มินิคูเปอร์สีจังเกิลกรีนคันเล็ก หักเลี้ยวเข้าจอดเทียบทางเข้า Tiara Grand Hotel โรงแรมหรูระดับห้าดาวที่มีชื่อเสียงโด่งดังติดอันดับต้นๆ ของประเทศ ตัวอาคารออกแบบสไตล์กรีก-โรมันถูกประดับตกแต่งด้วยแมกไม้นานาชนิดสร้างความร่มรื่น ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติโดยไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงต่างจังหวัด
พริกแกง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหา’ลัยเอกชนชื่อดัง เจ้าของร่างบางสัดส่วนชวนฝัน พร้อมด้วยใบหน้ารูปไข่สวยหวานผสานความเซ็กซี่แต่งเติมด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ ดวงตากลมโตสุกใส ขนตางอนยาวเรียงแพสวย จมูกเชิดรั้นรับริมฝีปากอวบอิ่ม ผิวขาวเนียนอมชมพูสุขภาพดีช่วยดึงดูดสายตาผู้ชายมองตามจนเหลียวหลัง ส่วนผู้หญิงด้วยกันยังต้องมองด้วยความอิจฉา
เจ้าของใบหน้าสวยเชิดหลังตรงดุจนางพญา เท้าเรียวเยื้องย่างมาบนรองเท้าส้นแหลมสีดำแบรนด์ดังด้วยความมั่นใจ สะกดทุกสายตาที่จ้องมอง
“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ คุณพริก”
“สวัสดีค่ะ” เรียวปากอิ่มยกยิ้มตอบอย่างไม่ถือตัวเช่นทุกครั้ง
สองเท้าบางก้าวไปเบื้องหน้า สายตาสาดส่องมองหาใครบางคน ก่อนตากลมจะทอประกาย มุมปากยกยิ้มอ่อนเมื่อสายตาปะทะเข้ากับแผ่นหลังของคนตัวเล็กกว่าแสนคุ้นตา ยืนอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“พี่ใยไหมคะ”
“คะ? สวัสดีค่ะ คุณพริก” คนถูกทักแม้จะตกใจเล็กน้อยแต่ยังคงเอ่ยเสียงนิ่ม ริมฝีปากสีหวานยกยิ้มจนเห็นตาสระอิ พลางก้มศีรษะเล็กน้อยแสดงความอ่อนน้อมแม้อีกฝ่ายจะอายุน้อยกว่าก็ตาม
“เชิญทางนี้ค่ะ”
ใยไหม สาวหวานร่างเล็ก เจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มกับกิริยาท่าทางเรียบร้อย ทว่ากลับทำงานเก่งแตกต่างจากบุคลิกภายนอกจนหลายคนยอมรับในฝีมือ
เธอทำงานที่นี่มาตั้งแต่ผู้บริหารคนเก่า ปัจจุบันเป็นเลขาประธานหนุ่ม ที่เพิ่งเข้ามาบริหารงานแทนบิดาหลังเรียนจบเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
ถ้าสงสัยว่าทำไมใยไหมรวมถึงพนักงานคนอื่นถึงเคารพยำเกรงและให้ความสำคัญกับเด็กสาวที่ยืนเคียงกัน คำตอบไม่ใช่ว่าเธอเป็นลูกค้าคนสำคัญ หรือเป็นลูกหลานผู้ทรงอิทธิพลคนไหน แต่เพราะว่าพริกแกงเป็นแฟนสาวสุดที่รักของแทนไทต่างหาก
แทนไทกับพริกแกงคบหาดูใจกัน ในช่วงที่ฝ่ายชายกำลังจะเรียนจบ ส่วนหญิงสาวกำลังจะขึ้นชั้นปีที่ 3 และการคุกเข่าขอสาวสุดฮอตที่ไม่เคยชายตาแลผู้ชายคนไหนเป็นแฟนในวันรับปริญญา ก็ทำเอาเป็นที่ฮือฮาไปทั่วทั้งมหา’ลัยอยู่นานเกือบเดือน
วันที่แทนไทเข้ามาบริหารงานวันแรก เขาพาพริกแกงมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักในฐานะคนรัก ทั้งยังไม่ลืมกำชับให้ปฏิบัติต่อคนตัวเล็กเช่นเดียวกับตนและครอบครัว เพราะอีกไม่นานเธอคนนี้จะเข้ามาเป็นเจ้านายอีกคน
ติ๊ง~
สัญญาณเตือนดังขึ้น ก่อนประตูลิฟต์เปิดออก เมื่อเดินทางมาถึงชั้นบนสุด เลขาสาวเดินนำคนรักเจ้านายมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูไม้บานใหญ่ที่ถูกปิดสนิท
“คุณแทนรออยู่ในห้องค่ะ คุณพริ..”
