“นายครับ” เสียงเรียกดังขึ้นไม่ไกล
ใบหน้าคมคายละสายตาจากทุกสิ่งรอบกายตวัดมองผู้มาใหม่ ให้ความสนใจกับสิ่งที่เขารอมาทั้งวัน
ซองสีน้ำตาลถูกวางลงตรงหน้า เขาเงยหน้ามองลูกน้องคนสนิทครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมคว้ามันมาเปิดออกอย่างเบามือ หยิบของด้านในออกมาอย่างใจเย็นและทะนุถนอมจนว่างเปล่า
ภาพหญิงสาววัยมหา’ลัย ใบหน้ารูปไข่ เรือนผมสีน้ำตาลธรรมชาติขับผิวขาวอมชมพู กำลังแย้มยิ้มให้บางสิ่งอย่างมีความสุข รอยยิ้มสดใสนั้นทำคนยิ้มยากเผลอยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
สวย...
ยิ่งโตยิ่งสวยไร้ที่ติ ทว่าติดตรงที่เธอมีเจ้าของหัวใจ
แต่จะโทษใครได้ ในเมื่อก่อนหน้าเธอเคยเฝ้ารอและพยายามตามหาเขามาโดยตลอด ทว่าเป็นตัวเขาเองที่ขี้ขลาด และเป็นฝ่ายเลือกหนีหายไปจากเธอนานหลายปี
ตอนนั้นพวกเรายังเด็ก จึงคิดอะไรโง่ๆ อย่างง่ายๆ ว่าสิ่งที่ทำเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว โดยไม่คิดถามความเห็นของเธอสักคำ สมควรแล้วที่ตอนนี้ต้องกลายมาเป็นฝ่ายเฝ้ามองเธออยู่ไกลจากอีกฟากโลก ทั้งที่อยากเจอกันใจแทบขาด
และรู้สึกผิดมาจนถึงทุกวันนี้
“แล้วเรื่องของมันล่ะ?”
“ยังไม่ชัวร์ครับนาย มันค่อนข้างระวังตัว แต่มีโอกาสเป็นอย่างที่นายคิดสูง หรือเราให้คนของคุณเจย์ช่วยอีกแรงดีมั้ยครับ? คนในพื้นที่น่าจะจัดการได้ง่ายกว่า”
“ไม่ต้อง กูยังไม่อยากให้ใครรู้”
ตึง!
“แต่กูต้องรู้!”
“เป็นเหี้ยอะไรไอ้ชา ลืมแดกยาระงับประสาท?” น้ำเสียงเย็นชาติดจะกวนเอ่ยถามด้วยความเอือมระอา
ยูนิกซ์ ปรายตามองเพื่อนสนิทอย่าง ชานนท์ ที่คล้ายกับจะเป็นหมาบ้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก ‘เป็นบ้าอะไรของมัน ถามดีๆ ไม่เป็นเหรอวะจะใส่อารมณ์ทำไม?’ แล้วถ้าจะมีใครต้องโกรธ คนนั้นควรเป็นเขามากกว่าหรือเปล่าที่โดนโวยวายตบโต๊ะใส่เสียงดัง
“ไอ้ยูมึงอย่ามากวนตีนกู”
“...”
“โอเค้ มึงจะไม่บอกใครก็ได้เว้ย แต่ต้องบอกกู! เพราะในมือมึงคือรูปน้องสาวกู!” ชานนท์กระแทกเสียงฟึดฟัดไม่พอใจ มือกระชากเก้าอี้มานั่งจ้องหน้าเพื่อนสนิทตาเขม็ง
ทำไมเขาที่เป็นพี่ชายของคนในรูปจะไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องนี้ นี่มันเข้าข่ายรุกล้ำความเป็นส่วนตัวแล้วหรือเปล่า? เขาเป็นพี่ชายของเธอนะ แม้เราจะเป็นเพื่อนสนิทกัน
แต่มันจะมามีลับลมคนในแบบนี้กับเขาไม่ได้!
แม้ว่า จะเป็นคนอนุญาตให้ไอ้เพื่อนบ้านี่ส่งคนไปดูแลน้องสาวแทน ทั้งยังชะล่าใจ เรียกคนของตัวเองกลับทั้งหมด เพราะมั่นใจในตัวเพื่อนสนิท แต่เหมือนจะคิดผิด
ยูนิกซ์มันชักจะเหมือนโรคจิตในคราบคนดีเข้าไปทุกวัน
แต่เออ...มันเป็นคนดีนั่นแหละ แค่ ‘อาการหนัก’ ไปหน่อย
และถ้าให้เดา ตอนนี้น้องสาวของเขาคงจะกำลังเผชิญปัญหาอะไรบางอย่างอยู่ แถมคงไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นคนอย่างมันคงไม่ส่งมือขวาที่ไม่เคยให้อยู่ห่างจากตัวลงมือทำงานเอง
ขอทดไว้ก่อนเรื่องที่มันนั่งอมยิ้มอยู่กับรูปน้องสาวเขาน่ะ! ตอนนี้อยากรู้เรื่องที่มันกำลังทำโดยไม่บอกหรือปรึกษา ทั้งที่ตกลงกันไว้แล้วว่าจะแค่ส่งคนไปดูแลเท่านั้น!
“มึงไปจัดการที่เหลือ ทางนี้กูเคลียร์เอง”
“ครับนาย” เจฟบอร์ดีการ์ดคนสนิทพ่วงตำแหน่งเลขา ค้อมศีรษะให้นายทั้งสอง ก่อนแยกตัวออกไป ทิ้งให้สองเพื่อนรักที่ทำท่าเหมือนใกล้ฟัดกันเต็มทนอยู่ด้วยกันตามลำพัง
“คิดจะทำอะไรไอ้ยู มึงกำลังล้ำเส้นนะ”
“...”
“กูถามว่ามึงจะทำอะไร!”
“...”
“ไอ้สัตว์! อย่าทำนิ่งดิวะ งั้นกูเปลี่ยนคำถามใหม่” เมื่อเห็นเพื่อนรักยังทำหน้านิ่งไม่แยแส ชานนท์เลยต้องเปลี่ยนวิธีคาดคั้น แม้จะหัวร้อนปุดๆ แล้วก็ตาม “เกิดอะไรขึ้นกับพริกแกง” แอบเห็นมุมปากของคนหลังโต๊ะกระตุกนิดๆ ก่อนอีกฝ่ายจะพยักพเยิดหน้าให้เขาก้มหน้าดูบนโต๊ะอย่างใจเย็น
ไอ้เพื่อนเวร!
