไว้ตรงนั้นแหละ”ฉันมองหน้าผู้ชายที่พูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่งคือจะเอายังไงกับฉันวะ นี่ฉันก็ยอมขอโทษทั้งที่ฉันเองไม่ได้ผิดเลยนะแล้วดูสิ่งที่เขาตอบกลับมาสิ“งั้นก็ขอตัวค่ะ” ฉันบอกก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้นทันทีฉันชื่ออิงค์แลนด์หรือจะเรียกอิงค์เฉยๆ ก็ได้ค่ะ ฉันอายุยี่สิบสี่แล้วสงสัยใช่มั้ยว่าฉันมาทำอะไรที่เกาหลี ฉันถูกบริษัทส่งมาทำงานที่นี่ค่ะฉันทำงานออกแบบ มาเกาหลีเจอต้อนรับแบบนี้ก็ประทับใจเลยฉันกำลังกลับคอนโด ฉันเองพึ่งมาถึงวันนี้แหละหลังจากลงเครื่องฉันก็ขี้เกียจรอพี่ฮาร์เปอร์ก็เลยนั่งรถเอากระเป๋ามาเก็บแล้วมานั่งรอที่ร้านกาแฟ และไม่ต้องสงสัยนะคะพี่ฮาร์เปอร์เป็นพี่ชายของฉันค่ะ ฉันเป็นเด็กกำพร้าพ่อกับแม่ของพี่เขารับอุปการะฉันตั้งแต่เด็กแล้ว“เหนื่อยจัง” ทันทีที่เข้าห้องมาฉันก็ทิ้งตัวลงที่เตียงนอนไหนใครบอกว่าโอปป้านิสัยดีไ
ดีซีวันนี้ผมมาออฟฟิศตั้งแต่เช้าเพราะได้ข่าวว่าคนออกแบบคนใหม่จะมาเริ่มงาน และตอนนี้ผมก็กำลังมองคนที่ยืนอยู่หน้าประตู วันแรกก็มาทำงานสายเลย“อะไรกันครับท่านประธานนี่ยังเหลือเวลาตั้งเกือบสิบนาที อย่ามารับน้องแบบนี้สิครับ” แล้วไอ้คนที่นั่งไขว่ห้างหมุนเก้าอี้ไปมาเนี่ยมันจะมาทำไมกัน“ไอ้ฮาร์เปอร์มึงมาทำไม” ผมถามเพื่่อนรักตัวเอง“กูก็มาส่งคนสำคัญของกูไง ถ้ารู้ว่าเป็นบริษัทมึงกูไม่ยอมให้อิงค์มาหรอก” มันบอกผม“บริษัทกูแล้วทำไม” ผมถามมันกลับ“ก็มึงเรื่องมากไงครับ”“ไอ้เวรส่งเสร็จก็กลับไป กูจะทำงาน” ผมบอก เพราะถ้าขืนมันอยู่กวนตีนผมนานกว่านี้ผมได้ฆ่ามันแน่“อิงค์คะมาหาพี่มา” มันเรียกคนที่ยืนนิ่งอยู่ที่ประตู ผมปรายตามองก่อนที่เธอจะเดินมาหาเพื่อนผม“สวัสดีอีกครั้งค่ะ” เธอพูดขึ้น“ถ้ามันทำอะไรหนูบอกพี่เลยนะคะ เดี๋ยวพี่จัดการมันให้” ไอ้ฮาร์เปอร์บอก“ร่ำลาเสร็จก็เชิญ นู่นประตู” ผมบอกไป“งั้นเดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับนะคะ ตั้งใจทำงาน จุ้บ” แล้วผมต้องมานั่งดูอะไรแบบนี้ด้วยวะหลังจากที่ไอ้ฮาร์เปอร์ออกไปตอนนี้ก็เหลือแค่ผมกับพนักงานใหม่และไอ้คิม และเหมือนว่าเธอจะจ้องหน้าผมนานเกินไปแล้วมั้ง“จ้องเพื่อ” ผมถาม“พ