“หยุดเลยค่ะ!” พริกแกงขัดขึ้นเสียงเข้ม ทำคนแก่กว่าตกใจ รีบก้มหน้าหลบสายตาที่มองมาตาไม่กะพริบ
“มะ...มีอะไรเหรอคะ” เอ่ยถามเจ้านายอีกคนเสียงตะกุกตะกัก ดวงหน้าหวานเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้ใจของใยไหมหล่นวูบไปอยู่ตาตุ่ม ด้วยกลัวว่าตนเผลอไปทำอะไรขัดใจเธอคนนี้เข้าจนถูกว่าเสียงเข้ม
ขืนเจ้านายหนุ่มรู้ว่าเธอทำคนรักเขาไม่พอใจ เธอต้องโดนดุแน่ หรือซ้ำร้ายไปกว่านั้น อาจถูกไล่ออกเลยก็ได้
ทุกคนต่างรู้ดีว่าคุณแทนไทรักคุณพริกแกงมากแค่ไหน
“พริกบอกพี่กี่ครั้งแล้วคะ เวลาอยู่กันสองคนให้เรียกพริกได้เลย ไม่ต้องเรียกคุณหรอกค่ะ มันดูห่างเหินเป็นทางการเกินไป พริกไม่ชอบเลย คราวหน้าไม่อนุญาตให้ลืมแล้วนะคะ”
“ขะ...ขอโทษค่ะ คุณพริก อุ้ย! ขอโทษค่ะน้องพริก” เลขาสาวยิ้มเจื่อนหลุบมองสองมือนุ่มของเด็กสาวรุ่นน้อง ที่กอบกุมมือเธอเอาไว้หลวมๆ
ใยไหมลืมไปเสียสนิท คุณพริกแกงเวลาทำหน้านิ่งจะดูเย่อหยิ่งเข้าถึงยาก พลอยทำให้คนรอบกายประหม่า ทั้งที่ความจริงเป็นเด็กสาวน่ารักคนหนึ่ง ที่ไม่ชอบให้ใครปฏิบัติต่อเธออย่างแบ่งแยกชนชั้น
“รอบหน้าพี่ไม่กล้าลืมแล้วค่ะ น้องพริกเข้าไปได้เลยนะคะ บอสรอตั้งแต่เช้าแล้ว เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำกับขนมมาให้ค่ะ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“พี่แทนคะ พริกเข้าไปนะคะ” เสียงใสเจื้อยแจ้วอย่างมีมารยาท ทว่ากลับไร้เสียงตอบรับจากคนในห้อง
พริกแกงเคาะประตูห้องทำงานของแฟนหนุ่มอีกครั้ง เว้นจังหวะไปครู่หนึ่งรอสัญญาณตอบกลับ แต่ทุกอย่างยังคงเงียบเหมือนเดิม มือเล็กจึงตัดสินใจขยับลูกบิดประตูเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าไม่ได้ล็อกจึงถือวิสาสะผลักประตูเดินเข้าไป แต่ต้องแปลกใจหนักกว่าเดิม
มีเพียงความว่างเปล่า ไร้เงาเจ้าของห้อง
“หายไปไหนล่ะเนี่ย? ไหนพี่ไหมบอกรออยู่ไง” คนตัวเล็กทำแก้มป่อง บ่นพึมพำกับตัวเอง พลางกวาดสายตามองทั่วทุกมุมห้องที่ไร้วี่แววคุณแฟนที่นัดกันเสียดิบดี
“พี่ทะ...”
หมับ! ฟอด~
“คิดถึงมากเลย หอมจัง แฟนใครครับเนี่ย”
“ว้าย~ นี่แน่ะ เล่นอะไรคะ พริกตกใจหมด” แก้มขาวเจือสีแดงระเรื่อ ฟาดมือเล็กบนแขนแกร่งที่โอบกอดเอวคอดจากด้านหลังอย่างไม่แรงนัก โทษฐานทำให้ตกใจจนหัวใจเกือบหยุดเต้น แถมยังแอบขโมยหอมแก้มกันฟอดใหญ่อย่างไม่ทันตั้งตัวอีก
เล่นอะไรก็ไม่รู้ บ้าจริง
“เซอร์ไพรส์ไงครับ”
“ไม่ต้องมายิ้มเลย ระวังเถอะ โดนพริกเซอร์ไพรส์บ้างพี่จะหนาว”
“ยังไงเหรอครับ?” คนตัวเล็กในอ้อมแขนหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับคนขี้แกล้ง สองแขนยกขึ้นคล้องลำคอหนาตรงหน้า ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้น เอียงหน้ากดจมูกหอมแก้มซ้ายขวาของอีกคนด้วยความไวแสงแล้วผละออก
พริกแกงช้อนดวงตาคู่หวานขึ้นมองแฟนหนุ่มแล้วฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะเอ่ยถามคนชะงักค้างเสียงใส
“เซอร์ไพรส์มั้ยคะ?”
