Share

Ep.2 | เพื่อนรัก

@มหาวิทยาลัย

“พริก...”

“...”

“พริกแกง!”

เพียะ!

“เล่นบ้าอะไรน้ำหนาว เราตกใจหมด”

“ไม่ได้เล่นซะหน่อย เราเรียกพริกตั้งนานแล้วนะ แต่พริกไม่สนใจเราเลย” ร่างเล็กกว่าทำหน้ายู่ใส่ พลางลูบรอยแดงบนแขนตัวเองป้อยๆ

ไม่ใช่ความผิดเธอสักหน่อย เธอเรียกพริกแกงตั้งแต่เห็นหลังกันไกลๆ แต่ไม่ว่าจะเรียกกี่ครั้งอีกคนก็ไม่หันมามอง เหมือนกำลังสนใจอะไรสักอย่างถึงต้องเดินเข้ามาสะกิด แต่ไม่คิดว่าพริกแกงจะตกใจแรง จนหันกลับมาฟาดเต็มเหนี่ยว เล่นเอาซะแขนชาแน่ะ

“แหะๆ เราขอโทษนะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ แล้วนี่พริกมองอะไรอยู่เหรอ” น้ำหนาว บอกปัดอย่างไม่ถือสา ขยับมาใกล้แล้วเอ่ยถามต่อ เพราะอยากรู้ว่าอะไรทำให้คนระมัดระวังตัวอย่างพริกแกงเหม่อลอยได้ขนาดนี้

คิ้วเรียวบนใบหน้าขาวฉบับสาวเหนือย่นแทบชนกัน หลังจากชะเง้อมองจุดที่พริกแกงเคยให้ความสนใจด้วยความสงสัย

ต้นไม้ ถังขยะ และนักศึกษา

ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่นา? แล้วเพื่อนสาวคนสวยของเธอกำลังมองอะไรอยู่นะ หรือว่า...พริกแกงมีจิตสัมผัสเหรอ!?

“ก็...ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่คะ?”

“หนาวไม่เห็นเหรอ รถสีดำคันนั้นไง”

“สีดำ...คันไหนคะ?”

“นั่นไง อะ อ้าว หายไปไหนแล้ว เมื่อกี้ยังจอดอยู่ตรงนั้นอยู่เลย” ดวงตาเบิกโพลง พลางร้องยืนยันว่าตัวเองไม่ได้โกหก แต่น้ำหนาวกลับทำหน้างงงวยใส่ เป็นเชิงบอกว่า ‘ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่นา’

รถไฮเปอร์คาร์คันหรูสีดำด้าน ที่มีน้อยคนนักจะได้ครอบครองมัน มองเพียงรูปลักษณ์ก็รู้แล้วว่าราคาแพงยับ ทว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่พริกแกงใส่ใจ หากไม่ใช่เพราะรถคันนั้นขับตามเธอมาตั้งแต่ออกจากคอนโดฯ

ตอนแรกเธอคิดว่าแค่บังเอิญ อาจจะไปทางเดียวกันเท่านั้น แต่พอจอดแวะซื้อของกินรองท้อง รถคันนั้นกลับจอดตามอยู่ไม่ไกลกัน ด้วยเป็นรถที่ไม่ได้มีให้เห็นทั่วไปบนท้องถนน เธอจึงจำได้แม่นว่าเป็นคันเดียวกันแน่ๆ

ตลอดทางที่ขับรถมามหา’ลัยในอกก็พลันใจเต้นระรัว กลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายอะไรขึ้นมา แต่ก็ไม่กล้าว่อกแว่กกดโทร. หาใคร ด้วยกลัวจะเกิดอุบัติเหตุ จึงประคองสติพาตัวเองขับมาถึงลานจอดรถมหา’ลัยได้ในที่สุด

อย่างแรกที่เธอทำคือรีบเอาตัวไปอยู่ท่ามกลางฝูงชน แล้วลอบสังเกตดูว่ารถคันนั้นขับเข้ามาในมหา’ลัยหรือไม่ ทว่าชะเง้อคอมองอย่างไรก็ไม่เห็น แต่ก็ไม่อาจวางใจได้ จึงเดินย้อนกลับไปดูว่ารถคนนั้นจอดอยู่ด้านนอกหรือเปล่า

เพราะหากไม่ใช่รถของนักศึกษา บุคลากร หรือคนที่มีสติกเกอร์ของมหา’ลัยจะไม่สามารถเข้ามาได้ แล้วก็เจอจริงๆ ด้วย!