ดีซีตอนนี้ผมกำลังนังรอข้าวเที่ยง ไม่รู้ว่าไปสั่งถึงไหนทำไมไปนานขนาดนี้ ที่ผมทำนี่ไม่ได้ชอบเธอหรอกครับผมแค่หมั่นไส้เพื่อนผมและหมั่นไส้เธอก็แค่นั้น“นายครับรายงานการประชุม” ผมรับแฟ้มเอกสารจากไอ้คิมมาดู“อือ..ขอบใจ”“แล้วอิงค์ไปไหนครับนาย ผมว่าจะชวนน้องไปกินข้าวเที่ยงด้วย” ผมตวัดสายตามองไอ้คิมที่ยืนถามหาเธอแกร๊ก“อ้าวอิงค์ ไปซื้อข้าวมาแล้วหรอพี่ว่าจะชวนอิงค์ไปกินข้าวพอดีเลย” ผมปรายตามองคนที่เปิดประตูเข้ามาก่อนไอ้คิมจะชวนเธอไปกินข้าว“นี่ค่ะข้าวที่คุณสั่ง” เธอยื่นถุงข้าวให้ผม“นายครับงั้นผมขอพาน้องไปกินข้าวนะครับ” ไอ้คิมบอกผม “ฉันขอตัวไปกินข้าวนะคะ”“ผมขอดูงานที่ออกแบบหน่อยครับ” ผมพูดก่อนที่สองคนจะหันกลับมาหาผมพร้อมกับสายตาที่ตั้งคำถามมากมาย“ตะ..แต่นายครับนี่ช่วงพัก” ไอ้คิมพูดขึ้น“แต่ผมจะดูตอนนี้หรือใครมีปัญหา” ผมบอกไป“ไม่เป็นไรค่ะพี่คิมไปเถอะอิงค์ฝากซื้อข้าวด้วยนะคะ” เธอบอกกอ่นจะเดินมานั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม แต่สายตาของไอ้คิมมันกำลังยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผมอยู่“กูต้องเปิดประตูให้มึงด้วยมั้ยคิม” ผมเลิกคิ้วถามมัน“ไปแล้วคร้าบบบบบบ”“ถ้าการแกล้งฉันมันเป็นเรื่องสนุก ฉันบอกเลยนะคะว่าฉันไม
อิงค์แลนด์ฉันเดินออกมาจากห้องทำงานโดยที่ไม่สนใจคนที่ฉันกระแทกเสียงใส่เมื่อกี้ นี่เป็นการทำงานที่ฉันเหนื่อยที่สุดเท่าที่เคยทำงานมาเลยนอกจากจะเรื่องมากแล้วยังแกล้งเก่งอีกครืด ครืด“ค่ะ”(เลิกงานยังครับ)“พึ่งเลิกค่ะ อิงค์ขอเดินเล่นแถวนี้รอพี่นะคะ”(โอเคค่ะเดี๋ยวพี่ไปรับ)ฉันวางสายพี่ชายตัวเองไป คอยดูนะจะฟ้องให้หมดเลยว่าเพื่อนรักของพี่ชายฉันเนี่ยแสบแค่ไหน ฉันเดินออกจากบริษัทตรงไปที่สวนสาธารณะ วันนี้ต้องนอนเร็วแล้วมั้งเพราะพรุ่งนี้ต้องมาสู้รบกับเจ้านายบ้าบออีก“อิงค์แลนด์อันฮยอง อิงค์” ฉันหันมองตาเสียงที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี“นาบี คิดถึงจังเลย” ฉันวิ่งเข้าไปกอดเพื่อนทันทีนาบีเป็นชาวเกาหลีคนเดียวที่ฉันมีเลยนะ“คิดถึงเหมือนกัน”ฉันยืนกอดกับเพื่อนอยู่นานก่อนที่นาบีจะลากฉันมานั่งแล้วซักฉันใหญ่เรื่องมาทำงานที่นี่ ที่จริงฉันกับนาบีเจอกันแทบจะนับครั้งได้เลยนะ ส่วนเรื่องที่เรารู้จักกันไว้มีเวลาจะเล่าให้ฟัง“อิงค์ทำงานกับคุณดีซี” นาบีถามฉันแล้วยังทำหน้าตื่นเต้น“อืม..บริษัทส่งมา” ฉันบอกเพื่อนไป“คุณดีซี”“จะพูดถึงเขาทำไมเล่า รู้มั้ยว่าวันนี้อิงค์โดนแกล้งทั้งวันเลยนะ” ฉันบอกก่อนที่นาบีจะทำท่าสงสัยแ