“มากครับ แต่...พี่อยากได้มากกว่านี้ครับคนสวย” ตอบกลับเสียงทุ้ม มองคนยิ้มกว้างด้วยแววตาหลงใหลใคร่รัก
แม้ภายนอกพริกแกงจะดูเป็นผู้หญิงแรงๆ ทว่าความจริงแล้วกลับเป็นคนหวงเนื้อหวงตัวกว่าที่คิด มีไม่บ่อยนักที่เธอจะรุกถึงเนื้อถึงตัวเขาก่อนแบบนี้
แทนไทกล้าพูดได้เต็มปาก เธอเป็นผู้หญิงที่เขายกขึ้นหิ้ง เป็นคนที่เขาอยากใช้ชีวิตด้วยกัน เธอเป็นว่าที่ภรรยาและแม่ของลูกในอนาคต
“พี่แทนไม่เอาค่ะ พริกล้อเล่น” เธอเอ่ยบอกเสียงร้อนรน เมื่อเห็นรอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปากหยัก ทำให้เริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมาหน่อยๆ อกด้านซ้ายเริ่มสั่นไหวผิดจังหวะ เท้าเล็กเริ่มถอยหนีตามสัญชาตญาณ แม้ปากจะยิ้ม แต่บางสิ่งบางอย่างที่คนรักร้องขอมาตลอด เธอยังไม่สามารถยกมันให้เขาได้ในตอนนี้
แต่มีหรือที่แทนไทจะยอมปล่อยลูกกวางน้อยขี้อ้อนหลุดมือ
“มาให้พี่ทำโทษซะดีๆ”
“ไม่เอาค่ะ อย่าค่ะพี่แทน อย่าแกล้งพริก ฮ่าฮ่า มันจักจี้นะคะ ฮ่าฮ่า” แทนไทรั้งร่างเล็กเข้ามากอดหอม พลางเม้มริมฝีปากไล่กดจมูกโด่งไล้ไปตามกรอบหน้า สลับกับแตะสัมผัสแก้มนุ่มนิ่มสีอมชมพู ก่อนกดจูบลงที่ซอกคอหอม แสดงความเป็นเจ้าของเน้นๆ ด้วยความมันเขี้ยว
ตอหนวดโกนใหม่ครูดไปตามผิวเนียนสร้างความจักจี้ จนแฟนตัวเล็กขนลุกต้องย่นคอหนีเป็นพัลวัน เสียงใสหัวเราะคิกคักดังไปทั่วห้อง บ่งบอกว่ากำลังมีความสุขมากแค่ไหน
มีความสุขมากจนไม่เคยคิดถึงวันที่ต้องจากกัน
หลายเดือนต่อมา
“อยากได้อะไรเพิ่มมั้ยครับ” แทนไทเอ่ยถามแฟนตัวเล็กด้วยความรู้สึกผิด เพราะมีชนักติดหลังอยู่
เขาตั้งใจพาพริกแกงมาช็อปปิงเป็นการไถ่โทษ แต่เธอกลับส่ายหน้าเป็นคำตอบ ทั้งที่ยังไม่ได้อะไรกลับไปแม้แต่ชิ้นเดียว
“พี่ขอโทษนะครับ วันครบรอบของเราแท้ๆ แต่พี่กลับไม่มีเวลาให้น้องพริกเลย”
วันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งปีที่เขากับเธอตกลงเป็นแฟนกัน ทว่าเขาดันติดงานกะทันหัน ต้องไปเข้าร่วมประชุมด่วนเกือบทั้งวัน เพิ่งปลีกตัวออกมาได้หลังเลยเวลานัดหมายมาเกือบห้าชั่วโมง
หากเป็นแฟนคนอื่นคงงอนหรือไม่ก็ด่าคนบ้างานจนหน้าหงาย แต่พริกแกงกลับทำเพียงเงียบและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด
เราคบกันมาหนึ่งปี ช่วงแรกที่ยังไม่เข้ามารับช่วงต่อจากที่บ้าน เราสองคนก็เหมือนคู่รักทั่วไป มีเวลาให้กัน คอยดูแลเทกแคร์กันไม่ห่าง ทว่าตั้งแต่เข้ามารับงานต่อจากพ่อเต็มตัว เขาก็แทบไม่มีเวลาให้เธอเหมือนช่วงที่คบกันใหม่ๆ พริกแกงดูเหมือนจะเข้าใจมาตลอด แต่ช่วงหลังมานี้มันเงียบเกินไปจนเขานึกหวั่นใจ
พริกแกงที่เดินเงียบๆ มานานหยุดฝีเท้าลง ช้อนดวงตากลมขึ้นมองคนตัวสูงพร้อมยกยิ้มบางเบา ก่อนจะเอ่ยประโยคเดิมๆ ที่จำไม่ได้แล้วว่าใช้มันบอกอีกฝ่ายมากี่ครั้ง
มันนับไม่ถ้วน
“พี่จะขอโทษพริกทำไมคะ ไม่ต้องคิดมากหรอก พริกเข้าใจ”