รถคันนั้นจอดสนิทอยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่มีคนลงมา ไม่มีคนขึ้นไป ทำให้มั่นใจว่าตามเธอมาไม่ผิดแน่ แต่ที่สงสัยคือตามเธอทำไม? ในชีวิตของเธอ ไม่ได้มีคนรู้จักที่ใช้รถไฮเปอร์คาร์คันหรูแบบนี้ซะหน่อย

“ไหนคะ” เสียงใสของน้ำหนาว ช่วยเรียกสติของพริกแกง ที่ตกอยู่ในภวังค์ความคิดให้กลับมาโฟกัสปัจจุบัน ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ มองหน้าเพื่อนสนิทแล้วสั่นศีรษะปฏิเสธ

“ช่างมันเถอะ ไม่มีอะไรหรอก เราคงคิดมากไปเอง เข้าไปรอสองคนนั้นข้างในกันดีกว่าเนอะ” สุดท้ายก็ต้องชวนเปลี่ยนเรื่อง เพราะเพื่อนตัวเล็กยังแสดงท่าทีงุนงง พริกแกงก็เลยต้องลากแขนเพรียวให้เดินตามกันไปยังตึกคณะฯ ด้วยกัน

S-Class สถานศึกษาหลักสูตรนานาชาติที่ทุกคนต่างใฝ่ฝันอยากเข้ามาหาความรู้ ทว่าไม่ใช่ใครจะเข้ามาเรียนกันได้ง่ายๆ หากไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอ ก็ต้องมีเงินถุงเงินถัง หรือไม่ก็มีคอนเนกชันกว้างไกล อย่างน้อยที่สุดต้องเป็นลูกหลานอาจารย์ในเครือฯ หรือต้องเรียนเก่งระดับหัวกะทิ เป็นอนาคตขององค์กรใหญ่ถึงจะมีสิทธิ์ ซึ่งสำหรับพริกแกงแล้ว

เธอติ๊กถูกครบทุกข้อ

@คณะบริหารฯ

สองเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอหน้ากันนานเกือบเดือน พากันนั่งลงที่โต๊ะหินอ่อนประจำกลุ่มใต้ตึกคณะ

น้ำหนาวต้องเดินทางกลับจังหวัดบ้านเกิดที่อยู่ทางภาคเหนือ ทั้งสองก็เลยชวนกันคุยสัพเพเหระไปเรื่อยเปื่อยเป็นการฆ่าเวลา อีกอย่างน้ำหนาวไปอยู่นู่นก็ติดต่อแทบไม่ได้ เลยมีเรื่องคุยกันพอให้หายคิดถึงเยอะแยะเต็มไปหมด

“ทำไมยังไม่มากันสักที จะถึงเวลาแล้วนะ” พริกแกงเริ่มบ่นอุบอิบหลังยกนาฬิกาเรือนหรูขึ้นดูเวลา

เหลือเวลาอีกไม่ถึงยี่สิบนาที ทางคณะฯ จะเริ่มประชุมชี้แจงรายละเอียดการฝึกงานแล้วด้วย เรื่องสำคัญมากขนาดนี้ แต่เพื่อนร่วมชะตากรรมอีกสองชีวิตกลับเงียบหาย โทร. หาก็พากันไม่รับสายอีก

ให้มันได้อย่างนี้ อยากหยิกให้แขนเขียว พากันเหลวไหลนัก!