“มึงรู้จักมันมั้ย”
“พอรู้จัก ทำไม?” คนหัวร้อนเหลือบตามองรูปภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกเลื่อนมาตรงหน้า พลางเอ่ยตอบเสียงตึง
จริงอยู่ที่ช่วงสามสี่ปีมานี้เขาไม่ได้ส่งคนของตัวเองไปตามติดน้องสาว แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นละเลยจนไม่รู้จักหรือไม่ได้หาข้อมูลผู้ชายที่เข้ามาวอแวเธอ เพียงแต่ไม่ได้ยื่นมือเข้าไปยุ่งก็เท่านั้น
พริกแกงเอาแต่คอยพูดถึงความดีเลิศของผู้ชายในรูปให้เขาฟังทุกวี่วัน จนบางครั้งก็นึกหมั่นไส้ อยากตัดสายทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด
“กูสืบเรื่องมันอยู่”
“?”
“ขอเถอะ อย่าทำหน้างง มันดูโง่”
“ไอ้เหี้ยยู!”
“เสียงมึงนี่น่ารำคาญฉิบหาย”
“อย่ามาทำเนียนเปลี่ยนเรื่อง บอกมา กูอยากรู้”
“เหรอ? ถ้าอยากรู้ก็รอ” คำพูดคล้ายจะกวนประสาทกัน ทว่าสิ่งที่คนพูดน้อยอย่างยูนิกซ์อยากสื่อออกไปคือ ‘เรื่องนี้ต้องละเอียดรอบคอบและใช้เวลา เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน’
แต่ไม่พูดหรอก มันเหนื่อย
“รอ รอ รอ รอ! ห่าเอ๊ย แล้วเมื่อไหร่กูจะรู้!”
“เมื่อกูแน่ใจ” มองเพื่อนอย่างท้อใจ บอกปัดเสียงเนิบนาบอย่างนึกรำคาญ ชานนท์เป็นแบบนี้ไง เขาถึงไม่อยากบอกอะไร
ใจร้อน เอาอารมณ์เป็นที่ตั้งอยู่เหนือเหตุผลตลอด
อีกอย่าง เขารู้สึกหมั่นไส้เพื่อนตัวดีอยู่ในใจ เพราะก่อนหน้ามันมัวแต่แจ้นตามง้อเมียจนลืมน้องไปชั่วขณะ ทีตอนนี้เสือกมาตีโพยตีพาย ไม่พอยังมาโวยวายอยากรู้อยากเห็น น่าทุบฉิบหาย
ทว่าไม่บอกก็ไม่ได้ เพราะถ้าวันนั้นไม่มีมัน เขาอาจไม่มีกำลังใจใช้ชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ขอบอกแง้มๆ ให้มันอึดอัดใจแทนก็แล้วกัน คราวหลังจะได้รู้ว่าอย่าละเลยเธออีก!
“นานมั้ย”
“หลังกูกลับไทย”
“ฮะ!” คนฟังถึงกับหูผึ่งตาโตหายโมโหเป็นปลิดทิ้ง เรื่องน้องสาวก็อยากรู้ แต่เรื่องที่คนหน้าตายมันจะกลับไทยน่าตกใจกว่า
รู้จักกันมาตั้งแต่เกิด ไอ้เพื่อนเกลอคนนี้ไม่เคยพูดถึงเรื่องกลับบ้านเกิดแม่สักครั้ง ขนาดพ่อมันออกปากขอให้ไปช่วยดูธุรกิจมันยังปฏิเสธอย่างไม่ไยดี พอวันนี้กลับพูดออกมาหน้าตาเฉย
แสดงว่าต้องเกิดเรื่องบางอย่างที่ไทยจริงๆ
“กูไปด้วย”
“ไม่ต้องเสือก”
“อ้าวๆ พูดดีๆ ครับ นั่นน้องกูนะเว้ย!”
“ไปแล้วมึงทำอะไรได้? เรื่องตัวเองจัดการเรียบร้อยแล้ว?”
“กะ...ก็ยัง แต่กูเป็นห่วงน้อง”
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวกูจัดการเอง ตัวเล็กก็น้องกูเหมือนกัน”
“คิดแค่น้องจริงเหรอเพื่อน...” ชานนท์หรี่ตาแสยะยิ้มร้าย พลางเอ่ยหยอกเย้าอย่างรู้ทันกัน คบกันมาตั้งนาน เรื่องของคนชอบเก๊กหน้านิ่ง ทั้งที่ใจเหลวยิ่งกว่าน้ำน่ะ เขารู้ดีกว่าใคร ไหนจะที่มันนั่งยิ้มกับรูปน้องสาวเขาอีก มองจากนอกโลกยังรู้ว่าคิดไม่ซื่อแต่ตีมึน
“...”
“แน่นะ? ถ้าได้มึงเป็นน้องเข...”
“ถ้ามึงยังไม่หุบปาก เลิกพ่นคำไร้สาระออกมา เรื่องที่คุยไว้กูขอยกเลิก”
“เฮ้ยๆ ยูเพื่อนรัก ใจเย็นดิวะ อย่าเพิ่งงอนกูดิเฮ้ย”
“ไม่ได้งอน กูพูดจริง” ร่างสูงว่าเสียงเรียบ ยันตัวลุกขึ้นยืน ปรายตามองคนหน้าเหวอเล็กน้อย
ไม่รู้ผีตัวไหนเจาะปากเพื่อนคนนี้ ถึงชอบพูดจาเลอะเทอะระคายหูชวนหงุดหงิดทุกครั้ง ขืนคุยกันต่ออาจได้วางมวยกัน ฉะนั้นเขาควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เดินออกไปจากตรงนี้ ก่อนที่ความอดทนอันน้อยนิดจะหมดลง
ไม่เข้าใจ คนนิสัยเสียชอบโหวกเหวกโวยวายไม่สนใจใครแบบมัน ทำไมถึงมีน้องสาวน่ารักแบบเธอได้?