“แต่พี่...” ปากเธอยิ้มและคอยพร่ำบอกเสมอว่าเข้าใจ แต่ดวงตาคู่นั้นกลับสั่นไหว เหมือนพยายามเก็บซ่อนอะไรบางอย่าง ไม่มีใครสามารถคาดเดาความคิดของผู้อื่นได้ แทนไทก็เช่นกัน
เธออาจแค่พูดให้เขาสบายใจก็ได้ นั่นคือสิ่งที่เขากลัวที่สุด
กลัวทำเธอหลุดมือไป
“ไม่แต่ค่ะ ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้วนะ” คนตัวเล็กแสร้งทำเสียงเข้ม กะพริบตาครั้งหนึ่ง ดวงตาที่ฉายแววความเคลือบแคลงใจ ก็เปลี่ยนเป็นดวงตารักใคร่ เธอเดินไปกอดแขนกำยำของคนข้างกาย พลางเอนศีรษะซบไหล่กว้างอย่างที่ชอบทำ ก่อนพูดต่อ
“แค่พี่รักพริกแบบที่พูด ซื่อสัตย์กับพริกเหมือนที่เราเคยสัญญากัน แค่มีพี่ในชีวิตทุกวัน พริกก็พอใจและมีความสุขมากๆ แล้วค่ะ เรื่องอื่นช่างมันเถอะ เนอะ”
“ครับ พริกทั้งสวยแถมน่ารักแบบนี้ พี่จะหนีไปไหนรอด หลงจะตายอยู่แล้วครับคนสวย”
“ก็ขอให้เป็นแบบนี้ตลอดไปนะคะ” พูดจบเธอก็ฉีกยิ้มร่าจนตาหยี แสดงความออดอ้อนให้เขาหลงใหล มุมปากหยักยกรอยยิ้มกว้าง ยกมือหนาลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างเอ็นดู
ถ้าเขาทิ้งเธอ คงมีแต่คนตราหน้าเขาว่า ไอ้โง่ ผู้หญิงแบบพริกแกงไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ สวย รวย เก่ง และที่สำคัญคือไม่
งี่เง่า แม้จะมีบางอย่างที่เธอยังให้เขาไม่ได้ แต่หากคิดในมุมนักธุรกิจแล้วมันคุ้มค่าที่จะรอ
หนุ่มสาวจูงมือหยอกเย้ากันตามประสาคู่รัก พากันเข้าร้านโน้นออกร้านนี้อย่างมีความสุข โดยไม่รู้เลยว่า กำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครอีกคน
“นายครับ” คนถูกเรียกยกมือเป็นสัญญาณ ทำให้คนที่กำลังจะเอ่ยถามหยุดคำพูดลง เจฟโค้งคำนับผู้เป็นนายก่อนพาตัวเองออกมายืนรอคำสั่งห่างๆ อย่างรู้งาน
ร่างสูงของคนที่เท้าเพิ่งเหยียบแผ่นดินไทย กำลังยืนจับตามองคนทั้งคู่ ตั้งแต่ที่พวกเขาพากันย่างเท้าเข้ามาในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เมื่อสองชั่วโมงก่อน
ไม่อยากเชื่อสายตาว่า คนตรงหน้าจะเป็นเด็กสาวตัวน้อยที่เขาเคยเจอในอดีต ตัวจริงของเธอต่างจากในรูปมาก มากเสียจนจำแทบไม่ได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไป
รอยยิ้มสดใสที่มักมอบให้คนรอบข้างเสมอ ไม่ว่าจะรู้จักคนคนนั้นหรือไม่ก็ตาม
ทว่าหากมีโอกาสได้เจอกันอีกครั้ง เธอคงจำเขาไม่ได้แล้ว เรื่องระหว่างเรามันผ่านมานานจนเลือนรางในความทรงจำ ซึ่งหากกลายเป็นอย่างนั้นมันก็ดี ดีต่อเธอ ดีต่อเขา และดีต่อเรื่องที่เขากำลังจะลงมือทำหลังจากนี้
แว่นตาสีดำแบรนด์หรูถูกดึงออก เผยให้เห็นนัยน์ตาเรียบนิ่งยากจะคาดเดาแฝงด้วยความขุ่นมัว จับจ้องแผ่นหลังบางที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ จนลับตา
เขามีสิทธิ์ได้แค่มอง
ก่อนหน้านี้ ไม่เคยอยากครอบครอง เพียงอยากยืนมองเธอใช้ชีวิตที่ดีและมีความสุขเท่านั้น
ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่!