“มาแล้วจ้า มาแล้ว~” ข้าวฟ่าง ทักเสียงใสมาแต่ไกล ก่อนจะวิ่งถลาหน้าแป้นแล้นมาหย่อนสะโพกนั่งลงที่ประจำของตัวเอง

ผิดกับเพื่อนชายคนเดียวของแก๊งอย่าง แผ่นดิน ที่กำลังทำหน้าตาบึ้งบอกบุญไม่รับ กระแทกตัวลงนั่งตามเงียบๆ ไม่พูดไม่จา ไม่ทักทายใคร แม้กระทั่งเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมอย่างพริกแกง

“ทรงนี้ ทะเลาะอะไรกันอีกล่ะ? ไม่สิๆ ต้องถามว่ารอบนี้เรื่องไหนดี” พริกแกงกลั้วหัวเราะถามอย่างรู้ทัน แผ่นดินหน้าบูดเป็นตูดแบบนี้ คงมีอยู่เรื่องเดียวที่ทำให้คนหล่อของกลุ่มตกอยู่ในสภาพนี้

ข้าวฟ่างกับแผ่นดิน สองคนนี้ตกลงเป็นแฟนกันหลังจากเธอคบกับพี่แทนไทได้ไม่นาน ท่ามกลางความมึนงงของเพื่อนคนอื่นว่า เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?

ทุกคนต่างรู้ดีว่าสองคนนี้เหมือนคู่ผัวเมีย ที่เข้ากันไม่ได้มาตั้งแต่สมัยยังเพื่อนกันด้วยซ้ำ เถียงกันทุกเรื่อง เห็นไม่ตรงกันทุกเหตุการณ์ ทว่ากลับคบกันมาได้นานเกือบปี

แม้ว่าแผ่นดินจะชอบขัดใจข้าวฟ่างไปบ้าง จนทำให้ความสัมพันธ์กระท่อนกระแท่น ถึงขั้นตีกันโดยไม่เลือกสถานที่ไปสักหน่อย แต่ถ้าแฟนสาวอยากได้อะไร เขาก็พร้อมหามาให้โดยไม่มีข้อแม้

เรียกหลงใหลไม่ลืมหูลืมตาเลยก็ว่าได้

“เชอะ/เหอะ” ราวกับถูกจี้จุด ต่างฝ่ายต่างสะบัดหน้าไปคนละทิศละทาง จนเพื่อนๆ ได้แต่มองอย่างเอือมระอา

“จะไม่บอก? ก็ได้~ ตามใจนะ ไปเคลียร์กันเองเลยค่ะ ปะ น้ำหนาวเราไปกันเถอะ” พริกแกงว่าแล้วทำท่าจะลุกขึ้นยืน ไม่ลืมหันไปคว้าแขนคนที่นั่งเขี่ยจอสมาร์ตโฟนฟังเพื่อนเถียงกันเงียบๆ ให้ลุกขึ้นตาม

“ยัยข้าวจะทิ้งฉัน...”

“ฮะ? /คะ?” แผ่นดินโพล่งขึ้นมาเสียงเศร้า ทำเอาสองคนที่กำลังจะลุกหนีรีบนั่งลงอีกครั้ง ดวงตาของทั้งสองเบิกกว้างด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน

แม้ว่าสองคนนี้มีความเห็นไม่ตรงกันบ่อยครั้ง หรือเถียงกันทุกเรื่องก็จริง แต่พอผ่านไปไม่ถึงวันก็ดีกันตลอด ไม่เคยมีสักครั้งที่จะหนักหน่วงถึงขั้นเลิกรากันสักที

“อย่ามองฉันแบบนั้นสิยะ แผ่นดินมันเวอร์ ทิ้งบ้าทิ้งบออะไรล่ะ”

“หรือไม่จริง?”

“ก็ไม่จริงน่ะสิ แค่ไม่ไปฝึกงานบริษัทพ่อนาย ไม่ได้หมายความว่าจะเลิก สติค่ะ!”

“สรุป...ทั้งคู่ทะเลาะกัน เพราะเรื่องฝึกงานเนี่ยนะคะ?”