ต่างกันราวฟ้ากับขุมนรก
“ไอ้ยู” ชานนท์เรียกคนที่กำลังจะหนีเสียงอ่อน “กูจะไม่ก้าวก่าย ไม่เข้าไปวุ่นวาย ขอแค่มึงรับปากกูได้มั้ยว่ายัยแสบจะปลอดภัย น้องกูจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ยวะ?” คราวนี้คนขี้กวนยอมอ่อนลง ด้วยความรู้สึกผิดกับเรื่องในอดีตตีตื้นขึ้นมาจุกอก
ไม่ใช่เขาไม่รักน้องสาว ไม่ใช่กลัวเพื่อนไม่ช่วยเหลือ แต่ที่ยอมก็เพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งจนพังเหมือนครั้งนั้น
ความคิดเองเออเองของเขา มันเคยทำร้ายคนที่รักถึงสองคน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเรื่องราวอาจไม่ลงเอยอย่างตอนนี้
ตอนนั้นด้วยความกลัวน้องเสียใจ ถึงเลือกไม่ตอบอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่พริกแกงเฝ้าถาม เขาไม่อยากเห็นน้ำตาน้อง จนลืมคิดไปว่าไม่มีใครไม่เคยผ่านความผิดหวัง ความเสียใจ และความเจ็บปวด
แม้กระทั่งผู้ชายเพอร์เฟกต์ตรงหน้ายังหนีไม่พ้น มันถึงเข้าใจและเข้มแข็งมาจนทุกวันนี้
“ไม่รับปาก แต่กูจะทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับพริกแกงให้ดีที่สุด มึงไม่ต้องห่วง”
มินิคูเปอร์สีจังเกิลกรีนคันเล็ก หักเลี้ยวเข้าจอดเทียบทางเข้า Tiara Grand Hotel โรงแรมหรูระดับห้าดาวที่มีชื่อเสียงโด่งดังติดอันดับต้นๆ ของประเทศ ตัวอาคารออกแบบสไตล์กรีก-โรมันถูกประดับตกแต่งด้วยแมกไม้นานาชนิดสร้างความร่มรื่น ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติโดยไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงต่างจังหวัดพริกแกง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหา’ลัยเอกชนชื่อดัง เจ้าของร่างบางสัดส่วนชวนฝัน พร้อมด้วยใบหน้ารูปไข่สวยหวานผสานความเซ็กซี่แต่งเติมด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ ดวงตากลมโตสุกใส ขนตางอนยาวเรียงแพสวย จมูกเชิดรั้นรับริมฝีปากอวบอิ่ม ผิวขาวเนียนอมชมพูสุขภาพดีช่วยดึงดูดสายตาผู้ชายมองตามจนเหลียวหลัง ส่วนผู้หญิงด้วยกันยังต้องมองด้วยความอิจฉาเจ้าของใบหน้าสวยเชิดหลังตรงดุจนางพญา เท้าเรียวเยื้องย่างมาบนรองเท้าส้นแหลมสีดำแบรนด์ดังด้วยความมั่นใจ สะกดทุกสายตาที่จ้องมอง“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ คุณพริก”“สวัสดีค่ะ” เรียวปากอิ่มยกยิ้มตอบอย่างไม่ถือตัวเช่นทุกครั้งสองเท้าบางก้าวไปเบื้องหน้า สายตาสาดส่องมองหาใครบางคน ก่อนตากลมจะทอประกาย มุมปากยกยิ้มอ่อนเมื่อสายตาปะทะเข้ากับแผ่นหลังของคนตัวเล็กกว่าแสนคุ้นตา ยืนอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ประช
@มหาวิทยาลัย“พริก...”“...”“พริกแกง!”เพียะ!“เล่นบ้าอะไรน้ำหนาว เราตกใจหมด”“ไม่ได้เล่นซะหน่อย เราเรียกพริกตั้งนานแล้วนะ แต่พริกไม่สนใจเราเลย” ร่างเล็กกว่าทำหน้ายู่ใส่ พลางลูบรอยแดงบนแขนตัวเองป้อยๆไม่ใช่ความผิดเธอสักหน่อย เธอเรียกพริกแกงตั้งแต่เห็นหลังกันไกลๆ แต่ไม่ว่าจะเรียกกี่ครั้งอีกคนก็ไม่หันมามอง เหมือนกำลังสนใจอะไรสักอย่างถึงต้องเดินเข้ามาสะกิด แต่ไม่คิดว่าพริกแกงจะตกใจแรง จนหันกลับมาฟาดเต็มเหนี่ยว เล่นเอาซะแขนชาแน่ะ“แหะๆ เราขอโทษนะ”“ไม่เป็นไรค่ะ แล้วนี่พริกมองอะไรอยู่เหรอ” น้ำหนาว บอกปัดอย่างไม่ถือสา ขยับมาใกล้แล้วเอ่ยถามต่อ เพราะอยากรู้ว่าอะไรทำให้คนระมัดระวังตัวอย่างพริกแกงเหม่อลอยได้ขนาดนี้คิ้วเรียวบนใบหน้าขาวฉบับสาวเหนือย่นแทบชนกัน หลังจากชะเง้อมองจุดที่พริกแกงเคยให้ความสนใจด้วยความสงสัยต้นไม้ ถังขยะ และนักศึกษาไม่เห็นมีอะไรเลยนี่นา? แล้วเพื่อนสาวคนสวยของเธอกำลังมองอะไรอยู่นะ หรือว่า...พริกแกงมีจิตสัมผัสเหรอ!?“ก็...ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่คะ?”“หนาวไม่เห็นเหรอ รถสีดำคันนั้นไง”“สีดำ...คันไหนคะ?”“นั่นไง อะ อ้าว หายไปไหนแล้ว เมื่อกี้ยังจอดอยู่ตรงนั้นอยู่เลย” ดวงตาเบิกโพ