เขาโยนความคิดสวยหรูออกจากสมองไปจนหมด ยอมปล่อยเธอไปแล้วเป็นอย่างไร? ไม่กลับไปสร้างความวุ่นวายให้เธอแล้วอย่างไร? หากเธอต้องเป็นของไอ้เหี้ยนั่น
ก็อย่ามีมันเลย!
อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด ดีกว่าต้องมานั่งเสียใจอย่างที่ผ่านมา แล้วปล่อยให้เวลาพรากเราจนกลายเป็นคนแปลกหน้ากันอย่างช้าๆ ไปตลอดกาล
พอกันที!
“หมดเวลาของมึงแล้ว...ไอ้แทนไท”
@มหาวิทยาลัย“พริก...”“...”“พริกแกง!”เพียะ!“เล่นบ้าอะไรน้ำหนาว เราตกใจหมด”“ไม่ได้เล่นซะหน่อย เราเรียกพริกตั้งนานแล้วนะ แต่พริกไม่สนใจเราเลย” ร่างเล็กกว่าทำหน้ายู่ใส่ พลางลูบรอยแดงบนแขนตัวเองป้อยๆไม่ใช่ความผิดเธอสักหน่อย เธอเรียกพริกแกงตั้งแต่เห็นหลังกันไกลๆ แต่ไม่ว่าจะเรียกกี่ครั้งอีกคนก็ไม่หันมามอง เหมือนกำลังสนใจอะไรสักอย่างถึงต้องเดินเข้ามาสะกิด แต่ไม่คิดว่าพริกแกงจะตกใจแรง จนหันกลับมาฟาดเต็มเหนี่ยว เล่นเอาซะแขนชาแน่ะ“แหะๆ เราขอโทษนะ”“ไม่เป็นไรค่ะ แล้วนี่พริกมองอะไรอยู่เหรอ” น้ำหนาว บอกปัดอย่างไม่ถือสา ขยับมาใกล้แล้วเอ่ยถามต่อ เพราะอยากรู้ว่าอะไรทำให้คนระมัดระวังตัวอย่างพริกแกงเหม่อลอยได้ขนาดนี้คิ้วเรียวบนใบหน้าขาวฉบับสาวเหนือย่นแทบชนกัน หลังจากชะเง้อมองจุดที่พริกแกงเคยให้ความสนใจด้วยความสงสัยต้นไม้ ถังขยะ และนักศึกษาไม่เห็นมีอะไรเลยนี่นา? แล้วเพื่อนสาวคนสวยของเธอกำลังมองอะไรอยู่นะ หรือว่า...พริกแกงมีจิตสัมผัสเหรอ!?“ก็...ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่คะ?”“หนาวไม่เห็นเหรอ รถสีดำคันนั้นไง”“สีดำ...คันไหนคะ?”“นั่นไง อะ อ้าว หายไปไหนแล้ว เมื่อกี้ยังจอดอยู่ตรงนั้นอยู่เลย” ดวงตาเบิกโพ
- ด้านพริกแกง -“รอนานมั้ยครับ”“ไม่เลยค่ะ” คนเสียงใสยกยิ้มตอบ“ขอโทษทีนะ ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยมีเวลาให้เราเลย”พริกแกงไม่ได้พูดอะไรกลับไป มีเพียงรอยยิ้มเป็นคำตอบ อันที่จริง เขาไม่ควรพูดว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาให้กันหรอก มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่หลังคบกันได้หกเดือนต่างหากเธอพอจะเข้าใจเหตุผล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ลึกๆ แล้วเธอกำลังรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หลายครั้งที่นัดของเราต้องล่ม เพราะคำว่าติดงานด่วนของเขา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงจัดสรรเวลาไม่ได้สักที“ไม่ค่อยได้เจอกันเลย คิดถึงจะแย่” ใบหน้าคมเข้มหันมายกยิ้มละมุนให้แฟนสาว เขาไม่ได้รับรู้ความในใจของเธอ เพียงแต่เห็นว่าคนข้างกายเงียบไปจึงยกมือลูบผมนุ่มเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปมองถนนเบื้องหน้าต่อ ในตอนที่สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว“ถ้าคิดถึงก็มาหาพริกบ่อยๆ สิคะ จะได้หายคิดถึง”“พี่จะพยายามนะครับ”แทนไทกับพริกแกงอายุห่างกันเพียงสองปี แต่เขากลับชอบทำเหมือนเธอเป็นเด็กๆ อยู่บ่อยครั้ง ถ้าถามว่าชอบไหม? ก็ตอบได้แค่ชอบมาก มันอบอุ่น มันนุ่มฟูในหัวใจ ยามที่เขาแบ่งเวลามาอยู่ด้วยกันผู้ชายแบบนี้แหละที่เธอต้องการและตามหามาตลอด แม้จะติดขัดเรื่องของเวลาไปบ้าง แต่โดยร
@DVice Clubสถานบันเทิงยอดฮิตตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหา’ลัย แหล่งท่องเที่ยวติดอันดับของเหล่านักท่องราตรีทุกช่วงวัย มีบริการหลากโซนหลายสไตล์ ให้ลูกค้าได้เลือกใช้บริการตามความต้องการเสียงเพลงจังหวะเร้าใจดังขึ้นต่อเนื่องชวนใจเต้น ผีเสื้อราตรีหญิงชายต่างปลดปล่อยความรู้สึกและร่างกายไปกับท่วงทำนองสนุกๆ ที่ดีเจประจำคลับเปิดเพื่อสร้างความครึกครื้นอย่างเมามันเคร้ง~เสียงแก้วใสต่างดีไซน์กระทบกัน ดังขึ้นบริเวณโซนเคาน์เตอร์บาร์ ท่ามกลางเสียงเพลงอึกทึกครึกโครมหญิงสาวร่างเล็กในชุดสีชมพูดูน่ารักขัดกับสถานที่ มองแก้วในมือเล็กน้อยก่อนตัดสินใจจรดริมฝีปากบางลงบนปากแก้วที่บรรจุค็อกเทลรสหวานซ่อนเปรี้ยว มีฤทธิ์แอลกอฮอล์อ่อน ๆ ให้ไหลผ่านลำคอทีละนิด“แค่กๆ ไม่เห็นอร่อยเลยค่ะ” น้ำหนาวหันไปทำหน้าเหยเกใส่พริกแกงที่นั่งเท้าคางมองเธออย่างใจจดใจจ่อ เมื่อสัมผัสถึงแอลกอฮอล์ที่ถูกผสมมาในน้ำสีชมพูอ่อนเธอไม่ชอบดื่ม แต่ตอนนี้เพื่อนคนอื่นๆ ยังไม่มีใครโผล่มาสักคน เลยต้องยอมดื่มเป็นเพื่อนเพื่อนตัวแสบตามคำชวน แต่ตอนนี้รู้สึกคิดผิดมาก เพราะมันไม่ได้อร่อยเหมือนขนมแบบที่เพื่อนล่อลวงสักนิด“ไม่อร่อยเหรอ งั้นชิมของเรามั้ย? เผื่อชอ
ขวับเสียงหวานแฝงความประหม่า หลุดออกจากปากคนที่เอาแต่นั่งเงียบเหมือนคนเหม่อลอย เรียกสายตาของเพื่อนๆ ทุกคู่ให้หันไปมองยังต้นเสียงอย่างไม่ได้นัดหมายนั่งกันอยู่ตั้งนานน้ำหนาวแทบไม่พูดอะไร แต่พอแฟนเพื่อนสนิทโผล่มา ดันมีปากมีเสียงขึ้นมาเสียได้ แล้วจะไม่ให้คนอื่นแปลกใจได้อย่างไร“เป็นอะไรของแกยัยหนาว ผัวเพื่อนค่าสาว~”“ขอโทษค่ะ” คำพูดข้าวฟ่างทำให้น้ำหนาวก้มหน้างุด มองมือตัวเองอีกครั้ง เธอไม่ได้ตั้งใจ เธอแค่ลืมตัว และเหมือนจะโชคดีที่พริกแกงดูไม่ได้ใส่ใจอะไร“บ้า ผัวเผออะไร ยังไม่ได้กันมะ” พริกแกงรีบฉวยแก้วของตัวเองขึ้นมากระดกเพื่อปกปิดความรู้สึก ข้าวฟ่างเป็นคนพูดตรงและพูดแรง ข้อนี้เธอรู้ดีตั้งแต่สมัยเรียนปีหนึ่ง แต่หลังๆ ก็ชอบพูดแซวแบบนี้ตลอดเลย เธอจะรู้บ้างไหมว่าคนโดนแซวทำตัวไม่ถูกน่ะ“พี่พร้อมเป็นนานแล้ว แต่น้องพริกน่ะสิ ไม่พร้อมสักที”“พี่แทน! พูดอะไรก็ไม่รู้” หันไปถลึงตาใส่แฟนรุ่นพี่แก้เก้อ“พูดความจริงครับ^^” แทนไทว่ายิ้มๆ แล้วเดินไปนั่งข้างแฟนสาว เขาไม่ได้พูดเพื่อแกล้ง เขาพร้อมมาตั้งแต่ตามจีบเธอแล้ว แต่เป็นพริกแกงเองต่างหากที่ปฏิเสธมาตลอดถึงแม้จะไม่ค่อยเข้าใจ แต่เขาจะพยายามทำความเข้า