“ใช่/ใช่” คู่รักที่ตบตีกันอยู่ตอบพร้อมเพรียงเสียงดังฟังชัด

“เฮ้อ...อยากจะบ้า ฟังนะ! เรายังไม่รู้รายละเอียดเรื่องการฝึกงานด้วยซ้ำ ยังไม่รู้เลยว่าจะไปที่เดียวกันได้มั้ย หรือเลือกที่ฝึกเองได้หรือเปล่า แล้วมานั่งทะเลาะกันเนี่ยนะ!” พริกแกงถอนหายใจยาวให้กับความไร้สาระของทั้งคู่ โดยมีน้ำหนาวนั่งพยักหน้าเห็นด้วย

“...เออว่ะ ลืมสนิทเลย”

แผ่นดินเฉลย นั่นก็ทำเอาพริกแกงกุมขมับ พลางกลอกตามองบน นึกอยากจะลุกไปตบตีเพื่อนตัวโย่งให้หัวโยก

พอเป็นเรื่องของข้าวฟ่าง คนฉลาดแบบแผ่นดินก็กลับกลายเป็นคนไร้หัวคิดไปเลยแฮะ เรื่องสำคัญแบบนี้ยังลืมได้ลง

“จบสักที! กินอะไรกันดี ข้าวอยากกินอะไร เดี๋ยวดินเลี้ยงเอง” หลังจากถูกพริกแกงเรียกสติไปตอนเช้า แผ่นดินคนที่เอาแต่ทำหน้าบึ้งตึงก็เหมือนจะกลายร่างเป็นอีกคน หนุ่มตัวสูงหันไปถามแฟนสาวอย่างเอาอกเอาใจ ขณะเดินออกจากห้องประชุม

ข้อสรุปเรื่องการฝึกงานของปีนี้ มีกฎเกณฑ์ใหม่ที่ระบุไว้ผู้หญิงและผู้ชายไม่สามารถไปฝึกงานที่เดียวกันได้ เพื่อป้องกันปัญหาหลายอย่างในอนาคต

แต่ข้อกำหนดพิเศษของปีนี้ คือบริษัทที่ทางมหา’ลัยจัดหามาให้ สามารถส่งนักศึกษาไปฝึกพร้อมกันได้มากสุดถึงสามคน แต่ให้โควตาจำนวนจำกัด ใครแจ้งความประสงค์ก่อนก็ได้โอกาสนั้นไป

แล้วแบบนี้สามสาวเพื่อนรักจะพลาดได้อย่างไร

“แหม พอรู้ว่างี่เง่าตีโพยตีพายไปก่อน ก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเลยนะจ๊ะ คุณ! แผ่น! ดิน!” หน้าสวยยื่นเข้าใกล้ใบหูเพื่อนตัวสูง ประโยคหลังเน้นย้ำทุกคำ ทั้งช้าและชัด พลางเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ให้กับความเปลี่ยนอารมณ์ไวของเพื่อนตัวโตใจบาง

“อย่ามาแซว”

“ไม่ได้แซว เขาเรียกล้อย่ะ ไอ้คู่รักหลากอารมณ์ ชิ!”

“เขาเรียกมีสีสันในชีวิตคู่ ใครมันจะไปเหมือนคู่เธอล่ะคร้าบคุณพริก มีอารมณ์เดียว ไม่รู้จะคลั่งรักอะไรกันนักกันหนา ไร้สีสันชะมัด ไม่เบื่อบ้างเหรอวะ?”

“โธ่เอ๊ย ถ้ามีสีสันแล้วเป็นแบบคู่แก ฉันขออยู่โหมดคลั่งรักแบบเดิมดีกว่า” พูดพร้อมเบะปากอย่างนึกหมั่นไส้

“พอๆ เลิกเถียงกันได้แล้วค่า คุณแฟนแอนด์คุณเพื่อน เดี๋ยวก็กลับมาเลือกบริษัทฝึกงานไม่ทันพอดี โตแล้วนะ ใช้ชีวิตแบบพอดีๆ บ้าง เพื่อนฉันนี่มีใครพอดีบ้างมั้ยเนี่ย?” สาวใต้ตาคมผิวขาวโพล่งบ่นขึ้นมาจนคนที่กำลังตีกันชะงักไป

“ไอ้บ้าแผ่นดินกับยัยพริกเอาแต่พูดๆๆ ไม่หยุด ส่วนน้ำหนาวก็เงียบจนคิดว่าเป็นใบ้ เฮ้อ ไม่ต้องมองค่ะ ก็พูดจริงอะ แล้วนี่สรุปจะกินอะไรกัน?” พอวีนเสร็จ ข้าวฟ่างก็กวาดสายตามองหน้าเพื่อนทีละคนอย่างขอคำตอบ อาจเพราะกำลังโมโหหิว ตอนนี้ก็เลยไม่ได้สนใจว่าคำพูดตัวเองจะทำร้ายความรู้สึกใคร ขอได้พูดตามใจตัวเองพอ

“อ่า โอเคๆ ไม่พูดมากแล้วก็ได้ แต่ว่าโทษทีนะ ฉันมีนัดกับพี่แทนไท ขอแยกตัววันหนึ่งน้า พลีส~”

“เบื่อพวกมีผัว”

แปะ

“โอ๊ย ตีทำไม เจ็บนะดิน!”

“พูดเหมือนตัวเองไม่มี เดี๋ยวคืนนี้จะโดน”

พริกแกงเลือกเมินคู่รักที่เตรียมก่อสมรภูมิรบตรงหน้า หันไปถามเพื่อนสาวอีกคนที่ยืนมองคนอื่นตาแป๋ว

“หนาวล่ะ ไปกินข้าวไหน?”

“หนาวว่าจะกินที่โรงอาหารนี่แหละ สะดวกดี อยากไปให้ทันเลือกเป็นคนแรกๆ ด้วย”

“ก็ดีนะ งั้นเราสามคนกินข้าวกันที่นี่แหละ”

เมื่อได้ข้อสรุปลงตัว ทั้งสามคนจึงแยกตัวเดินไปฝั่งโรงอาหาร ส่วนพริกแกงปลีกตัวมายืนรอแฟนหนุ่มรุ่นพี่ที่จุดนัดหมาย

รอสักพัก รถเบนซ์สีขาวสไตล์ผู้บริหารก็เลี้ยวเข้ามาจอดตรงหน้า ชายหนุ่มในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเรียบหรูคุ้นตา เดินอ้อมมาอีกฝั่งเพื่อทำหน้าที่เปิดประตูรถให้คนรัก บริการเธออย่างดีจนได้รอยยิ้มหวานกลับไปแทนคำขอบคุณ ไม่นานรถคันงามก็พุ่งทะยานไปตามพิกัดร้านอาหารที่เขาโทร. จองไว้ล่วงหน้า

- อีกด้าน -

นัยน์ตาคู่คมสีดำสนิทดูลุ่มลึกจับจ้องรถหรูคันผ่านกระจกติดฟิล์มดำชนิดพิเศษอย่างไม่ละสายตา มือหนายกโทรศัพท์กดต่อสายหาใครบางคน

“ออกไปแล้ว บอกคนของมึงจัดการได้เลย”

“เอาไงต่อดีครับนาย ตามไปมั้ยครับ” บอดี้การ์ดคนสนิทที่วันนี้รับหน้าที่พลขับถามขึ้น หลังเห็นผู้เป็นนายวางสายจากบุคคลปริศนาแล้วเอาแต่นิ่ง ไม่ยอมออกคำสั่งอะไรสักคำ ทั้งที่คนที่ตามมาตั้งแต่เช้า กำลังจะกลืนหายไปกับรถมากมายบนท้องถนน

“กลับ”

“ครับ? ไม่ตามคุณหนูไปแล้วเหรอครับ”

“ไม่ต้อง”

“ครับ”

ร่างสูงข้างคนขับไม่สนใจคนทำหน้ามึนงง เขาหลุบสายตามองสมุดบันทึกเล่มหนาในมือนิ่ง ปากหยักเหยียดยิ้ม เมื่อนึกถึงใบหน้าจอมดื้อรั้นของผู้ที่เคยเป็นเจ้าของมัน

“แล้วเจอกันนะ ตัวเล็ก”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status