- ด้านพริกแกง -“รอนานมั้ยครับ”“ไม่เลยค่ะ” คนเสียงใสยกยิ้มตอบ“ขอโทษทีนะ ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยมีเวลาให้เราเลย”พริกแกงไม่ได้พูดอะไรกลับไป มีเพียงรอยยิ้มเป็นคำตอบ อันที่จริง เขาไม่ควรพูดว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาให้กันหรอก มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่หลังคบกันได้หกเดือนต่างหากเธอพอจะเข้าใจเหตุผล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ลึกๆ แล้วเธอกำลังรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หลายครั้งที่นัดของเราต้องล่ม เพราะคำว่าติดงานด่วนของเขา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงจัดสรรเวลาไม่ได้สักที“ไม่ค่อยได้เจอกันเลย คิดถึงจะแย่” ใบหน้าคมเข้มหันมายกยิ้มละมุนให้แฟนสาว เขาไม่ได้รับรู้ความในใจของเธอ เพียงแต่เห็นว่าคนข้างกายเงียบไปจึงยกมือลูบผมนุ่มเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปมองถนนเบื้องหน้าต่อ ในตอนที่สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว“ถ้าคิดถึงก็มาหาพริกบ่อยๆ สิคะ จะได้หายคิดถึง”“พี่จะพยายามนะครับ”แทนไทกับพริกแกงอายุห่างกันเพียงสองปี แต่เขากลับชอบทำเหมือนเธอเป็นเด็กๆ อยู่บ่อยครั้ง ถ้าถามว่าชอบไหม? ก็ตอบได้แค่ชอบมาก มันอบอุ่น มันนุ่มฟูในหัวใจ ยามที่เขาแบ่งเวลามาอยู่ด้วยกันผู้ชายแบบนี้แหละที่เธอต้องการและตามหามาตลอด แม้จะติดขัดเรื่องของเวลาไปบ้าง แต่โดยร
@DVice Clubสถานบันเทิงยอดฮิตตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหา’ลัย แหล่งท่องเที่ยวติดอันดับของเหล่านักท่องราตรีทุกช่วงวัย มีบริการหลากโซนหลายสไตล์ ให้ลูกค้าได้เลือกใช้บริการตามความต้องการเสียงเพลงจังหวะเร้าใจดังขึ้นต่อเนื่องชวนใจเต้น ผีเสื้อราตรีหญิงชายต่างปลดปล่อยความรู้สึกและร่างกายไปกับท่วงทำนองสนุกๆ ที่ดีเจประจำคลับเปิดเพื่อสร้างความครึกครื้นอย่างเมามันเคร้ง~เสียงแก้วใสต่างดีไซน์กระทบกัน ดังขึ้นบริเวณโซนเคาน์เตอร์บาร์ ท่ามกลางเสียงเพลงอึกทึกครึกโครมหญิงสาวร่างเล็กในชุดสีชมพูดูน่ารักขัดกับสถานที่ มองแก้วในมือเล็กน้อยก่อนตัดสินใจจรดริมฝีปากบางลงบนปากแก้วที่บรรจุค็อกเทลรสหวานซ่อนเปรี้ยว มีฤทธิ์แอลกอฮอล์อ่อน ๆ ให้ไหลผ่านลำคอทีละนิด“แค่กๆ ไม่เห็นอร่อยเลยค่ะ” น้ำหนาวหันไปทำหน้าเหยเกใส่พริกแกงที่นั่งเท้าคางมองเธออย่างใจจดใจจ่อ เมื่อสัมผัสถึงแอลกอฮอล์ที่ถูกผสมมาในน้ำสีชมพูอ่อนเธอไม่ชอบดื่ม แต่ตอนนี้เพื่อนคนอื่นๆ ยังไม่มีใครโผล่มาสักคน เลยต้องยอมดื่มเป็นเพื่อนเพื่อนตัวแสบตามคำชวน แต่ตอนนี้รู้สึกคิดผิดมาก เพราะมันไม่ได้อร่อยเหมือนขนมแบบที่เพื่อนล่อลวงสักนิด“ไม่อร่อยเหรอ งั้นชิมของเรามั้ย? เผื่อชอ
ขวับเสียงหวานแฝงความประหม่า หลุดออกจากปากคนที่เอาแต่นั่งเงียบเหมือนคนเหม่อลอย เรียกสายตาของเพื่อนๆ ทุกคู่ให้หันไปมองยังต้นเสียงอย่างไม่ได้นัดหมายนั่งกันอยู่ตั้งนานน้ำหนาวแทบไม่พูดอะไร แต่พอแฟนเพื่อนสนิทโผล่มา ดันมีปากมีเสียงขึ้นมาเสียได้ แล้วจะไม่ให้คนอื่นแปลกใจได้อย่างไร“เป็นอะไรของแกยัยหนาว ผัวเพื่อนค่าสาว~”“ขอโทษค่ะ” คำพูดข้าวฟ่างทำให้น้ำหนาวก้มหน้างุด มองมือตัวเองอีกครั้ง เธอไม่ได้ตั้งใจ เธอแค่ลืมตัว และเหมือนจะโชคดีที่พริกแกงดูไม่ได้ใส่ใจอะไร“บ้า ผัวเผออะไร ยังไม่ได้กันมะ” พริกแกงรีบฉวยแก้วของตัวเองขึ้นมากระดกเพื่อปกปิดความรู้สึก ข้าวฟ่างเป็นคนพูดตรงและพูดแรง ข้อนี้เธอรู้ดีตั้งแต่สมัยเรียนปีหนึ่ง แต่หลังๆ ก็ชอบพูดแซวแบบนี้ตลอดเลย เธอจะรู้บ้างไหมว่าคนโดนแซวทำตัวไม่ถูกน่ะ“พี่พร้อมเป็นนานแล้ว แต่น้องพริกน่ะสิ ไม่พร้อมสักที”“พี่แทน! พูดอะไรก็ไม่รู้” หันไปถลึงตาใส่แฟนรุ่นพี่แก้เก้อ“พูดความจริงครับ^^” แทนไทว่ายิ้มๆ แล้วเดินไปนั่งข้างแฟนสาว เขาไม่ได้พูดเพื่อแกล้ง เขาพร้อมมาตั้งแต่ตามจีบเธอแล้ว แต่เป็นพริกแกงเองต่างหากที่ปฏิเสธมาตลอดถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เขาจะพยายามทำความเข้า