Rrrrrr~โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังลั่นห้อง ปลุกคนกำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์ตื่นขึ้นมาเพราะความรำคาญมือบางควานสะเปะสะปะอยู่พักหนึ่งถึงเจอต้นตอขัดความสุข พริกแกงดันกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ขยี้ตาเล็กน้อยก่อนเพ่งมองหน้าจอมือถือใครบังอาจมารบกวนกันนะ“หือ ข้าวฟ่าง? โทร. มาทำไมแต่เช้า” ชื่อบนจอทำคิ้วเรียวขมวดมุ่น ปกติหลังจากดื่มกันอย่างหนักจะไม่ค่อยมีใครโทร.หาสักเท่าไหร่ เพราะแฮงก์กันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่ามีเรื่องด่วนอะไรนิ้วเรียวสไลด์หน้าจอรับสาย พร้อมทั้งกดเปิดสปีกเกอร์โฟน กรอกเสียงงัวเงียตอบกลับปลายสายด้วยสภาพยังไม่ทันจะตื่นเต็มตาดี“อือ~ มีอะไรคะคุณเพื่อน หายแฮงก์แล้วเหรอถึงโทร. มาเนี่ย?”[ยังจะมานั่งใจเย็นอยู่อีกนะ เธอเห็นเพจซุบซิบของมหา’ลัยหรือยัง ยัยพริก]“ฮะ? ยังเลย มีอะไรอะ?”[ตายห่า งั้นดูด่วนเลยค่ะเพื่อน ด่วนที่แปลว่าเดี๋ยวนี้!]ความร้อนรนผสมกับความรีบร้อนในน้ำเสียงของเพื่อนสนิท ทำให้คนงัวเงียรีบลุกไปหยิบไอแพดคู่ใจขึ้นมาเปิด กดเข้าแอปพลิเคชันดังแล้วค้นหา ‘ใต้เตียงมหา’ลัย SC’ ที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเมาท์มอยเรื่องราวคาวๆ ของคนในรั้วมหา’ลัย ซึ่งพริกแกงเป็นหน
@ทูนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ปฉันพาตัวเองในชุดนักศึกษาเรียบร้อยที่สุดเท่าที่คนอย่างฉันจะเรียบร้อยได้ พร้อมลากรองเท้าสีดำสูงสี่นิ้วคู่โปรด มาหยุดยืนอยู่หน้าบริษัทสีทึบขนาดใหญ่ที่มีความสูงหลายสิบชั้นคำพูดมากมายที่อาจารย์พยายามสาธยายให้ฟังก่อนหน้านี้เท่าที่พอจะจำได้ผุดขึ้นมาในหัว ทูนิกซ์ เป็นบริษัทชั้นนำ มีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก ทำให้ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ ท่านกำชับนักกำชับหนาว่าต้องทำตัวให้ดี อย่าทำให้มหา’ลัยและอาจารย์เสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมทั้งย้ำนักย้ำหนา ให้ฉันแต่งตัวให้เรียบร้อย เหมาะสมกับการเป็นเด็กฝึกงานฉันถึงต้องไปรื้อตู้เสื้อผ้า เพื่อหากระโปรงตัวยาวที่เคยใส่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายสมัยเรียนปีหนึ่งมาใส่“มารายงานตัวฝึกงานค่ะ” ฉันเอ่ยเสียงใส พร้อมทั้งยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลในมือให้คุณพี่หน้าคม อกตู้มตรงหน้า“น้องพัชริกา ฮาร์ตลีย์ใช่มั้ยคะ?”“ใช่ค่ะ” ยิ้มตอบเห็นฉันชื่อไทยสไตล์ขนาดนี้ แต่ความจริงแล้วฉันมีแด๊ดดี้เป็นคนอังกฤษนะ และด้วยเหตุนี้แหละครอบครัวถึงไปเปิดธุรกิจที่ต่างประเทศแทนการทำธุรกิจในประเทศไทยพี่พนักงานสาวหน้าคมยกหูโทรศัพท์ตรงเคาน์เตอร์กดต่อสายภายในหาใครบางคน พี่เขาพูดกับป