Rrrrrr~โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังลั่นห้อง ปลุกคนกำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์ตื่นขึ้นมาเพราะความรำคาญมือบางควานสะเปะสะปะอยู่พักหนึ่งถึงเจอต้นตอขัดความสุข พริกแกงดันกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ขยี้ตาเล็กน้อยก่อนเพ่งมองหน้าจอมือถือใครบังอาจมารบกวนกันนะ“หือ ข้าวฟ่าง? โทร. มาทำไมแต่เช้า” ชื่อบนจอทำคิ้วเรียวขมวดมุ่น ปกติหลังจากดื่มกันอย่างหนักจะไม่ค่อยมีใครโทร.หาสักเท่าไหร่ เพราะแฮงก์กันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่ามีเรื่องด่วนอะไรนิ้วเรียวสไลด์หน้าจอรับสาย พร้อมทั้งกดเปิดสปีกเกอร์โฟน กรอกเสียงงัวเงียตอบกลับปลายสายด้วยสภาพยังไม่ทันจะตื่นเต็มตาดี“อือ~ มีอะไรคะคุณเพื่อน หายแฮงก์แล้วเหรอถึงโทร. มาเนี่ย?”[ยังจะมานั่งใจเย็นอยู่อีกนะ เธอเห็นเพจซุบซิบของมหา’ลัยหรือยัง ยัยพริก]“ฮะ? ยังเลย มีอะไรอะ?”[ตายห่า งั้นดูด่วนเลยค่ะเพื่อน ด่วนที่แปลว่าเดี๋ยวนี้!]ความร้อนรนผสมกับความรีบร้อนในน้ำเสียงของเพื่อนสนิท ทำให้คนงัวเงียรีบลุกไปหยิบไอแพดคู่ใจขึ้นมาเปิด กดเข้าแอปพลิเคชันดังแล้วค้นหา ‘ใต้เตียงมหา’ลัย SC’ ที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเมาท์มอยเรื่องราวคาวๆ ของคนในรั้วมหา’ลัย ซึ่งพริกแกงเป็นหน
@ทูนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ปฉันพาตัวเองในชุดนักศึกษาเรียบร้อยที่สุดเท่าที่คนอย่างฉันจะเรียบร้อยได้ พร้อมลากรองเท้าสีดำสูงสี่นิ้วคู่โปรด มาหยุดยืนอยู่หน้าบริษัทสีทึบขนาดใหญ่ที่มีความสูงหลายสิบชั้นคำพูดมากมายที่อาจารย์พยายามสาธยายให้ฟังก่อนหน้านี้เท่าที่พอจะจำได้ผุดขึ้นมาในหัว ทูนิกซ์ เป็นบริษัทชั้นนำ มีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก ทำให้ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ ท่านกำชับนักกำชับหนาว่าต้องทำตัวให้ดี อย่าทำให้มหา’ลัยและอาจารย์เสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมทั้งย้ำนักย้ำหนา ให้ฉันแต่งตัวให้เรียบร้อย เหมาะสมกับการเป็นเด็กฝึกงานฉันถึงต้องไปรื้อตู้เสื้อผ้า เพื่อหากระโปรงตัวยาวที่เคยใส่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายสมัยเรียนปีหนึ่งมาใส่“มารายงานตัวฝึกงานค่ะ” ฉันเอ่ยเสียงใส พร้อมทั้งยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลในมือให้คุณพี่หน้าคม อกตู้มตรงหน้า“น้องพัชริกา ฮาร์ตลีย์ใช่มั้ยคะ?”“ใช่ค่ะ” ยิ้มตอบเห็นฉันชื่อไทยสไตล์ขนาดนี้ แต่ความจริงแล้วฉันมีแด๊ดดี้เป็นคนอังกฤษนะ และด้วยเหตุนี้แหละครอบครัวถึงไปเปิดธุรกิจที่ต่างประเทศแทนการทำธุรกิจในประเทศไทยพี่พนักงานสาวหน้าคมยกหูโทรศัพท์ตรงเคาน์เตอร์กดต่อสายภายในหาใครบางคน พี่เขาพูดกับป
หลังยืนโบกมือยิ้มหวานส่งพี่แทนเสร็จ ฉันก็รีบยกกระเป๋าขึ้นมาควานหาโทรศัพท์ด้วยความรีบร้อนถ้าได้กินยาเมื่อไหร่ ฉันก็ไม่คิดจะเอาชีวิตไปเสี่ยงโดยการขับรถกลับเองเด็ดขาด ฉะนั้นตอนนี้ต้องหาตัวช่วย และคนที่จะช่วยฉันได้ก็มีอยู่ไม่กี่คนควานหาโทรศัพท์เจอ ฉันรีบกดต่อสายหาเบอร์ที่บันทึกไว้ยามฉุกเฉินทันที เราทุกคนในกลุ่ม ล้วนจัดให้เบอร์ของเพื่อน ๆ เป็นเบอร์โทรฉุกเฉิน สัญญาณรอสายดังไม่กี่ครั้ง ปลายสายก็กดรับ ไม่รอช้าฉันรีบกรอกเสียงออดอ้อนไปตามสายขอความช่วยเหลือ“ข้าว~ มารับฉันหน่อยสิ”[ข้าวหลับ] ทว่าแทนที่จะเป็นเสียงหวานตอบกลับมา กลับกลายเป็นน้ำเสียงดุ ๆ เจือความหงุดหงิดแทน ทำให้ต้องรีบเอาโทรศัพท์ออกจากหู ยกขึ้นมาดูชื่อบนหน้าจออีกครั้งก็โทร. ถูกนี่นา แล้วทำไมถึงเป็นเสียงคนอื่น ปกติเวลานี้ข้าวฟ่างน่าจะยังอยู่ห้องตัวเองไม่ออกไปไหนนี่?“นั่นใครน่ะ” ฉันถามเสียงแข็งกลับไป[อะไร? เพ้อหนักแล้วนะเธอน่ะ ฉันแผ่นดินไง ผัวยัยข้าว เพื่อนสนิทที่หล่อที่สุดของเธอตั้งแต่ม.สี่ อย่าบอกนะว่าลืม ฉันกับยัยข้าวมาหัวหิน เธอลืมหรือไง ทำไมต้องตกใจ?] อ่า จริงด้วย ลืมไปเสียสนิทเลยว่าคู่รักพากันไปสวีตที่หัวหินน่ะแต่ว่านะ คำ
- 10 ปีต่อมา -“เฮียขา ~”“ว่าไงครับคนสวย” ร่างสูงย่อตัวนั่งยองบนส้นเท้า กางแขนรอรับร่างลูกสาวคนสวยที่วิ่งยิ้มแป้นผมปลิวมาแต่ไกล ด้านหลังเด็กสาวผมเปียมีหนุ่มน้อยผิวขาวจัดตัดผมสีน้ำตาลธรรมชาติ ดวงตาคม รับกับริมฝีปากสีชมพูระเรื่อที่ทำเพียงยิ้มน้อย ๆ ไม่ได้พูดอะไรหลังจากลูกสาวคนแรกคลอดได้ไม่ทันครบปี พริกแกงก็ตั้งท้องลูกชายอีกคน คราแรกยูนิกซ์ค้านหัวชนฝา เพราะไม่อยากเห็นแม่ของลูกต้องทรมานอีก แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเมียรักอยู่ดีทว่ารอบนี้มีการปรึกษาหมออย่างละเอียด และโชคดีที่เจ้าลูกชายเป็นเด็กดีตั้งแต่อยู่ในท้อง ไม่มีใครแพ้ท้องอาเจียนจนเป็นลมล้มพับเหมือนตอนท้องลูกสาว มีเพียงภรรยาที่ติดกลิ่นสามี ต้องตามติดแจไปไหนไปกัน ซึ่งเขาชอบมากที่เป็นอย่างนั้น ส่วนตอนคลอดเจ้าหนูก็คลอดง่ายดายต่างจากยัยแสบลิบลับฮันนี่ พรรณิกา เรเลอร์ตัน เด็กสาวแก้มป่องกับผิวขาวอมชมพูที่ใครเห็นก็อยากฟัด สีผมและนัยน์ตาดำสนิทเหมือนผู้เป็นพ่อ ตากลมโตฉายแววความดื้อรั้นมาตั้งแต่ยังไม่ทันครบขวบดี ปากนิดจมูกหน่อยดูจิ้มลิ้ม เป็นเด็กสดใสร่าเริง ไม่กลัวคน ไม่ยอมใคร แสบเหมือนแม่ แต่ติดความกวนนิด ๆ เหมือนพ่อ เป็นตัวของตัวเอง และที่สำคัญ
“ฮะ...เฮีย ฮึก”“คนดีเป็นอะไรครับ?” เสียงร้องเบา ๆ ทว่าเจ็บปวดจากคนตัวเล็ก ปลุกคนที่กำลังหลับใหล ให้ดีดตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจสุดขีดหมอคินกำชับนักกำชับหนา ช่วงนี้ให้ดูแลพริกแกงอย่างใกล้ชิด แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคืนนี้ เพราะก่อนหน้านี้ยังไม่มีสัญญาณเตือนอะไรอย่างที่ไอ้หมอบอกไว้ ดีที่เขาพยายามตื่นตัวและเตรียมความพร้อมตลอดเวลา“นะ...หนูเจ็บ”“อดทนหน่อยนะครับ” เสียงสั่นเทาเอ่ยปลอบทั้งภรรยาตัวเล็กและตัวเอง เขาพยายามตั้งสติห้ามมือไม้ไม่ให้สั่น แม้จะเตรียมตัวตลอดหลายวันที่ผ่านมา แต่เอาเข้าจริง เขากลับตื่นเต้นจนแทบทำอะไรไม่ถูก ยิ่งเห็นชุดนอนเมียรักเปียกชุ่มไปด้วยน้ำคร่ำ อกด้านซ้ายยิ่งสั่นระรัวเหมือนจะหลุดออกจากอกยูนิกซ์จำคำเตือนของไอ้หมอได้ขึ้นใจ เมื่อไหร่ที่พริกแกงมีอาการน้ำเดิน นั่นหมายความว่า มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เจ้าตัวน้อยจะออกมาลืมตาดูโลกภายในสิบสองชั่วโมง ถ้าเป็นแบบนั้นก็แสดงว่าในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เขาจะได้เจอหน้าคนที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่ยังไม่เคยเจอกันสักครั้งว่าที่คุณพ่อทั้งตื่นเต้น ดีใจ และตกใจแต่ก็ไม่ลืมช้อนอุ้มภรรยาขึ้น กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากห้องด้วยความระมัดระวัง โดยมี
“ค่อย ๆ ลุกนะคะคุณยู มาค่ะดิฉันช่วย”“ปล่อยครับ ผมลุกเองได้ ทำไมกูมาอยู่ที่นี่ได้วะ แล้วเมียกูไปไหน ไอ้เจฟ!” เอ่ยปฏิเสธคนที่ทำท่าจะเข้ามาช่วยพยุง เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงคนอื่นมาถูกเนื้อต้องตัว แม้จะเป็นพยาบาลก็ตาม ก่อนประโยคหลังจะหันมาถามคนสนิท แต่คนที่ยืนอมยิ้มในความหวงตัวของเจ้านายกลับไม่ทันตอบ เสียงระคายหูของคนมาใหม่ ก็ทำให้คนที่เพิ่งพยุงตัวเองลุกพิงหัวเตียงได้ตวัดตามองไม่พอใจ“ตื่นมาก็ร้องหาเมียเลยนะมึง”ทำไมนอกจากหน้าไอ้เจฟ ตื่นมาคนที่เจอต้องเป็นมัน! คนที่เขาไม่อยากเห็นหน้ามากที่สุดตอนนี้ด้วย! โชคดีที่โผล่มาแค่ตัวเดียว ถ้าอีกคนมาด้วย มันคงหัวเราะเยาะเขาจนเสียงแหบหรือไม่ก็คอแตกตายไปแล้วมั้ง“มึงมาทำไมไอ้เจย์”“มาดูคนกระจอก” ตอบเสียงนิ่ง พลางปัดหน้าจอดูงานทำเป็นไม่ใส่ใจ แตกต่างจากความเป็นจริงพอเขารู้ข่าวว่าน้องชายถูกหามส่งโรงพยาบาลก็รีบมาดู แต่สภาพน่าอดสูของมัน กลับทำเขาอดยิ้มเยาะในความน่าสมเพชไม่ได้เกิดมาตากแดดตากลม อดหลับอดนอนลากยาวติดต่อกันแค่ไหนไอ้ยูก็ไม่เคยป่วย แต่วันนี้มันกลับโดนเสียบสายน้ำเกลือเพราะแพ้ท้องแทนเมีย ผู้ชายห่าอะไรแพ้ท้องหนักไม่พอ ยังเหม็นกลิ่นตัวเองหนักถึงขนาดเป็น
“เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่าตัวเล็ก” เสียงทุ้มเอ่ยถามภรรยาด้วยความห่วงใยเขายืนหวีผมให้เมียรักเหมือนอย่างที่ทำเป็นประจำก่อนนอนทุกวัน ทว่าวันนี้กลับสังเกตเห็นใบหน้าหวานที่สะท้อนผ่านกระจกมีสีหน้าเศร้าหมองเหมือนคนคิดไม่ตก ทำให้อย่างยูนิกซ์อดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้เขาชอบเห็นใบหน้าสวย ๆ ของภรรยาประดับไปด้วยรอยยิ้มมากกว่า ไม่ชอบใบหน้าอมทุกข์อย่างเช่นตอนนี้เลยสักนิดพริกแกงจับมือใหญ่ของสามีที่วางอยู่บนบ่า พลางบีบเบา ๆ สบสายตาคมผ่านกระจกบานใหญ่อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะระบายลมหายใจหนัก หันมาเอ่ยกับคู่ชีวิตด้วยเสียงแผ่วเบาไม่ค่อยมั่นใจนัก เพราะรู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเก็บมาคิดหรือใส่ใจ“จู่ ๆ ช่วงนี้หนูก็คิดถึงข้าวฟ่างขึ้นมา ผ่านมาเป็นปีแล้ว ไม่รู้เธอจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้างนะคะ”“หนูเป็นห่วงผู้หญิงคนนั้นเหรอ”“ก็มีบ้างค่ะ” หากไม่นับเรื่องแทนไท ข้าวฟ่างก็นับเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง เธอกับข้าวฟ่างคอยช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกันมาตลอด แต่เพราะอีกคนพลาดที่มอบหัวใจให้คนผิด ไปรักผู้ชายเห็นแก่ตัวที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เรื่องมันถึงต้องจบลงแบบนั้น แต่ถึงจะไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ เธอก็ไ
“ทำอะไรอยู่ครับ หืม?” คุณสามีที่เพิ่งกลับมาจากทำงาน เดินเข้าไปสวมกอดภรรยา พร้อมกดปลายจมูกโด่งลงบนแก้มนิ่มฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึงนับวันเขายิ่งรู้สึกทั้งรักทั้งหลงยัยตัวเล็กมากขึ้นทุกวัน กลับมาจากทำงานเหนื่อย ๆ พอได้กอดรัดฟัดเหวี่ยงคนในอ้อมแขน ได้สูดดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเรือนผมนุ่ม ก็ทำให้ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันหายเป็นปลิดทิ้ง เหมือนได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง“อ่านบันทึกค่ะ”“ไม่เบื่อเหรอ เฮียเห็นหนูอ่านแทบทุกวัน”“ไม่เบื่อค่ะ ก็มันเป็นจุดเริ่มต้นของเรานี่คะ” เสียงหวานเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน พริกแกงไม่เคยลืมเลือน เธอสามารถอ่านมันได้ซ้ำ ๆ ทุกวันไปตลอดชีวิต ทุกตัวอักษรคือเรื่องราวทั้งสุขและทุกข์ก่อนที่เราสองคนจะสมหวัง แล้วเธอจะเบื่อได้อย่างไรไม่มีทาง“แต่ตอนนี้หนูหยุดอ่าน แล้วมาช่วยเฮียก่อนได้มั้ยครับ?”“หือ ช่วยอะไรคะ”“อาบน้ำให้เฮียหน่อยค่ะคนดี”“...แต่หนูเพิ่งอาบไปเองนะ”“อาบแล้วก็อาบอีกได้ มาครับเมีย เฮียจะทำความสะอาดให้ทุกซอกทุกมุมเลย” แม้จะทำสีหน้าเหมือนไม่ยินยอมกับคำพูดสองแง่สองง่ามของสามี แต่เธอก็อ้าแขนออกกว้างให้เขาเข้ามาอุ้ม เรียกรอยยิ้มเอ็นดูได้ไ
“มันกวนตีนแบบนี้มานานแล้วน้องรัก เธอแค่ยังไม่เห็น!”“ถ้ามึงไม่หยุด ผมจะโทร. บอกเมียคุณนะ”“โอ๊ย ถ้าขึ้นมึงแล้ว ก็ไม่ต้องผม ๆ คุณ ๆ หรอกเพื่อนรัก” พี่เขยเอ่ยเย้า แต่พอเห็นน้องเขยในคราบเพื่อนสนิททำท่าขอโทรศัพท์จากการ์ดด้านล่าง ชานนท์ก็รีบรูดซิปปาก แล้วกลับไปนั่งเงียบ ๆ ข้างเจนิกซ์แต่โดยดี“น้องมึงแม่งชอบขู่”“กูก็โดน” พอได้ฟังเจนิกซ์ตอบก็ยิ่งต้องเงียบเสียงกว่าเดิมพี่มันยังไม่เว้น แล้วเพื่อนจะเหลืออะไรล่ะคร้าบ“กลับมาต่อนะครับ เหตุผลแค่นี้เองเหรอเนี่ยที่ทำให้เธอจำพี่ใจดีไม่ได้? งั้นพี่ช่วยตอบเพื่อนผมหน่อยสิว่าทำไม”“ที่ผิวคล้ำ เพราะช่วงนั้นบ้าเล่นเซิร์ฟครับ ครั้งแรกที่เราเจอกัน พี่ก็เพิ่งกลับจากแข่งเซิร์ฟ ส่วนทำไมผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นถึงเป็นสีน้ำเงิน มันเป็นของแจกน่ะ พี่ได้มาตอนไปลงทะเบียนแข่งครับ ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก แล้วปล่อยให้เข้าใจผิดตั้งนาน ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมถึงชอบกวน...” ยูนิกซ์ลดไมค์ลงครู่หนึ่ง ก้มลงไปใกล้ใบหูสีแดงของว่าที่ภรรยา เขาพูดเสียงกระซิบทว่ายกไมค์ขึ้นจ่อปากไว้“พี่กวนเฉพาะคนสนิท แต่กับหนู...พี่อยากกวนทั้งตัวทั้งใจเลยครับที่รัก”หลังส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอเสร็จ แขกเหรื่อแล