หลังยืนโบกมือยิ้มหวานส่งพี่แทนเสร็จ ฉันก็รีบยกกระเป๋าขึ้นมาควานหาโทรศัพท์ด้วยความรีบร้อนถ้าได้กินยาเมื่อไหร่ ฉันก็ไม่คิดจะเอาชีวิตไปเสี่ยงโดยการขับรถกลับเองเด็ดขาด ฉะนั้นตอนนี้ต้องหาตัวช่วย และคนที่จะช่วยฉันได้ก็มีอยู่ไม่กี่คนควานหาโทรศัพท์เจอ ฉันรีบกดต่อสายหาเบอร์ที่บันทึกไว้ยามฉุกเฉินทันที เราทุกคนในกลุ่ม ล้วนจัดให้เบอร์ของเพื่อน ๆ เป็นเบอร์โทรฉุกเฉิน สัญญาณรอสายดังไม่กี่ครั้ง ปลายสายก็กดรับ ไม่รอช้าฉันรีบกรอกเสียงออดอ้อนไปตามสายขอความช่วยเหลือ“ข้าว~ มารับฉันหน่อยสิ”[ข้าวหลับ] ทว่าแทนที่จะเป็นเสียงหวานตอบกลับมา กลับกลายเป็นน้ำเสียงดุ ๆ เจือความหงุดหงิดแทน ทำให้ต้องรีบเอาโทรศัพท์ออกจากหู ยกขึ้นมาดูชื่อบนหน้าจออีกครั้งก็โทร. ถูกนี่นา แล้วทำไมถึงเป็นเสียงคนอื่น ปกติเวลานี้ข้าวฟ่างน่าจะยังอยู่ห้องตัวเองไม่ออกไปไหนนี่?“นั่นใครน่ะ” ฉันถามเสียงแข็งกลับไป[อะไร? เพ้อหนักแล้วนะเธอน่ะ ฉันแผ่นดินไง ผัวยัยข้าว เพื่อนสนิทที่หล่อที่สุดของเธอตั้งแต่ม.สี่ อย่าบอกนะว่าลืม ฉันกับยัยข้าวมาหัวหิน เธอลืมหรือไง ทำไมต้องตกใจ?] อ่า จริงด้วย ลืมไปเสียสนิทเลยว่าคู่รักพากันไปสวีตที่หัวหินน่ะแต่ว่านะ คำ
“นายครับ” เสียงเรียกดังขึ้นไม่ไกลใบหน้าคมคายละสายตาจากทุกสิ่งรอบกายตวัดมองผู้มาใหม่ ให้ความสนใจกับสิ่งที่เขารอมาทั้งวันซองสีน้ำตาลถูกวางลงตรงหน้า เขาเงยหน้ามองลูกน้องคนสนิทครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมคว้ามันมาเปิดออกอย่างเบามือ หยิบของด้านในออกมาอย่างใจเย็นและทะนุถนอมจนว่างเปล่าภาพหญิงสาววัยมหา’ลัย ใบหน้ารูปไข่ เรือนผมสีน้ำตาลธรรมชาติขับผิวขาวอมชมพู กำลังแย้มยิ้มให้บางสิ่งอย่างมีความสุข รอยยิ้มสดใสนั้นทำคนยิ้มยากเผลอยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัวสวย...ยิ่งโตยิ่งสวยไร้ที่ติ ทว่าติดตรงที่เธอมีเจ้าของหัวใจแต่จะโทษใครได้ ในเมื่อก่อนหน้าเธอเคยเฝ้ารอและพยายามตามหาเขามาโดยตลอด ทว่าเป็นตัวเขาเองที่ขี้ขลาด และเป็นฝ่ายเลือกหนีหายไปจากเธอนานหลายปีตอนนั้นพวกเรายังเด็ก จึงคิดอะไรโง่ๆ อย่างง่ายๆ ว่าสิ่งที่ทำเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว โดยไม่คิดถามความเห็นของเธอสักคำ สมควรแล้วที่ตอนนี้ต้องกลายมาเป็นฝ่ายเฝ้ามองเธออยู่ไกลจากอีกฟากโลก ทั้งที่อยากเจอกันใจแทบขาดและรู้สึกผิดมาจนถึงทุกวันนี้“แล้วเรื่องของมันล่ะ?”“ยังไม่ชัวร์ครับนาย มันค่อนข้างระวังตัว แต่มีโอกาสเป็นอย่างที่นายคิดสูง หรือเราให้คนของคุณเจย์ช่วยอีก