- สองเดือนต่อมา -พิธีมงคลสมรสระหว่างสองตระกูลนักธุรกิจดังถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เทียร์ร่าแกรนด์สาขาย่อยถูกเหมาพื้นที่ทั้งโรงแรม เพื่อเฉลิมฉลองวันมงคลของน้องชายเพียงคนเดียวของท่านประธานพัชริกา ฮาร์ตลีย์ (พริกแกง) ❤ ยูนิกซ์ เรเลอร์ตัน (ยู)ทั่วทั้งงานเนืองแน่นไปด้วยสักขีพยานรักจากคนชั้นสูง ถือเป็นงานแต่งงานสุดยิ่งใหญ่ในรอบหลายปีที่ผ่านมา รูปถ่ายสุดหวานของคู่บ่าวสาวประดับประดาอยู่ทั่วทั้งห้องบอลรูมมิหนำซ้ำไดอารีทุกเล่มที่พริกแกงจดบันทึก ยังถูกนำมาจัดแสดงเรียงรายตลอดทางเดินเข้างาน ยาวไปจนถึงเวทีกลางซึ่งถูกตกแต่งด้วยดอกไม้สดหลายชนิดที่เปี่ยมล้นไปด้วยความหมายไม่ว่าจะเป็น…ดอกยิปโซสื่อถึงรักแรกพบที่ทั้งสองมีให้กันตั้งแต่สิบสองปีก่อนดอกเยอบีราเปี่ยมไปด้วยความสดใสร่าเริง แฝงไว้ด้วยความเข้มแข็งเหมือนเจ้าสาวอย่างพริกแกง หรืออีกนัยหนึ่ง เธอคือแสงอาทิตย์แห่งชีวิตของฉัน เหมือนที่ยูนิกซ์ที่ยึดเอาพริกแกงเป็นสิ่งเหนี่ยวนำให้เขากลับมารักตัวเองอีกครั้งดอกกุหลาบขาวคือความรักบริสุทธิ์ที่ทั้งสองมอบให้กันเป็นนิจนิรันดร์ดอกฟอร์เก็ตมีน็อตดอกไม้ในวันแห่งความรักที่มีความหมายว่า โปรดอย่าลืมฉัน เหมือน
คนติดงานที่ฉันเฝ้ารอ กำลังเดินฝ่าวงล้อมสาวสวยที่ส่งสายตาแพรวพราวพร้อมขย้ำเหยื่อมาให้ ไม่รู้เขาตอบอะไร พวกหล่อนถึงมองมาทางฉันด้วยสีหน้าหงอย ๆ พลันล่าถอยออกไป“เงียบปากไปเลย” กระแทกเท้าหมายจะเหยียบรองเท้าหนังมันวาวของบัณฑิตชาย แต่คนเยอะสิ่งอย่างแผ่นดินกลับหลบทัน“ไวกว่าชนะ” ฉันเลิกต่อปากต่อคำกับเพื่อนสนิท แล้วหันมาฉีกยิ้มให้แฟนสุดหล่อ ปกติก็หล่อมากอยู่แล้ว แต่วันนี้พอได้แต่งตัวจัดเต็มด้วยชุดที่ฉันเลือกให้ ก็ยิ่งหล่อขึ้นเป็นสิบเท่า“ยินดีด้วยครับที่รัก”“ขอบคุณนะคะ” ฉันคว้าช่อกุหลาบขาวขนาดใหญ่ ที่แซมด้วยดอกทานตะวันสีเหลืองสดจำนวนสามดอกไว้ตรงกลางเข้ามากอดแนบอกอย่างแสนรักแฟนฉันน่ะเป็นผู้ชายที่โรแมนติกมาก ขัดกับใบหน้านิ่ง ๆ ที่ชอบแสดงให้คนอื่นเห็น เขาชอบสื่อความนัยผ่านดอกไม้ เหมือนกับรอยสักรูปดอกเดซีของเขา จึงพลอยทำให้ฉันไปหาความรู้มาบ้างอย่างดอกไม้ช่อนี้ กุหลาบขาว หมายถึงความรักบริสุทธิ์และสง่างาม ทั้งยังหมายถึงรักนิรันดร์ได้อีกด้วย ส่วนดอกทานตะวันหมายถึงความซื่อสัตย์ ความรักมั่นคง และ...การรักเดียวใจเดียวฉันไม่รู้หรอกว่าทำไมดอกกุหลาบต้องมีสิบสองดอก และทานตะวันสามดอกนี้ มันอาจจะมีหรือไ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ” พริกแกงถามขึ้นหลังวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ ขณะลอบสังเกตแฟนตัวสูงที่ทำหน้าหดหู่ไม่ยิ้มแย้มเหมือนทุกวัน“เฮียเซ็ง”“เซ็งเรื่องอะไรคะ”“วันนี้หนูมาฝึกงานวันสุดท้ายแล้ว”“จริงด้วย...”“นั่นแหละที่เฮียเซ็ง” อยู่ด้วยกันทุกวัน มาทำงานพร้อมกัน กลับบ้านพร้อมกัน กินข้าวหรือทำอะไรก็มักทำด้วยกันเสมอ แต่วันนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาและเธอจะได้มีช่วงเวลาแบบนั้นด้วยกัน อดนึกเซ็งไม่ได้ ความเคยชินกำลังทำร้ายใจของเขายอมรับว่าติดแฟนเด็กมาก การมีเธออยู่ใกล้ ๆ ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวา อยากยิ้มอยากหัวเราะ และมีแรงจะสู้กับทุกอย่างไม่ว่าจะเจอกับปัญหาหนักหน่วงแค่ไหน“อย่างอแงสิคะ ถึงหนูจะไม่ได้มาทำงานด้วย แต่เรายังอยู่ด้วยกันทุกวันนะ”“แต่นอนคนละห้อง” ท่ากอดอกเหมือนเด็กขี้งอนทำให้ปากอิ่มส่งเสียงหัวเราะชอบใจ ยื่นนิ้วเขี่ยแก้มคนหน้าบึ้งเล่นเบา ๆ“แก่แล้วนะ ทำงอนเป็นเด็ก ๆ ไปได้”“คำก็แก่สองคำก็แก่ ห่างกันแค่หกปีเอง”“ตั้งหกปี”“ที่รัก...”“ล้อเล่นค่ะที่รัก มา ๆ กอดกัน ๆ วันนี้อยากกินอะไรคะ? เดี๋ยวหนูเลี้ยงเอง ส่งท้ายการทำงานวันสุดท้าย เดี๋ยวสั่งพิซซ่ามาให้พี่ ๆ ในออฟฟิศด้วยดีกว่าเนอะ”“เลี้ยงเ